ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic VIXX] JukeBoxx

    ลำดับตอนที่ #9 : [OS - Ravi & Leo] Gwiyomi -Gwi-Gwi-Gwiyomi

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 130
      0
      21 ก.ค. 58

                                                                




     Gwiyomi -Gwi-Gwi-Gwiyomi

     

     

     

     

     

    ช่วงนี้เลโอฮยองทำตัวแปลกๆ

     

    คือแต่ละคนในวงก็ชอบทำตัวเป็นเหล่งกำเนิดเสียงกันทั้งนั้น มีเพียงคนเดียวที่ปกติจะนั่งฟังทุกคนอย่างเงียบกริบ แต่การที่คนไม่ชอบส่งเสียงเริ่มพูดมากขึ้น แถมยังมาวนเวียนใกล้ๆเขาทั้งที่ไม่ชอบสกินชิพทำเอาวอนชิกคิดไม่ตก

     

    สองสามวันมานี้ เขาคิดมาตลอดว่าฮยองต้องไปโดนอะไรกระแทกหัวมาแน่ๆ

     

     




     

     

    วอนชิกเสียงหวานเบาเรียกเขาจากในห้องครัว คือฮยองคนนี้ทำเสียงจากในห้องครัวก็ไม่แปลก แต่ที่เรียกห้อยตามชื่อเขาต่างหากที่ทำให้วอนชิกคิดอยากจะพาไปหาหมอสักครั้ง ชิก ชิก...ชิกชิก ชิก

     

    ครับขานรับ แต่ไม่ทันใจคนที่เดินออกมาพร้อมกับช้อนใส่ซุปร้อน เป่าให้ๆเขาเบาๆก่อนจะยื่นมาจ่อปาก เสียงเล็กๆนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ชิมให้หน่อยว่าใช้ได้ไหม

     

    คือปกติฮยองก็ทำอาหารได้เองไม่เคยพึ่งคนอื่นเลยนะครับวอนชิกคิด แต่สายตาคาดคั้นก็ทำให้เขางับช้อน ก่อนจะยกนิ้วให้แสดงอาการพอใจ เลโอฮยองถึงหายกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง

     

    อร่อยแฮะ

     

     

     

     

     

     










     

    แรกๆก็ไม่ค่อยใส่ใจ คิดว่าฮยองคงกล้ามากขึ้น รู้สึกสนิทใจมากขึ้น แต่ถ้าฮยองของเขาแค่สบายใจในการอยู่ด้วยมันไม่น่าตามมาด้วย....อืม นั่นแหละ

     

    ในช่วงฤดูกาลเตรียมคัมเเบ็ค สมาชิกที่ซ้อมท่าเต้นใหม่ๆอย่างเเข็งขันได้รับของขวัญจากพระเจ้าเป็นเวลาพัก 10 นาที ส่วนใหญ่ใช้เวลาทองนี้ไปกับการกลิ้งอยู่แถวๆพื้น ได้ยินเสียงหัวเราะเอ็นฮยองกับมักเน่อยู่มุมห้องหนึ่ง เสียงกรนเบาๆของฮงบินที่นอนอยู่ใกล้ๆ เเละเสียงบ่นโวยวายเป็นป้าเเก่ของเคนฮยอง วอนชิกที่นั่งหลับตาพิงผนังอย่างหมดเเรงฟังความเคลื่อนไหวต่างๆกลับไม่พบอีกเสียงหนึ่งในห้อง คือเลโอฮยองก็ไม่ค่อยส่งเสียง เเต่น่าจะมีเสียงหายใจอีกสักเสียงหนึ่งให้ครบ 6 คน

     

    เปิดเปลือกตาช้าๆสอดส่ายสายตาหาอีกหนึ่งเมนโวคอล แต่กลับไม่เห็นเลย

     

     “ชิกกี้...ชิกๆยังไม่ทันจะได้ลุกไปตามก็ได้ยินเสียงเรียกแปลกๆที่ข้างตัวอีกครั้ง เสียงหงุงหงิงตามมาด้วยความอุ่นวาบข้างตัว เอาน้ำมาให้รู้สึกตัวอีกทีคนตัวขาวก็มานั่งเบียดอยู่ข้างๆพร้อมยื่นขวดน้ำมาตรงหน้า โอ ออกไปเอาขวดน้ำมาให้เขาเลยหรอ

     

     

    ฮยองทานเถอะ เหงื่อออกมากกว่าผมอีกส่งยิ้มกลับแทนความขอบคุณ แต่เลโอกลับยัดขวดน้ำใส่มือเขาแล้วก็ลุกหนีหายไปดื้อๆ วอนชิกจึงส่งสายตาไปถามลีดเดอร์แต่ก็ได้การส่ายหัวกลับมา

     

     

    เป็นเคนเสียอีกที่พูดขึ้น ช่วงนี้เลโอฮยองเอาใจวอนชิกจังซางฮยอกพยักหน้าเป็นอยู่เป็นฉากหลัง กวิโยมี้~” พร้อมทำท่าปุอิ๊งปุอิ๊งที่ตัวเองมั่นใจ เรียกเสียงฮาครืนจากสมาชิกในวงได้เป็นอย่างดี

     

     

     

     

     

     









     


     

    สองอาทิตย์ถัดมาในวันที่อากาศมีลมพัดเย็น วอนชิกนั่งหนาวอยู่บนดาดฟ้า ชอบใจที่มีลมผ่านหน้าเรื่อยๆ ทิ้งตัวลงแผ่กว้างเงยมองสีน้ำเงินที่คลายความสับสนจากงานแต่งเพลง ไม่รู้จะพาเนื้อเพลงไปในทิศทางใดการอุดอู้อยู่เพียงในห้องก็ไม่ให้คำตอบที่เขาต้องการ เลยมาผ่อนคลายอยู่บนดาดฟ้ากว้างนี้

     

    เริ่มรู้สึกว่าสั่นถึงเข้าใจว่าตอนนี้มันหนาวเกิน ก็มีผ้าห่มผืนนุ่มหล่นทับ วอนชิกตะกายตัวเองออกมาจากผ้าผืนโตแล้วสบตาเข้ากับพี่รอง โทษทีเสียงหวานเบาตอบมา หาเสื้อหนาวนายไม่เจอ

     

    ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังคิดว่าจะไปหาอะไรมาใส่อยู่ดี ขอบคุณฮยองมากฮะ

     

    สักพักหลังจากวอนชิกจัดท่าทางให้ตัวเองนั่งได้สบายๆโดนมีผ้าห่มอุ่นๆโอบล้อม ฮยองก็ซุกตัวเข้ามาในผ้านวมหนาแล้วนั่งพิงตัวเขาอย่างสบายอกสบายใจ ไถตัวไปมาให้ได้ท่าที่สบายที่สุดแล้วก็วางศีรษะบนไหล่หนา ฮยองหลับตาลงพริ้มพร้อมร้องเพลงออกมาเบาๆ แม้ว่าท้องฟ้าสีน้ำเงินจะพัดพาความขุ่นมัวออกไป แต่เสียงหวานแหบข้างกายกำลังเติมช่องว่างที่ขาดหายในเพลงของเขาได้เป็นอย่างดี วอนชิกจึงตัดสินใจหลับตาลงฟังเสียงนั้นพัดพาความรู้สึกของเขาให้ล่องลอยไปไกล

     

    กำลังกังวลอะไรอยู่เหรอหลังจากจบเพลงกล่อมเด็ก เลโอฮยองก็เงยหน้ามามองเขาก่อนจะเอ่ยปากถาม เป็นฮยองที่เป็นห่วงเป็นใยทุกคนเช่นเคย วอนชิกยิ้มให้กับความอบอุ่นที่แล่นในอกตัวเอง

     

    แต่งเพลง...แต่มันไม่ไปในทิศทางที่ต้องการฮะ ขาด...สักอย่าง อะไรสักอย่างที่จะเติมเต็มช่องว่างพวกนั้นให้สมบูรณ์ฮยองยังคงสบตาเขาแทนคำว่ากำลังฟังอยู่ แต่...ขอบคุณฮยองมากฮะ ผมรู้แล้วว่ามันขาดอะไรไปพอเขาพูดจบก็กระชับอีกคนเข้ามาในอ้อมแขน เลโอเองก็ก้มหน้าลงไปซุกไหล่ดังเดิม

     

     

     

     

     

     

     











    วอนชิก ฮยองใส่เสื้อตัวไหนดีในวันว่างจากตารางงานและการฝึกซ้อม สองสมาชิกที่เลือกใช้เวลาในหอพักแทนการออกไปไหนก็ตัดสินใจจะดูหนังสักเรื่อง เลโอที่ออกจากห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพันเอวส่งเสียงถามวอนชิกที่นั่งรออยู่หน้าโซฟาเเล้ว

     

    "เเล้วเเต่ฮยองสิครับ" วอนชิกยิ้มขำๆ เอ เเค่เลือกเสื้อเองจะมาถามเขาทำไมกัน เเต่คำตอบที่กลับมาทำให้อกเขาเเน่นขึ้น...อีกครั้ง

     

    "อยากให้วอนชิกเลือกให้...ได้ไหม"

     

     

     

     




    นอกจากให้เลือกเสื้อยังให้เลือกหนัง เเรปเปอร์ก็พยายามให้พี่ชายตัดสินใจ เเต่อีกคนที่ลงไปไถลลงไปกองกับพื้นเเล้วก็เพียงเงยหน้าช้อนตามอง เท่านั้นเเหละวอนชิกก็เดินไปหากองดีวีดีโดยทันที

     

    หยิบไม่ดูแล้วคว้าสักเรื่องยัดใส่เครื่องเล่น ก่อนจะพลิกดูหน้าปกหนังอีกครั้ง อา...เขาไม่รู้เลยว่าหยอบหนังรักที่หวานเลี่ยนจนฮงบินทำท่า นิ้วงอไปหมด ตอนมาเล่าให้เขาฟัง

     

    พอดนตรีขึ้นเลโอฮยองก็ขยับตัวมาชิดข้างๆ วางหัวลงป๊อกที่ไหล่เขาอย่างที่ช่วงนี่ทำบ่อยๆ หลับตาร้องคลอไปตามทำนองเพลงรักสดใสประกอบหนัง วอนชิกจึงมีหน้าที่กดรีโมตตั้งค่าดูหนัง

     

                วอนชิกไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย (นั่นคือสิ่งที่เขาบอกทุกคน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับเขาสักเท่าไหร่) แต่ฉากที่นางเอกจับนิ้วก้อยของพระเอกไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะหมุนหายไป ลับตาในฝูงชน เขาก็รู้สึกถึงน้ำตาอุ่นๆที่ไหลผ่านแก้ม พยายามจะเช็ดออกโดยไม่ขยับมากนักเพื่อๆม่ให้คนที่พิงไหล่รู้ สูดน้ำมูกเบาๆ

     

                ถึงแม้จะพยายามให้เงียบแล้ว แต่ฉากถัดมาก็ทำให้เขาร้องไห้โฮอยู่ดี วอนชิกหันไปกอดพี่ชายข้างๆตัวแล้วหันหลังให้จอโทรทัศน์ ซุกหน้าลงกับหลังของอีกคน เขาไม่อยากจะรู้แล้วว่าต่อจากนี้ทั้งสองตัวละครจะได้พบกันอีกไหม แบบนี้มันเศร้าเกินไป

     

                แทคอุนที่เผลอหลับไประหว่างหนังเล่นก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะอยู่ดีๆก็ถูกรวบเข้าไปกอดเต็มแรง รู้สึกว่าหลังชื้นๆ สติที่ฟื้นทีละนิดทำให้เขายื่นมือไปลูบหลังอีกคน ปลอบน้องชายที่ร้องไห้ไม่หยุดข้างตัว “โอ๋ วอนชิกอ่า” แต่อีกคนก็ไม่มีที่ท่าจะหยุดง่ายๆ ไม่แน่ใจว่าน้ำตาหรือน้ำมูกที่กำลังเปียกแผ่นหลังเขาอยู่

     

    เพียงครู่ ก่อนจะคว้าหน้าอีกคนไว้เต็มสองมือ หันไปให้มองจอ “สองคนได้เจอกันแล้ว”

     

                วอนชิกถึงได้พยายามสูดน้ำมูกต่อ หน้าแดงไม่น้อยจากความเขินอายและน้ำตา ตอนแรกคงตั้งใจจะหลบแต่ความตื่นเต้นของหนังก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาดูต่ออยู่ดี

     

                ได้ยินเสียงเลโอฮยองพึมพำใกล้ๆไหล่เขาว่า “ชิกกี้น่ารักจัง”

     

     

     

     













    อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่สาเหตุที่เลโอทำทั้งหมด อ้อนเท่าที่จะทำได้(ก่อนที่ตัวเองจะทนเขินไม่ไหว) เรียกวอนชิกด้วยชื่อที่แปลกไป ทำเสียงหงุงหงิงบ้าง สกินชิพแล้วช้อนตามองบ้าง ทั้งหมดนี้ก็แค่อยากให้แรปเปอร์ในวงเอ่ยชมเขาว่า “น่ารัก” สักครั้ง ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงอยากได้ยินคำว่าน่ารักผ่านริมฝีปากเรียวนั่น ในเมื่อมันยังไม่มาถึง เขาก็จะทำต่อไปเรื่อยๆล่ะกัน

     

     

    .

    .

    .

               วอนชิกไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พี่รองทำช่วงนี้คืออะไร เรียกร้องความสนใจ? หรือว่าทำตัว...น่ารัก...กันแน่?
























    END

     

    ไม่ค่อยยาวอีกแล้ว 555

    อย่าพึ่งเบื่อยุคพลอคนน่ารักกันนะคะ เขาน่ารักมากจีๆ

    ไม่รู้จะทอล์คอะไรเพิ่ม ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็อย่าลืมบอกกันนะคะ <3



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×