ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #48 : บทที่ 6 New Bangkok

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8
      0
      23 ก.ย. 61

    บทที่ 6 
    New Bangkok




         น้ำทะเล ท่วมสูงบริเวณที่ราบลุ่ม บ้านเรือนมากมายจมอยู่ใต้น้ำ เมืองหลวงเก่าเหมือนจะจบสิ้นลง ทว่าเป็นเพราะความยึดติดหรือเป็นเพราะการปรับตัว ที่พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่บนพื้นที่ที่เคยอาศัย 

         บ้านเรือนที่จมน้ำไปนั้นหลายหลังได้ถูกต่อเติมขึ้นไปเพื่อหนีระดับน้ำ คล้ายกับเมืองเวนิสในประเทศอิตาลี 

         แต่ส่วนที่อยู่ทางตอนเหนือนั้นต่างออกไป บริเวณนี้สามารถป้องกันน้ำได้ทัน บ้านเรือนจึงไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำ แต่ก็ต้องแลกกับการอยู่ท่ามกลางสันเขื่อนกั้นน้ำที่สูงพอๆ กับบ้านสองชั้น ส่วนนี้คือส่วนที่เรียกว่าบางกอกใหม่ ทางตอนเหนือขึ้นไปอีกจะพบว่ามีการขยายตัวเมืองออกไปเรื่อยๆ ทั้งอาคารสูง ทางรถไฟ ถนน

         ในอดีตที่เคยเป็นปากแม่น้ำซึ่งออกสู่อ่าวไทย ปัจจุบันได้กลายเป็นแนวเขื่อนที่กว้างใหญ่ทอดยาวตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกจรดชายฝั่งตะวันออกรวมร้อยกว่ากิโลเมตร สูงสี่สิบเมตรมีประตูขนาดใหญ่ตลอดแนวระยะห่างเท่าๆกัน ดั่งปราการที่คอยกันคลื่นลมรวมถึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้นไปโดยปริยาย เขื่อนนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปเสียแล้ว

         ในปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตามแนวเขื่อน แรงงานจากหลายสาขาวิชาชีพของราชอาณาจักรมาทำงานที่เขื่อนแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มแรกจนตอนนี้ก็เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทว่าก็ยังต้องมีการดูแลบำรุงรักษาต่อไปอีก

         เป็นที่น่าแปลกสำหรับทุกคนเว้นแต่ทางทหารที่ได้นำป้อมปืนใหญ่ซึ่งหมุนได้มาติดตั้งบนสันเขื่อนแห่งนี้ตลอดแนว หลายคนในรัฐสภาคัดค้าน ทว่าปืนใหญ่ก็ได้ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนที่ทำงานที่เขื่อนและคนทั่วไป

         และเป็นเรื่องปกติในช่วงหลังสงครามที่ตัวเมืองจะต้องมีเขตทหารตั้งอยู่ใกล้ๆ ทว่าเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ต่างออกไปตรงที่ที่ด้านนอกแนวเขื่อนเป็นส่วนที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ 


         "Cola นี่จาก Romeo 9-0 เราอยู่ที่รั้วด้านนอกคฤหาสน์ เห็นเราไหม"

         "มองเห็นแล้ว รอบๆ คฤหาสน์ทางสะดวก" ทีมโคล่าสื่อสารผ่านวิทยุทางไกล

         โดรนบินอยู่เหนือคฤหาสน์ซึ่งอยู่ในเมืองบางกอกใหม่ ย่านที่กำลังปฏิบัติการนี้เป็นย่านที่พักอาศัยของคนที่มีฐานะสูง พื้นที่ของบ้านแต่ละหลังมีบริเวณกว้าง ทั้งนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง นักธุระกิจ และดาราที่มีชื่อเสียงต่างก็อาศัยในย่านนี้

         "Juliet 9-0 ประจำตำแหน่งแล้ว" รถบรรทุกติดป้ายบริษัทรับส่งพัสดุเข้ามาจอดที่หน้าประตูหน้าบานใหญ่

         "จาก R-03 Bravo 6 มีอะไรอยากแนะนำไหมครับ" ทีมโรมิโอคนหนึ่งกล่าว

         "มีสิ" หัวหน้าทีมบราโว่กล่าวผ่านไมโครโฟนของโคล่า "อย่าถามหาคำแนะนำในระหว่างปฏิบัติภารกิจ"

         "รับทราบครับ"


         ก่อนหน้าไม่ถึงชั่วโมง ทีมบราโว่และโคล่า ต่างได้รับมอบหมายภารกิจใหม่พร้อมกับสัญญาการเก็บความลับแนบมาอีกหนึ่งฉบับ พวกเขาเคยเซ็นไปแล้วหนึ่งฉบับตอนที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหน่วยรบพิเศษ ตอนนี้พวกเขาต้องเซ็นอีกหนึ่งฉบับ นั่นหมายความว่า การรักษาความลับที่มากขึ้น รวมถึงโทษที่หนักขึ้นหากแพร่งพรายออกไป

         แต่ที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือ การที่ต้องทำงานร่วมกับหน่วยที่ทุกคนอายุยังไม่ถึงเลขสองตอนปลายด้วยซ้ำ อย่างทีมโรมิโอและจูเลียต ทว่าชื่อของสองหน่วยนี้ก็มีประวัติและผลงานที่ยาวนานมากนับแต่ต้นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเป็นต้นมา ภารกิจของพวกเขานั้นมีคนมากมายที่อยากทำ แต่เนื่องจากเหตุผลเฉพาะบางอย่างที่ต้องเป็นคนที่อายุยังไม่เกินเกณฑ์เท่านั้น นั่นนับเป็นเรื่องที่โหดร้ายที่พวกเขาต้องเห็นกลไกของโลกก่อนวัยอันควร

         กิ๊ง....ก่อง

         "พัสดุมาส่งค่ะ" จูเลียตคนหนึ่งในชุดพนักงานส่งพัสดุยืนถือกล่องใบหนึ่งที่หน้าประตู

         ระหว่างที่รอประตูเปิด เธอก็พยายามสังเกตกล้องวงจรปิดไปด้วย

         กิ๊ง....ก่อง

         เธอกดออดไปอีกครั้งหนึ่ง

         "ข้างในเงียบมาก" โรมิโอ 03 กล่าว "01 เข้าเลยไหม ขี้เกียจรอแล้ว"

         "Cola เราจะเข้าไปแล้ว"

         "รับทราบ เข้าได้เลย"

         ทีมโรมิโอส่งคนแรกข้ามกำแพงรั้วเข้าไปข้างใน เขาคุกเข่าลงใกล้กับกำแพงและสอดส่องดูรอบๆ จนกระทั่งคนที่ห้าของทีมข้ามกำแพงลงมา พวกเขาจึงเคลื่อนที่เข้าประชิดคฤหาสน์ และเข้าไปข้างในโดยประตูหลัง

         โคล่าเจาะระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปเพื่อเปิดประตูให้จูเลียต โดยกล้องวงจรปิดทั้งหมดถูกตัดสัญญาณไปก่อนหน้านี้แล้ว

         รถบรรทุกสี่ล้อขับเข้ามาภายในคฤหาสน์ เมื่อเปิดประตูหลังออก จูเลียตอีกสองคนกระโดดลงมาพร้อมปืนกลมือแบบ MP5 หญิงสาวในชุดพนักงานส่งพัสดุเองก็เปิดกล่องหยิบปืนกลมือแบบเดียวกันขึ้นมา เธอดึงพานท้ายปืนให้ยืดออกแนบเข้ากับช่วงไหล่

         จูเลียตทั้งสามคนเข้าทางประตูหน้า ก็พบกับโรมิโอคนหนึ่งที่เข้ามาก่อน โรมิโออีกสี่คนขึ้นบันไดสู่ชั้นสองอย่างรวดเร็ว 

         ที่ห้องรับแขกชั้นล่าง มีร่างของชายในชุดสูทสีดำหลายคนนอนกองกับพื้น เลือดไหลนองเต็มพื้นห้อง จูเลียตเข้าตรวจสอบในทันที

         "ไม่นานมากนัก เลือดยังไม่แห้งดี" 

         "รอยกระสุน และปลอกกระสุน 5.56x45 มิล" โรมิโอกล่าว

         "ชั้นล่างเคลีย" จูเลียตรายงาน

         ที่ชั้นสองโรมิโอไล่ตรวจสอบทีละห้องจนกระทั่งถึงห้องนอนใหญ่ โรมิโอสองคนเข้าไปในห้องพบว่ามีร่องรอยการยิงต่อสู้แต่ไม่พบใครในนี้ พวกเขาตรวจสอบห้องน้ำภายในก็ไม่พบ จึงลองเปิดประตูตู้เสื้อผ้า

         ฟุบ!

         ตรงหน้าคือโรมิโออีกสองคนที่เข้าตรวจสอบห้องข้างๆ กัน ที่ตรงกลางระหว่างพวกเขามีร่างของชายวัยกลางคนนอนจมกองเลือด ในมือของเขายังกำปืนพกที่ตัวเลื่อนค้างหรือก็คือยิงจนกระสุนหมด บาดแผลเป็นรอยของแหลมคมแทงเข้าที่ด้านหลังทะลุออกด้านหน้า

         พวกเขาถ่ายใบหน้าของชายคนดังกล่าวให้แก่โคล่า

         "ชั้นบนเคลีย"




    ณ อาคารอเนกประสงค์ ในเขตทหารใกล้กับเขตที่แปด

         "พวกมันคงออกไปตอนที่เรากำลังขออนุญาตนำโดรนเข้าไปในพื้นที่" โคล่ากล่าว

         "บอกแล้วให้เอาเข้าไปเลยค่อยขอทีหลัง" ลูกทีมบราโว่กล่าว

         "ไม่ได้หรอกนั่นมันเขตห้ามใช้โดรน ฝ่ายความมั่นคงกำหนดเอง ขืนไม่ขอโดนสอยร่วงแน่" หัวหน้าทีมบราโว่กล่าว "ว่าแต่ ในรูปนั่นใช่อย่างที่เราคิดไหม"

         "ไม่ต้องเข้าโปรแกรมวิเคาระห์ก็จำได้แล้วหล่ะ เป็นเจ้าบ้านแน่นอนครับ" ทีมโคล่ายืนยัน

         "บ้านของรัฐมนตรีมหาดไทย" ลูกทีมบราโว่กล่าว 

         "สั่งให้ Romeo and Juliet ออกมา" หัวหน้าทีมบราโว่สั่ง "แจ้งหน่วยเหนือด้วย ไม่รู้ว่านักข่าวจะได้กลิ่นไวแค่ไหน" 



         ในห้องที่ควบคุมตัวฟิโร วิเวียนนั่งอยู่ที่ข้างเตียงและกุมมือของเขาไว้ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้สายรัดที่พันธนาการเขาไว้ได้ถูกปลดออกหมดแล้ว คิระและวาเลนไทน์ก็อยู่ภายในห้องด้วย ในระหว่างที่รอฟิโรพักฟื้น จึงสอบถามวิเวียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

         "ฉันไม่ทันได้ระวังตัว เพราะเห็นเธอเป็นเพียงแค่หญิงสาวธรรมดา" วิเวียนกล่าว "เธอใช้มนตร์สะกดใส่ฟิโร ทำให้เขาหลงใหล"

         "เจ้าไม่รู้จริงหรือ น่าแปลก" วาเลนไทน์ถาม

         "ฉันคิดว่า เป็นเพราะได้เลือกที่จะเป็นมนุษย์ การรับรู้จึงถูกปิดกั้น"

         "ไม่หรอก" คิระขัด วิเวียนและวาเลนไทน์ต่างหันมองไปที่เขา "เป็นเพราะจิตใจของเจ้าเอง เจ้ารู้ดีอยู่แล้วว่าเขาเป็นลูกครึ่งที่มีเสน่ห์มาก"

         "หืม หมายความว่าอย่างไร" วาเลนไทน์ถาม

         "เจ้ามองเห็นความรักใช่ไหม แต่ข้าเห็นสิ่งอื่น และในจิตใจของวิเวียนมิอาจเก็บซ่อนมันได้" คิระมองไปที่วิเวียน "หญิงสาวหลายคนหลงใหลในตัวฟิโร ซึ่งเจ้าเป็นผู้ติดตามมาโดยตลอด"

         คิระกางฝ่ามือออกตรงหน้า แม้ว่าวิเวียนจะสวมหน้ากากและใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แต่ก็ไม่อาจกลบความประหลาดใจของเธอได้ ควันสีดำจางๆ ลอยออกจากร่างของวิเวียนและถูกดูดกลืนเข้าไปในฝ่ามือของคิระ 

         "อ่า ความน้อยใจ หึงหวง นั่นต่างหากที่บังตาของเจ้า" คิระหุบมือ "ค่อยมีพลังขึ้นหน่อย"

         แต่แล้วคิระก็ต้องหน้าซีดเผือด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวาเลนไทน์จับจ้องเขาอยู่ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นคิระใช้พลังแบบอื่นนอกจากต่อสู้ ทว่าวาเลนไทน์ไม่ได้ถามอะไรคิระแม้จะประหลาดใจต่อพลังของเขาก็ตาม

         เมื่อวิเวียนได้ฟังคำตอบของคิระ เธอก็หลบหน้าในทันที วาเลนไทน์ที่เห็นดังนั้นก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้จึงไม่ซักไซ้ต่อ

         "นั่นก็เป็นความจริง ความรู้สึกนั่นทำให้ข้าพลาดพลั้ง"

         "ไม่..." ทุกคนภายในห้องหันไปที่เตียง "ไม่ใช่...ความผิดของเธอ"

         "ปล่อยให้รอตั้งนาน" คิระกล่าว

         "ไม่นึกเลย...ว่าฉันจะตกเป็นเป้า" ฟิโรกล่าวด้วยเสียงแผ่ว "วิเวียน..."

         "คะ" เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา

         "ขอโทษ...ที่ผลักไสเธอ...ทั้งๆ ที่เธอ...เตือนแล้ว" วิเวียนส่ายหน้าไปมา เธอไม่ได้กล่าวอะไรไป เพราะเธอกำลังฝืนไม่ให้ร้องไห้ออกมา

         "ขอโทษที่ต้องขัด" คิระกล่าว "แต่เรารออีกไม่ได้แล้ว หากมนตร์ที่ใช้เป็นของเลขาฯคนนั้น มันก็เริ่มจะเป็นหายนะแล้ว"

         "เป็นพลังที่ต่อกรยาก" วาเลนไทน์เสริม 

         "ในห้องทำงานเมื่อเช้า เกิดอะไรขึ้น" คิระถาม

         "อ่า..." ฟิโรหลับตานึกภาพ "เธอสังหารทุกคนภายในห้องนั้น ยกเว้นฉัน"

         ทุกคนต่างตั้งใจฟังสิ่งที่ฟิโรเล่า

         "ยัยนั่นคงต้องการโยนความผิดให้ฉัน...เท่านี้แหละ ที่ฉันพอจะคาดเดาได้" 

         คิระและวาเลนไทน์เดินออกจากห้องในทันที คิระยกโทรศัพท์ที่แนบชิดลำตัวขึ้น

         "ได้ยินแล้วใช่ไหม...พวกเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่ามนุษย์" คิระกล่าว "แน่นอนว่า เธอไม่ใช่ปีศาจทั่วไปแน่"



         ทีมโรมิโอและจูเลียตกระจายตัวกันบริเวณชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าต้นสายในเมืองบางกอกใหม่ เมื่อรถไฟเข้าเทียบชานชาลา โรมิโอและจูเลียตแยกกันขึ้นคนละประตูเพื่อไม่ให้สังเกตได้ว่ามาด้วยกัน ผู้คนที่ใช้งานรถไฟฟ้ามีจำนวนมากเพื่อที่จะเดินทางเข้าเขตเมืองเก่าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุด เนื่องจากเป็นทางยกระดับเหนือผิวถนนที่ถูกน้ำท่วม

         ขบวนรถไฟฟ้าดังกล่าวเคลื่อนที่ไปตามรางและจอดตามสถานี ผู้คนทยอยลงจากขบวนและก็มีคนขึ้นใหม่ จนกระทั่งถึงสถานี E5 โรมิโอและจูเลียตจึงลงจากขบวนและเดินลงจากชานชาลามาหนึ่งชั้นก็จะเป็นส่วนยกระดับที่เชื่อมกับชั้นสองของห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอนนี้กลายเป็นชั้นหลักไปเสียแล้วเนื่องจากระดับน้ำที่สูงจนไม่อาจเปิดทางให้เข้าที่ชั้นล่างได้

         โรมิโอและจูเลียตทำตัวกลมกลืนกับนักท่องเที่ยวเดินผ่านลานกว้างก่อนที่จะเข้าไปที่ประตูห้าง

         "ใจเย็นไว้ทุกคน เราประสานงานไปแล้ว" โรมิโอ 01 กล่าวย้ำ เพราะสมาชิกบางคนเริ่มวิตกกังวลแล้ว

         "ทำให้เนียนไว้" จูเลียต 03 กระชับมือ โรมิโอ 02 แน่นขึ้นพร้อมกับซบไหล่ "ดูหนังเรื่องอะไรดีคะ วันนี้"

         "ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเจ้าหน้าที่สักหน่อย" โรมิโอ 02 กล่าวเสียงแผ่ว 

         พนักงานที่รักษาความปลอดภัยในวันนี้เป็นทหาร เพราะยกระดับให้เข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในเขตที่เจ็ด

         ตี๊ด!

         "ขอตรวจกระเป๋าด้วยครับ" เจ้าหน้าที่ทหารทำการตรวจกระเป๋าสะพายของลูกค้าก่อนหน้าพวกเขา เจ้าหน้าที่หญิงสาวใช้เครื่องตรวจโลหะไล่ไปตามร่างกายอีกรอบหนึ่ง "ผ่านได้ครับ"

         เมื่อถึงรอบของ โรมิโอ 01 เขาเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะที่เป็นซุ้มประตูเข้าไป ตี๊ดๆๆๆๆ! เสียงสัญญาณก็ดังถี่ยิบ

         "ขอตรวจกระเป๋าด้วยครับ" เจ้าหน้าที่ทหารที่ถือปืนเฝ้าอยู่โดยรอบปลดห้ามไกปืน 

         "พวกเรามีเก้าคน" โรมิโอ 01 กระซิบบอกเจ้าหน้าที่

         เจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจร่างกายจ้องมองหน้าเขา และเริ่มคลำตามจุดที่สามารถเก็บซ่อนอาวุธได้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบบางอย่างที่ข้างเอวของเขา จึงเปิดชายเสื้อขึ้นดูเล็กน้อย ก็พบปืนพกกึ่งอัตโนมัติในซองปืน และมีดใบตายหนึ่งเล่ม

         "ผ่านได้ครับ" เจ้าหน้าที่ทหารปิดชายเสื้อลงและเรียกคนต่อไปให้ผ่านซุ้มประตูเข้ามา

         โรมิโอและจูเลียตที่เหลือ เจ้าหน้าที่ก็ตรวจพบคล้ายกัน แต่ก็อนุญาตให้ผ่านเข้ามาจนครบเก้าคน ทั้งหมดยังคงเดินแยกจากกันโดยสื่อสารผ่านวิยุขนาดเล็ก

         "อีกสามสิบนาทีจะถึงเวลา เตรียมตัวให้พร้อม" หัวหน้าทีมบราโว่แจ้งเตือน "เราจะส่งรูปเป้าหมายไปให้ อย่าเข้าใกล้เธอเด็ดขาด หลีกเลี่ยงการสบตาด้วย"

         "รับทราบ แค่เก็บข้อมูลผู้ที่มานัดพบ"



         เมื่อถึงเวลาที่ได้นัดหมาย ร้านกาแฟที่อยู่ชั้นบนของห้างสรรพสินค้ามีลูกค้าใช้บริการไม่มากนัก เป้าหมาจึงโดดเด่น สังเกตได้ง่าย โรมิโอและจูเลียตบางส่วนอยู่ภายในร้านเดียวกับเป้าหมาย อีกส่วนจะอยู่โดยรอบ ทำตัวให้กลมกลืน

         ชายวัยกลางคนสามคนเดินออกมาจากลิฟต์โดยมีผู้ติดตามเดินประกบทั้งสองข้าง แค่เห็นก็รู้แล้วว่า เป็นผู้ที่มีอิทธิพลพอควร พวกเขาตรงเข้ามาในร้านกาแฟทันทีและมองหาผู้ที่นัดหมาย

         "ได้ภาพแล้ว ที่เหลือก็คือหัวข้อสนทนา" โรมิโอ 01 ที่อยู่นอกร้านกาแฟรายงานอย่างแนบเนียน

         "Cola วิเคราะห์แล้ว เป็นสมาชิกสภาล่างทั้งสามคน ฝ่ายค้าน...โอ้ ข้อมูลน่าสนใจ" โคล่าอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของทั้งสามคน "มักต่อต้านผู้ปกครองทั้งสามเขตทุกครั้ง เพราะช่วงเลือกตั้ง เกรบชนะ ไม่ใช่คนของพวกเขา"

         "แล้วมันมาคุยเรื่องอะไรกันที่นี่นะ" หัวหน้าทีมบราโว่กล่าวอย่างสนใจ

         ผู้ติดตามของสมาชิกสภาล่างทั้งสาม เข้านั่งตามโต๊ะล้อมรอบ โต๊ะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อน สมาชิกทั้งสามนั่งลงที่โต๊ะดังกล่าว ประจัญหน้าหญิงสาวในชุดเดรสทางการ 

         เธอนั่งมองพวกเขาสลับไปมาด้วยสายตาอันเย็นเยือกจนอีกฝ่ายเริ่มอึดอัด 

         "เธอทำงานไม่สำเร็จ" ชายคนหนึ่งในสามคนกล่าว

         โรมิโอ 02 และจูเลียต 03 ที่นั่งห่างออกมาไม่มากนักใช้อุปกรณ์พิเศษในการขยายเสียงและบันทึกมัน 

         "คิดอย่างนั้นหรือ" หญิงสาวกล่าว "ท่านรัฐมนตรีอุตส่าห์ให้ความไว้วางใจแก่ฉัน"

         "โอกาสมีไม่มากแล้ว เราให้สิ่งที่เธอต้องการ เพราะฉะนั้นไปจัดการงานของเธอให้เรียบร้อย ไม่มีครั้งหน้าอีกจนกว่างานจะเสร็จ"

         "แน่นอนค่ะ ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว" เธอยิ้มหวาน

         ชายทั้งสามลุกออกจากโต๊ะของเป้าหมายพร้อมกับผู้ติดตามคนอื่นๆ พวกเขากลับออกไปในเส้นทางเดิม โรมิโอและจูเลียตรอบนอกติดตามพวกเขาต่อไป

         เมื่อลงมาถึงชั้นสองบริเวณลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้า สมาชิกสภาล่างคนหนึ่งแยกตัวออกไปเข้าห้องน้ำ อีกสองคนเดินลงบันไดลงไปอีกชั้นหนึ่งซึ่งเป็นท่าเรือเล็กๆ ใต้สถานีรถไฟฟ้า 

         ซ่า! 

         นักประดาน้ำจำนวนหนึ่งกระโจนขึ้นมาจากน้ำ ดึงตัวผู้ติดตามและสมาชิกสภาล่างสองคนลงไปในน้ำ ตูม! ไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องพวกเขาก็ลงมาอยู่ใต้น้ำเรียบร้อย เมื่อกรีดร้องก็ไม่มีใครได้ยินพวกเขาอีก
         
         ใบมีดพุ่งตรงเสียบเข้าที่ลำคอของพวกเขาอย่างแม่นยำ และอีกแผลหนึ่งที่หัวใจ ก่อนจะผละตัวออกแล้วดำหายไปในความมืดใต้น้ำ ปล่อยให้ร่างที่ถูกโจมตีลอยเคว้งท่ามกลางละอองสีแดง

         โรมิโอที่ติดตามมาไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเรือจึงเดินตามลงมา พวกเขาไม่พบใครเลยที่ท่าเรือ และเรือเองก็ยังไม่ไปไหน แล้วเขาก็สังเกตเห็นบางอยางที่อยู่ใต้ผิวน้ำไม่มากนัก

         "นี่มันบ้าไปแล้ว" โรมิโอ 01 เผลอยกมือขึ้นปิดปาก


         สมาชิกสภาล่างอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในห้องน้ำ ในขณะที่เขากำลังทำธุระส่วนตัวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่แบ่งออกเป็นห้องๆ ผู้ติดตามสองคนก็อยู่ภายในห้องน้ำด้วย

         พลั่ก! ผั่วะๆ ตุบ

         ตึง!!

         บางอย่างกระแทกบานประตูที่สมาชิกสภาล่างอยู่อย่างแรง 

         "เฮ้ย! ทำอะไรกันน่ะ" เขาตวาดผู้ติดตาม

         ร่างของผู้ติดตามล้มลงหน้าประตูตรงช่องว่างใต้ประตูพอดิบพอดี ตุบ! สมาชิกสภาล่างเห็นดังนั้นก็ตกใจสุดขีด 

         แกร๊ก

         กลอนประตูถูกปลดล็อก บานประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายในชุดพลเรือนถือกระดาษนิตยสาร พับเป็นรูปทรงกรวยแหลม เปื้อนคราบเลือด สมาชิกสภาล่างเห็นดังนั้นก็ตัวหดลีบทำอะไรไม่ถูก

         ประตูห้องถัดออกไปแง้มเปิดออกอย่างแผ่วเบา ทว่าชายที่ล้มผู้ติดตามก็สังเกตได้ทัน 

         ปุ! ปุ! 

         โรมิโอ 03 ใช้ปืนพกใส่กระบอกเก็บเสียงยิง ทว่าชายคนดังกล่าวหลบไปอีกฝั่งของกำแพงได้ทัน   03 ไล่ตามไป แต่จังหวะที่ถึงมุมกำแพงชายดังกล่าวก็โจมตีกลับจนปืนของ 03 กระเด็นหลุดจากมือ โรมิโอ 04 เข้ามาในห้องน้ำและล็อกประตูในทันที เขาพบว่า 03 และชายอีกคนกำลังต่อสู้กันในระยะประชิด ไม่สามารถใช้ปืนยิงได้ เขาจึงได้แต่ยืนเล็งหาจังหวะ 

         โรมิโอ 03 และชายอีกคน ผลัดกันโจมตีและตั้งอย่างดุเดือด

         "ยิงมัน!" 03 ตีเข่าแต่ฝั่งตรงข้ามใช้ท่อนแขนกัน เขาจึงถีบออกไป

         ในจังหวะนั้น อีกฝั่งก็พุ่งตัวเข้าประชิด 03 อีก เขาคว้าตัว 03 ไว้ได้และจับเขาเป็นกำบังเคลื่อนที่เข้าหาโรมิโอ 04 และโจมตีจนปืนหลุดออกจากมืออีกคนหนึ่ง 03 ดิ้นหลุดออกมาได้ก็ถีบร่างของชายที่จับตัว 04 กระแทกเข้าที่ขอบอ่างล้างมือ ทั้งสามเตะต่อยกันไปมารอให้อีกฝ่ายเสียจังหวะหรืออ่อนล้าลง

         แม้ว่าจะสู้แบบสองรุมหนึ่งแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีอ่อนล้าแต่อย่างใด กลับเป็นฝ่ายโรมิโอที่เริ่มอ่อนแรง

         โรมิโอทั้งสอง วิ่งโถมเข้าโจมตีอีกฝ่ายและดึงมีดขึ้นแทงเข้าไปตามร่างของชาย

         "อ้าก!" เขาร้องด้วยความเจ็บปวดและสบัดตัวโรมิโอกระเด็นออกไป

         ชายดังกล่าวดึงมีดที่เสียบอยู่ที่ร่างของเขาออกมาและใช้มันเป็นอาวุธแทน 04 ที่กระเด็นออกมาสังเกตเห็นปืนของเขาพอดีจึงรีบไปคว้ามา ชายดังกล่าวปามีดได้อย่างแม่นยำโดนกระบอกปืนไถลไกลออกไป 

         โรมิโอ 04 รีบตะกายตามปืนที่กระเด็นออกไป ทำให้ชายดังกล่าวได้โอกาสเข้าไปใกล้

         โรมิโอ 03 สกัดขาชายผู้นั้นล้มลงและเข้าล็อกคอในทันที แต่ด้วยร่างกายที่มีขนาดต่างกัน 03 จึงไม่อาจหยุดเขาได้ทันทีและโดนต่อยกลับอย่างแรง ทว่า 03 ก็ยังไม่ยอมปล่อย

         โรมิโอ 04 เห็นว่าไม่สามารถคว้าปืนได้ทัน จึงกลับเข้าไปช่วยเพื่อนของเขา แล้วใช้มีดของ 03 แทงเข้าที่หลังของชายดังกล่าวหลายครั้ง จนอีกฝ่ายเริ่มอ่อนแรง   03 พลิกตัวเองดึงร่างชายให้หงายขึ้น 04  จึงใช้มีแทงเข้าที่หัวใจเป็นครั้งสุดท้าย ฉึก!   

         ร่าของชายนอนแน่นิ่งไปโดยไร้การขัดขืน  03 ดันตัวเองออกจากร่างของชายดังกล่าวที่ทับตัวเขาแล้วเดินไปหยิบปืนทั้งสองกระบอกขึ้นมา  

         ทั้ง 03 และ 04 ตรวจสภาพปืนด้วยอาการเหนื่อยหอบและเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งสมาชิกสภาล่างได้แต่นั่งหลบอยู่ในนั้น

         "Cola ช่วยประสานให้คนมาเอาตัวสมาชิกสภาไปที" โรมิโอ 04 กล่าวผ่านวิทยุสั้นๆ แล้วสูดเอาอากาศเข้าร่างกาย


         ที่ร้านกาแฟ สถานที่นัดหมาย หญิงสาวเป้าหมาย เดินออกจากร้านลงมาที่สถานีรถไฟฟ้า โรมิโอและจูเลียตคนที่เหลือติดตามเธอไปอย่างแนบเนียน เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความปลอดภัยบางส่วนวิ่งลงไปที่ท่าเรือด้วยท่าทีรีบร้อน 

         ในจังหวะนั้นเองโรมิโอ 05 ก็ถึงกับผงะในทันที เมื่อเป้าหมายยืนประจัญหน้ากับเขา

         "ฉันยังไม่ทำอะไรหรอก จนกว่าจะถึงเวลา" หญิงสาวเป้าหมายบอกกล่าวผ่านวิทยุของโรมิโอ

    เมื่อพูดจบ เธอเดินถอยหลังเข้าไปในกลุ่มฝูงชน และปะปนกลมกลืนจนหายไปจากบรอเวณนั้นอย่างรวดเร็ว



         "เธอบอกพวกเราใช่ไหม" โคล่าหันมาถามหัวหน้าทีมบราโว่

         "เออ ยัยนี่ไม่ธรรมดา" หัวหน้าทีมบราโว่กล่าวเสียงเรียบ "ให้โรมิโอและจูเลียตถอนตัว"

         คิระและวาเลนไทน์เข้ามาภายในห้องเดิม ที่อยู่ข้างๆห้องสอบสวน 

         "เป็นไงบ้าง ได้อะไรเพิ่มเติมไหม" คิระถาม

         "เจอพวก ส.ส. สามคน และโดนฆ่าปิดปากไปสอง" 

         "แล้ว เลขาฯ คนนั้นหล่ะ" วาเลนไทน์สงสัย

         "คลาดกันแล้วครับ เธอรู้ตัวอยู่แล้ว"

         คิระเอนตัวลงพิงกับกำแพง และเขาก็อมยิ้ม 

         "เป็นอะไรไป" วาเลนไทน์ถาม

         "สังหรใจ" คิระยืดตัวขึ้น "ข้าคิดว่าอีกไม่นาน บางกอกใหม่อาจจะตกเป็นเป้าโจมตี"

         "ครับ เราก็คาดว่าอย่างนั้น" ลูกทีมบราโว่กล่าว

         "เป็นเป้าโจมตีครั้งสุดท้าย" คิระกล่าวต่อ 

         ทุกคนในห้องสงสัยและรอฟังคำอธิบายจากคิระ

         "ข้ารู้สึกได้ว่าเธอคนนี้มาถึงจุดหมายแล้ว"




         หญิงสาวในชุดเดรสแบบทางการ ขึ้นลำปืนพกแล้วเล็งไปที่ทหารไททันคนหนึ่ง ปังปัง!  ปัง! ร่างของเขาล้มลงกับพื้น ของเหลวสีแดงกระเซ็นไปโดนชุดของเธอบางส่วน เธอโยนปืนกระบอกนั้นให้ไททันอีกคน

         "พลาดในเรื่องที่สำคัญแบบนี้..." เธอกุมศีรษะของตนเอง "ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลา...แต่ชั่งเถอะเราคงไม่ใช้เวลานานนัก"

         "นายหญิง เราผ่านเข้ามาในเมืองได้เรียบร้อยครับ" ไททันคนหนึ่งรายงาน

         "ดี...ทีนี้ก็รอท่านหญิงของเราเท่านั้น" 

         "หึๆๆๆๆ ฮิๆๆๆ"

         หญิงสาวโอบกอดตัวเองพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกที่บ้าคลั่ง

         "ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"


         "เกลซี ผู้นี้พร้อมรับใช้ท่านแล้ว"





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×