ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #8 : คำสั่งประกาศิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.71K
      5
      7 ก.ย. 58

                                          บทที่8 คำสั่งประกาศิต

                 “ตากาย นี่เราไปไหนมาหะ กลับมายังไม่ทันข้ามวันก็หายไปค่อนคืนแล้ว เหลวไหลใหญ่แล้วนะ เสียงเข้มๆของคุณหญิงฟ้าลดา มารดาอันเป็นที่รักของราชสีห์หนุ่มเอ่ยขึ้น ถึงจากที่เขาก้าวขาลงมาจากรถ แอสตัน มาร์ตินคันหรู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กับเดินเข้ามาโอบเอวหนาของนางไว้ ก่อนจะโน้มใบหน้าคมเข้าไปหอมแก้มนางฟอดใหญ่ แล้วทำตาปริบๆ รอนางชำระโทษที่หนีออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว

    เรานี่จริงๆเลยนะตากาย พอแม่เอ็ดเข้าหน่อยก็ทำแบบนี้ทุกครั้งนางเอ่ยตัดพ้อบุตรชาย พร้อมใช้มือที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งความชราฟาดไปที่ต้นแขนของชายหนุ่มเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ จะว่าไปสกายก็ทำแบบนี้กับนางเสมอเมื่อรู้ว่าทำให้นางไม่พอใจ แล้วมันก็ได้ผลทุกที เพราะนางก็ไม่เคยจะโกรธหรือดุด่าบุตรชายได้เลยสักครั้ง

    แล้วนี่จะบอกแม่ได้หรือยังว่าไปไหนมา เพิ่งลงเครื่องมาเมื่อวานก็หายไปทั้งวันกับทั้งคืนเพิ่งจะโผล่หน้ามาเนี้ย ไม่คิดว่าแม่จะเป็นห่วงบ้างเลยหรือไง  ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงต่อว่าชายหนุ่ม แม้จะไม่จริงจัง แต่ก็ทำให้ชายหนุ่ม หน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

     ผมขอโทษครับคุณแม่ ที่ผมออกไปด้วยไม่ได้บอก  บังเอิญจาคอบ โทรเข้ามาบอกผมว่าไอ้เจ้าวินกับเมียของมันยังอยู่เมืองไทย ผมเลยแวะเข้าไปหา  สกายรีบอธิบายให้นางฟังด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะเกรงว่ามารดาจะเง้างอนจนบันดารโทสะ แล้วเกิดอยากจับคู่เขาให้กับลุกคุณหญิงคุณนายที่ไหนสักคน ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นจริงๆเขาคงต้องกระอักเลือดตายอย่างแน่นอน

      “คุณแม่กำลังจะออกไปไหนครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งให้ เมื่อเห็นว่านางมีสีหน้าอ่อนลง ชายหนุ่มก็รีบออดอ้อนอาสาเป็นสารถีขับรถให้ทันที  เพราะดูจากการแต่งตัวครบเครื่องแล้ว ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่านางกำลังจะออกสมาคมกับเพื่อน

    แม่มีนัดทานข้าวกับคุณหญิงสุนีย์ เรื่องที่จะไปทำบุญกันที่เมืองเหนืออาทิตย์หน้า นางบอกบุตรชาย ก่อนจะมองสำรวจสภาพของชายหนุ่มแล้วก็ต้องส่ายหน้า

                   สภาพแบบนี้แม่ว่าเราอย่าออกไปเลย แม่อายเขานางใช้มือขยี้ไปตรงเส้นผมของชายหนุ่ม ที่ตอนนี้มันยาวแถมไม่เข้าทรงอีกต่างหาก ทำให้ปิดบังดวงตาคมเข้มกับใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรนั้นจนแทบมองไปเห็นเคล้าโครง

    ดูทั้งผมทั้งหนวดดูได้ซะที่ไหน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหาลูกสะใภ้มาให้แม่ได้ ค่อยดูนะภายในสามเดือนยังพาตัวลูกสะใภ้มาให้แม่ดูตัวไม่ได้ แม่จะจับเราแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนแม่ คนใดคนหนึ่งให้ดู  สายตาดุๆกับ น้ำเสียงค้อนขอดจากมารดา เรียกรอยยิ้มขันให้ชายหนุ่มไม่เบา จะติดก็ตรงที่ประโยคสุดท้ายนี่แหละ ที่ทำให้ชายหนุ่มหุบยิ้มลงแทบไม่ทัน

      คุณแม่พูดเล่นใช่มั้ยครับ  ผมรู้หรอกนะว่าคุณแม่ไม่ใจร้ายถึงขนาดจับผมแต่งงานหรอก สกายตะโกนไล่หลังมารดาไป แต่ข้างในกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับคำขู่ของนาง

    ก็ไม่แน่หรอกนะตากายถ้าภายในสามเดือน เรายังไม่พาสาวที่ไหนมาแนะนำให้แม่รู้จัก  แม่อาจจะทำอย่างที่พูดจริงๆก็ได้นางลดกระจกรถลงมาพูดกับสกายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

    ก็ดูลูกชายนางสิ เป็นถึงเจ้าพ่อเหมืองทองที่มีอาณาเขตไปทั่วแคว้น แต่กลับแต่งตัวซอมซ้อ ไว้หนวดไว้เครารุงรังแล้วแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะมอง  เขาไม่ด่าตะเพลิดออกมาก็ดีแค่ไหนแล้ว เห็นทีถ้าปล่อยไว้แบบนี้ คงไม่ได้การยังไงก็ต้องมีขู่เข็ญกันบ้างล่ะ ไม่งั้นลุกชายตัวดี ก็คงไม่ลุกมาดูแลตนเองซะที

    แค่เพียงได้ยินคำขู่จากมารดาชายหนุ่มก็หน้าเสีย เขาไม่ชอบเวลามารดาส่งสายตาแบบนี้กลับมาให้มันเหมือนคำขู่แกนบังคับอยู่ในตัว แล้วเขาก็ต้องทำใจทำตามอยู่ทุกที ขู่คนอื่นเอาไว้เยอะ พอมาเจอกับตนเองก็พาลทำตัวไม่ถูกยิ่ง ได้ชื่อว่าคุณหญิงฟ้าลดาด้วยแล้ว งานไหนงานนั้น ต้องยอมอยู่ทุกเรื่อง จะเชื่อไม่เชื่อก็ดูเอาเถอะ สองวันก่อนยังทำงานอยู่ที่เซาเวนส์เลย เผลอแป็ปเดียววันนี้ก็มาอยู่ ณ คฤหาสน์ อภิเศรษฐกุลแล้ว

    สกายถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะสาวเท้าเข้าบ้านไปพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาลในมือ ที่ข้างในมีประวิติของใครบางคนอยู่ ที่เขาเก็บได้ในห้องพักสุดหรูของวินเพื่อนรัก

    ไอ้ย้อย ไอ้ย้อยเว๊ย!! ไอ้ย้อยเสียงชายหนุ่มตะโกนโหวกแหวกหลังจากก้าวผ่านประตูบานใหญ่มาได้ สองสามก้าว

    คร้าพ ... คร้าพ มาแล้วคร้าพเจ้านาย เจ้านายมีอะไรให้ยอทร์รับใช้คร้าพ”  เสียงของย้อย หรืออีกนามหนึ่งว่ายอร์ท ลูกของคนเก่าคนแก่ของบ้าน กึ่งวิ่งกึ่งเดินมารับคำสั่งเจ้านายหนุ่มอย่างว่องไว พร้อมทำท่าทำเคารพด้วยการใช้มือข้างหนึ่ง ขึ้นไปชิดติดขอบคิ้ว

    ฉันอยากอาบน้ำไปเตรียมน้ำให้ฉันอาบหน่อย ฉันให้เวลาแกห้านาที สกายทำเสียงเข้ม  เพื่อขู่เด็กน้อย ที่มีใบหน้าทะเล้น กวนปราสาท

    ขอครับ ไปแล้วครับเจ้านาย รับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งเร็วๆขึ้นบันไดบ้านไปแต่ก็ไม่วายหันกลับมาตะโกนบอกกับเจ้านายหนุ่มด้วยรอยยิ้มยียวน

                    นายครับ คราวหลังจะเรียกใช้ยอร์ทกรุณาเรียกให้ถูกนะครับ ผม ชื่อยอร์ท ไม่ใช่ย้อย ยอร์ท  ไอ้หนูตีนระเบิดเด็กหนุ่มทำท่าใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งขึ้นไปไว้ระดับคางพร้อม กอดอกพูดอย่าง ภาคภูมิใจในชื่อใหม่ของตนเอง พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี จนคนที่ยืนอยู่ตีนบันได อยากจะกระโดดถีบ เพราะท่าทางอวดอ้างสรรพคุณของเด็กหนุ่ม ช่างทำได้น่าหมั่นไส้เสียจริงๆ

    แกจะ ชื่อย้อย หรือ ยอร์ท ตีนระเบิดอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าแกไม่ไปทำตามคำสั่งของฉันภายในห้าวินาที แกได้เจอตีนฉันแทนแน่ๆ” –ขู๋เสียงแข็ง พร้อมทำท่าจะเดินขึ้นเข้าหาเด็กหนุ่ม

    อะอุ้ย !!!  เด็กหนุ่มรีบหดตัว เข้าหากันเพราะเกรงบาทาจะปลิวว่อนมาใส่หัว แล้วยิ้มแห้งๆ ปะ....ไปเดี๋ยวนี้แล้วครับเจ้านาย

    ทางด้านพริริสาหลังจากกลับมาถึงบ้านเธอก็ต้องมานั่งกุมขมับปวดหัว กับสิ่งที่เกิดขึ้น  งานก็ไม่ได้แถมยังมาเจ็บตัวอีก ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ยาวๆ แล้วบ่อยให้วันนี้มันผ่านพ้นไปอีกวัน    และขณะที่กำลังจะเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน พริริสาก็ต้องชะงักเท้า เพราะมีเสียงของคนที่คุ้นเคยกำลังส่งเสียงร้องเรียกชื่อเธออยู่ด้านนอกรั่ว

    พริม พริม.. อยู่มั้ยพริม”  เสียงของวริช นั้นเองที่เป็นคนร้องเรียกชื่อเธออยู่หน้าบ้าน

    วริช พริริสาเอ่ยชื่อเพื่อนขึ้นมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินมาเปิดประตูรั่วให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้าน

    พริม นี่พริมไปไหนมา เราโทรหาพริมตั้งแต่เช้า พริมก็ไม่รับ พี่วราก็บอกว่าพริมไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์งาน พริมรู้มั้ยเราเป็นห่วงพริมแค่ไหน พอเปิดประตูเข้ามาได้วริชก็ยิงคำถามใส่เธอรัว พร้อมกับการเข้ามาจับหัวไหล่เธอเขย่าจนหัวสั่นคลอ ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่เข้าใจทำไมเธอถึงไม่ไปตามนัด

      โอ้ย!!วริช เบาๆพริมเวียนหัวจะแย่แล้ว 

       พริมก็ตอบคำถามเรามาก่อนสิ ว่าหายไปไหนมา

       เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะวริช แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว

       เกิดอุบัติเหตุ อะไร! แล้วนี่พริมเป็นอะไรมากมั้ย เพียงแค่พริริสาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น วริชก็ตาเหลือกตาลาน รีบเข้าไปสำรวจร่างกายตามแขนตามขาของพริริสา เกรงว่าเพื่อนจะได้รับอันตรายอะไรร้ายแรง

    พริมจะเป็นก็เพราะวริชนี่แหละดูทำเข้า เธอกวาดตามองวริชอย่างขำๆเมื่อเห็นชายหนุ่ม ดูจะเป็นห่วงเป็นใย เธอจนออกนอกหน้า

       อ้าวก็เราเป็นห่วงพริมนี่ แล้วนี่โทรหาทำไมไม่รับสาย

    พริมขอโทษพริมปิดเสียงโทรศัพท์นะ เลยไม่ได้ยินว่ามีคนโทรมา นี่ก็เพิ่งกลับมาถึง พริมเมื่อยจะแย่แล้ว  จะยืนคุยข้างนอกอีกนานมั้ยเธอทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่วริช ก่อนจะเดินนำหน้าชายหนุ่มเข้ามาในบ้าน

    แล้วนี่วริชไม่มีเรียนเหรอ ถึงได้มาหาพริมได้” พริริสาถามขึ้น เมื่อยื่นแก้วที่ใส่น้ำหวานสีแดงให้วริชแล้ว

     มีแต่เราเป็นห่วงพริมมากกว่า ก็เล่นไม่รับโทรศัพท์ แถมหายไปทั้งวันอีก จะให้เรามีกระจิตกะใจเรียนได้ยังไง วริชเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ

    ขอบคุณนะวริชที่เป็นห่วงพริม พริริสาพูดเสียงอ่อนลง เธอใช้มือข้างหนึ่งเลื่อนมาเกาะกุมมือวริชไว้ รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักที่วริชคอยเป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอมา เธอซะอีกที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้วริชเข้ามาในหัวใจเธอเลยสักครั้ง

    ก็พริมเป็นเพื่อนเรานี่ ถ้าไม่ให้เราห่วงพริม แล้วจะให้เราไปหวงแมวที่ไหนละ พูดพร้อมใช้มือขึ้นมาขยี้ผมเธอเล่น  อย่างรักใคร่

    แล้วนี่พริมจะเอายังไงต่อ งานที่โรงแรมก็พลาดแล้ว แถมยังมาดร๊อปเรียนอีก  

    พริมก็จะหางานใหม่ทำ ช่วงนี้ก็ต้องขยันออกไปสอนพิเศษเพิ่มขึ้นอีกนิดไง วริชไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พริมดูแลตนเองได้พริริสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะฝืนยิ้มออกมาให้วริช รู้สึกสบายใจ

    แต่มันจะเหนื่อยเกินไปนะพริมวริชแย้ง

                เหนื่อยแค่นั้นเราก็ต้องทำไงวริช เพื่อไม่ให้ใครมาตีหน้าเราได้ว่าเป็นเด็กอกตัญูญูไม่รู้จักบุญคุณคน  อย่างที่พี่ลินพูดกรอกหูเราตลอดเวลา พรริสาเอ่ยขึ้นมาเพียงในใจเท่านั้น เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา นอกจากรอยยิ้มบางๆที่เกิดขึ้นที่มุมปากสวยเท่านั้น

    วริชกลับไปเรียนได้แล้ว  หนีมาอย่างนี้เดี๋ยวที่บ้านรู้จะว่าเอาได้” 

     เรากลับก็ได้ แต่สัญญาก่อนว่าจะดูแลตนเองให้ดี มีอะไรโทรหาเราได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะ

     จ๊ะสัญญาพริริสาลุกขึ้นยื่นก่อนจะก้าวนำชายหนุ่มออกไป เพื่อจะไปส่งยังหน้าบ้าน

       ขับรถดีๆล่ะ

    พริมเองก็ขึ้นไปพักผ่อนได้แล้ว อย่าลืมนะมีอะไรโทรหาเราได้ทุกเวลา วริช ชูมือข้างหนึ่งที่กำโทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อให้เธอรู้ว่า เขารอรับโทรศัพท์เธออยู่หากมีอะไรให้ช่วย

    จ๊ะ กลับไปได้แล้ว พริริสาเดินเข้ามาดันแผ่นหลังของชายหนุ่ม ให้เข้าไปในตัวรถ

    หญิงสาวโบกมือลาวริชอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มกำลังขับเคลื่อนรถออกไป ก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าบ้าน ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า แต่จู่ๆภาพที่เธอโดนชายหนุ่มอีกคนปล้นจูบก็ผุดขึ้นมาในหัว จนเธอยกต้องมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับริมฝีปากของตนเองไว้ แล้วเดินเข้าบ้านไปคล้ายคนละเมอ

    หญิสาวบอกไปถูกว่ามันคืออะไร  รู้เพียงแค่ว่ามันวาบหวาบอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้ ทั้งทีเขาปล้นจูบแรกของเธอไป แต่เธอกลับไม่ได้นึกรังเกียดจูบนั้นจากชายแปลกหน้า แถมยังเผลอไผล ไปกับรสจูบอันเร้าร้อนนั้นอย่างน่าไม่อาย เหมือนตกอยู่ในห้วงของเวลาของความฝัน ที่ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาพบกับความจริง

     มันคืออะไร พริริสา เอ่ยขึ้นกับตนเอง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×