ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) น้องปลา (Kaihun Ft.Chanbaek,Krislay)

    ลำดับตอนที่ #19 : ปลาตัวที่ 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.06K
      37
      18 เม.ย. 64


    ปลาตัวที่ 15









     

    17.20 น.


    VROOMMM !! 

    VROOMMM !!

     

                รถแวนคันใหญ่...ที่มักใช้สำหรับบรรทุกสัตว์น้ำไปดูแลต่อที่บ้านก่อนใส่ลงตู้ปลาของลูกค้า  แล่นไปบนถนนด้วยความเร่งรีบเพราะคืนนี้เจ้าของรถต้องเดินทางไปทำงานแถวชานเมือง  และถ้าวันนี้ไม่ใช่วันศุกร์เขาก็คงไม่ต้องรีบมากอย่างที่เป็นอยู่  ขายาวสมส่วน...เหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวได้ไวกว่าเดิมเมื่อเห็นการจราจรข้างหน้าไม่ได้ติดขัดเหมือน  20  นาทีที่ผ่านมา  และเมื่อถึงที่หมายมือหนาจึงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาในบริษัทที่เขาต้องมาทุกวันศุกร์เพื่อรับแฟนเด็กกลับไปด้วยกัน


    บริษัท  มีปลา

     

                ขับเข้ามาอย่างไร...ก็จอดไว้ในสภาพนั้น  ล้อเบี้ยว  วงเลี้ยวไม่เข้าทางหรือจอดแบบขวางหูขวางตาคนอื่นเขาก็ไม่สนเนื่องจากมันรีบเกินกว่าจะมองกระจกข้างกระจกหน้าและจอดให้เข้าที่เข้าทางเหมือนกับคันอื่นๆ  ชุดหมีที่ใส่ทำงานมาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้ถอดเพราะเมื่อแพ็คของที่ต้องใช้ในงานคืนนี้เรียบร้อยเขาก็รีบขับรถออกมาจากบ้าน  และตรงมารับลูกชายคนเล็กแห่งอาณาจักรร้านขายปลาที่ใหญ่ที่สุดทันที

     

                “สวัสดีค่ะ...คุณจงอิน”

     

                “สวัสดีครับ...แล้วน้องปลาไปไหนครับ??”

     

                “พาลูกค้าไปเลือกปลาที่โซน  ค่ะ”

     

                “.......????!

     

                วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาถึงหน้าเคาน์เตอร์...แต่กลับไม่พบคนที่ตัวเองอยากเจอ   แถมยังต้องมารับรู้ในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะปกติหน้าที่การพาลูกค้าไปชมเจ้าหางสวยตามโซนต่างๆในร้านก็มักจะเป็นลูกจ้างหรือไม่ก็เป็นเฮียคริสกับพี่อี้ชิง  แต่ทำไมวันนี้!!กลับกลายเป็นน้องเล็กของบริษัทที่ต้องมาทำหน้าที่นี้

     

                “เชิญคุณจงอินเข้ามารอข้างในก่อนนะคะ  เดี๋ยวดิฉันจะไปเตรียมของว่างมาให้”

     

                “ไม่เป็นไรครับ  ผมจะไปหาน้องปลา  ขอบคุณมากนะครับ”

     

                “เดี๋ยวค่ะคุณจง  อะ...อิน!!!

     

                ไม่ฟังเสียงห้าม...ที่ตะโกนออกมาจากในเคาน์เตอร์และรีบเดินไปที่โซนบีทันที  เพราะอยากรู้ว่าทำไมปลาตัวน้อยของเขาต้องมาทำหน้าที่พาลูกค้าเลือกดูสัตว์น้ำต่างๆด้วยตัวเองทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน  ลูกค้าคนนี้เป็นใคร?  พิเศษมากแค่ไหน?  เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?  อายุเท่าไหร่?  ซึ่งทุกความสงสัยมันต้องได้รับความกระจ่าง  ใบหน้าคมเข้มที่ดูขึงขังจนน่ากลัวบวกกับการแต่งกายที่ไม่เข้าพวกกับพนักงานในบริษัทแห่งนี้  มันกำลังทำให้ลูกค้าที่เดินเลือกปลาอยู่ในร้านอดมองด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้

     

     

                ร้านขายปลาของแฟนเด็ก...จะแบ่งออกเป็น  3  โซน  A  B  C  ซึ่งแต่ละโซนจะมีสัตว์น้ำที่แยกขายกันอย่างชัดเจนเช่นโซนบี...จะเป็นพวกปลาน้ำเค็ม  ส่วนโซนอื่นๆจะเป็นปลาน้ำจืดและปลาสายพันธุ์หายากที่อาจมีจำนวนน้อยกว่าที่ลูกค้าต้องการจนต้องสั่งจองเอาไว้ล่วงหน้า  จงอินรู้ดีเพราะต้องมาเลือกปลาให้ลูกค้าของตัวเองอยู่บ่อยๆและต้องนำกลับไปดูแลที่บ้านก่อนจะใส่ลงในตู้ปลาตามที่ลูกค้าต้องการ

     

                “น้องเซฮุนครับ...ปลาตัวนี้ชื่ออะไรครับ  แล้วเลี้ยงยากหรือเปล่า  ผมเห็นว่าสีมันสวยดี??”

     

                “ชื่อ  Pygymy  angle  fish  ฮะ...เลี้ยงไม่ยาก  แล้วก็ไม่มีนิสัยก้าวร้าวกับปลาตัวอื่นๆด้วยฮะ  แต่ถ้าจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้...ในตู้ปลาของคุณมิโนจะต้องใส่ก้อนหินไว้เยอะๆเลยนะฮะเพราะมันจะชอบตอดก้อนหินตลอดเวลา”

     

                “ตอด...ก้อนหิน!!  งั้นผมเอาเจ้านี่  10  ตัวเลยครับ”

     

                ได้ยินเสียงใส...ชี้แจ้งชื่อปลาที่มีลำตัวสีน้ำเงินแถบเหลืองให้ลูกค้าฟังโดยที่ไม่คิดจะเข้าไปรบกวนเวลาการทำงานของแฟนเด็ก  แต่...ก็อดไม่ได้ที่จะเดินตามดูอยู่ห่างๆเพราะลูกค้าคนนั้นแทบไม่ได้มองเจ้าหางสวยในตู้เลยสักนิด  แถมการซักถามในเรื่องที่สงสัยก็ดูเหมือนจงใจจะทำให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับลูกเจ้าของบริษัทมากกว่า

     

                “แล้วตัวนี้ละครับน้องเซฮุน?”

     

                “Trigger  ฮะ...แต่ตัวนี้คุณมิโนไม่ควรซื้อไปใส่ตู้นะฮะเพราะมันก้าวร้าว  แล้วอีกอย่าง...ปลาที่คุณมิโนเลือกไปอย่าง  Angle  fish  กับ  Butterfly  fish  ก็มีขนาดเล็กเพราะฉะนั้นเจ้า  Trigger  มันไม่ควรไปอยู่ในตู้นะฮะ!!

     

                “งั้นผมเอาเท่านี้ก็ได้ครับ  หรือว่าาา...น้องเซฮุนมีตัวอื่นจะแนะนำผมอีก?”

     

                “ถ้าเป็นตู้ปลาขนาดเท่าที่คุณมิโนแจ้งไว้...หนูว่าแค่นี้ก็น่าจะเหมาะสมแล้วนะฮะ”

     

                “น้องเซฮุนว่ายังไง...ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ”

     

                “สรุปเป็น...Pygymy  angle  fish  10  ตัว   Angle  fish  20  ตัว  แล้วก็  Butterfly  fish  5  ตัวนะฮะ”

     

                “ครับ...ขอบคุณน้องเซฮุนมากนะครับ”

     

                “บริษัทมีปลายินดีหะ..ให้  อ๊ะ!!!!

     

    ปึ่กกก!!!

     

                “น้องเซฮุนนนน!!!!!!

     

                เหมือนกำลังดูซีรีส์...ฉากที่นางเอกกำลังเสียการทรงตัว  แล้วดึงพระเอกเอาไว้จนตัวเองล้มลงไปนอนอยู่บนอกของพระเอก  แถมอุบัติเหตุในครั้งนี้  นางเอกยังถูกหอมแก้มไปโดยไม่ได้ตั้งใจ  แต่ภาพที่คนในชุดหมีเห็นอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ในซีรีส์...!!!!!!!!!!

     

                “ขะ..ขอบคุณนะฮะคุณมิโน”

     

                “ไม่เป็นไรครับ...แล้วน้องเซฮุนเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

     

                “ไม่เจ็บฮะ...ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ”

     

                คนที่ใส่เสื้อผ้าดูมอมแมม...รีบก้าวขาออกไปให้ถึงเหตุการณ์ที่เห็นอยู่เมื่อครู่ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ  เพราะถึงแม้จะเห็นกับตาว่ามันเป็นอุบัติเหตุ  แต่การที่ปลาตัวน้อยของเขาต้องเสียแก้มข้างหนึ่งให้ลูกค้าสัมผัส  มันช่างเป็นภาพที่เหมือนโดนมีดกรีดลึกเข้าไปในหัวใจของคนมองจนเริ่มเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่  อุตส่าห์ไม่เข้าไปวุ่นวายในการทำงานของแฟนเด็ก  แต่สุดท้าย...การรู้กาลเทศะ  การให้เกียรติ  การไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกันก็ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

     

                “น้องปลาครับ...พี่มารับแล้วครับ”

     

                “คุณคิม!!...มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?!!!!

     

    ฟอดดดด!!!

     

                คนหวงแฟน...รีบคว้าแฟ้มสีชมพูของน้องปลามาถือไว้พร้อมใช้มือข้างที่เหลือประคองเอวบางไว้ในอ้อมแขน  แล้วก้มใบหน้าคมเข้มส่งจมูกทู่เป็นเอกลักษณ์หอมลงบนขมับปลาตัวน้อยด้วยความเป็นห่วงปนอยากแสดงความเป็นเจ้าของให้ใครบางคนรู้ว่า...ลูกชายคนเล็กของบริษัทแห่งนี้เป็นของใคร!!!

     

                “น้องปลาเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”

     

                “คะ...คุณคิมเห็นด้วยเหรอฮะ!?”

     

                “พี่ถามว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า!!

     

                “เจ็บแขนฮะ U_U ”

     

                ตอนนี้...คนที่เหมือนเป็นธาตุอากาศกลับกลายเป็นลูกค้าที่ถูกต้อนรับมาเป็นอย่างดีตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน  ส่วนคนที่รู้สึกว่าตัวเองเพิ่งถูกตะคอกด้วยความไม่พอใจก็ไม่กล้าโกหกอย่างที่พูดกับลูกค้า  เพราะการเดินสะดุดกล่องลังที่ใช้แพ็คปลาจนหกล้มลงไปนอนอยู่บนอกของผู้ชายคนอื่นมันทำให้เจ็บทั้งตัว  และเจ็บทั้งใจ  แถมแขนข้างหนึ่งยังกระแทกไปกับพื้นกระเบื้องเต็มแรง  แต่!!ถ้าไม่ได้อกกว้างๆของลูกค้าคนนี้ช่วยรับร่างกายของเขาเอาไว้...น้องปลาคงมีอาการบาดเจ็บมากกว่านี้

     

                “พี่เฉินครับบบบบ...มาช่วยดูแลลูกค้าแทนน้องปลาหน่อยครับบบบบ!!!!!

     

                เจ้าของชื่อ...ที่ถูกเรียกด้วยเสียงที่ดังจนคนทั้งร้านหันมามองรีบเดินมาที่ต้นเสียงทันที  เพราะขืนชักช้ากว่านี้มีหวังสัตว์น้ำที่ขายอยู่ในร้านคงตกใจตายไปก่อนที่จะได้อวดความสวยงามของพวกมัน  เฉิน...ที่เดินเข้ามาในโซนบีเพื่อนำปลาไปแพ็คตามบิลที่ถูกปริ๊นออกมาเมื่อสิบนาทีที่แล้ว  ก้าวขาฉับๆมาหาลูกค้า  พร้อมผายมือเป็นเชิงให้เดินไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินตามขั้นตอนในการซื้อขาย  ส่วนคนที่ใช้น้ำเสียงแข็งกร้าวเรียกเขาอยู่เมื่อครู่...กลับอุ้มลูกชายคนเล็กของบริษัทเดินหายไปทางด้านหลังโดยไม่เกรงใจสายตาลูกค้าเลยแม้แต่น้อย

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

                “อ้าว...จงอิน?!!  มาตั้งแต่เมื่อไหร่  แล้วน้องปลาเป็นอะไร?”

     

                “น้องสะดุดกล่องลังหกล้มครับ  ผมไปรับมาที่โซนบี”

     

                “แล้วบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า  ให้พี่ตามหมอไหม??”

     

                “ไม่เป็นอะไรมากครับ...เดี๋ยวผมดูแลน้องปลาเอง  พี่อี้ชิงไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

     

                “ขอบใจนะจงอิน...งั้นพี่ฝากน้องปลาด้วยนะ  วันนี้พี่งานยุ่งมากเลย”

     

                คนเป็นพี่ชาย...รู้สึกตกใจเมื่อเห็นคนเป็นน้องถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของแฟนหนุ่มผิวเข้ม  เจ้าตัวจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้งานในบริษัทมันยุ่งเกินกว่าจะดูแลน้องชายกับสามีสุดหล่อได้อย่างที่เคยทำ  ในวันที่  26  ของทุกเดือน...จะมีปลาล็อตใหม่มาส่งที่ร้านเป็นจำนวนมาก  ซึ่งลูกชายคนโตของบริษัทอย่างอี้ชิงก็ต้องตรวจนับ  แล้วเช็คสัตว์น้ำทั้งหมดว่ามันตรงกับที่สั่งไปหรือไม่  ทั้งชนิดของปลา  สี  ขนาด  จำนวน  ทุกอย่างต้องไม่ขาดไม่เกินและต้องไม่เกิดความเสียหายหรือตายเมื่อสัตว์น้ำทั้งหมดส่งมาถึงที่ร้าน

     

     

                ปลาจำนวน  100  ตัว...ที่ต่างสายพันธุ์  ต่างถิ่นที่อยู่และต่างชนิดมันทำให้อี้ชิงต้องตรวจนับอย่างละเอียด  พร้อมเช็คว่าพวกมันมีสุขภาพที่สมบูรณ์พอเพื่อการค้าขายหรือไม่  และถ้าตัวไหนมีความเสี่ยงในการรอดชีวิตไม่ถึง  60%  เขาก็ต้องแยกพวกมันออกมาดูแลไว้จนกว่าจะแข็งแรงเต็มร้อย  เพราะถ้าลูกค้าซื้อไป ทั้งๆที่พวกมันยังไม่ได้ปรับสภาพให้เคยชินกับความแปลกใหม่แล้วตายในระหว่างการค้าขาย...ร้านของเขาคงถูดพูดถึงในทางที่ไม่ดีแน่นอน

     

     

                เมื่อคนงานยุ่ง...ฝากฝังน้องชายให้หนุ่มผิวเข้มดูแลเรียบร้อย  เจ้าตัวก็รีบไปที่โซน  A  ต่อทันทีเพราะยังมีงานอีกมากมายให้ต้องจัดการ  ปกติวันศุกร์และเป็นเวลาที่ร้านใกล้จะปิดให้บริการมันก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว  แถมวันศุกร์นี้ยังตรงกับวันที่ร้านต้องตรวจนับปลาล็อตใหม่  งานจึงยุ่งกว่าวันศุกร์ทั่วๆไปของแต่ละสัปดาห์  ส่วนคนที่มารับแฟนเด็กกลับบ้าน...และได้มาเห็นภาพบาดตาบาดใจก็รีบอุ้มคนในอ้อมแขนขึ้นมาบนห้องนอนทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ปังงงง!!!!

     

                เจ้าของห้อง...ช่วยทำหน้าที่เปิดประตูเมื่อถูกอุ้มขึ้นมาถึงห้องนอน  แต่ตอนปิดกลับเป็นอวัยวะส่วนล่างของคนในชุดหมีที่ยกขึ้นถีบแผ่นไม้บานใหญ่จนมันเสียงดังสนั่นไปทั้งบ้าน  น้องปลารู้สึกกลัวกับสิ่งที่จงอินเป็นอยู่ในตอนนี้  เพราะไม่เคยเห็นใบหน้าคมเข้มที่ตัวเองหลงรักบึ้งตึงหรือแม้แต่การแสดงอารมณ์ไม่พอใจก็ไม่เคยเห็น  แถมการถูกตะคอกเมื่อตอนอยู่ที่โซนขายสัตว์น้ำก็ไม่เคยได้ยินเลยสักครั้งจนกระทั่งวันนี้

     

    มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณคิม???

     

                “พี่ขอดูแขนหน่อยครับน้องปลา!..แล้วเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า??”

     

                ก้มหน้างุด...และส่ายศีรษะเป็นคำตอบพร้อมหยดน้ำสีใสที่ไหลลงมาอาบแก้มเนียน  เพราะเมื่อถูกวางลงบนเตียงแล้วได้ยินเสียงทุ้มหนักเอ่ยถามอาการบาดเจ็บ  น้องปลาก็เริ่มเก็บซ่อนอาการหวาดกลัวเอาไว้ไม่ได้  คุณคิมที่แสนใจดีและอบอุ่นหายไปไหน  ทำไมผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆเขาตอนนี้ถึงมีท่าทีดุดันนัก!!???

     

                “ฮึกกก!!!  คุณคิม...ฮึกก!!

     

                “น้องปลาร้องไห้ทำไมครับ...เจ็บแขนใช่ไหม???!!

     

                ตกใจ...เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อที่ปะปนมากับเสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากอาบใบหน้าจิ้มลิ้ม  ไม่รู้ตัวเองเลยว่า...ปลาตัวน้อยไม่ได้เจ็บแขนถึงขั้นต้องไปพบแพทย์  แต่เป็นเพราะกิริยาท่าทาง  น้ำเสียง  รวมถึงการกระทำของคุณคิมต่างหากที่เป็นสาเหตุ  มือเรียวสวยปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ  แล้วโถมกายนอนทับคนที่ยังมีใบหน้าบึ้งตึงจนล้มหงายลงไปนอนบนเตียงนุ่มลายปลาหมึกสีฟ้า

     

    จุ้บบ!!!

     

                อวัยวะ...ที่มักใช้พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดประทับลงบนสันกรามคมอย่างออดอ้อน  เพราะปลาตัวน้อยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้คุณคิมอารมณ์ดีขึ้น  และไม่ทำกิริยาอาการที่ดูน่ากลัวเหมือนที่ผ่านมา  ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าท่าทางดุดันของตัวเองกำลังสร้างความหวาดกลัวให้คนที่นอนทับอยู่บนอกมากแค่ไหนก็รู้งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น  และยังเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของแฟนเด็กที่อาจซ้ำรอยเดิม  เพราะการโถมกายด้วยแรงที่มากขนาดนั้นมันคงทำให้น้องปลาเจ็บอยู่ไม่น้อย  แถมข้อมือข้างขวาก็เริ่มมีรอยแดงให้เห็น

     

    แต่!!เมื่อได้รับรอยจูบบนแก้มเพียงแผ่วเบา...มันก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวต่างๆหายเป็นปลิดทิ้ง

     

                “คุณคิมเป็นอะไรฮะ...อารมณ์ไม่ดีเหรอฮะ?”

     

                “พี่แค่หงุดหงิดนิดหน่อยครับ”

     

                “คุณคิมเสียงดังใส่หนู  แล้วก็ทำหน้าดุด้วยฮะ  หนูกลัว!

     

                “พี่ขอโทษครับ...ขอโทษ  ขอโทษจริงๆ”

     

                เพิ่งเข้าใจ...ว่าการที่ตัวเองพยายามข่มอารมณ์เอาไว้มันไม่ได้ผลเพราะทั้งกิริยา  ท่าทาง  น้ำเสียงที่คนบนอกพูดเมื่อครู่มันช่างดูน่ากลัวในสายตาของคนมอง  มือหนา...โอบกอดปลาตัวน้อยเอาไว้และลูบหลังไปมาคล้ายจะปลอบใจให้หายหวาดหวั่น  พร้อมเอ่ยขอโทษซ้ำๆกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

     

                “คุณคิมหายหงุดหงิดหรือยังฮะ”

     

                “หายแล้วครับ...พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้น้องปลากลัว”

     

                “ไม่เป็นไรฮะ  หนูไม่โกรธ...แต่คุณคิมอย่าหงุดหงิดอีกนะฮะ  หนูกลัว”

     

                “ครับ...พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ”

     

                “หนูรักคุณคิมนะฮะ”

     

    ฟอดดดด!!!!!

     

                โดนคนที่นอนทับอยู่บนอก...หอมแก้มฟอดใหญ่  และคำบอกรักที่มาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆที่เหมือนเป็นการตอบรับว่าหายหวาดกลัวแล้วจริงๆก็พาให้ใจของผู้ถูกกระทำเต้นไม่เป็นจังหวะ  และการกระทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้จงอินต้องพยายามปรับปรุงตัวให้มากกว่าที่เคยพยายาม  เพราะไม่ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ดูน่ากลัวหรือทำให้น้องปลาเสียน้ำตาอีกสักกี่ครั้ง  เด็กคนนี้ก็ไม่เคยโกรธเขาแม้แต่นิดเดียว...แถมยังยอมรับนิสัยแย่ๆของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     

    แต่พอนึกถึง  “ความโกรธ”  ก็ใช่ว่าคุณคิมไม่เคยได้รับจากปลาตัวน้อย  และถึงแม้จะเป็นการโกรธเพียงชั่วครู่ชั่วคราวมันก็ทำให้เขาจำไปตลอดชีวิต

     

                ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ผ่านไปนานมากแล้วก็ตามที  แต่คำว่า...เกลียด  การไม่อยากเห็นหน้า  การถูกไล่ออกไปจากบ้าน  ทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของน้องปลามันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท  การโกหก...เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายใจมันเกือบทำให้ความรักที่ตัวเองได้มาครอบครองอย่างยากลำบากหลุดลอยไป  เสียงการต่อว่าต่อขานด้วยความโกรธที่หน้าร้านไอศกรีม  น้ำตาแห่งความเสียใจที่ไหลอาบแก้มเนียน  ความผิดหวังที่ส่งผ่านมาจากดวงตาคู่สวย  ทุกๆสิ่งที่จงอินรับรู้ได้ในวันนั้นมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็น

     

    ปลาตัวน้อย...จะโกรธเขากี่ครั้งก็ได้  แต่อย่าเกลียดกันเลยเพราะคุณคิมคงรับไม่ไหว  T^T

     

                “พี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะครับ  น้องปลาไม่เหม็นเหรอไง  หื้มม?”

     

                “เหม็นฮะ!!

     

                “.........!!!

     

                “แต่หนูทนด้ายยยย (:

     

    ฟอดดดด!!!

     

                มัวแต่ดีใจ...ที่คนบนอกไม่โกรธ  แถมยังถูกหอมถูกจูบอยู่นานสองนานจนลืมไปเลยว่าตัวเองสกปรกเกินกว่าจะมานอนบนเตียงนุ่มแสนน่ารักสีหวาน  ส่วนน้องปลา...ก็ไม่ได้เหม็นกลิ่นกายเจ้าของอกกว้างเลยสักนิด  แต่เหม็นกลิ่นสีกลิ่นควันที่ติดอยู่ตามชุดหมีมากกว่า  และกลิ่นต่างๆพวกนี้ก็ทำให้น้องปลารู้ได้ทันทีว่าจงอินงานเยอะแค่ไหน

     

                “แล้วทำไมวันนี้น้องปลาต้องออกไปดูแลลูกค้าด้วยครับ  พี่ๆไปไหนกันหมด??”

     

                “ก็วันนี้มีปลาล็อตใหม่มาส่งหนิฮะ  ทุกคนก็เลยไม่ว่าง  ปกติก็จะเป็นพี่อี้นะฮะ  แต่พอดีวันนี้มันยุ่งมากจริงๆ  หนูก็เลยต้องทำแทน”

     

                “เฮ้อออ!!...พี่ไม่อยากให้น้องปลาทำแบบนั้นเลยยครับ  น้องปลานั่งรับออร์เดอร์ลูกค้าอยู่ในห้องอย่างเดียวไม่ได้เหรอ?”

     

                “ถ้าคุณคิมไม่ชอบ...หนูไม่ทำก็ได้ฮะ”

     

                ไม่ชอบถูกขัดใจ...น้องปลาจึงไม่อยากขัดใจคุณคิม  เจ้าตัวเลยรับปากไปทั้งๆที่บริษัทแห่งนี้ก็ขายสัตว์น้ำมาตั้งแต่เขายังไม่เกิด  แต่ถ้าทุกคนในร้านไม่ว่างเหมือนอย่างวันนี้  น้องปลาก็คงต้องออกไปต้อนรับลูกค้าโดยที่ไม่บอกให้จงอินรู้...ซึ่งมันคงเป็นทางออกเดียวที่ลูกชายคนเล็กของบริษัทมีปลาคิดออก

     

    จะให้ทิ้งหน้าที่การงานก็คงเป็นไปไม่ได้  และเขา...ก็ไม่อยากทำให้คุณคิมหงุดหงิด

     

                “งั้นเรากลับบ้านกันดีกว่า...แล้วคืนนี้น้องปลาต้องอยู่บ้านกับบยอนนี่สองคนนะครับ  เพราะพี่กับชานยอลต้องไปทำงานที่ห้างXXX

     

                “ให้หนูไปด้วยสิฮะ  หนูอยากไป...นะนะนะ”

     

                “แต่มันดึกมากเลยนะครับ  แล้วพี่คริสก็ไม่ชอบให้น้องปลานอนดึก”

     

                “ก็อย่าบอกให้พี่คริสจ๋ารู้สิฮะ  หนูอยากไปด้วย  หนูอยากเอาปลาใส่ตู้  หนูอยากเห็นบ้านปลาหลังใหม่  น้า  น้าาาาา...ให้หนูไปด้วยนะฮะคุณคิม”

     

                เมื่อเห็นแก่ตัว...และก้าวก่ายหน้าที่การงานของปลาตัวน้อยได้สำเร็จ  ก็ถึงคราวที่คุณคิมต้องยอมตามใจเด็กในอ้อมกอดบ้าง  ถึงแม้งานนี้จะดึกดื่นจนเกินเวลาหลับนอนของน้องปลาและเป็นสิ่งที่พี่เขยอย่างคริสไม่ชอบก็ตาม  แต่เมื่อเจ้าตัวร้องขอด้วยน้ำเสียงออดอ้อนขนาดนี้  คนเป็นแฟนที่ดีอย่างเขาหรือจะกล้าปฏิเสธ

     

                “ถ้าน้องปลาอยากไป...ก็รีบไปอาบน้ำได้แล้วครับ  เดี๋ยวพี่ไปทำงานไม่ทัน”

     

                “อาบด้วยกันไหมฮะคุณคิม?”

     

                ปลาตัวน้อย...ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการอยากให้คนที่มีแต่กลิ่นสีและคราบฝุ่นจากโรงงานติดอยู่ตามเสื้อผ้าได้อาบน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายให้หมด  แต่คนที่ถูกเชิญชวน...กลับคิดไปถึงไหนต่อไหนเพราะการอาบน้ำพร้อมแฟนเด็กมันก็มักจะเกิดเรื่องที่เกินเลยกว่าแค่การอาบน้ำทุกครั้ง  เหมือนจะชินกับการเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันแสนเย้ายวนของน้องปลาและใช่ว่าไม่อยากบ่อยๆ  แต่...การควบคุมด้านมืดภายในจิตใจมันก็เป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับคิมจงอิน

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

     

                “อื้มมมม...น้องปลาาา!!

     

                “เย้...ของคุณคิมใหญ่ขึ้นแล้วฮะ  หนูเก่งไหม?!

     

                “ซี้ดด...เก่งครับ  น้องปลาของคุณคิม  อ่าห์!!!  เก่งที่สุด!

     

                บอกแล้ว...ว่าการอดทนต่อความเย้ายวนมันยากมากขนาดไหน  แถมยังทำได้แค่ช่วยกันระบายความอึดอัดเพียงภายนอกเท่านั้น  เพราะขืนทำอย่างที่ใจต้องการ  คุณคิมของปลาตัวน้อยคงถูกรุ่นพี่คนสนิทกระทืบตายคาตี______แล้วโยนศพทิ้งลงไปในบ่อปลาปิรันย่าแน่นอน  และการถูกมือเรียวสวยขยับฉลามเพชฌฆาตด้วยความไร้เดียงสาก็พาให้ผู้ถูกกระทำไม่กล้าล่วงเกินเด็กคนนี้ไปจนกว่าจะถึงวัยที่เหมาะสม

     

    แต่ถ้า...สถานการณ์มันยากที่จะอดใจไหวก็คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปอารมณ์ในขณะนั้น  (พวกคุณว่าไหม?)

     

                “คุณคิมจะใส่ชุดเดิมเหรอฮะ?”

     

                “ก็พี่ไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนหนิครับ”

     

                “งั้นใส่ชุดของหนูไปก่อนนะฮะ  พอดีคุณปลาวาฬจ๋าซื้อชุดใหม่มาให้หนูแล้วมันใหญ่เกินไป...หนูใส่ไม่ได้”

     

                เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อย...และกำลังแต่งตัวเพื่อเดินทางไปทำงานพร้อมกัน  แต่การที่แฟนผิวเข้มจะใส่ชุดหมีที่เลอะไปด้วยสีและฝุ่นควันจากโรงงานมันก็ทำให้เขาอดที่จะทักท้วงไม่ได้  น้องปลาจึงรีบเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งเพื่อหยิบชุดที่ใหญ่เกินกว่าขนาดร่างกายของตัวเองจะใส่ได้ให้จงอินสวมแทนชุดเดิม

     

     

                แต่!!ด้วยสภาพที่เจ้าตัวใส่กางเกงในสีสดเพียงตัวเดียวแล้วหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ยื่นให้คุณคิม  มันกลับกลายเป็นภาพที่พาให้หัวใจของคนมองเต้นตึกตัก  ก้นอวบ...ที่ล้นออกมาจากขอบกางเกงในตัวจิ๋ว  เรียวขายาวสวยขาวเนียน  เอวคอดเล็ก  สะโพกกลมกลึงและยอดอกสีหวาน  ทุกๆอย่างมันเป็นภาพที่มองอย่างไรก็ไม่เคยเบื่อ...และทำให้อะไรๆมันปวดตึงขึ้นมาอีกครั้ง

     

     

                ถึงแม้เสื้อผ้าตัวใหม่...ที่น้องปลาหยิบมาให้จะเป็นแบบที่คนอย่างคิมจงอินไม่เคยคิดที่จะซื้อมาใส่  แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่แฟนเด็กต้องการและทำไปด้วยความหวังดีเขาจึงไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจ  และเสื้อยืดคอกลมสีชมพูหวานแหว๋วกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีครีมก็ช่างพอดีกับขนาดร่างกายเนื่องจากมันไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป

     

                “ขอบคุณนะครับน้องปลา”

     

                “คุณคิมหล่อ...ม๊ากกกกก!!!

     

                จากที่ไม่มั่นใจในเสื้อผ้าสีหวานเกินหน้าตาและบุคคลิก...แต่พอได้รับคำชมจากปลาตัวน้อย  คนใส่จึงมีความมั่นใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น  แถมชุดที่น้องปลาใส่อยู่ก็มีสีสันคล้ายกับของเขา  และเสื้อยืดคอกลมสีชมพูดอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีขาวพร้อมสะพายเป้ใบโปรดรูปปลาดาวของเด็กตรงหน้าก็สามารถสร้างร้อยยิ้มให้คุณคิมได้โดยไม่รู้ตัว

     

                “น้องปลาก็น่ารัก...ม๊ากกกกก!!

     

                “เราไปทำงานกันเถอะฮะ”

     

    ฟอดดดด!!!

     

                “งืออออ.....”

     

                หอมแก้มนุ่มด้วยความมันเขี้ยว...แล้วรีบพาปลาตัวน้อยออกมาจากห้องนอนก่อนที่จะไม่ได้ไปทำงาน  เพราะการถูกความน่ารักโจมตีจนหัวใจกระเจิดกระเจิงมันเริ่มทำให้จงอินไม่อยากออกไปไหนอีกเลย  มือหนา...จูงลูกชายคนเล็กของบริษัทมีปลาเดินออกมาจนถึงรถแวนที่จอดเหมือนท้าทายการถูกกรีดเนื่องจากมันไม่ได้อยู่ในเส้นในขอบที่ทางร้านจัดสรรไว้ให้ลูกค้า

     

                “โอ้โห...ไอ้ดำ!!!  แต่งตัวไม่ดูหนังหน้าไม่เกรงใจสีผิว!

     

    และความมั่นใจ...ที่ถูกมอบให้จากคนข้างกายก็หมดลงด้วยคำทักทายของรุ่นพี่คนสนิท

     

                “หวัดดีเฮีย”

     

                “เออ...หวัดดี”

     

                “ผมไปก่อนนะเฮีย”

     

                “ดูแลน้องกูดีๆล่ะ!!

     

                “ครับเฮีย!

     

                เจ้าของรถแวน....สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกมาจากบริษัทมีปลาด้วยความเร่งรีบ  เพราะระยะทางในการไปทำงานในคืนนี้มันก็ค่อนข้างไกล  และการที่น้องปลาอยากนำเจ้าพวกหางสวยใส่ลงไปในตู้ด้วยตัวเองมันก็เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำงาน  ซึ่งมันจะทำให้น้องปลาต้องนอนดึกไปด้วย  และนั่น...ก็เป็นสิ่งที่พี่เขยอย่างคริสไม่ชอบใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้างสรรพสินค้า  XXX

    22.40 น.


    VROOMMMMM!!!! 

     

                การเดินทางมาติดตั้งตู้ปลาที่ห้างสรรพสินค้าแถบชานเมือง...ทำให้ต้องมาทำงานในช่วงที่ห้างที่ปิดให้บริการเพราะสิ่งที่จงอินต้องจัดการมันอันตรายและเสี่ยงเกินกว่าจะให้ใครมายืนดู  หรือถามนั่นถามนี่ในระหว่างการประกอบตู้ปลา  และที่ว่างขนาดใหญ่ใจกลางศูนย์การค้าแห่งนี้ก็คือพื้นที่ที่จะมีความสวยงามเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

     

                “หักซ้ายนิดนึง  ซ้าย  ซ้าย  ซ้ายอีกกกก....พอออออ!!!!!

     

                เปลี่ยนจากการขับรถแวนมาเป็นรถบรรทุกคันโตเมื่อเดินทางมาถึงหน้างาน  เสียงตะโกนของพี่เขยอย่างชานยอลที่สั่งให้จงอินถอยรถรวมถึงสั่งคนอื่นๆให้เร่งนำของที่ขนมาทั้งหมดเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็ดังก้องเป็นบริเวณกว้าง  และการเดินขวักไขว่ของลูกน้องในทีมการติดตั้งตู้ปลาในครั้งนี้ก็ดูวุ่นวายอยู่พอสมควร  ส่วนคนที่ขอตามแฟนผิวเข้มมาทำงานด้วยก็ช่วยหยิบของชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากรถตู้แล้วเดินตามพี่ๆในบริษัทบ้านปลาเข้ามาด้านใน

     

     

                นอนหลับมาตลอดทางระหว่างที่จงอินขับรถมาที่นี่...น้องปลาจึงไม่งอแงหรือรู้สึกง่วงเหมือนอย่างที่คิด  แถมการได้เข้ามาเห็นห้างสรรพสินค้าในช่วงที่ปิดให้บริการมันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด  มือซ้ายถือถุงที่มีอุปกรณ์ในการตกแต่งตู้ปลาเอาไว้  ส่วนอีกมือ...ก็ถือนมกล่องรสกล้วยดูดจนแก้มตอบ  น้องปลาวางกล่องที่ถือมารวมไว้กับของต่างๆที่จะประกอบขึ้นเป็นบ้านปลาหลังใหญ่  และปลดเป้ใบโปรดลงจากบ่าเมื่อพี่ๆกับจงอินเริ่มทยอยขนของเข้ามาในห้างจนครบหมดแล้ว

     

                “คุณคิม...มีอะไรให้หนูช่วยอีกไหมฮะ”

     

                “ช่วยแค่นี้ก็พอแล้วครับน้องปลา  เดี๋ยวถึงเวลาเอาเพื่อนๆใส่ในตู้แล้วพี่จะเรียกนะครับ”


    จุ้บบ!!

     

                “เพิ่มพลังนะฮะ”

     

                “ขอบคุณครับคนเก่ง”

     

                อยากช่วยงานของคุณคิมได้มากกว่านี้...แต่ของที่กองอยู่ตรงหน้ามันใหญ่และหนักเกินกว่ากำลังของเด็กอายุ  16  ปีอย่างเขาจะแบกไหว  และสิ่งที่ทำได้ก็คือการให้กำลังใจคนที่มีแรงเยอะกว่า  น้องปลากอดผู้ที่ทำบ้านให้เจ้าหางสวยได้เก่งกว่าใครแล้วมอบสัมผัสแผ่วเบาลงบนปากหยัก  พร้อมรอยยิ้มแสนน่ารักที่ทำให้คนถูกจูบอยากกลับบ้านมากกว่าการทำงานอยู่ที่นี่

     

                “จงอินโว้ยยย!!!...มาทำงานได้แล้ววววว!!

     

                “น้องปลารอพี่อยู่ตรงนี้นะครับ  ถ้าง่วงก็เรียกพี่ได้เลยเดี๋ยวพี่พาไปนอนที่รถ”

     

                คนที่ไม่มีใครมาจูบให้กำลังใจ...ตะโกนเรียกหัวหน้าทีมให้รีบมาทำงานก่อนที่ความอิจฉาของตัวเองจะพาลให้งานพัง  การติดตั้งตู้ปลาในครั้งนี้...ชานยอลต้องมาร่วมทีมด้วยเพราะขนาดของตู้มันใหญ่มาก  แต่การมาทำงานโดยทิ้งภรรยาให้นอนอยู่คนเดียวที่บ้านมันก็ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วง  ยิ่งได้มาเห็นจงอินกับน้องปลามอบกำลังใจให้กันแบบนั้น...ชานยอลยิ่งอยากกลับไปนอนกอดเมียที่บ้านมากกว่า

     

    (คิดถึงคนใส่ชุดนอนลายเคโระปี้...โว้ยยยยยยย!!!)

     

                ส่วนน้องชายต่างมารดาอย่างจงอิน...ก็ใช่ว่าไม่ห่วงแบคฮยอน  และในตอนแรกเขาก็คิดว่าจะไปส่งน้องปลาที่บ้านแล้วออกมาทำงานพร้อมกับลูกน้องในบริษัท  แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าแฟนเด็กขอตามมาด้วย  เขาจึงจำเป็นต้องปล่อยให้พี่ชายจอมโวยวายอยู่บ้านเพียงลำพัง  ใจหนึ่งก็ห่วงแบคฮยอน  อีกใจก็ห่วงคนที่ต้องมาอดหลับอดนอนด้วยกันในคืนนี้  เพราะการติดตั้งตู้ปลาขนาดใหญ่มันต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่างานจะเสร็จเรียบร้อย

     

     

                จงอินพยายามตัดความกังวลในเรื่องต่างๆออกไปจากหัวสมอง...แล้วเริ่มทำงานก่อนที่ความคิดถึงเมียของชานยอลจะทำให้ตู้ปลาพังพินาศ  รถโฟคลิฟถูกนำมาใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆอย่างเช่นเครื่องกรองน้ำ  ปะการังเทียมรวมถึงตู้ปลาที่ทำจากกระจกอะคริลิก  และทุกๆอย่างก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง  เพราะถ้าเกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างการทำงานมันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขได้ทันเวลา  ส่วนคนที่นั่งดูการทำงานของแฟนผิวเข้มอยู่อย่างเพลิดเพลินในตอนแรกก็เริ่มรู้สึกง่วง  จากนั่ง...เปลี่ยนเป็นนอน  จากนอน...กลายเป็นหลับไปโดยไม่รู้ตัว  แต่.....

     

    โครมมมมม!!!!

     

                “ไอ้สัด!!...กูบอกให้ระวัง”

     

                “ขอโทษครับลูกพี่  มือมันลื่น!

     

                “ไอ้ห่า...เดี๋ยวตู้ปลาก็พัง!!

     

                เสียงโวยวายของทีมการทำงานในค่ำคืนนี้...มันทำให้น้องปลาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ  และไม่กล้าหลับอีกเลยเพราะกลัวพลาดการนำเจ้าหางสวยที่ร้านของตัวเองใส่ลงไปในบ้านปลาหลังใหม่  แต่...ยิ่งนอนดึกก็ยิ่งหิวและการทานนมไปกล่องเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้อยู่ท้อง

     

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

     

    00.15 น.

     

     

                ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการ...แต่ไฟในห้างก็ยังคงเปิดไว้เพื่อให้ทีมงานของจงอินได้ทำการติดตั้งตู้ปลาไปจนกว่างานจะเสร็จสิ้น  และคนที่รู้สึกหิวรวมถึงรอเวลาเอาสัตว์น้ำแสนสวยใส่ลงในตู้ก็เริ่มเดินสำรวจร้านค้าต่างๆที่อยู่ในห้างฯอย่างสนุกสนาน  ร้านขายตุ๊กตา  ร้านขายเสื้อผ้า  ร้านขายของเล่น  น้องปลามองเข้าไปในร้านทุกๆร้านด้วยความตื้นเต้น  และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษที่ได้เข้ามาเดินอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้ในเวลาที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้

     

                “ว้าวววววว!!!!

     

                ส่งเสียงร้องออกมาอย่างลืมตัว...เมื่อน้องปลาเดินขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วได้พบกับร้านที่ตกแต่งทุกอย่างได้สวยถูกใจจนละสายตาไปไม่ได้  และความสวยงาม...ก็ดึงดูดคนมองให้ก้าวขาเข้ามาด้านในเพื่อชื่นชมสิ่งที่ตัวเองโปรดปราน  เหมือนจะเป็นการเสียมารยาท  แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมร้านอาหารร้านนี้จึงยังไม่ปิดทั้งๆที่ร้านอื่นก็ปิดกันหมดแล้ว

     

     

                ร้านอาหาร...ที่ภายในทาสีฟ้าน้ำทะเลเอาไว้  จานชามทุกใบที่วางอยู่บนโต๊ะก็เป็นลวดลายรูปสัตว์น้ำ  เก้าอี้สีขาวสะอาดตา  พื้นที่ปูด้วยกระเบื้องคล้ายเขตแนวปะการังพร้อมด้วยสาหร่ายเทียม  บนเพดานติดวอล์เปเปอร์เหมือนคลื่นของท้องทะเล  และของตกแต่งต่างๆที่น้องปลาเห็นอยู่ตอนนี้มันก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้หลุดเข้ามาอยู่ในโลกใต้สมุทร

     

     


     

     

                “อะแฮ่มม!!!...สวัสดีครับ”

     

                “........!!!!!!!??”

     

                เสียงทักทายที่ไม่คุ้นหู...ทำให้คนที่เดินสำรวจความสวยงามของร้านอาหารอยู่อย่างเพลิดเพลินถึงกับสะดุ้งสุดตัว  และยืนนิ่งเหมือนถูกสาปเพราะรู้สึกตกใจจนก้าวขาไม่ออก  น้องปลาเพิ่งรู้ตัว...ว่าการเดินไปนู่นมานี่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มันอาจอันตรายเกินกว่าจะเดินมาเล่นเพียงลำพัง  มือบางกำชายเสื้อไว้แน่น  เหงื่อเริ่มออกพร้อมก้าวขาถอยหลังอย่างช้าๆเพราะคนแปลกหน้าที่มวยผมไว้บนศีรษะกำลังเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

     

                “ร้านปิดแล้วนะครับ”

     

                “คือหนู...หนู  หนูเปล่ามาขโมยของนะฮะ!!

     

                “ใจเย็นๆนะครับ  พี่ไม่ได้ว่าอะไร  แล้วหนูมากับใคร?  หลงทางหรือเปล่า?  ให้พี่ไปส่งไหม???”

     

                “ไม่เป็นไรฮะ...เดี๋ยวหนูกลับเอง”

     

                “แล้วจะกลับยังไง  นี่มันก็ดึกมากแล้วนะครับ?”

     

                “หนูมาติดตั้งตู้ปลากับแฟนที่ชั้นหนึ่งฮะ  หนะ..หนู”

     

    โครกกกกก!!!!

     

                เสียงท้องร้อง...ทำเอาบทสนทนาขาดห้วง  แต่สามารถเรียกรอยยิ้มให้เจ้าของร้านอาหารได้ในทันที  และการแทนตัวเองของเด็กตรงหน้าด้วยคำว่า  “หนู”  มันก็ช่างไม่เหมาะกับการมีแฟนเหมือนอย่างที่เจ้าตัวพูดเลยสักนิด  ส่วนคนที่หิวจนท้องส่งเสียร้องในเวลาเช่นนี้ก็รู้สึกอายจนต้องก้มหน้าเอาไว้  และความหวาดกลัวคนแปลกหน้าในตอนแรกก็หายวับไปกับความหิวเมื่อชายหนุ่มผมยาวคนนี้ไม่ได้มีท่าทีคุกคามหรือดูใจร้ายอย่างที่ตัวเองเคยพบเจอ

     

                “หิวเหรอครับ...พี่ทำอาหารให้ทานเอาไหม??”

     

                “ไม่เป็นไรฮะ  หนูเกรงใจ”

     

                “พี่ว่าทานอะไรสักหน่อยดีกว่า  เดี๋ยวปวดท้อง”

     

                “กะ...ก็ได้ฮะ  ขอบคุณนะฮะ”

     

                “พี่ชื่อจองชินนะครับ  แล้วหนูชื่ออะไร?”

     

                “ชื่อเซฮุนฮะ”

     

                “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องเซฮุน”

     

                “ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันฮะ...พี่จองชิน ^-^ 

     

                เด็กน้อยผู้หิวโหย...ถูกเจ้าของร้านอาหารพาเข้ามาด้านหลังของร้าน  แล้วเริ่มทำเมนูง่ายๆด้วยความตั้งใจ  ผักต่างๆที่หยิบออกมาจากตู้เย็นและล้างแล้วเรียบร้อย  ถูกพ่อครัวหั่นใส่ชามแก้วใบใหญ่เอาไว้แล้วตามด้วยกุ้งปรุงสุกตัวโตที่ทำให้ท้องของเด็กอายุ  16  ปีส่งเสียงร้องออกมาได้อีกครั้ง  มือหนา...เทซอสสูตรลับเฉพาะของทางร้านใส่ลงไปในชามแก้ว  แล้วคลุกให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันก็เป็นอันเสร็จสิ้นอาหารมื้อพิเศษ

     

     

                สลัดกุ้งในซอสครีมเนื้อเนียนสีขาว...ถูกนำออกมาวางบนโต๊ะด้านนอกพร้อมกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในยามวิกาล  ชานหนุ่มผมยาว...ไม่เคยมานั่งมองใครทานอาหารที่ร้านของตัวเองแบบนี้มาก่อน  เพราะวันวันก็อยู่แต่ในครัวและช่วยลูกน้องทำอาหารจนกว่าจะปิดร้าน

     

                “อร่อยมากเลยฮะ”  เอ่ยชมพ่อครัวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม  โดยที่ไม่รู้เลยว่าปากของตัวเองมันเปื้อนไปด้วยซอสสีขาว

     

                “กินช้าๆก็ได้ครับน้องเซฮุน”  หยิบทิชชู่ในกล่องรูปปลาดาวยื่นให้เด็กน้อยใช้เช็ดปาก  แต่ดูเหมือนว่าความหิวจะทำให้เด็กคนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากอาหารที่อยู่ในจาน

     

                “แล้วทำไมพี่จองชินถึงยังไม่ปิดร้านละฮะ?”  เป็นความสงสัยที่เก็บไว้มานาน  แถมการได้ทานสลัดกุ้งแสนอร่อยก็พาให้เจ้าตัวลืมเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย

     

                “ปิดแล้วครับ...แต่กำลังจะเก็บร้าน  แล้วก็เตรียมของไว้สำหรับวันพรุ่งนี้”  การเป็นทั้งเจ้าของร้าน  และพ่อครัวมันทำให้จองชินไม่สามารถกลับไปพักผ่อนได้เหมือนกับลูกน้องในร้าน  เพราะเขาต้องเตรียมรวมถึงตรวจทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะเปิดร้านอีกครั้งในวันถัดไป

     

                “หนูขอโทษนะฮะที่เข้ามารบกวน  พอดีหนูเห็นประตูมันเปิดอยู่  หนูก็เลยเดินเข้ามาดู  แล้วร้านของพี่จองชินก็สวยมากๆเลยฮะ  อาหารก็อร่อย”  ตักกุ้งตัวสุดท้ายเข้าปาก  พร้อมกับทำหน้าหงอยเมื่อรู้ว่าตัวเองทำให้เจ้าของร้านต้องมาวุ่นวายกับการทำอาหารให้เขาทั้งๆที่ร้านก็ปิดให้บริการแล้ว

     

                “น้องเซฮุนไม่ต้องคิดมากนะครับ  พี่ไม่ได้ลำบากอะไร  แล้วน้องเซฮุนอยากทานของหวานไหมครับ  ร้านพี่มีไอติมด้วยนะ!!”  เห็นเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มทานสลัดจนหมดจานด้วยความอร่อย  เจ้าของร้านอาหารอย่างเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแนะนำของหวานที่ทำขึ้นเอง  และเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกผิดของเด็กตรงหน้าให้เลิกคิดถึงเรื่องที่เจ้าตัวเดินเข้ามาในร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต

     

                ส่วนคนที่ชอบไอศกรีมรองลงมาจากกุ้งตัวโตๆ...ก็รีบตอบรับสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารแนะนำด้วยการพยักหน้า  และยิ้มจนเห็นเขี้ยวสวยด้วยความดีใจเพราะมันเป็นของหวานสุดโปรด  ตาเรียวเป็นประกายเมื่อเห็นสีสันของไอศกรีมที่วางเรียงอยู่ในตู้กระจก  แถมยังได้ตักเองตามความชอบใจอีกด้วย  และกิริยาท่าทางที่แสดงถึงความสุขของเด็กที่ชื่อเซฮุนมันก็ทำให้เจ้าของร้านอย่างจองชินมีความสุขตามไปด้วย

     

                “อร่อยไหมครับน้องเซฮุน?”

     

                “อร่อยฮะ!!

     

                “พี่ทำเองเลยน้าาา....”

     

                “จริงเหรอฮะ?....ว้าวววว   พี่จองชินเก่งจัง  สุดยอดไปเลยฮะ”

     

                “แล้วคืนนี้น้องเซฮุนจะได้กลับบ้านกี่โมงครับ...แฟนทำงานเสร็จหรือยัง???”

     

                “หนูลืมไปเลยฮะ...แย่แล้ว  แย่แล้ว!!!  คุณคิมต้องหงุดหงิดมากแน่ๆ ToT 

     

                “ใจเย็นๆครับน้องเซฮุน”

     

                “ขอบคุณพี่จองชินมากๆนะฮะที่ทำอาหารให้หนูทาน  แล้วพี่จองชินจะกลับหรือยังฮะ...หนูจะไปเอาตังค์ที่คุณคิมมาจ่ายค่าอาหารกับไอติม”

     

                “ไม่เป็นไร...พี่เลี้ยง”

     

                “ได้ไงฮะ...ของซื้อของขาย?!!

     

                “งั้นนนน...พี่ขอไปดูปลาด้วยคนได้ไหม  แลกกันไง?”

     

                “ได้สิฮะ...พี่จองชินตามหนูมาเลย!!

     

                ได้ทานของอร่อย...จนลืมไปเลยว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่  แต่การได้พบกับเจ้าของร้านอาหารอย่างจองชินมันก็ทำให้น้องปลาได้รู้ว่าคนแปลกหน้าก็ไม่ได้ใจร้ายไปหมดทุกคน  ความหวาดระแวง  ความกลัว  การไม่ไว้ในใจใครนอกจากคนครอบครัวมันเริ่มจางหายลงไปได้บ้างเมื่อเจอกับผู้ชายคนนี้  และการพาคนที่ตัวเองเรียกว่า  “เพื่อนใหม่”  มาดูบ้านปลาหลังโตก็เพราะอยากให้จองชินได้เห็นความสวยงามของสัตว์น้ำทั้งหลายที่มันช่างคล้ายกับบรรยากาศและของที่ถูกตกแต่งอยู่ในร้านอาหารสีน้ำทะเลของหนุ่มผมยาว

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

    01.42 น.

     

     

                เวลาล่วงเลยเข้าสู้วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าๆ...และการติดตั้งตู้ปลาก็ไม่ได้มีปัญหาให้ต้องหนักใจ  แต่พอจะใส่เจ้าพวกหางสวยลงในตู้  หัวหน้าทีมอย่างจงอินกลับหาตัวแฟนเด็กไม่เจอ  ดวงตาคมกริบ...กวาดมองไปรอบๆบริเวณที่เขาทำงานอยู่ด้วยความร้อนใจ  และโกรธตัวเองที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับสิ่งที่ทำจนไม่ทันได้สังเกตว่าน้องปลาไปไหน?  อยากได้อะไร?  หรือต้องการสิ่งใด??

     

                “มึงเอาปลาใส่ตู้ได้เลย  กูจะไปตามหาน้องปลาที่รถ!!

     

                “น้องอยากทำเองไม่ใช่เหรอลูกพี่?  ผมว่ารอก่อนไหม?  เดี๋ยวน้องเสียใจ!!

     

                “มึงได้เสียใจแน่  เพราะกูจะไล่มึงออก  จะทำหรือไม่ทำ?!!

     

                “คร้าบบบ...ทำแล้วค้าบบบบบ”

     

                คนเป็นลูกน้อง...ค่อยๆตักปลาที่เตรียมไว้ในถังใบใหญ่ใส่ลงในตู้ทีละตัวทีละตัวด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะถูกไล่ออก  บ้านปลาขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำไว้ถึง 1,500  แกลอนและต้องใส่สัตว์น้ำไว้เป็นจำนวนถึง  100  ตัว  รวมถึงของตกแต่งอย่างเช่นปะการังเทียม  สาหร่าย  ก้อนหินและทรายก็ใกล้จะเสร็จบูรณ์เต็มที  แต่จำนวนของสัตว์น้ำที่มากขนาดนั้นก็ทำให้ลูกน้องต้องช่วยกันนำเจ้าหางสวยใส่ลงในตู้  เพราะเวลาที่เดินไปในแต่ละวินาทีมันสำคัญต่อชีวิตของปลาทุกชนิด

     

    แต่.......

     

                “คุณคิมมมมมม...หนูมาแล้วววววววววว!!!!

     

                ยังไม่ทัน...ที่เจ้าของชื่อจะเดินออกไปถึงลานจอดรถ  เสียงของคนที่ตัวเองกำลังจะไปตามหาก็ดังขึ้นเสียก่อน  แถมในมือยังถือถ้วยที่บ่งบอกได้ดีว่าข้างในนั้นก็คือของหวานสุดโปรด  จงอินรีบวิ่งเข้าไปกอดปลาตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมอกเพราะรู้สึกเป็นห่วง  รวมถึงอยากรู้ว่าแฟนเด็กของเขาหายตัวไปไหน  และแรงของการโอบกอดด้วยความเป็นห่วงก็ทำให้ถ้วยไอศกรีมหล่นลงบนพื้น  และดีที่มันไม่เหลือความอร่อยไว้แล้ว...ไม่อย่างนั้นน้องปลาคงรู้สึกเสียดายอยู่ไม่ใช่น้อย

     

                “ไปไหนมาครับน้องปลา  พี่เป็นห่วงแทบแย่??!!!

     

                “ไปเดินเล่นมาฮะ  แล้วคุณคิมทำบ้านปลาเสร็จหรือยัง?  หนูอยากเอาเพื่อนๆใส่ในตู้แล้วฮะ?”

     

                “เสร็จแล้วครับ  น้องปลาเอาเพื่อนใส่ตู้ได้เลย”

     

                “เอ่ออ...คุณคิมฮะ  หนูขออนุญาตพาเพื่อนใหม่มาดูปลาด้วยนะฮะ!!

     

                “เพื่อนใหม่???!!

     

                เจ้าของร้านอาหาร...มองทุกการกระทำของหนุ่มผิวเข้มในเสื้อผ้าสีสดอย่างเข้าอกเข้าใจ  เพราะถ้าแฟนของตัวเองหายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว  เขาคงรู้สึกไม่ต่างไปจากผู้ชายคนนี้เช่นกัน  และการเรียกชื่อที่ดูเหมือนจะพิเศษกว่าที่ชื่อที่เขารับรู้ก็คงเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันตามประสาคู่รัก   หนุ่มผิวเข้มถูกเรียกว่า  คุณคิม  ส่วนเด็กผู้หิวโหยและแอบเดินเข้ามาสำรวจร้านอาหารของเขาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วก็ถูกเรียกว่า  น้องปลา  ซึ่งมันดูน่ารักเหมือนกับเจ้าตัวไม่มีผิด

     

     

                และสิ่งที่จองชินคิดไว้...มันก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่เห็นเพราะเด็กหน้าตาจิ้มลิ้ม  ตัวผอมบาง  ผิวขาวเนียน  แบบน้องเซฮุนก็มีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ  และชื่อของคนที่เจ้าตัวเอ่ยถึงก็น่าจะเป็นชื่อของผู้ชายมากกว่า  ส่วนสิ่งที่เขาคิดไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ...เด็กคนนี้อาจมีแฟนเป็นผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน  แต่สุดท้ายแล้ว...น้องเซฮุนก็มีแฟนเป็นผู้ชายและดูเหมือนว่าช่วงวัยของคนทั้งคู่จะห่างกันมากอยู่พอสมควร

     

                “นี่ฮะ...เพื่อนใหม่ของหนู  ชื่อพี่จองชิน”

     

                “สวัสดีครับ...ผม  อีจองชิน  ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”


                (ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ผมคิมจงอินนะครับ...เป็นแฟนของน้องปลา) 

     

                เห็นสายตา...ของหนุ่มผิวเข้มที่มองมาอย่างสงสัย  เจ้าของร้านอาหารจึงรีบแนะนำตัวเองอีกครั้ง  และกล่าวคำที่แสดงถึงความเป็นมิตรเพราะนอกจากจะถูกมองด้วยความสงสัยแล้ว  เขายังถูกมองด้วยความหึงหวงอีกด้วย  มือหนา...ที่กอดเอวของน้องเซฮุนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  และคิ้วบนใบหน้าคมเข้มที่ขมวดกันจนยุ่งพร้อมกับการแนะนำตัวเองของผู้ชายในเสื้อยืดสีชมพูว่าเป็นใคร?  มาจากไหน?  ทำงานอะไร?  ก็เป็นตัวฟ้องจองชินได้เป็นอย่างดีว่าใครกำลังรู้สึกเช่นไร?

     

    แต่....

     

                “คุณคิมไปทำงานต่อเถอะฮะ!!...หนูจะพาพี่จองชินไปดูปลา!

     

                การที่ปลาตัวน้อย...สะบัดกายออกจากอ้อมกอดของคุณคิม  แล้วเดินไปจูงมือคนที่เพิ่งแนะนำตัวเองด้วยความเป็นมิตรอย่างจองชินกลับกลายเป็นการสร้างศัตรูให้เกิดขึ้นกับใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ  ชายหนุ่มผมยาวเดินตามแรงดึงมาจนถึงตู้ปลาขนาดใหญ่และเมื่อได้เห็นสัตว์น้ำมากมายแหวกว่ายอยู่ด้านในด้วยสีสันที่หลากหลาย...มันก็ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจได้มากกว่าที่เคยคาดคิดเอาไว้

     

                “สวยมากเลยครับน้องเซฮุน”

     

                “แฟนหนูเก่งไหมฮะ  แล้วปลาพวกนี้ก็มาจากร้านของหนูเองนะฮะ”

     

                “ว้าววววว...ถ้าอย่างนั้นน้องเซฮุนก็ต้องรู้จักชื่อปลาทั้งหมดนี้เลยใช่ไหมครับ?!!

     

                “ใช่ฮะ!!

     

                “งั้นนน...ตัวนี้ชื่ออะไรครับ”

     

                "Damsel fish" 

     

                “แล้วตัวนี้ล่ะครับ??”

     

                Anthias "

     

                “ตัวนี้?”

     

                "Rabbit  fish" 

     

                “ตัวนี้?”

     

                "Mandarin  fish"

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

                เสียงถามตอบชื่อของสัตว์น้ำในตู้ปลา...และท่าทางที่ดูมีความสุขของแฟนเด็กมันทำให้คนที่ถูกผลักไส  และกำลังยืนดูสถานการณ์ของความเปลี่ยนแปลงรู้สึกไม่พอใจ  ทำไมปลาตัวน้อยถึงกล้าพูดคุย  กล้าเข้าใกล้  กล้าพาคนแปลกหน้ามาทำความรู้จักกับเขา  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากคนในครอบครัว  ใช่ว่าไม่ชอบ...ที่เห็นน้องปลามีความสุข  แต่การมีความสุขอยู่กับคนอื่นมันช่างหน้าหงุดหงิดใจสำหรับคนเป็นแฟนอย่างคิมจงอิน

     

    โครมมมมมม!!!!!

     

                “เบามือด้วยครับคุณคิม...น้องปลาแค่มีเพื่อนใหม่นะครับ  ไม่ได้มีผัวใหม่”

     

                “เงียบปากไปเลย  ถ้าน้องปลามีผัวใหม่  กูจะยุให้เจ๊แบคมีผัวใหม่เหมือนกัน!!

     

                “อ้าวว...ไอ้สัด!!  เดี๋ยวกูฆ่าทิ้งทั้งพี่ทั้งน้องเลย”

     

                มันเป็นสิ่งที่สร้างความแปลกตาแปลกใจให้ชานยอลได้เช่นกัน...เพราะการที่น้องปลายอมรับในตัวจงอิน  รวมถึงคนตระกูลคิมมันค่อนข้างใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่าจะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ  แต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้กลับใช้เวลาเร็วกว่าที่ควรจะเป็น  แถมยังไม่มีความหวาดระแวงให้เห็นเลยสักนิด  ส่วนคนที่เพิ่งเดินกลับมาจากการตามดูสถาการณ์ต่างๆของแฟนเด็กก็ยังคงมีความหงุดหงิดอยู่ภายในใจ  และโยนอุปกรณ์ในการติดตั้งตู้ปลาอย่าง  ไขควง  ตะปู  น็อตใส่ไว้ในกล่องเหมือนอยากระบายอารมณ์มากกว่าการเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง

     

     

                ไม่รู้จะโทษใคร...เพราะการที่ตัวเองต้องการให้แฟนเด็กได้เปิดโลกใบใหม่  ได้ออกมาเที่ยวหรือได้พบปะผู้คนภายนอกแทนการอยู่แต่ในบ้านและเล่นกับเจ้าพวกหางสวยในบ่อน้ำมันก็คือความคิดของเขาเอง  จงอินอยากให้น้องปลาได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ  ได้เที่ยวได้เรียนรู้ในสิ่งที่อยู่นอกเหนือตำราเรียนและกล้าที่จะเผชิญโลกที่ไม่มีคนในครอบครัวอย่างเฮียคริสกับพี่อี้ชิงคอยโอบอุ้ม  เพราะวันหนึ่งข้างหน้า...น้องปลาก็ต้องไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย  ซึ่งการเรียนในระดับนั้นมันต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้และยังเป็นสังคมที่ต่างไปจากเดิม

     

    แต่พอมาวันนี้  ตอนนี้  ขณะนี้...จงอินกลับหงุดหงิดกับเรื่องที่ตัวเองอยากให้เป็น  การที่น้องปลาไม่กลัวคนแปลกหน้า  การเดินจูงมือกับผู้ชายคนอื่น  การมีเพื่อนใหม่  การไว้ใจใครสักคน  ทุกๆอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปมันทำให้จงอินรู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากพาน้องปลาออกไปไหนอีกแล้ว

     

                “น้องปลาครับ...พี่เก็บของเสร็จแล้วครับ  เรากลับบ้านกันเถอะ!!

     

                “ตู้ปลาสวยมากเลยครับคุณจงอิน”

     

                “ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับคุณจองชิน  แต่ตอนนี้ผมต้องพาแฟนกลับบ้านก่อน”

     

                “เชิญครับ...แล้วถ้ามีโอกาสได้พบกันอีก  ผมหวังว่าร้านอาหารของผมจะได้ต้อนรับคุณจงอินกับน้องเซฮุนนะครับ”

     

                ไม่ตอบรับ...แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ  พร้อมกับโค้งตัวเพื่อเป็นการกล่าวลาไปตามมารยาทที่ควรทำ  จงอินมองออกและรู้ว่าเจ้าของร้านอาหารไม่ได้คิดร้าย  หรือหวังในตัวของน้องปลาเหมือนอย่างที่ผู้ชายคนอื่นต้องการ  แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น...เขาก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ดีเพราะน้องปลาดูเหมือนจะชอบเพื่อนใหม่คนนี้มากจริงๆ

     

                “หนูจะมากินไอติมอีกนะฮะ...ไอติมร้านพี่จองชินอร่อยที่สุด ^0^ 

     

                Ocean  Restaurant  ยินดีต้อนรับน้องเซฮุนเสมอครับ”

     

                “บ๊าย  บายนะฮะพี่จองชิน...ฝันดีนะฮะ”

     

                “ฝันดีครับ...น้องเซฮุน”

     

                เมื่อร่ำลากันจนพอใจและไม่เป็นที่พอใจของใครบางคน...ก็ถึงเวลาของทีมงานที่เดินทางมาติดตั้งตู้ปลาจะได้กลับไปพักผ่อนกันเสียที  รถแวน  รถบรรทุก  รถตู้และรถทุกๆคันต่างทยอยขับออกจากห้างสรรพสินค้าเพื่อมุ่งหน้าไปที่บริษัทบ้านปลาตามเดิม  อีกไม่กี่ชั่วโมง...พระอาทิตย์ก็ขึ้นเหมือนเฉกเช่นทุกวันและเด็กที่นอนดึกเป็นครั้งแรกก็หลับไปทันทีเมื่อเข้ามานั่งในรถ

     

     

                เป็นวันที่เหนื่อยแสนเหนื่อยกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน  เรื่องส่วนตัว  เรื่องของหนุ่มผมยาวที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร  ทุกๆเรื่องมันสูบพลังของจงอินไปมากเหลือเกิน  และเรื่องที่ทำให้เขานิ่งนอนใจต่อไปไม่ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องของปลาตัวน้อย  เพราะการที่แฟนเด็กของเขายอมเปิดใจให้ใครง่ายๆหรือกลัวคนแปลหน้าน้อยลงมันอาจนำไปสู่การมีเพื่อนใหม่อย่างเช่นในวันนี้  และถ้าเพื่อนใหม่...มันอยากเปลี่ยนสถานะมาเป็นอย่างอื่น  น้องปลาก็คงรู้ไม่ทันเล่ห์เลี่ยมของคนที่คิดไม่ซื่อ

     

    Rrrrrr !!

    Rrrrrr !!

    Rrrrrr !!

     

                “สวัสดี...จงอิน”

     

                เมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจเป็นภัยต่อความสุขของตัวเอง...และเพื่อปกป้องปลาตัวน้อยให้พ้นจากคนใจร้าย  จงอินจึงจำเป็นต้องทำบางอย่างก่อนที่มันจะสายเกินแก้  มือหนา...หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋ากางเกง  แล้วกดเบอร์ของบุคคลสำคัญท่านหนึ่งพร้อมบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที  และถึงแม้จะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม  แต่ความเห็นแก่ตัวหรือเพราะเหตุใดก็ตามมันก็ผลักดันให้คิมจงอินต้องทำในสิ่งที่คนปลายสายก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ฟัง

     

                (สวัสดีครับคุณลุงจีโฮ...ผมจะขอ หมั้น น้องปลาไว้ก่อนได้ไหมครับ??)

     

                “......!!!!??”

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    กลับมาแล้วค้าาาา...ขอโทษที่หายไปนานมากๆ (พนมมือ)

    และนี่...ก็คือเจ้าของร้านอาหารค่ะ

     


     

    คุณคิมจะได้หมั้นไหมเอ่ยยย??

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ  ขอบคุณที่ยังคงคิดถึงกันเสมอ  ขอบคุณทุกคอมเม้นท์  ขอบคุณจริงๆจากใจค่ะ

    Cr : ภาพทั้งหมดจาก...sbssports.sbs.co.kr  ,  aliexpress.com  และ  shark  Painting  by  Pinterest  The  Gilded  Polka  Doton  Etsy

    รัก 

    #ฟิคน้องปลา 



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×