QCON
ดู Blog ทั้งหมด

ไม่มีเราแล้วเจ้าจะพินาศ

เขียนโดย QCON

   ไม่มีเรา แล้วเจ้าจะพินาศ... บรรทัดจบสุดท้ายของหนังสือนิทานอะไรสักเรื่องหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด เป็นนิทานสอนใจหรือปลุกใจเด็ก...

 

   ระบายยิ้ม ปิดหนังสือแล้วส่ายหัว เดินลงจากบ้านยกพื้นรวมตัวกับเพื่อนแล้วไปเล่นตามประสาเด็ก...

 

   ในนายาง...

 

  

 

   หมู่บ้านของผม ไม่ใช่สักแต่ว่าชื่อนายางเฉยๆ เพราะเดิมที หมู่บ้านเรามีต้นยางขึ้นเต็มหมู่บ้าน นกยางเอง ยามเช้าก็บินแหวกหมอกหนาหาอาหารกันให้ทั่ว คนที่มาตั้งรกรากในแต่ก่อนเลยเรียกกันว่า นายาง

 

   ด้วยความเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไม่สู้จะมีอะไรเด่นอะไรดัง แถมยังอยู่ในเขตที่ขึ้นชื่อว่า ทุรกันดารที่สุดในจังหวัด หมู่ยางทั้งแมกไม้เลยจำเริญเติบโตกันใหญ่

 

   แต่เพราะเป็นยางเหนือ น้ำยางสู้ยางพาราถิ่นใต้ไม่ได้ จำต้องโค่นบางส่วนลงเพื่อทำไร่ไถนา เหลือไว้เป็นหย่อมให้สมชื่อ กระนั้นก็ยังคงหมอกหนาที่ให้นกกระยางบินซ่อนกายได้ทุกเช้าทุกฤดู

 

  

 

   ขึ้นประถม ตามองไปยังนาที่เคยเข้าไปเล่นเป็นประจำ...

 

   ทิวทัศน์ดูแปลกไป... ไม่มีต้นยางอีกแล้ว

 

   พ่อบอกว่า เจ้าของที่ดินเขาจะสร้างนาใหม่ ต้นยางเก่าแก่ก็ถูกโค่นไป...

 

   อากาศแถวบ้านร้อนขึ้นถนัด...

 

   ไม่มีหมอกหนา ไม่มีนกกระยาง ไม่มีที่ให้เล่นซ่อนแอบ...

 

   นับวันยิ่งรีบเดินกลับบ้าน อากาศร้อน แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่ากำลังดี ดีซะอีก หมอกไม่หนา...

 

   ไม่สนใจ กลับบ้าน ไปนั่งโล้ชิงช้าใต้ต้นมะขาม เก็บมะยมชมพู่แถวบ้าน ยังไงบ้านเราก็ต้นไม้เยอะ ชวนเพื่อนมาเล่นแถวบ้านเราบ้านป้าแทนก็ได้...

 

 

 

   สองสามเดือน เพื่อนบ้านบอกต้นมะยมกับมะเฟืองที่ข้างบ้านติดกับบ้านป้าดูไม่ดี แนะให้ตัดทิ้ง

 

   แอบยิ้มอยู่ในใจ ดีจริง แม่จะไม่มีไม้มะยมไว้ตีอีก...

 

   ต้นมะยมก็ถูกโค่นไป...

   ไม่มีผลมะยม ไม่มีมะยมแช่อิ่ม ไม่มีมะยมดอง ไม่มีผลมะเฟือง ไม่มีไม้แส้กิ่งมะยม...

 

 

 

   หยิบดาบเหลาจากกิ่งงิ้วมาฟันกันเล่น บ้างร้องไห้บ้างหัวเราะ วันหนึ่งก็เหลียวไปดู

 

   ต้นงิ้วข้างบ้านไม่มีอีกแล้ว...

 

   พ่อบอกเจ้าของที่กลัวมันล้ม เลยถอนทิ้ง...

 

   ไม่มีงิ้วให้คุณย่ายัดหมอน ไม่มีหนอนคันแมลงแกง ไม่มีดาบต้นงิ้ว ไม่มีเมล็ดงิ้ว...

 

 

   ปีนั้นเอง แม่น้ำข้างบ้านก็เอ่อท่วมทันที...

 

   ต้นชมพู่ถูกกล่าวหาว่าขวางทางน้ำ พ่อจำต้องโค่น ทั้งมะม่วงต้นเล็กกับกอใบเตยก็โดนไปด้วย...

 

   แอบเสียใจอยู่เล็กๆ...

 

   ไม่มีผลชมพู่ ไม่มีสังขยาไข่ใบเตย ไม่มีต้นมะม่วงเล็กให้ปีนเล่น...

 

   แต่ทำไมปีต่อมา น้ำกลับท่วมหนักกว่าจนกำแพงอิฐล้มลงได้...

 

  

 

 

   ปีใหม่ เพื่อนบ้านมาเยี่ยม เพื่อนมาหา อากาศร้อนขึ้นทุกที หลายคนหลบเข้ามาที่บ้าน เพราะอากาศที่บ้านเย็นสบาย...

 

   เพื่อนบ้านบอก ต้นไม้หน้าบ้านหนาเกินไป เหมือนบ้านผีสิงเลย หมู่บ้านจะต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง จะติดไฟริมถนน จะทำถนนใหม่ ขอแรงถอนทิ้งให้หมด...

 

   พ่อจำใจต้องถอนต้นไม้ที่ปลูกมานาน มะม่วงหลายต้น ส้มโอ น้อยหน่า กระท้อน และโกสนหรือไม่ก็วาสนา ที่โตจนสูงเทียมหลังคา...

 

   ไม่มีรังมดจากกระเทียมเถา ไม่มีงู ไม่มีแมงมุมตัวใหญ่ชักใย ไม่มีรังนก ไม่มีนกกระจอก นกกาเหว่า นกเอี้ยง ไม่มีกระรอก ไม่มีกระแต ไม่มีค้างคาว ไม่มีนกฮูก ไม่มีผลส้มโอ ไม่มีมะม่วงเขียวเสวย ไม่มีน้อยหน่า ไม่มีกระท้อนฝ้าย ไม่มีที่เล่นซ่อนแอบ ไม่มีเด็กเอาหนังสติ๊กมายิงเล่น ไม่มีคนมาขโมยผลไม้ ไม่มีคนมาแวะพักอีก...

 

 

 

   ไฟริมถนนติดแล้ว ไม่ค่อยชอบใจ ต้นไม้สีเขียวที่เคยขึ้นเต็มหน้าบ้านหายไป อากาศร้อนขึ้นทุกวัน ฝุ่นก็เยอะจนต้องถูบ้านหลายหน

 

 

   เห็นควันไฟไกลลิบๆ พ่อบอก เขาถางพงทำไร่ข้าวโพด...

 

   ขับรถเล่นไปดู อากาศร้อนมาก ไฟแดงคุไปทั่ว ต้นไม้ไหม้เกรียม...

 

   ไม่มีพงตอนขับรถเล่นอีกแล้ว ไม่มีอากาศเย็นขณะเข้าเมืองอีกแล้ว...

 

 

   มีคนมาขอซื้อที่ตรงข้ามกับบ้าน ที่ที่พ่อปลูกมะม่วงเอาไว้เต็ม พ่อสงสาร เลยขายให้ วันต่อมาก็มีคนมาถางที่ เอาดินมาถม...

 

   ไม่มีที่ให้หยอกกัน ไม่มีต้นไม้เขียวให้ดูเล่น ไม่มีที่ให้สำรวจอีกแล้ว...

 

 

   ปีนั้นเอง พายุโหมก็เข้ามายังหมู่บ้าน พายุที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ลูกเห็บโปรยหนัก ฝนลงเม็ดใส่หลังคาจนดังสนั่น ฟ้าร้องฟ้าแลบดังระงม...

 

   โชคดีที่บ้านเราไม่เป็นอะไรมาก...

 

   แต่บ้านคนอื่น บ้างก็หลังคาปลิว บ้างก็น้ำท่วมเอ่อสูง

 

   ต้นลำไยที่บ้านป้าล้มโค่นมาทั้งรากเพราะแรงลม ต้นมะพร้าวถูกฟ้าผ่ายืนต้นตาย...

 

   ไม่มีลำไยให้กิน ไม่มีมะพร้าวอ่อน ไม่มีมะพร้าวเผา ไม่มีน้ำกะทิทำเอง....

 

 

 

   อากาศร้อนมาก ร้อนขึ้นทุกปี พ่อบอกว่า เพราะต้นไม้น้อยลง พ่อหาต้นไม้ใหม่มาปลูก น้อยหน่า มะม่วง กระท้อน ละมุด มะกรูด...

 

   อากาศไม่ได้ดีขึ้นเลย...

 

 

   คุณอามาหาพ่อ ขอที่ตรงปลูกต้นมะขามไปทำที่จอดรถ...

 

   ผมค้าน ขอให้เอาไว้เป็นที่เก็บมาขามกิน ขอเป็นที่ปีนต้นไม้เล่น ขอเป็นที่แขวนชิงช้าให้หลานที่เริ่มโต...

 

   อาส่ายหัว แล้วพูดว่า ให้เป็นที่จอดรถอาดีกว่า...

 

   พ่ออนุญาต ไปสวนใหญ่ ตัดต้นสักต้นมะขามมาก่อโรงรถให้อา...

 

 

   ช่วยขนของ แต่มองอย่างเหนื่อยใจ...

 

   ไม่มีมะขามให้เก็บกิน ไม่มีต้นให้ปีนเล่น ไม่มีที่ให้แขวนชิงช้า ไม่มีที่ให้เล่นโปลิศจับขโมย ไม่มีไม้ที่สวนใหญ่ให้ไปแวะ ไม่มีต้นสักให้ยืนจ้อง ไม่มีไม้มะขามมาเล่น...

 

   ตอนนี้เหลือแต่ต้นไม้ต้นน้อย ที่ดูดีหน่อยคงเป็นต้นขนุนอายุมาก มากก่อนหน้าผมเกิดเสียอีก...

 

   ดูจะรักมาก เพราะเหลือไม้ใหญ่อายุมากแค่ต้นเดียว...

 

 

   ผ่านฤดูฝน น้ำท่วมหนัก อากาศร้อนมาก มีคนบอกว่าเพราะปรากฏการณ์เรือนกระจก...

 

   ต้นไม้คงน้อยเต็มที...

 

   คุณอาอีกคนมา ขอที่ตรงต้นขนุนมาทำที่จอดรถบ้าง...

 

   คราวนี้จะไม่มีอะไรบ้าง... จะเหลืออะไรอีกนะ...

 

 

   ย้อนไปหยิบหนังสือนิทานเล่มเก่าเกรอะ...

 

  

 

 

   ไม่มีเรา แล้วเจ้าจะพินาศ...

ความคิดเห็น

gamemice
gamemice 29 ก.ค. 50 / 12:42

TT^TT คงไม่ใช่แต่หมู่บ้านท่านคิวซะแล้วที่เจอสภาพแบบนั้น หมู่บ้านของข้าพเจ้าเองก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ซ้ำร้าย ยิ่งกว่าหมู่บ้านท่านคิวซะอีก เท่าที่รู้อำเภอที่หญิงสิงสถิตคล้ายแอ่งกระทะอันใหญ่หมู่บ้านตั้งตรงกลาง พื้นที่ป่าน้อยมากอากาศก็ร้อน ฝนไม่ตกหลายเดือนแล้ว (มันโหดร้ายจริงๆ) 

555+ วันนี้มาบ่นdiary's Q  ^^ 


PS.  ทุกคนมีทางที่จะเดิน มีภูเขาที่จะปีนป่าย มีทะเลที่จะออกไปแล่นเรือ ไปเถอะเพื่อน ไปเพื่อสิ่งที่เธอปรารถนา และเมื่อเราพบกันอีกครั้ง เราจะเอาความสำเร็จ มาเล่าสูjกันฟัง
nodame
nodame 23 ส.ค. 50 / 10:05
บ้านเราก็เหมือนกัน เหลือแต่มะขามกับมะม่วง เสียดายต้นงิ้วที่ถูกโค่นจังเลย
PS.  ไปเยี่ยมกันที่ไอดีบ้างสิ นะนะ