ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : สมรภูมิกรุงเทพฯ
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ กองทัพฮอรัสครอบครองเขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตหนองแซมและเขตบางแค
"จ่าครับ ผมมาไกลได้แค่นี้แหละครับ"ทหารนายนั้นพูดพร้อมกับดึงสลักระเบิดออกและวิ่งเข้าหา
มีการตั้งแนวรับตามแนวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินไปถึงถนนสุขสวัสดิ์ที่องค์พระสมุทรเจดีย์
แนวรบจากตอนเหนืออยู่ที่ถนนนครอินทร์ไปจนถึงถนนประเสริฐมนูกิจ
ในกทม.ยังมีพลเรือนที่ยังไม่ได้อพยพถึง2ล้านคน ฉะนั้นการซื้อเวลาให้พลเรือนจึงเป็นกลายเป็นหน้าที่ของกองพลทหารราบที่9 ซึ่งถูกโยกย้ายให้มาเป็นกองกำลังตั้งรับแทนกองพลที่1รักษาพระองค์ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่พัทยา
กองพลทหารราบที่9มีประสบการณ์การรบที่เขาชนไก่ซึ่งพวกเขาโดนล้อมอยู่บนเขานานถึง5วันจนกองทัพฟินแลนด์ที่กำลังถอยกลับท่าเรือได้เข้ามาช่วยตีฝ่าวงล้อม
กองพลทหารราบที่9 บัญชาการโดยพลตรีปราโมทย์ จากกองกำลังความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ทหารจากกองพลที่9ตรึงกำลังเพื่อรอต้อนรับกองทัพฮอรัสที่กำลังเคลื่อนทัพเข้ามา โดยมีกองพลทหารราบที่221ของอังกฤษ กองพลทหารยานเกราะที่432ของสหรัฐและมีทัพอากาศไทยและทัพอากาศนาซีเยอรมันสนับสนุนภาคพื้นดิน
เวลา 04.51 กองพลทหารราบที่9เข้าประจำตำแหน่งตั้งรับ โดยมีกองพลทหารยานเกราะสหรัฐเคลื่อนตัวเข้ามาปิดถนนที่อาจทำให้แนวหน้าแตกได้ โดยกองพลที่221ของอังกฤษมีค่ายอยู่ที่
อู่ตะเภา และยังมาไม่ถึงกรุงเทพฯ
"เร็วๆๆๆ!! เอากระสอบทรายไปปิดถนนซะ! กองร้อยที่2และกองร้อยที่3!! ขึ้นไปสอดส่องการเคลื่อนไหวข้าศึกจากตึกสูงนะ!!"ปราโมทย์เดินมาสั่งการ ทหารช่างต่างร้อนรนแบกกระสอบทรายมาปิดถนนโดยมีรถถังเอบรามส์อยู่กลางถนน
"เอาTOWไปติดตั้งบนดาดฟ้าด้วยนะ อย่าลืมพลุสัญญาณด้วย ยามฉุกเฉินมันอาจส่งคลื่นรบกวนเราก็ได้"ปราโมทย์ยื่นเอกสารอาวุธที่จำเป็นให้สารวัตรทหาร พร้อมกับนายทหารคนหนึ่งที่วิ่งมาหา
"พลตรีครับ! แฮก..แฮก.. กองทัพอังกฤษจะมาถึงตอนตี5 20นาทีครับ!"
"แล้วความเคลื่อนไหวของพวกฮอรัสล่ะ?"ปราโมทย์ถามกลับ
"จากภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าพวกฮอรัสกำลังระดมพลกันอยู่ครับ และคาดว่ามีจำนวนทหารมากถึง2แสนนายเลยครับ นี่ยังไม่รวมพวกพลที่อาจโผล่มาอีกนะครับ"
"2แสนงั้นเหรอ?....แจ้งคลังแสงที่อู่ตะเภาด้วย ว่าเราต้องการกับระเบิด กระสุนปืน ปืนครกพร้อมกระสุน ปืนใหญ่มุมกด90องศา เครื่องยิงลูกระเบิดและระเบิดมืออีกมหาศาล ด่วยด้วย!"
นายทหารคนนั้นวิ่งกลับไปที่เต็นท์สื่อสาร ทามกลางความมืดเพราะพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นบวกกับความหนาวของเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ความโกลาหลของแนวรบนั้นดุวุ่นวายและไร้ซึ่งความหวังมากกว่าปกติ ทั้งทหารไปวิ่งไปตามเต็นท์ต่างๆ ทหารที่กำลังช่วยกันวางสิ่งกีดขวาง ทหารที่กำลังเช็คอาวุธ รถถังและยานยนต์ไปวิ่งไปมาเพื่อเข้าประจำที่มั่น ฮ.ขนส่งที่บินว่องไปมาเพื่อนำพาคนเจ็บออกจากแนวหน้า พร้อมกับรถบรรทุกและรถเมล์ที่กำลังพาพลเรือนไปยังท่าเรือแหลมฉบังเพื่อหนีลงใต้
เวลา 05.23 อาวุธที่พลตรีปราโมทย์ขอจากคลังอาวุธได้มาถึง
"จ่าสิบเอกพลเดชจากกองร้อยที่2และจ่าสิบเอกสันติจากกองร้อยที่3!!! มารับอาวุธด้วย!!"ปราโมทย์ปีนขึ้นไปบนป้อมของรถถังเอบรามส์และพูดใส่โทรโข่ง
"จ่าสิบเอกพลเดชครับ!"พลเดชวิ่งฝ่าดงทหารมาหาปราโมทย์ ขณะเดียวกันจ่าสิบเอกสันติก็ขานรับและวิ่งตามมา
"เอาล่ะ กองร้อยที่2ประจะที่ดาดฟ้าตึกลุมพินี เพลส สุวสวัสดิ์นะ ทหารช่างได้ติดตั้งลิฟต์ขนย้ายไว้แล้ว รถบรรทุกก็พร้อมแล้ว เอาลิสต์เอกสารไปให้ทหารที่คัลงแสงนะเดี๋ยวเขาจัดการให้ ไปได้!"ปราโมทย์สั่งแยกย้าย
"สันติ กองร้อยนายประจำที่ตึกไหนละ?"พลเดชถามสันติระหว่างเดินไปคลังแสง
"กองร้อยที่3ของฉันอยู่ที่ตึกสุขสวัสดิ์โมเดิน คอนโดวิว นายว่าการรบครั้งนี้จะลงเอยยังไงวะ?"สันติถาม
"เฮ้ย! ชิวๆน่า! ถ้าพวกมันนั้นมาเมื่อไรน้า....ร้องไห้กลับบ้านไปดูดนมแม่กันเลยทีเดียว! 555+"
พลเดชหัวเราะอย่างดัง
"5555+นั่นสินะ พวกเราเตรียมพร้อมขนาดนี้พวกมันคงหนีกลับดาวไม่ทันแน่ๆ555+"สันติหัวเราะ
เมื่อการขนอาวุธเสร็จสิ้น ก็เข้าสู่การตั้งรับอย่างเต็มรูปแบบ ปืนใหญ่มุมกด90องศาเป็นเทคโนโลยีใหม่จากกระทรวงวิทยาศาสตร์ไรช์ที่4 เป็นปืน88มม.ที่มีความสามารถพิเศษคือมีมุมกดถึง90องศา ออกแบบมาเพื่อใช้ในกรณีที่ข้าศึกจะพังกำแพงหรือบุกเข้าอาคารของเรา โดยปืนจะมีคานเหล็กยื่นออกจากตัวตึกยาว1.5เมตร และมีคานยึดกับผนังตึกเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวปืนตกลงเบื้องล่าง และจะมีแผ่นเหล็กกำบังเป็นทรงครึึ่งวงกลมเพื่อป้องกันลูกเรือ
ณ ดาดฟ้าตึกลุมพินี เพลส สุวสวัสดิ์ กองร้อยที่2ประจำการบนตึกแห่งนี้
เวลา 06.04 ทหารอังกฤษพึ่งมาถึง พร้อมกับการโจมตีระลอกแรกของฮอรัส
"จ่าพลเดชคร้าาาบ!!! พวกฮอรัสมากันแล้ว!!"ทหารสังเกตการณ์ตะโกนบอก
"ทหารทุกนาย! สแตนบายพร้อมรบ!!!"พลเดชตะโกนบอก ขณะที่ทหารกำลังกินอาหารเช้ากัน
"9นาฬิกา!! ทหารประมาณ4กองร้อยพร้อมยานเกราะ!!!"
การปะทะได้เริ่มต้นขึ้น ทหารจำนวน500กว่าคนพร้มกับรถหุ้มเกราะเข้าโจมตีที่มั่นของทหารไทย แนวป้องกันที่ได้วางต้อนรับเมื่อตอนแรกนั้นไม่มีปะโยชน์สุดๆ เพราะพวกฮอรัสใช้ปืนกล20มม.ไล่ยิงกับระเบิด กระสอบทรายและรั้วลวดหนามจนไม่สามารถใช้ป้องกันได้เลย แนวกระสอบทรายที่ตั้งเป็นแนวกำแพงก็แตกหมดเพราะฮอรัสใช้ปืนใหญ่70มม.ยิงถล่มจนไม่เหลือที่กำบัง
เวลา 06.45 ทัพอากาศก็มาถึง ฝูงบินดำดิ่งที่71ของไรช์ที่4 บินมาถึงน่านฟ้าของกรุงเทพฯ
"ทัพอากาศมา!! ทัพอากาศมาแล้ว!!!! เข้าที่กำบัง!!!!"พลเดชตะโกน กองร้อยที่2จึงรีบวิ่งกลับเข้าภายในอาคาร
..วี๊ดดดดดดดดดด.....!!! เสียงเครื่องสตูก้าเจ็ทดังขึ้น
เพล้ง!! เพล้งๆ!!! "ระวังกระจกด้วย!!!"พลเดชหมอบลงกับพื้น
ตู้ม!!!! บึ้มๆๆๆ!!!!! ชิ้วววววว!!!!!!! เสียงการโจมตีภาคพื้นสิ้นสุดลง ทัพอากาศบินกลับเข้าฐาน กองร้อยทีี่2จึงวิ่งกลับมาประจำตำแหน่งบนดาดฟ้าอีกครั้ง
"ไปๆๆๆ!!!! กลับเข้าตำแหน่งเดิม!!!"
ฟิ้วววววว..โครม!!!! กระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งยิงโดนชั้น6นับจากดาดฟ้า
"รถถังป้อมปราการทาง11นาฬิกา!!!! ห่างไป300เมตร!! กำลังเล็งมาทางเราครับ!!!!"
"ทุกคน!!!!!!!! หมอบลง!!!!!!!"พลเดชวิ่งไปคุมจรวดTOW
ชิ้วววววว...ป้าง! "ทำไมกัน?!!! TOWทำอะไรมันไม่ได้เลย!"พลเดชอึ้งกับสิ่งที่เห็น
"จ่าพลเดชครับ!! ปืน88มาแล้วครับ!!"พลทหารนายหนึ่งตะโกนบอกพร้อมกับปืน88มม.ที่เล็งไปทางรถถังป้อมปราการ
"ยิง!"พลปืนตะโกนขึ้น แต่กระสุน88มม.ก็ไม่สามารถที่จะเจาะเกราะของรถถังป้อมปราการได้
"จ่าพลเดชครับ! ผมติดต่อรถถังสหรัฐแล้วครับ! พวกเขากำลังจะไป!!"พลวิทยุตะโกนบอก
ปัง!!!! ประตูทางออกเปิดอย่างดังพร้อมกับทหารอังกฤษที่พูดไทยได้นิดหน่อย
"พะ พวกฮอรัสเข้ามาในอาคารแล้ว!"ทหารอังกฤษนายนั้นพยายามอธิบายสถานการณ์ให้คนไทยฟังออก
"หมู่1 ไปเคลียร์ซิ! เดี๋ยวฉันไปด้วย!!"พลเดชสั่งพร้อมกับเช็คอุปกรณ์
"จ่าครับ! รถถังเอบรามส์มาแล้วครับ!!"ทหารนายหนึ่งตะโกนเรียกพลเดช พลเดชจึงรีบวิ่งไปดูและเห็นรถถังเอบรามส์อยู่บนสะพานข้ามคลองดาวคะนองและหันปืนเข้าไปในถนนจอมทอง
"นั่นแหละ!!! จัดการมันเลย!!!"ทหารนับสิบนายเชียร์รถถังเอบรามส์อย่างเมามัน
ปัง!!!!..เป๊ง! ฟู่มมมม!!!! เอบรามส์ไม่ทันได้ยิงก็โดนสวนกลับมา ทำให้ไฟลุกออกจากฝาป้อมที่กระเด็นหลุดเพราะแรงระเบิด
"เชี่ยเอ๊ย!!!"ทหารนายหนึ่งอุทาน
พลเดชเดินลงชั้นล่างเพื่อจัดการกับฮอรัสที่เข้ามาในอาคาร
"หมู่1 เจออะไรรึยัง?"พลเดชวิทยุถาม
"ยังครับ ชั้น28-32เคลียร์หมดแล้วครับ"
"ดีมาก ค้นหาต่อไป"
ณ ชั้น26ของอาคาร "หมู่1หยุดก่อน! ฉันได้ยินเสียงบางอย่าง"พลเดชปิดวิทยุและส่งสัญญาณมือว่าให้ปิดวิทยุและอยู่ให้เงียบที่สุด
พลเดชค่อยๆเดินไปที่ลิฟต์และพบว่ามีใครบางคนกำลังขึ้นลิฟต์จากชั้น25ขึ้นมา26 พลเดชโบกมือเรียกให้ทหารอีกนายมาประกบข้างๆลิฟต์ อีก2คนก็ดักรอที่หน้าประตู
.....ติ๊ง!....ครื้นนน.."ยิง!!" ปังๆๆๆๆๆ!!
"หยุดก่อน!!! หยุดยิง!!!"พลเดชตะโกนสั่งและมองเข้าไปในลิฟต์และไม่พบฮอรัสแม้แต่คนเดียว พบแต่หุ่นลองเสื้อที่พิมพ์ภาษาไทยไว้ว่า โดนหรอก
บึ้ม!!!!!!!!! ประตูห้องพักที่ห่างไป2เมตรระเบิดออก พร้อมกับฮอรัสที่กราดยิงเข้ามา
"รีบเข้ามาในลิฟต์!!!! เร็ว!!!!"พลเดชตะโกนเรียกทหารหมู่1ที่ยังรอดชีวิต
"จ่าครับ! รีบกดลิฟต์เร็วเข้า! พวกมันพยายามจะแหกประตูอยู่!!!"ทหารนายที่กำลังใช้มือปิดประตูบอกให้พลเดชรีบกดลิฟต์
พลเดชรู้ว่าถ้าขึ้นไปพวกมันคงตามไปถึงดาดฟ้าและดักฆ่าพวกเขาได้แน่ๆ พลเดชจึงตัดสินใจกดลิฟต์ไปที่ชั้น6 แล้วค่อยเดินขึ้นบันไดเอา
ณ ชั้น6 เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกหมู่1จึงรีบเดินออกจากลิฟต์และสำรวจบริเวณโดยรอบ สระว่ายน้ำที่ชั้น6นั้นดูสกปรกเอามากๆ ขุ่นจนมองไม่เห็นพื้นสระ
"ชั้น6เคลียร์"
"งั้นเดินขึ้นชั้นต่อไปกัน"พลเดชวิทยุบอกและเดินขึ้นบันไดไปชั้นดาดฟ้าที่พวกตนอยู่
ขณะที่กำลังเดินมาถึงชึ้น18 พวกฮอรัสก็ตามมาทันพวกมันเดินขึ้นบันไดจากชั้น6ตามมา โดยที่
ฮอรัสก็กราดยิงขึ้นมา
"ยิงระเบิดใส่มันเลย!"พลเดชบอกทหารนายหนึ่งที่ปืนของเขามีเครื่องยิงลูกระเบิด
"รับทราบ!....เอาระเบิดไปกินซะไอพวกนรก!!!!"ทหารนายนั้นเล็งที่ราวบันไดที่ฮอรัสกำลังวิ่งขึ้นมาและยิงใส่จนอาคารสั่นไปทั่ว ขณะที่กำลังวิ่งหนีพวกฮอรัสก็วิ่งจากข้างบนลงมาหาพวกของพลเดช
"วิ่งลงล่าง!"พลเดชตะโกนบอก
"พวกฮอรัสก็มาจากข้างล่างครับ!!!"ทหารนายนึงบอก
"งั้นรีบเข้าไปที่ชั้น17เร็วๆ!!!"พลเดชเปิดประตูและวิ่งเข้าชั้น17 และปิดประตูใส่หน้าพวกฮอรัส
"เราไปซ่อนในห้องไหนสักห้องก่อนเถอะ!"พลเดชวิ่งไปที่ห้องที่ไกลที่สุดและพังประตูเข้าไป
"เราคงต้องหลบในนี้จนกว่าพวกมันจะไปล่ะนะ"
เวลา 07.51 พลเดชหลบพวกฮอรัสเกือบถึงชั่วโมงพวกเขาเลยตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงกลับไปที่ดาดฟ้า
เมื่อเดินออกมาถึงประตูทางออกฉุกเฉิน พวกฮอรัสก็โผล่มาจากห้องตรงกันข้ามของพวกเขาเอง
"ยืนรออะไรกันเล่า?! วิ่งสิ!!"พลเดชตะโกนบอกทหารนายหนึ่งที่ยืนหลบหลังบานประตู
"จ่าครับ ผมมาไกลได้แค่นี้แหละครับ"ทหารนายนั้นพูดพร้อมกับดึงสลักระเบิดออกและวิ่งเข้าหา
ฮอรัสและยิงใช้เครื่องยิงลูกระเบิดยิงลงพื้น
พลเดชกับทหารอีก2คนวิ่งจนมาถึงดาดฟ้าและเห็นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอร์คลำหนึ่งลอยตัวรอพวกเขาบนดาดฟ้า
"จ่าครับ!! รีบมาเร็วเข้า!!!"
พลเดชจึงรีบวิ่งสุดชีวิตพร้อมกับทหารอีก2นายที่วิ่งตามมา แต่ว่าพวกฮอรัสก็ยังตามติดไม่เลิก
พลเดชเห็นแบบนั้นจึงบอกให้นักบินโยนบันไดลงมาและขึ้นบินได้เลย เพื่อไม่ให้คนที่อยู่บนฮ.ต้องมารับความเสี่ยงไปด้วย
ทหาร2นายนั้นปีนบันไดลิงขึ้นฮ.ได้อย่างปลอดภัย แต่ว่าไม่ใช่กับจ่าพลเดชเพราะฮ.อยู่เริ่มไกล
"จ่าครับกระโดดเลย!!!!!"ทหารบนฮ.ส่งเสียงเชียร์พลเดช
"เอาละนะ!"พลเดชถอดเสื้อเกราะและโยนหมวกทิ้ง และโยนปืนทิ้งไปด้วยเพื่อลดน้ำหนักของตัวเขาตอนกระโดด
ทหารบนฮ.หยิบปืนยิงพวกฮอรัสที่กำลังระดมยิงใส่ฮ.
จ่าพลเดชกระโดเกาะบันไดไว้ได้สำเร็จ ขณะที่ฮ.บินออกจากตัวตึกและพลเดชกำลังปีนบันไดเข้าไปในฮ. กระสุนของฮอรัสนัดนึงยิงโดยบันไดข้างซ้ายทำให้พลเดชนั้นมือซ้ายหลุดจากการจับเชือก
"จ่าครับ!! ยื่นมือมา!!"
ในที่สุดจ่าพลเดชก็รอดตายและพบว่าจากกองร้อยที่มีหลักร้อยคนเหลือทหารแค่14นาย
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"พลเดชถาม
"รถถังป้อมปราการน่ะสิครับ มันมีเครื่องยิงจรวดที่ป้อมปืนหลังมันเลยซัดจรวดใส่เราจนเละแบบที่เห็น"
"มันยังไต่สลิงขึ้นมาบนดาดฟ้าเลยนะครับ แต่ว่าเราก็จับมันโยนลงตึกไปหมดและ แต่เราก็ตายเยอะใช่เล่น"ทหารอีกนายตอบ
"แล้วรถถังป้อมปราการล่ะ? อยู่ไหนแล้ว?"พลเดชถาม
"นั่นไงครับจ่า สะพานข้ามคลองดาวคะนอง รถถังคันนั้นพยายามตีฝ่าแนวหน้าเพื่อเข้าตีแนวหลังแต่ว่ามันหนักเกินกว่าที่สะพานจะรับได้..."ทหารนายนี้โดนพูดแทรก
"จากรถถังที่น่าเกรงขามกลายเป็นรถเป็ดน้ำง่อยๆไปคันนึงเลย5555+"ทหารนายนึงแทรกขึ้น
"55555+"ทหารบนฮ.หัวเราะกันและดีใจที่ได้กลับบ้าน
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในที่สุดพลเรือนทั้ง2ล้านคนก็ได้หนีลงเรืออย่างปลอดภัย ทหารทั้ง3กองพลที่อยู่ป้องกันกรุงเทพฯจึงวางมือและอพยพ ไม่งั้นความเสียหายทางการทหารจะมากเกินจนไม่สามารถทดแทนได้ แต่กองพลทหารราบที่9ยังคงอยู่สู้ต่อจนกรุงเทพฯแตกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น