feel of twilight

แมวน้อยเพิ่งอ่าน twilight เล่มหนึ่งจบไปเมื่อคืนนี้เอง (ที่จริงก็ตั้งแต่ค่ำจนถึงตีสามกว่าเอง...555+)  

ความรู้สึกหลังอ่านจบเหรอ... อืม 

ปลื้มอย่างแรงค้า ^o^  เดี๋ยวไปตามล่าเล่มต่อไปล่ะ...555+

แม้จะพอรู้แล้วแต่ละเล่มมันแต่ไง แต่ก็อยากอ่านนิ (เริ่มติดนิสัยอยากรู้อยากเห็นแบบเบลล่าซะแล้ว... คิกๆ)

งง    ช่วงแรก กะท่าทีของเอ็ดเวิร์ดที่ทำเหมือนจะเกลียดเบลล่าเลย (แบบว่าอินจัด..เลยมีอารมณ์ร่วมอย่างแรง นึกว่าตัวเองเป็นเบลล่า..555+)

แอบขำ     ตอนคำถามสารพัดคำถามของเบลล่า และคำถามของเอ็ดเวิร์ด (อ่านไปอมยิ้มไป..)

เขิน   ตอนรู้ความจริงว่าเอ็ดเวิร์ดแอบมาดูอยู่ทุกคืน แถมเบลล่ายังเป็นลมเพราะจูบของเอ็ดเวิร์ดอีกตะหาก..555+

ฮา  ที่เบลล่าเป็นตัวดึงดูดอันตรายจริงๆ แถมดูท่าทางต่อมความกลัวจะบกพร่องอย่างแรง รู้สึกเธอจะคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเค้าจริงๆด้วย กลัวอะไรที่มันไม่ค่อยน่ากลัว (กลิ่นเลือดงี้ เข็มงี้ เอ็ดเวิร์ดขับรถเร็ว?)แต่บางอย่างที่เธอกลัวก็น่ารักเอามากๆ เลยล่ะ(กลัวพวกคัลเลนจะไม่ชอบ..) 

ลุ้น   ตอนที่กำลังหลบหนีการตามล่าของแวมไพร์ตัวร้ายกัน

หนักใจ   แทนเอ็ดเวิร์ดที่ต้องรับมือกับเบลล่าตอนนอนรพ. แถมต้องคอยดูแลสาวน้อยที่แสนซุ่มซามที่สุดอีก...555+ 

ชอบ งานพร็อมที่เต้นรำกัน ความดื้อรั้นของเบลล่าที่จะขอเป็นแวมไพร์ด้วยเหมือนกัน..

เฮ้อ.. เป็นการอ่านจบด้วยรอยยิ้ม พร้อมความสุขใจที่สุดเลยล่ะ..คิกๆ 

  แอบสงสัยเล่มหนึ่งหน้า385 อมรรตัยชน ? <-- มันแปลว่าอะไรน้า ตามความคิด อาจเป็นพวกอมตชน แบบนั้นเปล่าหว่า? 
งงอ่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ  

 แอบติหน่อยในการเว้นวรรค รู้สึกบางช่วงมันจะเว้นแบบไม่เป็นถูกประโยคเท่าไหร่ ทำเอาเสียอรรถรสไปเหมือนกัน..แง่มๆ

 ...................................................................................................................

ที่จริงอ่านจบตั้งแต่เดือนที่แล้วอ่ะนะ อยากอ่านเล่ม 2 ต่อ จนไม่อยากอ่านแล้ว เพราะไหนจะเสียเวลาจองตั้งนานอีก.. มันเซ็งอ่ะ
คงเพราะเป็นคนเรื่องมาก ชอบอ่านหนังสือภาษางามๆ บรรยากาศโรแมนติก หวานๆ  ถ้าเป็นพวกการ์ตูนก็ต้องลายเส้นงามๆ แบบไซโต้อ่ะนะ   อีกอย่างเท่าที่อ่านตามกระทู้ ก็เกิดอาการไม่อยากเสียเงินอย่างแรง ถ้าเจอการแปลแบบไม่ค่อยมีความรับผิดชอบต่อคนอ่านอย่างนี้
 จะทำให้อารมณ์ซาบซึ้งในเล่มแรกหดหายไปเสียเปล่า 
แต่ไม่แน่นะ ถ้าเล่ม 5  Mignight  Sun - มุมมองของเอ็ดเวิร์ด-ในเล่มแรกออก เราอาจจะซื้อก็ได้ แบบว่าหลงรักเอ็ดเวิร์ดมากก ช่างเป็นแวมไพร์ที่น่ารักมากกกก >///<
แต่พอรู้คร่าวๆ ว่าเล่ม2  New moon นี้ไม่มีเอ็ดเวิร์ดโผล่ แถมเบลล่าไปจี้จ๋ากับเจคอบอีกก็นะ...
ดังนั้นก็ตัดใจ เก็บความประทับแค่เล่มหนึ่งดีกว่า...555+

..................................................................................................................
มาเรียงชื่อเรื่องกันหน่อย  (เผื่อลืม )  by  สเตเฟนีย์  เมเยอร์

1.twilight  -  แรกรัตติกาล
2. New moon -  นวจันทรา
3. Eclipes -  คราสสยุมพร
4. Breaking dawn -
5. Mignight Sun -  

................................................................................................................
ต่อไปสปอยล์ ที่ไปค้นเจอ 

 New Moon  

Bella อยากเป็น Vampire มาก เพราะรัก Edward และไม่อยากแก่กว่า Edward จนยอมให้ใครก็ได้เป็นคนเปลี่ยน Bella
ซึ่งสุดท้าย Edward ยอมที่จะเป็นคนเปลี่ยน Bella เองแต่ยื่นคำขาดว่าถ้าจะให้เปลี่ยน Bella เป็น Vampire ทั้งสองคนจะต้องแต่งงานกันก่อน คราวนี้ Bella ถึงกับชะงักงันไปเลย เพราะไม่อยากแต่งงาน (เหตุผลมาจากอดีตเรื่องราวของพ่อแม่ Bella)
นั่นแหละประเด็นที่เราไม่เข้าใจ Bella ที่ไม่ยอมแต่งงานกับ Edward เราคิดว่าการเป็น Vampire แล้วอยู่ด้วยกัน น่ะมันยิ่งกว่าแต่งงานอีกนะ เพราะต้องอยู่กันไปตราบชั่วกัลปาวสานเลย แต่การแต่งงานมันสามารถหย่าได้ เลิกได้ แต่จะให้เลิกเป็น Vampire ทำงัย?? ก้อต้องตายอย่างเดียวงัยหล่ะ

...................................................................................................................................

Breaking Dawn 

=============ภาคความคิดของเบลล่า=================

เนื้อเรื่องเปิดฉากมาที่การเตรียมงานแต่งงานระหว่างเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่า
ซึ่งเจคอบรับไม่ได้เลยแปลงร่างเป็นหมาป่าและหนีออกจากบ้านไปไม่ติดต่อใคร
(แต่พวกหมาป่าด้วยกันก็พอรู้เพราะสามารถสื่อสารกันได้เลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่)
จนกระทั่งถึงวันแต่งงานซึ่งอลิซเป็นคนจัดให้อย่างเลิศหรูอลังการ และปิดสถานที่ฮันนีมูนไม่ให้เบลล่ารู้ (แต่ทุกคนรู้)
ซึ่งในงานก็ทั้งมนุษย์-ครอบครัวและเพื่อนเบลล่า
มนุษย์หมาป่า-เซธ หมาป่าน้อยซึ่งสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเอ็ดเวิร์ดตอนเล่มสามเลยซี้และชื่นชมเอ็ดเวิร์ดไปเลย
แล้วก็แวมไพร์ครอบครัวแทนย่า ก็มาร่วมงาน งานเลี้ยงก็สวยงามและ happy ดี
จนกระทั่งเจคอบตัดสินใจมาร่วมงาน โดยเจคอบตั้งใจมาก ๆ ที่จะทำตัวดี ๆ ไม่ป่วนงาน (แต่จะสำเร็จเร้อ 555)
เอ็ดเวิร์ดก็ให้เจคอบกับเบลล่าคุยกันตามลำพัง
เจคอบถามเบลล่าว่าจะเป็นแวมไพร์วันนี้เลยหรือเปล่า เบลล่าตอบว่าคงอีกอาทิตย์สองอาทิตย์ ใครจะอยากให้ฮันนีมูนเป็นช่วงเวลาที่ทรมานล่ะ
เจคอบเลยตอบว่า แล้วจะทำไรกันช่วงฮันนีมูน เล่นหมากรุกเหรอ (เจคอบเชื่อว่าเบลล่ามีไรกับเอ็ดเวิร์ดไม่ได้ถ้าไม่เป็นแวมไพร์ก่อน)
เบลล่าโกรธเลยหลุดปากว่า มันจะเป็น real honeymoon
เจคอบโกรธมากจับตัวเบลล่าเขย่า ๆ แล้วให้บอกว่าล้อเล่น เพราะมันอันตรายมาก
เอ็ดเวิร์ดออกมาบอกให้เจคอบปล่อยตัวเบลล่า เจคอบโกรธมาก ๆ เลยบอกเอ็ดเวิร์ดว่า I will kill you, and I will do it now.
จากนั้นก็แปลงร่างเป็นหมาป่า แต่แซม เซธ และหมาป่าอื่น ๆ มารั้งตัวออกจากงานไป
เอ็ดเวิร์ดก็เริ่มคิดว่า จริง ๆ เจคอบพูดถูกว่า นายคิดอะไรของนายอยู่ แต่เบลล่าก็ยืนกรานว่าไม่เป็นไรแน่ ๆ
จบงานแต่งงาน ก็เป็นงานฮันนีมูน กรี๊ด กรี๊ด
เอ็ดเวิร์ดพาเบลล่าไปฮันนีมูนที่เกาะส่วนตัว สวีท วี๊ด วิ๊ว (ไว้อ่านกันเอาเองเน้อ ละไว้ฐานเข้าใจ)
เบลล่าตื่นมาพร้อมด้วยความทรงจำที่หวานชื่น (อิจฉาตาร้อนผ่าว)แต่พอหันมาเจอเอ็ดเวิร์ดที่นอนอารมณ์ไม่ดีอยู่ข้าง ๆ
เบลล่าก็สงสัยว่าตัวเองทำไรผิดเหรอ นึก ๆ ดูก็ไม่มีนี่นา ออกจะหวานชื่นทั้งคืนขนาดนั้น (โอ๊ย อิจฉากว่าเดิม)
เอ็ดเวิร์ดบอกให้เบลล่าพูดความจริงว่า....... (อ๊ะ อ๊ะ คิดไรกันอยู่)
เอ็ดเวิร์ดทำเบลล่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เบลล่ายืนยันว่าไม่เป็นไร เอ็ดเวิร์ดบอกให้ดูตัวเองดี ๆ
เบลล่าก้มดูก็เห็นขนนกเต็มตัวไม่รู้มาจากไหน เอ็ดเวิร์ดบอกว่านั่นเป็นเพราะเอ็ดเวิร์ดกัดหมอนขาดไปใบหรือสองใบ (อิจฉาเบลล่ามากถึงมากที่สุด พี่เอ็ดเวิร์ดร้อนแรง 555)
พอเบลล่าค่อย ๆ ปัดขนนกออกก็เห็นว่าตัวเองเขียวช้ำไปทั้งตัว แต่เบลล่าจำไม่ได้ว่าเจ็บตอนไหนเพราะปกติก็ช้ำง่ายอยู่แล้ว
เอ็ดเวิร์ดชี้ให้ดูหัวเตียงที่พังไปเป็นแถบ ๆ ระหว่าง ...แต่เบลล่าก็ยืนยันว่าไม่เจ็บ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย
เอ็ดเวิร์ดหงุดหงิดตัวเองมาก ๆ และบอกว่าจะไม่มีไรกับเบลล่าอีกจนกว่าเบลล่าจะเป็นแวมไพร์
เบลล่าพยายามยื่นข้อต่อรองว่าจะยอมไปเรียนมหาวิทยาลัยแบบมนุษย์อย่างที่เอ็ดเวิร์ดต้องการแต่เรื่องนี้ต้องไม่รอ เพราะเบลล่าบอกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
เอ็ดเวิร์ดไม่ยอมเด็ดขาดเพราะเชื่อว่าทำเบลล่าเจ็บ ว่าแล้วตลอดเวลาที่เหลือของฮันนีมูนก็หลอกล่อเบลล่าไปดำน้ำดูปะการัง ปีนเขา ต่าง ๆ นานา
จนเบลล่าหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย เบลล่าก็ทำเหมือนยอมเพราะกะว่ารอให้รอยช้ำจางก่อนค่อยรุกเอ็ดเวิร์ดใหม่ 555
ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็ต้องยอมเบลล่าจนได้ ทั้งคู่กะขยายเวลาฮันนีมูนออกไปอีก เรื่องดูหวานชื่นดี
จนกระทั่ง เบลล่าสังเกตว่าทำไมประจำเดือนไม่มาสักที แถมยังกินไม่ค่อยได้ คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย นอนเยอะ อาการเหมือนคนท้อง
เบลล่าเล่าให้เอ็ดเวิร์ดฟังด้วยความดีใจ แต่เอ็ดเวิร์ดตกใจจนยืนนิ่งไม่ขยับอยู่นาน แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเพราะอลิซเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดช็อคเลยโทรมาถาม
เอ็ดเวิร์ดนิ่งไม่รับโทรศัพท์เบลล่าเลยหยิบมาคุยเอง เอ็ดเวิร์ดขอคุยโทรศัพท์เองและขอสายคาลิสเซิล
เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่าเราต้องกลับบ้านทันที ด่วนที่สุด คาลิสเซิลจะเตรียมการทุกอย่างเพื่อเอาเด็กออกทันที ขอให้เบลล่ามั่นใจว่าเบลล่าจะปลอดภัย
เบลล่าตกใจมาก เลยแอบโทรศัพท์หาโรซารี่

========จบความคิดของเบลล่าแต่เพียงเท่านี้ ตอนสองจะเป็นความคิดของเจคอบค่ะ========================

==========ภาคความคิดของเจคอบ=========

หลังจากงานแต่งงานของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า เจคอบก็คุ้มคลั่งกับความคิดที่ว่าเบลล่าจะกลายเป็นแวมไพร์
รวมทั้งเจคอบพยายามล็อบบี้แซมว่า การที่เอ็ดเวิร์ดกัดเบลล่านั้นถือเป็นการละเมิดสัญญาทำให้แวร์วูฟสามารถล่าครอบครัวคัลเลนได้
แต่แซมไม่เห็นด้วย และบอกว่าสิ่งนี้คือการตัดสินใจของเบลล่าซึ่งถือว่าน่าจะเป็นข้อยกเว้น
เวลาผ่านไป....จนกระทั่งเจคอบได้ข่าวจากชาร์ลี พ่อของเบลล่าว่า เบลล่ากลับมาแล้ว
แต่ครอบครัวคัลเลนไม่ยอมให้ชาร์ลีพบเบลล่าโดยบอกว่าเบลล่าป่วยหนัก ติดเชื้อย่างแรง ห้ามเยี่ยมโดยเด็ดขาด
เจคอบโกรธมาก เพราะมั่นใจว่าสาเหตุที่เบลล่าป่วยคือเบลล่ากำลังจะกลายเป็นแวมไพร์
เจคอบเดินทางไปบ้านคัลเลนเพื่อที่จะฆ่าครอบครัวคัลเลนทั้งหมด
เมื่อเจคอบไปถึงคนที่เปิดประตูมาต้อนรับคือคุณหมอคาลิสเซิลซึ่งทำให้เจคอบถึงกับชะงัก
เพราะคุณหมอเป็นคนที่เจคอบไม่อยากจะฆ่า (จริง ๆ อยากให้เป็นเอ็ดเวิร์ดมากกว่า-ช่างเป็นหมาป่าหนุ่มเลือดร้อนจริงจิ๊ง)
เจคอบบอกว่ามาพบเบลล่า คาลิสเซิลอิดออด แต่เบลล่าพูดออกมาว่าขอให้เจคอบเข้ามาพบเธอ
สัมผัสแรกที่เจคอบรับรู้คือกลิ่นของเบลล่านั้น เป็นกลิ่นมนุษย์
ภาพที่เจคอบเห็นเป็นภาพที่แปลกมากเพราะโรซาลียืนติดเตียงเบลล่า ในลักษณะที่ปกป้องสุดชีวิต
ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดนั่งอยู่หน้าเตียง ด้วยสีหน้าและสายตาที่เศร้ามาก
เบลล่า...นอนป่วย..หนักมาก เบลล่าพยายามลุกขึ้นมาโดยมีโรซาลีประคองอยู่ไม่ห่าง
โรซาลี แวมไพร์ที่เกลียดเบลล่า กลับดูแลเบลล่าอย่างดี...
เมื่อเบลล่าลุกขึ้นมา เจคอบก็เห็นสิ่งที่ผิดปกติไป ท้องของเบลล่าใหญ่มากเหมือนผู้หญิงที่ท้องมาหลายเดือน
ทั้งที่เบลล่าเพิ่งจากไปไม่ถึงเดือน...เบลล่าท้อง ท้องกับแวมไพร์ ทายาทปีศาจอยู่ในท้องของเบลล่า
และอะไรก็ตามที่อยู่ในท้องของเบลล่า กำลังสูบชีวิตของเธอไป เบลล่าดูป่วย..หนักมาก ๆ
เอ็ดเวิร์ดขอคุยกับเจคอบตามลำพัง เจคอบยินดีเพราะต้องการจะฆ่าเอ็ดเวิร์ด ทั้งสองเดินออกมาที่ระเบียงด้านหน้า
เอ็ดเวิร์ดบอกว่า ยินดีให้เจคอบฆ่าแต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราะทันทีที่เบลล่าตายเอ็ดเวิร์ดจะเป็นคนขอให้เจคอบฆ่าเอง
"นายคงไม่ต้องขอนานหรอก" เจคอบคิด
เอ็ดเวิร์ดทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นด้วยสีหน้าที่ทรมานแสนสาหัส
อย่างที่เจคอบคิดว่าตนเองคงต้องใช้เวลาอีกเป็นร้อยปีเพื่อจะเข้าใจความทรมานขนาดนี้
เอ็ดเวิร์ดเล่าให้เจคอบฟังว่า พอรู้ว่าเบลล่าท้องเอ็ดเวิร์ดต้องการให้เบลล่าทำแท้งทันที จึงรีบบินกลับมา
เบลล่านั่งเงียบมาตลอดทาง เอ็ดเวิร์ดคิดว่าเบลล่าคงโกรธที่เอ็ดเวิร์ดทำให้ชีวิตของเบลล่าต้องเสี่ยงตาย
แต่เอ็ดเวิร์ดคิดผิด เพราะทันทีที่เครื่องลง เบลล่าวิ่งไปหาโรซาลี และเอ็ดเวิร์ดจึงได้รู้จากความคิดโรซาลีว่า เบลล่าต้องการที่จะเก็บเด็กไว้
(เพื่อนๆ ที่ไม่ได้อ่านเล่มสามอาจจะไม่ทราบว่า โรซาลีฝันอยากมีลูกมาตลอดและที่เกลียดเบลล่าเพราะเบลล่าที่ทุกสิ่งที่โรซาลีอยากได้
แต่กลับขว้างมันทิ้งอย่างไม่ไยดีเพื่อจะมาเป็นแวมไพร์ สิ่งนี้ทำให้เบลล่าขอความช่วยเหลือจากโรซาลี)
หลังจากนั้นโรซาลีก็ไม่ยอมห่างเบลล่า ไม่อนุญาตให้เอ็ดเวิร์ดหรือคาลิสเซิลอยู่กับเบลล่าตามลำพัง
เจคอบคิดว่าสมกับเป็นเบลล่ามาก ๆ ยอมตายเพื่อทายาทปีศาจ
แล้วเจคอบก็เสนอว่าจะยากอะไร เจคอบจะจัดการยัยนั่นให้ ระหว่างนั้นก็ให้เอ็ดเวิร์ดกับคาลิสเซิลกำจัดเด็ดซะ
เอ็ดเวิร์ดตอบว่า นั่นเป็นไปไม่ได้เพราะเอ็มเม็ทจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายโรซาลี และคาลิสเซิลก็จะไม่ยอมทำอะไรที่เอสเม่ไม่เห็นด้วย
ตอนนี้ทั้งโรซาลีและเอสเม่สนับสนุนเบลล่า ในขณะที่อลิซมองไม่เห็นอนาคตเพราะเด็กในท้องของเบลล่ามีพลังบางอย่างคล้ายแวร์วูฟล์
เอ็ดเวิร์ดขอให้เจคอบช่วยคุยกับเบลล่าให้ทำแท้งไปก่อน แล้วถ้าเบลล่าอยากมีลูกค่อยมีใหม่
เจคอบงงว่าเอ็ดเวิร์ดหมายความว่ายังไง จนกระทั่งเอ็ดเวิร์ดบอกว่าถึงจะเป็นลูกหมาก็ไม่เป็นไร
เจคอบไม่เห็นด้วยแต่ก็รับปากว่าจะลองพยายามดู
เอ็ดเวิร์ดขอให้ทุกคนในห้องออกไปเพื่อให้เบลล่าพูดกับเจคอบตามลำพัง ตอนแรกโรซาลีไม่ยอมแต่เบลล่ายืนยันว่าอยู่ได้
เจคอบพยายามเกลี้ยกล่อมเบลล่าแต่เบลล่าไม่ยอม เจคอบจึงบอกว่าทำไมเบลล่าถึงรักแต่สิ่งผิด ๆ
เมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้เจคอบจึงจากไป และแปลงร่างเป็นหมาป่า
ทันทีที่เจคอบแปลงร่างเป็นหมาป่า ฝูงหมาป่าก็รู้เรื่องทั้งหมด แซมตัดสินใจที่จะฆ่าเด็กและครอบครัวคัลเลนที่ปกป้องเด็ก
เพราะคิดว่าการที่ปล่อยให้ลูกเบลล่าเกิดมา โดยไม่รู้ว่าโตมาจะเป็นอย่างไรเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง
เจคอบไม่ยอม จึงออกจากฝูง และตัดสินใจปกป้องเบลล่าและครอบครัวคัลเลน

========ภาคความคิดของเจคอบ (ต่อ)================

แซมวางแผนจะโจมตีครอบครัวคัลเลนในทันที เพื่อไม่ให้ครอบครัวคัลเลนมีโอกาสตั้งตัว
แต่การเปลี่ยนใจออกจากฝูงของเจคอบและการที่เจคอบรีบไปเตือนครอบครัวคัลเลนให้รู้ตัวนั้น
ทำให้แซมต้องชะลอการโจมตี เนื่องจากเกรงว่าฝูงหมาป่าจะบาดเจ็บหรือล้มตายมากขึ้นถ้าครอบครัวคัลเลนเตรียมรับมือ
หลังจากที่ออกจากฝูง การติดต่อกันในรูปแบบของหมาป่ากับฝูงก็หายไป
คือเจคอบไม่ได้ยินความคิดของฝูงในขณะที่ฝูงก็ไม่รับรู้ความคิดของเจคอบเช่นกัน
นอกจากเจคอบแล้วเซธและลีอาก็ออกจากฝูงและเข้ากลุ่มร่วมกับเจคอบ
(แน่นอนว่าเจคอบไม่ต้องการ เจคอบอยากเป็นหมาป่าโดดเดี่ยวมากกว่าแต่เซธและลีอาก็เลือกจ่าฝูงของตัวเองซึ่งก็คือเจคอบแล้ว)
เซธเลือกมาอยู่กับเจคอบเพราะไม่เห็นด้วยกับการโจมตีครอบครัวคัลเลนซึ่งเซธมีความสัมพันธ์ด้วยเป็นอย่างดี
(เซธ เป็นหมาป่าน้อยที่น่ารักมาก ๆ ขอบอก ^__^)
ส่วนลีอานั้นมาอยู่ด้วยเพราะห่วงเซธซึ่งเป็นน้องชายและเจคอบ อย่างไรก็ดีลีอาไม่ได้ชอบหรือไว้ใจครอบครัวคัลเลน
เมื่อเจคอบกลับมาเป็นพันธมิตรด้วย เจคอบกับพวกก็อาสาลาดตระเวนเพื่อดูว่าฝูงของแซมจะเริ่มโจมตีเมื่อไหร่
แซมพยายามส่งคนมาเพื่อเปลี่ยนใจเจคอบ แต่เจคอบยืนกรานที่จะปกป้องเบลล่า

เบลล่าก็ยังทรมาน ซีดเซียว และป่วยหนักอยู่ เวลาลูกดิ้นทีซี่โครงเปลล่าก็หักที เอ็ดเวิร์ดได้แต่เฝ้ามองดูด้วยความเจ็บปวด
เบลล่าจะสดชื่นขึ้นเวลาเจคอบมาเยี่ยม และทั้งเบลล่าและเจคอบต่างก็อาลัยอาวรณ์กันมากเมื่อถึงเวลาที่เจคอบต้องออกจากบ้านไปลาดตระเวน
เบลล่าคิดว่าคงเป็นเพราะเจคอบเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในครอบครัว
ทั้งเอ็ดเวิร์ดและเจคอบต่างก็ทรมานใจเพราะสิ่งที่อยู่ในท้องเบลล่ากำลังฆ่าเบลล่าทีละน้อย และสิ่งนั้นก็โตเร็วมาก
คาลิสเซิลพยายามหาทางรักษาเบลล่า เอ็ดเวิร์ดอ่านความคิดเจคอบได้ว่าบางทีสิ่งนั้นอาจไม่ต้องการอาหารแต่ต้องการเลือดมากกว่า
ทุกคนเห็นด้วยและทดลองให้เบลล่าดื่มเลือด (จริง ๆ เตรียมไว้เผื่อต้องให้เลือดเบลล่าในกรณีฉุกเฉิน)
ปรากฏว่าเบลล่าอาการดีขึ้นมากหลังจากที่ดื่มเลือด แต่ว่าการที่เบลล่ามีสิ่งนั้นอยู่ในท้องก็ยังเป็นสิ่งที่อันตรายมากอยู่ดี

จนมาวันหนึ่งเอ็ดเวิร์ดรู้สึกว่าได้ยินเสียงความคิดของเบลล่า เมื่อพยายามฟังดูจึงรู้ว่าเป็นเสียงความคิดของลูกในท้อง
เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่า เขาหรือเธอ รักเบลล่าชอบเสียงของเบลล่า และจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะอยู่นิ่ง ๆ เบลล่าจะได้ไม่เจ็บตัวอีก
เด็กทารกบอกว่า ชอบเสียงเอ็ดเวิร์ดเช่นกัน เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดสบตามองกันอย่างมีความสุข
โรซาลี่ดีใจมากถามว่าเบลล่าตั้งชื่อลูกหรือยัง เบลล่าเชื่อว่าต้องได้ลูกชายและตั้งชื่อว่า อีเจ (เอ็ดเวิร์ด จูเนียร์-เอ่อไม่คิดหน่อยเหรอเบลล่า)
โรซาลี่ถามว่าแล้วถ้าเป็นลูกสาวล่ะ เบลล่าบอกว่าจะให้ลูกชื่อว่า เรเนสเม่ มาจาก เรเน่ บวก เอสเม่ (อืมค่อยดูสร้างสรรค์นิดนึง)
ในขณะที่เจคอบรู้สึกโกรธมาก เพราะรู้สึกเหมือนโดนเอ็ดเวิร์ดหักหลัง
เจคอบยอมญาติดีกับเอ็ดเวิร์ดเพราะเชื่อว่า เอ็ดเวิร์ดต้องเกลียดสิ่งที่อยู่ในท้องเบลล่ามากกว่าที่เจคอบเกลียด
ต้องทุกข์เวลาที่เบลล่าเจ็บปวดมากกว่าที่เจคอบทุกข์
ต้องอยากกำจัดสิ่งนั้นมากกว่าที่เจคอบอยากกำจัด
แต่ภาพ Happy family ที่เห็นตรงหน้าทำให้เจคอบแทบคลั่ง
เอ็ดเวิร์ดได้ยินเสียงความคิดของเจอคอบจึงบอกให้เจคอบไปซะ แล้วโยนกุญแจรถให้
(ให้ไปสงบสติอารมณ์ก่อน)

เจคอบจากไปพักหนึ่งก็กลับมาที่บ้านคัลเลนเพราะไม่สามารถอยู่ห่างจากเบลล่าได้
นอกจากนี้ครอบครัวคัลเลนต้องเริ่มออกไปล่าอาหาร ทำให้เจคอบต้องมาอยู่ด้วยเพื่อเป็นการคุ้มครองคนที่ยังอยู่ในบ้าน
ได้แก่ เบลล่า เอ็ดเวิร์ด โรซาลี่ และอลิซ
เบลล่ากรีดร้องขึ้นมาก และบอกว่าเด็กในท้องโตมากจนไม่มีที่อยู่แล้ว และกำลังจะฉีกร่างเบลล่าเพื่อออกมา
เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจให้มอร์ฟีน และผ่าท้องเบลล่าเพื่อจะเอาเด็กออก
โรซาลี่ได้กลิ่นเลือดเบลล่าจึงเริ่มคลุ้มคลั่ง เจคอบต้องเข้าไปกันไว้ อย่างไรก็ดีโรซาลี่ไม่ได้ต่อสู้กลับเพราะต้องการที่จะแพ้
เอ็ดเวิร์ดบอกให้อลิซช่วยเจคอบ และพาโรซาลี่ไปหาแจสเปอร์
หัวใจของเบลล่าเต้นอ่อนลงเรื่อย ๆ เอ็ดเวิร์ดบอกให้เจคอบช่วยปั๊มหัวใจให้เบลล่า
ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดทำการผ่าท้อง เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่าเบลล่าได้ลูกสาว
เบลล่าขอดูหน้าลูกและเรียกลูกว่า "เรเนสเม่"
เอ็ดเวิร์ดขอให้เจคอบช่วยอุ้มลูกให้ แต่เจคอบไม่สนใจแม้แต่จะมองยังคงปั๊มหัวใจให้เบลล่า
และบอกเอ็ดเวิร์ดให้โยนทิ้งไปที่ระเบียง เอ็ดเวิร์ดส่งลูกให้ใครสักคน (จำไม่ได้ค่ะ)
แล้วก็เอาเข็มฉีดยาที่ใส่ยาพิษจากเขี้ยวฉีดเข้าหัวใจเบลล่า
และกัดส่วนต่าง ๆ คอ แขนเพื่อให้พิษกระจายเข้าตัวเบลล่าให้เร็วที่สุด
เจคอบยังคงปั๊มหัวใจเบลล่าต่อไป จนรู้สึกว่าทั้งเจคอบและเอ็ดเวิร์ดกำลังพยายามช่วยชีวิต "ศพ"
เจคอบตัดสินใจทิ้งเบลล่า และเดินไปหาตัวต้นเหตุ
"มัน" ที่หัวใจยังเต้นอย่างแข็งแรง แต่ "มัน" ทำให้หัวใจของเบลล่าหยุดเต้น
ถ้าเบลล่าไม่ตาย เบลล่าอาจเกลียดเจคอบไปตลอดชีวิตที่ทำแบบนี้
เอ็ดเวิร์ดเองก็กำลังยุ่งกับการช่วยชีวิตเบลล่าจนไม่มีเวลามาสนใจว่าเจคอบกำลังคิดจะทำอะไร
โรซาลี่อุ้ม "มัน" อยู่ เจคอบก้าวเข้าไปช้า ๆ เพื่อจะฆ่ามันทิ้ง อาจจะต้องฆ่าโรซาลี่ด้วยแต่ใครสน
มุมที่โรซาลี่อุ้มนั้น ทำให้ง่ายต่อการจู่โจม
ใบหน้าของลูกปีศาจเงยชึ้นมาสบตาและมองเจคอบนิ่งต่างจากเด็กทารกทั่วไป
ตาของมันมีสีน้ำตาลช็อคโกแลต แบบเดียวกับตาของเบลล่า
ทันใดนั้นเจคอบก็รู้สึกว่าโลกหยุดหมุน แรงดึงดูดของโลกไม่มีผลอะไรอีกแล้ว
สิ่งเดียวที่ดึงดูดและเป็นเหมือนโลกทั้งใบของเจคอบคือ ทารกตรงหน้า เรเนสเม่

ที่ด้านบนเสียงหัวใจของเบลล่า ใจดวงใหม่เกิดขึ้นแล้ว
(ตรงนี้แอบงงว่าแวมไพร์มีหัวใจเหรอ แอนนี่อาจแปลผิดก็ได้นะคะ)

============จบภาคความคิดของเจคอบ================

========ภาคความคิดของเบลล่า================

เบลล่าฟื้นขึ้นมาในสภาพของแวมไพร์ และรู้ว่าเจคอบ imprint กับเรเนสเม่ เบลล่าก็โมโหพอเป็นพิธี แต่ก็ยอมรับในที่สุด
นอกจากนี้การที่เจคอบ imprint กับเรเนสเม่ ทำให้ฝูงหมาป่าล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายเรเนสเม่
และแล้วก็ถึงเวลาเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าสวีทกันอีกรอบ (อย่าให้เล่าเลยค่ะ อิจฉาตาร้อนผ่าว)
และเรเนสเม่ก็โตเร็วมากเช่นกัน (แหม อีตาจคอบไม่ต้องรอนานเล้ย)
อย่างไรก็ดีปัญหาอยู่ที่กลุ่มโวลตูริที่ต้องการเช็คว่าเบลล่าเป็นแวมไพร์หรือยัง และครอบครัวคัลเลนไม่แน่ใจว่า
โวลตูริจะคิดอย่างไรกับเรเนสเม่ โชคร้ายที่มีแวมไพร์เพื่อนครอบครัวคัลเลนเห็นเรเนสเม่แล้วเข้าใจผิดว่าเป็น แวมไพร์เด็ก
ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามเพราะเด็กจะไม่สามารถคุมตัวเองได้เวลากระหายเลือดและจะทำให้ความลับเรื่องแวมไพร์เปิดเผยในที่สุด
โวลตูริทั้งหมดจึงเดินทางมาที่ฟอกส์เพื่อที่จะมาลงโทษครอบครัวคัลเลนที่ละเมิดกฎ
ครอบครัวคัลเลนจะรับมือศึกนี้ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะคะ ^___^

============จบบริบุรณ์================

Midnight sun 

เล่าเรื่องเหมือนกับเล่มแรก เป็เหตุการณ์ตามเล่มแรกเป๊ะเลย แต่เป็นด้านเอ็ดเวิร์ดเล่า รู้แต่ความรู้สึกของพระเอก และรู้ปมบางอย่างที่ไม่ได้บอกไว้ในเล่มหนึ่ง ที่เบลล่าเห็นหรือสงสัย อย่างเช่น ทำไมพระเอกทำท่าเกลียดนางเอกตอนเห็นเบลล่าครั้งแรกในห้องเรียน หรือจำได้มั้ยคะว่า ครั้งแรกที่อากาศแจ่มใสมีแดดออก เบลล่าเลยเปิดหน้าต่างห้องนอนตัวเอง แล้วแปลกใจว่าทำไมมันไม่ฝืดเลย ทั้งๆ ที่หน้าต่างนี้ต้องปิดมาหลายปีแล้ว ไม่น่าจะเปิดได้ง่ายๆ พอมาอ่านเล่มสุดท้ายนี้ ถึงรู้ว่า เอ็ดเวิร์ดทำตัวเป็น stalker ไปแอบดูนางเอกที่บ้าน อย่างที่บอกนางเอกไว้เล่มแรก คุณท่านงัดหน้าต่างห้องนางเอกเข้าไปในห้องเลยจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่แค่แอบดูจากนอกหน้าต่าง  แถมกลัวนางเอกรู้สึกตัวตื่นขณะหลับ เลยบอกตัวเองว่าต้องเอาน้ำมันมาชะโลมบานหน้าต่าง มันจะได้ไม่ฝืด เวลาเปิดแอบเข้าไปอีก นางเอกจะได้ไม่ได้ยินเสียง ทำไปได้นะเอ็ดเวิร์ด 

อีกตอนหนึ่งที่แดดออก แล้วพระเอกหยุดเรียนไป พอมาเล่มนี้ ก็เฉลยว่าพระเอกไม่ได้ไปเข้าป่าล่าเหยื่อตลอดอย่างที่นางเอกรู้ แต่ที่จริงไปวันเดียวแล้วทนหง่าวคิดถึงเบลล่าไม่ไหว ไม่เป็นอันกินอันล่า เพราะห่วงนางเอกจะหาเรื่องเจ็บตัวอีก เลยกลับมาแอบซุ่มดูนางเอกจากริมป่าที่โรงเรียน และที่บ้านทุกวันระหว่างนั้น ตอนนางเอกเอาผ้ามาปูนอนอ่านนิยายในสนามหน้าบ้านแล้วหลับไป พระเอกก็ซุ่มบนต้นไม้สูง แอบมองนางเอกอยู่ แล้วยังลงมาหยิบดูว่านางเอกอ่านเรื่องอะไรอยู่ด้วย แต่นางเอกหลับไม่รู้ตัวหรอก stalker อีกล่ะ อิอิ

ตอนที่นางเอกเดินหลงในเมือง แล้วเจอกลุ่มผู้ชายเรียกไว้ แล้วเอ็ดเวิร์ดมาช่วย ตอนนั้นเอ็ดเวิร์ดโกรธมากๆ แต่ในเล่มหนึ่งไม่ได้บอกไว้ว่าทำไมพระเอกถึงโกรธและโกรธอะไร แต่เราจะรู้ในเล่มนี้ล่ะค่ะ

..................................................................................................................