คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ปลาตัวที่ 15
17.20 น.
VROOMMM !!
VROOMMM !!
รถแวนคันใหญ่...ที่มักใช้สำหรับบรรทุกสัตว์น้ำไปดูแลต่อที่บ้านก่อนใส่ลงตู้ปลาของลูกค้า แล่นไปบนถนนด้วยความเร่งรีบเพราะคืนนี้เจ้าของรถต้องเดินทางไปทำงานแถวชานเมือง และถ้าวันนี้ไม่ใช่วันศุกร์เขาก็คงไม่ต้องรีบมากอย่างที่เป็นอยู่ ขายาวสมส่วน...เหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวได้ไวกว่าเดิมเมื่อเห็นการจราจรข้างหน้าไม่ได้ติดขัดเหมือน 20 นาทีที่ผ่านมา และเมื่อถึงที่หมายมือหนาจึงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาในบริษัทที่เขาต้องมาทุกวันศุกร์เพื่อรับแฟนเด็กกลับไปด้วยกัน
บริษัท มีปลา
ขับเข้ามาอย่างไร...ก็จอดไว้ในสภาพนั้น ล้อเบี้ยว วงเลี้ยวไม่เข้าทางหรือจอดแบบขวางหูขวางตาคนอื่นเขาก็ไม่สนเนื่องจากมันรีบเกินกว่าจะมองกระจกข้างกระจกหน้าและจอดให้เข้าที่เข้าทางเหมือนกับคันอื่นๆ ชุดหมีที่ใส่ทำงานมาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้ถอดเพราะเมื่อแพ็คของที่ต้องใช้ในงานคืนนี้เรียบร้อยเขาก็รีบขับรถออกมาจากบ้าน และตรงมารับลูกชายคนเล็กแห่งอาณาจักรร้านขายปลาที่ใหญ่ที่สุดทันที
“สวัสดีค่ะ...คุณจงอิน”
“สวัสดีครับ...แล้วน้องปลาไปไหนครับ??”
“พาลูกค้าไปเลือกปลาที่โซน B ค่ะ”
“.......????!”
วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาถึงหน้าเคาน์เตอร์...แต่กลับไม่พบคนที่ตัวเองอยากเจอ แถมยังต้องมารับรู้ในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะปกติหน้าที่การพาลูกค้าไปชมเจ้าหางสวยตามโซนต่างๆในร้านก็มักจะเป็นลูกจ้างหรือไม่ก็เป็นเฮียคริสกับพี่อี้ชิง แต่ทำไมวันนี้!!กลับกลายเป็นน้องเล็กของบริษัทที่ต้องมาทำหน้าที่นี้
“เชิญคุณจงอินเข้ามารอข้างในก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเตรียมของว่างมาให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะไปหาน้องปลา ขอบคุณมากนะครับ”
“เดี๋ยวค่ะคุณจง อะ...อิน!!!”
ไม่ฟังเสียงห้าม...ที่ตะโกนออกมาจากในเคาน์เตอร์และรีบเดินไปที่โซนบีทันที เพราะอยากรู้ว่าทำไมปลาตัวน้อยของเขาต้องมาทำหน้าที่พาลูกค้าเลือกดูสัตว์น้ำต่างๆด้วยตัวเองทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ลูกค้าคนนี้เป็นใคร? พิเศษมากแค่ไหน? เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? อายุเท่าไหร่? ซึ่งทุกความสงสัยมันต้องได้รับความกระจ่าง ใบหน้าคมเข้มที่ดูขึงขังจนน่ากลัวบวกกับการแต่งกายที่ไม่เข้าพวกกับพนักงานในบริษัทแห่งนี้ มันกำลังทำให้ลูกค้าที่เดินเลือกปลาอยู่ในร้านอดมองด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้
ร้านขายปลาของแฟนเด็ก...จะแบ่งออกเป็น 3 โซน A B C ซึ่งแต่ละโซนจะมีสัตว์น้ำที่แยกขายกันอย่างชัดเจนเช่นโซนบี...จะเป็นพวกปลาน้ำเค็ม ส่วนโซนอื่นๆจะเป็นปลาน้ำจืดและปลาสายพันธุ์หายากที่อาจมีจำนวนน้อยกว่าที่ลูกค้าต้องการจนต้องสั่งจองเอาไว้ล่วงหน้า จงอินรู้ดีเพราะต้องมาเลือกปลาให้ลูกค้าของตัวเองอยู่บ่อยๆและต้องนำกลับไปดูแลที่บ้านก่อนจะใส่ลงในตู้ปลาตามที่ลูกค้าต้องการ
“น้องเซฮุนครับ...ปลาตัวนี้ชื่ออะไรครับ แล้วเลี้ยงยากหรือเปล่า ผมเห็นว่าสีมันสวยดี??”
“ชื่อ Pygymy angle fish ฮะ...เลี้ยงไม่ยาก แล้วก็ไม่มีนิสัยก้าวร้าวกับปลาตัวอื่นๆด้วยฮะ แต่ถ้าจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้...ในตู้ปลาของคุณมิโนจะต้องใส่ก้อนหินไว้เยอะๆเลยนะฮะเพราะมันจะชอบตอดก้อนหินตลอดเวลา”
“ตอด...ก้อนหิน!! งั้นผมเอาเจ้านี่ 10 ตัวเลยครับ”
ได้ยินเสียงใส...ชี้แจ้งชื่อปลาที่มีลำตัวสีน้ำเงินแถบเหลืองให้ลูกค้าฟังโดยที่ไม่คิดจะเข้าไปรบกวนเวลาการทำงานของแฟนเด็ก แต่...ก็อดไม่ได้ที่จะเดินตามดูอยู่ห่างๆเพราะลูกค้าคนนั้นแทบไม่ได้มองเจ้าหางสวยในตู้เลยสักนิด แถมการซักถามในเรื่องที่สงสัยก็ดูเหมือนจงใจจะทำให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับลูกเจ้าของบริษัทมากกว่า
“แล้วตัวนี้ละครับน้องเซฮุน?”
“Trigger ฮะ...แต่ตัวนี้คุณมิโนไม่ควรซื้อไปใส่ตู้นะฮะเพราะมันก้าวร้าว แล้วอีกอย่าง...ปลาที่คุณมิโนเลือกไปอย่าง Angle fish กับ Butterfly fish ก็มีขนาดเล็กเพราะฉะนั้นเจ้า Trigger มันไม่ควรไปอยู่ในตู้นะฮะ!!”
“งั้นผมเอาเท่านี้ก็ได้ครับ หรือว่าาา...น้องเซฮุนมีตัวอื่นจะแนะนำผมอีก?”
“ถ้าเป็นตู้ปลาขนาดเท่าที่คุณมิโนแจ้งไว้...หนูว่าแค่นี้ก็น่าจะเหมาะสมแล้วนะฮะ”
“น้องเซฮุนว่ายังไง...ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ”
“สรุปเป็น...Pygymy angle fish 10 ตัว Angle fish 20 ตัว แล้วก็ Butterfly fish 5 ตัวนะฮะ”
“ครับ...ขอบคุณน้องเซฮุนมากนะครับ”
“บริษัทมีปลายินดีหะ..ให้ อ๊ะ!!!!”
ปึ่กกก!!!
“น้องเซฮุนนนน!!!!!!”
เหมือนกำลังดูซีรีส์...ฉากที่นางเอกกำลังเสียการทรงตัว แล้วดึงพระเอกเอาไว้จนตัวเองล้มลงไปนอนอยู่บนอกของพระเอก แถมอุบัติเหตุในครั้งนี้ นางเอกยังถูกหอมแก้มไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ภาพที่คนในชุดหมีเห็นอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ในซีรีส์...!!!!!!!!!!
“ขะ..ขอบคุณนะฮะคุณมิโน”
“ไม่เป็นไรครับ...แล้วน้องเซฮุนเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่เจ็บฮะ...ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ”
คนที่ใส่เสื้อผ้าดูมอมแมม...รีบก้าวขาออกไปให้ถึงเหตุการณ์ที่เห็นอยู่เมื่อครู่ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เพราะถึงแม้จะเห็นกับตาว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่การที่ปลาตัวน้อยของเขาต้องเสียแก้มข้างหนึ่งให้ลูกค้าสัมผัส มันช่างเป็นภาพที่เหมือนโดนมีดกรีดลึกเข้าไปในหัวใจของคนมองจนเริ่มเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ อุตส่าห์ไม่เข้าไปวุ่นวายในการทำงานของแฟนเด็ก แต่สุดท้าย...การรู้กาลเทศะ การให้เกียรติ การไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกันก็ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
“น้องปลาครับ...พี่มารับแล้วครับ”
“คุณคิม!!...มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?!!!!”
ฟอดดดด!!!
คนหวงแฟน...รีบคว้าแฟ้มสีชมพูของน้องปลามาถือไว้พร้อมใช้มือข้างที่เหลือประคองเอวบางไว้ในอ้อมแขน แล้วก้มใบหน้าคมเข้มส่งจมูกทู่เป็นเอกลักษณ์หอมลงบนขมับปลาตัวน้อยด้วยความเป็นห่วงปนอยากแสดงความเป็นเจ้าของให้ใครบางคนรู้ว่า...ลูกชายคนเล็กของบริษัทแห่งนี้เป็นของใคร!!!
“น้องปลาเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”
“คะ...คุณคิมเห็นด้วยเหรอฮะ!?”
“พี่ถามว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า!!”
“เจ็บแขนฮะ U_U ”
ตอนนี้...คนที่เหมือนเป็นธาตุอากาศกลับกลายเป็นลูกค้าที่ถูกต้อนรับมาเป็นอย่างดีตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน ส่วนคนที่รู้สึกว่าตัวเองเพิ่งถูกตะคอกด้วยความไม่พอใจก็ไม่กล้าโกหกอย่างที่พูดกับลูกค้า เพราะการเดินสะดุดกล่องลังที่ใช้แพ็คปลาจนหกล้มลงไปนอนอยู่บนอกของผู้ชายคนอื่นมันทำให้เจ็บทั้งตัว และเจ็บทั้งใจ แถมแขนข้างหนึ่งยังกระแทกไปกับพื้นกระเบื้องเต็มแรง แต่!!ถ้าไม่ได้อกกว้างๆของลูกค้าคนนี้ช่วยรับร่างกายของเขาเอาไว้...น้องปลาคงมีอาการบาดเจ็บมากกว่านี้
“พี่เฉินครับบบบบ...มาช่วยดูแลลูกค้าแทนน้องปลาหน่อยครับบบบบ!!!!!”
เจ้าของชื่อ...ที่ถูกเรียกด้วยเสียงที่ดังจนคนทั้งร้านหันมามองรีบเดินมาที่ต้นเสียงทันที เพราะขืนชักช้ากว่านี้มีหวังสัตว์น้ำที่ขายอยู่ในร้านคงตกใจตายไปก่อนที่จะได้อวดความสวยงามของพวกมัน เฉิน...ที่เดินเข้ามาในโซนบีเพื่อนำปลาไปแพ็คตามบิลที่ถูกปริ๊นออกมาเมื่อสิบนาทีที่แล้ว ก้าวขาฉับๆมาหาลูกค้า พร้อมผายมือเป็นเชิงให้เดินไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินตามขั้นตอนในการซื้อขาย ส่วนคนที่ใช้น้ำเสียงแข็งกร้าวเรียกเขาอยู่เมื่อครู่...กลับอุ้มลูกชายคนเล็กของบริษัทเดินหายไปทางด้านหลังโดยไม่เกรงใจสายตาลูกค้าเลยแม้แต่น้อย
...
...
...
“อ้าว...จงอิน?!! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วน้องปลาเป็นอะไร?”
“น้องสะดุดกล่องลังหกล้มครับ ผมไปรับมาที่โซนบี”
“แล้วบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ให้พี่ตามหมอไหม??”
“ไม่เป็นอะไรมากครับ...เดี๋ยวผมดูแลน้องปลาเอง พี่อี้ชิงไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“ขอบใจนะจงอิน...งั้นพี่ฝากน้องปลาด้วยนะ วันนี้พี่งานยุ่งมากเลย”
คนเป็นพี่ชาย...รู้สึกตกใจเมื่อเห็นคนเป็นน้องถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของแฟนหนุ่มผิวเข้ม เจ้าตัวจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้งานในบริษัทมันยุ่งเกินกว่าจะดูแลน้องชายกับสามีสุดหล่อได้อย่างที่เคยทำ ในวันที่ 26 ของทุกเดือน...จะมีปลาล็อตใหม่มาส่งที่ร้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งลูกชายคนโตของบริษัทอย่างอี้ชิงก็ต้องตรวจนับ แล้วเช็คสัตว์น้ำทั้งหมดว่ามันตรงกับที่สั่งไปหรือไม่ ทั้งชนิดของปลา สี ขนาด จำนวน ทุกอย่างต้องไม่ขาดไม่เกินและต้องไม่เกิดความเสียหายหรือตายเมื่อสัตว์น้ำทั้งหมดส่งมาถึงที่ร้าน
ปลาจำนวน 100 ตัว...ที่ต่างสายพันธุ์ ต่างถิ่นที่อยู่และต่างชนิดมันทำให้อี้ชิงต้องตรวจนับอย่างละเอียด พร้อมเช็คว่าพวกมันมีสุขภาพที่สมบูรณ์พอเพื่อการค้าขายหรือไม่ และถ้าตัวไหนมีความเสี่ยงในการรอดชีวิตไม่ถึง 60% เขาก็ต้องแยกพวกมันออกมาดูแลไว้จนกว่าจะแข็งแรงเต็มร้อย เพราะถ้าลูกค้าซื้อไป ทั้งๆที่พวกมันยังไม่ได้ปรับสภาพให้เคยชินกับความแปลกใหม่แล้วตายในระหว่างการค้าขาย...ร้านของเขาคงถูดพูดถึงในทางที่ไม่ดีแน่นอน
เมื่อคนงานยุ่ง...ฝากฝังน้องชายให้หนุ่มผิวเข้มดูแลเรียบร้อย เจ้าตัวก็รีบไปที่โซน A ต่อทันทีเพราะยังมีงานอีกมากมายให้ต้องจัดการ ปกติวันศุกร์และเป็นเวลาที่ร้านใกล้จะปิดให้บริการมันก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว แถมวันศุกร์นี้ยังตรงกับวันที่ร้านต้องตรวจนับปลาล็อตใหม่ งานจึงยุ่งกว่าวันศุกร์ทั่วๆไปของแต่ละสัปดาห์ ส่วนคนที่มารับแฟนเด็กกลับบ้าน...และได้มาเห็นภาพบาดตาบาดใจก็รีบอุ้มคนในอ้อมแขนขึ้นมาบนห้องนอนทันที
ปังงงง!!!!
เจ้าของห้อง...ช่วยทำหน้าที่เปิดประตูเมื่อถูกอุ้มขึ้นมาถึงห้องนอน แต่ตอนปิดกลับเป็นอวัยวะส่วนล่างของคนในชุดหมีที่ยกขึ้นถีบแผ่นไม้บานใหญ่จนมันเสียงดังสนั่นไปทั้งบ้าน น้องปลารู้สึกกลัวกับสิ่งที่จงอินเป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะไม่เคยเห็นใบหน้าคมเข้มที่ตัวเองหลงรักบึ้งตึงหรือแม้แต่การแสดงอารมณ์ไม่พอใจก็ไม่เคยเห็น แถมการถูกตะคอกเมื่อตอนอยู่ที่โซนขายสัตว์น้ำก็ไม่เคยได้ยินเลยสักครั้งจนกระทั่งวันนี้
มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณคิม???
“พี่ขอดูแขนหน่อยครับน้องปลา!..แล้วเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า??”
ก้มหน้างุด...และส่ายศีรษะเป็นคำตอบพร้อมหยดน้ำสีใสที่ไหลลงมาอาบแก้มเนียน เพราะเมื่อถูกวางลงบนเตียงแล้วได้ยินเสียงทุ้มหนักเอ่ยถามอาการบาดเจ็บ น้องปลาก็เริ่มเก็บซ่อนอาการหวาดกลัวเอาไว้ไม่ได้ คุณคิมที่แสนใจดีและอบอุ่นหายไปไหน ทำไมผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆเขาตอนนี้ถึงมีท่าทีดุดันนัก!!???
“ฮึกกก!!! คุณคิม...ฮึกก!!”
“น้องปลาร้องไห้ทำไมครับ...เจ็บแขนใช่ไหม???!!”
ตกใจ...เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อที่ปะปนมากับเสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากอาบใบหน้าจิ้มลิ้ม ไม่รู้ตัวเองเลยว่า...ปลาตัวน้อยไม่ได้เจ็บแขนถึงขั้นต้องไปพบแพทย์ แต่เป็นเพราะกิริยาท่าทาง น้ำเสียง รวมถึงการกระทำของคุณคิมต่างหากที่เป็นสาเหตุ มือเรียวสวยปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ แล้วโถมกายนอนทับคนที่ยังมีใบหน้าบึ้งตึงจนล้มหงายลงไปนอนบนเตียงนุ่มลายปลาหมึกสีฟ้า
จุ้บบ!!!
อวัยวะ...ที่มักใช้พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดประทับลงบนสันกรามคมอย่างออดอ้อน เพราะปลาตัวน้อยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้คุณคิมอารมณ์ดีขึ้น และไม่ทำกิริยาอาการที่ดูน่ากลัวเหมือนที่ผ่านมา ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าท่าทางดุดันของตัวเองกำลังสร้างความหวาดกลัวให้คนที่นอนทับอยู่บนอกมากแค่ไหนก็รู้งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยังเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของแฟนเด็กที่อาจซ้ำรอยเดิม เพราะการโถมกายด้วยแรงที่มากขนาดนั้นมันคงทำให้น้องปลาเจ็บอยู่ไม่น้อย แถมข้อมือข้างขวาก็เริ่มมีรอยแดงให้เห็น
แต่!!เมื่อได้รับรอยจูบบนแก้มเพียงแผ่วเบา...มันก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวต่างๆหายเป็นปลิดทิ้ง
“คุณคิมเป็นอะไรฮะ...อารมณ์ไม่ดีเหรอฮะ?”
“พี่แค่หงุดหงิดนิดหน่อยครับ”
“คุณคิมเสียงดังใส่หนู แล้วก็ทำหน้าดุด้วยฮะ หนูกลัว!”
“พี่ขอโทษครับ...ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
เพิ่งเข้าใจ...ว่าการที่ตัวเองพยายามข่มอารมณ์เอาไว้มันไม่ได้ผลเพราะทั้งกิริยา ท่าทาง น้ำเสียงที่คนบนอกพูดเมื่อครู่มันช่างดูน่ากลัวในสายตาของคนมอง มือหนา...โอบกอดปลาตัวน้อยเอาไว้และลูบหลังไปมาคล้ายจะปลอบใจให้หายหวาดหวั่น พร้อมเอ่ยขอโทษซ้ำๆกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“คุณคิมหายหงุดหงิดหรือยังฮะ”
“หายแล้วครับ...พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้น้องปลากลัว”
“ไม่เป็นไรฮะ หนูไม่โกรธ...แต่คุณคิมอย่าหงุดหงิดอีกนะฮะ หนูกลัว”
“ครับ...พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ”
“หนูรักคุณคิมนะฮะ”
ฟอดดดด!!!!!
โดนคนที่นอนทับอยู่บนอก...หอมแก้มฟอดใหญ่ และคำบอกรักที่มาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆที่เหมือนเป็นการตอบรับว่าหายหวาดกลัวแล้วจริงๆก็พาให้ใจของผู้ถูกกระทำเต้นไม่เป็นจังหวะ และการกระทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้จงอินต้องพยายามปรับปรุงตัวให้มากกว่าที่เคยพยายาม เพราะไม่ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ดูน่ากลัวหรือทำให้น้องปลาเสียน้ำตาอีกสักกี่ครั้ง เด็กคนนี้ก็ไม่เคยโกรธเขาแม้แต่นิดเดียว...แถมยังยอมรับนิสัยแย่ๆของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่พอนึกถึง “ความโกรธ” ก็ใช่ว่าคุณคิมไม่เคยได้รับจากปลาตัวน้อย และถึงแม้จะเป็นการโกรธเพียงชั่วครู่ชั่วคราวมันก็ทำให้เขาจำไปตลอดชีวิต
ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ผ่านไปนานมากแล้วก็ตามที แต่คำว่า...เกลียด การไม่อยากเห็นหน้า การถูกไล่ออกไปจากบ้าน ทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของน้องปลามันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท การโกหก...เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายใจมันเกือบทำให้ความรักที่ตัวเองได้มาครอบครองอย่างยากลำบากหลุดลอยไป เสียงการต่อว่าต่อขานด้วยความโกรธที่หน้าร้านไอศกรีม น้ำตาแห่งความเสียใจที่ไหลอาบแก้มเนียน ความผิดหวังที่ส่งผ่านมาจากดวงตาคู่สวย ทุกๆสิ่งที่จงอินรับรู้ได้ในวันนั้นมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็น
ปลาตัวน้อย...จะโกรธเขากี่ครั้งก็ได้ แต่อย่าเกลียดกันเลยเพราะคุณคิมคงรับไม่ไหว T^T
“พี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะครับ น้องปลาไม่เหม็นเหรอไง หื้มม?”
“เหม็นฮะ!!”
“.........!!!”
“แต่หนูทนด้ายยยย (:”
ฟอดดดด!!!
มัวแต่ดีใจ...ที่คนบนอกไม่โกรธ แถมยังถูกหอมถูกจูบอยู่นานสองนานจนลืมไปเลยว่าตัวเองสกปรกเกินกว่าจะมานอนบนเตียงนุ่มแสนน่ารักสีหวาน ส่วนน้องปลา...ก็ไม่ได้เหม็นกลิ่นกายเจ้าของอกกว้างเลยสักนิด แต่เหม็นกลิ่นสีกลิ่นควันที่ติดอยู่ตามชุดหมีมากกว่า และกลิ่นต่างๆพวกนี้ก็ทำให้น้องปลารู้ได้ทันทีว่าจงอินงานเยอะแค่ไหน
“แล้วทำไมวันนี้น้องปลาต้องออกไปดูแลลูกค้าด้วยครับ พี่ๆไปไหนกันหมด??”
“ก็วันนี้มีปลาล็อตใหม่มาส่งหนิฮะ ทุกคนก็เลยไม่ว่าง ปกติก็จะเป็นพี่อี้นะฮะ แต่พอดีวันนี้มันยุ่งมากจริงๆ หนูก็เลยต้องทำแทน”
“เฮ้อออ!!...พี่ไม่อยากให้น้องปลาทำแบบนั้นเลยยครับ น้องปลานั่งรับออร์เดอร์ลูกค้าอยู่ในห้องอย่างเดียวไม่ได้เหรอ?”
“ถ้าคุณคิมไม่ชอบ...หนูไม่ทำก็ได้ฮะ”
ไม่ชอบถูกขัดใจ...น้องปลาจึงไม่อยากขัดใจคุณคิม เจ้าตัวเลยรับปากไปทั้งๆที่บริษัทแห่งนี้ก็ขายสัตว์น้ำมาตั้งแต่เขายังไม่เกิด แต่ถ้าทุกคนในร้านไม่ว่างเหมือนอย่างวันนี้ น้องปลาก็คงต้องออกไปต้อนรับลูกค้าโดยที่ไม่บอกให้จงอินรู้...ซึ่งมันคงเป็นทางออกเดียวที่ลูกชายคนเล็กของบริษัทมีปลาคิดออก
จะให้ทิ้งหน้าที่การงานก็คงเป็นไปไม่ได้ และเขา...ก็ไม่อยากทำให้คุณคิมหงุดหงิด
“งั้นเรากลับบ้านกันดีกว่า...แล้วคืนนี้น้องปลาต้องอยู่บ้านกับบยอนนี่สองคนนะครับ เพราะพี่กับชานยอลต้องไปทำงานที่ห้างXXX”
“ให้หนูไปด้วยสิฮะ หนูอยากไป...นะนะนะ”
“แต่มันดึกมากเลยนะครับ แล้วพี่คริสก็ไม่ชอบให้น้องปลานอนดึก”
“ก็อย่าบอกให้พี่คริสจ๋ารู้สิฮะ หนูอยากไปด้วย หนูอยากเอาปลาใส่ตู้ หนูอยากเห็นบ้านปลาหลังใหม่ น้า น้าาาาา...ให้หนูไปด้วยนะฮะคุณคิม”
เมื่อเห็นแก่ตัว...และก้าวก่ายหน้าที่การงานของปลาตัวน้อยได้สำเร็จ ก็ถึงคราวที่คุณคิมต้องยอมตามใจเด็กในอ้อมกอดบ้าง ถึงแม้งานนี้จะดึกดื่นจนเกินเวลาหลับนอนของน้องปลาและเป็นสิ่งที่พี่เขยอย่างคริสไม่ชอบก็ตาม แต่เมื่อเจ้าตัวร้องขอด้วยน้ำเสียงออดอ้อนขนาดนี้ คนเป็นแฟนที่ดีอย่างเขาหรือจะกล้าปฏิเสธ
“ถ้าน้องปลาอยากไป...ก็รีบไปอาบน้ำได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่ไปทำงานไม่ทัน”
“อาบด้วยกันไหมฮะคุณคิม?”
ปลาตัวน้อย...ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการอยากให้คนที่มีแต่กลิ่นสีและคราบฝุ่นจากโรงงานติดอยู่ตามเสื้อผ้าได้อาบน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายให้หมด แต่คนที่ถูกเชิญชวน...กลับคิดไปถึงไหนต่อไหนเพราะการอาบน้ำพร้อมแฟนเด็กมันก็มักจะเกิดเรื่องที่เกินเลยกว่าแค่การอาบน้ำทุกครั้ง เหมือนจะชินกับการเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันแสนเย้ายวนของน้องปลาและใช่ว่าไม่อยากบ่อยๆ แต่...การควบคุมด้านมืดภายในจิตใจมันก็เป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับคิมจงอิน
...
...
...
...
...
“อื้มมมม...น้องปลาาา!!”
“เย้...ของคุณคิมใหญ่ขึ้นแล้วฮะ หนูเก่งไหม?!”
“ซี้ดด...เก่งครับ น้องปลาของคุณคิม อ่าห์!!! เก่งที่สุด!”
บอกแล้ว...ว่าการอดทนต่อความเย้ายวนมันยากมากขนาดไหน แถมยังทำได้แค่ช่วยกันระบายความอึดอัดเพียงภายนอกเท่านั้น เพราะขืนทำอย่างที่ใจต้องการ คุณคิมของปลาตัวน้อยคงถูกรุ่นพี่คนสนิทกระทืบตายคาตี______แล้วโยนศพทิ้งลงไปในบ่อปลาปิรันย่าแน่นอน และการถูกมือเรียวสวยขยับฉลามเพชฌฆาตด้วยความไร้เดียงสาก็พาให้ผู้ถูกกระทำไม่กล้าล่วงเกินเด็กคนนี้ไปจนกว่าจะถึงวัยที่เหมาะสม
แต่ถ้า...สถานการณ์มันยากที่จะอดใจไหวก็คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปอารมณ์ในขณะนั้น (พวกคุณว่าไหม?)
“คุณคิมจะใส่ชุดเดิมเหรอฮะ?”
“ก็พี่ไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนหนิครับ”
“งั้นใส่ชุดของหนูไปก่อนนะฮะ พอดีคุณปลาวาฬจ๋าซื้อชุดใหม่มาให้หนูแล้วมันใหญ่เกินไป...หนูใส่ไม่ได้”
เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อย...และกำลังแต่งตัวเพื่อเดินทางไปทำงานพร้อมกัน แต่การที่แฟนผิวเข้มจะใส่ชุดหมีที่เลอะไปด้วยสีและฝุ่นควันจากโรงงานมันก็ทำให้เขาอดที่จะทักท้วงไม่ได้ น้องปลาจึงรีบเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งเพื่อหยิบชุดที่ใหญ่เกินกว่าขนาดร่างกายของตัวเองจะใส่ได้ให้จงอินสวมแทนชุดเดิม
แต่!!ด้วยสภาพที่เจ้าตัวใส่กางเกงในสีสดเพียงตัวเดียวแล้วหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ยื่นให้คุณคิม มันกลับกลายเป็นภาพที่พาให้หัวใจของคนมองเต้นตึกตัก ก้นอวบ...ที่ล้นออกมาจากขอบกางเกงในตัวจิ๋ว เรียวขายาวสวยขาวเนียน เอวคอดเล็ก สะโพกกลมกลึงและยอดอกสีหวาน ทุกๆอย่างมันเป็นภาพที่มองอย่างไรก็ไม่เคยเบื่อ...และทำให้อะไรๆมันปวดตึงขึ้นมาอีกครั้ง
ถึงแม้เสื้อผ้าตัวใหม่...ที่น้องปลาหยิบมาให้จะเป็นแบบที่คนอย่างคิมจงอินไม่เคยคิดที่จะซื้อมาใส่ แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่แฟนเด็กต้องการและทำไปด้วยความหวังดีเขาจึงไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจ และเสื้อยืดคอกลมสีชมพูหวานแหว๋วกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีครีมก็ช่างพอดีกับขนาดร่างกายเนื่องจากมันไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป
“ขอบคุณนะครับน้องปลา”
“คุณคิมหล่อ...ม๊ากกกกก!!!”
จากที่ไม่มั่นใจในเสื้อผ้าสีหวานเกินหน้าตาและบุคคลิก...แต่พอได้รับคำชมจากปลาตัวน้อย คนใส่จึงมีความมั่นใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมชุดที่น้องปลาใส่อยู่ก็มีสีสันคล้ายกับของเขา และเสื้อยืดคอกลมสีชมพูดอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีขาวพร้อมสะพายเป้ใบโปรดรูปปลาดาวของเด็กตรงหน้าก็สามารถสร้างร้อยยิ้มให้คุณคิมได้โดยไม่รู้ตัว
“น้องปลาก็น่ารัก...ม๊ากกกกก!!”
“เราไปทำงานกันเถอะฮะ”
ฟอดดดด!!!
“งืออออ.....”
หอมแก้มนุ่มด้วยความมันเขี้ยว...แล้วรีบพาปลาตัวน้อยออกมาจากห้องนอนก่อนที่จะไม่ได้ไปทำงาน เพราะการถูกความน่ารักโจมตีจนหัวใจกระเจิดกระเจิงมันเริ่มทำให้จงอินไม่อยากออกไปไหนอีกเลย มือหนา...จูงลูกชายคนเล็กของบริษัทมีปลาเดินออกมาจนถึงรถแวนที่จอดเหมือนท้าทายการถูกกรีดเนื่องจากมันไม่ได้อยู่ในเส้นในขอบที่ทางร้านจัดสรรไว้ให้ลูกค้า
“โอ้โห...ไอ้ดำ!!! แต่งตัวไม่ดูหนังหน้าไม่เกรงใจสีผิว!”
และความมั่นใจ...ที่ถูกมอบให้จากคนข้างกายก็หมดลงด้วยคำทักทายของรุ่นพี่คนสนิท
“หวัดดีเฮีย”
“เออ...หวัดดี”
“ผมไปก่อนนะเฮีย”
“ดูแลน้องกูดีๆล่ะ!!”
“ครับเฮีย!”
เจ้าของรถแวน....สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกมาจากบริษัทมีปลาด้วยความเร่งรีบ เพราะระยะทางในการไปทำงานในคืนนี้มันก็ค่อนข้างไกล และการที่น้องปลาอยากนำเจ้าพวกหางสวยใส่ลงไปในตู้ด้วยตัวเองมันก็เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำงาน ซึ่งมันจะทำให้น้องปลาต้องนอนดึกไปด้วย และนั่น...ก็เป็นสิ่งที่พี่เขยอย่างคริสไม่ชอบใจ
ห้างสรรพสินค้า XXX
22.40 น.
VROOMMMMM!!!!
การเดินทางมาติดตั้งตู้ปลาที่ห้างสรรพสินค้าแถบชานเมือง...ทำให้ต้องมาทำงานในช่วงที่ห้างที่ปิดให้บริการเพราะสิ่งที่จงอินต้องจัดการมันอันตรายและเสี่ยงเกินกว่าจะให้ใครมายืนดู หรือถามนั่นถามนี่ในระหว่างการประกอบตู้ปลา และที่ว่างขนาดใหญ่ใจกลางศูนย์การค้าแห่งนี้ก็คือพื้นที่ที่จะมีความสวยงามเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“หักซ้ายนิดนึง ซ้าย ซ้าย ซ้ายอีกกกก....พอออออ!!!!!”
เปลี่ยนจากการขับรถแวนมาเป็นรถบรรทุกคันโตเมื่อเดินทางมาถึงหน้างาน เสียงตะโกนของพี่เขยอย่างชานยอลที่สั่งให้จงอินถอยรถรวมถึงสั่งคนอื่นๆให้เร่งนำของที่ขนมาทั้งหมดเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็ดังก้องเป็นบริเวณกว้าง และการเดินขวักไขว่ของลูกน้องในทีมการติดตั้งตู้ปลาในครั้งนี้ก็ดูวุ่นวายอยู่พอสมควร ส่วนคนที่ขอตามแฟนผิวเข้มมาทำงานด้วยก็ช่วยหยิบของชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากรถตู้แล้วเดินตามพี่ๆในบริษัทบ้านปลาเข้ามาด้านใน
นอนหลับมาตลอดทางระหว่างที่จงอินขับรถมาที่นี่...น้องปลาจึงไม่งอแงหรือรู้สึกง่วงเหมือนอย่างที่คิด แถมการได้เข้ามาเห็นห้างสรรพสินค้าในช่วงที่ปิดให้บริการมันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด มือซ้ายถือถุงที่มีอุปกรณ์ในการตกแต่งตู้ปลาเอาไว้ ส่วนอีกมือ...ก็ถือนมกล่องรสกล้วยดูดจนแก้มตอบ น้องปลาวางกล่องที่ถือมารวมไว้กับของต่างๆที่จะประกอบขึ้นเป็นบ้านปลาหลังใหญ่ และปลดเป้ใบโปรดลงจากบ่าเมื่อพี่ๆกับจงอินเริ่มทยอยขนของเข้ามาในห้างจนครบหมดแล้ว
“คุณคิม...มีอะไรให้หนูช่วยอีกไหมฮะ”
“ช่วยแค่นี้ก็พอแล้วครับน้องปลา เดี๋ยวถึงเวลาเอาเพื่อนๆใส่ในตู้แล้วพี่จะเรียกนะครับ”
จุ้บบ!!
“เพิ่มพลังนะฮะ”
“ขอบคุณครับคนเก่ง”
อยากช่วยงานของคุณคิมได้มากกว่านี้...แต่ของที่กองอยู่ตรงหน้ามันใหญ่และหนักเกินกว่ากำลังของเด็กอายุ 16 ปีอย่างเขาจะแบกไหว และสิ่งที่ทำได้ก็คือการให้กำลังใจคนที่มีแรงเยอะกว่า น้องปลากอดผู้ที่ทำบ้านให้เจ้าหางสวยได้เก่งกว่าใครแล้วมอบสัมผัสแผ่วเบาลงบนปากหยัก พร้อมรอยยิ้มแสนน่ารักที่ทำให้คนถูกจูบอยากกลับบ้านมากกว่าการทำงานอยู่ที่นี่
“จงอินโว้ยยย!!!...มาทำงานได้แล้ววววว!!”
“น้องปลารอพี่อยู่ตรงนี้นะครับ ถ้าง่วงก็เรียกพี่ได้เลยเดี๋ยวพี่พาไปนอนที่รถ”
คนที่ไม่มีใครมาจูบให้กำลังใจ...ตะโกนเรียกหัวหน้าทีมให้รีบมาทำงานก่อนที่ความอิจฉาของตัวเองจะพาลให้งานพัง การติดตั้งตู้ปลาในครั้งนี้...ชานยอลต้องมาร่วมทีมด้วยเพราะขนาดของตู้มันใหญ่มาก แต่การมาทำงานโดยทิ้งภรรยาให้นอนอยู่คนเดียวที่บ้านมันก็ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วง ยิ่งได้มาเห็นจงอินกับน้องปลามอบกำลังใจให้กันแบบนั้น...ชานยอลยิ่งอยากกลับไปนอนกอดเมียที่บ้านมากกว่า
(คิดถึงคนใส่ชุดนอนลายเคโระปี้...โว้ยยยยยยย!!!)
ส่วนน้องชายต่างมารดาอย่างจงอิน...ก็ใช่ว่าไม่ห่วงแบคฮยอน และในตอนแรกเขาก็คิดว่าจะไปส่งน้องปลาที่บ้านแล้วออกมาทำงานพร้อมกับลูกน้องในบริษัท แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าแฟนเด็กขอตามมาด้วย เขาจึงจำเป็นต้องปล่อยให้พี่ชายจอมโวยวายอยู่บ้านเพียงลำพัง ใจหนึ่งก็ห่วงแบคฮยอน อีกใจก็ห่วงคนที่ต้องมาอดหลับอดนอนด้วยกันในคืนนี้ เพราะการติดตั้งตู้ปลาขนาดใหญ่มันต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่างานจะเสร็จเรียบร้อย
จงอินพยายามตัดความกังวลในเรื่องต่างๆออกไปจากหัวสมอง...แล้วเริ่มทำงานก่อนที่ความคิดถึงเมียของชานยอลจะทำให้ตู้ปลาพังพินาศ รถโฟคลิฟถูกนำมาใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆอย่างเช่นเครื่องกรองน้ำ ปะการังเทียมรวมถึงตู้ปลาที่ทำจากกระจกอะคริลิก และทุกๆอย่างก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าเกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างการทำงานมันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขได้ทันเวลา ส่วนคนที่นั่งดูการทำงานของแฟนผิวเข้มอยู่อย่างเพลิดเพลินในตอนแรกก็เริ่มรู้สึกง่วง จากนั่ง...เปลี่ยนเป็นนอน จากนอน...กลายเป็นหลับไปโดยไม่รู้ตัว แต่.....
โครมมมมม!!!!
“ไอ้สัด!!...กูบอกให้ระวัง”
“ขอโทษครับลูกพี่ มือมันลื่น!”
“ไอ้ห่า...เดี๋ยวตู้ปลาก็พัง!!”
เสียงโวยวายของทีมการทำงานในค่ำคืนนี้...มันทำให้น้องปลาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ และไม่กล้าหลับอีกเลยเพราะกลัวพลาดการนำเจ้าหางสวยที่ร้านของตัวเองใส่ลงไปในบ้านปลาหลังใหม่ แต่...ยิ่งนอนดึกก็ยิ่งหิวและการทานนมไปกล่องเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้อยู่ท้อง
...
...
...
...
...
00.15 น.
ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการ...แต่ไฟในห้างก็ยังคงเปิดไว้เพื่อให้ทีมงานของจงอินได้ทำการติดตั้งตู้ปลาไปจนกว่างานจะเสร็จสิ้น และคนที่รู้สึกหิวรวมถึงรอเวลาเอาสัตว์น้ำแสนสวยใส่ลงในตู้ก็เริ่มเดินสำรวจร้านค้าต่างๆที่อยู่ในห้างฯอย่างสนุกสนาน ร้านขายตุ๊กตา ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของเล่น น้องปลามองเข้าไปในร้านทุกๆร้านด้วยความตื้นเต้น และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษที่ได้เข้ามาเดินอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้ในเวลาที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้
“ว้าวววววว!!!!”
ส่งเสียงร้องออกมาอย่างลืมตัว...เมื่อน้องปลาเดินขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วได้พบกับร้านที่ตกแต่งทุกอย่างได้สวยถูกใจจนละสายตาไปไม่ได้ และความสวยงาม...ก็ดึงดูดคนมองให้ก้าวขาเข้ามาด้านในเพื่อชื่นชมสิ่งที่ตัวเองโปรดปราน เหมือนจะเป็นการเสียมารยาท แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมร้านอาหารร้านนี้จึงยังไม่ปิดทั้งๆที่ร้านอื่นก็ปิดกันหมดแล้ว
ร้านอาหาร...ที่ภายในทาสีฟ้าน้ำทะเลเอาไว้ จานชามทุกใบที่วางอยู่บนโต๊ะก็เป็นลวดลายรูปสัตว์น้ำ เก้าอี้สีขาวสะอาดตา พื้นที่ปูด้วยกระเบื้องคล้ายเขตแนวปะการังพร้อมด้วยสาหร่ายเทียม บนเพดานติดวอล์เปเปอร์เหมือนคลื่นของท้องทะเล และของตกแต่งต่างๆที่น้องปลาเห็นอยู่ตอนนี้มันก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้หลุดเข้ามาอยู่ในโลกใต้สมุทร
“อะแฮ่มม!!!...สวัสดีครับ”
“........!!!!!!!??”
เสียงทักทายที่ไม่คุ้นหู...ทำให้คนที่เดินสำรวจความสวยงามของร้านอาหารอยู่อย่างเพลิดเพลินถึงกับสะดุ้งสุดตัว และยืนนิ่งเหมือนถูกสาปเพราะรู้สึกตกใจจนก้าวขาไม่ออก น้องปลาเพิ่งรู้ตัว...ว่าการเดินไปนู่นมานี่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มันอาจอันตรายเกินกว่าจะเดินมาเล่นเพียงลำพัง มือบางกำชายเสื้อไว้แน่น เหงื่อเริ่มออกพร้อมก้าวขาถอยหลังอย่างช้าๆเพราะคนแปลกหน้าที่มวยผมไว้บนศีรษะกำลังเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ร้านปิดแล้วนะครับ”
“คือหนู...หนู หนูเปล่ามาขโมยของนะฮะ!!”
“ใจเย็นๆนะครับ พี่ไม่ได้ว่าอะไร แล้วหนูมากับใคร? หลงทางหรือเปล่า? ให้พี่ไปส่งไหม???”
“ไม่เป็นไรฮะ...เดี๋ยวหนูกลับเอง”
“แล้วจะกลับยังไง นี่มันก็ดึกมากแล้วนะครับ?”
“หนูมาติดตั้งตู้ปลากับแฟนที่ชั้นหนึ่งฮะ หนะ..หนู”
โครกกกกก!!!!
เสียงท้องร้อง...ทำเอาบทสนทนาขาดห้วง แต่สามารถเรียกรอยยิ้มให้เจ้าของร้านอาหารได้ในทันที และการแทนตัวเองของเด็กตรงหน้าด้วยคำว่า “หนู” มันก็ช่างไม่เหมาะกับการมีแฟนเหมือนอย่างที่เจ้าตัวพูดเลยสักนิด ส่วนคนที่หิวจนท้องส่งเสียร้องในเวลาเช่นนี้ก็รู้สึกอายจนต้องก้มหน้าเอาไว้ และความหวาดกลัวคนแปลกหน้าในตอนแรกก็หายวับไปกับความหิวเมื่อชายหนุ่มผมยาวคนนี้ไม่ได้มีท่าทีคุกคามหรือดูใจร้ายอย่างที่ตัวเองเคยพบเจอ
“หิวเหรอครับ...พี่ทำอาหารให้ทานเอาไหม??”
“ไม่เป็นไรฮะ หนูเกรงใจ”
“พี่ว่าทานอะไรสักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวปวดท้อง”
“กะ...ก็ได้ฮะ ขอบคุณนะฮะ”
“พี่ชื่อจองชินนะครับ แล้วหนูชื่ออะไร?”
“ชื่อเซฮุนฮะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องเซฮุน”
“ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันฮะ...พี่จองชิน ^-^ ”
เด็กน้อยผู้หิวโหย...ถูกเจ้าของร้านอาหารพาเข้ามาด้านหลังของร้าน แล้วเริ่มทำเมนูง่ายๆด้วยความตั้งใจ ผักต่างๆที่หยิบออกมาจากตู้เย็นและล้างแล้วเรียบร้อย ถูกพ่อครัวหั่นใส่ชามแก้วใบใหญ่เอาไว้แล้วตามด้วยกุ้งปรุงสุกตัวโตที่ทำให้ท้องของเด็กอายุ 16 ปีส่งเสียงร้องออกมาได้อีกครั้ง มือหนา...เทซอสสูตรลับเฉพาะของทางร้านใส่ลงไปในชามแก้ว แล้วคลุกให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันก็เป็นอันเสร็จสิ้นอาหารมื้อพิเศษ
สลัดกุ้งในซอสครีมเนื้อเนียนสีขาว...ถูกนำออกมาวางบนโต๊ะด้านนอกพร้อมกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในยามวิกาล ชานหนุ่มผมยาว...ไม่เคยมานั่งมองใครทานอาหารที่ร้านของตัวเองแบบนี้มาก่อน เพราะวันวันก็อยู่แต่ในครัวและช่วยลูกน้องทำอาหารจนกว่าจะปิดร้าน
“อร่อยมากเลยฮะ” เอ่ยชมพ่อครัวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยที่ไม่รู้เลยว่าปากของตัวเองมันเปื้อนไปด้วยซอสสีขาว
“กินช้าๆก็ได้ครับน้องเซฮุน” หยิบทิชชู่ในกล่องรูปปลาดาวยื่นให้เด็กน้อยใช้เช็ดปาก แต่ดูเหมือนว่าความหิวจะทำให้เด็กคนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากอาหารที่อยู่ในจาน
“แล้วทำไมพี่จองชินถึงยังไม่ปิดร้านละฮะ?” เป็นความสงสัยที่เก็บไว้มานาน แถมการได้ทานสลัดกุ้งแสนอร่อยก็พาให้เจ้าตัวลืมเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย
“ปิดแล้วครับ...แต่กำลังจะเก็บร้าน แล้วก็เตรียมของไว้สำหรับวันพรุ่งนี้” การเป็นทั้งเจ้าของร้าน และพ่อครัวมันทำให้จองชินไม่สามารถกลับไปพักผ่อนได้เหมือนกับลูกน้องในร้าน เพราะเขาต้องเตรียมรวมถึงตรวจทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะเปิดร้านอีกครั้งในวันถัดไป
“หนูขอโทษนะฮะที่เข้ามารบกวน พอดีหนูเห็นประตูมันเปิดอยู่ หนูก็เลยเดินเข้ามาดู แล้วร้านของพี่จองชินก็สวยมากๆเลยฮะ อาหารก็อร่อย” ตักกุ้งตัวสุดท้ายเข้าปาก พร้อมกับทำหน้าหงอยเมื่อรู้ว่าตัวเองทำให้เจ้าของร้านต้องมาวุ่นวายกับการทำอาหารให้เขาทั้งๆที่ร้านก็ปิดให้บริการแล้ว
“น้องเซฮุนไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่ไม่ได้ลำบากอะไร แล้วน้องเซฮุนอยากทานของหวานไหมครับ ร้านพี่มีไอติมด้วยนะ!!” เห็นเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มทานสลัดจนหมดจานด้วยความอร่อย เจ้าของร้านอาหารอย่างเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแนะนำของหวานที่ทำขึ้นเอง และเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกผิดของเด็กตรงหน้าให้เลิกคิดถึงเรื่องที่เจ้าตัวเดินเข้ามาในร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนคนที่ชอบไอศกรีมรองลงมาจากกุ้งตัวโตๆ...ก็รีบตอบรับสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารแนะนำด้วยการพยักหน้า และยิ้มจนเห็นเขี้ยวสวยด้วยความดีใจเพราะมันเป็นของหวานสุดโปรด ตาเรียวเป็นประกายเมื่อเห็นสีสันของไอศกรีมที่วางเรียงอยู่ในตู้กระจก แถมยังได้ตักเองตามความชอบใจอีกด้วย และกิริยาท่าทางที่แสดงถึงความสุขของเด็กที่ชื่อเซฮุนมันก็ทำให้เจ้าของร้านอย่างจองชินมีความสุขตามไปด้วย
“อร่อยไหมครับน้องเซฮุน?”
“อร่อยฮะ!!”
“พี่ทำเองเลยน้าาา....”
“จริงเหรอฮะ?....ว้าวววว พี่จองชินเก่งจัง สุดยอดไปเลยฮะ”
“แล้วคืนนี้น้องเซฮุนจะได้กลับบ้านกี่โมงครับ...แฟนทำงานเสร็จหรือยัง???”
“หนูลืมไปเลยฮะ...แย่แล้ว แย่แล้ว!!! คุณคิมต้องหงุดหงิดมากแน่ๆ ToT ”
“ใจเย็นๆครับน้องเซฮุน”
“ขอบคุณพี่จองชินมากๆนะฮะที่ทำอาหารให้หนูทาน แล้วพี่จองชินจะกลับหรือยังฮะ...หนูจะไปเอาตังค์ที่คุณคิมมาจ่ายค่าอาหารกับไอติม”
“ไม่เป็นไร...พี่เลี้ยง”
“ได้ไงฮะ...ของซื้อของขาย?!!”
“งั้นนนน...พี่ขอไปดูปลาด้วยคนได้ไหม แลกกันไง?”
“ได้สิฮะ...พี่จองชินตามหนูมาเลย!!”
ได้ทานของอร่อย...จนลืมไปเลยว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ แต่การได้พบกับเจ้าของร้านอาหารอย่างจองชินมันก็ทำให้น้องปลาได้รู้ว่าคนแปลกหน้าก็ไม่ได้ใจร้ายไปหมดทุกคน ความหวาดระแวง ความกลัว การไม่ไว้ในใจใครนอกจากคนครอบครัวมันเริ่มจางหายลงไปได้บ้างเมื่อเจอกับผู้ชายคนนี้ และการพาคนที่ตัวเองเรียกว่า “เพื่อนใหม่” มาดูบ้านปลาหลังโตก็เพราะอยากให้จองชินได้เห็นความสวยงามของสัตว์น้ำทั้งหลายที่มันช่างคล้ายกับบรรยากาศและของที่ถูกตกแต่งอยู่ในร้านอาหารสีน้ำทะเลของหนุ่มผมยาว
01.42 น.
เวลาล่วงเลยเข้าสู้วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าๆ...และการติดตั้งตู้ปลาก็ไม่ได้มีปัญหาให้ต้องหนักใจ แต่พอจะใส่เจ้าพวกหางสวยลงในตู้ หัวหน้าทีมอย่างจงอินกลับหาตัวแฟนเด็กไม่เจอ ดวงตาคมกริบ...กวาดมองไปรอบๆบริเวณที่เขาทำงานอยู่ด้วยความร้อนใจ และโกรธตัวเองที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับสิ่งที่ทำจนไม่ทันได้สังเกตว่าน้องปลาไปไหน? อยากได้อะไร? หรือต้องการสิ่งใด??
“มึงเอาปลาใส่ตู้ได้เลย กูจะไปตามหาน้องปลาที่รถ!!”
“น้องอยากทำเองไม่ใช่เหรอลูกพี่? ผมว่ารอก่อนไหม? เดี๋ยวน้องเสียใจ!!”
“มึงได้เสียใจแน่ เพราะกูจะไล่มึงออก จะทำหรือไม่ทำ?!!”
“คร้าบบบ...ทำแล้วค้าบบบบบ”
คนเป็นลูกน้อง...ค่อยๆตักปลาที่เตรียมไว้ในถังใบใหญ่ใส่ลงในตู้ทีละตัวทีละตัวด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะถูกไล่ออก บ้านปลาขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำไว้ถึง 1,500 แกลอนและต้องใส่สัตว์น้ำไว้เป็นจำนวนถึง 100 ตัว รวมถึงของตกแต่งอย่างเช่นปะการังเทียม สาหร่าย ก้อนหินและทรายก็ใกล้จะเสร็จบูรณ์เต็มที แต่จำนวนของสัตว์น้ำที่มากขนาดนั้นก็ทำให้ลูกน้องต้องช่วยกันนำเจ้าหางสวยใส่ลงในตู้ เพราะเวลาที่เดินไปในแต่ละวินาทีมันสำคัญต่อชีวิตของปลาทุกชนิด
แต่.......
“คุณคิมมมมมม...หนูมาแล้วววววววววว!!!!”
ยังไม่ทัน...ที่เจ้าของชื่อจะเดินออกไปถึงลานจอดรถ เสียงของคนที่ตัวเองกำลังจะไปตามหาก็ดังขึ้นเสียก่อน แถมในมือยังถือถ้วยที่บ่งบอกได้ดีว่าข้างในนั้นก็คือของหวานสุดโปรด จงอินรีบวิ่งเข้าไปกอดปลาตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมอกเพราะรู้สึกเป็นห่วง รวมถึงอยากรู้ว่าแฟนเด็กของเขาหายตัวไปไหน และแรงของการโอบกอดด้วยความเป็นห่วงก็ทำให้ถ้วยไอศกรีมหล่นลงบนพื้น และดีที่มันไม่เหลือความอร่อยไว้แล้ว...ไม่อย่างนั้นน้องปลาคงรู้สึกเสียดายอยู่ไม่ใช่น้อย
“ไปไหนมาครับน้องปลา พี่เป็นห่วงแทบแย่??!!!”
“ไปเดินเล่นมาฮะ แล้วคุณคิมทำบ้านปลาเสร็จหรือยัง? หนูอยากเอาเพื่อนๆใส่ในตู้แล้วฮะ?”
“เสร็จแล้วครับ น้องปลาเอาเพื่อนใส่ตู้ได้เลย”
“เอ่ออ...คุณคิมฮะ หนูขออนุญาตพาเพื่อนใหม่มาดูปลาด้วยนะฮะ!!”
“เพื่อนใหม่???!!”
เจ้าของร้านอาหาร...มองทุกการกระทำของหนุ่มผิวเข้มในเสื้อผ้าสีสดอย่างเข้าอกเข้าใจ เพราะถ้าแฟนของตัวเองหายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เขาคงรู้สึกไม่ต่างไปจากผู้ชายคนนี้เช่นกัน และการเรียกชื่อที่ดูเหมือนจะพิเศษกว่าที่ชื่อที่เขารับรู้ก็คงเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันตามประสาคู่รัก หนุ่มผิวเข้มถูกเรียกว่า คุณคิม ส่วนเด็กผู้หิวโหยและแอบเดินเข้ามาสำรวจร้านอาหารของเขาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วก็ถูกเรียกว่า น้องปลา ซึ่งมันดูน่ารักเหมือนกับเจ้าตัวไม่มีผิด
และสิ่งที่จองชินคิดไว้...มันก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่เห็นเพราะเด็กหน้าตาจิ้มลิ้ม ตัวผอมบาง ผิวขาวเนียน แบบน้องเซฮุนก็มีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ และชื่อของคนที่เจ้าตัวเอ่ยถึงก็น่าจะเป็นชื่อของผู้ชายมากกว่า ส่วนสิ่งที่เขาคิดไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ...เด็กคนนี้อาจมีแฟนเป็นผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่สุดท้ายแล้ว...น้องเซฮุนก็มีแฟนเป็นผู้ชายและดูเหมือนว่าช่วงวัยของคนทั้งคู่จะห่างกันมากอยู่พอสมควร
“นี่ฮะ...เพื่อนใหม่ของหนู ชื่อพี่จองชิน”
“สวัสดีครับ...ผม อีจองชิน ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”
(ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมคิมจงอินนะครับ...เป็นแฟนของน้องปลา)
เห็นสายตา...ของหนุ่มผิวเข้มที่มองมาอย่างสงสัย เจ้าของร้านอาหารจึงรีบแนะนำตัวเองอีกครั้ง และกล่าวคำที่แสดงถึงความเป็นมิตรเพราะนอกจากจะถูกมองด้วยความสงสัยแล้ว เขายังถูกมองด้วยความหึงหวงอีกด้วย มือหนา...ที่กอดเอวของน้องเซฮุนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย และคิ้วบนใบหน้าคมเข้มที่ขมวดกันจนยุ่งพร้อมกับการแนะนำตัวเองของผู้ชายในเสื้อยืดสีชมพูว่าเป็นใคร? มาจากไหน? ทำงานอะไร? ก็เป็นตัวฟ้องจองชินได้เป็นอย่างดีว่าใครกำลังรู้สึกเช่นไร?
แต่....
“คุณคิมไปทำงานต่อเถอะฮะ!!...หนูจะพาพี่จองชินไปดูปลา!”
การที่ปลาตัวน้อย...สะบัดกายออกจากอ้อมกอดของคุณคิม แล้วเดินไปจูงมือคนที่เพิ่งแนะนำตัวเองด้วยความเป็นมิตรอย่างจองชินกลับกลายเป็นการสร้างศัตรูให้เกิดขึ้นกับใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มผมยาวเดินตามแรงดึงมาจนถึงตู้ปลาขนาดใหญ่และเมื่อได้เห็นสัตว์น้ำมากมายแหวกว่ายอยู่ด้านในด้วยสีสันที่หลากหลาย...มันก็ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจได้มากกว่าที่เคยคาดคิดเอาไว้
“สวยมากเลยครับน้องเซฮุน”
“แฟนหนูเก่งไหมฮะ แล้วปลาพวกนี้ก็มาจากร้านของหนูเองนะฮะ”
“ว้าววววว...ถ้าอย่างนั้นน้องเซฮุนก็ต้องรู้จักชื่อปลาทั้งหมดนี้เลยใช่ไหมครับ?!!”
“ใช่ฮะ!!”
“งั้นนน...ตัวนี้ชื่ออะไรครับ”
"Damsel fish"
“แล้วตัวนี้ล่ะครับ??”
" Anthias "
“ตัวนี้?”
"Rabbit fish"
“ตัวนี้?”
"Mandarin fish"
...
...
...
...
...
เสียงถามตอบชื่อของสัตว์น้ำในตู้ปลา...และท่าทางที่ดูมีความสุขของแฟนเด็กมันทำให้คนที่ถูกผลักไส และกำลังยืนดูสถานการณ์ของความเปลี่ยนแปลงรู้สึกไม่พอใจ ทำไมปลาตัวน้อยถึงกล้าพูดคุย กล้าเข้าใกล้ กล้าพาคนแปลกหน้ามาทำความรู้จักกับเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากคนในครอบครัว ใช่ว่าไม่ชอบ...ที่เห็นน้องปลามีความสุข แต่การมีความสุขอยู่กับคนอื่นมันช่างหน้าหงุดหงิดใจสำหรับคนเป็นแฟนอย่างคิมจงอิน
โครมมมมมม!!!!!
“เบามือด้วยครับคุณคิม...น้องปลาแค่มีเพื่อนใหม่นะครับ ไม่ได้มีผัวใหม่”
“เงียบปากไปเลย ถ้าน้องปลามีผัวใหม่ กูจะยุให้เจ๊แบคมีผัวใหม่เหมือนกัน!!”
“อ้าวว...ไอ้สัด!! เดี๋ยวกูฆ่าทิ้งทั้งพี่ทั้งน้องเลย”
มันเป็นสิ่งที่สร้างความแปลกตาแปลกใจให้ชานยอลได้เช่นกัน...เพราะการที่น้องปลายอมรับในตัวจงอิน รวมถึงคนตระกูลคิมมันค่อนข้างใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่าจะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ แต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้กลับใช้เวลาเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แถมยังไม่มีความหวาดระแวงให้เห็นเลยสักนิด ส่วนคนที่เพิ่งเดินกลับมาจากการตามดูสถาการณ์ต่างๆของแฟนเด็กก็ยังคงมีความหงุดหงิดอยู่ภายในใจ และโยนอุปกรณ์ในการติดตั้งตู้ปลาอย่าง ไขควง ตะปู น็อตใส่ไว้ในกล่องเหมือนอยากระบายอารมณ์มากกว่าการเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง
ไม่รู้จะโทษใคร...เพราะการที่ตัวเองต้องการให้แฟนเด็กได้เปิดโลกใบใหม่ ได้ออกมาเที่ยวหรือได้พบปะผู้คนภายนอกแทนการอยู่แต่ในบ้านและเล่นกับเจ้าพวกหางสวยในบ่อน้ำมันก็คือความคิดของเขาเอง จงอินอยากให้น้องปลาได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ได้เที่ยวได้เรียนรู้ในสิ่งที่อยู่นอกเหนือตำราเรียนและกล้าที่จะเผชิญโลกที่ไม่มีคนในครอบครัวอย่างเฮียคริสกับพี่อี้ชิงคอยโอบอุ้ม เพราะวันหนึ่งข้างหน้า...น้องปลาก็ต้องไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งการเรียนในระดับนั้นมันต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้และยังเป็นสังคมที่ต่างไปจากเดิม
แต่พอมาวันนี้ ตอนนี้ ขณะนี้...จงอินกลับหงุดหงิดกับเรื่องที่ตัวเองอยากให้เป็น การที่น้องปลาไม่กลัวคนแปลกหน้า การเดินจูงมือกับผู้ชายคนอื่น การมีเพื่อนใหม่ การไว้ใจใครสักคน ทุกๆอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปมันทำให้จงอินรู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากพาน้องปลาออกไปไหนอีกแล้ว
“น้องปลาครับ...พี่เก็บของเสร็จแล้วครับ เรากลับบ้านกันเถอะ!!”
“ตู้ปลาสวยมากเลยครับคุณจงอิน”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับคุณจองชิน แต่ตอนนี้ผมต้องพาแฟนกลับบ้านก่อน”
“เชิญครับ...แล้วถ้ามีโอกาสได้พบกันอีก ผมหวังว่าร้านอาหารของผมจะได้ต้อนรับคุณจงอินกับน้องเซฮุนนะครับ”
ไม่ตอบรับ...แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ พร้อมกับโค้งตัวเพื่อเป็นการกล่าวลาไปตามมารยาทที่ควรทำ จงอินมองออกและรู้ว่าเจ้าของร้านอาหารไม่ได้คิดร้าย หรือหวังในตัวของน้องปลาเหมือนอย่างที่ผู้ชายคนอื่นต้องการ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น...เขาก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ดีเพราะน้องปลาดูเหมือนจะชอบเพื่อนใหม่คนนี้มากจริงๆ
“หนูจะมากินไอติมอีกนะฮะ...ไอติมร้านพี่จองชินอร่อยที่สุด ^0^ ”
“Ocean Restaurant ยินดีต้อนรับน้องเซฮุนเสมอครับ”
“บ๊าย บายนะฮะพี่จองชิน...ฝันดีนะฮะ”
“ฝันดีครับ...น้องเซฮุน”
เมื่อร่ำลากันจนพอใจและไม่เป็นที่พอใจของใครบางคน...ก็ถึงเวลาของทีมงานที่เดินทางมาติดตั้งตู้ปลาจะได้กลับไปพักผ่อนกันเสียที รถแวน รถบรรทุก รถตู้และรถทุกๆคันต่างทยอยขับออกจากห้างสรรพสินค้าเพื่อมุ่งหน้าไปที่บริษัทบ้านปลาตามเดิม อีกไม่กี่ชั่วโมง...พระอาทิตย์ก็ขึ้นเหมือนเฉกเช่นทุกวันและเด็กที่นอนดึกเป็นครั้งแรกก็หลับไปทันทีเมื่อเข้ามานั่งในรถ
เป็นวันที่เหนื่อยแสนเหนื่อยกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องของหนุ่มผมยาวที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร ทุกๆเรื่องมันสูบพลังของจงอินไปมากเหลือเกิน และเรื่องที่ทำให้เขานิ่งนอนใจต่อไปไม่ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องของปลาตัวน้อย เพราะการที่แฟนเด็กของเขายอมเปิดใจให้ใครง่ายๆหรือกลัวคนแปลหน้าน้อยลงมันอาจนำไปสู่การมีเพื่อนใหม่อย่างเช่นในวันนี้ และถ้าเพื่อนใหม่...มันอยากเปลี่ยนสถานะมาเป็นอย่างอื่น น้องปลาก็คงรู้ไม่ทันเล่ห์เลี่ยมของคนที่คิดไม่ซื่อ
Rrrrrr !!
Rrrrrr !!
Rrrrrr !!
“สวัสดี...จงอิน”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจเป็นภัยต่อความสุขของตัวเอง...และเพื่อปกป้องปลาตัวน้อยให้พ้นจากคนใจร้าย จงอินจึงจำเป็นต้องทำบางอย่างก่อนที่มันจะสายเกินแก้ มือหนา...หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดเบอร์ของบุคคลสำคัญท่านหนึ่งพร้อมบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที และถึงแม้จะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม แต่ความเห็นแก่ตัวหรือเพราะเหตุใดก็ตามมันก็ผลักดันให้คิมจงอินต้องทำในสิ่งที่คนปลายสายก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ฟัง
(สวัสดีครับคุณลุงจีโฮ...ผมจะขอ หมั้น น้องปลาไว้ก่อนได้ไหมครับ??)
“......!!!!??”
100%
กลับมาแล้วค้าาาา...ขอโทษที่หายไปนานมากๆ (พนมมือ)
และนี่...ก็คือเจ้าของร้านอาหารค่ะ
คุณคิมจะได้หมั้นไหมเอ่ยยย??
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณที่ยังคงคิดถึงกันเสมอ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณจริงๆจากใจค่ะ
Cr : ภาพทั้งหมดจาก...sbssports.sbs.co.kr , aliexpress.com และ shark Painting by Pinterest The Gilded Polka Doton Etsy
รัก ♥
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น