ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) น้องปลา (Kaihun Ft.Chanbaek,Krislay)

    ลำดับตอนที่ #23 : ปลาตัวสุดท้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.2K
      68
      18 เม.ย. 64


    ปลาตัวสุดท้าย



     

     

    บริษัท  บ้านปลา

    07.42 น.

     

    VROOMMM!!!!

    VROOMMM!!!!

     

     

                เป็นวันสำคัญ...ที่มีผู้คนมากมายเดินทางมาที่บริษัทบ้านปลาเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายคนที่สองของตระกูลคิม  และตอนนี้เสียงรถหลากหลายยี่ห้อที่วิ่งเข้ามาในบริเวณบ้านรวมถึงในโรงงานก็ดังขึ้นจนผู้ที่เป็นเจ้าบ่าวรู้สึกตื่นเต้น  สถานที่ที่ใช้ในการจัดงาน...ก็เสร็จพร้อมเพื่อต้อนรับทุกคนไปเมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อวาน  และดีที่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่อง  ถึงแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยกับการเตรียมอะไรหลายๆอย่าง  แต่มันก็ทำให้มีความสุขไม่ใช่น้อย

     

     

                ส่วนคนที่ดูตื่นเต้นไม่แพ้เจ้าบ่าว...ก็เห็นจะเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยและลูกน้องในบริษัท  เพราะทุกคนไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างคิมจงอินจะยอมลงหลักปักฐานกับใคร  แถมว่าที่เจ้าสาวก็ยังเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ  มองเช่นไรก็เหมือนพ่อกับลูกมากกว่าคู่สามีภรรยาเนื่องจากอายุที่ห่างกันมากถึงสิบปี  เพื่อนๆต่างก็ทราบกันดีว่าแต่ก่อนเจ้าบ่าวเป็นคนที่ไม่ค่อยคบกับใครจริงจัง  และถึงแม้จะมีแฟนมาหลายคนแต่ก็ไม่เคยอ่อนข้อให้ใครอย่างว่าที่เจ้าสาว

     

    เหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับเพื่อนๆ  แต่เมื่อทุกคนได้รับการ์ดเชิญและเดินทางมาถึงงานแต่งงานในวันนี้  พวกเขาก็คงต้องยอมรับว่ามันคือความจริง

     

                “มึงอย่ายุกยิกได้ไหมจงอิน!!

     

                “เจ๊ก็เร็วๆหน่อยดิ...ผมอยากเจอน้องปลาจะแย่แล้วเนี่ย!

     

                “มึงนั่นแหละทำให้กูช้า  นั่งนิ่งๆ...อีกแป๊บเดียวก็เสร็จ”

     

                คนที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า...กำลังถูกพี่ชายต่างแม่แต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูดีกว่าวันธรรมดาเพื่องานที่สำคัญที่สุดในชีวิต  มือบางตบแป้งลงบนใบหน้าคมเข้มของน้องชายอย่างเร่งรีบ  แล้วสักพักก็ตามด้วยการเขียนคิ้วให้เข้ารูป  และจบขั้นตอนสุดท้ายที่การเติมลิปบาล์มลงบนปากหยัก  ส่วนเรื่องเสื้อผ้าหรือการแต่งกายก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเหมือนการแต่งหน้า  เพราะธีมงานมันเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่เป็นทางการมากนักและจะเน้นสีฟ้ากับขาวเป็นหลัก

     

     

                โลกใต้ท้องทะเล...คือสิ่งที่เจ้าสาวชอบมากที่สุด  เจ้าบ่าวจึงให้ผู้ที่มาร่วมงานแต่งกายด้วยสีของน้ำทะเลหรือไม่ก็หาดทรายสีขาว  ใจหนึ่งก็อยากจัดงานที่ริมทะเลสักแห่ง  แต่อีกใจก็เกรงว่าผู้ใหญ่และเพื่อนๆจะไม่สะดวกในการเดินทาง  คุณคิมจึงตั้งใจเนรมิตบริษัทแห่งนี้ให้เป็นสิ่งที่ปลาตัวน้อยของเขาโปรดปราน

     

                “เจ๊...ผมดูดียัง??”

     

                “มึงหล่อมากกกก...”

     

                “ขอบคุณนะเจ๊  ขอบคุณทุกอย่างเลย”

     

                งานสำคัญของผู้เป็นน้อง...จะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ชายอย่างบยอนแบคฮยอนคอยช่วยจัดการและเตรียมสิ่งต่างๆไว้ให้  รวมถึงการช่วยแต่งหน้าพร้อมการจัดทรงผมให้เหมาะกับการเป็นเจ้าบ่าวที่เพิ่งทำเสร็จไปเมื่อครู่  เรื่องการตกแต่งสถานที่...คงต้องยกความดีความชอบให้พวกลูกน้อง  แต่งานวันนี้จะออกมาสมบูรณ์แบบไม่ได้ถ้าไม่มีองค์ประกอบอย่างอื่นเช่นเรื่องของอาหาร  เครื่องดื่ม  ของชำร่วย  และของจิปาถะอีกมากมายที่ตัวเขาเองก็นึกไม่ออก  ซึ่งทุกๆอย่างก็เป็นสิ่งที่พี่ชายต่างแม่คนนี้ช่วยจัดเตรียมไว้ให้ทั้งหมด

     

                “มึงอย่ามาทำซึ้งตอนนี้ได้ไหมจงอิน!!  เดี๋ยวหน้ากูเลอะ  ถ้ามึงไม่อยากให้กูร้องไห้  มึงหยุดพูดไปเลย!!

     

                “ก็ผมอยากขอบคุณเจ๊จริงๆหนิ  ถ้าไม่ได้เจ๊ช่วย...งานนี้ผมคงแย่”

     

                “มึงเป็นน้องกูนะ...ถ้ากูไม่ช่วยมึงแล้วจะให้กูไปช่วยใคร”

     

                “ก็เลยอยากขอบคุณนี่ไง  ขอบคุณมากๆ  ผมรักเจ๊นะครับ”

     

    เพี๊ยะ!!!!

     

                “ฮึกก!  กูบอกว่าให้หยุดพูดไง  ฮึก!!...”

     

                “ผมกำลังจะแต่งงานนะเจ๊  ผมไม่ได้ไปตาย  เจ๊จะร้องไห้ทำไมวะ”

     

                “ไอ้บ้า!...กูต้องแต่งหน้าใหม่เลยเห็นไหม?!!  มึงทำหน้ากูเลอะ”

     

                คนเป็นพี่...ฟาดมือลงไปบนอกของว่าที่เจ้าบ่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ  และคิดว่าการตะโกนแหกปากด่ากันทุกวันยังดีกว่าคำพูดที่ชวนให้น้ำตาไหลจนต้องกรีดอายไลน์เนอร์ใหม่อีกรอบ  มือบางกระชับเสื้อสูทสีฟ้าอ่อนให้น้องชาย  และบรรจงพับผ้าเช็ดหน้าสีขาวใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อพร้อมติดเข็มกลัดรูปปลาดาวสีน้ำเงินตามธีมของงานแต่งงาน

     

                “เจ๊...ผมจะเป็นสามีที่ดีได้ไหม?”

     

                “ทำไมถึงถามแบบนั้นวะ...มึงกำลังกังวลเรื่องอะไร?”

     

                “ก็ไม่เชิงกังวลหรอกเจ๊  แต่ผม  เอ่อออ...กลัวน้องปลาไม่มีความสุข  กลัวตัวเองทำให้น้องปลาเสียใจอีก”

     

                “อนาคตมันไม่แน่นอน  มึงเองก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ...มึงอย่าเอาชีวิตคู่ของพ่อกับแม่มาทำให้ตัวเองประสาทเสียจะดีกว่า  มึงเป็นคนดีนะจงอิน  แต่มึงควรปรับปรุงเรื่องของความคิดแล้วก็การใช้อารมณ์”

     

                คนเป็นพี่...เข้าใจความรู้สึกของน้องชายมากที่สุด  เพราะตอนที่เขาต้องแต่งงานกับชานยอล  ความคิด  ความสับสน  ความกังวลกับเรื่องต่างๆก็วิ่งเข้ามาในหัวสมองเต็มไปหมด  การเกิดมาในครอบครัวที่บิดามีภรรยาสองคนมันได้สร้างความสงสัยให้ลูกๆมากอยู่พอสมควร  และไม่เคยเข้าใจความรักในรูปแบบนั้นเลยสักนิด  ซึ่งตอนนี้จงอินก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับเขาในขณะนั้น  ปมของการถูกล้อเลียนว่าเป็นลูกเมียน้อยเมียหลวงมันไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของพวกเขา  แถมยังส่งผลกระทบให้คนที่มีครอบครัวไม่ปกติเหมือนครอบครัวอื่นๆกลายเป็นคนคิดมากเมื่อต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง

     

                “ตอนเจ๊แต่งงานกับชานยอล  เจ๊ตื่นเต้นไหม?”

     

                “ตื่นเต้นสิ  กูกำลังจะมีผัวนะ...ไม่ได้ออกไปซื้อข้าวหน้าปากซอย”

     

                “แล้วชานยอลมันทำให้เจ๊มีความสุขมากไหม?”

     

                “กูมีความสุขทุกวันนั่นแหละ  ที่มึงเห็น...อาจดูขัดแย้งกับที่กูพูด  แต่กูมีความสุขจริงๆนะ”

     

                “ผมไม่เห็นชานยอลมันจะทำอะไรเลย  วันวันเอาแต่กวนประสาท  แล้วก็เล่นกับอีช็อคโก้อยู่หน้าโรงงาน??”

     

                “ก็นั่นแหละ...ความสุขของกู”

     

                แค่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักก็มีความสุขมากพออยู่แล้ว...และความสุขของเขาก็คือการมีผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอลคอยอยู่เคียงข้าง  ไม่จำเป็นต้องพูดคำหวานๆให้ฟังทุกวัน  ไม่มีการหอมแก้มกันก่อนนอนหรือตอนตื่น  ไม่มีของขวัญเนื่องในวันพิเศษ  แต่แค่มี...แค่อยู่ในสายตา  แค่ไม่ทิ้งกันไปไหนในยามทุกข์กายทุกข์ใจมันก็เพียงพอแล้วสำหรับภรรยาอย่างเขา

     

     

                สามีไม่ใช่คนโรแมนติก...ข้อนี้แบคฮยอนทราบดี  และไม่เคยร้องขอให้ต้องทำสิ่งใดที่ขัดแย้งต่อความรู้สึก  ความรักของเขามันจะเป็นไปในรูปแบบที่ตรงไปตรงมา  รักก็คือรัก  ไม่ชอบก็บอกว่าอย่าทำ  ส่วนไหนพอจะอดทน  ปรับเปลี่ยนและบอกกล่าวให้แก้ไขกันได้ก็จะรีบทำเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุข  รู้ดีว่าเป็นคู่รักที่ไม่ค่อยมีความหวาน  แต่ก็ไม่เคยจืดจางหรือว่าห่างเหิน (:

     

                “ผมจะเป็นสามีที่ดี  ผมสัญญา”

     

                “ไปบอกน้องปลานู้นนน!!  ไม่ใช่มาบอกกู”

     

                “ก็อยากบอกให้เจ๊รู้ไว้  แล้วถ้าผมทำอะไรผิด  เจ็ก็คอยเตือนผมด้วยละกัน”

     

                “มึงโตแล้วจงอิน  กูเชื่อว่ามึงจะดูแลน้องปลาได้”

     

                “ขอบคุณนะเจ๊  ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย”

     

                เป็นอ้อมกอดในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ที่พี่น้องต่างแม่คู่นี้มอบให้แก่กัน  แถมยังทำให้คนที่ตื่นมาแต่งหน้าแต่เช้าต้องเริ่มเติมแป้งและกรีดอายไลน์เนอร์ใหม่อีกรอบ  มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ  ความยินดี  รวมถึงความรักที่พี่มีให้กับน้อง  ถึงแม้จะเกิดจากคนละแม่  แต่ผู้เป็นพ่อก็ไม่เคยพูดว่าใครดีกว่าหรือรักใครมากกว่ากัน  พ่อที่มีรูปแบบความรักแปลกๆ  พ่อที่ไม่เคยบอกรักลูกๆแต่มักจะปฏิบัติให้เห็นและเป็นพ่อที่สามารถทำให้ลูกอย่างพวกเขามีความสุขจนถึงวันนี้

     

    แกร๊กกก!!!

     

                “จงอิน!!!...แขกมาครบแล้วนะเว้ย  มึงแต่งตัวเสร็จยังวะ!??”

     

                “เสร็จแล้ว  กำลังจะลงไปแล้วเนี่ย”

     

                “แบคคค!!  ร้องไห้ทำไม?  เกิดอะไรขึ้น?  มึงทำอะไรเมียกูไอ้จงอิน????!!

     

                “มันเสียใจเพราะมีผัวอย่างมึงมั้ง!

     

                “อ้าว...ไอ้เจ้าบ่าว  เดี๋ยวกูต่อยฟันร่วงเลยหนิ”

     

                เสียงเปิดประตูห้องโดยไม่มีการเคาะ...และการบอกกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกมันทำให้จงอินรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องที่เสียมารยาท  เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเชิญมาร่วมงานแต่งงานได้เดินทางมาครบหมดแล้ว  แต่เขายังยืนกอดพี่ชายอยู่บนห้องนอน  แถมคราบน้ำตาแห่งความดีใจของแบคฮยอนยังพาลให้ถูกพี่เขยตัวโย่งต่อว่าทั้งๆที่ยังไม่ทราบความจริง

     

                “ผมไปก่อนนะเจ๊...เจ๊เติมหน้าเสร็จก็รีบตามลงมาเลยนะ  ผมกลัวทำงานแต่งพัง”

     

                “ไม่พังหรอกน่ะ  มั่นใจตัวเองหน่อย”

     

                “ขอบคุณนะเจ๊”

     

                “มึงพอเลย  ลงไปข้างล่างได้แล้ว  เดี๋ยวกูจะรีบตามไป”

     

                “รักเจ๊...น้าาาา”

     

                “เอออออออ!!!

     

                เกิดมาก็ไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน...มันตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก  แถมยังเป็นงานสำคัญที่ไม่อยากทำสิ่งใดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว  และการให้คนที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาคอยบอก  คอยสอนหรือคอยตักเตือนก็เป็นเรื่องที่เจ้าบ่าวต้องการมากที่สุด  จงอินดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกอีกครั้ง  พร้อมส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนเดินออกจากห้องเพื่อไปต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขาในวันนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    09.00 น.

     

     

                เป็นฤกษ์งามยามดี...ที่คู่รักจะได้เริ่มทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์  และจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  สถานที่พร้อม  สักขีพยานพร้อม  รวมถึงบาทหลวงผู้ที่จะมาทำหน้าที่ในงานนี้ก็พร้อมแล้วเช่นกัน  ส่วนบริเวณโดยรอบของบริษัทบ้านปลาและโรงงานก็มีบอดี้การ์ดหลายสิบคนคอยคุ้มกันให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น  ซึ่งพี่เขยจอมหวงอย่างคิมอูบินก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายความสุขของน้องปลาเด็ดขาด

     

     

                ภายในงาน...เต็มไปด้วยรอยยิ้มและการแสดงความยินดีกับคู่บ่าว-สาว  พร้อมการมอบของขวัญมากมายจนผู้ที่ได้รับอยากแกะดูเต็มทีว่าข้างในมันคืออะไร  น้องปลาเขย่ากล่องของขวัญอยู่นานสองนานเมื่อเดินทางมาถึงบ้านของว่าที่เจ้าบ่าว  และแทบอดใจรอไม่ไหวถ้าไม่ถูกผู้เป็นพ่อห้ามเอาไว้เสียก่อน  เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย...แต่การจะให้ลูกชายแกะของขวัญก่อนการทำพิธีมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ  คงเป็นเรื่องแรกที่จีโฮไม่ตามใจลูกชายคนเล็กแถมยังตักเตือนด้วยเสียงที่ค่อนข้างดุดัน

     

    และตอนนี้...พิธีแต่งงานก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการก่อนที่ความอยากแกะของขวัญจะทำให้ว่าที่เจ้าสาวหงุดหงิด

     

                บาทหลวงที่เคยทำหน้าที่ในงานแต่งงานของอี้ชิง...ถูกเชิญให้มาทำหน้าที่นี้อีกครั้ง  และงานแต่งงานสำหรับคู่รักคู่ใหม่ก็จะเป็นการทำพิธีที่ไม่ได้มีความยุ่งยากหรือซับซ้อนเหมือนคู่รักชายหญิงทั่วไป  แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิ่งที่จะช่วยยืนยันได้ว่าน้องปลากับจงอินคือสามีภรรยากันอย่างแท้จริง  บนดาดฟ้าของบริษัทบ้านปลาในตอนนี้ก็คล้ายจะเป็นใจให้ทุกคนในงาน  เพราะก้อนเมฆก็ช่วยเคลื่อนมาบดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์  และยังมีลมพัดเอื่อยๆที่ทำให้รู้สึกเย็นสบาย

     

     

                คนเป็นเจ้าสาว...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นสถานที่ในการทำพิธี  เพราะมันเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่บนหาดทรายมากกว่าบนดาดฟ้า  ไม่คิดไม่ฝันว่าเจ้าบ่าวจะทุ่มเททำอะไรแบบนี้เพื่อวันสำคัญ  แถมรอบๆกายก็ยังมีแต่สิ่งที่เขาโปรดปรานทั้งนั้น  ปลาตัวเล็กตัวน้อย  เปลือกหอย  สาหร่ายสีเขียวที่กำลังพริ้วไหวไปตามแรงลม  โขดหินพร้อมปะการังเทียมหลากสี  ทุกๆอย่างทำให้เขารู้สึกว่างานแต่งงานมันถูกจัดขึ้นใต้ท้องทะเล  และ....

     

                “เป็นความประสงค์ของพวกเธอที่จะแต่งงานกัน  ให้ประสานมือขวาและประกาศความยินยอมของพวกเธอต่อหน้าพระองค์และศาสนิกชนของพระองค์”  บาทหลวงกล่าวคำตามพิธีที่เคยพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน  แต่สำหรับการทำพิธีนอกสถานที่ก็คงมีแต่ครอบครัวของตระกูลโอเท่านั้นเพราะงานแต่งงานของคนเป็นพี่อย่างอี้ชิง...บาทหลวงคนนี้ก็ถูกเชิญให้ไปทำพิธีในอควาเรี่ยม  (Aquarium)

     

     

                “ผม...คิมจงอิน  ขอรับ  โอเซฮุนเป็นภรรยาของผม  ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก  ในยามไข้และสบายดี  ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชีวิตของผม”  เป็นคำกล่าวที่ตั้งใจท่องจำมาหลายวัน  และดีที่สมองยังไม่ถูกทำลายไปพร้อมๆกับความตื่นเต้น  ไม่อย่างนั้น...เจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างเขาก็คงลืมสิ่งที่ต้องกล่าวต่อหน้าสักขีพยานทุกคนในวันนี้

     

    แต่......

     

                “หนู...โอเซฮุน  ขอรับ  คุณคิมเป็นสามีของหนูคนเดียว  หนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี  จะรักคุณคิมเยอะๆ  ไม่โกหกและจะรักที่สุดในโลกตลอดไป  จุ้บๆร้อยทีเลยฮะ”  จำอะไรไม่ค่อยเก่ง  ยกเว้นชื่อของสัตว์น้ำที่ขายอยู่ในร้าน  และถ้าให้พูดอะไรยืดยาวเหมือนเจ้าบ่าวมันก็จะทำให้เวลาในการแกะของขวัญถูกเลื่อนออกไปอีก  ซึ่งเจ้าสาว...ก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น

     

     

                พิธีการ...จบลงด้วยรอยจูบของเจ้าบ่าวที่อยากทำมากกว่าการจูบ  แต่ก็คงต้องรอไปก่อนเพราะงานแต่งงานมันยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้เนื่องจากญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆที่มาร่วมงานยังต้องอยู่ทานของว่างหรืออยู่พูดคุยกันจนกว่าจะถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ  ส่วนเรื่องที่ไม่มีการสวมแหวนในการทำพิธีเมื่อครู่ก็เป็นเพราะเจ้าบ่าวถือวิสาสะซื้อแหวนและมอบให้เจ้าสาวไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

                เมื่อพิธีการแต่งงานของน้องชายเสร็จสิ้น...อี้ชิงกับสามีก็ทำหน้าที่เดินมาส่งผู้ใหญ่บางท่านที่ขอตัวกลับก่อน  พร้อมโค้งตัวเพื่อเป็นการกล่าวลาและขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานของงานสำคัญในวันนี้  แล้วสักพัก...รถยนต์หลายคันก็ทยอยเคลื่อนตัวออกไปจากบริษัทบ้านปลาจนเหลือเพียงครอบครัวของเขากับครอบครัวของฝั่งเจ้าบ่าวเท่านั้น  ส่วนเพื่อนๆของหนุ่มผิวเข้มก็เหมือนจะร่ำลาหรืออวยพรกันยังไม่เสร็จ  และทางด้านของเจ้าสาว...ก็คงจะมีแต่กล่องของขวัญมากมายที่เป็นเป้าหมายหลักเพราะเจ้าตัวไม่มีเพื่อนๆมาให้กล่าวคำอำลาหรือแม้กระทั่งเอ่ยคำอวยพรอย่างเจ้าบ่าว

     

    แควกกกก!!!! 

    แควกกกก!!!!

     

                เสียงฉีกกระดาษ...ดังขึ้นซ้ำๆพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ที่ได้รับของขวัญ  เพราะสิ่งที่อยู่ด้านในส่วนมากมันช่างถูกใจเจ้าสาวอย่างเขาจริงๆ  ชุดเครื่องนอน  ปลอกหมอน  ผ้าห่มมันเป็นลวดลายของสัตว์น้ำ  ชุดนอนสำหรับคู่รักก็เป็นลายปลาฉลาม  ผ้าขนหนูเนื้อนิ่มสองผืนเป็นลายเปลือกหอย  และของอื่นๆอีกมากมายที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันก็ล้วนแต่เป็นลวดลายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ท้องทะเล

     

     

                มือบางที่ยกของขวัญชิ้นนั้นชิ้นนี้ขึ้นมาดูอย่างมีความสุข...รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม  หรือแม้แต่คิ้วโก่งได้รูปที่ขมวดกันจนยุ่งเมื่อเห็นว่าของขวัญบางอย่างมันคือถุงยางอนามัยก็สามารถทำให้คนเป็นเจ้าบ่าวยิ้มตามและพลอยมีความสุขไปด้วย  จงอินเดินเข้ามาในห้องรับแขกได้สักพักหลังจากที่ร่ำลา  และเดินไปส่งเพื่อนๆที่หน้าบ้านเรียบร้อย  แต่ตัวตนของเขา...กลับถูกน้องปลามองข้ามไปเสียอย่างนั้นเพราะของขวัญกองโตมันคงสำคัญกว่าผู้ที่เป็นเจ้าบ่าว

     

    ไม่ได้โกรธ...แต่รู้สึกขำที่ได้เห็นเด็กน้อยยังคงทำหน้าสงสัยเกี่ยวกับของขวัญบางชิ้น ^_^)

     

                “น้องปลาครับบบ...หิวหรือเปล่า??”

     

                “คุณคิม...อันนี้มันเอาไว้ทำอะไรเหรอฮะ?”

     

                ไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่ถาม...แถมยังถูกตั้งคำถามกลับพร้อมกล่องถุงยางอนามัยที่ยื่นมาตรงหน้า  จงอินหยิบของขวัญที่คิดว่าเพื่อนๆคงจะนำมาแกล้งวางไว้บนโต๊ะ  แล้วอุ้มเด็กขี้สงสัยขึ้นมานั่งบนตักแทนการนั่งจุ้มปุ๊กไปกับพื้นพรม  มือหนากอดเอวเจ้าสาวป้ายแดงเอาไว้จนเต็มอ้อมแขนและวางคางไว้บนไหล่ที่ตามด้วยการพรมจูบไปทั่วซอกคอขาวเนียน  คนที่ถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่ย่นคอหนีปากหยักที่ยังคงประทับจูบไม่หยุด  และยิ่งหนี...ก็ยิ่งเหมือนเป็นการเปิดทางให้คนมากประสบการณ์จู่โจมได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม

     

                “พี่คิดถึงน้องปลาจังเลยครับ”

     

                “หนูก็คิดถึงคุณคิมฮะ  คิดถึงมากๆ”

     

                เจ้าของรอยจูบ...จำเป็นต้องละออกจากความหอมและความนุ่มนิ่มก่อนที่อารมณ์ต่างๆมันจะดับลงได้ยาก  การเตรียมตัวหรือเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพื่องานสำคัญในวันนี้มันทำให้คนทั้งคู่ไม่ค่อยได้พบหน้ากัน  ซึ่งความคิดถึง...ก็พาให้ปลาตัวน้อยต้องเปลี่ยนท่าทางการนั่งให้ถนัดต่อการโอบกอดคุณคิมมากกว่านี้  เจ้าสาวตัวน้อยนั่งคล่อมตักเจ้าบ่าวผิวเข้มบนโซฟาตัวใหญ่  แล้วซบใบหน้าจิ้มลิ้มลงบนอกกว้างพร้อมกอดเอวหนาเอาไว้เหมือนเป็นเชิงอ้อน  ปากคมยกยิ้มทันทีและรีบกอดตอบความอบอุ่นอันแสนน่ารักเอาไว้เช่นกัน

     

                “เหนื่อยไหมครับน้องปลา”

     

                “กอดคุณคิมแล้วหายเหนื่อยฮะ”

     

                เป็นคำตอบที่ทำให้คนถามยิ้มกว้างได้อีกครั้ง...และอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป  จงอินรู้ดีว่าการแต่งงานมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นมากกว่าจุดสิ้นสุด  การมีใครอีกคนเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันถือเป็นสิ่งที่เขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง  วันวันทำแต่งาน  หมกตัวอยู่ในบริษัทกับพวกลูกน้อง  ออกเดินทางไปติดตั้งตู้ปลาให้ลูกค้า  นี่เป็นการชีวิตของเขาเมื่อหลายปีที่ผ่านมาและตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น  แต่มันจะต่างกันตรงที่...มีเด็กในอ้อมกอดคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ

     

                “แล้วน้องปลากินอะไรบ้างหรือยัง  หื้มม?”

     

                “กินขนมไปแล้วฮะ  หนูอยากแกะของขวัญให้เสร็จ  แต่หนูง่วงมากเลยฮะ  งืออ...”

     

                “ง่วงก็นอนนะครับ  เดี๋ยวพี่จะเกาหลังให้”

     

                “คุณคิมนอนกับหนูนะฮะ  หนูไม่อยากนอนคนเดียว”

     

                “งั้นก็ต้องไปนอนบนห้องนะครับน้องปลา”

     

                 “คุณคิมมมม...อุ้มหนูหน่อยฮะ หนูเหนื่อย  หนูเดินไม่ไหวแล้วฮะ”

     

                การตื่นแต่เช้า  การเดินต้อนรับแขกในงาน  การยืนทำพิธี...ทุกอย่างๆมันทำให้เจ้าสาวทั้งง่วงทั้งเหนื่อย  ปกติน้องปลาจะตื่นตอนเก้าโมงทุกวันและทานอาหารเช้าร่วมกับพี่ชายพี่เขยก่อนเริ่มทำงานหรือเรียนพิเศษตอนสิบโมงครึ่ง  แต่วันนี้...อะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงไปหมด  ของขวัญก็อยากแกะให้เสร็จ  เค้กสำหรับบ่าว-สาวก็อยากกลับไปทานต่อ  แต่การตื่นเช้าเกินไปก็ทำให้ง่วงจนไม่สามารถฝืนเอาไว้ได้อีกแล้ว

     

    แกร๊กก!!!

     

                “อยู่นี่เอง...อ้าว!!  เกิดอะไรขึ้นวะจงอิน??!

     

                “ผมจะพาน้องปลาไปนอนบนห้องครับเฮีย  น้องคงเหนื่อยมาก...ก็เลยหลับไป”

     

                “เดี๋ยวกูพาไปเอง  มึงไปหาพ่อแม่กูหน่อย  ท่านมีเรื่องจะคุยด้วย”

     

                “ครับเฮีย”

     

                ยังไม่ทันเดินพ้นจากโซฟา...ประตูห้องรับแขกก็ถูกเปิดออกด้วยมือของรุ่นพี่คนสนิท  และตามมาด้วยคำสั่งที่เจ้าบ่าวก็ไม่อาจโต้แย้งอะไรได้  จงอินมองตามน้องปลาที่อยู่ในอ้อมอกของคริสไปจนสุดทางก่อนที่ตัวเองจะต้องออกไปพบผู้ใหญ่ทั้งสองท่านที่มีความสำคัญมากๆต่อผู้ที่เป็นเจ้าสาว  และไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย  คำอวยพรหรือคำตักเตือนรวมถึงสิ่งที่ไม่คาดคิดของความเป็นตระกูลอู๋...เจ้าบ่าวอย่างเขาก็พร้อมที่จะรับมือเสมอ

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

                “สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า...สวัสดีครับพี่อูบิน”

     

                “เออ...สวัสดี  //  เฮ้ยยย....พวงมึงกลับกันได้เลย  ส่วนซึงฮอนรอกลับพร้อมกู!!!

     

                เป็นครอบครัว...ที่หนุ่มผิวเข้มยังคงคิดว่าไม่ได้เป็นเจ้าของธนาคารเพียงอย่างเดียวแน่นอน  เพราะเมื่อเดินมาพบผู้ใหญ่ทั้งสองท่านตามคำสั่ง  แล้วได้เจอกับลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ที่กำลังบอกให้ลูกน้องบางคนอยู่ต่อและบางส่วนกลับก่อนมันทำให้จงอินคิดไปในทางอื่นไม่ได้จริงๆ  ขนาดงานแต่งงานของเขายังมีคนคอยคุ้มกันมากมายขนาดนี้  แล้วถ้าเป็นที่ทำงาน  บ้านหรือที่อยู่อาศัยในต่างประเทศมันจะมีการ์ดคอยคุ้มกันมากขนาดไหน??  จงอินพยายามทำความเข้าใจว่าการทำงานธนาคารย่อมมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม

     

    แต่ที่นี่...มันคือบริษัทที่ทำตู้ปลา  พี่ชายของคริสไม่น่าจะเอาคนมาคอยคุ้มกันเจ้าสาวมากถึงขนาดนี้  - _-)

     

                “คุณลุงกับคุณป้าจะกลับแล้วเหรอครับ?”

     

                “ใช่จ้ะ...งานที่ฮ่องกงยุ่งน่าดู  ถ้าไม่ติดธุระสำคัญป้ากับลุงต้องอยู่ปาร์ตี้ด้วยแน่นอน”

     

                “น่าเสียดายนะครับ  แล้วน้องปลาก็เหนื่อยจนหลับไปเมื่อครู่  น้องก็เลยไม่ได้มาลาคุณลุงกับคุณป้า  ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ”

     

                “ไม่เป็นไร...ป้าเข้าใจ  ยัยหนูยังเด็ก  นอนเยอะๆสิดีจะได้โตเร็วๆ”

     

                “ผมขอบคุณ....คุณลุงกับคุณป้ามากๆนะครับที่มางานแต่งงานของผม  แล้วก็ต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้ผมดูแลน้องปลา”

     

                “ยัยหนูรักใคร...ลุงกับป้าก็รักด้วย  ยัยหนูอาจซนไปบ้าง  จงอินอย่าถือสาเลยนะ”

     

                “ผมจะดูแลน้องปลาให้ดีที่สุดครับ” 

     

                “อยากมีแฟนเด็ก...ก็ต้องอดทนหน่อย  ป้าฝากยัยหนูด้วยนะจงอิน”

     

                “คุณลุงกับคุณป้าสบายใจได้เลยครับ”

     

                “แล้วนี่ก็ของขวัญนะจ๊ะ...ป้ากับลุงทะเลาะกันตั้งนาน  สรุปแล้วก็ไม่รู้จะให้อะไรดี  ถ้าจงอินไม่ชอบก็บอกผ่านเจ้าคริสมาได้เลย”

     

                “ไม่ว่าจะเป็นอะไร...ผมก็ชอบทั้งนั้นครับ  แล้วของขวัญที่ผู้ใหญ่มอบให้ก็มีค่าเสมอ  ขอบคุณมากๆนะครับ”

     

                “งั้นลุงกับป้าไปก่อนนะจ๊ะ  เที่ยวให้สนุก  แล้วก็...ถ่ายรูปส่งมาให้ดูด้วยล่ะ  ป้ากับลุงจะรอดู”

     

                “...........?????!!!

     

    VROOMMMM!!!!!

     

                เอ่ยคำขอบคุณ...พร้อมโค้งกายให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน  รวมถึงลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ที่คอยประคองกายผู้เป็นแม่ไว้ตลอดเวลา  และเมื่อพาหนะสุดหรูเคลื่อนตัวออกไปจากรั้วบ้าน  คนที่ได้รับของขวัญชิ้นสุดท้ายเนื่องในวันแต่งงานของตัวเองก็รีบเปิดซองกระดาษสีเหลี่ยมขนาดใหญ่สีแดงออกดูทันทีว่ามีอะไรอยู่ด้านใน

     

    และ...ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักสุดโรแมนติกก็คือคำตอบในเรื่องที่สงสัย  แถมยังมีบัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินแนบมาด้วยสองใบ 

     


     

     

     

                Poseidon  Undersea  Resort...ที่ฟิจิ  ,  Conrad  Maldives  Rangali  Island  Hotel...ที่มัลดีฟ  ,  The  Manta    Resort...ที่แทนซาเนีย  และ  Atlantis  The  Palm...ที่ดูไบ  เริ่มทำให้จงอินไม่แน่ใจแล้วว่า...ทริปฮันนีมูนมากมายที่ถืออยู่ในมือตอนนี้มันได้ถูกจองเอาไว้เพื่อคู่บ่าว-สาวจริงๆหรือไม่  เพราะแต่ละสถานที่ดูเหมือนจะจองไว้เพื่อเอาใจยัยหนูของผู้ใหญ่ทั้งสองท่านมากกว่า  ใช่ว่าไม่ชอบเสียงคลื่นหรือการเดินย่ำเท้าอยู่บนผืนทราย  แต่ทริปของการไปฮันนีมูนมันก็ไม่ควรจะเป็นการอยู่แต่ในโลกใต้ท้องทะเลเพียงอย่างเดียว

     

    ต้องรวยมากเท่านั้น...ถึงจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ได้  แล้วก็อย่างที่คุณนายตระกูลอู๋ได้บอกเอาไว้  “อยากมีแฟนเด็ก  ก็ต้องอดทนหน่อย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บริษัท  บ้านปลา

    After  Party...ริมสระน้ำ

    19.00 น.

     

    ตูมมมมมม!!!!

    ตูมมมมมม!!!!

     

     

                เหมือนเป็นงานเลี้ยง...เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทมากกว่าการฉลองเพื่อคู่รักที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อเช้า  เพราะตอนนี้ลูกน้องในบริษัทมีปลากับบริษัทบ้านปลากำลังกระโดดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน  ของคาว  ของหวาน  ลูกบอล  ห่วงยาง  รวมถึงเครื่องดื่มมากมายก็ถูกเจ้าของบ้านเตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ  ส่วนเคาน์เตอร์บาร์  เตาปิ้งบาร์บิคิวและเก้าอี้แบบยาวที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำก็เพิ่งถูกใช้งานเป็นครั้งแรกหลังจากที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลอู๋รูดบัตรเพื่อซื้อของทั้งหมดไปเกือบแสน

     


                ไม้แหลมขนาดใหญ่...ที่มีกุ้งตัวโตๆ  มะเขือเทศและสัปปะรดเสียบเอาไว้ก็คือบาร์บิคิวของเด็กอายุ  16  ปี  แต่!!ห้ามมีหอมใหญ่เด็ดขาด  แถมยังได้รับอนุญาตให้ทานน้ำอัดลมได้เต็มที่  แต่ถ้าทานมากเกินไปจนปวดท้องก็จะต้องถูกพี่เขยทำโทษ  ไม่ได้อยากบังคับหรือชอบออกคำสั่งกับใคร  แต่อาหารและเครื่องดื่มบางอย่างก็อาจทำให้น้องเมียป่วยได้  เคยดูแลกันเช่นไรก็ยังคงทำเช่นเดิมและหวังว่าเจ้าบ่าวป้ายแดงก็จะทำเช่นกัน

     

                “น้องอี้!!...พี่ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำค่ะ  เดี๋ยวไม่สบาย”

     

                “แบคยังเล่นได้เลย  ทำไมอี้จะเล่นไม่ได้ล่ะ!!

     

                นั่งจิบเบียร์อย่างสบายใจได้ไม่นาน...ก็ต้องรีบลุกไปจับภรรยาเอาไว้ก่อนที่จะกระโดดลงไปในสระตามแฟนตัวเล็กของรุ่นน้องคนสนิท  ใบหน้าสวยหวานออกอาการงอแงเมื่อถูกสั่งห้ามและคว้าเบียร์ของสามีมาดื่มจนหมดแก้วเพื่อดับอารมณ์  อี้ชิงเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ต่อทันทีพร้อมกับเทเบียร์ใส่แก้วอีกครั้ง  แล้วยกขึ้นดื่มเหมือนคนที่กระหายน้ำมานาน  และ......

     

                “โอเคๆ...พี่ยอมแล้วค่ะ  แต่ถ้าเล่นน้ำแล้วไม่สบาย  น้องอี้คงรู้ใช่ไหมคะ...ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?!!

     

                “อี้รู้...ถ้าอี้ไม่สบายยยย  พี่คริสก็จะดูแลอี้ไงครับ”

     

    จุ้บบ!!!

     

                “พี่ยอมให้วันนึงก็แล้วกัน”

     

                “สามีใครน้าาา...ทั้งหล่อ  ทั้งใจดี”

     

                “แล้วเมียใครน้าาา...ทั้งดื้อ  ทั้งน่ารัก  หื้มม?”

     

                น้องปลาดื้อมากเท่าไหร่...คนเป็นพี่ก็ยิ่งดื้อมากเท่านั้น  แต่คริสก็ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใครนอกจากภรรยาสุดที่รักและน้องเมียจอมแก่น  ยอมให้ป่วยดีกว่าให้เมาแล้วทำอะไรที่คนเป็นสามีก็ไม่อยากให้ใครเห็น  เวลาอี้ชิงถูกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เล่นงานมันช่างน่ามองพอๆกับการที่ได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่านอนทอดกายอยู่บนเตียงกว้าง  และสามีอย่างเขาก็ไม่เคยทนต่อการถูกยั่วยวนได้เลยสักครั้ง  แถมการได้รับรอยจูบเมื่อครู่ก็ยังพาให้ใจอ่อนได้ง่ายขึ้น

     

     

                ความสนุกสนาน...รอบๆบริเวณสระน้ำยังคงดำเนินต่อไป  โดยมีเสียงเพลงที่เปิดไว้เพียงแผ่วเบาเพื่อสร้างบรรยากาศ  แค่เสียงของลูกน้องนับสิบคน  เสียงกระโดดน้ำ  เสียงพูดคุยกันก็ดังมากพออยู่แล้ว  และถ้าจะให้เปิดเพลงดังกว่านี้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควร  คริสเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในงานเพราะคุณพ่อของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต้องรีบกลับไปที่บริษัทมีปลาเพื่อดูว่าเจ้าพวกหางสวยมันมีจำนวนมากพอเท่าที่ลูกค้าต้องการหรือไม่

     

     

                ประมุขของตระกูลโอและตระกูลคิม...มักจะเห็นเรื่องงานสำคัญเสมอ  ถึงแม้ลูกๆจะสำคัญที่สุดในชีวิต  แต่ถ้าไม่มีงาน...พวกท่านก็คงจะเลี้ยงลูกมาจนเติบใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้และลูกๆทุกคนก็เข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี  อยากให้พวกท่านได้พักผ่อนบ้าง  แต่ถ้าการทำงานมันคือสิ่งที่ทำให้คุณพ่อมีความสุข  คนเป็นลูกก็คงห้ามอะไรไม่ได้  เพราะสุดท้าย...ความสุขมากมายก็จะย้อนกลับมาหาลูกๆทุกคนเสมอ

     

                “น้องปลาอยากเล่นน้ำไหมครับ?”

     

                “ไม่อยากเล่นฮะ...หนูยังไม่หายเหนื่อยเลย”

     

                ขนาดได้นอนพักไปตอนเสร็จพิธีในช่วงเช้า...คนเป็นเจ้าสาวก็ยังไม่หายเพลีย  และตอนนี้ยังนอนพิงอกกว้างของเจ้าบ่าวเอาไว้พร้อมกับทานบาร์บิคิวแสนอร่อยไปด้วย  ถ้าเป็นเมื่อก่อนจงอินคงถูกพี่เขยของปลาตัวน้อยตบจนสมองเสื่อมไปนานแล้ว  แต่การแต่งงาน...มันช่วยให้เขารอดพ้นต่อการถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกกีดกันจากกระทำที่ไม่เหมาะสม  แถมยังได้กอด  ได้หอม  ได้จูบโดยไม่ต้องปิดบังและหลบๆซ้อนๆอีกต่อไป

     

                “น้องปลาจะกินน้ำอะไรดีครับ  เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้”

     

                “กินแบบคุณคิมได้ไหมฮะ  มันมีฟองด้วยอะ  หนูอยากกิน!!

     

                “น้องปลากินไม่ได้ครับ  มันเป็นเครื่องดื่มของผู้ใหญ่”

     

                “ขอหนูชิมนิ๊ดดด...นึงนะฮะ  นิดเดียว”

     

                “มันขมนะครับ  ไม่อร่อยด้วย  น้องปลากินโค้กเหมือนเดิมดีกว่า”

     

                “ถ้าไม่อร่อย...แล้วคุณคิมกินทำไมล่ะฮะ!!

     

                คิมจงอิน...ไม่เคยเอาชนะเสียงหวานที่บ่นเจื้อยแจ้ว  พร้อมกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่หันมาเถียงด้วยคำพูดที่ยากจะแก้ต่างได้เลยสักครั้ง  และถ้าไม่เกรงใจสายตาของญาติพี่น้องที่กำลังสนุกอยู่กับปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้  เขาคงจับปลาตัวน้อยฟัดให้จมอกโทษฐานที่ทำตัวน่ารักเกินไป  ไม่รู้ว่าจะโยนความผิดให้ใครดีระหว่างความหื่นของตัวเองกับแฟนเด็กที่ทำให้เขายิ้มได้ทุกห้านาที  คนอะไร...เวลางอนก็น่ารัก  เวลาถูกขัดใจก็น่ารัก  ยิ่งเวลาเถียง...ก็ยิ่งน่ารักมากขึ้นไปอีก  และปากบางสีหวานที่เบะออกตอนถูกห้ามทานเครื่องดื่มมึนเมาก็อยากบีบให้ร้องไห้งอแง

     

    เหมือนคนเป็นโรคจิต...เมื่อถูกความน่ารักของปลาตัวน้อยจู่โจมเข้าที่หัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า

     

                “เป็นไง...ขมไหมล่ะ??!

     

                “ฮืออ...คุณคิมมม  แหวะ!!!....แค่กก  แค่ก ๆ ๆ!!

     

                การตามใจ...ทำให้น้องปลาลำสักรสชาติของเครื่องดื่มที่อยากลองชิม  และมันก็ขมอย่างที่คุณคิมได้บอกเอาไว้  ใบหน้าขาวนวลแดงก่ำจากการทานเบียร์ไปเพียงอึกเดียว  แถมยังไอจนเจ้าของอกกว้างต้องช่วยลูบหลังให้  จงอินลืมคิดเลยไปว่า...การให้แฟนเด็กทานในสิ่งที่เสี่ยงต่ออาการแพ้มันอาจทำให้พี่เขยอย่างคริสเกิดความไม่พอใจ  เจ้าตัวจึงรีบอุ้มร่างน้อยๆเข้าสู่อ้อมอกแล้วเดินออกไปจากงานเลี้ยงริมสระน้ำก่อนพาขึ้นไปพักที่ห้องนอนทันที

     

     

                ไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศอันแสนสนุก...แต่ถ้าน้องปลาเป็นอะไรขึ้นมาจากความคิดน้อยของเขา  งานศพอาจถูกจัดขึ้นหลังวันแต่งงานก็เป็นได้  จงอินจึงปล่อยให้ทุกคนสนุกสนานไปกับงานปาร์ตี้โดยทิ้งคำโกหกไว้ให้พวกลูกน้องและพี่ๆว่าน้องปลาง่วงนอน  เพราะขืนบอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น  เขาคงถูกจับถ่วงน้ำโดยไม่ทันได้อธิบายถึงเหตุผล  ใครจะกล้าเสี่ยงกับความโหดเหี้ยมของคนในตระกูลอู๋ก็เชิญตามสบาย  แต่สำหรับเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างเขาขอไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงด้วยแน่นอน

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    แกร๊กก!!!

     

     

                “เป็นยังไงบ้างครับน้องปลา...ปวดหัวไหม??”

     

                “หนูไม่เป็นอะไรแล้วฮะ  คราวหลังหนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว  หนูขอโทษนะฮะคุณคิม”

     

                ประตูห้องนอนถูกปิดลง...พร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง  และคนที่สำลักเครื่องดื่มรสขมอยู่เมื่อครู่ก็รู้สึกผิดที่ความดื้อของตัวเองเป็นเหตุให้เจ้าของห้องต้องพาเขาขึ้นมานอนพักแทนที่จะได้อยู่ปาร์ตี้กับพวกลูกน้อง  มือบางกระชับความอบอุ่นให้แน่นขึ้นและถูใบหน้าสำนึกผิดไปบนอกกว้างเพื่อหวังว่าคุณคิมยกโทษให้

     

    แต่หารู้ไม่...ว่าการทำแบบนั้นมันกลับกระตุ้นบางสิ่งให้ตื่นได้อย่างง่ายดาย  และด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปค่อนข้างมากก็เหมือนเป็นเชื้อไฟที่ช่วยโหมให้อารมณ์ต่างๆมันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น

     

                “เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ  ถ้าน้องปลาง่วงก็นอนก่อนได้เลย  ไม่ต้องรอพี่”

     

                “คุณคิมโกรธหนูเหรอฮะ  หนูขอโทษ  หนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว”

     

                “เฮ้ออออ....!

     

                วางแฟนเด็กลงบนเตียงอย่างเบามือ...และคิดว่าการไปดับอารมณ์ในห้องน้ำมันอาจช่วยให้อะไรๆดีขึ้น  แต่สิ่งที่จงอินเอ่ยออกมาเมื่อครู่กลับสร้างความเข้าใจผิดให้น้องปลา  เพราะเจ้าตัวนึกว่าคุณคิมยังโกรธเรื่องที่เขาดื้อและร้องขอดื่มเบียร์จนทำให้อดปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้  จงอินทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วโอบกอดแฟนเด็กเอาไว้เพื่อให้คลายความกังวล  แต่ยิ่งแสดงท่าทีแบบนั้น...ก็ยิ่งสร้างความวิตกกังวลให้คนในอ้อมกอดมากขึ้นไปอีก

     

                “คุณคิมมมม...อย่าโกรธหนูเลยนะฮะ”

     

                “พี่ไม่ได้โกรธน้องปลาเลยครับ  พี่อยากให้เรานอนพักเพราะงานวันนี้มันเหนื่อยมากๆ”

     

                “เหนื่อยแล้วมีความสุขไหมฮะคุณคิม”

     

                “มีสิครับ  พี่มีความสุขมากๆ  มากที่สุดในโลกเลย”

     

                “หนูก็มีความสุขเหมือนกันฮะ  หนูรักคุณคิมนะฮะ  รักหมดหัวใจเลย...ที่หนึ่งด้วยฮะ”

     

                “พี่ก็รักน้องปลาหมดหัวใจ  แล้วพี่ก็จะไม่รักใครอีกแล้ว  พี่รักน้องปลาคนเดียว...ที่หนึ่ง”

     

    จุ้บบบ!!!

     

                “หนูก็รักคุณคิมคนเดียวฮะ”

     

                เป็นคำพูด  เป็นอ้อมกอด  เป็นความรัก...ที่สมบูรณ์กว่าทุกๆความรู้สึกที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้  หลังการแต่งงานมันทำให้ทุกอย่างเหมือนถูกเติมเต็ม  จากที่เว้าแหว่ง  จากที่ขาดหายก็เหมือนถูกเชื่อมต่อเอาไว้ด้วยคนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้  ความเป็นเด็กของน้องปลาไม่เคยทำให้จงอินเบื่อหน่ายเลยสักนิด  แต่มันกลับสร้างความกระชุ่มกระชวยให้มากกว่า  และรอยจูบที่ประทับลงบนปากของเขาเมื่อครู่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่างานแต่งงานที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเช้ามันคือเรื่องจริง

     

     

                เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือความฝัน...เพราะกว่าเจ้าบ่าวจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาจนถึงวันนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เด็กผู้ชายที่อายุเพียง 16 ปีและไม่เคยเปิดใจรับคนแปลกหน้าเข้ามาในชีวิต  แถมยังมีพี่ๆคอยหวงคอยห่วงอยู่ตลอดเวลากลับยอมรับคนอย่างเขาให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว  ยอมรับนิสัยแย่ๆของเขาได้และที่สำคัญที่สุดก็คือ...ยอมรับคนอย่างเขาเป็นสามี

     

    ขอบคุณทุกๆอย่าง...ที่ทำให้คุณคิมได้มาเจอกับปลาตัวน้อยที่ชื่อโอเซฮุน

     

                “อาบน้ำด้วยกันไหมครับคุณเจ้าสาว”

     

                “อาบน้ำอย่างเดียวเหรอฮะ...คุณเจ้าบ่าว??”

     

                “แล้วคุณเจ้าสาวอยากทำอะไรล่ะครับ?”

     

                “ก็ไม่รู้สิฮะ....!

     

                “หึ!!...โดนดีแน่ๆ  เด็กดื้อ”

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

                “ซี้ดดด...คุณคิม  มันจะออกละ...แล้ว!!

     

                “อดทนไว้ก่อน  อื้มม!!  พี่ใกล้จะ...ซี้ดด!

     

                “หนูไม่ไหวแล้วฮะ  คุณคิมช่วยเร็วกว่านี้หนะ...หน่อย!

     

                “พร้อมกันนะครับน้องปลา...อ่าห์!!!!

     

                “ซี้ดดด!!  คุณคิมมมม...อ่าห์!!

     

                ถึงเรื่องแบบนี้...จะยังคงทำได้เพียงแค่ภายนอกเช่นเดิม  แต่ก็ใช่ว่าความสุขมันจะลดน้อยลง  จงอินไม่อยากฉวยโอกาสเอาเรื่องของการแต่งงานมาตัดสินความบริสุทธิ์ของน้องปลา  และเมื่อมันถึงเวลานั้นจริงๆเขาก็อยากให้มันเป็นไปตามธรรมชาติมากกว่าการบังคับเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ  คุณคิมอยากทะนุถนอมความรักที่ได้มาอย่างยากลำบากให้สมกับที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ  และจะรอจนกว่าปลาตัวน้อยแสนน่ารักจะพร้อมมอบทุกอย่างให้เขาด้วยหัวใจ



    สัญญา...ว่าจะรักตลอดไป

    สัญญา...ว่าจะไม่ทำให้เสียใจ 

    และสามีคนนี้ก็ขอสัญญา...ว่าจะทำให้ภรรยามีความสุขมากที่สุดในโลก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr.  ภาพทั้งหมด  :  br.pinterest.com  ,  Tumblr  ,  movetrip.com  ,  bonpic.com  ,  teestyle.com  ,  internationaltravelto.com  และ IG> wonuchu

     

    Talk.

    จบแล้วจ้าาาาาาา  (ฮืออออออ  T^T)

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ  ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนสุดท้าย  ขอบคุณคอมเม้นท์  ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มีให้แก่กัน  ขอบคุณจริงๆจากใจค่ะ  ^3^)

    มีตอนพิเศษแน่นอน...แต่รอหน่อยนะคะ  สมองเรามันรวนอีกแล้ว  (เป็นทริปฮันนีมูนจากของขวัญของคุณนายตระกูลอู๋  อิอิ)

    ก่อนจากกัน...ขอฝากฟิค  #ลืมKH  ด้วยนะคะ

    แล้วพบกันใหม่ค่ะ...สวัสดี  (ไหว้ย่อ)

    รักสุดๆ...ที่หนึ่ง 

    #ฟิคน้องปลา 

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×