ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #58 : บทเรียนที่ 52 ฝีมือที่แท้จริงของพรีสไซ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.63K
      88
      12 เม.ย. 52





    บทเรียนที่
    52  ฝีมือที่แท้จริงของพรีสไซ

     



     

     

    ฟิ้ววว ! ลูกปิงปองที่ถูกประกบอยู่ค่อยๆลดความเร็วลง จนหยุดหมุนไปในที่สุด

    นี่มันเรื่องอะไรกัน เจ้าหมอนี่หรือ มุซาชิฉายา ดาบคู่ไร้ผ่าย แล้วจู่ๆมาเรียกเราว่าปีศาจน้อยได้ไง นั่นมันฉายาของเราที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้นี่  ?

    ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวว่าพวกชั้นจะกลัวจนไม่กล้าสู้หรอกนะ พวกชั้นเสียอีกที่ต้องขอบคุณพวกนายที่อุตส่าห์มาเล่นโชว์สนุกๆให้ดูแต่เช้า พรีสไซนั่งปรบมือด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    แต่ดูเหมือนว่ามุซาชิจะไม่ชอบคำพูดนั้นสักเท่าไหร่ สายตาคมกลิบจึงหันไปจับจ้องที่พรีสไซราวกับต้องการจะให้เขาถอนคำพูดล้อเล่นนั่นทิ้งไปซะ

    ส่วนนักเรียนคนอื่นๆคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ต่างได้พากันหันเหความสนใจมายังพวกวากันหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ช่างเป็นเช้าที่ร้อนแรงเหมาะแก่การแข่งนัดสำคัญเสียจริงๆ

    แป๊ะๆ เสียงปรบมือดังมาจากชายที่อยู่ด้านหลังของมุชาซิ 

    ไม่เลวๆ สมแล้วที่เป็นพรีสไซ จอมทลายกลยุทธ์   ชายร่างสูงใบหน้าคมเข้ม หรือที่วาคิดว่าคือ เอจิส ไร้กลุยทธ์ก้าวออกมาช้าๆ จากนั้นนำมือเตะลงที่บ่าของมุซาชิเบาๆคล้ายบอกว่าให้สงบลงก่อน

    เพียงคำพูดแค่ประโยคเดียวก็ทลายแผนการข่มขวัญของมุซาชิได้สำเร็จ แถมยังยั่วโมโหมุซาชิได้อีกด้วย ร้ายกาจจริงๆ

    ได้ยินเช่นนี้พรีสไซขยับแว่นขึ้นครั้งหนึ่ง  นายคงจะคิดมากไปแล้วละเอจิส ฉายาของนายคือไร้กลยุทธ์ไม่ใช่หรือยังไง ถ้าไร้กลยุทธ์จริง แล้วชั้นจะทำลายกลยุทธ์ของนายได้ยังไงกัน

    ฮ่าๆ พูดอีกก็ถูกอีก เอจิสหัวเราะ แต่เพราะว่าไร้กลยุทธ์ไม่ใช่หรือยังไง นายถึงไม่สามารถทำลายได้น่ะ

    เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้พรีสไซถึงกับหน้าถอดสี วาที่นั่งฟังอยู่แม้จะรู้สึกงงๆอยู่บ้าง แต่คำพูดของเอจิสก็ไม่ถึงกับไม่มีเหตุผล เพียงแต่เขาคิดว่าหากต้องนั่งฟังสองคนนี้พูดกันทั้งวันละก็เขาคงจะกลายเป็นคนบ้าไปเสียก่อน

    ฮ่าๆ เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ จริงๆด้วยฝีมือของนายต่อให้จะมีแผนดียังไงก็สู้ชั้นไม่ได้อยู่ดีละนะ  

    เอจิสกล่าวต่อเมื่อเห็นว่าการสนทนาขาดช่วงไป

    คนอะไรหลงตัวเองชะมัด ถือว่าตัวเองเป็นทีมแชมป์แล้วจะทำมาเที่ยวข่มคนอื่น มันจะไม่มากไปหน่อยหรอยังไง  

    ขณะที่วาเริ่มรู้สึกหมั่นไส้เอจิสขึ้นมาทุกทีนั้น โซลีนก็กล่าวตัดบทด้วยความสุขุมเสียก่อน

    เอาละ เรื่องฝีมือใครจะเหนือกว่าใครค่อยว่ากันตอนแข่งก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้พวกชั้นต้องขอตัวทานอาหารต่อก่อนละ เชิญ

    ดี พูดได้ดี มุซาชิเค้นยิ้ม หวังว่าตอนแข่งนายพวกนายคงจะไม่ทำให้ชั้นผิดหวังเหมือนทีมอื่นๆหรอกนะ

    ทันใดนั้นวาพลันหัวเราะขึ้น สายตาของมุซาชิจึงหันขวับไปที่วาทันที

    ฮ่าๆ สุดยอดจริงๆ รู้สึกสนุกจนอยากจะแข่งให้รู้ผลเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้วสิ

    พรีสไซที่ทำหน้ากลุ้มอยู่เมื่อได้ยินก็หันไปมองวาด้วยสีหน้างงๆ โซลีนเองก็เช่นกัน วาที่เห็นรู้สึกสะใจเล็กน้อยที่นานๆทีตัวเองจะเป็นฝ่ายทำให้พรีสไซกับโซลีนได้งงบ้าง

    แต่คำตอบที่วาได้รับกลับเหนือคาด

    เสียใจด้วยนะ ด้วยฝีมือของนายตอนนี้ไม่ใช่คู่แข่งที่ชั้นสนใจหรอก มุซาชิกล่าวหยาม

    แทนที่วาจะโมโหกลับหัวเราะขึ้นอีก

    ฮ่าๆ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นละ ฝีมือในการโชว์ปาหี่ของนาย เราคงสู้ไม่ได้จริงๆนั่นละ แบบนี้คงต้องให้กัปตันทีมเราเป็นคนจัดการแทนเสียแล้ว วาทำเป็นกินซุปต่อโดยไม่หันไปสนใจมุซาชิ ราวกับไม่ได้อยู่ในสายตา

    โซลีนแอบหันขวับมาทางวา  คำพูดแม้จะจงใจว่ามุซาชิแต่มันกลับรู้สึกเหมือนกระทบมายังตนอย่างไรไม่รู้

    หึ แค่ชนะซิลเว่อร์มาได้อย่าทำเป็นเก่งไปหน่อยเลย ! ” กล่าวจบมุซาชิตวัดไม้ปิงปองทั้งสองที่ประกบลูกอยู่ สปินลูกพุ่งไปทางวาในทันที

    ลูกสปินพุ่งเข้าใส่วาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน พรีสไซที่นั่งอยู่ใกล้วาที่สุดรีบเอื้อมมือไปจับไม้ปิงปองเพื่อช่วยปัดลูกให้ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว

    เจ้าบ้านี่ ลูกปิงปองจะโดนหน้าอยู่แล้วยังทำเป็นกินซุปอยู่ได้

    หึ คนอะไรช่างเกินเยียวยาเสียจริงๆ  วาส่ายหน้า

    พริบตานั้นวาทิ้งช้อนในมือขวาลง เสียงช้อนกระทบแก้วซุปดังเกร้ง ก่อนที่มือขวาจะตวัดลงหยิบไม้ปิงปองที่ข้างเอวขึ้นมา  จากนั้นเหยียดแขนขวาออกตรงๆ ปลายนิ้วทั้งสองข้างจับที่ไม้ปิงปองไว้ด้วยท่าจับแบบไม้จีนนั้นตวัดวูบเล็กน้อย

    และราวกับมีเวทมนต์ลูกสปินความแรงสูงที่มุซาชิตวัดใส่วา กลับขึ้นมาหมุนอยู่ที่กึ่งกลางไม้ปิงปองของวาได้อย่างพอดิบพอดี

    โอ้ !

    นักเรียนหลายคนที่ได้เหตุการณ์ต่างอุทานขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน

    แก ! มุซาชิเค้นเสียงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีใครสามารถรับลูกสปินของตนได้ภายในเวลาระยะอันสั้นเพียงนี้ แถมตอนรับลูกยังไม่หันมามองลูกแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ยื่นแขนออกมา พร้อมตวัดนิ้วมือเท่านั้น ทำให้ตนรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง

    เอาละอย่างที่กัปตันทีมเราบอกไปเรื่องฝีมือไว้ค่อยว่ากันตอนแข่ง ตอนนี้ต้องขอตัวกินท่ากินน้ำก่อนนะ   วาหันไปมองมุซาชิด้วยสายตาคมกริบ ทำเอามุซาชิผงะไปชั่ววูบ

    พวกนายถ้าว่างมากก็เอาเวลาที่เหลือไปซ้อมเถอะ เผื่อว่าตำแหน่งแชมป์ถูกพวกเราชิงไปแล้วจะได้ไม่ต้องมาโทษตัวเองที่เสียเวลามาเล่นตลกแทนที่จะเอาเวลาไปซ้อมน่ะ กล่าวจบไม้ปิงปองในมือของวาวูบ ส่งลูกสปินกลับไปยังมุซาชิอย่างแม่นยำ

    แต่ลูกปิงปองถูกส่งกลับเร็วเกินไป โดยที่มุซาชิยังไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะยังคงตกใจกับสายตาคมกริบของวาอยู่  ดังนั้นลูกปิงปองจึงพุ่งเข้าหน้าของมุซาชิเต็มๆ

    ฟึบ !

    ทว่าจู่ๆ ไม้ปิงปองจากบุรุษนิรนามก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับช้อนลูกสปินที่วาส่งไปได้อย่างง่ายดาย

    วาหันขวับไปยังบุรุษนิรนามที่โผล่มาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียงคนนั้น  ความรวดเร็วและความสามารถในการรับลูกได้นิ่มนวลขนาดนี้ แสดงว่าฝีมือต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

    บุรุษนิรนามยืนนิ่งสงบ ยื่นลูกปิงปองในมือไปในมุซาชิ  

    ผมต้องขออภัยแทนเพื่อนร่วมมือของผมด้วยนะครับที่เสียมารยาท บุรุษนิรนามกล่าวอย่างสุภาพพร้อมก้มหัวลงเล็กน้อย เด็กหนุ่มคนนี้หลับตาทั้งสองข้างสนิท ผมสีขาวยาวถูกมัดรวบไว้ด้วยผ้าคาดหัวสีดำ ยืนเอามือไพล่หลังด้วยท่าทีสงบนิ่ง

    เมื่อวาสังเกตยังใบหน้าของเด็กหนุ่มผู้นี้ก็ต้องประหลาดใจที่เวลาเขากล่าวนั้นไม่ได้ลืมตามองใครเลยเลยแม้แต่น้อย

    ทรอนนี่นาย ! มุซาชิกล่าวกับเด็กหนุ่มผมขาว

    ทรอน อย่างนั้นหรอ ? ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือ กัปตันทีมไกเซอร์ด้อมที่พรีสไซกับโซลีนเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นคนตาบอดน่ะสิ แต่ดูจากการรับลูกได้อย่างแม่นยำเมื่อสักครู่นี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนตาบอดจะทำได้ถึงขนาดนี้

    นายมาทำอะไรที่นี่ ชั้นบอกแล้วยังไงว่าให้รออยู่ที่ห้อง ?! เอจิสทำท่าไม่พอใจ แต่ทรอนไม่มีท่าว่าจะสนใจ กลับเอ่ยต่อราวกับไม่ได้ยินคำทัดทานของเอจิส

    ชั้นบอกแล้วใช่ไหมละมุซาชิ ว่าเขาน่าสนใจ ใบหน้าสงบของทรอนมีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

    หึ ก็แค่บังเอิญรับลูกของชั้นได้ก็เท่านั้นละ มุซาชิคว้าลูกปิงปองมาจากมือของทรอน จากนั้นเก็บไม้ปิงปองทั้งสองเข้าปลอกที่ด้านหลังเอว

    เอาละได้เวลาไปแล้ว เอจิสตัดบทอย่างไม่ค่อยพอใจ ขอตัว

    หวังว่าเราคงจะมีโอกาสได้เล่นด้วยกันนะครับ ทรอนเอ่ยขึ้น ใบหน้าของเขาดูเหมือนพยายามจะหันมาหาวา

    อืม วารับคำสั้นๆ ยังคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และไม่เข้าใจว่าที่แท้แล้วพวกนั้นคุยอะไรกัน

    และวาก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นเอจิสเข้ามาจับแขนทรอนแล้วพาเดินไป พอทรอนหันหลังให้แก่ทุกคน วาก็พบว่าที่มือซ้ายของทรอนถือไว้ด้วยไม้เท้าสีดำอันหนึ่ง ซึ่งระหว่างที่เดินกลับทรอนก็เคาะไม้เท้าไปตามพื้นด้วย

    เป็นไปไม่ได้น่า วาอุทาน

    เล่นเอาเหงื่อตกเลยนะ เจ้าหมอนั่น พรีสไซดันแว่นขึ้น เหงื่อถึงกับไหลลงจากข้างแก้มจริงๆ

     

     

    ชั้นขอโทษนะที่ออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่พอได้ยินว่าพวกนายจะไปทักทายกับพวกนั้นชั้นก็อดไม่ได้ขึ้นมาน่ะสิ ทรอนเคาะไม้เท้าเรื่อยๆตามทางไปห้องแข่งปิงปอง

    เอจิสถอนหายใจ นายนี่ก็แปลกนะ โรงเรียนอื่นที่เก่งกว่านี้หลายสิบเท่า นายกลับไม่สนใจ แต่โรงเรียนที่เพิ่งจะลงแข่งครั้งแรกแบบนี้ แถมยังไม่ได้เก่งอะไรเลย นายกลับสนใจถึงขนาดยอมขัดคำสั่งชั้นออกมาดู

    ก็ชั้นบอกแล้วยังไงว่า เสียงของเขาน่าสนใจ จริงไหม ทรอนทำเป็นถามมุซาชิ

    หึ ปีศาจอะไรนั่น ชั้นไม่สนใจหรอก มุซาชิยิ้มอย่างมั่นใจ เพราะคนที่ชั้นสนใจมีเพียงโซลีนเท่านั้น ชั้นจะแสดงให้เห็นว่าลูกไม้ตายของมันมีแต่ชั้นผู้นี้เท่านั้นที่จะทลายลงได้

    แต่แววตาตอนนั้นดูน่ากลัวดีนะ เอจิสเสริม

    ทรอนสีหน้าดูหดหู่เมื่อได้ยินเอจิสกล่าวถึงเรื่องแววตา คงเพราะเขาไม่ทันได้เห็น หรือไม่อาจได้เห็นกระมัง  ซึ่งเอจิสก็ดูออกว่าพูดอะไรให้ทรอนไม่สบายใจเข้าแล้ว จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

    เอาเถอะ แต่วันหลังถ้านายอยากจะออกมาจริงๆ ก็ช่วยโทรมาบอกชั้นหน่อยก็ยังดี ชั้นจะได้ให้รุ่นน้องไปช่วยดู ไม่อย่างนั้นอาจารย์คงหาว่าชั้นไม่ดูแลนายแน่ เอจิสกล่าวอย่างเป็นห่วง มากกว่าจะว่า

    อืม ต้องขอโทษจริงๆนะ ทรอนก้มหัวขอโทษ

    ไม่ใช่อย่างนั้น ชั้นแค่เป็นห่วงนายก็เท่านั้นเอง เอจิสตบบ่าทรอนเบาๆ แต่เดินมาเองได้ขนาดนี้ก็นับว่าใช้ได้นะเนี่ย หวังว่าตอนแข่งคงไม่ฝีมือตกไปก่อนเพราะทุ่มสมาธิไปกับการเดินมาหาพวกชั้นหมดแล้วหรอกนะ

    ไม่หรอก พวกนายมั่นใจได้เลย ทรอนเริ่มยิ้มขึ้นมาเมื่อพูดถึงการแข่ง ชั้นก็แค่หวังว่าครั้งนี้พวกนายคงจะไม่ชนะรวด จนชั้นไม่ได้แข่งอีกนะ

    พูดอย่างนั้นได้ยังไงกัน เหมือนกับบอกว่าดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นตอนเช้านั่นละ ของมันแน่อยู่แล้วว่า พวกชั้นไม่มีวันแพ้   มุซาชิฉีกยิ้ม

     


    เฮ้ๆ สวัสดีพวก มิวรีบเข้ามาทักทายวา ช่วยละลายความตื่นตระหนกที่วาเพิ่งได้พบลงไปบ้าง

    ดูเหมือนว่าเช้านี้เพื่อนๆจะพร้อมใจยกโขยงกันมาให้กำลังใจเขาครบทีมอีกเช่นเคย ทั้งนีโอ เสือใบ้นิค วีวี่ เบต้า พิชากิ จ๋อบ และซักก้า

    โห มากันครบเชียวนะ ขอบใจมากเลย วากล่าวขอบคุณกับทุกคน

    ไม่เป็นไรน่าเพื่อนกัน เออนี่ เมื่อตะกี้เท่มากเลยนะเพื่อน  มิวชูนิ้วโป้งให้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะรับลูกได้ โดยที่ไม่หันหน้าไปมอง เล่นเอาเจ้าหมอนั่นหน้าซีดไปเลย ฮ่าๆๆ

    มันฟลุ๊คน่ะ แบบว่าอารมณ์มันพาไป วายิ้มแห้งๆ ตอนที่เขายื่นมาออกไปรับลูกนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นอกเสียจากว่าจะต้องรับให้ได้ เพราะรู้สึกหมั่นไส้มุซาชิมากจริงๆ

    แต่พูดถึงคนผมขาวนั่นก็รับลูกนายได้น่ากลัวเหมือนกันนะ เบต้าพูด ทำไม้ทำมือแบบหุ่นยนต์โดยที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจ

    นั่นสิ ท่าทางจะไม่ธรรมดานะนาย ยังไงก็อย่าประมาทละ ซักก้าเสริม

    อืม วารับคำ พร้อมคิดถึงตอนที่ทรอนรับลูกของเขา มันช่างดูนุ่มนวลและสงบอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนี้ตาของทรอน……..

    เอ แต่ว่าเขาใช่คนตาบอดหรือเปล่านะ วีวี่เอามือเตะปาก

    จะไปตาบอดได้ยังไง เธอนี่ไม่เข้าใจวิถีแห่งลูกผู้ชายเอาเสียเลย เจ้าหมอนั่นมันจงใจหลับตารับลูกเพื่อท้าทายวาชัดๆ มิวกอดอก วางมาดใส่วีวี่

    ตาบ้า คำก็วิถีแห่งลูกผู้ชายสองคำก็วิถีแห่งลูกผู้ชายบ้าบออะไรกัน ไม่เห็นหรอว่าเขาถือไม้เท้าอยู่น่ะ วีวี่รัดผ้าพันคอตนที่พันอยู่บนคอมิวด้วยความฉุน

    แค่ก แค่ก นะ นั่นมันก็แค่ขะ ของตบตะ ตา   มิวแม้จะโดนรัดคอก็ไม่วายพยายามจะเถียงกลับให้ได้

    แต่เราว่าไม่ใช่นะ นีโอวิเคราะห์ โดยไม่สนใจว่ามิวจะโดนรัดคอต่อไปหรือไม่ คงเพราะเคยชินกับคู่กัดคู่นี้เสียแล้ว  เพราะจากที่ดูตอนเขาเดินกลับแล้ว ยังไงเสียก็เป็นลักษณะการเดินของคนตาบอดชัดๆ

    แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ของโลกแล้ว มิวที่ดิ้นรอดจากเงื้อมมือวีวี่มาได้ รีบแย้ง

    พิชากิคำรามในลำคอ พร้อมพยักหน้าคล้ายเห็นด้วย ปนกับแสดงความนับถือในความสามารถของทรอน

    เอาละ ชั้นว่าพวกนายไม่ต้องเถียงกันหรอก พรีสไซที่นั่งเงียบมานานเอ่ยปากขึ้น จากนั้นเช็ดเหงื่ออีกครั้งก่อนที่จะกล่าวต่อ เจ้าหมอนั่นเป็นคนตาบอดจริงๆ และดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในทีมด้วย ไม่สิอาจจะเก่งที่สุดในการแข่งครั้งนี้ก็ได้นะ

    ไม่จริง โกหกน่า ! มิวกับซักก้าเผลออุทานออกมาพร้อมๆกัน พิชากิคำรามในลำคอ ส่วนจ๋อยเพียงเกาหัวอย่างงงๆโดยไม่มีใครสนใจ

    ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ถึงเวลาแข่งเดี๋ยวก็รู้เอง พรีสไซกล่าวอย่างไม่แยแส แต่ว่าตอนนี้พวกชั้นคงต้องรีบกินให้เสร็จก่อนละ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

    อืมๆ ยังไงก็สู้ๆนะพวก หรือว่ารุ่นพี่ดีครับมิวเกาหัว

    ช่างมันเถอะ ชั้นไม่ถือหรอก พรีสไซยิ้มตาหยี

    ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไปรอนายอยู่ที่ห้องแข่งนะ ยังไงก็เต็มที่นะมิวตบไหล่วา

    สู้ๆนะนาย ซักก้ายกมือ  

    ‘……..’ เสือใบนิคพยักหน้าให้วา

    ฮึ่ม ! ’ พิชากิคำราม ชูกำปั้นให้ ช่างสมเป็นมือกลองสุดคลั่ง ไม่ยอมทิ้งมาดจริงๆ

    อืม ขอบใจมากนะ วายิ้ม รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเป็นกอง

    เอ แล้วโซเฟียละ วีวี่ถาม

    คงจะไปดูอาการรุ่นพี่ไซโคร แนชอยู่ละมั้ง วาตอบ เมื่อเอ่ยถึงโซเฟียเขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมา คงเพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนตนเองนอนไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

    จริงๆ จะถามถึงดีว่าก็บอกมาเถอะ มิวทำเสียงสูง

    วีวี่หันมามองตาขวาง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มตาเป็นประกาย

    อืม นั่นสินะ แล้วท่านดีว่าละ ไม่มาเชียร์ด้วยหรอ

    เออ ก็คงจะไปดูอาการรุ่นพี่ก่อนเหมือนกันนั่นละ วาสังเกตเห็นมิวคอตก แบบนี้เขาเรียกว่ากัดเองเจ็บเองหรือเปล่านะ

    เสือใบ้นิคทำมาตบบ่าปลอบมิว เหมือนจะรู้ทันอารมณ์

    อะไรของนาย นายอย่ามาดูถูกวิถีแห่งลูกผู้ชายของเรานะ  มิวทำเสียงแข็งแก้เขินที่โดนนิครู้ทัน

    แต่คำตอบที่ได้จากนิคกลับเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชนิดที่เรียกได้ว่า นานๆทีจะได้เห็นสักครั้งหนึ่ง จนมิวถึงกับต้องทำหน้าเบ้   ที่แท้ทั้งสองคนนี้มีความลับกันอะไรกันแน่นะ

     

     


    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย พวกมิวก็ขอแยกตัวไปหาที่นั่งเตรียมเชียร์วากันก่อน  ทางด้านวาเองก็ดูเหมือนจะใกล้เวลาลุยเต็มทีแล้วเช่นกัน

      เฮ้ ขณะกำลังจะเดินเข้าห้องแข่งวาก็ถูกโซเฟียเรียกเอาไว้  เธอมาพร้อมกันกับดีว่า

    ตื่นเช้าดีนี่  วายิ้มให้กับโซเฟีย

    แน่นอนอยู่แล้ว  เผอิญลูกน้องเราแข่งแต่เช้า เลยต้องรีบมาเชียร์ไง แหะๆ โซเฟียยักคิ้ว

    ว่าแต่รุ่นพี่เป็นยังไงบ้าง วาถาม

    ดีขึ้นมากแล้วละครับ สักพักก็คงออกจากห้องพยาบาลได้แล้ว ตอนนี้มาสเตอร์ชไนเดอร์กับคุณก็อบช่วยเฝ้าอยู่ครับ   ดีว่าตอบ

    วายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก็เพราะมาสเตอร์ชไนเดอร์ไม่ใช่เรอะอย่างไรที่ทำให้รุ่นพี่ต้องล้มลงไปอีกรอบนึงน่ะ  นึกถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องของไลร่า ดูเหมือนว่าหลังจากการแข่งครั้งนี้จบเขาต้องไปถามเธอหน่อยแล้วว่าข้อความที่เธอส่งให้ไซโคร แนชมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ รุ่นพี่ถึงได้อยากรู้ถึงตัวคนส่งขนาดนั้น

    ยังไงก็โชคดีในการแข่งนะครับ ดีว่ายิ้มอย่างสุภาพ

    อืม จะพยายามเต็มที่เลยละ วารับคำ  จากนั้นก้าวเข้าห้องแข่ง

    อ่อ เดี๋ยวก่อนครับ ดีว่านึกขึ้นได้จึงเรียกวา รุ่นพี่ฝากบอกผมมาว่า ขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วย แล้วก็ชนะให้ได้นะครับ

    วาเพียงยื่นมือขึ้นจากนั้นก้าวเข้าห้องไปด้วยความมั่นใจ

     


    ลมดำ ! วาทักลมดำที่มาพร้อมกับโย และเรย์รุ่นน้องโรงเรียนเก่าของเขา

    กำลังหานายอยู่พอดีเลย ลมดำยังคงคาดผ้าโพกหัวสีดำอยู่เช่นเคย กล่าวด้วยความยินดี   ยังไงก็สู้เขานะพวก ถึงทีมมันจะโหดไปหน่อยแต่นายก็ไม่กลัวอยู่แล้วจริงไหม

    อืม ขอบใจมากนะเพื่อน วารู้สึกดีใจมากที่เพื่อนเก่าของเขาอุตส่าห์มาเชียร์แต่เช้า แล้วรุ่นน้องสองคนนี้…….”

    พวกเขาก็อยากมาเชียร์นายด้วย ความจริงเจ้าพวกนี้ศรัทธานายมากเลยละ แบบว่าติดใจตั้งแต่เห็นนายโค่นตัวเต็งอย่างซิลเวอร์ได้

    สวัสดีครับรุ่นพี่  โย และเรย์กล่าวทักทาย พี่เท่มากเลย ดีนะที่พวกผมไม่ต้องสู้กับพี่ ปีศาจชัดๆที่เอาชนะซิลเวอร์ได้ คราวนี้ก็อย่าแพ้เขานะครับ   โยกล่าวด้วยความชื่นชม ซึ่งวาเห็นความศรัทธาได้จากแววตาคู่นั้น

    ใช่แล้วครับ ถ้าพี่ชนะได้รอบต่อไปก็ต้องเจอกับโรงเรียนบริงเกอร์ ยังไงก็ช่วยกู้หน้าให้พี่ลมดำเขาด้วยนะครับ แล้วก็แสดงปีศาจในตัวพี่ให้พวกผมได้เห็นอีกนะครับ เรย์กล่าวด้วยความตื่นเต้น เหมือนได้พบดาราทั้งๆที่ปกติเรย์มักจะเป็นคนนิ่งๆ ซึ่งลมดำก็อดขำไม่ได้  

    ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ยังไงก็ขอบใจนะ วายิ้มรับ

    นายไปเถอะ แล้วค่อยเจอกัน ลมดำบนบ่าวา

    อืม แล้วเจอกัน

     

     

    ขณะกำลังเดินอยู่ เกือบจะถึงที่นั่งนักกีฬา วาก็ได้ยินหนึ่งลอยขึ้น

    ถึงชั้นจะไม่ค่อยชอบหน้านายเท่าไหร่ก็เถอะ วิสด้อมเอ่ยขึ้นขณะที่วากำลังเดินผ่านหน้าไป แต่เมื่อเช้าพอชั้นเห็นท่าทางมั่นใจเกินตัวของเจ้าพวกนั้นแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาชอบกล

    วาหยุดเดินหันมามองวิสด้อมที่กอดอกเก๊กท่าอยู่ อดขำไม่ได้ที่เมื่อสักครู่เพิ่งจะมีคนมาบอกให้เอาชนะไกเซอร์ด้อมให้ได้เพื่อจะได้มาชนะวิสด้อมให้ได้ แล้วจู่ๆเจ้าตัวก็โผล่มาพอดี

    ยังไงก็อย่าแพ้พวกนั้นเสียก่อนละ เพราะคนที่ชั้นต้องการจะจัดการในรอบต่อไปไม่ใช่เจ้าพวกนั้น แต่เป็นนาย  เข้าใจไหม ?

    วาเค้นหัวเราะ  

    หึ ถ้ารอบนี้พวกชั้นจัดการไม่ได้ รอบหน้าก็คงต้องฝากพวกนายแล้วละ

    วิสด้อมงงกับคำพูดที่ไร้ซึ่งความมั่นใจของวา จึงต้องเงยหน้าขึ้น และก็ได้พบกับแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของวา

    โทษที เมื่อกี้ชั้นล้อเล่นน่ะ วาฉีกยิ้มเมื่อเห็นวิสด้อมทำหน้างง ความจริงก็คือ ถ้าพวกชั้นจัดการไม่ได้ พวกนายก็อย่าหวังจะจัดการได้เลยต่างหากละ แล้วก็ขอบใจนะสำหรับกำลังใจ

    จากนั้นวาก็ออกเดินต่อ มองตรงไปยังข้างหน้าโดยไม่สนสีหน้าของวิสด้อมที่โดนตนเองกวนโอ๊ยไป

    ใช่แล้วเขาจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครก็ตาม เขาจะต้องไปให้ถึงรอบชิงให้จงได้

    รอเราก่อนเถอะเจ้าครอส…………..

    หนอย เจ้าหมอนี่ ทำเป็นเท่ อย่าแพ้ขึ้นมาก็แล้วกัน ชั้นจะขำให้ฟันร่วงเลย วิสด้อมกัดฟัน ก่อนที่จะโดนกำปั้นของโทโมะเขกใส่หัวข้อหน้าพยายามจะไปก่อเรื่องเพิ่ม พร้อมจับลากไปนั่งดูอย่างสงบ

     

     


    เอาละต่อไปนี้คือ แผน พรีสไซกล่าวขึ้นขณะนั่งอยู่ข้างสนาม ทำไมถึงชอบมาบอกแผนกันตอนจะเริ่มแข่งนะ วาสงสัย แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากต่อว่า พรีสไซก็กล่าวต่อเหมือนเช่นเคย โดยมีโซลีนคอยกอดอกฟังอยู่ราวกับไม่เคยได้ปรึกษาเรื่องแผนการเช่นนี้กับพรีสไซมาก่อน

    นายเคยได้ยินกลยุทธ์ของซุนวูไหม พรีสไซยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นตัดบทกล่าวต่อเอาดื้อๆ เอาเถอะเรื่องนั้นช่างมันไว้ก่อน เพราะคนอย่างนายคงไม่เคยอ่านมาหรอก

    วาขมวดคิ้ว บางทีพรีสไซก็ชอบแอบกวนเขาโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว

    เรื่องของการจับคู่ประลองหากเป็นการแข่งแบบสามต่อสามให้เอาม้าเอกของเราไปสู้กับม้ารองของเขา  เอาม้ารองของเราไปสู้กับลำดับสามของเขา แล้วเอาม้าลำดับสามของเราไปสู้กับม้าเอกของเขา จากนั้นขยับแว่น ซึ่งนั่นก็จะหมายถึงชัยชนะยังไงละ

    อะฮะ ว่าแต่ซุนวูจะช่วยเราได้ยังไงละ วาทำหน้านิ่ง จากนั้นก็เห็นพรีสไซฉีกยิ้ม

    ซุนวูช่วยเราเรื่องแผนการแล้ว ต่อจากนี้คงต้องให้ซุนวาช่วยเราเรื่องโชคแล้วละ ที่นายต้องทำก็คือ ไปทอยหัวเหรียญให้ชนะเท่านั้น แล้วเปอร์เซ็นต์ชนะของเราก็จะเพิ่มขึ้นเอง ไปซะ

    วาทำสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะถูกใช้ไปทอยหัวเหรียญ แต่เป็นเพราะความอ้อมค้อมของพรีสไซ

    แล้วทำไมนายไม่ไปทอยเอง หรือจะบอกว่านายเชื่อว่าดวงของเราดีกว่าอย่างนั้นหรอ ?

    ถูกต้อง ดวงของคนเรามันไม่ค่อยกันสักเท่าไหร่ แล้วชั้นเองก็เชื่อในดวงของนายมากกว่าดวงของชั้น ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ให้แผนการของเราสำเร็จลุล่วงไปได้ดีกว่า พรีสไซหรี่ตา ที่จริงเท่าที่ชั้นสังเกตมานายทายหัวเหรียญไม่เคยจะพลาดเลยด้วย และจากการฝึกเดาหัวเหรียญด้วยตัวของชั้นเอง หรือแม้กระทั่งโซลีนแล้ว โอกาสที่จะเดาถูกมีน้อยมากทีเดียวละ

    วาเบ้ปาก ไม่ใช่เพราะความลึกล้ำของความคิดพรีสไซ แต่เป็นความเพี้ยนเสียมากกว่า เรื่องของดวงนี่มันสามารถใช้ตรรกะช่วยในการคาดเดาได้ด้วยหรอ  แล้วพวกนายสองคนมีเวลาว่างมากขนาดนั่งวัดความเป็นไปได้ของโชคตัวเองด้วยรึยังไงกัน  ? แต่จะมานั่งคิดตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้ว ก็เรื่องที่มันดูแปลกกว่านี้เขายังเจอมาแล้วเลยนี่น่ะ

    บางครั้งการได้พบเจอกับเรื่องแปลกประหลาดบ่อยๆก็สามารถทำให้เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปได้  หรือนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า ความเคยชินก็เป็นได้ และหากต้องเจออะไรอย่างเดิมซ้ำๆเรื่อยๆ จากความเคยชินอาจะจะกลายเป็น ความเบื่อหน่ายในที่สุดขึ้นอยู่กับมุมมองความคิดของแต่ละคน ซึ่งสำหรับวาแล้วเขาไม่คิดว่านี่คือ ความเบื่อหน่าย เพราะแม้จะเริ่มเคยชินแต่เขาก็รู้สึกตลก และสนุกทุกครั้งกับเรื่องประหลาดๆที่มักจะเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆ เพราะเขาถือคติว่า โลกใบนี้มันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคนว่าจะหมุนไปตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นหรือไม่

    และแล้วเมื่อกรรมการเรียกตัวแทนของแต่ละโรงเรียนออกไปทอยหัวเหรียญ  วาก็ทอยหัวเหรียญชนะมุซาชิเหมือนเช่นการทายทุกๆครั้ง

    เอจิสมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อพบว่าฝั่งวาเลือกที่จะใช้สิทธิจากการทอยหัวเหรียญชนะให้ฝั่งโรงเรียนไกเซอร์ด้อมเป็นฝ่ายเลือกลำดับคู่แข่งมาก่อน

    แผนการใช้ได้นี่ เอจิสเอ่ยขึ้นมาลอยๆ จ้องมองไปยังพรีสไซที่นั่งกอดอกมองกลับมายังตนจากที่นั่งนักกีฬาฝั่งตรงข้าม แต่ชั้นจะทำให้นายรู้จักกับคำว่า กลยุทธ์ที่แท้จริงเอง  จากนั้นก็เลือกลำดับสมาชิกที่จะทำการลงแข่งทีมตน เมื่อเสร็จแล้วก็ยื่นส่งให้กรรมการด้วยความมั่นใจ

    อย่างที่ชั้นคิดไว้ไม่มีผิด พรีสไซเท้าสะเอวมองดูลำดับรายชื่อ จากนั้นก็เขียนชื่อสมาชิกลงโดยไม่ต้องคิด

    หลังจากส่งลำดับรายชื่อให้กรรมการ โดยที่วายังไม่ทันจะได้ดูลำดับรายชื่อเลย ไม่นานนักก่อนที่วาจะได้เอ่ยถามถึงลำดับ ก็ได้ยินเสียงกรรมการขานชื่อนักกีฬาคู่แรกขึ้น พร้อมลำดับคู่แข่งและกติกาที่ปรากฏขึ้นบนแป้นอิเล็กทรอนิกด้านข้างสนาม

    การแข่งขันปิงปองระหว่างสถาบันคู่แรกระหว่างนักกีฬาพรีสไซ ทีมแพทริออต จากโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ กรรมการเว้นช่วงให้พรีสไซเดินออกไปยังโต๊ะปิงปอง เสียงเชียร์ดังมาจากนักเรียนหลายคน โดยเฉพาะพวกมิว ซึ่งนำทีมโดยมิวและพิชากิที่ดูจะร้องตะโกนออกนอกหน้านอกตา จนนักเรียนโรงเรียนอื่นต้องหันมามองด้วยความตกใจที่เห็นพิชากิคำรามออกอาการเกินเหตุ หรือคงเพราะไม่เคยพบใครที่คำรามได้ใจขนาดนี้มาก่อนกระมัง  และนักกีฬาเอจิส ทีมโรงเรียนไกเซอร์ด้อม

    ทันทีที่สิ้นเสียงเรียกห้องทั้งห้องคล้ายมีลำโพงขนาดยักษ์มาติดตั้งอยู่ เสียงเชียร์ที่กระหึ่มมากที่สุดเท่าที่วาเคยได้ยินมาดังมาจากรอบๆห้อง คล้ายเวลาที่ราชันย์กำลังจะทำการรบอย่างไงอย่างนั้น นี่หรือศักดิ์ศรีของราชันย์อย่างไกเซอร์ด้อมนับว่าน่าเกรงขามสมคำร่ำลือจริงๆ

    โธ่เว้ย อะไรมันจะเว่อร์ได้ขนาดนี้ เอ๊า ! พวกเราอย่าให้น้อยหน้านะ ได้แต้มเมื่อไหร่เอาให้ห้องสะเทือนไปเลย มิวเรียกกำลังใจเพื่อนๆ เฮ้ นิคนายก็ช่วยหน่อยสิ  นิคเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าถี่ๆ

    เอจิสยิ้มสีหน้าเรียบ ก่อนจะก้าวไปอย่างมั่นคงเผอิญหน้ากับพรีสไซ  

    กลุยทธ์ซุนวูสินะ เอจิสซึ่งเป็นฝ่ายได้เสริฟ์ก่อนเด๊าะลูกเบาๆ ก็เป็นแผนการที่ดีนะ แต่ว่า……. ”

    วามองสกอร์บอร์ดด้วยความประหลาดใจ นี่พรีสไซกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ คู่แรกพรีสไซจับคู่ตัวเองกับเอจิส คู่ที่สองโซลีนกับมุซาชิ และคู่สุดท้ายตัวเขากับทรอนที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดของไกเซอร์ด้อม 

    วานั่งทวนคำพูดของพรีสไซ ถ้าเอาม้าเอกไปสู้กับม้ารอง หมายถึง โซลีนไปสู้กับมุซาชิ แล้วที่บอกว่าเอาม้ารองไปสู้กับม้าลำดับสามของเขา ทำไมถึงไม่ใช่ให้เขาไปสู้กับเอจิสละ หรือจะบอกว่าทรอนเป็นม้าลำดับสาม ซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็หมายความได้อย่างเดียวก็คือ พรีสไซกำลังจะสื่อว่า เขาเป็นม้าลำดับสามของทีม ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะแปลว่า เอจิสเป็นม้าเอกของทีมซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้

    อะไรกันเท่าที่ผ่านมาเราคิดว่าเรามีฝีมือมากกว่าพรีสไซไม่ใช่หรอ แล้วนี่มันอะไรกัน ?

    แต่ไม่มีเวลาให้วาครุ่นคิด เพราะตอนนี้พรีสไซกับเอจิสกำลังเผอิญหน้ากันแล้ว วาคงทำได้เพียงแค่เอาใจช่วยพรีสไซให้ชนะให้ได้ เพราะถ้าแพ้นั่นหมายความว่าเขาจะต้องสู้กับทรอนแน่นอน  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานหินสำหรับเขาเลยทีเดียว

    และเมื่อวาชำเลืองมองไปทางที่นั่งนักกีฬาฝั่งไกเซอร์ด้อมก็พบว่าทรอนนั่งปิดตานิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีทั้งรังสีกดดันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่นั่นแหละที่วาคิดว่าน่ากลัวที่สุด เพราะความน่ากลัวที่สุดก็คือ การที่รู้สึกกลัวเมื่อมันสายไปเสียแล้วนั่นเอง

    เมื่อนักกีฬาทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วให้เริ่มการแข่งได้ ! เสียงกรรมการประกาศพร้อมด้วยเสียงออดเริ่มการแข่ง

    ทันใดนั้นพรีสไซจ้องขวับไปยังเอจิส ซึ่งกล่าวประโยคค้างไว้อยู่

    แต่ว่า………… ” จากนั้นโยนลูกขึ้นฟ้า ลูกปิงปองลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะร่วงลงมา พร้อมกันนั้นลูกเสิร์ฟสปินอันทรงพลังก็ถูกส่งออกไปอย่างน่าเกรงขาม ทีมของชั้นไม่มีม้ารองหรือม้าลำดับสามทั้งนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าทีมของชั้น พวกชั้นก็คือ ม้าเอกทุกตัว และพวกนายก็คือม้าลำดับสามทุกตัว !!!

    พรีสไซไม่มีเวลาโต้ตอบเพราะลูกเสิร์ฟนั้นรุนแรงเกินไป เขาต้องเพ่งสมาธิทั้งหมดออกไปเพื่อปรับหน้าไม้ให้รับแรงสปินให้ได้ นอกจากนั้นยังต้องหามุมตกของโต๊ะและแรงที่จะสวนกลับด้วย ไม่เช่นนั้นแม้จะรับได้ก็ต้องโดนตบกลับมาด้วยลูกสปินอีก

    ความคิดทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในหัวของพรีสไซก่อนที่เขาจะตัดสินใจตวัดไม้ออกด้วยท่ารับแบบมาตรฐานที่สุด

    ลูกสปินความแรงสูงที่ความแรงไม่น่าจะต่างกับลูกสปินของคิง สตั้นเลยแม้แต่น้อยถูกพรีสไซสวนกลับได้ด้วยเวลาอันสั้น

    วาที่นั่งชมดูอยู่ถึงกับตะลึง เพราะการโต้กลับของพรีสไซนั้นเป็นการตวัดไม้ในช่วงจังหวะที่กระชั้นชิดที่สุด หากช้าไปกว่านั้นลูกจะออกจากรัศมีไม้ที่จะตีโดนได้และจะไม่มีจังหวะได้วิ่งตามไปรับลูกนั้นได้อีก ดูแล้วน่าใจหายเป็นอย่างยิ่ง แต่วาเข้าใจดีว่าถ้าหากนั่นเป็นเรื่องของฝีมือที่ไม่ใช่ความบังเอิญละก็นับว่าพรีสไซยอดเยี่ยมจริงๆ เพราะการจะโต้ลูกแบบนี้ได้ต้องใช้สมาธิสูงมากในการปรับหน้าไม้และกำหนดแรงให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตีออกไป ซึ่งข้อดีของมันก็คือ จะทำให้คู่ต่อคาดเดาทิศทางในการตีได้ยากมาก เพราะเป็นการตีออกในช่วงเวลาที่กระชั้นที่สุด

    เริ่มเกมก็ใช้ออกมาเลยรึ ? ” โซลีนกอดอก Delay Shot ! ’

    ลูกสปินที่ดูธรรมดาลอยข้ามตาข่ายไปอย่างเชื่องช้า แต่วารู้ดีว่านั่นไม่ใช่ลูกสปินธรรมดาแน่ๆเพราะทิศทางของมันไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น แม้มันจะเชื่องช้า แต่ลักษณะการลอยดูเคว้งคว้างจนน่ากลัว เรียกได้ว่าคาดเดาจุดตกของลูกได้ตายมากเลยทีเดียว

    ที่ผ่านมาแม้เขาจะเคยซ้อมมือกับพรีสไซด้วยกันบ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยเห็นการสวนกลับแบบนี้ของพรีสไซเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันหมายความว่ายังไงกัน เป็นเพราะโชคช่วยใช่ไหม ?

    ไม่เลวนิ สวนกลับลูกสปินของชั้นได้ในเวลาอันสั้นแบบนั้น แต่ว่ากลยุทธ์ของนายมันมองง่ายไปหน่อยนะ เอจิสยิ้ม จากนั้นก้มตัวต่ำนำมือทั้งสองข้างซุกไว้ใต้โต๊ะ สร้างความประหลาดใจให้แก่วาอีกครั้ง  ลูกสปินจับทิศทางได้ยากของพรีสไซลอยมาตกยังฝั่งซ้ายมือของเอจิส แต่ด้วยท่าตั้งรับของเอจิสดูไม่ออกเลยจริงๆว่าจะสามารถรับลุกสปินที่น่ากลัวเช่นนั้นได้อย่างไรกัน

    พรีสไซที่เห็นท่าตั้งรับของเอจิสก็เหงื่อตกทันที เจ้าหมอนี่ !

    การที่เอจิสซุกมือไว้ใต้โต๊ะนั่นก็แสดงว่าต้องการจะบิดบังทิศทางในการโต้กลับของตนเช่นเดียวกับพรีสไซที่โต้กลับภายในพริบตานั่นเอง เพียงแต่การซุกไม้ไว้ใต้โต๊ะนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะหากเจอตบด้วยลูกเร็วๆหรือโดนโยกขึ้นมาการโต้กลับจะทำได้ช้ามาก หรืออาจจะไม่ทันก็ได้ แต่ข้อดีก็คือ ทำให้คู่ต่อสู้จับทิศทางที่จะตีออก และท่าที่จะตีออกไปไม่ได้ หรือจะรู้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นได้ตีลูกออกไปแล้ว ซึ่งก็จะมีเวลาให้เห็นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ดังนั้นหากสามารถตีลูกออกในชั่วพริบตาได้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่คู่ต่อสูก็ยิ่งจับทางได้น้อยลงเท่านั้น

    ทั้งที่ๆที่อุตส่าห์ใช้การสวนกลับในชั่วพริบตาได้แล้ว กลับโต้กลับมาด้วยลูกที่เชื่องช้าแบบนี้ มันออกจะไร้เหตุผลไปหน่อยนะ เอจิสเหลือบไปมองตาพรีสไซคล้ายอ่านทะลุถึงก้นบึ้งของจิตใจก็ไม่ปาน ไม่น่าเหลือว่าในเวลาเช่นนี้ยังมีเวลาไปมองตาคู่ต่อสู้อีก นับว่ามั่นใจฝีมือของตัวเองดีว่าจะสามารถรับลูกสปินประหลาดๆลูกนี้ได้แน่นอน

    ที่นายจงใจเสียโอกาสตบลูกในชั่วพริบตานั้น แล้วโต้กลับมาด้วยลูกที่ช้าแบบนี้ไม่ใช่เพราะนายต้องการจะเอาแต้มจากชั้นหรอก แต่เพราะนายกะจะให้ชั้นสวนกลับด้วยลูกตบ เพื่อที่นายจะได้ตบกลับใช่ไหมละ เพราะนายไม่กล้าเสี่ยงที่จะตบลูกนั้นออกมาตั้งแต่แรก แต่ต้องการจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการทำแต้มให้ได้มากที่สุดสินะ เพราะถ้าโดนชั้นสวนกลับได้นายก็จบเหมือนกัน แต่ถ้าเจอแบบนี้นายไม่มีอ่านทางของชั้นได้หรอก !!! วาแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ที่เอจิสพูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าไร้เหตุผล แต่มันคือ การอ่านแผนของพรีสไซได้อย่างทะลุปรุโปร่ง  การที่พรีสไซยอมเสียโอกาสตบลูกในชั่วพริบตาไปนั้นก็เพราะเขากลัวว่าหากเอจิสสามารถตบกลับมาได้ เขาจะไม่สามารถรับลูกได้ทัน เพราะท่าในการตีออกแบบนั้นจะผู้ใช้ออกเสียจังหวะในการโต้กลับไปจังหวะหนึ่ง และเขาก็ไม่มั่นใจในพลังของลูกตบตัวเองเท่าไหร่นัก เขาจึงใช้ลูกที่เชื่องช้าออกเพื่อจะได้เห็นทิศทางในการตั้งไม้ของเอจิสเพื่อจะได้ตบกลับเอาแต้มในลูกต่อไป  แต่คาดไม่ถึงว่าเอจิสกลับดักทางถูก

    แต้มแรกชั้นขอก่อนละนะ ! พริบตานั้นเองที่ลูกดีเลย์ช็อตตกลง ไม้ปิงปองที่ซุกอยู่ใต้โต๊ะก็ตวัดขึ้นราวกับภูตผีส่งลูกตบความเร็วสูงเป็นเส้นตรงไปยังมุมซ้ายมือของพรีสไซที่เป็นมุมที่เขาเพิ่งจะตีลูกออกไปนั่นเอง เรียกว่าเป็นการสวนกลับไปยังจุดที่คู่ต่อสู้เพิ่งตีออกมา เพราะส่วนใหญ่คู่ต่อสู้มักจะคิดว่าตนจะถูกโยกไปอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นบางครั้งจึงลืมป้องกันจุดที่ตนเองเพิ่งตีออกมา แล้วด้วยนิสัยอย่างพรีสไซด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังด้านที่ตนเองอ่อนการป้องกันเสียด้วย ช่างกลยุทธ์ทางจิตที่น่ากลัวจริงๆ

    เอจิสชายผู้ได้รับฉายาว่าไร้กลยุทธ์คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ วาถึงกับรู้สึกดีใจที่ตนเองไม่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้แต่เขาก็ยังนึกดีใจอีกมากกว่าที่ว่า…………

    1 – 0 เสียงกรรมการประกาศคะแนนลั่น อับดุล อินเตอร์ได้แต้ม !!!

    ทั้งห้องเงียบกริบ เพราะกำลังตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก่อนที่มิวจะส่งเสียงโห่ร้องเป็นคนแรก พร้อมด้วยพิชากิจากนั้นทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงเชียร์

    ฮ่าๆๆๆ เอจิสหัวเราะร่า สนุกจริงๆ ไม่น่าเชื่อๆ

    ย้อนกลับไปเมื่อเสี้ยววินาทีเมื่อครู่นี้ วายังจำได้แม่นยำ ขณะที่เอจิสชักไม้ตบออกมานั้น ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พรีสไซตวัดไม้ตบลูกกลับไปเช่นกัน มันเป็นการสวนกลับในเสี้ยววินาที ซึ่งต้องมีการคาดเดาทิศทางที่คู่ต่อสู้จะเอาตีไว้ตั้งแต่แรกแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ !

    พรีสไซขยับแว่นยิ้มมุมปาก ความจริงทั้งหมดที่เอจิสกล่าวล้วนถูกต้องทั้งหมด ผิดแต่ตอนท้ายเพราะจุดประสงค์ที่เขาใช้ลูกที่เชื่องช้าแบบนั้นเพื่อต้องการให้เอจิสตบกลับ แต่เขาก็ได้เดาจุดที่เอจิสจะตบกลับไว้เรียบร้อยแล้ว หรือจะได้เรียกได้ว่าเป็นการเดิมพันแต้มต่อการคาดเดาของตัวเองไว้นั่นเอง ดังนั้นการที่เอจิสซุกมือไว้ใต้โต๊ะจึงไม่มีผลต่อการเล่นเลยแม้แต่น้อย

    เอาละ มาเล่นเกมเดาใจกันต่อเถอะ คุณม้าลำดับที่สาม พรีสไซเป่าลมออกปาก พร้อมย่อตัวลง

    วาจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ต้องมาเจอกับพรีสไซในตอนนี้  พรีสไซที่แท้ตัวตนที่แท้จริงของนายเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือ ?

     

     

    _______________________________________

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×