คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ปลาตัวที่ 9
ปลาตัวที่ 9
บริษัท บ้านปลา
08.50 น.
วันเสาร์
แกร๊กก!!
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก...พร้อมหนุ่มผิวเข้มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย และวันนี้เขาก็ตื่นสายทั้งๆที่เป็นวันทำงาน รวมถึงต้องรีบแพ็คอุปกรณ์ในทำตู้ปลาทั้งหมดให้ครบภายในเวลาไม่เกินบ่ายสามเพราะช่วงเย็น...เขาและสามีของพี่ชายต้องเดินทางไปงานเลี้ยงรุ่นที่สถานบันเทิงของรุ่นพี่ที่เป็นสายรหัสรุ่นลุง ได้รับการ์ดเชิญให้ไปงานทุกปี แล้วเกือบทุกปีเขาก็มักจะไปพร้อมๆกับพี่เขยตัวโย่งเสมอ
แต่ปีนี้...มันจะพิเศษมากกว่าปีไหนๆ เนื่องจากพี่เขยสุดหล่อของแฟนเด็กก็จะได้ไปงานนี้ด้วยกันเป็นปีแรก และก็จะเป็นปีแรกที่สายรหัสของเขาทุกคนจะมาที่งานเลี้ยงรุ่นแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ถือเป็นวันที่ดีเพราะเขาจะได้พาเด็กน้อยไปงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน ปากคมยกยิ้มเมื่อนึกถึงภาพที่พวกเขาจะได้ไปงานเลี้ยงรุ่นในค่ำคืนนี้ แต่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะสามารถเข้าไปร่วมงานได้หรือเปล่า แถมยังมีแต่กลิ่นบุหรี่ในแบบที่แฟนเด็กไม่ชอบรวมไปถึงผู้คนอีกมากมายที่อาจทำให้เจ้าตัวเกิดความหวาดระแวง
“คุณคิมมมม!!!...ทำไมชอบถอดเสื้อทิ้งไว้บนเตียงล่ะฮะ แล้ววันนี้ก็ตื่นสายด้วยดู ๆ ๆ ๆ คนอื่นเค้ามาทำงานกันหมดแล่ว!!” คนต้นเหตุที่ทำให้เจ้าของบริษัทบ้านปลาตื่นสายก็คือเสียงใสๆ...ที่พูดเจื้อยแจ้วและยืนด้วยเข่าโก่งก้นเท้าแขนอยู่บนเตียงพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน แล้วทำปากยื่นปากยาวชี้นิ้วไปทางโรงงานที่ตอนนี้มีพี่พี่แทมินกับลูกน้องคนอื่นๆกำลังทยอยเดินเข้าโรงงานกันเป็นแถว
“น้องปลานั้นแหละทำให้พี่ตื่นสาย แล้วก็ไปอาบน้ำได้แล้วครับ จะได้ลงไปกินข้าวพร้อมกัน” แก้มก้นขาวเนียน...ที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นสีเขียวของปลาตัวน้อยมันกำลังทำให้คุณคิมหายใจไม่ทั่วท้อง และฉลามเพชฌฆาตที่เพิ่งสงบไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็กำลังจะตื่นขึ้นมาอีกรอบ
เจ้าของห้อง...ทำให้น้องปลาไม่ได้ใส่ชุดนอนตัวโปรดเนื่องจากไม่ได้ซักผ้ามาหลายวัน และเพราะตั้งแต่ประกาศตัวออกไปว่าเป็นแฟนกัน เด็กน้อยก็มานอนค้างที่บ้านของเขาบ่อยขึ้น ซึ่งคำว่าบ่อยก็คืออาทิตย์ละ 3 วัน วันศุกร์ วันเสาร์แล้วก็วันอาทิตย์ คิมจงอิน...ไม่รู้จะโทษอะไรดีระหว่างความขี้เกียจของตัวเองในเรื่องของการซักผ้าหรือควรโทษความน่ารักของน้องปลาที่เหมือนจะทำให้อะไรอะไรของเขามันตื่นโดยไม่รู้ตัว
ปกติก็ไม่ค่อยได้ซักผ้าของตัวเองอยู่แล้ว และถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะซักเท่าที่ใช้เพราะอยู่ตัวคนเดียวมานานแถมยังโสดมาตั้งหลายปี งานก็เยอะ ลูกค้าก็เรื่องมาก ยิ่งตอนนี้มีแฟนเด็กมานอนด้วยกันบ่อยขึ้น เขาก็ต้องยิ่งต้องดูแลและให้ความใส่ใจมากกว่าเรื่องอื่นๆ เมื่อก่อนสนใจแค่เรื่องงานกับเรื่องภายในบ้านเท่านั้น แต่เมื่อมีน้องปลาเข้ามาเป็นหนึ่งของชีวิต จงอินจึงพยายามแบ่งเวลาให้เหมาะสมกับทุกๆอย่าง แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ดีพอ
ส่วนเด็กน้อย...เมื่อไม่มีชุดนอนให้ใส่ เจ้าตัวจึงจำเป็นต้องใช้กางเกงขาสั้นที่มักจะเอาไว้ใส่เป็นซับในสวมเป็นกางเกงนอนไปก่อนพร้อมกับเสื้อยืดเก่าๆของแฟนผิวเข้ม ใส่ไปก็บ่นไปว่าทำไมคุณคิมถึงไม่ยอมซักผ้าเพราะมันทำให้เขาอดใส่ชุดนอนตัวโปรดลายเป็ดสีเหลือง หน้างอมาตั้งแต่เมื่อคืนและตื่นมาเช้านี้ก็ยังบ่นต่อไม่หยุด ผ้าก็ไม่ซัก เสื้อก็ถอดกองไว้บนที่นอน บนพื้นห้องก็นึกว่าตู้เสื้อผ้า มองไปทางไหนก็มีแต่ผ้าชิ้นนั้นชิ้นนี้อยู่ทั่วไปหมด แถมยังตื่นสายจนลูกน้องเดินทางมาทำงานกันหมดแล้ว
“หนูยังไม่อาบหรอก...เดี๋ยวหนูจะซักผ้าให้เสร็จก่อนแล้วค่อยอาบ แล้ววันนี้หนูก็จะไม่ช่วยคุณคิมทำงานด้วยนะฮะ เพราะถ้าหนูซักผ้าเสร็จแล้ว หนูจะทำความสะอาดห้องของคุณคิมด้วย” เดินลงส้นเท้าตึงๆและเก็บผ้าที่กองอยู่ตามพื้นตามเตียงโยนใส่ตะกร้า พร้อมกับบ่นคนที่กำลังนั่งเช็คอีเมลของลูกค้าอยู่บนโซฟา
“น้องปลาาา...ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ? ไหนมานี่ซิ...โกรธอะไรพี่ หื้ม?” กวักมือเรียกและตบโซฟาดังปุๆเพื่อให้แฟนเด็กที่เอาแต่ทำหน้าบูดมานั่งข้างๆ เพราะคุณคิมอยากรู้ว่าปลาตัวน้อยแสนน่ารักกำลังโกรธเขาด้วยเรื่องใด
น้ำก็ไม่ยอมอาบ ข้าวก็ไม่ยอมกิน แถมยังเอาผ้าไปซักอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร เมื่อวานตอนไปรับออกมาจากบริษัทและขออนุญาตพี่ๆทั้งสองคนเรียบร้อย เจ้าตัวก็ยังร่าเริงเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่...พอมาเช้านี้ทำไมถึงได้ทำหน้าบึ้งคล้ายกับไม่พอใจอะไรสักอย่าง ใช่ว่าไม่รู้...เรื่องที่ถูกงอนเพราะเมื่อคืนน้องปลาอดใส่ชุดนอนตัวโปรด แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นต้องมาทำปั้นปึงกันขนาดนี้เลยหรือ?
“ก็ห้องมันรกหนิฮะ...เมื่อกี๊หนูจะเอาผ้าไปใส่ตะกร้า พอเดินลงมาจากเตียง หนูก็เตะไปโดนอะไรก็ไม่รู้ คุณคิมดูเท้าหนูสิเป็นแผลเลยเนี่ย เลือดออกด้วย!!” คนถูกเรียก...แทนที่จะนั่งบนโซฟา เจ้าตัวกลับหย่อนก้นลงบนตักของหนุ่มผิวเข้มแล้วยกเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อโชว์บาดแผล เลือดไม่ออก...แต่บอกไปเพื่อเพิ่มอรรถรสในความน่าสงสาร แต่การที่เท้าเตะไปโดยเครื่องตัดกระจกขนาดเล็กก็ทำให้ถึงกับห้อเลือด***
“พี่ขอโทษนะครับ อย่าโกรธกันเลยน้าาา...ก็งานมันเยอะ พี่เลยไม่มีเวลาจัดห้องแล้วก็ซักชุดนอนให้น้องปลาใส่ แฟนคุณคิมเจ็บมากไหมครับ เดี๋ยวคุณคิมทายาให้นะ” กอดเด็กหน้างอเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน และรู้สึกผิดที่ทำให้ปลาตัวน้อยได้รับบาดเจ็บรวมถึงอดใส่ชุดนอนตัวโปรดเมื่อคืน อยู่คนเดียวมาตั้งหลายปี พอมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต คิมจงอินจึงปรับตัวไม่ทัน
“หนูไม่ได้โกรธธธธ...แต่คุณคิมทำอะไรไม่เป็นระเบียบเลยฮะ ถ้าเกิดคุณคิมเดินไปเตะของแบบหนูบ้าง แล้วขาหักขึ้นมาจะทำยังไง!!? ดู ๆ ๆ ๆ ของเยอะแยะเต็มห้องไปหมด มีแต่อะไรก็ไม่รู้...เนี่ย ๆ ๆ ๆ” ยิ่งกว่าคำว่าบ่น...ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบเปรย เด็กน้อยเอาแต่ชี้นิ้วไปที่อุปกรณ์ต่างๆด้วยความหงุดหงิด ค้อน กรรไกร ไขควง ผ้าที่เดินเก็บตามซอกตามมุมก็ล้นออกมานอกตระกร้า แล้วชุดช่าง...ก็ถูกแขวนไว้บนหน้าต่าง รกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“เป็นห่วงพี่เหรอครับ...พี่สัญญาว่าจะไม่ทำห้องรกอีกแล้ว วันนี้น้องปลาไม่ต้องช่วยพี่ทำห้องหรอกครับ เดี๋ยวพี่มาจัดการทีหลัง แล้วก็ไม่ต้องเอาผ้าลงไปซักด้วย พี่ไม่อยากให้น้องปลาเหนื่อย” ยอมรับผิด...แต่เพราะนิสัยเก่าๆมันแก้ยาก จงอินจึงต้องปรับปรุงตัวอีกหลายอย่าง และหลังจากนี้ก็จะพยายามทำให้ห้องนอนของตัวเองสะอาดพร้อมเพื่อใครอีกคนด้วยเช่นกัน ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว และจะไม่เอาเครื่องมือในการทำบ้านปลามาไว้ในห้องอีกเด็ดขาด
“เป็นห่วงสิฮะ ก็คุณคิมเป็นแฟนของหนู หนูไม่อยากให้คุณคิมบาดเจ็บ แล้ววันนี้หนูก็จะซักผ้า...และทำห้องของคุณคิมให้เสร็จด้วย แล้วถ้าคุณคิมทำห้องรกอีก...หนูจะไม่มาหาอีกเลย คอยดู!!!” คำขู่...ที่ปะปนมากับเสียงบ่นกระเง้ากระงอดและอ้อมกอดเล็กๆที่โอบกายหนุ่มผิวเข้มเอาไว้ กลับทำให้จงอินรู้สึกดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น เด็กอะไร...โกรธแต่ก็เป็นห่วง ต่อว่า...แต่ก็มอบอ้อมกอดให้ ไม่พอใจ...แต่ก็ยังมานั่งบนตัก น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แฟนใครทำไมน่ารัก??
(แฟนของ...คุณคิมมมมมมมมมมม)
ฟอดดดด!!!
“เหนื่อยก็พักนะครับ ไม่ต้องทำอะไรเยอะแยะ เดี๋ยวพี่กลับมาทำต่อเอง เข้าใจไหม?” หอมแก้มนุ่มด้วยความมันเขี้ยวและรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยบนตักมากขึ้นทุกวัน ช่างเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เริ่มคบหา แล้วไม่รู้ไปสรรหาความน่ารักมาจากไหนมากมาย
“งั้นเช้านี้...หนูไม่ลงไปทานข้าวพร้อมคุณคิมนะฮะ คุณคิมต้องลงไปทานข้าวให้หมด แล้วก็ไปที่โรงงานได้เลย...ไม่ต้องรอหนู ห้ามดื้อนะฮะ เดี๋ยวหนูหิวเมื่อไหร่ หนูจะลงไปทานข้าวเอง ตกลงไหมฮะ?” ไม่ใช่แม่...ก็ต้องเป็นเมียเท่านั้น และที่สั่งนั่นสั่งนี่ทำเหมือนจงอินเป็นเด็กอายุห้าขวบก็เป็นเพราะปลาตัวน้อยทราบดีว่าคุณคิมไม่เคยทานอาหารเช้าและมักจะหมกตัวอยู่แต่ในโรงงานทั้งวัน กินข้าวไม่ตรงเวลา...ก็ถือว่าแย่แล้ว ยิ่งไม่ทานอาหารเช้าและรอทานทีเดียวตอนมื้อเที่ยงก็ยิ่งแย่หนักไปกว่าเดิม น้องปลาไม่อยากให้จงอินทำแบบนั้นอีกแล้วเพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว
“ค้าบบบบบ...พี่จะไม่ดื้อกับแฟนอีกแล้ววววว” เหมือนถูกรู้ทัน...และยอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยทานอาหารเช้าเพราะงานมันเยอะเกินกว่าจะเข้าไปนั่งอยู่ในห้องครัวนานๆ และส่วนมากก็จะรอทานพร้อมพวกลูกน้องเสมอ มือหนา...กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นด้วยความรักและก้นนิ่มๆภายใต้กางเกงขาสั้นสีเขียวที่กำลังขยับยุกยิกไปมาก็พาให้ไม่อยากออกไปทำงานเสียอย่างนั้น
จุ้บบบ!!
“ค้าบบบ...ก็ลุกไปทำงานสิฮะ เดี๋ยวหนูจะได้ลงไปซักผ้าด้วย” ไม่ต่างกันเลยสักนิด...เพราะเมื่ออวัยวะที่พูดเจื้อยแจ้วมาตั้งแต่เช้าประทับลงบนสันกรามคม เจ้าตัวก็ยังนั่งกอดคุณคิมเอาไว้เหมือนเดิมแถมจูบปากหยักอีกครั้งอย่างแผ่วเบา
งานคือเงิน...เงินคืองานบันดาลสุข แต่ตอนนี้..ความสุขของคิมจงอินก็คือน้องปลา อยากให้วันนี้เป็นหยุด อยากให้ลูกค้าโทรมายกเลิกตู้ปลาและอยากพรากผู้เยาว์ ใครจะไปทนได้เมื่อถูกเอาอกเอาใจรวมถึงจูบที่พาให้อะไรอะไรมันยากเกินควบคุม มือหนา...กระชับร่างเด็กน้อยที่นั่งคล่อมอยู่บนตักก่อนป้อนจูบที่แสนลึกซึ้งให้เป็นรางวัล ไม่มีใครใส่ใจเขาได้มากเท่าเด็กคนนี้อีกแล้ว ไม่มี...ไม่มีเลยจริงๆ ปากหยักกวาดต้อนทุกอย่างด้วยความรู้สึกหวงและหวงจนไม่อยากให้ไปงานเลี้ยงด้วยกันในค่ำคืนนี้เพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นปลาตัวน้องของเขา ก้นนิ่มถูกฟอนเฟ้นด้วยแรงปรารถนาและการเอียงใบหน้าจิ้มลิ้มเพื่อรับสัมผัสต่างๆจากเขาก็กลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี แต่.....
“อื้มมม ๆ ๆ” ลมหายใจเริ่มขาดห้วง..จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงและบีบไหล่กว้างเอาไว้เพื่อระบายทุกความรู้สึก
“ถ้าอยากจูบพี่จริงๆ น้องปลาต้องจูบแบบนี้นะครับ...รู้ไหม” การตอบโต้รสสัมผัสของเด็กตรงหน้า ทำให้คนมากประสบการณ์ต้องเอ่ยแซวอย่างห้ามใจไม่ได้ แต่ถ้าน้องปลาจูบเก่งกว่านี้ เขาเองนี่แหละที่จะทนไม่ไหว จมูกโด่งเป็นสัน...ถูกบีบเบาๆด้วยความมันเขี้ยวและแก้มนิ่มก็ถูกฟัดอีกครั้งจนขึ้นริ้วแดง
“งื้อออออ...ห้ามพูดนะฮะ ก็หนูยังจูบไม่เป็นหนิ” ซบหน้าขวยเขินลงบนอกกว้างทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อน และถึงแม้จะยังจูบไม่เก่ง แต่ก็อยากทำให้ดีขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน
“ไม่พูดแล้วครับ ไม่พูดแล้ว แต่จูบกับพี่บ่อยๆ...น้องปลาก็จะเก่งขึ้นเอง เนอะเนอะเนอะ” อยากได้น้องเป็นเมีย...แต่ก็กลัวจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพราะถูกรุ่นพี่กระทืบตาย และได้แต่กอดกันไว้อย่างนั้นพร้อมกับโยกตัวคนบนตักไปมาคล้ายเป็นการกล่อมเด็ก หลงกว่านี้คงเป็นบ้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลงมากขึ้นทุกวันจริงๆ
และ....
“โอ๊ะ!!!....คุณคิมปวดฉี่เหรอฮะ คิมน้อยมันแข็งอยู่ตรงก้นของหนู?? ปวดฉี่ทำไมไม่บอกล่ะฮะ อั้นไว้ทำไมเดี๋ยวก็ปวดท้อง” รีบกระโดดลงมาจากตักกว้างพร้อมดึงคนที่ตัวเองคิดว่าปวดท้องให้ลุกออกจากโซฟาด้วยเช่นกัน แต่หารู้ไม่...ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากเจ้าตัวทั้งนั้น
“พะ...เพิ่งปวดเมื่อกี๊นี้เองครับ งั้นพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพี่ออกไปทำงานเลย” ถ้ามันเป็นการปวดท้องอย่างที่น้องสงสัยก็คงดี แล้วที่เรียกตรงนั้นว่าคิมน้อย มันก็ไม่น้อยนะคร้าบบบบบ....อย่าคิดไปเอง ฉลามก็คือฉลาม มันจะกลายเป็นปลาหางนกยูงไม่ด้ายยยยยย เพราะขนาดและความดุร้ายมันต่างกัน อยากให้เห็น อยากให้ลอง แต่ก็เกรงใจรุ่นพี่คนสนิท ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำและจัดการฉลามเพชฌฆาตก่อนที่มันจะเข้าโจมตีเหยื่อตัวน้อยๆ
“หนูเอาผ้าลงไปซักก่อนน้าาาาาา” เด็ก...ที่ไม่รู้ถึงความปวดตึงของคนที่อยู่ในห้องน้ำ ตะโกนบอกสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำพร้อมถือตะกร้าหวายเอาไว้ในมือเพื่อจะเอาทุกอย่างลงไปจัดการหลังบ้าน
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไปไหนเพราะ.....??!!!
“เดี๋ยวพี่เอาผ้าลงไปใส่เครื่องไว้ให้ ซี้ดดดด....น้องปลาทำความสะอาดห้องไปก่อนเลยยย ถ้าผ้าปั่นเสร็จเมื่อไหร่พี่จะให้บยอนนี่ ซี้ดดดด....เอาผ้าขึ้นมาให้ตากที่ระเบียงห้องงงงงงง” ลืมไปหมดทุกอย่างในเวลานี้...และความปวดตึงในส่วนนั้นมันก็ยากเกินจะอดกลั้น จงอินไม่อยากนึกภาพที่น้องปลาลงไปข้างล่างด้วยสภาพการแต่งกายที่ล่อแหล่ม แล้วก้มๆเงยๆเอาผ้าในตะกร้ายัดใส่เครื่องซัก ก้นอวบๆ...ที่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงมันต้องมีแต่เขาเท่านั้นที่จะได้เห็น ใครจะยอมปล่อยให้แฟนเด็กลงไปเป็นเหยื่อทางสายตาให้พวกลูกน้องมันแทะโลม แต่การจัดการกับฉลามเพชฌฆาตก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน จงอินจึงได้แต่ตะโกนสั่งนั่นสั่งนี่อยู่ในห้องน้ำ
“คุณคิมทำไมฉี่นานจังเลย งั้นนน...หนูวางตะกร้าผ้าไว้หน้าห้องน้ำนะฮะ” เด็กก็คือเด็ก...และเสียงหวานๆที่เอ่ยความสงสัยออกไปเมื่อครู่ก็พาลให้คนด้านในจินตนาการเตลิดเปิดเปิงมากขึ้นไปอีก
(ไม่เคยคิดเลยว่า...การเป็นสุภาพบุรุษมันจะทำให้เมื่อยมือได้ขนาดนี้)
10.05 น.
กว่าการปราบฉลามเพชฌฆาตจะสิ้นสุด...ก็ทำให้การทานมื้อเช้าสายมากกว่าทุกวัน แต่จะว่าสายก็คงไม่ใช่เพราะปกติก็ไม่ค่อยได้ทานมื้อเช้าอยู่แล้ว เอาผ้าลงมาปั่นเรียบร้อยและนำอุปกรณ์ในการทำตู้ปลาไปเก็บที่โรงงานเสร็จสรรพ จงอินก็เดินกลับเข้ามาในห้องครัวเพื่อทานอาหารตามที่แฟนเด็กได้สั่งเอาไว้ แต่!!แทนที่จะได้เจอกับอาหารมากมายวางอยู่บนโต๊ะเหมือนอย่างเช่นทุกวัน เขากลับต้องมาเจอแม่ครัวประจำบ้านนอนฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะในเวลาสายแบบนี้
“เจ๊ ๆ ๆ....เป็นอะไร?? ทำไมวันนี้ไม่ทำกับข้าว แล้วมานอนตรงนี้ทำไม!!!!??” สะกิดเรียกพี่ชายต่างแม่ที่นอนหมดสภาพอยู่ในห้องครัวเหมือนคนใกล้ตาย
“กูทำไม่ไหว....ชานยอลแม่งทำการบ้านกูทั้งคืนเลย ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร มึงไปจัดการชานยอลให้กูด้วย กูเหนื่อย กูทำกับข้าวไม่ไหว” ผมเผ้ายุ่งเหยิงในชุดนอนลายมิกกี้เม้าท์เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของน้องชายแบบหมดเปลือกทั้งๆที่ตาเรียวเล็กยังคงปิดสนิท
“อ้าววว....เรื่องผัวเมียผมไม่ยุ่งนะครับบบ ตัวใครตัวมันเลย เอ่อออ ละ...แล้วเจ๊ไปทำอะไรให้ชานยอลมันโกรธล่ะ มันถึงได้จัดชุดสุดคุ้มให้เนี่ย??” ปากบอกไม่ยุ่ง...แต่ความเสือกลึกๆในใจมันก็อยากรู้จนอดถามออกไปไม่ได้ และเพราะตั้งแต่ที่พี่ชายแต่งงานกับชานยอลมันก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เจ๊แบคผู้แสนอึดอดทนต่อทุกสิ่งจะหมดสภาพได้ถึงขนาดนี้
“คุ้มที่หน้ามึงสิจงอิน!!!...กูกำลังจะตาย ไม่รู้แม่งไปเอาแรงมาจากไหนนักหนา เครื่องกูพังหมดแล้วมั้ง!! ไม่ต้องแดกกันเลย...ทั้งข้าวเช้าข้าวเที่ยง!! ถ้ามึงหิวก็ออกไปหาซื้ออะไรมาแดกเองเลย!!! ไม่ทำแล่ว...กับข่งกับข้าว กูทำไม่ไหว!!!!!!” พาลทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเพราะโมโหสามีที่เอาแต่ทำการบ้านจนเกือบรุ่งเช้า ขาแข้งมันสั่นยิ่งกว่าพวกคนเจ้าเข้าทรง มือไม้ก็หมดแรง...แม้แต่จะยกสำลีสักก้อนก็ยังว่าหนัก
“ผมทำกับข้าวเองก็ได้ เดี๋ยวน้องปลาไม่มีอะไรกิน ส่วนเจ๊...เหนื่อยก็ไปนอนที่อื่น นี่มันโต๊ะกินข้าว ไม่ใช่เตียง!!” ใช่ว่าทำอาหารไม่เป็น แต่เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ และหน้าที่ของแต่ละคนก็ได้ถูกคุณพ่อจัดสรรไว้ให้ตั้งแต่เรียนจบ
“กูเพิ่งหนีชานยอลมันลงมาเนี่ยยย!!! มึงจะให้กูขึ้นไปโดนมันจัดชุดใหญ่อีกเหรอไง มึงเป็นน้องกูนะจงอิน หัดเข้าข้างกูบ้าง!!!” ยิ่งกว่าคำว่าพาลก็คือ บยอนแบคฮยอน เพราะหลังจากที่สามีเข้าไปอาบน้ำ คนเป็นภรรยาก็รีบหอบชีวิตที่เหลือแรงอยู่เพียงน้อยนิดเดินลงมานอนพักอยู่ในห้องครัว ก็ว่าจะลงมาทำอาหารเหมือนเช่นทุกวัน แต่สภาพร่างกายมันไม่ไหวจริงๆ
“ใครจะไปรู้ล่ะ?!!!...เจ๊อยากนอนตรงไหนก็นอนไปเลย เอาที่เจ๊ไม่อารมณ์เสีย ส่วนผมจะไปทำกับข้าวให้แฟนกิน!!!” ไม่มีแรงทำกับข้าว...แต่มีแรงขยับปากด่าน้องชายไม่หยุด และเขาก็ไม่อยากยืนเถียงกับคนเจ้าอารณ์เพราะความหิวของน้องปลามันสำคัญกว่าเรื่องของผัวเมียคู่นี้
มือหนา...หยิบกุ้ง หยิบผัก หยิบซอสปรุงรสต่างๆออกมาวางกองรวมกันไว้เพื่อทำข้าวผัดกุ้ง รู้ใจ...ว่าแฟนเด็กชอบกินกุ้งมากที่สุด จงอินจึงคิดว่าจะทำอาหารมื้อนี้ให้สุดฝีมือเพื่อให้สมกับสิ่งที่น้องคอยช่วยจัดห้องและเอาใจใส่กันมาตลอด น้องปลามักใส่ใจทุกรายละเอียดในชีวิตของเขา แม้กระทั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นเรื่องการตัดเล็บน้องก็ไม่เคยลืม สัญญา...ว่าจะทำหน้าที่ตัดเล็บให้ก็ทำ สัญญา...ว่าจะไม่โกหกกันก็ทำได้ สัญญา...ว่าจะเป็นเด็กดีก็ดีจนหลงหัวปักหัวปำ
(แฟนใครทำไม...น่ารักกกกกกกกกก♥)
พ่อครัวจำเป็น...ทำอาหารไปยิ้มไปเพราะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีแฟนทั้งเด็ก ทั้งน่ารักและคอยเอาอกเอาใจอยู่เสมอ ขนาดอยู่ด้วยกันเพียงสามวันต่อสัปดาห์ก็ยังทำให้มีความสุขได้ถึงขนาดนี้ แล้วถ้าได้แต่งงาน ได้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆมันจะยิ่งมีความสุขมากสักแค่ไหน? (หยุด...หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหนนนนน) คนฝันเฟื่อง...ปรุงรสข้าวผัดในกระทะและโรยผักเพื่อเพิ่มสีสันให้อาหารอีกเพียงเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จ มือหนา...ตักชิมรสชาติที่ตั้งใจทำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แล้วใส่จานแบ่งไว้ให้แฟนเด็ก
“ทำอะไรกินวะจงอิน หอมไปถึงข้างบนนู้นนน!” คนต้นเหตุ...ที่ทำให้พี่ชายของเขาต้องหนีลงมานอนหมดสภาพอยู่บนโต๊ะอาหาร เดินเข้าครัวมาพร้อมกับหยิบกุ้งในจานเข้าปากโดยไม่สนใจร่างของภรรยาที่นอนสิ้นสติอยู่ไม่ไกล
“มึงไม่ต้องแดกเลย!! จานนี้ของกูกับน้องปลา ส่วนมึงไปหาซื้อแดกเอาเอง มึงทำให้พี่กูเกือบตาย” รีบดึงจานข้าวผัดออกไปให้พ้นมือของพี่เขยบ้าพลัง เพราะอาหารที่ทำเตรียมไว้มันสำหรับตัวเขากับปลาตัวน้อยสุดที่รักเท่านั้น
“สมควรโดน...แล้วมึงรู้ยังว่างานเลี้ยงรุ่นคืนนี้ พี่มึงกับน้องปลาไม่ได้ไปกับพวกเราแล้วนะ เฮียคริสโทรมาบอกกูเมื่อคืนเพราะพี่อี้ชิงไม่สบาย” ต่างคนต่างคิดเอาไว้ว่าจะพาแฟนและภรรยาไปงานเลี้ยงรุ่นด้วยกัน เพราะการจะได้ไปไหนมาไหนแบบครบทั้งสามคู่ก็เห็นจะเป็นไปยาก ยิ่งคนที่ไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นเลยสักครั้งอย่างคริสก็ยิ่งอยากพาอี้ชิงไปด้วย
“อ้าวววว...อะไรวะ!!! ตกลงกันไว้ว่าจะไปทุกคนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมายกเลิกเอาตอนนี้วะ?!!” เพิ่งจะรู้ก็ตอนนี้...เพราะไม่มีใครบอกอะไรเลยสักคำ แม้แต่น้องปลาที่โดนฟัดจนแก้มช้ำไปเเมื่อเช้าก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด
“กูจะรู้ไหมล่ะ...อยู่ดีๆเฮียคริสก็โทรมาบอกว่าให้ไปเจอกันที่งานเลย ส่วนน้องปลา...พี่อี้ชิงจะมารับกลับบ้านตอนค่ำๆ แล้วที่สภาพเจ๊มึงเป็นแบบนั้นก็เพราะถูกกูทำโทษไง!!! หมั่นไส้นัก!!! บอกว่าอยากไป อยากไป อยากไป สุดท้ายก็ไม่ไป เดี๋ยวกูจะเอาให้เดินไม่ได้เลยคอยดู!!!!”
โครมมมมมม!!!!
“เอาแบคอีกรอบเดียว แบคจะไปหาผัวใหม่จริงๆด้วย!!!” คนสิ้นสติในความคิดของสามี โยนตะกร้าผลไม้ที่มีส้มวางอยู่ 3-4 ใบคว้างใส่กลางวงสนทนาที่กำลังยืนนินทาถึงตัวเขาอยู่ตรงเคาน์เตอร์ห้องครัว แบคฮยอนได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น และจะไม่โมโหเท่านี้เลยถ้าชานยอลไม่พูดว่าจะทำการบ้านอีกรอบทั้งๆที่ตอนนี้ร่างกายของเขามันก็แทบจะพังไปหมดทุกส่วน
“พูดใหม่ดิ่...ใครผัวใหม่?? เดี๋ยวจะเอาให้คลานลงจากเตียงไม่ได้เลย จะลองไหม??!!!” ชี้หน้าคาดโทษ...และทำเสียงเข้มใส่ภรรยาที่ทำหน้าตึงอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับคำขู่อีกสารพัดเพราะรู้สึกไม่ชอบใจกับคำพูดแบบนั้น รู้ดี...ว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อคืนมันดูจะเกินเหตุไปหน่อย แต่การไล่ให้ไปนอนกับหมาหน้าโรงงาน มันยังไม่เจ็บเท่าคำว่าจะไปหาผัวใหม่
“งั้นขออนุญาตเปลี่ยนคำพูด อะแฮ่มมม!!!....ถ้าพี่ชานยอลเอาแบคอีกรอบเดียว แบคจะไปหาผัวเก่าจริงๆด้วยยยยย!!!” แผดเสียงเกินมนุษย์ทั่วไปใส่หน้าสามี และรีบเดินออกจากห้องครัวไปทันทีเพื่อกลับขึ้นไปพักบนชั้นสองของบ้าน แบคฮยอนคิดว่าจะไปนอนที่ห้องของคุณพ่อเพราะต้องการหนีคนบ้าพลังและหื่นกามอย่างปาร์คชานยอล ส่วนเรื่องผัวเก่า-ผัวใหม่ที่เอ่ยออกไปเมื่อครู่มันก็ไม่เคยมีทั้งนั้น แต่ที่พูดออกไปก็เพียงแค่อยากจะเอาชนะบ้าง ถ้าให้สู้ด้วยกำลังเขาก็ไม่เคยชนะสามีได้เลยสักครั้ง
“อยากโดนดีใช่ไหมแบค!!! กลับมาพูดกับพี่ให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้ ใครผัวเก่าผัวใหม่ หึ!!!” รีบวิ่งตามเจ้าของคำพูดที่ทำให้คิดมาก แล้วคว้าตัวเอาไว้พร้อมอุ้มพาดบ่าเดินเข้าห้องนอนไปทันที
ปังงงง!!!!
เสียงปิดประตูห้อง...ที่ดังจนได้ยินไปสามบ้านแปดบ้านมันทำให้จงอินคิดได้ว่าต่อให้พี่ชายของเขาไม่ปฏิเสธการไปงานเลี้ยงรุ่นในค่ำคืนนี้ เจ้าตัวก็คงไปไม่ไหวอยู่ดีเพราะอาจถูกสามีทำโทษจนเดินไม่ได้ และคำพูดที่ยั่วโทสะแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าอยากจะเอาชนะหรืออยากโดนสามีทำการบ้านกันแน่ รู้ดี...ว่าถ้ายั่วถูกจุดมันจะโดนอะไรบ้างแต่ก็ยังทำ พ่อครัวจำเป็น...ได้แต่ส่ายหัวด้วยความเอือมระอากับพฤติกรรมการแสดงความรักแบบแปลกๆของสามีภรรยาคู่นี้
“คุณคิมฮะ คุณคิมมม....พี่ๆเขาทะเลาะอะไรกันเหรอฮะ?? แล้วทำไมพี่ยอลต้องอุ้มบยอนนี่แบบนั้นด้วยล่ะ” วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องครัวตามคำบอกของชานยอล และเพราะรอผ้าอยู่นานก็ไม่มีใครเอาขึ้นมาให้ตากสักที ทำห้องใกล้เสร็จแล้วและเหลือเพียงแค่ดูดฝุ่นเนื่องจากพื้นห้องของคุณคิมมันปูด้วยพรมทั้งหมด แต่ในห้องมันไม่มีเครื่องดูดฝุ่น
คิดไว้...ว่าจะลงมาหาเครื่องดูดฝุ่นที่ชั้นล่างและทำผ้าขึ้นมาตากด้วย แต่!!ยังไม่ทันได้ลงไปถึงไหน เขาก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ชวนให้สงสัย บยอนนี่ของหนูเป็นอะไร?? ทำไมถึงถูกอุ้มมาแบบนั้น?? แล้วทำไมพี่ยอลถึงตาแดงคล้ายกับจะร้องไห้ล่ะ?? แต่ก็ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรนอกจากการถามว่าคุณคิมอยู่ไหน ชานยอลก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องทันที แถมยังปิดประตูจนเสียงดังลั่นบ้านไปหมด
“ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกครับ พี่แบคฮยอนดื้อ...ก็เลยถูกพี่ชานยอลลงโทษ แล้วน้องปลาล่ะครับ? ลงมาที่นี่ทำไม...หิวแล้วเหรอ หื้ม?” หวง...และไม่อยากให้ลงมาข้างล่างด้วยสภาพที่ใส่ชุดนอนแสนล่อตาล่อใจแบบนี้ แต่สุดท้ายสิ่งที่สั่งเอาไว้ก็ไม่เป็นผลเมื่อเด็กน้อยมายืนอยู่ตรงหน้าด้วยสภาพที่น่ารักกว่าเดิม ถึงจะดูมอมแมมไปหน่อย แต่การมัดจุกเปิดหน้าผากด้วยหนังยางสีหวานก็พาลให้ความหวงยิ่งมีมากขึ้น
“ตอนแรกก็ยังไม่หรอกหิวฮะ แต่ตอนนี้หิวแล้วววว” เป้าหมายที่จะลงมาเอาเครื่องดูดฝุ่น...เป็นอันต้องล้มเลิกไปก่อนเมื่อน้องปลาเห็นข้าวผัดที่มีของโปรดอย่างกุ้งตัวโตๆวางอยู่ในจาน
“หิวก็เอาขึ้นไปทานบนห้อง แล้วถ้ายังใส่ชุดนี้...ก็ห้ามลงมาข้างล่างอีกเด็ดขาด ทำห้องเสร็จเมื่อไหร่ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย น้องปลาเข้าใจที่คุณคิมพูดไหมครับ? แล้วถ้าดื้อ...ก็จะโดนแบบบยอนนี่ น้องปลาจะเอาแบบนั้นไหมครับ” ยกถาดอาหารที่มีข้าวผัด น้ำส้มคั้นและผลไม้อย่างองุ่นส่งให้เด็กน้อยก่อนถอดผ้ากันเปื้อนวางลงบนเคาน์เตอร์ห้องครัว ใช่ว่าอยากดุด่าว่ากล่าว แต่การแต่งกายของแฟนเด็กมันไม่ควรจะออกไปไหนทั้งนั้น แม้จะเดินอยู่ในบ้านก็ตามที
“เข้าใจฮะคุณคิม หนูจะไม่ดื้อ แล้วหนูก็อยากได้เครื่องดูดฝุ่นด้วยฮะ หนูก็เลยต้องลงมาถามคุณคิม” รีบบอกเหตุผลก่อนรับมื้อเช้ามาถือไว้ และอดที่จะทำหน้าหงอยไม่ได้เพราะคิดว่าตัวเองถูกคุณคิมโกรธเรื่องที่ดื้อลงมาข้างล่างทั้งๆที่ถูกสั่งห้ามเอาไว้
“เดี๋ยวพี่ทำต่อเองครับ น้องปลารีบกินข้าวให้อิ่ม แล้วก็นอนพักเยอะๆ ส่วนงานที่เหลือ...พี่จะกลับมาทำเอง” อยากตบปากตัวเองให้เลือดอาบ เพราะเหตุผลของแฟนเด็กมันทำให้คนขี้หวงทราบได้ทันทีว่าทุกอย่างน้องทำเพื่อใคร
“โอเคฮะ...คุณคิมก็รีบทำงานให้เสร็จนะฮะ หนูจะรออยู่บนห้องจนกว่าคุณคิมจะมารับ” เดินถือถาดอาหารออกมาจากห้องครัว และขึ้นบันไดกลับไปอยู่ห้องนอนตามเดิมเพราะไม่อยากทำให้คุณคิมอารมณ์เสียเป็นรอบที่สอง ไม่ได้โกรธ...และเข้าใจดีว่าจงอินงานยุ่ง แต่ก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมการแต่งกายของเขามันถึงไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนภายในบ้านได้
เป็นเช้า...ที่มีเรื่องต่างๆมากมายให้ต้องจัดการ งานก็ยังไม่เริ่มทำเลยสักชิ้น งานเลี้ยงรุ่นก็ต้องไป เสื้อผ้าก็ยังไม่เตรียม แถมยังต้องมาทำอาหารทานเองอีก หงุดหงิดกับทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้น...เพราะมันไม่มีอะไรลงตัวเลยสักอย่าง และสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่เป็นอย่างหวัง งานเลี้ยงรุ่นก็ต้องไปโดยไร้คู่ควง พี่ชายต่างแม่ก็เหมือนคนใกล้ตาย แถมพี่อี้ชิงก็ยังจะมารับน้องปลากลับบ้านอีก แทนที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกหนึ่งคืนกลับต้องห่างกันอีกแล้ว และกว่าจะได้นอนกอดความนุ่มนิ่มก็ต้องทนไปอีกหลายวัน เหนื่อยกับการทำงานมาตั้งหลายปีมันยังไม่เหนื่อยเท่ากับเรื่องจุกจิกกวนใจเพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
(เหนื่อยไหมมมมมมมมมม....สิ่งที่เธอทำอยู่!!!!?)
18.02 น.
VROOMM!!
VROOMM!!!
รถสปอร์ตสีแดงเพลิง...กับรถมินิคูเปอร์สีขาวที่ขับตามกันมาไม่ห่าง จอดลงที่หน้าบ้านของหนุ่มผิวเข้มทันทีเมื่อถึงเวลานัดหมาย ตอนแรก...ก็ว่าจะไปเจอกับทุกคนที่งานเลี้ยง แต่ก็เป็นห่วงภรรยาที่ต้องขับรถมารับน้องชายเพียงลำพัง เจ้าของสปอร์ตจึงขับรถตามมาเรื่อยๆเพื่อความสบายใจของตัวเอง มันเหมือนจะย้อนแย้ง...แต่ก็ไม่อยากคิดมากเพราะการที่ภรรยาปฏิเสธการไปงานเลี้ยงรุ่นด้วยสาเหตุของอาการปวดศีรษะ แต่อยากขับรถมารับน้องปลาด้วยเอง ทั้งๆที่คนเป็นสามีอาสาจะรับน้องกลับมาด้วยหลังจบงานเลี้ยง และสุดท้าย...ความย้อนแย้งของภรรยาก็ทำให้สามีต้องขับรถตามมาส่งถึงที่นี่
เรื่องดื้อ...ตกยกให้อี้ชิง และเรื่องการตามใจภรรยาก็ต้องยกให้คริส อยากให้ทานยาแล้วนอนพักอยู่บ้านก็ไม่ยอมและรั้นจะขับรถมารับน้องปลาให้ได้ แล้วใบหน้าหวานๆที่คล้ายจะงอแงพร้อมกับดวงตาที่เริ่มแดงเล็กน้อยก็พาให้คริสใจอ่อนเหมือนขี้ผึ้งรนไฟ อะไรที่ทำให้ภรรยามีความสุขคริสยอมได้ทุกอย่าง แต่อย่าร้องไห้เด็ดขาดเพราะเขาทนไม่ได้จริงๆ อี้ชิงไม่เคยเสียน้ำตาด้วยการกระทำของเขาเลยสักครั้ง แล้วถ้าการขับรถมาน้องปลาที่บ้านหลังนี้มันคือความสุขของภรรยา...คริสก็ต้องยอม
ผู้มาเยือน...ถูกต้อนรับเป็นอย่างดี และถูกเชิญให้เข้ามาในบ้านด้วยคนที่แต่งกายพร้อมแล้วสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในค่ำคืนนี้ ใครจะไปหรือไม่ไปก็ไม่สนใจอีกแล้ว คืนนี้จะเมาให้เต็มที กินได้กิน อ้วกได้อ้วก...อ้วกแล้วก็จะกินเข้าไปอีก และถ้ามีสาวๆมาขอเบอร์...ก็จะแจกให้หมดทุกคน (พี่...เฮิร์ทททททท) ชานยอล...พาอี้ชิงขึ้นมาหาน้องปลาที่ห้องนอนของภรรยาเพราะพวกเขาจะต้องออกไปงานเลี้ยงรุ่นแล้วในตอนนี้
“เชิญพี่อี้ชิงเข้าไปได้เลยครับ...ไม่ต้องเกรงใจ แต่น่าเสียดายนะครับที่พี่อี้ชิงกับน้องปลาไม่ได้ไปงานเลี้ยงรุ่นด้วยกัน”
“พี่ขอโทษด้วยนะชานยอล พอดีพี่ไม่ค่อยสบายก็เลยไปไม่ได้จริงๆ”
ถ้ามีการประกาศรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม...อี้ชิงก็คงต้องขึ้นไปรับรางวัลพร้อมกับช่อดอกไม้ เพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เขาก็ยังต้องแสดงสีหน้าว่าป่วยหรือพูดโกหกไปเรื่อยๆเพื่อให้แผนที่เตรียมการเอาไว้มันไม่สูญเปล่า และเมื่อได้ยินเสียงรถที่ขับออกไปจากบริษัทบ้านปลา แผนการทำเซอร์ไพส์สามีก็ได้เริ่มต้นขึ้น คนเป็นเจ้าของห้องรีบเข้าไปอาบน้ำ ส่วนน้องปลา...ก็ถูกพี่ชายจับแต่งหน้าทำผมให้เหมาะกับการไปร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ อี้ชิงวางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อคืนโดยมีภรรยาของชานยอลสร่วมมือด้วยเพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ไปงานเลี้ยงรุ่นของสามี และงานเลี้ยงรุ่นมันก็มักจะกลายเป็นการสังสรรค์ระหว่างแฟนเก่า เมียเก็บหรือถ้าแย่กว่านั้นก็อาจจะมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่เกิดขึ้น
ใครจะไปยอม...ยิ่งสามีของเขาหล่อเกินมนุษย์ขนาดนั้นก็ยิ่งต้องไปให้เห็นกับตา ใช่ว่าอยากไปจับผิดและรู้สึกดีใจที่คริสจะได้พบกับรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่เขาก็ต้องไปแสดงตัวเช่น ส่วนแบคฮยอนก็เคยไปงานเลี้ยงแบบนี้มาเพียงครั้งเดียวก็เข็ดไปจนวันตาย คนก็เยอะ ป่าเถื่อนกินเหล้าแทนน้ำ มีแต่เสียงเอะอะโวาวาย แถมยังถูกทิ้งเหมือนหมารอเจ้าของแล้วใครมันจะยากไป ถ้าพี่ชายของน้องปลาไม่โทรมาบอกแผน ป่านนี้เขาคงได้นอนกินป๊อปคอร์นดูหนังอยู่หน้าทีวี ขาก็ปวด เอวก็เคล็ด และตั้งแต่ลำคอไล่ลงไปจนถึงช่วงล่างก็มีแต่รอยแดงอยู่ทั่วไปหมด ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดเท่าไหร่มันถึงจะพอ
“ไปงานเลี้ยงรุ่นนะจ๊ะ ไม่ได้ไปงานแซยิด ใส่เสื้อผ้าบ้าบออะไรมิดชิดขนาดนั้น” คนเจ้าแผนการ...อดเหน็บแนมไม่ได้ เพราะเสื้อผ้าที่แบคฮยอนใส่อยู่ตอนนี้มันทั้งแขนยาว แถมเสื้อด้านในก็ยังเป็นสีเข้ม
“ก็เพราะแผนของอี้ชิงนั่นแหละ แบคถึงต้องใส่เสื้อผ้าแบบเนี่ยยย!!!!” หยิบโชคเกอร์มาใส่ที่คอและกำลังกรีดอายไลเนอร์ แต่กลับต้องละมือออกจากดวงตาพร้อมหันหน้ามาแผดเสียงใส่อี้ชิงทันที เพราะถ้าเขาไม่ปฏิเสธการไปงานเลี้ยงรุ่นทั้งๆที่บอกว่าจะไป เขาก็คงไม่โดนสามีกระทำชำเราจนเกือบเช้า แถมยังทิ้งรอยรักสีกุหลาบเอาไว้ทั่วตัวไปหมด
“อ้าววว...เกี่ยวอะไรกับเราด้วยละ!! ทีตอนบอกแผนให้ฟังก็ไม่เห็นบ่นอะไรสักคำ พอตอนจะไปทำมาเป็นบ่น ชิ!!” ละมือจากการแต่งตัวให้น้องชาย และหันไปต่อว่าแบคฮยอนบ้าง เพราะตอนโทรมาขอความช่วยเหลือ เจ้าตัวรีบตกปากรับคำเป็นอย่างดี แต่พอมาตอนนี้กลับโดนโวยวายใส่เสียอย่างนั้น
“.....!!!” จิกสายตาที่กรีดอายไลเนอร์เสร็จเพียงข้างเดียวผ่านกระจกตรงหน้า เพราะไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเถียงกลับ ยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ใครจะไปรู้ว่าการทำตามแผนของอี้ชิงมันจะพาลให้โดนสามีทำการบ้านหนักมากขนาดนี้ และดีที่กินยาเอาไว้แล้ว....ไม่อย่างนั้นคงยังนอนไม่ฟื้น
...
...
...
19.15 น.
“พี่อี้...ชุดมันไม่โป๊เกินไปเหรอฮะ เดี๋ยวพี่คริสจ๋าเห็นแล้วหนูโดนดุ” เป็นสีที่ไม่ชอบยังไม่พอ แถมยังเป็นเสื้อที่ไม่มีแขนและไม่มีเสื้อซับในใส่ไว้อีกชั้นแล้วก็สั้นเกินไป เด็กน้อยลองยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะก็พบว่าเสื้อมันลอยจนเกือบถึงหน้าอก ไม่ชอบอะไรเลยที่อยู่บนร่างกายตอนนี้ ชุดที่คล้ายเสื้อกั๊ก...และเป็นสีดำมีซิปรูดไปจนถึงลูคอพร้อมปักลวดลายด้วยเม็ดคริสตัลแวววาวทั้งตัว และสวมกางเกงยีนส์ขาดช่วงหน้าหน้าจนเผยให้ผิวเนื้อด้านใน รวมถึงใบหน้าก็ต้องแต่งแต้มสิ่งที่ไม่รู้จัก แก้มขาว...เปลี่ยนเป็นสีชมพูเล็กน้อย ขนตา...ก็ถูกของเหลวเหนียวหนืดป้ายจนรู้สึกหนัก ริมฝีปาก...ก็ต้องเติมลิปสติกที่มีสีเล็กน้อย
คนเป็นพี่...แอบนำทุกอย่างมาใส่ไว้ในรถตอนที่สามีเข้าไปอาบน้ำ และต้องทำทุกอย่างด้วยความเร่งรีบโดยไม่ให้มีพิรุธเป็นอันขาด แล้วกว่าจะใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนหลอกให้คริสขับรถตามมาส่งถึงที่นี่ก็ใช่ว่าจะง่าย เหนื่อยแต่ก็ยอมเพราะอยากเห็นว่างานเลี้ยงรุ่นของสามีมันเป็นเช่นไร?? คนเยอะมากเท่าไหร่??? แล้วน้องปลาก็ห้ามบ่นเด็ดขาด!!!!
Rrrrrrrr!!!!
“จ้าาา...พี่คริส”
(น้องอี้ขับรถกลับถึงบ้านหรือยังคะ...พี่เป็นห่วง??)
“เอ่อออ...กำลังจะกลับแล้วครับ พอดีอยู่ทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนแบคฮยอนก่อน”
(พี่ใกล้จะถึงงานเลี้ยงแล้วนะคะ...ถ้าน้องอี้ถึงบ้านเมื่อไหร่ก็รีบโทรกลับมาบอกพี่ด้วยนะคะ ห้ามลืมเด็ดขาด)
“จ้ะ...ไม่ลืมแน่นอนจ้ะ บ๊าย บาย”
(บายครับบบ...คนดี)
ไม่รู้ว่าเป็นห่วง...หรืออยากจับผิดกันแน่ แต่ดูเหมือนจะทราบว่ามีสิ่งผิดปกติ คนเป็นภรรยาจึงรู้สึกร้อนๆหนาวๆหลังจากวางสายได้ไม่นาน มือบางรีบแต่งหน้าแต่งตัวก่อนที่จะถูกสามีจับได้ เพราะถ้าคริสโทรกลับมาอีกครั้งมีหวังแผนที่วางไว้ทั้งหมดคงพังไม่เป็นท่า และเขา...ก็จะโดนทำโทษข้อหาโกหกสามีจนทำให้เป็นห่วง แต่!!ภรรยาก็คือภรรยา เพราะเขารู้ดีว่าการจะได้ลดโทษต้องทำเช่นไร แต่งหน้าอ่อนๆ ทาแป้งเด็กและเติมลิปสติกเล็กน้อยพร้อมฉีดน้ำหอมที่คนรักชอบมากที่สุดมันก็จะกลายเป็นโทษ...ที่ต้องรอลงอาญา
“มั่นหน้าจริงๆ...ทาแค่แป้งเด็ก จืดยิ่งกว่าไก่ดำตุ๋นยาจีน” หมั่นไส้ตั้งแต่ได้ยินพี่ชายของน้องปลารับสายของสามีแล้วพูด จ้ะจ๋า คะขาทำเสียงออดอ้อน ยิ่งเห็นอี้ชิงแต่งหน้าน้อยๆ...ก็ยิ่งน่าหมั้นไส้ คนที่ไม่รู้จักรสชาติของความรักแบบหวานๆอย่างบยอนแบคฮยอนรู้สึกรำคาญในรูหูและเห็นอะไรก็พาลให้ขัดอกขัดใจไปหมด
“ก็พี่คริสไม่ชอบให้แต่งหน้าเยอะหนิ!!” ไม่มีใครรู้ใจสามีได้เท่าภรรยาอีกแล้ว และมันก็เป็นเรื่องจริงเพราะคริสมักจะบ่นทุกครั้งถ้าเขาหยิบอายไลเนอร์สักแท่งมาวาดลงบนขอบตาหรือเติมลิปสติกมากจนเกินไป ยิ่งวันไหนแต่งหน้าเยอะๆ...แล้วออกไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆโดยไม่มีคริสไปด้วย ภรรยาคนนี้...ก็จะถูกงอนไปหลายวัน
“มั่น-หน้า-ทั้ง-ผัว-ทั้ง-เมีย” ยอมรับ...ว่าทำอย่างอี้ชิงไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าให้เขาออกไปข้างนอกโดยไม่ได้เติมเครื่องสำอางหรือไม่ได้ใช้อายไลเนอร์กับดวงตามันจะขาดความมั่นใจไปในทันที และการอยู่แต่ในบ้านกับการสวมชุดนอนตัวโปรดทุกวันก็คือสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องออกไปไหนก็จะไม่ไป แต่ถ้าต้องไป...การแต่งหน้าก็ถือว่าขาดไม่ได้ มือบางหยิบคอนเทคเลนส์และค่อยๆวางเข้าไปในดวงตาทั้งสองข้างก่อนที่ความหมั่นไส้จะพาลให้ไม่ไปงานเลี้ยงรุ่น พร้อมส่งกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง
กว่าจะแต่งตัวกันครบทั้ง 3 คน...ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง และตอนนี้ก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่า ขืนยังชักช้าก็คงอดไปเซอร์ไพรส์สามีแน่นอน คนที่กรีดอายไลเนอร์คมกริบและแต่งหน้าเต็มกว่าใครรีบปิดประตูบ้านล็อคอย่างดีและเข้าไปนั่งในรถสีขาวที่สตาร์ทเครื่องรอพร้อมออกเดินทาง สถานบันเทิง...ที่ใช้จัดงานเลี้ยงรุ่นมันอยู่ไม่ไกลมากนัก ถ้ารถไม่ติดก็น่าจะถึงภายในไม่เกินสามสิบนาที เจ้าของรถ...เหยียบคันเร่งจนทำให้น้องชายที่นั่งอยู่ทางด้านหลังถึงกับออกอาการเกร็งไปทั้งตัวและรู้สึกกลัว แถมยังกังวลเรื่องของเสื้อผ้าที่มันดูวาบหวิวเกินไปสำหรับเขา
“พี่อี้...หนูไม่อยากไปงานแล้วฮะ หนูกลัวพี่คริสจ๋าดุ แล้วก็ช่วยขับรถช้าๆหน่อยได้ไหมฮะ?!!” อดกลั้นมาได้สักพักจนเริ่มทนต่อไปไม่ไหว...และต้องเอ่ยเตือนออกไปเพราะตอนนี้พี่ชายของเขาขับรถเร็วขึ้นกว่าเดิมโดยมีแบคฮยอนคอยบอกเส้นทาง
“ใกล้จะถึงแล้วครับน้องปลา...อดทนอีกนิดนึงนะครับ แล้วถ้ารถคว่ำก็คงตายกันหมดทั้งคันนั่นแหละ!!!!” คนที่โดยสารอยู่ตรงเบาะด้านหน้าข้างกับคนขับรีบหันมาพูดให้กำลังใจเด็กน้อยคนโปรด แต่ก็อดที่จะค่อนแคะเจ้าของรถไม่ได้เพราะเขาก็รู้สึกเกร็งจนต้องกำมือแน่นไว้ที่เข็มขัดนิรภัย
“แต่หนูกลัวหนิฮะ ชุดมันโป๊ เดี๋ยวพี่คริสจ๋าดุนะฮะ” หน้างอเป็นรอบที่ร้อยของวัน เพราะตั้งแต่เช้า...เจ้าตัวก็งอนคุณคิมไปหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เรื่องห้องรกและอีกสารพัดเรื่อง แล้วตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่พอใจเรื่องของเสื้อผ้าที่มันดูไม่เหมาะกับตัวเองเลยสักนิด
“ไม่ดุหรอก...เชื่อพี่เถอะ ถ้าจงอินมันเห็นน้องปลาใส่ชุดนี้นะ มันต้องชอบมากแน่ๆ แล้วถ้าพี่คริสดุเมื่อไหร่ให้รีบมาฟ้องบยอนนี่ได้เลย เดี๋ยวบยอนนี่จะไปจัดการเอง!!” พูดไม่เกรงใจคนเป็นภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่...แบคฮยอนก็เป็นคนลุยกับทุกเรื่องเสมอและไม่เคยสนใจว่าใครจะเป็นน้อง เป็นเมียหรือเป็นญาติฝ่ายไหนทั้งสิ้น ผิดก็ว่าไปตามผิดและไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่หรือคนชรา ถ้าทำผิดและไร้ซึ่งเหตุผลที่ดี เขาก็จะพูดไปตรงๆโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น
ใช้เวลา 25 นาที...ทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย แม้คนขับจะโดนบ่นมาตลอดทางก็ตามที แต่ก็ยังดีกว่ามาไม่ทัน และตอนนี้...ต่างคนต่างก็ยืนจัดความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ และเมื่อทุกอย่างพร้อม...คนเป็นพี่ก็เดินจูงมือน้องชายสุดที่รักเข้ามาด้านในโดยมีแบคฮยอนคอยให้ความช่วยเหลือ ไม่มีการ์ดเชิญก็ใช่ว่าจะมีปัญหา อายุไม่ถึงเกณฑ์...ก็ยังไม่ใช่ปัญหาอยู่ดีเพราะแค่เอ่ยชื่อปาร์คชานยอล เดือนคณะแห่งวิศวะฯ รุ่นที่XX....ปัญหาทุกอย่างมันก็ถูกคลี่คลาย
Bora Bora PUB
21.05 น.
สถานบันเทิง...ที่ทางหน้าร้านเปิดให้บริการตามปกติ แต่ทางด้านหลังทั้งหมดใช้เป็นพื้นส่วนตัวเพื่อจัดงานเลี้ยงรุ่นของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และงานเลี้ยงรุ่นคืนนี้...กับงานเลี้ยงสายรหัสมันก็จะต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะทุกรุ่นของคณะวิศวะฯ...ทั้งที่เรียนจบไปนานแล้วหรือเพิ่งเรียนจบก็สามารถเข้ามาร่วมงานนี้ได้ทุกคน แต่งานเลี้ยงสายรหัส...มันจะเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องที่เป็นสายหรัสกันเท่านั้น ซึ่งทุกคนก็รู้จักกันดี และผู้ที่ไม่เคยมางานเลี้ยงรุ่นเลยสักครั้งอย่างอู๋อี้ฟานก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกเสียอย่างนั้นเนื่องจากไม่คุ้นหน้าคุ้นตาใครสักคน ไหนรุ่นน้อง ใครรุ่นพี่ แถมเจ้าตัวก็เคยมางานเลี้ยงสายรหัสเพียงแค่ครั้งเดียว
ขาวยาวสมส่วน ร่างสูงใหญ่...และดูเหมือนชาวต่างชาติมันทำให้ดูสะดุดตาคนในงานนี้ได้ไม่ยาก ใครที่ยังพอจำหน้ากันได้ก็เดินเข้ามาทักทายด้วยความเคารพถ้าผู้นั้นเป็นรุ่นน้อง แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียกันก็เพียงแค่ชนแก้วแล้วดื่มให้หมดภายในครั้งเดียว คาสโน่ว่าประจำคณะผู้โด่งดังในรุ่นXX เริ่มมีรุ่นพี่รุ่นน้องเข้ามาทักทายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายก็สามารถลบความทรงจำของเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี มีแฟนตอนไหน?? แต่งงานเมื่อไหร่?? ก็เหมือนจะเป็นความลับไปเสียหมด...เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนทราบข่าวเลยสักคน
ยกเว้น.......
“ไงคริสอู๋...ทำไมทำหน้าแบบนั้น กูจัดงานไม่สนุกเหรอไงวะ?” โจอินซอง สายรหัสรุ่นใหญ่เจ้าของสถานบันเทิงรวมไปถึงผู้จัดงานทั้งหมด เอ่ยทักรุ่นน้องที่กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับ
“สนุกครับป๋า...แต่ผมกำลังรอโทรศัพท์เมียอยู่ครับ ตอนแรกว่าจะมางานนี้ด้วยกัน แต่พอดีป่วยซะก่อน” สองทุ่มครึ่งก็แล้ว สามทุ่มครึ่งก็แล้ว...แต่ภรรยาสุดที่รักยังไม่โทรกลับมาสักที ทำอะไร?? อยู่ที่ไหน?? หรือเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้วใช่หรือเปล่า?? โทรไปหาก็ไม่มีใครรับสาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไร งานสนุกมาก...คริสยอมรับ แต่ความกังวลก็มีมากจนไม่อยากอยู่ต่อ
“ป่านนี้หลับไปแล้วม้างงง...หรือว่ามึงอยากกลับบ้านไปหาเมีย เดี๋ยวกูเดินออกไปส่ง?” ตบบ่ารุ่นน้องสายรหัสเดียวกันอย่างรู้สึกเข้าอกเข้าใจ เพราะถ้าภรรยาของตัวเองป่วยบ้าง อินซองก็คงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรครับป๋า นานๆเจอกันที...แล้วเมียผมก็ไม่ได้ป่วยอะไรมากมาย” กลัวงานเลี้ยงจะหมดสนุกทั้งๆที่เป็นห่วงภรรยาใจจะขาด เพราะถึงใครจะป่วยหรือสบายดี เขาก็ไม่เคยทิ้งให้อี้ชิงกับน้องปลาอยู่บ้านโดยไม่มีเขา
“งั้นก็ไปดื่มต่อดิ...ไป ๆ ๆ ๆ ๆ” เมื่อสิ้นคำปฏิเสธ...คนเป็นรุ่นพี่ก็รีบพารุ่นน้องเข้ามารวมกลุ่มรวมแก๊งค์ชนแก้วเหล้ากันต่อทันที แต่!!ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไปไหนหรือยกเครื่องดื่มเข้าปากเลยสักแก้ว คนเป็นรุ่นน้องก็ถูกมือเรียวสวยดึงรั้งไว้เสียก่อน
เพราะ.......
“น้องอี้!!! น้องปลา!!! มาได้ยังไงค่ะ?” วางแก้วเหล้าแทบไม่ทันเมื่อเห็นภรรยาสุดที่รักมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับน้องเมียที่คืนนี้แต่งตัวได้น่าหยิกที่สุด หวงทุกอย่าง หวงทุกคนและอยากกลับบ้านแล้วในตอนนี้เพราะทุกสายตามันต่างจับจ้องมาที่น้องปลากันหมด...และไม่เว้นแม้แต่ภรรยาของเขา
“เซอร์ไพรส์ไหมครับพี่คริส” คนเป็นพี่...ส่งยิ้มหวานให้สามีพร้อมกล่าวทักทายและโอบกอดเอวหนาเอาไว้ด้วยความคิดถึง ส่วนคนเป็นน้อง...กลับก้มหน้างุดเพราะรู้สึกกลัวผู้คนในงานที่เอาแต่จ้องมองเหมือนเขาตัวประหลาด
ฟอดดดดดด!!!
“กลับบ้านไปโดนดีแน่ๆคุณอู๋อี้ชิง...แล้วมาที่นี่ได้ยังไง หื้ม?” อดไม่ได้...ที่จะก้มกายลงไปหอมแก้มนุ่มด้วยความเป็นห่วง และเกรงว่าคนในอ้อมกอดจะไข้กลับเพราะในสถานบังเทิงมันมีแต่กลิ่นบุหรี่และอากาศก็ไม่ค่อยถ่ายเท คริสจึงเป็นห่วงสุขภาพของภรรยาที่กำลังป่วย โดยหารู้ไม่...ว่าไม่มีใครเป็นอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างคืออาการร้อยเล่มเกวียนที่อี้ชิงแสร้งทำเพื่อตบตาสามี
จุ้บบบบ!!
“แบคเป็นคนพามาครับ แต่ตอนนี้แบคเดินไปหาชานยอลแล้ว น้องอี้ก็ตามหาพี่คริสตั้งนานกว่าจะเจอ” หอมมาก็จูบตอบกลับ เพราะรู้สึกไม่ชอบใจสายตาของผู้คนที่อยู่ในงานนี้ มองเหมือนอยากจะได้ มองเหมือนอยากมีเรื่อง มองเหมือนมีคำถาม แต่...ก็คงทำได้แค่มอง ภรรยาสุดที่รักคนนี้มาแล้ว คนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด (จำไว้!!)
“แต่งตัวแบบนี้...อยากโดนพี่ทำโทษหรือไง หื้มม?” แต่งหน้าอ่อนๆยังพออภัย...แต่การสวมเสื้อกล้ามสีดำที่คว้านคอลึกไปถึงไหนต่อไหนมันพาลให้มือหนาต้องกระชับเอวคอดแน่นขึ้นแล้วบีบด้วยแรงของความมันเขี้ยว ยอมรับว่าเซอร์ไพส์กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เซอร์ไพส์กว่าคือการแต่งกายของภรรยา ไม่หวงตอนนี้จะไปหวงตอนไหน เด็กคณะวิศวะฯก็มีแต่พวกป่าเถื่อนบ้ากาม...แล้วถ้าใครกล้ามองเมียของเขาก็อยากจับมาควักลูกตาออกให้หมด
“ครับบบ!...น้องอี้อยากโดนพี่คริสทำโทษ” ยกแขนทั้งสองข้าง...ขึ้นมาคล้องคอสามีเอาไว้พร้อมส่งสายตาหวานอย่างสื่อความหมายก่อนกระซิบความต้องการจนทำให้คนฟังอยากขย่ำคนในอ้อมกอดในจมอก
เจ้าของผับอย่างอินซอง...ได้แต่ยิ้มตามไปกับภาพที่เห็น และก็เพิ่งเคยเห็นภรรยาของรุ่นน้องเป็นครั้งแรกเช่นกัน ได้การ์ดเชิญให้ไปงานแต่งงานก็จริง แต่ก็ไม่สามารถไปร่วมงานได้เพราะติดธุระและได้แต่ส่งของขวัญไปให้เท่านั้น คาสโน่ว่า...แห่งคณะวิศวะฯรุุ่นXX คงสิ้นลายแล้วจริงๆ?? อินซองเข้าใจแล้วว่าทำไมคริสถึงดูเป็นกังวลตลอดเวลาและเหมือนจะไม่สนุกไปกับงานเลี้ยง มีเมียน่ารักขนาดนี้...ถึงได้เป็นหวงจนไม่เป็นอันดื่ม สติอยู่แก้วเหล้า แต่ก็มองนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา แถมยังหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเก็บเข้าที่เดิมนับครั้งไม่ถ้วน การมีภรรยาที่ดี...มันทำให้รุ่นน้องเปลี่ยนไปได้มากจริงๆ
ส่วนคนที่ภรรยาของรุ่นน้องพามาด้วย..ก็น่ารักไม่แพ้กัน ปากนิด จมูกหน่อย แก้มกลมๆดูน่ารักไปอีกแบบ แต่!!เหมือนน้องจะไม่ชอบมางานแบบนี้ เพราะเจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้าและเกาะแขนคนเป็นพี่เขยเอาไว้ตลอดเวลา ทั้งเมีย...ทั้งน้องเมียทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้ อินซองพยายามเบนสายตาไปทางอื่นก่อนที่จะถูกรุ่นน้องหมดความเคารพและนับถือ แต่...เบนสายตาไปเพียงครู่เดียว คนน่ารักอีกหนึ่งคนก็วิ่งตรงมาหาพวกเขาแล้วรีบดึงตัวน้องเมียของคริสไปต่อหน้าต่อตา
(คนน่ารัก...มักใจร้ายยยยย!!!)
“น้องปลาาาาา...พี่เจอจงอินแล้วนะ มันอยู่ตรงนู้นนนนน ไปกัน...พี่พาไป” ได้แต่ยืนนิ่ง...เพราะไม่รู้จะทำอะไร และงานแบบนี้ก็ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน กลิ่นบุหรี่ก็เหม็น คนก็เยอะ เดินเบียดกันไปมา แถมยังมืดไปหมด เพลงก็เปิดดังจนหูจะแตก ไม่มีอะไรสนุกสำหรับเด็กอย่างเขาเลยสักอย่าง
และตอนนี้...ความไม่สนุกก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อน้องปลาถูกพี่ชายคนโปรดเดินจูงมือมาพบคนที่เขาคิดถึง แต่!!คนคนนั้นกลับนั่งคุยอยู่กับหญิงสาวที่เป็น "แฟนเก่า" เด็กน้อยยืนมองรอยยิ้มของคุณคิมที่มอบให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะเอ่ย ทุกๆอารมณ์...มันตีรวนจนไม่อาจแยกว่ากำลังรู้สึกเช่นไร โกรธ หงุดหงิดหรือเสียใจ ส่วนผู้ที่พามาพบกับภาพบาดตาอย่างแบคฮยอนก็พยายามปลอบขวัญเด็กน้อยโดยการลูบหลังเบาๆ และกล่าวเตือนสติก่อนที่ความคิดของเด็กจะเตลิดไปไกลกว่าความเป็นจริง ยอมรับว่าอยากให้น้องปลาจัดการกับเรื่องนี้ให้เด็ดขาดและอยากให้มาเห็นด้วยตาตัวเองก่อนที่เรื่องนี้จะถูกพูดกันปากต่อปากหรือต่อเติมใส่สีจนเกินงาม
“บยอนนี่ไปหาพี่ยอลเถอะฮะ...หนูไม่เป็นไร” ยิ้มร้าย...ใส่ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า และเอ่ยให้พี่ชายคนโปรดรีบไปตามหาสามีให้พบและอย่าให้ไปพบ...อย่างที่เขากำลังเจออยู่ในตอนนี้
“สู้ๆนะครับน้องปลา...” รู้ฤทธิ์ทราบเดชของเด็กน้อยเป็นอย่างดีและหวังว่าน้อปลาจะเคลียร์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เรื่องของความรักบางครั้งก็ต้องใช้ความอดทนมากๆกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และบางครั้ง...ก็ต้องให้อภัยกันแม้มันจะยากก็ตามที แต่เมื่อสุดจะให้อภัยมันก็ถึงคราวที่ต้องจากไป
ขาเรียว...ในยีนส์ที่ขาดจนเผยให้เห็นผิวเนื้อเนียน ก้าวฉับๆเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ทันที และพยายามควบคุมสติรวมถึงจิตใจให้เป็นปกติเพราะไม่อยากทำตัวไม่น่ารักเหมือนที่คุณคิมเคยเตือนเอาไว้ ไม่น่ารักสำหรับนอื่น...น้องปลาไม่เคยสน แต่ต้องน่ารักสำหรับหนุ่มผิวเข้มคนนี้เท่านั้น และเมื่อคิดว่าสามารถควบอารมณ์ได้ดีแล้ว เด็กน้อยก็รีบเดินเข้าไปแทรกกลางวงสนทนาแล้วโอบกอดเอวหนาเอาไว้ด้วยความหวงก่อนประทับรอยจูบลงบนสันกรามคมอย่างออดอ้อน
จุ๊บบ!!
จุ๊บบ!!
จุ๊บบ!!
“หนูมาแล้ววววว...คุณคิมคิดถึงหนูไหมฮะ?”
“น้องปลา!!! มาได้ยังไงครับ แล้วมากับใคร?”
รีบวางแก้วเครื่องดื่มลงบนเคาน์เตอร์...และกอดตอบปลาตัวน้อยทันทีโดยที่ยังมีความสงสัยว่าน้องมากับใคร?? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?? แล้วเข้ามาในสถานบันเทิงแบบนี้ได้อย่างไร?? เด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์...มันทำให้จงอินเกิดคำถาม แต่ไหนไหนน้องก็มาแล้ว ความหวังที่เขาจะพาแฟนเด็กไปแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักก็เป็นผล เสียความรู้สึกมาทั้งวันเมื่อรู้ว่าน้องปลาไม่สามารถมาร่วมงานกับเขาได้เพราะพี่ชายป่วยกะทันหัน และสุดท้ายน้องมาเซอร์ไพส์เขาถึงที่นี่ แต่....
“โอ๊ะ!!...สวัสดีฮะ คุณมินะ ขอโทษนะฮะ พอดีหนูเพิ่งเห็น” คิดว่าเตรียมใจมาดีแล้ว...แต่มันก็อดไม่ได้ก็เลยทำตัวไม่น่ารักอยู่ดี ใครจะไปทนไหวเมื่อเห็นแฟนของตัวเองนั่งคุยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับแฟนเก่า บอกแล้ว...ว่าไม่น่ารักสำหรับคนอื่นน้องปลาไม่สน แต่ต้องน่ารักสำหรับคุนคิมเท่านั้น ร่างน้อยๆ...เหยียบขาเก้าอี้แล้วหย่อนก้นลงบนตักของจงอินพร้อมส่งยิ้มให้หญิงสาวที่เหมือนจะทำหน้าไม่ถูก จะยิ้มตอบ...ก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ จะเอ่ยทักทาย...ก็เกรงว่าจะได้ยินการตอบรับที่ไม่น่าฟัง
“น้องปลาาา...คร้าบบบ” และผู้ที่ทำทั้งหน้าและทำตัวไม่ถูกอีกคนก็คือคิมจงอิน มันเหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยและรอยในครั้งนี้มันก็เป็นเหตุบังเอิญอีกเช่นกัน ใช่ว่าไม่รู้...ว่างานเลี้ยงรุ่นมันอาจทำให้เขาได้มาพบกับแฟนเก่าอีกครั้ง ถึงอยากจะหลีกเลี่ยง แต่ก็หลีกได้ไม่ได้เพราะเรียนอยู่คณะเดียวกัน จะให้หนีหน้าทั้งๆที่เห็นอยู่กับตาก็คงเป็นการเสียมารยาท และเขาก็บริสุทธิ์ใจเกินจะหลีกหนี
“คุณมินะคุยอะไรกับ คุณคิม ของหนูเหรอฮะ...ถ้าไม่สำคัญมาก หนูขอคนของหนูคืนนะฮะ ลาก่อนนน!!!” พยายามฉีกปากส่งร้อยยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่กลับไม่รอคำตอบ หรือการกล่าวลาของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย มือบางจูงแฟนของตัวเองเดินออกมาให้พ้นจากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ด้วยความหงุดหงิด เพราะคิดว่าคุณคิมผิดสัญญาที่เคยพูดเอาไว้
ไหนว่า...จะไม่ติดต่อ ไหนว่า...จะไม่เจอกันอีก ไหนว่า...จะไม่หลอกกันนนนนนนน!!!!
จากคนถูกจูง...ก็เปลี่ยนมาเป็นประสานมือของน้องปลาเอาไว้แล้วพาเดินเข้ามาในโซนของปาร์ตี้โฟม ซึ่งส่วนนี้...ก็ปิดให้บริการเช่นกันและไม่ได้อยู่ในส่วนของงานเลี้ยงรุ่น ตอนนี้บนโซฟาด้านหน้าสระน้ำขนาดย่อมกำลังกลายเป็นสถานที่ที่คนสองคนใช้ยุติความขัดแย้ง ความเข้าใจผิดและสานต่อความรักความเชื่อใจให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ผิด...ก็จะง้อ ไม่น่ารัก...ไม่ก็ไม่เป็นไร และถ้าแฟนเด็กคนนี้ยังไม่หายโกรธ...คุณคิมก็จะง้อไปตลอดชีวิต
“น้องปลาครับ...เงยหน้าขึ้นมาคุยกับพี่ก่อนได้ไหม?” กอดคนแสนงอนเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน แต่เด็กน้อยกลับก้มหน้างุดและสายหัวไปมาเป็นคำตอบ
“ฮึกก!!!...ฮึกกกก!!” เสียใจ...จนไม่สามารถเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้อีกแล้ว พยายามอดทน พยายามเข้าใจ พยายามจะเป็นเด็กดี แต่หัวใจของเขามันไม่แข็งแรงพอ
“.........!!!!?” แรงสั่นไหวจากคนในอ้อมกอดพร้อมเสียงสะอื้นเพียงแผ่วเบาทำให้จงอินรู้สึกตกใจและรีบคลายอ้อมแขนทันที มือหนา...เชยคางมนแล้วใช้นิ้วโป่งเกลี่ยความเศร้าโศกออกจากใบหน้าจิ้มลิ้ม
ขอโทษที่ทำให้เสียน้ำตา...ขอโทษที่ทำให้เสียใจและขอโทษที่ทำให้หัวใจดวงน้อยๆต้องเจ็บปวด
“คุณคิม...ผิด ฮึกก!! สัญญากับหนู ฮึก!..คุณคิมใจร้ายที่สุดเลย”
“ไม่ร้องนะครับเด็กดีของคุณคิม...เดี๋ยวหน้าเลอะหมด แล้ววันนี้ใครแต่งตัวแต่งหน้าให้เอ่ย น่ารักมากๆเลยรู้ไหม คุณคิมชอบมากๆ”
“คุณคิมโกหก!! ฮึกก!...หนูไม่เชื่อ ฮึกกก!!!”
“เป็นแฟนกัน...ห้ามโกหก ห้ามผิดสัญญา แล้วพี่ก็ไม่เคยทำอย่างนั้นด้วย น้องปลาฟังพี่ก่อนนะครับ...ใจเย็นๆก่อน มินะกับพี่...เป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน แล้วคืนนี้เธอก็ต้องมางานเลี้ยงรุ่นเหมือนกับคุณคิม พี่คริสแล้วก็พี่ยอล พี่ไม่ได้นัดมินะมาเป็นการส่วนตัว แล้วก็ไม่ได้คุยอะไรกับเธอเป็นพิเศษ พี่ขอโทษที่ทำให้น้องปลาเสียใจ แต่พี่ไม่ได้ทำผิดสัญญานะครับ”
“พูดจริงนะ!! อย่าหลอกหนูนะ!!!...ถ้าโกหก...หนูจะฟ้องพี่คริสจ๋า ฟ้องบยอนนี่ แล้วก็จะไม่ตัดเล็บให้คุณคิมอีกเลย”
ฟอดด!!!
เหมือนหาหลักประกันให้ชีวิต...โดยที่ไม่รู้เลยว่าการพูดจาแบบนั้นมันทำให้เจ้าตัวน่ารักมากแค่ไหน ไม่มีคนตัดเล็บให้...ก็ถือว่าหมดความใส่ใจไปแล้ว แต่การถูกหอมแก้มหลังจากคำขู่เมื่อครู่ก็พาให้คุณคิมอยากจับเด็กขี้อ้อนฟัดให้จมโซฟา ถ้าตอนนี้อยู่ที่ห้องหรืออยู่ที่บ้าน ป่านนี้น้องปลาก็คงช้ำไปทั้งตัว รู้ว่าหวง รู้ว่ารัก รู้ว่าช่างเอาอกเอาใจ แล้วแบบนี้...จงอินจะไม่รักได้เช่นไร น้องปลาก็ยังเป็นน้องปลาไม่เคยเปลี่ยนแปลง โกรธ...แต่ก็ยังกอดไว้ เสียใจ...แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือ น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้วสำหรับคิมจงอิน
เมื่อปรับความเข้าใจกันเรียบร้อย...จงอินก็พาน้องปลากลับเข้ามาในงานเลี้ยงอีกครั้งพร้อมกับหาเครื่องดื่มมาให้ทาน ใครเดินเข้ามาสูบบุหรี่ใกล้ๆ...ก็ไล่ออกไป ใครมาขอชนแก้ว...ก็รีบเอาตัวเข้าไปขวางเอาไว้ ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดสั้นที่พาแฟนเด็กมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก มือหนา...โอบเอวคอดขาวเนียนที่โผล่พ้นเสื้อสีเข้มเอาไว้ด้วยความหวงแหนพร้อมกระชับเข้าหาตัวเพื่อกันไม่ให้ใครมาเดินชนหรือมองเห็นหน้าท้องแบนราบของน้องปลา อยากมีแฟนเด็ก...และเป็นเด็กที่มีอายุเพียง 16 ปีมันก็เลยทำให้จงอินเหมือนเป็นคนบ้าอยู่ในตอนนี้ สายตาหื่นๆของคนในคณะ ในงาน ในความคิดมันพาลให้หงุดหงิดไปหมดและการที่เด็กน้อยถูกพวกป่าเถื่อนจ้องเหมือนจะกลื่นกินก็ใช่ว่าคนอย่างเขาจะทนได้นาน
"ไอ้สัด......!!!!!!!!!"
เหมือนฆ่าเพื่อนให้ตายทางอ้อม...เมื่อปากหยักป้อนจูบให้เด็กน้อยในอ้อมกอดด้วยความหึงหวงเพราะน้องปลาเริ่มส่งยิ้มให้เพื่อนๆของเขา และไม่ค่อยหวาดกลัวคนในงานเลี้ยงรุ่นอย่างในตอนแรก แค่สนิทกับลูกน้องโรงงาน จงอินก็แทบจะบ้าตาย แล้วถ้าน้องจะมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีขนาดนี้ อีกหน่อย...คงต้องจับขังไว้ในห้องไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน
“อื้มมม!!...คุณคิม???!” โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัว และได้แต่ก้มหน้าคางชิดอกเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“กลับบ้านกันเถอะครับน้องปลา” ยักคิ้วใส่เพื่อน...ก่อนพาคนในอ้อมกอดเดินออกมาจากงานเลี้ยง เพราะขืนอยู่นานกว่านี้อาจมีการวางมวยเกิดขึ้นโทษฐานลวนลามแฟนเด็กของเขาทางสายตา
(มีเมียเด็ก...ตามสเป็คต้องการ แต่น่ารำคาญเพราะมีพวกมารคอยจ้องงงงงงงง!!!)
23.10 น.
ติ๊ดด!!
“โอ๊ยย!!!...เป็นบ้าอะไรเนี่ยยยย ทำไมไม่รับสายสักทีวะ??!”
กดวางสาย...และรู้สึกหงุดหงิดเพราะโทรหาสามีมาเป็นร้อยร้อยครั้งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมรับสาย คนเป็นภรรยาเดินตามหาสามีจนทั่วงานก็ยังไม่เจอและเรื่องเซอร์ไพส์ก็เป็นอันต้องล้มเลิกแผน ขาก็ล้า เอวก็ปวดและเหนื่อยแสนเหนื่อยกับการเดินตามหาคนรัก งานเลี้ยงรุ่นของสามี...มันไม่เคยสนุกสำหรับเขาเลยสักครั้ง ขาเรียวในกางเกงสกินนี่สีเข้มเดินเข้าไปในห้องน้ำและคิดว่าเมื่อทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็จะไปหาพี่ชายของน้องปลาอีกครั้งเพื่อขอยืมรถขับกลับบ้าน
ปึ่กก!!!!
“ขอโทษครับ ขอโทษ เป็นอะไรมากไหมครับ” เอวบาง...ถูกมือชายแปลกหน้าโอบเอาไว้ เพราะเจ้าตัวเอาแต่มองสมาร์ทโฟนในมือจนไม่ทันเห็นผู้ที่เดินสวนออกมา
“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะที่ช่วย” ยอมรับ...ว่าถ้าไม่ถูกคว้าร่างเอาไว้ ป่านนี้คงล้มหงายหลังก้นกระแทกไปกับพื้นปูน แต่การที่เอวของเขาถูกผู้ชายคนนี้ลูบไล้เบาๆมันก็พาลให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที จากที่หงุดหงิดเรื่องของสามีอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งเหมือนจะหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเจอคนแบบนี้
“คุณนั่นเอง!!!...ผมเห็นคุณเดินไปเดินมาในงานหลายรอบแล้ว หาใครอยู่หรือเปล่าครับ?? เผื่อผมอาจรู้จักก็ได้นะ ผมจุนฮงครับ ชเวจุนฮง คุณ....” แนะนำตัวเองเสร็จสรรพและเหมือนจะหวังดีในเรื่องที่จะช่วยตามหาใครสักคน แต่...กิริยา ท่าทาง คำพูด รวมถึงการกระทำเมื่อครู่มันก็เป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะสื่อถึงเรื่องใด
“ขอบคุณ...แต่ไม่จำเป็น!! แล้วก็กรุณาหลีกทางด้วย ผมปวดเยี่ยว!!” บอกแล้ว...ว่าคนอย่างบยอนแบคฮยอนไม่เคยไว้หน้าใครทั้งนั้น หล่อมาจากไหน รวยมากเท่าใด หญิง ชาย เด็ก คนแก่...เขาก็ไม่สนทั้งนั้น ดีมาดีไป มีมารยาทก็จะได้มารยาทที่ดีตอบกลับ กายบาง...เดินเบี่ยงให้พ้นจากชายแปลกหน้าเพื่อจะเข้าไปทำธุระส่วนตัว แต่....
“ผมรู้จักคนในงานเยอะนะครับ...คุณบอกผมมาได้เลยว่าคุณกำลังตามหาใครอยู่??” ยังไม่ลดละในความเสียมารยาท เพราะการคว้ามือของแบคฮยอนเอาไว้จนร่างเล็กปะทะเข้าแผ่นอก พร้อมถูกโอบกายเอาไว้ในอ้อมแขนมันทำให้คนถูกล่วงเกินหมดความอดทน
“มาตามหา ผัว ชื่อปาร์คชานยอล ได้ยินชัดพอไหม!!! แล้วมึงก็ดูมือกูด้วย มึงเห็นแหวนมั้ยยย?? แหกตาดู!!!” สะบัดกายให้หลุดออกจากการถูกกอด และชูนิ้วนางข้างซ้ายให้ชายแปลกหน้าเห็นชัดๆ พร้อมเอ่ยทุกคำพูดด้วยเสียงที่ดังเกินมาตรฐานของมนุษย์ทั่วไป
ปั้งงงงง!!!!!!!
ยังไม่มีใคร...ได้ตอบโต้หรือกล่าวสิ่งใดออกไปสักประโยค เสียงเปิดประตูห้องน้ำด้วยแรงที่เหมือนจะทำให้ทะลุออกไปอีกฝั่งก็ดังขึ้นเสียก่อน ทุกคำพูด ทุกเสียง ทุกถ้อยคำ...มันทำให้คนที่กินเหล้าย้อมใจมาตลอดทั้งคืนอดไม่ได้ที่จะแสดงตัว และชายร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้านในก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้คนที่ถูกฉวยโอกาสได้เป็นอย่างดี แบคฮยอนรีบเข้าไปกอดสามีเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยมากขึ้น
ชานยอล...ก้มกายหอมกลุ่มผมสีอ่อนด้วยความเป็นห่วง และถึงแม้จะดื่มไปหลายแก้วแต่ก็ไม่ได้มีผลต่อสติ คำว่า “มาตามหาผัว” พร้อมการเอ่ยนามให้ได้ยินด้วยเสียงที่ดังฟังชัดมันทำให้คนที่ปลดทุกข์อยู่ในห้องน้ำถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข นั่งน้อยใจภรรยาอยู่นานสองนาน...และที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ก็เป็นเพราะความน้อยใจบ้าๆบอๆของตัวเอง ดีเท่าไหร่แล้วที่งานนี้มันคืองานเลี้ยงรุ่น เพราะถ้ามันไม่ใช่ แบคฮยอนอาจถูกล่วงเกินมากไปกว่านี้
“มึงเป็นเด็กรุ่นไหน!!!? ปีอะไร!!!? ใครเป็นสายรหัส!!!?” ถามเสียงดังฟังชัดตามแบบฉบับของเด็กวิศวะฯ แต่...ความดุดันและความหนักแน่นของเสียงต้องคูณเข้าไปอีกสิบเท่าตามระดับของความหวงเมีย
ไม่ใช่แค่ผู้ที่ถูกถามเท่านั้นที่รู้สึกกลัว...เพราะตอนนี้คนในอ้อมกอดของสามีก็รู้สึกกลัวไม่ต่างกัน ตั้งแต่เรียนจบและแต่งงานมีครอบครัว แบคฮยอนก็มักจะเห็นชานยอลในรูปแบบที่รักทุกสิ่งในโลกนี้อย่างอ่อนโยน หมา แมว แมลง จนกระทั่งถึงมดตัวเล็กๆก็ยังไม่เคยทำร้าย แต่พอมาคืนนี้...มันกลับทำให้เขานึกถึงตอนที่ถูกสามีตามจีบใหม่ๆ และเด็กวิศวะฯที่แสนป่าเถื่อน โหดเหี้ยม แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษ(ในบางคน)...ก็เหมือนจะเริ่มทำโทษรุ่นน้องที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
แต่.....
“พี่ชานยอล...แบคไม่เป็นไรแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ แบคง่วง...แล้วก็เมื่อยด้วย” มือบาง...ลูบแก้มสามีอย่างแผ่วเบาเพื่อลดความตึงเครียดของเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเอ่ยด้วยคำที่พอจะทำให้อีกฝ่ายไม่โดนทำโทษ
“วันนี้ถือว่ามึงโชคดี...แล้วอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกล่ะ!!!” ชี้หน้าคาดโทษคนที่คิดว่าคงเป็นรุ่นน้อง เพราะเดือนคณะอย่างเขาและประธานรุ่นของคณะวิศวะฯมันทำให้พอจำได้ว่าใครเป็นเด็กรุ่นไหนหรือว่าปีใด มือหนารวบกายภรรยาเข้าสู่อ้อมอกแล้วรีบเดินออกไปจากที่เกิดเหตุก่อนที่อารมณ์ต่างๆจะพาลให้งานเลี้ยงรุ่นพังพินาศ
คนถูกอุ้ม...ซบหน้าลงบนอกกว้างอย่างออดอ้อนและรู้สึกเป็นห่วงตั้งแต่เริ่มหาตัวสามีไม่พบ ใช่ว่ากลัวชานยอลจะแอบไปมีคนอื่นหรือนอกใจ แต่ที่ห่วงก็คือ...การดื่มของมึนเมามากเกินไปมันอาจทำให้เจ้าตัวตกเป็นเหยื่อของคนที่อาจสร้างเรื่องปวดหัวมาให้แก้อีกครั้ง แบคฮยอนไม่อยากพลาดอีกแล้วและเรื่องแบบนั้นก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีก กว่าจะคบกัน กว่าจะได้รัก กว่าจะได้แต่งงาน กว่าจะได้สร้างครอบครัว ทุกอย่างคือสิ่งที่เกือบพังทลายไปต่อหน้าเพียงเพราะความเข้าใจผิด ไม่เอาอีกแล้ว...ไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้น มันเจ็บปวดเกินจะปล่อยให้เรื่องของการนอกใจด้วยแผนร้ายๆของคนอื่นมาทำให้ชีวิตคู่ของเขาต้องถึงทางแยก
“พี่ชานยอลเมาหรือเปล่า แล้วพาแบคมาที่นี่ทำไม??” ถูกอุ้มออกมาจากงานเลี้ยงรุ่น และพาเข้ามาที่ฟลอเต้นรำในส่วนที่รุ่นพี่เปิดให้บริการสำหรับลูกค้าทุกคน เพลงรัก...ที่เปิดเพื่อสร้างบรรยากาศมันทำให้คนเป็นภรรยาถึงกับต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พี่ไม่ได้เมาครับ แค่อยากพาเมียมาเซอร์ไพรส์บ้าง....เราไม่ได้เต้นรำด้วยกันนานแล้วน้าาาา” ร่างสูงใหญ่...โยกตัวไปมาตามจังหวะเพลงโดยมีร่างน้อยๆของภรรยายืนอยู่อ้อมกอด
“จำได้ด้วยเหรอ??...แบคคิดว่าพี่ชานยอลจะลืมไปแล้วซะอีก” เงยหน้าถาม...และยิ้มจนปากแทบฉีก เพราะแบคฮยอนคิดว่าคนเป็นสามีอาจลืมเดทแรกของเราทั้งคู่ไปแล้ว หลังจากแต่งงาน...และชานยอลก็เริ่มขนย้ายข้าวของมาอยู่กับเขาที่บ้าน ทุกๆอย่างที่เคยทำร่วมกันก็ดูเหมือนจะเลือนหายไปพร้อมกับกาลเวลา
จุ้บบ!!
“ใครจะลืมเดทแรกได้ล่ะครับเบบี๋” จูบ...เพื่อเติมความหวานให้กับตัวเองและภรรยา เพราะหลังจากแต่งงานพวกเขาก็ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวด้วยกันแบบสองต่อสองอย่างนี้บ่อยนัก
“พี่ชานยอลเมาจริงๆดะ...ด้วย อื้มมมม” ตอบรับสัมผัสโดยไม่ลังเล และก็ดูเหมือนจะได้รับมากเสียจนไม่ทันได้พูดให้จบประโยค ทราบดี...ว่าแต่ละวันมันมีงานเข้ามาให้ทำมากมายจนความหวาน ความโรแมนติกหรือแม้กระทั้งการทำเซอร์ไพรส์เล็กๆน้อยๆที่เคยทำให้ก็แทบจะไม่เคยมีอีกเลยหลังจากแต่งงาน
แบคฮยอนเข้าใจดี...ว่าการเป็นแฟนกับการเป็นคู่ชีวิตมันต่างกันมาก ช่วงแรกของการเริ่มต้นความรัก...อะไรอะไรก็ดูดีเป็นสีชมพูไปหมด แต่พอแต่งงาน...และได้ใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนอย่างจริงจัง ความไว้ใจ ความซื่อสัตย์รวมถึงการคอยดูแลกันและกันทุกวันมันเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด และสามีที่ชื่อปาร์คชานยอล...ก็คือผู้ที่คอยดูแลภรรยาคนนี้มาเป็นอย่างดีโดยไม่เคยขาดตกบกพร่องตลอดระยะเวลาที่คบกันจนถึงตอนนี้
Rrrrrr!!!
Rrrrrrrr!!!!
Rrrrrrrrrrrr!!!!
“ว่าไงจะ...จงอิน อื้มมมม”
(ส้นตีนติดคอเหรอ?? ทำเหี้ยไรอยู่วะ!!!)
“ตกลงโทรมามีอะไร...ถ้าไม่สำคัญกูจะวางสายแล้วนะ”
(จะกลับหรือยัง?? แล้วตอนนี้อยู่มึงไหน?...กูรออยู่ที่รถแล้วเนี่ยย!!)
“มึงกลับไปก่อนเลย...เดี๋ยวคืนนี้กูจะพาพี่มึงไปต่อที่อื่น”
ติ๊ดด!!
กำลังอยู่ในอารมณ์ของความหวาน...แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยสายเรียกเข้า และเมื่อจบการสนทนา ความหวานที่ห่างหายไปนานก็ได้เริ่มการเติมเต็มอีกครั้ง บรรยากาศที่แสนโรแมนติก จูบแสนหวานจากผู้เป็นภรรยา ฟลอเต้นรำท่ามกลางเพลงที่แสนคุ้นหูมันกำลังทำให้ชานยอลเหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปตอนที่คบกับแบคฮยอนใหม่ๆ เดทแรก จูบแรก รักกับผู้ชายคนแรกและคนสุดท้าย เดือนคณะอย่างปาร์คชานยอลไม่เคยคิดเลยว่า...จะมาลงเอยกับใครถึงขั้นแต่งงานหรือต้องใช้ชีวิตร่วมกับใคร แถมคนคนนั้นยังเป็นเพศเดียวกันอีกด้วย
เกิดมา...ก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด และไม่เคยสนใจที่จะมองเพศเดียวกันจนกระทั่งได้มาพบกับบยอนแบคฮยอน เขาไม่ใช่ผู้ที่ชอบเหยียดเพศหรือรังเกียจคนที่เป็นเช่นนั้น และเด็กวิศวะฯที่วันวันเจอแต่คนห่ามๆ หน้าเถื่อนๆเหมือนโจรป่ามันก็ไม่ได้น่ามองเลยสักนิด แต่...ตอนนี้ เขากลับหลงรักและกำลังกอดเพศเดียวกันจนเต็มอ้อมแขน รักจนเต็มหัวใจและจะรักไปตลอดชีวิต เพราะแบคฮยอน...เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้เขายอมเปลี่ยนความคิด และฉีกกฏทุกอย่างที่เคยเป็นข้อห้าม
ยอมรับ...ว่าจุดเริ่มต้นของความรักระหว่างเขากับภรรยามันค่อนข้างจะมีอุปสรรคมากอยู่พอสมควร แต่คนที่ยอมอดทนทุกอย่าง รักในแบบที่เขาเป็น และไม่เคยบ่นว่าท้อหรือพูดคำว่าเลิกกันออกมาจากปากเลยสักครั้งก็คือ...แบคฮยอน ภรรยาผู้แสนดีที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด ไม่ว่าเขาจะเจอกับแรงกดดันและความตึงเครียดจากปัญหาต่างๆมากมายที่ถาโถมเข้ามาจนเกือบถอดใจก็ไม่เคยปล่อยมือ ไม่เคยหนีหายและไม่เคยหันหลังให้กับปัญหาใดใดเลยในเรื่องของชีวิตคู่
ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว และต่อให้มี..ก็จะไม่มองใครอีกเลยถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ภรรยาที่ชื่อบยอนแบคฮยอน
“พี่รักแบคนะครับ รักมากๆ รักที่สุดในโลกเลย”
“แบคก็รักพี่ชานยอลเหมือนกันครับ รักมากๆ...มากที่สุดในโลกเเลย”
“แต่งหน้าแบบนี้เวลาอยู่บนเตียงบ้างสิ แต่...ต้องไม่ใส่อะไรเลยนะ พี่อยากเห็น!!”
“งั้นนน...ถอดตอนนี้เลยดีไหม?? แล้วก็เต้นรำกันต่อ”
“อย่าท้านะครับ...เบบี๋ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้นอนอีกหรอก!!”
“ไม่ได้ท้าครับ แค่อยากบอกว่าาา...พรุ่งนี้มันคือวันหยะ...หยุด อ๊ะ!!!!”
100%
***ห้อเลือด หมายถึง...อาการที่มีเลือดคั่งอยู่ใต้ผิวหนัง แต่ไม่มีบาดแผลเปิดออกมา
กลับมาแล้วจ้าาาา...สวัสดีปีใหม่(ทันมั้ยเอ่ย) รวยๆเฮงๆสุขภาพแข็งแรงตลอดปีตลอดไปนะคะ
ขอบคุณผู้ติดตามและผู้อ่านทุกคนมากๆเลยค่ะ
แล้วจะเข้ามาแก้คำผิดเรื่อยๆนะคะ
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น