ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mysterious Detective

    ลำดับตอนที่ #9 : แล้วตอนเย็นก็มาถึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 30
      0
      8 มี.ค. 47

    .            

                    



             เมเร่งฝีเท้าขึ้น   สักพักหนึ่งเธอก็ตามมัยได้ทันในที่สุด   เธอกำลังส่งเสียงเรียกตอนนั้นเองที่มัยหันมาทำท่าพยักเพยิดให้เธอเงียบ   เมื่อเห็นท่าทีมีเลศนัยของเพื่อนแล้วเมก็พอเดาออกว่านี่มันอะไร

             \" ห้ามส่งเสียงนะ   เข้ามาหลบนี่ก่อน ! \" มัยลากเมเข้ามาหลังต้นไม้  เมตามมาอย่างทุลักทุเล

             \" เรื่องนั้นใช่ไหม ! \" เมยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่เมื่อมัยพยักหน้า

             เสียงย่ำลงบนใบไม้อย่างแผ่วเบา  เห็นได้ชัดว่าคนๆนั้นไม่อยากจะทำให้เกิดเสียงแต่พวกเธอก็รู้จนได้   มัยค่อยๆขยับตัวอย่างเงียบกริบราวกับเงาลัดเลาะไปตามต้นไม้เพื่ออ้อมไปด้านหลังคนๆนั้น  ขณะที่เมแทบไม่กล้าขยับตัว

             มัยไปถึงด้านหลังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว  เธอเพ่งมองลักษณะจากมุมนั้นพลางคิดว่าเหมือนกับผู้ต้องสงสัยคนไหน  แต่ที่แน่ๆคนๆนั้นเป็น 1 ในคณะกรรมการนักเรียนแน่เพราะใส่เสื้อคลุมที่เป็นเครื่องแบบเฉพาะของพวกนั้นแถมยังเอาหมวกมาสวมไว้ทำให้ไม่เห็นหน้า  แต่..มัยก้มดูที่เครื่องส่งสัญญาณของเธอ  รหัสที่แสดงคือรหัสของ...

             เมเผลอตัวเหยียบกิ่งไม้เข้าจนได้   คนๆนั้นหันไปรอบๆอย่างหาที่มา  ตอนที่เมแทบจะลืมหายใจนั่นเองมัยก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่งพร้อมด้วยอุปกรณ์แปลกๆที่ดูคล้ายกับเครื่องรับส่งวิทยุผสมกับโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ

             \" เลิกเล่นซ่อนหากันดีกว่าน่า  ถึงจะคลุมผ้าไว้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก  ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร   ด้วยไอ้นี่.. \" มัยชูเครื่องมือแปลกๆนั่นขึ้น  แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูถือดีชอบกล

             \" ..เครื่องส่งสัญญาณไงล่ะ   พวกเธอคงไม่รู้ว่าฉันแอบติดชิพส่งสัญญาณเอาไว้  ที่ว่าพวกเธอหมายถึงผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆด้วยนะ   แล้วชิพแต่ละอันก็มีรหัสแตกต่างกันไป   แล้วเผอิญว่าอันที่มันกำลังกระพริบอยู่ตรงหน้านี่เป็นรหัสของเธอซะด้วยสิ   ประธานนักเรียนระดับมัธยม..เป็นเธอใช่ไหม !! \" มัยพูด   ประโยคสุดท้ายนี่ทำให้เมลืมหายใจไปชั่วขณะ   คนๆนั้นก็ท่าทางผงะเล็กน้อย

             \" ไม่จริงน่ามัย ! เป็นพี่แก้มงั้นเหรอ  เป็นไปไม่ได้ !! \" เมออกมาจากที่ซ่อนอย่างไม่ทันระวังตัว  ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นเองที่คนๆนั้นเข้ามาประชิดตัวเธอได้  เธอกระโจนตัวมาราวกับลมเพื่อจะจับตัวเมเอาไว้โดยที่มัยทำอะไรไม่ได้เลย   ระยะห่างระหว่างมัยและทั้งสองคนมีมากพอสมควร   มัยจ้องมองคนในผ้าคลุมอย่างเครียดๆแล้วค่อยๆขยับตัวเข้ามาพลางล้วงมือเอาอะไรแปลกๆออกมาอีกแล้ว  

             \" ปืนยาสลบในปากกากับสลิงเสริมใยเหล็กน่ะ  อยากจะเสี่ยงรึเปล่าน่ะพี่แก้ม   ปล่อยเมมาซะเถอะน่า  พี่หนีไปไม่รอดหรอก   ถึงจะปิดปากพวกเราได้ก็ปิดท่านผอ.ไม่ได้หรอก  จะบอกอะไรให้นะ  ข้อมูลรหัสที่ได้จากเครื่องส่งสัญญาณนี่ฉันปรับความถี่และพิกัดให้ตรงกับดาวเทียมของสถาบันเราแล้ว   เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านผอ.จะรู้เรียบร้อยแล้วว่าพี่เป็นคนร้าย \" มัยพูดด้วยท่าทีสบายๆแต่ก็ไม่ละสายตาจากทั้งคู่เลย

             \" มัยน่ะ  เลิกล้อเล่นได้แล้ว  นี่น่ะต้องไม่ใช่พี่แก้มแน่ๆ !! \" เมต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของ \' คนๆนั้น \'  ตอนนั้นเองที่ผ้าคลุมของเธอหลุดออกแล้วใบหน้าของแก้ม  ประธานนักเรียนที่เมแสนจะนับถือก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า   มัยยิงสายสลิงนั่นไปที่คนทั้งสองที่กำลังตื่นตระหนก   แต่ว่าชั่วเวลาฉับพลันนั้นเองก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น

             \" อย่านะ !! \" เมกระโดดเข้ามาหามัยจนทำให้เธอต้องเบนทิศทางไป   ตอนนั้นเองที่แก้มถือโอกาสผลักเมไปใส่มัยทำให้เธอเสียการทรงตัว   ปืนยิงสายสลิงของเธอกระเด็นหลุดจากมือ   แก้มกำลังจะลอยหน้าหนีไปอีกแล้ว   แต่ทว่าเรื่องยังไม่จบแค่นั้นเมื่อมัยก้าวไปข้างหลังก็พบว่าเจอเพียงแต่ความว่างเปล่า   เธอหันไปอย่างรวดเร็วพบว่าด้านหลังนั้นเป็น..ที่เธอไม่ทันสังเกตเห็นมาก่อน

             \" อะไรของเธอน่ะเม  ปล่อยนะ   ข้างหลังน่ะเป็นบ่อน้ำนะ... \" มัยพยายามจะผละไปหาแก้มอีกครั้งอีกทั้งพยายามปกป้องเมไม่ให้ตกลงไป  แต่ว่ามันกลับทำให้เธอสูญเสียการทรงตัวกว่าเดิมอีก   ในไม่ช้าทั้งสองคนจึงร่วงหล่นไป

             พอรู้ตัวทั้งสองคนก็ตกลงไปในความมืด  เสียงดัง \' พลั่ก !! \'  โชคดีที่บ่อน้ำนี่เก่ามากแล้วจึงไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่  แต่ความมืดที่ไม่ธรรมดาและอากาศรอบตัวที่แสนเย็นเยือกนี่สินี่สิ   เมพยายามร้องเรียกแก้มให้ช่วยพวกเธอขึ้นไป   แต่ก็ได้รับเพียงเสียงหัวเราะเย้ยหยันตอบกลับมา

             \" เชิญอยู่กับสาวน้อยนักสืบเพื่อนของเธอไปก่อนเถอะนะจ๊ะเม   อยู่ในที่มืดๆสักคืนคงจะสอนให้พวกเธอเลิกยุ่งเรื่องคนอื่นได้สักทีนะ   ขอให้มีความสุข..ในการฉลองความสำเร็จของฉันละกันที่สั่งสอนตัวเกะกะไปได้อีกสอง  ฮะ  ฮ่ะๆๆๆ   ไปละนะ อ้อ  พรุ่งนี้อย่าลืมขอบคุณพี่ประธานนักเรียนแสนดีที่เป็นคนตามครูมาช่วยพวกเธอนะ \" แก้มจากไปโดยไม่เหลียวแลเธอทั้งสองเลยสักนิด   ขณะที่มัยเงี่ยหูฟังเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่ค่อยๆแผ่วลงจนไม่ได้ยินอะไรอีกเลย  

             ทั้งเมและมัยต่างก็ไม่มีใครขยับเขยื้อนหรือพูดคุยเลย   เวลาแห่งความเงียบที่ดังที่สุดคืบคลานผ่านไป   เมมองหน้ามัยพยายามคิดหาเรื่องที่จะพูด   และแล้วก่อนที่เมจะทันเอ่ยปากพูด  มัยก็ขยับตัวลุกขึ้นกะดูความสูงของบ่อน้ำนี่  พลางพูดพึมพัมอะไรอยู่คนเดียว

             \" ประมาณ 5 เมตร.. โชคดีมากนะเนี่ยที่ตกลงมาโดยไม่เป็นอะไร   เอาล่ะ ได้เวลากลับขึ้นไปแล้ว..เม ! \" มัยว่าลอยๆ  แต่แล้วก็หันขวับมาที่เมอย่างทันทีทันใด

             \" อะ..อะไรจ๊ะ \" เมตะกุกตะกักพูด

             \" เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปก่อนนะ  แล้วจะโยนเชือกมาให้อยู่ดีๆล่ะ \" มัยว่าก่อนจะย่อตัวลงในท่าเตรียมกระโดด  เมมองตามอย่างทึ่งๆแกมหวาดเสียว  

             \" พูดเป็นเล่นน่ามัย  เธอจะกระโดดขึ้นไปเหรอ \" เมถามอย่างหวาดๆ   แต่มัยมีท่าทางไม่สนใจแต่ทว่า..ตอนที่เธอกำลังจะกระโดดนั่นเอง

             \" อุ๊ย !! โธ่เอ๊ย !!..ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้นะ \"  มัยบ่นพึมพัมก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง   เมยังคงอารมณ์ค้างอยู่จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่พักใหญ่ๆ

             \" มะ..มัย  อะไรเหรอๆ \" เมกุลีกุจอมาหามัยเมื่อรู้ตัว

             \" ข้อเท้าฉันน่ะสิ  สงสัยจะแพลงตอนตกลงมาน่ะ  ก็เลย.. \"

             \" พูดเป็นเล่นน่า  แล้ว  แล้วเราจะขึ้นไปยังไงล่ะ \"



             อีกฟากหนึ่งนา  ก้อย และพิม  กำลังกลับออกจากป่าไปสมทบกับคนอื่นๆ   นายังคงมองหามัยกับเมอย่างเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆ   ขณะที่ก้อยดูจะไม่สนใจเลย

             \" สองคนนั่น..ยังไม่กลับมาเลยนะ  ฉันว่าต้องเกิดเรื่องอะไรแน่ๆ \" นาพึมพัม

             \" ฉันว่าไม่นะ  ถ้ามีมัยอยู่ด้วย  ยัยนั่นน่ะเก่งนี่นา \" ก้อยพูดแกมประชดนิดๆ  นาค้อนขวับ

             \" ฉันจะไปตามหาพวกนั้น \" นาหันหลังจะกลับไปที่ป่าอีกแต่พิมดึงไว้

             \" อย่าคิดมากน่า  ฉันว่าเรากลับไปสมทบกับคนอื่นๆก่อนเถอะ  เผื่อว่าบางทีสองคนนั่นจะกลับไปแล้ว \" พิมจับตัวนาเอาไว้แล้วจูงมือเธอกลับไปในที่ตั้งแคมป์  นาพยักหน้าอย่างอ่อยๆก่อนจะยอมเดินตามแรงดึงของพิม



             ขณะเดียวกันนั่นเองมัยและเมซึ่งอยู่ที่ก้นบ่อน้ำ   มัยนั่งนวดข้อเท้าที่แพลงของตนเอง   ส่วนเมก็ได้แต่เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ  ทั้งสองต่างก็ไม่มีใครพูดอะไร  แต่ก็กำลังคิดหาทางออกไปจากที่นี่เช่นกัน   ผ่านไปสักพักเมที่พอจะใจเย็นลงแล้วก็หันมาหามัยอย่างสำนึกผิด

             \" ขอโทษนะ  ฉันผิดเอง \" เมพูดเสียงอ่อยๆ  มัยมองดูเมด้วยหางตาแต่ก็ไม่พูดอะไร

             \" เพราะฉันแท้ๆเลย \" เมพูดอีก

             \" อะไรล่ะ \" มัยว่า  เมเริ่มต้นเดินวนไปมาอีกครั้ง

             \" ก็เพราะฉันมัวแต่..คนร้ายก็เลยหนีไปได้   และก็เพราะฉันนี่แหละที่ทำให้พวกเราต้องมานั่งจับเจ่ากันอยู่นี่แถมทำให้เธอต้องบาดเจ็บอีก \" เมว่า   มัยพยายามลุกขึ้นแต่แล้วก็ต้องทรุดตัวลงอีก  แต่เธอก็ยันผนังบ่อน้ำลุกขึ้นเดินมาหาเมจนได้  

             \" เดี๋ยวๆมัย  อย่าพึ่งล้มนะ \" เมที่หันมาเห็นก็รีบตรงมาประคองมัยที่ทำท่าจะยืนไม่อยู่

             \" ไม่ใช่เพราะเธอหรอก \" มัยว่า

             \" อะไรนะ !! \" เมพูดอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง

             \" ฉันว่าไม่ใช่เพราะเธอคนเดียวหรอกที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้  ฉันเองก็ผิดที่ประมาทไปหน่อย  และที่สำคัญคือฉันไม่น่าจะให้เธอต้องมาพัวพันด้วยเลย  ขอโทษจริงๆนะที่ทำให้เธอต้องมาติดอยู่นี่กับฉัน  คนที่ผิดมากที่สุดน่ะคือฉันนี่แหละ \" มัยพูด  เธอจับเมเอาไว้เพื่อทรงตัว

             \" เพราะฉะนั้นเธอน่ะเลิกโทษตัวเองได้แล้ว \" มัยพูดก่อนจะยอมนั่งลงดีๆตามที่เมบอก   เมรู้สึกขอบใจมัยไม่ได้ว่าเธอ   มิหนำซ้ำยังออกรับผิดเองซะอีก   ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นเมทำผิดเป็นส่วนใหญ่

             \" ฉันพอจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมนาเขาถึงชอบมัยนัก \" เมพึมพัมแล้วยิ้มคนเดียว

             \" ยังไงๆเราคงต้องรออยู่ที่นี่จนกว่าจะมีคนมาช่วยล่ะนะ  แต่ว่าเราก็มาคิดหาทางออกไปจากที่นี่ด้วยกันดีกว่า   แย่จังฉันก็ไม่ได้เอาอุปกรณ์อะไรมาซะด้วยสิ  เธอว่าเอายังไงกันดีล่ะ  เม \" มัยหันมาพูดกับเมที่เริ่มเดินวนไปมาอีกแล้ว

             \" ก็..ไม่รู้สิ  เราคงต้องรอให้คนอื่นมาช่วยล่ะมั้ง  ฉันเองก็ไม่เก่งพละถึงขั้นจะปีนหรือกระโดดขึ้นไปได้จากที่นี่เหมือนมัยหรอกนะ \" เมคิดอะไรไม่ออก

             \" เมื่อกี้ฉันส่งสัญญาณ  SOS  ไปหาท่านผอ.ด้วยนะแต่ไม่รู้ว่าได้รับรึเปล่านี่สิ  เพราะรู้สึกว่าผอ.จะดักสัญญาณบางอย่างไม่ให้เข้าไปในคอมพิวเตอร์และก็ระบบปฎิบัติการของโรงเรียนในห้องทำงานตัวเองได้ด้วย   ฉันว่าเขาคงไม่ได้กำหนดให้สัญญาณ  SOS  ผ่านเข้าไปได้ล่ะมั้ง \" มัยพูดแบบเปรยๆ   แต่ทำให้เมนึกอะไรขึ้นได้

             \" มัยๆ  เครื่องส่งสัญญาณที่เธอใช้สะกดรอยนั่นน่ะมันใช้ส่งสัญญาณอะไรได้อีกล่ะ \" เมพูดอย่างตื่นเต้น

             \" มันก็..ส่งพวกสัญญาณไปที่เครื่องดักฟังที่ฉันแอบติดเอาไว้ได้ล่ะนะ  แล้วก็..ฉันว่าเธอเอาไปดูเองละกัน  อย่าเล่นจนพังล่ะ  ฉันยืมมาจากคนอื่นอีกทีนะ \" มัยยื่นเครื่องมือของเธอให้เมที่รับไปดูอย่างท่าทางสนใจมาก  เมสำรวจดูสักครู่   เธอเคยเห็นเครื่องมือที่คล้ายๆกับอันนี้มาก่อนไม่ผิดแน่มันน่าจะ..

             \" มัย  เจ้านี่ส่งสัญญาณแทรกแซงได้ใช่ไหม  อย่างเช่น  จูนสัญญาณมือถืออะไรพวกนี้น่ะ \" เมพูดโดยที่ตายังจดจ่ออยู่กับของตรงหน้า

             \" อืม  ฉันเองก็เคยใช้อยู่หรอกนะ  ว่าแต่เธอรู้ได้ไง \" มัยถาม  เธอออกจะแปลกใจนิดๆ

             \" ฮิๆ  ไม่มีอะไรที่ชมรมหนังสือพิมพ์ไม่รู้ไงล่ะ  เป็นคติพจน์ของชมรมเราน่ะ \" เมยิ้มนิดๆก่อนจะลงมือกดอะไรไปมาอยู่ที่เครื่องมือแปลกๆของมัย

             \' บางทีอาจจะมีทางก็ได้ถ้าเป็นคนๆนั้น \' เธอคิดหลังจากส่งสัญญาณอะไรไป 2-3 ครั้ง  มีมัยนั่งดูอยู่ข้างๆอย่างสนใจ

             \" ที่พี่ธัญพูดนี่เห็นทีจะจริงนะ  เธอเองก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ \" มัยชม  เมยิ้มอย่างเขินๆ

             \" คราวนี้ก็รอให้คนๆนั้นรู้ตัวละกัน  หวังว่าคงจะไม่มืดซะก่อนนะ  เฮ้อ..เราก็มานั่งรอกันเถอะ \" เมว่า  เธอนั่งลงอย่างสงบข้างมัยหลังจากเดินวนมานาน  

             \" นั่นสินะ  หวังว่าคงมีคนมาช่วยก่อนที่จะมืด..\" มัยพูดก่อนจะแหงนหน้าดูท้องฟ้ายามบ่ายคล้อย  เมสังเกตเห็นมัยทำหน้าแปลกๆตอนที่เธอพูดเมื่อครู่  แต่เมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก  บางทีมัยอาจจะอยากอยู่เงียบๆบ้างก็ได้



             การรอคอยอย่างเงียบๆที่ก้นบ่อน้ำร้างกลางป่าของเด็กสาวทั้งสองคนยังคงดำเนินต่อไป  เวลาคืบคลานผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ท้องฟ้าสีครามกระจ่างตาก็เริ่มกลายเป็นสีส้มอ่อนและทาทาบไปทั่วท้องฟ้า  ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทาพร้อมๆกับความมืดที่เข้าครอบคลุมไปทั่วบริเวณรวมทั้งที่ก้นบ่อน้ำแห่งนี้ด้วย

             \" ทำไงดีล่ะมัย  จวนจะมืดแล้วล่ะ  ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาช่วยเลย  ฉันไม่ได้เอาไฟฉายมาซะด้วย \" เมเริ่มกังวล  เธอออกจะแปลกใจที่มัยไม่พูดอะไรเลยมาสักครู่หนึ่งแล้ว  เป็นไปได้ว่าเธออาจจะกำลังคิดอะไรอยู่ก็ได้

             \" นั่นน่ะสิ  จวนจะมืดแล้ว \" มัยพึมพัม  เธอขยับเข้ามาหาเมโดยไม่รู้ตัว











    ชื่อตอนที่ 9 นี่เรายืมมาจากการ์ตูนเรื่อง Spiral ผ่าเกลียวปริศนาน่ะ  เห็นว่าเข้ากันดี - -







            
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×