MillJung
ดู Blog ทั้งหมด

4 ส.ค. 54

เขียนโดย MillJung

 
(ไซเรนเทีย ..พระเอกนิยายเรื่องที่สอง ปี'48)


สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่น้องและท่านที่แวะมาเยี่ยมชม

เจ้าของไอดี ชื่อมิลล์ อายุ18

(ตอนนี้อยู่มหาลัยแล้วเฟ้ย.. 55)

ต้องขอโทษหลายๆท่านที่มิลล์หายตัวไปนาน=w=:: ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่นไอดีเลยค่ะ ไม่เล่นเอ็ม ไม่เล่นกระไร เล่นแต่เฟส
ถ้าสนใจติดต่อแอดเฟสมาได้นะคะ /sujitra nan

(เหมือนเป็นคนเรื่อยเปื่อย ซึ่งก็จริง 555+)

.
.
พออยู่เด็กดีหลายๆปี ก็พบว่า อะไรๆก็เปลี่ยนไปค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง เป็นนักเขียนนิยายที่เราชื่นชอบ เป็นใครๆ เป็นคนใกล้ตัว

ทุกคนเติบโตขึ้น เลือกที่จะเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง

แม้แต่ตัวเราเองก็เปลี่ยนไป

สันโดษขึ้น ละวางมากขึ้น อยู่กับความเป็นจริงมากขึ้น

เป็น ช่วงเวลาที่เรียกว่า "การเติบโตขึ้น" ถึงแม้อยากจะกลับเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ที่โหดร้าย สวยงาม หากแต่เราเข้าใจมันเพราะฝันเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น อยากบอกเล่าถึงตัวละครที่โลดแล่นอยู่ในนั้น แบ่งปันโลกแห่งนั้น

...แต่ก็สามารถกระทำได้จริงเพียงบางครั้งบางคราว...

ตอนนี้เรายังไม่มีกำลังพอที่จะควบคุมให้โลกทั้งสองก้าวไปพร้อมๆกันได้

ต้องเลือกที่ใดที่หนึ่ง

'อิสระ' คือสิ่งที่เราใช้เวลาทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ
หากแต่ยังคงมี 'หน้าที่' เป็นข้อผูกมัด

โลกไม่ได้หมุน 'ตามเรา'
สุดท้ายเราต่างหากที่ต้องหมุน 'ตามโลก'

โลก
...ที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ตัญหา ความต้องการไม่สิ้นสุดของคนมหาศาล
โลก ...ที่ขับเคลื่อนด้วยการแย่งชิงอำนาจ ของเหล่าผู้คนที่มีพลังในการครอบงำจิตใจ
โลก ...ที่เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เรา ได้เห็น ได้ฟังได้ยิน เป็น ความจริง หรือ สิ่งหลอกลวง


แต่เราก็ยังคงไม่รู้ ว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆคือ 'ความสงบ' ใช่ไหม?

'ความปรารถนา' ยังคงหล่อหลอมได้ฉันมีความต้องการ มีความโลภ ละ รัก เกลียด อิจฉา ริษยา ทะเยอทะยาน ดีใจ ผิดหวัง สุข ทุกข์ เศร้า ยินดี เข้าใจ มีความหวัง เป็นที่ต้องการ หัวเราะ เสียใจ เจ็บปวด ตระหนัก เข็ดหลาบ ไม่เข็ดหลาบ จดจำ ไม่ยอมจดจำถึงความผิดที่แล้วๆมา
สุดท้ายก็เข้าสู่วัฏจักรเดิมๆ


ยังคงลอยเคว้งในระบบสุริยะโดยไม่มีสิ่งใดให้ยึดเกาะ


จะแต่งอะไร? จะเขียนอย่างไร? มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้าเทียบกับการเกิดและความตายที่สักวันเราจะกลับไปหา

ยิ่งใหญ่จนทำให้เราเคว้งคว้าง


มาถึงจุดนี้ก็เริ่มรู้สึกตัวว่า...ฉันเขียนอะไรลงไปนี่
เขียนไว้ในไอดีเนี่ยนะ ไม่มีใครอ่านหรอก (ไม่ได้หวังให้ใครอ่านด้วย) ฉันลาจากที่นี่ไปนานแล้ว ไม่ได้สร้างสัมพันธ์ยืนยาวกับใคร จะมีสักกี่คนที่จำฉันได้

แม้ส่วนลึกจะรู้ว่า 'มี' อยู่นะ
คน ที่ยินดีกับเราเวลาเราสุข ปลอบใจเวลาเราทุกข์ นับถือเรา ให้เกียรติ์เรา เข้าใจเราแม้เราจะไม่ได้พูดอะไรออกไป ให้อภัยแม้จะทำอะไรให้เขาผิดหวัง
แต่กลับกดตัวเองให้ต่ำ หลีกหนีหายไปโดยไม่บอกกล่าว

เราเสียใจ เพราะเราเองที่ทำอะไรไม่สำเร็จ
แต่ กลับไม่ยอมบอก ให้เขารู้ ว่าเราเสียใจแค่ไหน เราไม่เคยขอโทษ ใจหนึ่งคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกขอโทษก็ได้ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดนั้น เป็นธรรมดา คงไม่เป็นไร
แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าเราควรขอโทษนะ แต่ถ้าเราขอโทษ เขาให้อภัย แล้วเรากลับไปผิดพลาดแบบเดิมซ้ำๆอีก เป็นใครก็ต้องไม่อภัยเข้าสักวัน

"จึงไม่ทำอะไร"

ปล่อยไปเช่นนั้น นั่นเป็นข้อเสียของฉัน เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้

อยากรู้ แต่ไม่กล้าเอ่ยถาม จึงกลายเป็นคนขี้ขลาดอยู่อย่างนี้


อิจฉาคนที่มีความกล้า
ทั้งๆที่รู้ว่าคนเหล่านั้น ล้วนก้าวผ่านดงหนามบาดลึก เจ็บปวดกับคำทิ่มแทง

ใครคนหนึ่งกล่าวว่า 'เมื่อข้ามไปได้แล้ว จะกลายเป็นคนแข็งแกร่ง'

แต่ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร ความรู้สึกนั้น เพราะฉันยังคงติดอยู่กลางทาง ไม่อาจก้าวข้ามไปได้


...หากคิดดีๆแล้ว เราเองก็ควรนับถือคนอื่นเช่นกัน...


ถ้าหากฉันมีความกล้า ฉันสามารถยืนอยู่ท่ามกลางแสงตะวันเมื่อไหร่ก็ได้ที่ฉันต้องการ


ท่ามกลางดงหนามที่ชื่อว่า 'คำพูดคน' ถ้าหยุดนิ่งอย่างนี้ ไม่ขยับตัวไปไหน ไม่ทำอะไร ฉันก็ไม่ต้องเจ็บปวด
ฉันถึงหยุดนิ่ง
ถ้าขยับเมื่อไหร่ ก็ปวดลึกเมื่อนั้น

แต่ถ้าฝ่าไปจนสุดทาง แม้เลือดไหลทั่วกาย ทิ้งรอยแผลคมหนามไว้

สักวันมันต้องหายและฉันจะเข้มแข็งมากกว่าเดิม

บาด แผลตกสะเก็ด กลายเป็นสัญลักษณ์ว่าเราผ่านสิ่งใดมาบ้าง หลังจากนั้นไม่ว่ามีสิ่งใดมาทิ่มแทง เราจะเจ็บเบาลง บางครั้งก็ไม่เจ็บปวดอีก

ได้ไปยืนอยู่ที่เดียวกับคนที่ฉันอิจฉา


ถ้าหากวาดฝันไปอย่างนั้น ทุกสิ่งก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่


แต่กล่าวลอยๆว่าหลายสิ่งเปลี่ยนไป ไม่มีเนื้อเรื่อง ไม่มีข้อสรุป
...หรือนี่จะเป็นเขียนเพื่อตัวเองในอนาคต?




ฉันจะลองทำตามที่ใจต้องการดูก่อน


....ผลจะเป็นอย่างไร ฉันเองก็ไม่มีวันรู้ ในขณะนี้...


4 ส.ค. 54

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น