คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ปลาตัวสุดท้าย
ปลาตัวสุดท้าย
บริษัท บ้านปลา
07.42 น.
VROOMMM!!!!
VROOMMM!!!!
เป็นวันสำคัญ...ที่มีผู้คนมากมายเดินทางมาที่บริษัทบ้านปลาเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายคนที่สองของตระกูลคิม และตอนนี้เสียงรถหลากหลายยี่ห้อที่วิ่งเข้ามาในบริเวณบ้านรวมถึงในโรงงานก็ดังขึ้นจนผู้ที่เป็นเจ้าบ่าวรู้สึกตื่นเต้น สถานที่ที่ใช้ในการจัดงาน...ก็เสร็จพร้อมเพื่อต้อนรับทุกคนไปเมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อวาน และดีที่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่อง ถึงแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยกับการเตรียมอะไรหลายๆอย่าง แต่มันก็ทำให้มีความสุขไม่ใช่น้อย
ส่วนคนที่ดูตื่นเต้นไม่แพ้เจ้าบ่าว...ก็เห็นจะเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยและลูกน้องในบริษัท เพราะทุกคนไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างคิมจงอินจะยอมลงหลักปักฐานกับใคร แถมว่าที่เจ้าสาวก็ยังเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ มองเช่นไรก็เหมือนพ่อกับลูกมากกว่าคู่สามีภรรยาเนื่องจากอายุที่ห่างกันมากถึงสิบปี เพื่อนๆต่างก็ทราบกันดีว่าแต่ก่อนเจ้าบ่าวเป็นคนที่ไม่ค่อยคบกับใครจริงจัง และถึงแม้จะมีแฟนมาหลายคนแต่ก็ไม่เคยอ่อนข้อให้ใครอย่างว่าที่เจ้าสาว
เหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับเพื่อนๆ แต่เมื่อทุกคนได้รับการ์ดเชิญและเดินทางมาถึงงานแต่งงานในวันนี้ พวกเขาก็คงต้องยอมรับว่ามันคือความจริง
“มึงอย่ายุกยิกได้ไหมจงอิน!!”
“เจ๊ก็เร็วๆหน่อยดิ...ผมอยากเจอน้องปลาจะแย่แล้วเนี่ย!”
“มึงนั่นแหละทำให้กูช้า นั่งนิ่งๆ...อีกแป๊บเดียวก็เสร็จ”
คนที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า...กำลังถูกพี่ชายต่างแม่แต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูดีกว่าวันธรรมดาเพื่องานที่สำคัญที่สุดในชีวิต มือบางตบแป้งลงบนใบหน้าคมเข้มของน้องชายอย่างเร่งรีบ แล้วสักพักก็ตามด้วยการเขียนคิ้วให้เข้ารูป และจบขั้นตอนสุดท้ายที่การเติมลิปบาล์มลงบนปากหยัก ส่วนเรื่องเสื้อผ้าหรือการแต่งกายก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเหมือนการแต่งหน้า เพราะธีมงานมันเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่เป็นทางการมากนักและจะเน้นสีฟ้ากับขาวเป็นหลัก
โลกใต้ท้องทะเล...คือสิ่งที่เจ้าสาวชอบมากที่สุด เจ้าบ่าวจึงให้ผู้ที่มาร่วมงานแต่งกายด้วยสีของน้ำทะเลหรือไม่ก็หาดทรายสีขาว ใจหนึ่งก็อยากจัดงานที่ริมทะเลสักแห่ง แต่อีกใจก็เกรงว่าผู้ใหญ่และเพื่อนๆจะไม่สะดวกในการเดินทาง คุณคิมจึงตั้งใจเนรมิตบริษัทแห่งนี้ให้เป็นสิ่งที่ปลาตัวน้อยของเขาโปรดปราน
“เจ๊...ผมดูดียัง??”
“มึงหล่อมากกกก...”
“ขอบคุณนะเจ๊ ขอบคุณทุกอย่างเลย”
งานสำคัญของผู้เป็นน้อง...จะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ชายอย่างบยอนแบคฮยอนคอยช่วยจัดการและเตรียมสิ่งต่างๆไว้ให้ รวมถึงการช่วยแต่งหน้าพร้อมการจัดทรงผมให้เหมาะกับการเป็นเจ้าบ่าวที่เพิ่งทำเสร็จไปเมื่อครู่ เรื่องการตกแต่งสถานที่...คงต้องยกความดีความชอบให้พวกลูกน้อง แต่งานวันนี้จะออกมาสมบูรณ์แบบไม่ได้ถ้าไม่มีองค์ประกอบอย่างอื่นเช่นเรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม ของชำร่วย และของจิปาถะอีกมากมายที่ตัวเขาเองก็นึกไม่ออก ซึ่งทุกๆอย่างก็เป็นสิ่งที่พี่ชายต่างแม่คนนี้ช่วยจัดเตรียมไว้ให้ทั้งหมด
“มึงอย่ามาทำซึ้งตอนนี้ได้ไหมจงอิน!! เดี๋ยวหน้ากูเลอะ ถ้ามึงไม่อยากให้กูร้องไห้ มึงหยุดพูดไปเลย!!”
“ก็ผมอยากขอบคุณเจ๊จริงๆหนิ ถ้าไม่ได้เจ๊ช่วย...งานนี้ผมคงแย่”
“มึงเป็นน้องกูนะ...ถ้ากูไม่ช่วยมึงแล้วจะให้กูไปช่วยใคร”
“ก็เลยอยากขอบคุณนี่ไง ขอบคุณมากๆ ผมรักเจ๊นะครับ”
เพี๊ยะ!!!!
“ฮึกก! กูบอกว่าให้หยุดพูดไง ฮึก!!...”
“ผมกำลังจะแต่งงานนะเจ๊ ผมไม่ได้ไปตาย เจ๊จะร้องไห้ทำไมวะ”
“ไอ้บ้า!...กูต้องแต่งหน้าใหม่เลยเห็นไหม?!! มึงทำหน้ากูเลอะ”
คนเป็นพี่...ฟาดมือลงไปบนอกของว่าที่เจ้าบ่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ และคิดว่าการตะโกนแหกปากด่ากันทุกวันยังดีกว่าคำพูดที่ชวนให้น้ำตาไหลจนต้องกรีดอายไลน์เนอร์ใหม่อีกรอบ มือบางกระชับเสื้อสูทสีฟ้าอ่อนให้น้องชาย และบรรจงพับผ้าเช็ดหน้าสีขาวใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อพร้อมติดเข็มกลัดรูปปลาดาวสีน้ำเงินตามธีมของงานแต่งงาน
“เจ๊...ผมจะเป็นสามีที่ดีได้ไหม?”
“ทำไมถึงถามแบบนั้นวะ...มึงกำลังกังวลเรื่องอะไร?”
“ก็ไม่เชิงกังวลหรอกเจ๊ แต่ผม เอ่อออ...กลัวน้องปลาไม่มีความสุข กลัวตัวเองทำให้น้องปลาเสียใจอีก”
“อนาคตมันไม่แน่นอน มึงเองก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ...มึงอย่าเอาชีวิตคู่ของพ่อกับแม่มาทำให้ตัวเองประสาทเสียจะดีกว่า มึงเป็นคนดีนะจงอิน แต่มึงควรปรับปรุงเรื่องของความคิดแล้วก็การใช้อารมณ์”
คนเป็นพี่...เข้าใจความรู้สึกของน้องชายมากที่สุด เพราะตอนที่เขาต้องแต่งงานกับชานยอล ความคิด ความสับสน ความกังวลกับเรื่องต่างๆก็วิ่งเข้ามาในหัวสมองเต็มไปหมด การเกิดมาในครอบครัวที่บิดามีภรรยาสองคนมันได้สร้างความสงสัยให้ลูกๆมากอยู่พอสมควร และไม่เคยเข้าใจความรักในรูปแบบนั้นเลยสักนิด ซึ่งตอนนี้จงอินก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับเขาในขณะนั้น ปมของการถูกล้อเลียนว่าเป็นลูกเมียน้อยเมียหลวงมันไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของพวกเขา แถมยังส่งผลกระทบให้คนที่มีครอบครัวไม่ปกติเหมือนครอบครัวอื่นๆกลายเป็นคนคิดมากเมื่อต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง
“ตอนเจ๊แต่งงานกับชานยอล เจ๊ตื่นเต้นไหม?”
“ตื่นเต้นสิ กูกำลังจะมีผัวนะ...ไม่ได้ออกไปซื้อข้าวหน้าปากซอย”
“แล้วชานยอลมันทำให้เจ๊มีความสุขมากไหม?”
“กูมีความสุขทุกวันนั่นแหละ ที่มึงเห็น...อาจดูขัดแย้งกับที่กูพูด แต่กูมีความสุขจริงๆนะ”
“ผมไม่เห็นชานยอลมันจะทำอะไรเลย วันวันเอาแต่กวนประสาท แล้วก็เล่นกับอีช็อคโก้อยู่หน้าโรงงาน??”
“ก็นั่นแหละ...ความสุขของกู”
แค่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักก็มีความสุขมากพออยู่แล้ว...และความสุขของเขาก็คือการมีผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอลคอยอยู่เคียงข้าง ไม่จำเป็นต้องพูดคำหวานๆให้ฟังทุกวัน ไม่มีการหอมแก้มกันก่อนนอนหรือตอนตื่น ไม่มีของขวัญเนื่องในวันพิเศษ แต่แค่มี...แค่อยู่ในสายตา แค่ไม่ทิ้งกันไปไหนในยามทุกข์กายทุกข์ใจมันก็เพียงพอแล้วสำหรับภรรยาอย่างเขา
สามีไม่ใช่คนโรแมนติก...ข้อนี้แบคฮยอนทราบดี และไม่เคยร้องขอให้ต้องทำสิ่งใดที่ขัดแย้งต่อความรู้สึก ความรักของเขามันจะเป็นไปในรูปแบบที่ตรงไปตรงมา รักก็คือรัก ไม่ชอบก็บอกว่าอย่าทำ ส่วนไหนพอจะอดทน ปรับเปลี่ยนและบอกกล่าวให้แก้ไขกันได้ก็จะรีบทำเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุข รู้ดีว่าเป็นคู่รักที่ไม่ค่อยมีความหวาน แต่ก็ไม่เคยจืดจางหรือว่าห่างเหิน (:
“ผมจะเป็นสามีที่ดี ผมสัญญา”
“ไปบอกน้องปลานู้นนน!! ไม่ใช่มาบอกกู”
“ก็อยากบอกให้เจ๊รู้ไว้ แล้วถ้าผมทำอะไรผิด เจ็ก็คอยเตือนผมด้วยละกัน”
“มึงโตแล้วจงอิน กูเชื่อว่ามึงจะดูแลน้องปลาได้”
“ขอบคุณนะเจ๊ ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย”
เป็นอ้อมกอดในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ที่พี่น้องต่างแม่คู่นี้มอบให้แก่กัน แถมยังทำให้คนที่ตื่นมาแต่งหน้าแต่เช้าต้องเริ่มเติมแป้งและกรีดอายไลน์เนอร์ใหม่อีกรอบ มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ความยินดี รวมถึงความรักที่พี่มีให้กับน้อง ถึงแม้จะเกิดจากคนละแม่ แต่ผู้เป็นพ่อก็ไม่เคยพูดว่าใครดีกว่าหรือรักใครมากกว่ากัน พ่อที่มีรูปแบบความรักแปลกๆ พ่อที่ไม่เคยบอกรักลูกๆแต่มักจะปฏิบัติให้เห็นและเป็นพ่อที่สามารถทำให้ลูกอย่างพวกเขามีความสุขจนถึงวันนี้
แกร๊กกก!!!
“จงอิน!!!...แขกมาครบแล้วนะเว้ย มึงแต่งตัวเสร็จยังวะ!??”
“เสร็จแล้ว กำลังจะลงไปแล้วเนี่ย”
“แบคคค!! ร้องไห้ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? มึงทำอะไรเมียกูไอ้จงอิน????!!”
“มันเสียใจเพราะมีผัวอย่างมึงมั้ง!”
“อ้าว...ไอ้เจ้าบ่าว เดี๋ยวกูต่อยฟันร่วงเลยหนิ”
เสียงเปิดประตูห้องโดยไม่มีการเคาะ...และการบอกกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกมันทำให้จงอินรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องที่เสียมารยาท เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเชิญมาร่วมงานแต่งงานได้เดินทางมาครบหมดแล้ว แต่เขายังยืนกอดพี่ชายอยู่บนห้องนอน แถมคราบน้ำตาแห่งความดีใจของแบคฮยอนยังพาลให้ถูกพี่เขยตัวโย่งต่อว่าทั้งๆที่ยังไม่ทราบความจริง
“ผมไปก่อนนะเจ๊...เจ๊เติมหน้าเสร็จก็รีบตามลงมาเลยนะ ผมกลัวทำงานแต่งพัง”
“ไม่พังหรอกน่ะ มั่นใจตัวเองหน่อย”
“ขอบคุณนะเจ๊”
“มึงพอเลย ลงไปข้างล่างได้แล้ว เดี๋ยวกูจะรีบตามไป”
“รักเจ๊...น้าาาา”
“เอออออออ!!!”
เกิดมาก็ไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน...มันตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก แถมยังเป็นงานสำคัญที่ไม่อยากทำสิ่งใดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว และการให้คนที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาคอยบอก คอยสอนหรือคอยตักเตือนก็เป็นเรื่องที่เจ้าบ่าวต้องการมากที่สุด จงอินดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนเดินออกจากห้องเพื่อไปต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขาในวันนี้
09.00 น.
เป็นฤกษ์งามยามดี...ที่คู่รักจะได้เริ่มทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สถานที่พร้อม สักขีพยานพร้อม รวมถึงบาทหลวงผู้ที่จะมาทำหน้าที่ในงานนี้ก็พร้อมแล้วเช่นกัน ส่วนบริเวณโดยรอบของบริษัทบ้านปลาและโรงงานก็มีบอดี้การ์ดหลายสิบคนคอยคุ้มกันให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น ซึ่งพี่เขยจอมหวงอย่างคิมอูบินก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายความสุขของน้องปลาเด็ดขาด
ภายในงาน...เต็มไปด้วยรอยยิ้มและการแสดงความยินดีกับคู่บ่าว-สาว พร้อมการมอบของขวัญมากมายจนผู้ที่ได้รับอยากแกะดูเต็มทีว่าข้างในมันคืออะไร น้องปลาเขย่ากล่องของขวัญอยู่นานสองนานเมื่อเดินทางมาถึงบ้านของว่าที่เจ้าบ่าว และแทบอดใจรอไม่ไหวถ้าไม่ถูกผู้เป็นพ่อห้ามเอาไว้เสียก่อน เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย...แต่การจะให้ลูกชายแกะของขวัญก่อนการทำพิธีมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ คงเป็นเรื่องแรกที่จีโฮไม่ตามใจลูกชายคนเล็กแถมยังตักเตือนด้วยเสียงที่ค่อนข้างดุดัน
และตอนนี้...พิธีแต่งงานก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการก่อนที่ความอยากแกะของขวัญจะทำให้ว่าที่เจ้าสาวหงุดหงิด
บาทหลวงที่เคยทำหน้าที่ในงานแต่งงานของอี้ชิง...ถูกเชิญให้มาทำหน้าที่นี้อีกครั้ง และงานแต่งงานสำหรับคู่รักคู่ใหม่ก็จะเป็นการทำพิธีที่ไม่ได้มีความยุ่งยากหรือซับซ้อนเหมือนคู่รักชายหญิงทั่วไป แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิ่งที่จะช่วยยืนยันได้ว่าน้องปลากับจงอินคือสามีภรรยากันอย่างแท้จริง บนดาดฟ้าของบริษัทบ้านปลาในตอนนี้ก็คล้ายจะเป็นใจให้ทุกคนในงาน เพราะก้อนเมฆก็ช่วยเคลื่อนมาบดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์ และยังมีลมพัดเอื่อยๆที่ทำให้รู้สึกเย็นสบาย
คนเป็นเจ้าสาว...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นสถานที่ในการทำพิธี เพราะมันเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่บนหาดทรายมากกว่าบนดาดฟ้า ไม่คิดไม่ฝันว่าเจ้าบ่าวจะทุ่มเททำอะไรแบบนี้เพื่อวันสำคัญ แถมรอบๆกายก็ยังมีแต่สิ่งที่เขาโปรดปรานทั้งนั้น ปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย สาหร่ายสีเขียวที่กำลังพริ้วไหวไปตามแรงลม โขดหินพร้อมปะการังเทียมหลากสี ทุกๆอย่างทำให้เขารู้สึกว่างานแต่งงานมันถูกจัดขึ้นใต้ท้องทะเล และ....
“เป็นความประสงค์ของพวกเธอที่จะแต่งงานกัน ให้ประสานมือขวาและประกาศความยินยอมของพวกเธอต่อหน้าพระองค์และศาสนิกชนของพระองค์” บาทหลวงกล่าวคำตามพิธีที่เคยพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่สำหรับการทำพิธีนอกสถานที่ก็คงมีแต่ครอบครัวของตระกูลโอเท่านั้นเพราะงานแต่งงานของคนเป็นพี่อย่างอี้ชิง...บาทหลวงคนนี้ก็ถูกเชิญให้ไปทำพิธีในอควาเรี่ยม (Aquarium)
“ผม...คิมจงอิน ขอรับ โอเซฮุนเป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชีวิตของผม” เป็นคำกล่าวที่ตั้งใจท่องจำมาหลายวัน และดีที่สมองยังไม่ถูกทำลายไปพร้อมๆกับความตื่นเต้น ไม่อย่างนั้น...เจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างเขาก็คงลืมสิ่งที่ต้องกล่าวต่อหน้าสักขีพยานทุกคนในวันนี้
แต่......
“หนู...โอเซฮุน ขอรับ คุณคิมเป็นสามีของหนูคนเดียว หนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จะรักคุณคิมเยอะๆ ไม่โกหกและจะรักที่สุดในโลกตลอดไป จุ้บๆร้อยทีเลยฮะ” จำอะไรไม่ค่อยเก่ง ยกเว้นชื่อของสัตว์น้ำที่ขายอยู่ในร้าน และถ้าให้พูดอะไรยืดยาวเหมือนเจ้าบ่าวมันก็จะทำให้เวลาในการแกะของขวัญถูกเลื่อนออกไปอีก ซึ่งเจ้าสาว...ก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น
พิธีการ...จบลงด้วยรอยจูบของเจ้าบ่าวที่อยากทำมากกว่าการจูบ แต่ก็คงต้องรอไปก่อนเพราะงานแต่งงานมันยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้เนื่องจากญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆที่มาร่วมงานยังต้องอยู่ทานของว่างหรืออยู่พูดคุยกันจนกว่าจะถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ ส่วนเรื่องที่ไม่มีการสวมแหวนในการทำพิธีเมื่อครู่ก็เป็นเพราะเจ้าบ่าวถือวิสาสะซื้อแหวนและมอบให้เจ้าสาวไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว
...
...
...
เมื่อพิธีการแต่งงานของน้องชายเสร็จสิ้น...อี้ชิงกับสามีก็ทำหน้าที่เดินมาส่งผู้ใหญ่บางท่านที่ขอตัวกลับก่อน พร้อมโค้งตัวเพื่อเป็นการกล่าวลาและขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานของงานสำคัญในวันนี้ แล้วสักพัก...รถยนต์หลายคันก็ทยอยเคลื่อนตัวออกไปจากบริษัทบ้านปลาจนเหลือเพียงครอบครัวของเขากับครอบครัวของฝั่งเจ้าบ่าวเท่านั้น ส่วนเพื่อนๆของหนุ่มผิวเข้มก็เหมือนจะร่ำลาหรืออวยพรกันยังไม่เสร็จ และทางด้านของเจ้าสาว...ก็คงจะมีแต่กล่องของขวัญมากมายที่เป็นเป้าหมายหลักเพราะเจ้าตัวไม่มีเพื่อนๆมาให้กล่าวคำอำลาหรือแม้กระทั่งเอ่ยคำอวยพรอย่างเจ้าบ่าว
แควกกกก!!!!
แควกกกก!!!!
เสียงฉีกกระดาษ...ดังขึ้นซ้ำๆพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ที่ได้รับของขวัญ เพราะสิ่งที่อยู่ด้านในส่วนมากมันช่างถูกใจเจ้าสาวอย่างเขาจริงๆ ชุดเครื่องนอน ปลอกหมอน ผ้าห่มมันเป็นลวดลายของสัตว์น้ำ ชุดนอนสำหรับคู่รักก็เป็นลายปลาฉลาม ผ้าขนหนูเนื้อนิ่มสองผืนเป็นลายเปลือกหอย และของอื่นๆอีกมากมายที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันก็ล้วนแต่เป็นลวดลายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ท้องทะเล
มือบางที่ยกของขวัญชิ้นนั้นชิ้นนี้ขึ้นมาดูอย่างมีความสุข...รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม หรือแม้แต่คิ้วโก่งได้รูปที่ขมวดกันจนยุ่งเมื่อเห็นว่าของขวัญบางอย่างมันคือถุงยางอนามัยก็สามารถทำให้คนเป็นเจ้าบ่าวยิ้มตามและพลอยมีความสุขไปด้วย จงอินเดินเข้ามาในห้องรับแขกได้สักพักหลังจากที่ร่ำลา และเดินไปส่งเพื่อนๆที่หน้าบ้านเรียบร้อย แต่ตัวตนของเขา...กลับถูกน้องปลามองข้ามไปเสียอย่างนั้นเพราะของขวัญกองโตมันคงสำคัญกว่าผู้ที่เป็นเจ้าบ่าว
ไม่ได้โกรธ...แต่รู้สึกขำที่ได้เห็นเด็กน้อยยังคงทำหน้าสงสัยเกี่ยวกับของขวัญบางชิ้น ^_^)
“น้องปลาครับบบ...หิวหรือเปล่า??”
“คุณคิม...อันนี้มันเอาไว้ทำอะไรเหรอฮะ?”
ไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่ถาม...แถมยังถูกตั้งคำถามกลับพร้อมกล่องถุงยางอนามัยที่ยื่นมาตรงหน้า จงอินหยิบของขวัญที่คิดว่าเพื่อนๆคงจะนำมาแกล้งวางไว้บนโต๊ะ แล้วอุ้มเด็กขี้สงสัยขึ้นมานั่งบนตักแทนการนั่งจุ้มปุ๊กไปกับพื้นพรม มือหนากอดเอวเจ้าสาวป้ายแดงเอาไว้จนเต็มอ้อมแขนและวางคางไว้บนไหล่ที่ตามด้วยการพรมจูบไปทั่วซอกคอขาวเนียน คนที่ถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่ย่นคอหนีปากหยักที่ยังคงประทับจูบไม่หยุด และยิ่งหนี...ก็ยิ่งเหมือนเป็นการเปิดทางให้คนมากประสบการณ์จู่โจมได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่คิดถึงน้องปลาจังเลยครับ”
“หนูก็คิดถึงคุณคิมฮะ คิดถึงมากๆ”
เจ้าของรอยจูบ...จำเป็นต้องละออกจากความหอมและความนุ่มนิ่มก่อนที่อารมณ์ต่างๆมันจะดับลงได้ยาก การเตรียมตัวหรือเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพื่องานสำคัญในวันนี้มันทำให้คนทั้งคู่ไม่ค่อยได้พบหน้ากัน ซึ่งความคิดถึง...ก็พาให้ปลาตัวน้อยต้องเปลี่ยนท่าทางการนั่งให้ถนัดต่อการโอบกอดคุณคิมมากกว่านี้ เจ้าสาวตัวน้อยนั่งคล่อมตักเจ้าบ่าวผิวเข้มบนโซฟาตัวใหญ่ แล้วซบใบหน้าจิ้มลิ้มลงบนอกกว้างพร้อมกอดเอวหนาเอาไว้เหมือนเป็นเชิงอ้อน ปากคมยกยิ้มทันทีและรีบกอดตอบความอบอุ่นอันแสนน่ารักเอาไว้เช่นกัน
“เหนื่อยไหมครับน้องปลา”
“กอดคุณคิมแล้วหายเหนื่อยฮะ”
เป็นคำตอบที่ทำให้คนถามยิ้มกว้างได้อีกครั้ง...และอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป จงอินรู้ดีว่าการแต่งงานมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นมากกว่าจุดสิ้นสุด การมีใครอีกคนเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันถือเป็นสิ่งที่เขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง วันวันทำแต่งาน หมกตัวอยู่ในบริษัทกับพวกลูกน้อง ออกเดินทางไปติดตั้งตู้ปลาให้ลูกค้า นี่เป็นการชีวิตของเขาเมื่อหลายปีที่ผ่านมาและตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่มันจะต่างกันตรงที่...มีเด็กในอ้อมกอดคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
“แล้วน้องปลากินอะไรบ้างหรือยัง หื้มม?”
“กินขนมไปแล้วฮะ หนูอยากแกะของขวัญให้เสร็จ แต่หนูง่วงมากเลยฮะ งืออ...”
“ง่วงก็นอนนะครับ เดี๋ยวพี่จะเกาหลังให้”
“คุณคิมนอนกับหนูนะฮะ หนูไม่อยากนอนคนเดียว”
“งั้นก็ต้องไปนอนบนห้องนะครับน้องปลา”
“คุณคิมมมม...อุ้มหนูหน่อยฮะ หนูเหนื่อย หนูเดินไม่ไหวแล้วฮะ”
การตื่นแต่เช้า การเดินต้อนรับแขกในงาน การยืนทำพิธี...ทุกอย่างๆมันทำให้เจ้าสาวทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ปกติน้องปลาจะตื่นตอนเก้าโมงทุกวันและทานอาหารเช้าร่วมกับพี่ชายพี่เขยก่อนเริ่มทำงานหรือเรียนพิเศษตอนสิบโมงครึ่ง แต่วันนี้...อะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงไปหมด ของขวัญก็อยากแกะให้เสร็จ เค้กสำหรับบ่าว-สาวก็อยากกลับไปทานต่อ แต่การตื่นเช้าเกินไปก็ทำให้ง่วงจนไม่สามารถฝืนเอาไว้ได้อีกแล้ว
แกร๊กก!!!
“อยู่นี่เอง...อ้าว!! เกิดอะไรขึ้นวะจงอิน??!”
“ผมจะพาน้องปลาไปนอนบนห้องครับเฮีย น้องคงเหนื่อยมาก...ก็เลยหลับไป”
“เดี๋ยวกูพาไปเอง มึงไปหาพ่อแม่กูหน่อย ท่านมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ครับเฮีย”
ยังไม่ทันเดินพ้นจากโซฟา...ประตูห้องรับแขกก็ถูกเปิดออกด้วยมือของรุ่นพี่คนสนิท และตามมาด้วยคำสั่งที่เจ้าบ่าวก็ไม่อาจโต้แย้งอะไรได้ จงอินมองตามน้องปลาที่อยู่ในอ้อมอกของคริสไปจนสุดทางก่อนที่ตัวเองจะต้องออกไปพบผู้ใหญ่ทั้งสองท่านที่มีความสำคัญมากๆต่อผู้ที่เป็นเจ้าสาว และไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย คำอวยพรหรือคำตักเตือนรวมถึงสิ่งที่ไม่คาดคิดของความเป็นตระกูลอู๋...เจ้าบ่าวอย่างเขาก็พร้อมที่จะรับมือเสมอ
...
...
...
...
...
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า...สวัสดีครับพี่อูบิน”
“เออ...สวัสดี // เฮ้ยยย....พวงมึงกลับกันได้เลย ส่วนซึงฮอนรอกลับพร้อมกู!!!”
เป็นครอบครัว...ที่หนุ่มผิวเข้มยังคงคิดว่าไม่ได้เป็นเจ้าของธนาคารเพียงอย่างเดียวแน่นอน เพราะเมื่อเดินมาพบผู้ใหญ่ทั้งสองท่านตามคำสั่ง แล้วได้เจอกับลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ที่กำลังบอกให้ลูกน้องบางคนอยู่ต่อและบางส่วนกลับก่อนมันทำให้จงอินคิดไปในทางอื่นไม่ได้จริงๆ ขนาดงานแต่งงานของเขายังมีคนคอยคุ้มกันมากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นที่ทำงาน บ้านหรือที่อยู่อาศัยในต่างประเทศมันจะมีการ์ดคอยคุ้มกันมากขนาดไหน?? จงอินพยายามทำความเข้าใจว่าการทำงานธนาคารย่อมมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม
แต่ที่นี่...มันคือบริษัทที่ทำตู้ปลา พี่ชายของคริสไม่น่าจะเอาคนมาคอยคุ้มกันเจ้าสาวมากถึงขนาดนี้ - _-)
“คุณลุงกับคุณป้าจะกลับแล้วเหรอครับ?”
“ใช่จ้ะ...งานที่ฮ่องกงยุ่งน่าดู ถ้าไม่ติดธุระสำคัญป้ากับลุงต้องอยู่ปาร์ตี้ด้วยแน่นอน”
“น่าเสียดายนะครับ แล้วน้องปลาก็เหนื่อยจนหลับไปเมื่อครู่ น้องก็เลยไม่ได้มาลาคุณลุงกับคุณป้า ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ”
“ไม่เป็นไร...ป้าเข้าใจ ยัยหนูยังเด็ก นอนเยอะๆสิดีจะได้โตเร็วๆ”
“ผมขอบคุณ....คุณลุงกับคุณป้ามากๆนะครับที่มางานแต่งงานของผม แล้วก็ต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้ผมดูแลน้องปลา”
“ยัยหนูรักใคร...ลุงกับป้าก็รักด้วย ยัยหนูอาจซนไปบ้าง จงอินอย่าถือสาเลยนะ”
“ผมจะดูแลน้องปลาให้ดีที่สุดครับ”
“อยากมีแฟนเด็ก...ก็ต้องอดทนหน่อย ป้าฝากยัยหนูด้วยนะจงอิน”
“คุณลุงกับคุณป้าสบายใจได้เลยครับ”
“แล้วนี่ก็ของขวัญนะจ๊ะ...ป้ากับลุงทะเลาะกันตั้งนาน สรุปแล้วก็ไม่รู้จะให้อะไรดี ถ้าจงอินไม่ชอบก็บอกผ่านเจ้าคริสมาได้เลย”
“ไม่ว่าจะเป็นอะไร...ผมก็ชอบทั้งนั้นครับ แล้วของขวัญที่ผู้ใหญ่มอบให้ก็มีค่าเสมอ ขอบคุณมากๆนะครับ”
“งั้นลุงกับป้าไปก่อนนะจ๊ะ เที่ยวให้สนุก แล้วก็...ถ่ายรูปส่งมาให้ดูด้วยล่ะ ป้ากับลุงจะรอดู”
“...........?????!!!”
VROOMMMM!!!!!
เอ่ยคำขอบคุณ...พร้อมโค้งกายให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน รวมถึงลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ที่คอยประคองกายผู้เป็นแม่ไว้ตลอดเวลา และเมื่อพาหนะสุดหรูเคลื่อนตัวออกไปจากรั้วบ้าน คนที่ได้รับของขวัญชิ้นสุดท้ายเนื่องในวันแต่งงานของตัวเองก็รีบเปิดซองกระดาษสีเหลี่ยมขนาดใหญ่สีแดงออกดูทันทีว่ามีอะไรอยู่ด้านใน
และ...ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักสุดโรแมนติกก็คือคำตอบในเรื่องที่สงสัย แถมยังมีบัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินแนบมาด้วยสองใบ
Poseidon Undersea Resort...ที่ฟิจิ , Conrad Maldives Rangali Island Hotel...ที่มัลดีฟ , The Manta Resort...ที่แทนซาเนีย และ Atlantis The Palm...ที่ดูไบ เริ่มทำให้จงอินไม่แน่ใจแล้วว่า...ทริปฮันนีมูนมากมายที่ถืออยู่ในมือตอนนี้มันได้ถูกจองเอาไว้เพื่อคู่บ่าว-สาวจริงๆหรือไม่ เพราะแต่ละสถานที่ดูเหมือนจะจองไว้เพื่อเอาใจยัยหนูของผู้ใหญ่ทั้งสองท่านมากกว่า ใช่ว่าไม่ชอบเสียงคลื่นหรือการเดินย่ำเท้าอยู่บนผืนทราย แต่ทริปของการไปฮันนีมูนมันก็ไม่ควรจะเป็นการอยู่แต่ในโลกใต้ท้องทะเลเพียงอย่างเดียว
ต้องรวยมากเท่านั้น...ถึงจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ได้ แล้วก็อย่างที่คุณนายตระกูลอู๋ได้บอกเอาไว้ “อยากมีแฟนเด็ก ก็ต้องอดทนหน่อย”
บริษัท บ้านปลา
After Party...ริมสระน้ำ
19.00 น.
ตูมมมมมม!!!!
ตูมมมมมม!!!!
เหมือนเป็นงานเลี้ยง...เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทมากกว่าการฉลองเพื่อคู่รักที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อเช้า เพราะตอนนี้ลูกน้องในบริษัทมีปลากับบริษัทบ้านปลากำลังกระโดดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน ของคาว ของหวาน ลูกบอล ห่วงยาง รวมถึงเครื่องดื่มมากมายก็ถูกเจ้าของบ้านเตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ส่วนเคาน์เตอร์บาร์ เตาปิ้งบาร์บิคิวและเก้าอี้แบบยาวที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำก็เพิ่งถูกใช้งานเป็นครั้งแรกหลังจากที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลอู๋รูดบัตรเพื่อซื้อของทั้งหมดไปเกือบแสน
ไม้แหลมขนาดใหญ่...ที่มีกุ้งตัวโตๆ มะเขือเทศและสัปปะรดเสียบเอาไว้ก็คือบาร์บิคิวของเด็กอายุ 16 ปี แต่!!ห้ามมีหอมใหญ่เด็ดขาด แถมยังได้รับอนุญาตให้ทานน้ำอัดลมได้เต็มที่ แต่ถ้าทานมากเกินไปจนปวดท้องก็จะต้องถูกพี่เขยทำโทษ ไม่ได้อยากบังคับหรือชอบออกคำสั่งกับใคร แต่อาหารและเครื่องดื่มบางอย่างก็อาจทำให้น้องเมียป่วยได้ เคยดูแลกันเช่นไรก็ยังคงทำเช่นเดิมและหวังว่าเจ้าบ่าวป้ายแดงก็จะทำเช่นกัน
“น้องอี้!!...พี่ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำค่ะ เดี๋ยวไม่สบาย”
“แบคยังเล่นได้เลย ทำไมอี้จะเล่นไม่ได้ล่ะ!!”
นั่งจิบเบียร์อย่างสบายใจได้ไม่นาน...ก็ต้องรีบลุกไปจับภรรยาเอาไว้ก่อนที่จะกระโดดลงไปในสระตามแฟนตัวเล็กของรุ่นน้องคนสนิท ใบหน้าสวยหวานออกอาการงอแงเมื่อถูกสั่งห้ามและคว้าเบียร์ของสามีมาดื่มจนหมดแก้วเพื่อดับอารมณ์ อี้ชิงเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ต่อทันทีพร้อมกับเทเบียร์ใส่แก้วอีกครั้ง แล้วยกขึ้นดื่มเหมือนคนที่กระหายน้ำมานาน และ......
“โอเคๆ...พี่ยอมแล้วค่ะ แต่ถ้าเล่นน้ำแล้วไม่สบาย น้องอี้คงรู้ใช่ไหมคะ...ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?!!”
“อี้รู้...ถ้าอี้ไม่สบายยยย พี่คริสก็จะดูแลอี้ไงครับ”
จุ้บบ!!!
“พี่ยอมให้วันนึงก็แล้วกัน”
“สามีใครน้าาา...ทั้งหล่อ ทั้งใจดี”
“แล้วเมียใครน้าาา...ทั้งดื้อ ทั้งน่ารัก หื้มม?”
น้องปลาดื้อมากเท่าไหร่...คนเป็นพี่ก็ยิ่งดื้อมากเท่านั้น แต่คริสก็ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใครนอกจากภรรยาสุดที่รักและน้องเมียจอมแก่น ยอมให้ป่วยดีกว่าให้เมาแล้วทำอะไรที่คนเป็นสามีก็ไม่อยากให้ใครเห็น เวลาอี้ชิงถูกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เล่นงานมันช่างน่ามองพอๆกับการที่ได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่านอนทอดกายอยู่บนเตียงกว้าง และสามีอย่างเขาก็ไม่เคยทนต่อการถูกยั่วยวนได้เลยสักครั้ง แถมการได้รับรอยจูบเมื่อครู่ก็ยังพาให้ใจอ่อนได้ง่ายขึ้น
ความสนุกสนาน...รอบๆบริเวณสระน้ำยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเสียงเพลงที่เปิดไว้เพียงแผ่วเบาเพื่อสร้างบรรยากาศ แค่เสียงของลูกน้องนับสิบคน เสียงกระโดดน้ำ เสียงพูดคุยกันก็ดังมากพออยู่แล้ว และถ้าจะให้เปิดเพลงดังกว่านี้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควร คริสเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในงานเพราะคุณพ่อของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต้องรีบกลับไปที่บริษัทมีปลาเพื่อดูว่าเจ้าพวกหางสวยมันมีจำนวนมากพอเท่าที่ลูกค้าต้องการหรือไม่
ประมุขของตระกูลโอและตระกูลคิม...มักจะเห็นเรื่องงานสำคัญเสมอ ถึงแม้ลูกๆจะสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ถ้าไม่มีงาน...พวกท่านก็คงจะเลี้ยงลูกมาจนเติบใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้และลูกๆทุกคนก็เข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี อยากให้พวกท่านได้พักผ่อนบ้าง แต่ถ้าการทำงานมันคือสิ่งที่ทำให้คุณพ่อมีความสุข คนเป็นลูกก็คงห้ามอะไรไม่ได้ เพราะสุดท้าย...ความสุขมากมายก็จะย้อนกลับมาหาลูกๆทุกคนเสมอ
“น้องปลาอยากเล่นน้ำไหมครับ?”
“ไม่อยากเล่นฮะ...หนูยังไม่หายเหนื่อยเลย”
ขนาดได้นอนพักไปตอนเสร็จพิธีในช่วงเช้า...คนเป็นเจ้าสาวก็ยังไม่หายเพลีย และตอนนี้ยังนอนพิงอกกว้างของเจ้าบ่าวเอาไว้พร้อมกับทานบาร์บิคิวแสนอร่อยไปด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนจงอินคงถูกพี่เขยของปลาตัวน้อยตบจนสมองเสื่อมไปนานแล้ว แต่การแต่งงาน...มันช่วยให้เขารอดพ้นต่อการถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกกีดกันจากกระทำที่ไม่เหมาะสม แถมยังได้กอด ได้หอม ได้จูบโดยไม่ต้องปิดบังและหลบๆซ้อนๆอีกต่อไป
“น้องปลาจะกินน้ำอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้”
“กินแบบคุณคิมได้ไหมฮะ มันมีฟองด้วยอะ หนูอยากกิน!!”
“น้องปลากินไม่ได้ครับ มันเป็นเครื่องดื่มของผู้ใหญ่”
“ขอหนูชิมนิ๊ดดด...นึงนะฮะ นิดเดียว”
“มันขมนะครับ ไม่อร่อยด้วย น้องปลากินโค้กเหมือนเดิมดีกว่า”
“ถ้าไม่อร่อย...แล้วคุณคิมกินทำไมล่ะฮะ!!”
คิมจงอิน...ไม่เคยเอาชนะเสียงหวานที่บ่นเจื้อยแจ้ว พร้อมกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่หันมาเถียงด้วยคำพูดที่ยากจะแก้ต่างได้เลยสักครั้ง และถ้าไม่เกรงใจสายตาของญาติพี่น้องที่กำลังสนุกอยู่กับปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ เขาคงจับปลาตัวน้อยฟัดให้จมอกโทษฐานที่ทำตัวน่ารักเกินไป ไม่รู้ว่าจะโยนความผิดให้ใครดีระหว่างความหื่นของตัวเองกับแฟนเด็กที่ทำให้เขายิ้มได้ทุกห้านาที คนอะไร...เวลางอนก็น่ารัก เวลาถูกขัดใจก็น่ารัก ยิ่งเวลาเถียง...ก็ยิ่งน่ารักมากขึ้นไปอีก และปากบางสีหวานที่เบะออกตอนถูกห้ามทานเครื่องดื่มมึนเมาก็อยากบีบให้ร้องไห้งอแง
เหมือนคนเป็นโรคจิต...เมื่อถูกความน่ารักของปลาตัวน้อยจู่โจมเข้าที่หัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“เป็นไง...ขมไหมล่ะ??!”
“ฮืออ...คุณคิมมม แหวะ!!!....แค่กก แค่ก ๆ ๆ!!”
การตามใจ...ทำให้น้องปลาลำสักรสชาติของเครื่องดื่มที่อยากลองชิม และมันก็ขมอย่างที่คุณคิมได้บอกเอาไว้ ใบหน้าขาวนวลแดงก่ำจากการทานเบียร์ไปเพียงอึกเดียว แถมยังไอจนเจ้าของอกกว้างต้องช่วยลูบหลังให้ จงอินลืมคิดเลยไปว่า...การให้แฟนเด็กทานในสิ่งที่เสี่ยงต่ออาการแพ้มันอาจทำให้พี่เขยอย่างคริสเกิดความไม่พอใจ เจ้าตัวจึงรีบอุ้มร่างน้อยๆเข้าสู่อ้อมอกแล้วเดินออกไปจากงานเลี้ยงริมสระน้ำก่อนพาขึ้นไปพักที่ห้องนอนทันที
ไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศอันแสนสนุก...แต่ถ้าน้องปลาเป็นอะไรขึ้นมาจากความคิดน้อยของเขา งานศพอาจถูกจัดขึ้นหลังวันแต่งงานก็เป็นได้ จงอินจึงปล่อยให้ทุกคนสนุกสนานไปกับงานปาร์ตี้โดยทิ้งคำโกหกไว้ให้พวกลูกน้องและพี่ๆว่าน้องปลาง่วงนอน เพราะขืนบอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เขาคงถูกจับถ่วงน้ำโดยไม่ทันได้อธิบายถึงเหตุผล ใครจะกล้าเสี่ยงกับความโหดเหี้ยมของคนในตระกูลอู๋ก็เชิญตามสบาย แต่สำหรับเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างเขาขอไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงด้วยแน่นอน
...
...
...
...
...
แกร๊กก!!!
“เป็นยังไงบ้างครับน้องปลา...ปวดหัวไหม??”
“หนูไม่เป็นอะไรแล้วฮะ คราวหลังหนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว หนูขอโทษนะฮะคุณคิม”
ประตูห้องนอนถูกปิดลง...พร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง และคนที่สำลักเครื่องดื่มรสขมอยู่เมื่อครู่ก็รู้สึกผิดที่ความดื้อของตัวเองเป็นเหตุให้เจ้าของห้องต้องพาเขาขึ้นมานอนพักแทนที่จะได้อยู่ปาร์ตี้กับพวกลูกน้อง มือบางกระชับความอบอุ่นให้แน่นขึ้นและถูใบหน้าสำนึกผิดไปบนอกกว้างเพื่อหวังว่าคุณคิมยกโทษให้
แต่หารู้ไม่...ว่าการทำแบบนั้นมันกลับกระตุ้นบางสิ่งให้ตื่นได้อย่างง่ายดาย และด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปค่อนข้างมากก็เหมือนเป็นเชื้อไฟที่ช่วยโหมให้อารมณ์ต่างๆมันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น
“เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ ถ้าน้องปลาง่วงก็นอนก่อนได้เลย ไม่ต้องรอพี่”
“คุณคิมโกรธหนูเหรอฮะ หนูขอโทษ หนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว”
“เฮ้ออออ....!”
วางแฟนเด็กลงบนเตียงอย่างเบามือ...และคิดว่าการไปดับอารมณ์ในห้องน้ำมันอาจช่วยให้อะไรๆดีขึ้น แต่สิ่งที่จงอินเอ่ยออกมาเมื่อครู่กลับสร้างความเข้าใจผิดให้น้องปลา เพราะเจ้าตัวนึกว่าคุณคิมยังโกรธเรื่องที่เขาดื้อและร้องขอดื่มเบียร์จนทำให้อดปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ จงอินทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วโอบกอดแฟนเด็กเอาไว้เพื่อให้คลายความกังวล แต่ยิ่งแสดงท่าทีแบบนั้น...ก็ยิ่งสร้างความวิตกกังวลให้คนในอ้อมกอดมากขึ้นไปอีก
“คุณคิมมมม...อย่าโกรธหนูเลยนะฮะ”
“พี่ไม่ได้โกรธน้องปลาเลยครับ พี่อยากให้เรานอนพักเพราะงานวันนี้มันเหนื่อยมากๆ”
“เหนื่อยแล้วมีความสุขไหมฮะคุณคิม”
“มีสิครับ พี่มีความสุขมากๆ มากที่สุดในโลกเลย”
“หนูก็มีความสุขเหมือนกันฮะ หนูรักคุณคิมนะฮะ รักหมดหัวใจเลย...ที่หนึ่งด้วยฮะ”
“พี่ก็รักน้องปลาหมดหัวใจ แล้วพี่ก็จะไม่รักใครอีกแล้ว พี่รักน้องปลาคนเดียว...ที่หนึ่ง”
จุ้บบบ!!!
“หนูก็รักคุณคิมคนเดียวฮะ”
เป็นคำพูด เป็นอ้อมกอด เป็นความรัก...ที่สมบูรณ์กว่าทุกๆความรู้สึกที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้ หลังการแต่งงานมันทำให้ทุกอย่างเหมือนถูกเติมเต็ม จากที่เว้าแหว่ง จากที่ขาดหายก็เหมือนถูกเชื่อมต่อเอาไว้ด้วยคนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้ ความเป็นเด็กของน้องปลาไม่เคยทำให้จงอินเบื่อหน่ายเลยสักนิด แต่มันกลับสร้างความกระชุ่มกระชวยให้มากกว่า และรอยจูบที่ประทับลงบนปากของเขาเมื่อครู่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่างานแต่งงานที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเช้ามันคือเรื่องจริง
เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือความฝัน...เพราะกว่าเจ้าบ่าวจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาจนถึงวันนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เด็กผู้ชายที่อายุเพียง 16 ปีและไม่เคยเปิดใจรับคนแปลกหน้าเข้ามาในชีวิต แถมยังมีพี่ๆคอยหวงคอยห่วงอยู่ตลอดเวลากลับยอมรับคนอย่างเขาให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ยอมรับนิสัยแย่ๆของเขาได้และที่สำคัญที่สุดก็คือ...ยอมรับคนอย่างเขาเป็นสามี
ขอบคุณทุกๆอย่าง...ที่ทำให้คุณคิมได้มาเจอกับปลาตัวน้อยที่ชื่อโอเซฮุน
“อาบน้ำด้วยกันไหมครับคุณเจ้าสาว”
“อาบน้ำอย่างเดียวเหรอฮะ...คุณเจ้าบ่าว??”
“แล้วคุณเจ้าสาวอยากทำอะไรล่ะครับ?”
“ก็ไม่รู้สิฮะ....!”
“หึ!!...โดนดีแน่ๆ เด็กดื้อ”
...
...
...
“ซี้ดดด...คุณคิม มันจะออกละ...แล้ว!!”
“อดทนไว้ก่อน อื้มม!! พี่ใกล้จะ...ซี้ดด!”
“หนูไม่ไหวแล้วฮะ คุณคิมช่วยเร็วกว่านี้หนะ...หน่อย!”
“พร้อมกันนะครับน้องปลา...อ่าห์!!!!”
“ซี้ดดด!! คุณคิมมมม...อ่าห์!!”
ถึงเรื่องแบบนี้...จะยังคงทำได้เพียงแค่ภายนอกเช่นเดิม แต่ก็ใช่ว่าความสุขมันจะลดน้อยลง จงอินไม่อยากฉวยโอกาสเอาเรื่องของการแต่งงานมาตัดสินความบริสุทธิ์ของน้องปลา และเมื่อมันถึงเวลานั้นจริงๆเขาก็อยากให้มันเป็นไปตามธรรมชาติมากกว่าการบังคับเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ คุณคิมอยากทะนุถนอมความรักที่ได้มาอย่างยากลำบากให้สมกับที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ และจะรอจนกว่าปลาตัวน้อยแสนน่ารักจะพร้อมมอบทุกอย่างให้เขาด้วยหัวใจ
สัญญา...ว่าจะรักตลอดไป
สัญญา...ว่าจะไม่ทำให้เสียใจ
และสามีคนนี้ก็ขอสัญญา...ว่าจะทำให้ภรรยามีความสุขมากที่สุดในโลก
100%
Cr. ภาพทั้งหมด : br.pinterest.com , Tumblr , movetrip.com , bonpic.com , teestyle.com , internationaltravelto.com และ IG> wonuchu
Talk.
จบแล้วจ้าาาาาาา (ฮืออออออ T^T)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนสุดท้าย ขอบคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มีให้แก่กัน ขอบคุณจริงๆจากใจค่ะ ^3^)
มีตอนพิเศษแน่นอน...แต่รอหน่อยนะคะ สมองเรามันรวนอีกแล้ว (เป็นทริปฮันนีมูนจากของขวัญของคุณนายตระกูลอู๋ อิอิ)
ก่อนจากกัน...ขอฝากฟิค #ลืมKH ด้วยนะคะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ...สวัสดี (ไหว้ย่อ)
รักสุดๆ...ที่หนึ่ง ♥
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น