บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

ลำดับตอนที่ #85 : คะแนน GAT & PAT ออกแล้ว!!! ช็อคโลก~ ช็อคเด็กม.5 ทั่วประเทศไทย

 

สวัสดีครับผม เชื่อว่าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม หลายๆโรงเรียนก็คงเปิดเทอมกันแล้ว รร.ผมเองก็เปิดแล้วเหมือนกัน แต่ก็หยุดเรียน (ไม่ดีเลยนะเนี่ย -*-) เพราะกะว่าจะมารอฟังประกาศผลคะแนน GAT PAT ในตอนเย็นของวันนั้นนี่เอง....

เนื่องจากระบบมันล่มหลายรอบมากๆ กว่าจะเข้าระบบได้ก็เล่นเอาเกือบตายกันไปข้าง แต่พอเข้าระบบได้แล้ว ดันลืมเลขที่นั่งสอบอีก ชีวิต -*- แต่ก็โชคดีที่มีเพื่อนๆที่เขาอ่านบทความของผมส่งเว็บเช็คเลขที่นั่งสอบมาให้ ก็เลยรอดตัวไป แล้วก็นั่งรอลุ้นคะแนนสอบ GAT PAT ด้วยใจจดจ่อ.....

(นึกสภาพเหมือนในหนังเรื่อง Final Score ที่เอาสมุดเล่มเล็กๆมาปิดคะแนนไว้ แล้วค่อยๆเลื่อนลงมาดูทีละวิชา)

ปรากฏว่าคะแนน GAT ของผมเองก็ออกมาดีเกินคาดครับ..... เพราะไม่คิดเลยว่าจะทำได้ อยู่ในห้องก็เชื่อมโยงไป ฝนไปแบบไม่คิดอะไรมาก ลืมไปด้วยซ้ำว่ามันมีหักคะแนนด้วย นี่มาโอเคแล้วนะ เพื่อนห้องผมมันได้เชื่อมโยงเต็ม 150 ด้วย คนอะไรเทพปานนั้น -*-

เอาเป็นว่ารอบแรกนี้ ได้ 200 อัพ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ ส่วนคนที่ได้คะแนนน้อยก็อย่าเพิ่งเศร้าไป เพราะเรามีโอกาสแก้ตัวอีกตั้ง 3 ครั้ง (ถ้ารับตรงจุฬา - ธรรมศาสตร์ ก็อีก 2 ครั้ง) จากที่ผมถามเพื่อนๆส่วนใหญ่ในห้องมันก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียเวลาอ่านวิธีทำ ฝนกระดาษคำตอบไม่เป็น กลัวโดยหักคะแนน ฯลฯ อีกสารพัดปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่ามันคงจะไม่ไปปรากฏในห้องสอบเป็นครั้งที่ 2 อีกแน่นอน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกันนะครับ

วิธีแก้ปัญหาในการสอบ GAT รอบต่อไปคือ

1.   ถ้ากลัวเสียเวลาอ่านวิธีทำ ไปที่เว็บของสทศ.เลยครับ (www.niets.or.th) ไปอ่านวิธีทำข้อสอบแนวเชื่อมโยงให้แจ่มแจ้งกันไปเลย จากนั้นก็ลองหาข้อสอบความถนัดแพทย์มาทำเล่นๆดู ฝึกฝนไปบ่อยๆ รับรองแหล่มแน่นอน

2.   เวลาอ่านข้อความ ให้อ่านแบบสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก เพราะว่าตัวที่จะให้หาความเชื่อมโยง เขาจะเน้นสีดำไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เมื่ออ่านข้อความจบรอบหนึ่ง ก็ให้มาอ่านที่ตัวสีดำทั้งหมด หาความเชื่อโยงจากข้อความสีดำเหล่านั้น ซึ่งมันจะมีคำคีย์อยู่ในบทความอยู่แล้ว (จะว่าไปก็เหมือนกับการให้เหตุผลในวิชาภาษาไทยนั่นแหละ) แล้วที่สำคัญในการทำข้อสอบแบบนี้ สมาธินั้นสำคัญมากๆนะครับ

3.   เรื่องที่จะหักคะแนน 3 คะแนน ผมคอนเฟิร์มเลยว่า อย่าไปใส่ใจ เพราะว่าถ้าเรายิ่งคิดว่าจะโดนหักคะแนน ก็จะพาลไม่ให้เรากล้าที่จะฝนกระดาษคำตอบลงไป ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วเราจะเอาคะแนนมาจากไหนล่ะ ถ้าเรามั่นใจในคำตอบของเราก็ฝนลงไปเลยดีกว่า คิดวิเคราะห์ เชื่อมโยง มันก็เป็นความคิดอ่านของเรา ไม่มีถูกไม่มีผิดหรอกครับ

การที่คนออกข้อสอบเขียนว่าจะหักคะแนนเรา มันก็เป็นแค่จิตวิทยาอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่ากลัวครับ มั่นใจเข้าไว้ แล้วทำไปเลย

คนที่กลัว จนไม่กล้าที่จะเริ่มต้นอะไรเลยต่างหากที่จะพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต

4.   Part ภาษาอังกฤษ ยากมากๆ เพราะว่าแนวข้อสอบที่ออกมานั้น ถือว่าแตกต่างจาก Ent อยู่พอสมควร มีแต่พวก Reading + Sentence Completion เท่านั้นที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะฉะนั้นไปหาข้อสอบ Ent ปีเก่าๆมาลองฝึกทำได้นะครับ

ข้อสอบในส่วนของ Conversation สำนวนจะยากมากๆ ไม่ค่อยได้ยินในชีวิตประจำวัน อย่าง On and Off งี้ ใครจะไปรู้ว่ามันแปลว่าบางเวลา (= Sometimes)

ข้อสอบส่วนที่เพิ่มมาใหม่ก็มี Doesn’t one belong และ Analogy ซึ่งวัดศัพท์ล้วนๆ ซึ่งศัพท์ก็ยากพอๆกับ Tofle เลย เอาเป็นว่า คนที่รู้ศัพท์น้อย เสียเปรียบแน่นอน

ข้อสอบส่วนของ Error ถือว่ายากมาก เพราะว่ามันไม่ได้วัดแค่โครงสร้างปกติทั่วไปอย่างที่ Ent เคยออก แต่มันจะวัดเรื่อง Spelling (การสะกดคำ ซึ่งเมื่อรอบที่แล้วก็ออกด้วย) Word choice (การเลือกให้คำให้เหมาะสม) และ Usage ด้วย ใครที่อ่อนแกรมม่า ต้องรีบไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมด่วน

ส่วนข้อสอบ PAT ของผมเนี่ย ไม่อยากจะพูดถึงเลย -*- เลขกะภาษาที่ 3 ไม่ถึงร้อยสักตัว มีแต่ PAT5 เท่านั้นแหละ ที่พอเชิดหน้าชูตาได้

ด้านล่างนี้เป็นคะแนนสูงสุด – ต่ำสุดของ GAT&PAT รอบแรก ไม่รู้ว่ามันจะจริงรึเปล่า ก็ก็ว่าน่าเชื่อถือได้พอสมควร ลองดูกันนะครับ

ที่มา : http://news.mcot.net/social/inside.php?val...m50eXBlPXRleHQ=

ผมพิมพ์สรุปให้เลยแล้วกานนะครับ ใครอยากอ่านบทวิจารณ์เต็มๆก็ไปตามลิงค์ข้างบนเลย อิอิ]

1. GAT สูงสุด 290 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน

2. PAT1 (คณิตศาสตร์) สูงสุด 300 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน
3. PAT2 (วิทยาศาสตร์) สูงสุด 140 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน
4. PAT3 (พื้นฐานวิศวะ) สูงสุด 240 คะแนน ต่ำสุด 5 คะแนน
5. PAT4 (ความถนัดทางด้านสถาปัตย์) สูงสุด 225 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน
6. PAT5 (ความถนัดทางวิชาชีพครู) สูงสุด 222 คะแนน ต่ำสุด 38 คะแนน
7. PAT6 (ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์) สูงสุด 165 คะแนน ต่ำสุด 18 คะแนน
8. PAT7 (ภาษาที่ 3)

8.1 ฝรั่งเศส สูงสุด 270 คะแนน ต่ำสุด 30 คะแนน
8.2 เยอรมัน สูงสุด 288 คะแนน ต่ำสุด 39 คะแนน
8.3 ญี่ปุ่น สูงสุด 294 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน
8.4 จีน สูงสุด 291 คะแนน ต่ำสุด 27 คะแนน
8.5 อาหรับ สูงสุด 222 คะแนน ต่ำสุด 33 คะแนน
8.6 บาลี สูงสุด 279 คะแนน ต่ำสุด 45 คะแนน

เมื่อวันก่อนผมเข้าเว็บบอร์ดของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ มา ปรากฏว่า เพื่อนๆหลายคนไปโพสคะแนนตัวเองไว้เยอะมากมาย ประมาณว่า เห็นแล้วผมแอบท้อเลย เพราะว่าแต่ละคน แค่รอบแรกก็ส่อเค้ามีแววติดคณะนี้แล้ว แล้วดูคะแนนเรา....... เหอๆ เน่าสนิท ชนิดงมหาศพไม่เจอกันเลยทีเดียว (สงสัยถูกขังรวมอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ -*-)

แต่ๆๆๆๆ อย่าเพิ่งท้อแท้ไปครับทุกคน สงครามครั้งนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เรายังคงต้องสู่ต่อกันอีกหลายยก ครั้งแรก ถึงเราจะแพ้ก็ไม่เป็นไร ครั้งหน้าเราต้องกลับมาเป็นผู้ชนะให้ได้ ขอเพียงแค่ให้เรามีความตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วเชื่อเถอะว่ามันก็จะออกมาดีเอง

คะแนน มันก็คือกลุ่มของตัวเลขที่มันมีเรียงต่อๆกัน บ่งบอกถึงความสามารถเชิงความรู้ของคนๆหนึ่ง ไม่สามารถกำหนดชีวิตของเราได้ ไม่สามารถบอกได้ว่า อนาคตของเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะฉะนั้นคนที่ได้คะแนนน้อยก็อย่าเพิ่งเศร้าเสียใจไป อย่าเพิ่งหมดหวังเอาง่ายๆ เอาคะแนนครั้งนี้เป็นบทเรียนให้เราพยายามต่อไปในวันข้างหน้า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เราจะต้องพยายามให้ถึงที่สุด คะแนนที่ได้ออกมา มันจะเป็นความภาคภูมิใจของเรา ไม่ใช่ของคนอื่น ถ้าเราพยายามเต็มที่แล้ว จะต้องไม่มีคำว่าเสียใจแน่นอน

สุดท้ายที่ผมจะบอกก็คือ

มหาวิทยาลัยที่ไหนก็ได้ ขอให้เรามีความสุขกับการเรียนในสายงานที่เราชอบก็พอ

เพราะชีวิตมนุษย์นอกจากความสุขทางกายแล้ว

เรายังต้องการความสุขทางใจด้วยนะครับ

เอาหล่ะๆ ใครที่นั่งเศร้าอยู่ ลุกขึ้นมาตะโกนบอกกับตัวเองเลยว่า

“ฉันพร้อมแล้ว!

ฉันพร้อมที่จะสู้เพื่อฝันของฉันแล้ว!

สู้โว้ยยยยย!!!!”