ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic][TVXQ YUNJAE] ▧ ▨【WHITE BLOOD】▧ ▧

    ลำดับตอนที่ #3 : [FIC] ▧ ▨【WHITE BLOOD】▧ ▨ Part 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.12K
      6
      4 ธ.ค. 53

     Title :: [FIC] ▧ ▨【WHITE BLOOD】▧ ▨ Part 2
    Story by :: Tachi_Naniki
    Pairing :: YUNHO x JAEJOONG
    Category :: Drama,Romantic comedy,Fantasy
    Rate :: PG - NC 17






    :: PART 2 ::



    “ฮึก... ป๊า ... แจจุงเจ็บ ...” ร่างเล็กร้องโอดครวญเมื่อรู้สึกถึงวัตถุบางอย่างที่น่าจะเป็นเข็มฉีดยาซึ่ง เจาะผ่านผิวเนื้อบริเวณต้นแขน .. แม้ผู้เป็นพ่อจะโอบกอดลูกชายไว้แน่นแต่กลับไม่ได้ช่วยให้เด็กตัวเล็กๆหาย ตื่นกลัว .. แจจุงร้องไห้จ้าหลังจากของเหลวสีชมพูอ่อนภายในสลิ้งถูกผู้เป็นพ่อพยายามกด ดันลงไปจนกระทั่งหายเข้าไปในร่างกายที่สั่นนิดๆเนื่องจากความเจ็บปวด ...

    “ไม่ เป็นไรแล้ว .. ป๊าขอโทษ .. ป๊าทำเพื่อแจจุงนะ ลูก..” ชายหนุ่มเลขสองปลายๆใช้ก้อนสำลีที่หยิบได้จากในกล่องพยาบาลมากดบาดแผลที่ เกิดจากเข็มเอาไว้จนกระทั่งเลือดหยุดไหล ..

    ร่างนุ่มนิ่มกอดคอคุณพ่อไว้แน่นเพราะความมืดยามค่ำคืนที่เริ่มย่างกรายเข้าสู่ห้องอับชื้นแห่งนี้ ..

    หลาย เดือนแล้วที่คุณพ่อกับลูกชายตัวน้อยไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันเพราะถูกจับ ขังอยู่ในห้องอับๆเพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคระบาดร้ายแรงในหมู่ลูกครึ่ง มนุษย์แวมไพร์.... คงต้องโทษตัวเองที่เรียนหมอจนกลายเป็นอัจฉริยะถึงได้ถูกจับตัวมาแบบนี้ แถมลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่เสียแม่ไปตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอยยังต้องมารับ เคราะห์กรรมร่วมด้วย

    อยู่ที่นี่ .. ไม่มีทั้งอิสรภาพและสิทธิที่มนุษย์ควรจะได้รับ ..

    ใน ขณะที่คุณหมอสติเฟื่องนั่งกอดลูกชายตัวเล็กๆหลับอยู่ตรงมุมห้อง .. จู่ๆประตูไม้เก่าๆก็ถูกเปิดออกพร้อมกับลมเย็นๆซึ่งพัดพาเอากลิ่นหิมะเข้ามา ในห้องจนคุณหมอต้องเงยหน้าขึ้นจากลาดไหล่บางของลูกชายที่หลับไปนานแล้วพร้อม กับคราบน้ำตาบนแก้มนิ่ม

    “ยังไม่สำเร็จอีกเหรอ...” เสียงทรงอำนาจของชายที่เปิดประตูเข้ามาเรียกให้คนเป็นพ่อต้องเขย่าปลุกลูกชาย

    “ยัง เลยครับ ... ตัวยาตัวนี้ต้องใช้เวลาหลายปี .. โปรดรอหน่อยเถอะครับ ผมหาวิธีไม่ได้แล้วจริงๆ..” อ้อนวอนอย่างหมดหนทางเพราะไม่สามารถทำตัวยาที่อ้างว่าต้องทำหลายปีได้สำเร็จ .. ได้แต่ถ่วงเวลาให้ลูกชายตัวน้อยเติบโตและได้รับยาต่อต้าน “การกลายพันธุ์” มากพอที่จะหนีรอดออกไปได้โดยไม่กลายเป็นแวมไพร์ไปเสียก่อน ..

    “ก็ได้ .. ฉันให้เวลาแกอีก 5 ปี .. ถ้าทำไม่ได้หรือคิดจะถ่วงเวลาละก็ ... ตาย !” ฝ่ายแวมไพร์เองก็หมดหนทางเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรมนุษย์คุณหมอลูกติดคนนี้... ได้แต่รอและรอจนกระทั่ง ....

    เข็มฉีดยาเข็มสุดท้ายปักเข้าไปในผิวเนื้อขาว .. แจจุงวัย 15 ปีไม่ร้องโอดครวญเหมือนอย่างก่อน แต่ใครจะไปรู้ว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของคุณหมออัจฉริยะซึ่งย่างเข้าสู่วัย 30 ต้นๆ ...

    ทันทีที่บานประตูเปิดออก คุณหมอคิม ชางมินก็จัดการพุ่งตัวเข้าใส่แวมไพร์ที่จับตัวเขากับลูกชายมา

    “แจจุง .. หนีไปซะ ...” ร้องบอกลูกชายที่ยังคงยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ..

    “ฮึก กก .. ป๊า ...” ร่างเล็กวิ่งร้องไห้ไปตลอดทางหลังจากที่คุณพ่อพยายามถ่วงเวลาพวกมนุษย์ชั้น สูงที่เปิดประตูเข้ามาตรวจดูว่ายารักษาโรคคืบหน้าไปถึงไหนแล้วไม่ให้ตามลูก ชายอย่างเขาที่ค่อยๆถูกพายุหิมะภายนอกกลืนหายไปทีละน้อยๆได้ทัน ..

    แจจุงไม่มีโอกาสได้พบกับคุณพ่ออีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น ...
    ไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยซ้ำว่าท่านยังมีชีวิตอยู่หรือไม่... ไม่รู้อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ..

    แต่ สิ่งที่แจจุงรู้นั่นก็คือ ... เข็มฉีดยาที่พ่อบรรจงฉีดให้ทุกวันเป็นยาต่อต้าน “การกลายพันธุ์” ที่คุณพ่อคิดค้นได้ตั้งแต่ถูกจับขังอยู่ในโลกของแวมไพร์ซึ่งให้ผลดีมากถึง 100%...

    บางทีความหวังดีของคุณพ่ออาจกลายเป็นฝันร้ายในอนาคตสำหรับลูกชายก็เป็นไปได้ ...






    ก๊อก ก๊อก ...

    สะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตูกระจก นัยน์ตาสวยตวัดมองสุนัขตัวโตโดยไม่ลืมเงยขึ้นมองผู้เป็นเจ้าของของมัน ด้วย.... ร่างบางยันกายลุกจากโซฟาทันทีที่เห็นว่าใครมา ...

    “อยู่คนเดียวอีกแล้วหรอ?...” แจจุงพยักหน้าแทนการตอบ .. มือนุ่มนิ่มกระชับผ้าผูกคอลายน่ารักเพื่อป้องกันไม่ให้ชายหนุ่มตรงหน้า สังเกตเห็นรอยอะไรบางอย่างที่นานพอสมควรแล้วแต่ร่างกายของแจจุงยังสมานแผล ได้ไม่ดีพอ

    “ไปเดินเล่นด้วยกันมั้ยครับ ... เป็นเพื่อนบ้านกันก็น่าจะทำความรู้จักกันไว้..” คำพูดชักจูงทำให้ร่างเล็กคล้อยตามได้โดยง่าย

    ก็แค่อยากเห็นแสงเดือนแสงตะวันและบรรยากาศภายนอกบ้าง .. แจจุงจึงพยักหน้าตกลงไปโดยไม่ได้คิดถึงคนที่นั่งทำงานอยู่ที่บริษัทเลยสัก นิด ...

    ตื่นตาตื่นใจกับโลกภายนอกได้อย่างเต็มที่เมื่อ ปารค์ ยูชอนไม่ได้แค่เพียงชวนแจจุงไปเดินเล่นรอบหมู่บ้านเท่านั้นแต่ยังชวนไปกิน ข้าวข้างนอกด้วยเป็นของแถม ... แม้ยุนโฮจะสั่งอาหารมนุษย์อย่างดีเข้ามาให้และรสชาติของมันก็ไม่ได้อร่อย น้อยไปกว่าภัตตาคารที่ยูชอนพามาแต่นั่นไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ ... มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่น มีการสังสรรค์กับคนหมู่มากบ้างอะไรบ้างและนี่คือสิ่งที่แจจุงไม่เคยได้รับมาก่อน

    “แจจุงเคยได้ยินเรื่องของมนุษย์กลายพันธุ์มั้ยครับ?...” มือนิ่มที่ถือช้อนอยู่ถึงกับชะงักเมื่อได้ยินสิ่งชีวิตลือชื่อที่กักขังตน เองจนไร้อิสรภาพมาโดยตลอดหลายปี .. แจจุงพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้เมื่อนัยน์ตาคมสีน้ำชาจดจ้องรอฟังคำตอบอย่างใจ เย็น ...

    “มนุษย์อย่างเราเป็นได้แค่อาหารของพวกเขาเท่านั้น .. คิดแล้วมันก็น่าน้อยใจเนอะ ...”

    “??????????”


    คำพูดของยูชอนยังคงก้องอยู่ในหัวสมองเล็กๆ ... แม้จะกลับมาถึงบ้านนานแล้วแต่ร่างบางกลับมัวแต่จมอยู่กับตัวเอง ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้า ได้แต่นั่งเหม่ออยู่บนเตียงนอนจนมืดค่ำโดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครเดินเข้ามาในห้องตั้งนานแล้ว ...


    “อะ??? ...” ร้องอุทานแสดงถึงความตกใจเมื่ออยู่ๆร่างกายบอบบางถูกกดให้นอนราบลงกับเตียง .. รู้สึกเจ็บเนื่องจากน้ำหนักจากเรียวแขนใหญ่ที่กดทับข้อมือขาวบางทั้งสองข้างซึ่งถูกไพล่อยู่เหนือศีรษะกลมจนขยับตัวไปไหนไม่ได้

    “กลิ่นเพื่อนบ้านคนนั้นนี่ ... บอกซิ .. ว่าไปทำอะไรกับมันมา..” เสียงทุ้มดุดันน่ากลัวเสียจนไม่กล้าขัดขืนร่างด้านบน .. แจจุงไม่เคยเห็นยุนโฮในโหมดนี้มาก่อนจึงไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามยังไง ... (คลุมดำเอานะคะ)

    “ยูชอน ... แค่ชวนแจจุงไปเดินเล่นแล้วก็กินข้า... อะ .. อื้อออ ....” คำพูดในตอนท้ายถูกริมฝีปากหยักกลืนหายไป นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างสูงมอบสัมผัสรุ่มร้อนเกินกว่าที่แจจุงจะปรับตัวได้ ทัน ... ลิ้นอุ่นละเมียดชิมความหอมหวานจากกลีบปากบางเป็นการขออนุญาตแล้วจัดการแทรกผ่านตวัดเกี่ยวลิ้นนิ่มไม่ประสีประสาอย่างช่ำชองจนร่างข้างใต้ถึงกับอ่อนระทวยไม่มีแม้แรงขัดขืน ... ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ แจจุงไม่เคยขัดขืนยุนโฮเลยเสียมากกว่า .... ยุนโฮถอดถอนริมฝีปากเว้นช่วงให้คนที่หอบจนตัวโยนได้หายใจหายคอบ้าง .. (อ่านต่อกดคลุมดำค่ะ)

    ผ้า ผูกคอสีหวานถูกฟันคมงับจนเลื่อนหลุดเผยให้เห็นรอยเขี้ยวเล็กๆที่ยังคงไม่หายดี .. ร่างบางเริดหน้าขึ้นตามความเคยชินเมื่อร่างสูงจงใจละเลียดผิวเนื้ออ่อนจน ชุ่มไปด้วยน้ำลาย .. นัยน์ตาสีสวยหลับพริ้มเตรียมรับความเจ็บปวดอย่างที่เคยประสบมาแต่ยุนโฮไม่ ได้ทำอะไรไปมากกว่าการขบผิวเนื้อขาวจนเริ่มเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ

    “อะ .. อื้ออ.. ยุนโฮ ...” ความรู้สึกแปลกๆแล่นลิ้วเข้ามาแทนที่ในทุกๆครั้งที่ร่างสูงขบเม้มสร้างรอยไป ทั่ว .. ฝ่ามือร้อนที่ตัวแจจุงเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายุนโฮสอดเข้ามาลูบไล้ผิวกาย นุ่มนิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่เปลี่ยนหน้าที่มาเป็นถลกเสื้อบางๆขึ้นจนเผยให้เห็น แผงอกขาวกระจ่างล่อสายตา ...

    “แจจุงเป็นของฉัน .... ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาเอาแจจุงไปจากฉันไม่ได้ ... ฉัน ... ฉันหวงแจจุงมากนะ .. ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ ไม่อยากให้ใครมาสัมผัส ...” ...... ฉันจะลบกลิ่นของ ปาร์ค ยูชอน เพื่อนบ้านคนนั้นเอง ...

    “อื้อ .. ยุนโฮ .... แจจุงเป็นของยุนโฮอยู่แล้ว ... ไม่มี ... ไม่ใครแย่งแจจุงไปจากยุนโฮหรอก ... อะ ... ยุนโฮ .. อ๊า” ครางเสียงหวานเมื่อลิ้นร้อนละเลงรอบเม็ดนิ่มที่เริ่มแข็งสู้ลิ้น .. ตลอดทั้งชีวิตไม่เคยมีความรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปทั่วร่างขนาด นี้มาก่อน ... แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นสูงเมื่อริมฝีปากร้อนผละออกจากของหวานบนหน้าอกสวย .... สะดุ้งเฮือกอีกระลอกเพราะเรียวลิ้นชุ่มที่ตวัดลากไล้ต่ำผ่านหน้าท้องขาวบาง แล้วมาหยุดอยู่ตรงส่วนสำคัญที่ไม่เคยมีใครแตะต้องมาก่อน ... มือนิ่มจิกขยำผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมกับปลดปล่อยเสียงครางหวานขาดห้วงอย่าง ห้ามไม่ได้เพราะเมื่อกางเกงและชั้นในตัวจิ๋วถูกถอดโยนทิ้งลงพื้นเบื้องล่าง ..สัมผัสเปียกแฉะบวกกับความร้อนที่กำลังโอบอุ้มท่อนเนื้อเล็กสีชมพู หวานอย่างเอาแต่ใจนั้นช่วยทวีความเสียวให้กับร่างข้างใต้ที่ถึงแม้จะยังมี เสื้อติดกายอยู่บ้างแต่ก็ลุ่ยจวนเจียนจะหลุดเต็มที ...

    “อะ .. อ๊า . ... ยุนโฮ ... ฮึก ... อื้อ.. อ๊า ” สะโพกเล็กกระตุกเกร็งด้วยความซ่านเสียวตามรสแห่งกามรมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น เรื่อยๆจนยากจะฉุดรั้ง .. มือนิ่มกดศีรษะชายหนุ่มอย่างลืมตัวเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังจะ ทะลักออกมา

    “อึก .. ยุน .. แจจุงไม่ไหวแล้ว...อ๊ะ .. อ๊า..” ใบหน้าหวานชื้นเหงื่อแสดงถึงความสุขล้นเมื่อสายน้ำอุ่นถูกฉีดพ่นเข้าไปใน โพรงปากร้อนทุกหยาดหยด ... อกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนักเพื่อรับเอาออกซิเจนเข้าปอด ทว่ายังไม่ทันหายเหนื่อยดีร่างบางก็ต้องรับศึกหนักอีกครั้ง ..

    ยุนโฮ ประคองร่างเล็กๆขึ้นนั่งตักเป็นผลทำให้แจจุงรับรู้ได้ถึงความต้องการของแวม ไพร์หนุ่มเนื่องจากช่องทางร้อนถูกอะไรบางอย่างดุนดันอยู่ ... ร่างสูงปลดซิบและจับส่วนร้อนรุ่มจ่อลงที่ตรงนั้นพร้อมกับหมุนวนเป็นวง กลมอย่างใจเย็น

    “ขอ... เข้าไปได้มั้ย ...” น้ำเสียงทุ้มนุ่มแตกพร่าเนื่องจากแรงอารมณ์ ... ยังไม่ทันได้พยักหน้าอนุญาต ยุนโฮก็กดสะโพกเล็กลงรับบางสิ่งบางอย่างซึ่งจวนเจียนจะระเบิด .. ผนังเนื้อกระตุกรัดโอบแท่งแห่งความเป็นชายที่สอดแทยงเข้าสู่กายบางจนยุนโฮ เองเริ่มรู้สึกปวดแทบปลดปล่อยออกมาในคราเดียว ...

    “เจ็บ ...” ร่างนิ่มอ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนแกร่งซบหน้าลงกับลาดไหล่หนาพร้อมกับอ้าปากงับ เนื้อขาวซีดอย่างต้องการระบายความเจ็บปวด .. ร่างเล็กไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไปเมื่อเจ้าของหน้าตักอุ่นขยับสะโพกสาว ส่วนร้อนเข้าออกอย่างเนิบนาบแฝงด้วยความอ่อนโยน ถึงแม้จะดำเนินบทเพลงรักไปอย่างใจเย็นแต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้ลดลงมากนัก

    “แจ จุง ... ขยับครับ ... ไม่งั้นจะเจ็บนะ..” ยุนโฮพูดอะไรมา แจจุงมักจะเชื่อใจทุกอย่าง ... ร่างเล็กพยายามยกสะโพกขึ้นจนส่วนนั้นของร่างสูงเกือบจะหลุดออกจากช่องทาง ร้อนแล้วทิ้งตัวลงบนหน้าตักอีกครั้ง .. ทำแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนความเจ็บปวดเริ่มจางหายแปรเปลี่ยนเป็นความเสียว ซ่านแทบแตะขอบสวรรค์ ...

    “อ๊ะ ... อ๊า ... อ๊ะ ... ลึก ... อื้อออ..” หลุดคำพูดน่าอายโดยไม่รู้ตัวเมื่อยุนโฮเริ่มทนถนอมร่างเล็กๆที่เริงรักอยู่ บนร่างกายตัวเองไม่ไหวจึงจัดการสวนสะโพกเข้าใส่ชองทางร้อนในจังหวะเดียวกับ ที่แจจุงกดสะโพกลงมาพอดี .. มือใหญ่สาวรูดแท่งเนื้อเล็กซึ่งถูกละเลยมานานเพิ่มความกระสันซ่านให้คนตัว เล็กที่จังหวะการขย่มเริ่มช้าลงเนื่องจากความเหนื่อยอ่อน ...

    “นอน เฉยๆ .. เดี๋ยวฉันทำให้...” ยุนโฮกดไหล่เล็กลงกับเตียงโดยที่ร่างกายยังเชื่อมต่อกันอยู่ .. แจจุงร้องครางหนักในทุกๆครั้งที่ท่อนเนื้อร้อนสอดกระทบโดนจุดกระสันโดย แรงกระแทกกระทั้นของร่างสูงเอง ...

    ผนังร้อนตอดกระชับถี่ขึ้นเรื่อยๆเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่า แจจุงรู้สึกดีจนแทบจะปลดปล่อยความต้องการระลอกสองอีกแล้ว ...

    “อ๊ะ ... อ๊ะ ... ยุนโฮฮฮฮ ... ฮ๊า” หน้าท้องขาวกระตุกเกร็งอย่างแรงพร้อมกับส่วนปลายที่ฉีดพ่นน้ำรักออกมาเยอะ เสียจนเลอะเทอะ ... ยุนโฮบดสะโพกเข้าใส่อีกไม่กี่ครั้งก็ฉีดความต้องการเข้าไปในร่างกายเล็กๆจน ล้นไหลเรื่อยตามเรียวขาขาวออกมาเช่นเดียวกัน ...

    ชายหนุ่มค่อยๆถอนกายออกมาช้าๆเพราะไม่อยากให้ร่างบางรู้สึกตัวตื่น .....

    เหตุผล ที่ทำแบบนี้ลงไป... ยุนโฮรู้คำตอบอยู่แก่ใจแต่ไม่คิดที่จะพูดออกมาเพราะอย่างไรเสีย .... เรื่องของเขากับแจจุงก็ไม่มีวันเป็นจริงได้ ......

    ไม่มีวัน ....

    ...................
    ...........

    ร่าง กายกำยำสมส่วนปรากฏแก่สายตาของคนที่กำลังแอบมองทุกอิริยาบถ ทุกการกระทำและเหตุการณ์ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นภายในบ้านหลังเล็กสีขาวเมื่อ ผ้าม่านสีอ่อนถูกแรงลมพลัดพลิ้วจนเผยให้เห็นอะไรต่อมิอะไรอย่างโจ่งแจ้ง .. ร่างเพรียวรีบย่อตัวนั่งยองๆลงบนพื้นพร้อมกับยกมือปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะความตกใจจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ยังไม่จางหายไปแต่ในเมื่อรู้ความจริง ไปแล้ว ยูชอนก็ไม่อาจปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ..

    แม้จะหวาดกลัวมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เท่ากับสิ่งที่เขาเจอมาตลอดหลายปีที่ผ่าน ...

    พยายาม เพ่งมองเข้าไปในบ้านอีกครั้งผ่านบานหน้าต่างอย่างยากลำบากเพราะเกรงว่าจะถูก จับได้โดยไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มสายเลือดแวมไพร์รับรู้ถึงการมาของตัวเอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    นัยน์ตาสีน้ำชามีอันต้องเบิกกว้างเมื่อภาพที่เห็นกำลังทำให้เลือดในกายสูบฉีดแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง

    แผ่น หลังบางสีน้ำนมเปลือยเปล่าที่ถูกเรียวแขนแข็งแรงสีซีดโอบกอดไว้อย่างหวงแหน ปรากฏสู่สายตา . แม้ผ้าห่มผืนบางจะปกปิดส่วนล่างของคนทั้งคู่เอาไว้จนแทบมิดแต่นี่ไม่ใช่เวลา ที่ยูชอนจะใส่ใจกับรายละเอียดตรงนั้น ...ใบหน้าหวานๆที่เห็นจากมุมนี้ไม่จัดเจนนักเนื่องจากเจ้าตัวหันหลังให้ ... มัวแต่ตกตะลึงราวกับถูกต้องมนอยู่กับเรือนกายสวยจนไม่ทันได้สังเกตเลยว่า กำลังถูกใครจ้องมองอยู่ ...

    นัยน์ตาสีดำรัตติกาลประสานเข้ากับ นัยน์ตาสีน้ำชาเข้าอย่างจัง .. ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มร้ายนั้นจะค่อยๆโน้มใบหน้าประกบริมฝีปากลงบน ผิวเนื้อขาวบริเวณต้นคอสวยพลางละเมียดละไมอย่างแช่มช้าเป็นการปลอบประโลม ร่างเล็กบอบบางที่ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อสักครู่จนผลอยหลับไป แล้วแต่เพราะความเคยชิน ยุนโฮจึงต้องทำอย่างนี้ก่อนเสมอ ...

    “อื้อ อ...” เสียงหวานเล็ดลอดออกจากลำคอเมื่อร่างสูงฝังคมเขี้ยวลงบนต้นคอขาว ... เลือดสีแดงไหลทะลักให้เรียวลิ้นอุ่นได้ละเมียดชิมความหวานล้ำของเลือดอีก ครั้ง ...

    “ขอโทษนะที่ปลุก ..” กระซิบเสียงนุ่มข้างใบหูขาว ... ร่างเล็กๆที่เหนื่อยล้าเต็มทนพยักหน้าทั้งๆที่นัยน์ตาสีหวานยังคงปิดปรือ .. ถึงแม้ร่างสูงตรงหน้าจะกำลังเอารัดเอาเปรียบอยู่ก็ตามแต่แจจุงก็ไม่ได้คิด เอามาใส่ใจเพราะตอนนี้หนังตาของตัวเองมันปิดสนิทจนไม่อาจทนลืมตาอยู่ได้อีก ต่อไป ...

    ร่างบางส่งเรียวแขนขาวไปกอดรัดรอบลำคอหนาโดยที่คนร่าง สูงก็ยังไม่ละริมฝีปากออกจากต้นคอสวยแต่อย่างใด .. แจจุงเอนศีรษะซบลงกับแผงอกกว้างยินยอมให้ยุนโฮตักตวงของเหลวสีแดงได้ถนัด ถนี่ขึ้น ..

    ปาร์ค ยูชอนไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่า แจจุงก็สมยอมและยินยอมให้แวมไพร์หนุ่มคนนั้นเอารัดเอาเปรียบ ...

    แต่ทำไมนะ ...

    ทำไมคนที่ชื่อ “ยุนโฮ” คนนั้นถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้ให้มนุษย์อย่างเขาเห็น ...

    ไม่เข้าใจ .. ไม่ว่ายังไงก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ...

    “ถ้าทำเป็นไม่รู้ มันคงดีกว่าสินะ...” ยูชอนเอ่ยกับตัวเองเบาๆ

    “มนุษย์” มีช่วงชีวิตที่สั้นกว่า “แวมไพร์” ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า .. แม้ไม่มีใครขัดขวางความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นี้แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงไร แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงหรือหลีกหนี “กาลเวลา” ไปได้พ้น ...





    เช้าวันต่อมา .... บริษัท JUNG COOPERATION

    “คุณยุนโฮ ... คุณคิมขอฝากลูกชายของเขาเข้าทำงานที่นี่ ไม่ทราบว่า คุณยุนโฮจะ .. ”

    “ไป ทำงานเถอะ .. แล้วเรียกลูกชายคุณคิมเข้ามา..” ลูกน้องในความดูแลโค้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าถอยไปด้านหลังประมาณสอง ถึงสามก้าว จากนั้นก็หันหลังเปิดประตูออกจากห้องไปด้วยซุ่มเสียงที่เรียกได้ว่าเกือบจะ เงียบกริบ ก่อนจะแทนที่ด้วยเด็กหนุ่มร่างเล็กขาวอวบที่หย่อนกายนั่งลงตรงหน้าท่าน ประธานบริษัทอย่างนอบน้อม ..

    “คิม จุนซู ใช่มั้ย?...”

    “ฮะ .. คุณยุนโฮ อาศัยอยู่กับมนุษย์หรอฮะ?..” มือซีดหยาบกร้านชะงักทันใดเมื่อถูกจี้จุด ... ใบหน้าคมเงยขึ้นมองแวมไพร์น้อยด้วยความฉงนปนงงงวย ..

    จริงอยู่ที่ แวมไพร์ทุกคนมีสัมผัสพิเศษทางด้านการรับกลิ่นดีเลิศแต่ก็ใช่ว่าสัมผัสเพียง แค่กลิ่นก็จะรู้ไปถึงขนาดที่ว่าเขาอยู่กินและอาศัยอยู่กับมนุษย์

    จะว่าไปเจ้าเด็กคนนี้ก็มีกลิ่นมนุษย์อยู่เช่นเดียวกัน ... แถมเป็นกลิ่นที่รุนแรงมากเสียด้วย ...

    “แล้ว คิม ชางมิน ไม่ได้มาด้วยกันกับจุนซูหรอ?..” ยุนโฮเบี่ยงประเด็น ก่อนจะคว้าประวัติผู้สมัครอีกคนขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน

    “ลุง เขาจะมาพรุ่งนี้น่ะฮะ ..แล้วอีกอย่างหนึ่ง ลุงชางมินเขาไม่ต้องการทำงานแลกเงินแต่เขาอยากจะให้คุณช่วยตามหาลูกชายที่ หายสาบสูญไปเมื่อหลายสิบปีก่อนแทน...”

    “หืม? .. แล้วลูกชายเขาชื่ออะไรละ?..” ถามด้วยความแปลกใจ .. จะมีแวมไพร์สักกี่คนกันที่ทำงานแล้วไม่เอาเงิน

    “คิม ... คิมแจ อะไรน้า ....อ่อ คิมแจจุงฮะ...”

    “!!!!!!!!!”





    ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...

    เสียง รบกวนจากภายนอกช่วยทำให้คนตัวเล็กบนเตียงรู้สึกตัวตื่น .. เข็มสั้นบนนาฬิกาติดฝาผนังชี้เลข 12 อย่างพอดิบพอดีบ่งบอกให้แจจุงรู้ว่าเขาหลับไปนานมากเกือบค่อนวัน ...

    มือ เล็กตะปบเข้าที่แผงอกบางทันทีทันใดเมื่อภาพเหตุการณ์บางส่วนเมื่อคืนวานไหล ย้อนเข้ามาฉายอยู่ภายในหัวสมองที่ตื้อเสียจนคิดอะไรแทบไม่ออก .. สะโพกบางเองก็ปวดระบมจนขยับไปไหนไม่ได้เลยได้แต่นั่งจับเสื้อจับผ้าที่มา อยู่บนเรือนกายได้ยังไง แจจุงเองก็กำลังจะพยายามนึกให้ออก ... ผ้าผูกคอสีชมพูหวานถูกมัดพันไว้อย่างดิบดีแสดงให้เห็นว่า เมื่อคืนยุนโฮคงเผลอไผลไปกับรสชาติอาหารอีกแล้ว ...

    เมื่อก่อนเป็นแค่ “อาหาร”
    แต่ตอนนี้เป็นได้ทั้ง “อาหาร” และ “ที่ระบายความใคร่” .....

    ยุนโฮยังเห็น คิม แจจุงเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า แม้แต่ตัวแจจุงเองก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่านี้ได้...

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก ..

    เสียง เคาะกระจกหน้าต่างที่ดังแทรกผ่านอากาศมาอีกระลอกเรียกให้นัยน์ตากลมใสรื้น น้ำนิดๆต้องตวัดหันไปมองอย่างเสียไม่ได้ .. ร่างบางพยายามกลืนก้อนสะอื้นและยกแขนเสื้อที่ยาวจนเลยข้อมือมาเช็ดน้ำใสๆที่ เริ่มไหลเปื้อนเต็มใบหน้า .. แม้อยากจะเก็บกลั้นไว้แต่ความน้อยเนื้อต่ำใจที่สะสมมานานก็ทะลายเขื่อนน้ำตา ลงได้ภายในเวลาไม่นาน ..

    ยูชอนค่อยๆลดมือที่ใช้เคาะกระจกลงเมื่อเพื่อนบ้านตัวเล็กนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงราวกับเด็กๆ ...

    หน้าต่าง กระจกซึ่งถูกเปิดไว้ตั้งนานแล้วแต่ยูชอนก็เลือกที่จะเคาะก่อนเพื่อเป็น มารยาทกลับกลายเป็นสถานที่แห่งที่สองของบ้านที่พอจะใช้พูดคุยกับคนในบ้านได้ ...

    “นี่ .. เป็นอะไรไป...เจ็บหรอ?”

    ส่ายหัวเป็นพัลวัน เพราะ ความเจ็บปวดทางใจมันมีมากกว่า ... แจจุงไม่ตอบอะไรออกไปเพราะตอนนี้ร่างทั้งร่างมันแทบไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือ อยู่เลยแต่แจจุงก็สามารถพาตัวเองเข้าไปจนถึงห้องน้ำได้ ... และในตอนนั้นเองที่นัยน์ตาสีสวยเหลือบไปเห็นเสื้อมีฮู้ดสีขาวกับกางเกงสาม ส่วนสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกเตรียมไว้โดยใครบางคน ... มือนิ่มจับคว้าเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาพลันความน้อยเนื้อต่ำใจก็หายไปสิ้น เมื่อคนที่กระทำกับตนเมื่อคืนไม่ได้ปล่อยปะละเลย ... แถมยังคงเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดเสมอๆ ..

    อาบน้ำชำระร่างกายแล้วแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมผูกผ้าปกปิดลำคอเพราะเกรงว่า ยูชอนที่มาปลุกเขาจะสังเกตเห็นเข้า ...

    “ .. ขอโทษนะ ... รอนานหรือเปล่า?” แจจุงก้มหน้าไม่กล้าสบตาเมื่อดันปล่อยให้เพื่อนข้างบ้านรอเสียนมนาน

    “ไม่หรอก .. วันนี้ตอนบ่ายๆ ผมต้องไปทำงานแล้ว ก็เลยแค่จะมาคุยด้วยนิดหน่อย... เอ่อ .. แจจุงเจ็บมากหรือเปล่า?..”

    “??????”

    “ต้อง ดูแลร่างกายให้ดี ... ร่างกายอ่อนแอแล้วจะยิ่งแย่ ... ” คิ้วเล็กขมวดด้วยความไม่เข้าใจแต่ประโยคต่อมาทำให้แจจุงรู้สึกได้ว่า ยูชอนเหมือนจะรู้เรื่องอะไรบางอย่าง ... รู้ดีเสียด้วย

    “..............”

    “นี่ยาเม็ดบำรุงเลือด .. ผมคิดว่า แจจุงควรจะใช้มัน...”

    “ยูชอน? ... ทำไมถึง.....”

    “ความ ลับครับ....” หนุ่มร่างเพรียววางกระปุกยาอันเล็กๆไว้บนขอบบานหน้าต่าง ก่อนจะคลี่ยิ้มหล่อส่งไปให้แจจุงอย่างนึกเอ็นดู ... ยังไม่ทันที่แจจุงจะได้ถามอะไรต่อ ยูชอนก็ขอตัวไปทำงานเสียก่อน ..

    คำพูดแบบนั้น
    สายตาแบบนั้น
    ยูชอนคงรู้อะไรบางอย่างแน่ๆ ...

    แท้ที่จริงแล้ว .... คุณเป็นใครกันแน่นะ ... คุณยูชอน? ...


    TO BE CON !!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×