ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ปฏิบัติการคอเคซัส(เมืองร้าง)
กลางดึกของวันที่ 10 พฤษภาคม
"เกิดอะไรขึ้นข้างนอกน่ะ?"รูดอร์ฟเดินออกมาขณะแปรงฟัน
"ไม่รู้สิ คำว่ายานเกราะของรอมเมิลคงหมายถึงE100 Mausละมั้ง ขนาดรถถังกลางPanzer lll ยังโดนเปลี่ยนกลุ่มให้ไปเป็นรถถังกลางเลย"คอนติแนนท์หัวเราะพร้อมกระสุนนัดหนึ่งที่ตกลงใกล้เขา
"นี่สเปียร์ กองพลนายมียานยนต์กึ่งสายพานใช่มะ?"รูดอร์ฟเดินไปถามจ่าสิบโทสเปียร์ของกองพลเอสเอสที่4
"ใช่ มีอยู่2ร้อยคัน"
"งั้นเราขึ้นรถและไปกับนายไหวมั้ย?"
"หมายความว่าไง?"
"เราต้องไปถึงแรชต์ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น"
"แล้วไง?"
"ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ถ้าเราเดินเท้าเปล่าไปต้องใช้เวลา 2 วันกว่าจะถึง ถ้าขับรถก็12ชั่วโมง นายเลือกเอานะว่าจะเดินเท้าพร้อมความเสี่ยงกับนั่งรถ12ชั่วโมง"
"ก็ได้ งั้นตอนตี1 เราต้องจัดกำลังพลกันแล้ว เอ่อ ไปตามพวกแพนเซอร์ด้วยล่ะ พวกนั้นมีรถถังและของมากพอที่จะดัดแปลงรถถังให้เป็นรถขนส่งได้น่ะ"สเปียร์หยิบบุหรี่มาจุด
เดินมา400เมตร รูดอร์ฟก็เจอพวกแพนเซอร์กำลังตั้งก๊กเหล้าและเล่นไพ่อย่างสนุกสนาน
"เออคือ...."รูดอร์ฟคิดคำพูดอยู่
"อาราาาย????... อาาาาายพวกเอสเอส...มีอาราาาายกาาบราาาวเหรอ?"พลรถถังคนหนึ่งยืนขึ้นพร้อมกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง
"เอิ่ม....คือผมจะมาขอให้พวกนายช่วยน่ะ"
"ช่วย?...ช่วยอาราย..อุ๊ฟ!!!!!"พลรถถังที่ลุกยืนจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเดินมาชกเข้าที่ท้อง
"นี่สไตเนอร์!! อัลเฟรด!! ลูเซียโน่และบาบากอส!!! ฉันบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเมาในแนวหน้า!!! กลับบ้านคราวนี้ฉันเอาแกแน่!!!!"ชายคนนั้นยศร้อยเอก หลังจากชกท้องเขาก็ดึงคอเสื้อชายอีก4คนขึ้นมาและเตะเข้าที่หลัง พร้อมถีบจนทั้ง4คนล้มหน้าถูกับพื้น
"ไอพวกที่เหลือนะ!!! นี่เตือนครั้งแรกนะ!!! ถ้าใครคิดลองดีละก็!! ฉันจะได้ลองสุสานไว้ให้!!!!"ร้อยเอกคนนั้นตะคอกใส่ทหารในวงเหล้าที่เหลือจนคนอื่นวิ่งออกกลับไปที่เต็นท์ตัวเอง
"เอ่อคือ......"รูดอร์ฟพยายามเรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้น
"โทษทีนะ ผมร้อยเอกฟราดาวแนนน์ของกองพลยานเกราะเอสเอสที่15"ฟราดาวแนนน์ยื่นมือมาเช็คแฮนด์
"ดีเลย ผมต้องการคุยกับคนใหญ่คนโตพอดี"รูดอร์ฟจับมือทักทาย
"ดีเลย ผมต้องการคุยกับคนใหญ่คนโตพอดี"รูดอร์ฟจับมือทักทาย
"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"ฟราดาวแนนน์ถาม
"คือเราจำเป็นต้องไปแรชต์ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เลยจะมาขอแรงจากรถถังพวกนายหน่อย"
"เราอยู่ที่นี้แล้วค่อยไปตอนเช้าไม่ดีกว่าเหรอ?"ฟราดาวแนนน์ถาม
"12ชั่วโมงถ้าขับรถจากที่นี่ไปแรชต์ เราจะออกตอนตี1 อย่างน้อยถ้าเราไม่อยู่ที่นี่ตอนพระอาทิตย์ขึ้น เราจะปลอดภัยกว่า"
"เข้าใจละ จะให้ฉันเอารถถังมาช่วยลำเลียงคนไปแรชต์สินะ งั้นฉันไปตามหารถลำเลียงให้มากที่สุดนะ ตี1เจอกัน"
เวลา ตี1
"เอาเลย!! เอาเลย!! ค่อยๆยกนะ!!"
รถกึ่งสายพาน Sd.kfz. 251 200คันจอดเรียงรายไปทั่วทุ่งหญ้า รถคันแรกๆจะขนย้ายอาวุธให้เยอะที่สุด รถคันต่อๆมาจะขนย้ายเสบียงและทหาร รถยานยนต์ที่เหลือและรถถังที่เหลือเกือบ4ร้อยคันจะขนย้ายทหารและของจำเป็น
"นี่รูดอร์ฟ ที่บนรถทุกคันเต็มหมดแล้วนะ เราเหลืออีก4กองพลที่ต้องเดินเท้าเปล่า"ฟราดาวแนนน์เดินมาบอกรูดอร์ฟ
"งั้นเดินเท้าเปล่าเอา พวกฮอรัสทำเผารถยนต์ทุกคันไปหมดแล้ว ไม่เหลือทางเลือกแล้วละ"รูดอร์ฟบอก
วันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 11.26 37กิโลเมตรจากเมืองแรชต์ อิหร่าน
39กองพลเดินทางมาได้อย่างปลอดภัย มีทหาร8กองพลที่เลือกเดินเท้าจะได้ไม่เป็นการทิ้งเพื่อนร่วมรบไว้เบื้องหลัง
"หยุด!!!"รูดอร์ฟตะโกนขึ้น และกระโดลงจากรถกึ่งสายพาน พร้อมทหารอีก2หมวดที่เดินตามเขา
"คอนติแนนท์!"รูดอร์ฟหันหน้าไปเรียกจ่าคอนติแนนท์
"ตอนนี้จะทำอะไร?"
"ตอนนี้เราอยู่ข้างๆBazar-e Noqlebar ข้างหน้าเป็นที่เก็บค่าผ่านทาง..ฉะนั้นเราอยู่ตรงนี้"รูดอร์ฟชี้ลงไปในแผนที่
"ในเมืองไม่น่ามีพวกมันแล้วนะ"คอนติแนนท์ส่องเมืองจากกล้องส่องทางไกล
"ในเมืองน่ะ ไม่น่ากลัวหรอก ที่น่ากลัวคือหมู่บ้านที่ล้อมพวกเราน่ะสิ พวกมันอาจใช้พื้นที่ภูมิศาสตร์ในการจู่โจมเราเมื่อไรก็ได้"
"ไปต่อกันแต่ว่าบอกให้ทหารลงจากรถได้แล้ว เราจะต้องเดินอีก30ชั่วโมงอย่างมากน่ะนะ"รูดอร์ฟเก็บแผนที่และเดินไปบอกให้ทหารลงจากรถ
การเดินนาน30ชั่วโมงของพวกรูดอร์ฟจะให้รถถังนำหน้าขบวนทัพและค่อยๆเดินเข้าเมืองโดยจะให้ทหารราบเคลียร์ทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นฟาร์ม บ้าน โรงนาหรือไร่องุ่น เผื่อพวกฮอรัสมีกลไกอะไรซ่อนไว้ ทหารจะได้รู้ทันพวกมัน
28 ชั่วโมงต่อมา วันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 17.02 ณ Gill Square เมืองแรชต์
เมืองทั้งเมืองเงียบสงั้ด ไม่มีมีแม้แต่เสียงนกร้อง เมืองแรชต์เปรียบเสมือนเมืองร้าง เศษใบไม้ หญ้าแห้ง เศษขยะ ซากรถยนต์เกลือนเต็มถนนไปหมด อาคารทุกแห่งมีรากไม้พันไปมาจนแตกหักเกือบหมด ไม่สามารถหาเสบียงเพิ่มจากบ้านเรือนได้เลยเพราะของที่มีนั้นก็เน่าเสียไปหมดแล้ว
"เงียบแหะ เงียบมากๆด้วย"รูดอร์ฟเดินมากับกองร้อยเบอร์ลินเพื่อมาดูต้นทาง
"ดีแล้วนิจ่า แปลว่าพวกมันไม่สนเมืองนี่ไงครับ"พลทหารพูด
"ไม่หรอก มันเงียบเกินไป เงียบจนน่ากลัวกว่าเดิม"รูดอร์ฟมองไปรอบๆเมือง
"รูดอร์ฟ เป็นไงบ้าง?"โจฮันเนสเดินมาถามรูดอร์ฟ พร้อมกับทหารคนอื่นๆที่เคลื่อนพลเข้าเมืองเพื่อมาตั้งหลัก
"มันเงียบเกินไปน่ะสิ"รูดอร์ฟหยิบแผนที่ออกมาและเดินขึ้นไปที่ดาดฟ้า
"เราอยู่ในอาณาเขตของมันแท้ๆ แต่กลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย ร่องรอยสุดท้ายก็ดูเหมือนจะเป็นตอนที่พวกมันบุกอิหร่านเมื่อหลายปีก่อนแน่ๆ"
"แล้วนายรู้ได้ไงว่ามันเป็นการบุกเมื่อหลายปีก่อน"โจฮันเนสถามต่อ
"นี่ไง หนังสือพิมพ์การยอมแพ้สงคามของอิหร่าน เนื้อกระดาษแตกหมดแล้ว"รูดอร์ฟหยิบแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์และขยี้ให้ดู
สำหรับ8กองพลที่เดินเท้าเปล่านั้นจำเป็นต้องใช้เวลาเดินทาง8วัน ซึ่งระหว่างนี้พวกรูดอร์ฟก็จะไปไหนไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะมาถึง
วันที่ 20 พฤษภาคม เวลา 07.25
"นั่นใครกันน่ะ?!!"
"คนเยอรมัน! อย่ายิง!! อย่ายิง!!!!"
"อย่าพึ่งยิงนะ นั้นพวกเรา!"
"เกิดอะไรขึ้นข้างนอกน่ะ?"รูดอร์ฟเดินออกมาขณะแปรงฟัน
"เห็นว่า8กองพลนั้นมาถึงแล้ว"โจฮันเนสบอก
ทหารมากมายที่รู้เรื่องรีบวิ่งมาต้อนรับเพื่อนร่วมรบของพวกเขา
กลางดึกของวันที่ 13 พฤษภาคม
"....ฮอรัสบุก!!!!!!!!!"
แกร๊งๆๆๆๆๆ!! กระดิ่งเตือนภัยดังขึ้นทั่วเมือง ทหารเฝ้ายามแต่ละคนรีบลงจากหลังคาและไปปลุกทหารทุกนาย
"พวกฮอรัสมากันแล้ว!!!!!!"
ณ ห้องควบคุมไฟฟ้าของเมือง ทหาร2นายที่ควบคุมระบบไฟฟ้ากำลังจะวิ่งออกไปต่อสู้
"นี่พลทหาร! ปุ่มนี้มันคืออะไรว่ะ? เหมือนปุ่มฉุกเฉินเลย"สิบตรีหยุดวิ่งและกำลังจะกดปุ่มแดงๆ
"กดเล๊ย ไม่มีอะไรจะให้เสียแล้ว"พลทหารบอก
ปุ่มนั้นคือปุ่มสัญญาณเตือนภัยการโจมตีจากข้าศึก ทำให้ทหารทุกนายสะดุ้งตื่นโดยไม่ต้องปลุก
"เยี่ยมไปเลย"สิบตรีรีบวิ่งออกไป
ณ ถนนด้านหน้าที่พักของกองร้อยเบอร์ลิน
"ลงมาเร็วเข้า!!!! หยิบปืนและวิ่งไปที่รถถังตรงนั้นเลย!!!!"รูดอร์ฟตะโกนบอกทหารที่กำลังวิ่งลงมา
รถถังแพนเธอร์จอดปิดถนนและยิงตอบโต้อย่างสุดกำลัง
รูดอร์ฟกับกองร้อยของเขาพร้อมกับกองร้อยมิวนิค วิ่งไปหลบข้างหลังรถถังแพนเธอร์
"คอนติแนนท์ฉันสงสัยอย่างนึงมานานและ"รูดอร์ฟถามคอนติแนนท์
"สงสัยอะไร?"
"เขาบอกว่างานนี้ไม่มีกองพลยานเกราะนิ แล้วทำไมถึงมีกองพลยานเกราะได้?"รูดอร์ฟถามพร้อมเอามือทุบตีนตะขาบเบาๆ
"ไม่รู้สิ คำว่ายานเกราะของรอมเมิลคงหมายถึงE100 Mausละมั้ง ขนาดรถถังกลางPanzer lll ยังโดนเปลี่ยนกลุ่มให้ไปเป็นรถถังกลางเลย"คอนติแนนท์หัวเราะพร้อมกระสุนนัดหนึ่งที่ตกลงใกล้เขา
ตู้ม!!! "เวอออออ!!"คอนติแนนท์ตกใจจึงล้มหน้าคว่ำกับพื้น
"สงสัยรอมเมิลคิดว่าแพนเธอร์เป็นยานยนต์หนักไปแล้วมั้งเนี่ย555"รูดอร์ฟบอกก่อนที่จะออกไปยิงใส่และกลับเข้ามา
"จริงจังกันก่อนเถอะ ตอนนี้เราอยู่ที่ถนนEftekhari โรงพยาบาลตรงนี้ ถ้าตามที่ฉันคิด มันน่าจะมียานเกราะลำเลียงพลของฮอรัสอยู่ข้างหน้าตรงนี้(ชี้นิ้วไปยังสามแยกถัดไป) ข้างหน้าเรา 10เมตร เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ ให้ดีเราต้องล่อให้มันเข้ามาหาเราและระเบิดสะพานทิ้ง"รูดอร์ฟบอก
"หมู่2 หมู่3 หมู่4และหมู่7!!!"คอนติแนนท์ตะโกนถามหาทหารในกองร้อย
"ครับ!"หัวหน้าหมู่2 3 4และ7เดินมาหา
"ภารกิจนายนะ หมู่พวกนาย ไปวางระเบิดที่สะพานข้างหน้าเราให้ได้ ยิ่งไปวางระเบิดที่ฐานสะพานฝั่งนั้นได้ด้วยยิ่งดี แต่ว่าต้องวางระเบิดที่ฐานสะพานฝั่งนี้ให้ได้นะ"คอนติแนนท์วางแผน
"รับทราบแล้วไปได้!"ทหาร20นายจึงค่อยๆย่องออกไปที่ริมแม่น้ำ
"แล้วแผนต่อไปล่ะ?"คอนติแนนท์หันมาถามรูดอร์ฟ
"เดี๋ยวฉันคุยกัลผบ.รถถังก่อน"รูดอร์ฟหยิบประแจขึ้นมา ปีนขึ้นไปบนรถถังและใช้ประแจเคาะแรงๆที่ฝาป้อม ผบ.รถถังจึงเปิดออกมา
"มีอะไร?"ผบ.ถาม
"จะดีกว่ามั้ยถ้าพวกเราถอยออกจากที่นี้และล่อพวกมันเข้ามาที่สะพานและระเบิดสะพานทิ้งน่ะ?"
"น่าสนใจนะ รับทราบครับคุณทหาร"ผบ.รถถังจึงกลับเข้าตัวรถและค่อยๆถอยหลัง ทหาร2กองร้อยจึงถอยออกจากหลังรถถัง
ยานพาหนะขนส่งบุคคลหุ้มเกราะที่ปะทะกับแพนเธอร์จึงส่งทหารลงพื้นและค่อยๆเคลื่อนมาที่สะพาน
"กดระเบิด!!!!"คอนติแนนท์ตะโกนให้กดระเบิด
ตู้ม!!!!!!....ตู้ม!!!!!!!...ตู้ม!!!!!!..ตู้ม!!!!!! สะพานจึงตกลงไปในน้ำ พร้อมกับทหารฮอรัสและรถหุ้มเกราะ ขณะที่ทหารฮอรัสพยายามว่ายน้ำเอาตัวรอด รูดอร์ฟจึงสั่งให้กราดยิงทหารในน้ำให้หมด
"จ่าครับ เอาไงต่อดีละ?"พลทหารนายหนึ่งเดินมาถามรูดอร์ฟหลังจากยิงฮอรัสในน้ำจนหมด
"เอาไงต่อน่ะเหรอ? ไปฆ่ามันให้หมดไง"รูดอร์ฟส่งยิ้มให้ก่อนจะปีนไปยืนบนรถถังและนำทหารของเขาไปยังฝั่งตะวันออกเพื่อฆ่าฮอรัสที่ปิดล้อมเมือง
วันที่ 24 พฤษภาคม ทหารของรูดอร์ฟประสบความสำเร็จในการปิดล้อมพวกฮอรัสที่กำลังล้อมเมือง เป็นการล้อม2ชั้นและตัดเสบียงของพวกฮอรัส ทำให้ทหารฮอรัสที่อยู่ในวงล้อมกว่า2หมื่นนายยอมจำนน ทำให้ทหารสัมพันธมิตรมีรถลำเลียงและเสบียงมากพอที่จะไปถึงเทือกเขาคอเซัสได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีใครมาเดินเท้าเปล่าอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น