คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : หนังสือพิมพิ์เจววิส
"หนังสือพิมพิ์เจววิส"เสียงนักศึกษาแตกรังวิ่งกรูไปยังแผงหนังสือพิมพิ์เจววิส จริง ๆ แล้วเขาไม่ค่อย
สนใจหนังสือพิมพิ์ประเภทนี้สักเท่าไหร่ เพราะบรรณาธิการเกือบทุกรุ่นมักจะวิจารณ์และคอยจับผิดสภาของ
หออื่น ยิ่งปีนี้ท่านเคิร์ทแต่งตั้งให้ Diamond เป็นบรรณาธิการด้วยแล้ว มันยิ่งอยู่นอกสายตาเขาเลย แต่
ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นประตูอาคาร เสียงศัสตรูตัวฉกาจก็เอ่ยทักขึ้น"ว่าไง เค็นดิว ได้อ่านแล้วหรือยัง ไม่เสีย
แรงที่สนับสนุนบิยอนเป็นบรรณาธิการ"ว่าจบคู่กรณีก็เดินจากไปทิ้งเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันเอาไว้ เขาตรงไป
ยังแผงหนังสือพิมพิ์เจววิสฉบับที่ห้า ก่อนจะหยุดนิ่ง ภาพแรก ทำให้หัวใจเขาหล่นลงที่ตาตุ่ม ภาพที่สอง ทำให้
เขาเกือบลืมหายใจ "แล้วทีนี้ นายจะทำไงต่อ"กริซที่เดินตามหลังมาตบบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ "ไม่เป็นไรเว้ย
ปัญหามันมีไว้ให้แก้"เฟร็นส์เอ่ยอย่างเห็นใจ "เหมา"เสียงของเจ้าชายแหบห้าวแกมเย็นชา
"นายแน่ใจเรอะ ว่าทำแบบนี้จะปิดข่าวได้"ฟาโรที่ช่วยแบกกล่องใหญ่สีน้ำตาลที่ข้างในบรรจุหนังสือ
พิมพิ์ไว้แน่นถามขึ้นอย่างกังวล"นักศึกษาที่เลิกเรียนก่อนพวกเราคงซื้อไปหลายฉบับ"บริชประเมิณ
สถานการณ์ ก่อนทั้งห้าสหายจะหยุดกึก เมื่อเสียงใส ๆ ทักมาจากด้านหลัง"หอบอะไรกันมาคะ เยอะแยะ
เชียว"เด็กสาวผมสีน้ำตาลเดินมากับคู่หูอย่างอารมณ์ดี ต่างจากรุ่นพี่ที่มีสีหน้าเครียดจัด"เปล่า"เค็นดิวรีบปฏิเสธ
เป็นคนแรก"เปล่า อะไรกัน ก็เห็นอยู่ชัด ๆ" เด็กสาวยังซักไซ้ไม่เลิก"ขอดูหน่อยสิ"วาเนซ๋าขออย่างมี
มารยาท"พี่ว่าไม่ควรหรอก"เค็นดิวปฏิเสธอีกครั้งทำให้เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์โรสเบ้ปาก"ไม่ให้ดู ก็ไม่ดู
ไม่เห็นต้องไปง้อ"พูดจบเธอก็ถอยห่างไป สร้างความโล่งใจให้กับพี่ ๆ ทั้งหลาย
"นี่มันอะไรกันน่ะ ตอบชั้นมาสิ"สาวสวยดาวมหาลัยเดินตรงมายังโต๊ะของสองเจ้าหญิงในร้านไอ
ศครีมชื่อดังกลางตลาด นัยน์ตาสีฟ้าสวยเขียวปัดด้วยความโกรธ หล่อนโยนหนังสือพิมพิ์เจววิสไว้กลางโต๊ะ
ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของโรริน่าไว้แน่น"เธอก็รู้ว่าชั้น..."เธอยังไม่ทันจะพูดก็โดนเพื่อน ๆ ดึงตัวเอา
ไว้ "อย่า เมดิซ่า มันไม่คุ้มที่เธอจะมาเสียเวลากับเด็กคนนี้ เค้าทำอะไรเอาไว้ก็คงจะรู้ตัวดี"สิ้นเสียงกลุ่มสาว
ๆ ก็ผละออกไป ทิ้งไว้เพียงความตกตะลึงของเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์โรส "ชั้นอธิบายได้"โรริน่าพูดตะกุก
ตะกักกับเพื่อนรักที่ไม่รู้เรื่องหลังพยายามตั้งสติ "เรื่องนั้นคือชั้นไม่สบาย พี่เค้าเลย...."วาเนซ่าพยักหน้าอย่าง
เข้าใจดีไม่ต้องอธิบายหรอก" วาเนซ่าพูดพลางตบบ่าคู่หู
"เดี๋ยวครับ ๆ ขอสัมภาษณ์ก่อน"เสียงกลุ่มนักข่าวดักรอสัมภาษณ์ที่หน้าร้าน ภาพแรกในหนังสือพิมพิ์
เป็นภาพที่เจ้าชายงี่เง่าอุ้มเธอไปห้องพยาบาล โดยมีฟาโร กริซและเฟร็นส์วิ่งตามหลังมา แต่ตากล้องมือดีดัน
ถ่ายแค่ภาพเธอกับเจ้าชายบ้านั่น ส่วนภาพที่สองคือภาพที่เธอกำลังแกล้งเจ้าชายแสนงอน คิดแล้วมันยิ่งน่าเจ็บ
ใจ เธอวิ่งฝ่าวงล้อมของนักหนังสือพิมพิ์และนักข่าวตรงไปยังหอพัก "เดี๋ยวครับ ๆ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง
กันแน่"พวกนักข่าวจากDiamond ยังตื้อไม่เลิก "เรื่องเข้าใจผิด"โรริน่าตะโกนตอบ ขาของเธอก็โกย
เต็มที่ "เข้าใจผิดยังไง รูปก็เห็นอยู่ตำตา"นักข่าวตะโกน แต่ไร้คำตอบจากตัวต้นเรื่อง
"เห็นเจ้าชายเค็นดิวไหมคะ"โรริน่าตะโกนถามรุ่นพี่ปีสี่ที่นั่งอ่านหนังสือในห้องโถง"เห็นฟาโรเรียก
ประชุมสภาตั้งแต่กลับมาแล้ว"รุ่นพี่เงยหน้ามาตอบอย่างได้ใจความ เรียกประชุมตั้งแต่กลับมา เธอก็เป็นหนึ่ง
ในสภา ทำไมไม่เรียกเธอล่ะ หรือว่า? จงใจปิดบังเรื่องนี้ เธอคิดขณะวิ่งขึ้นไปยังห้องประชุมสภาอย่างรวด
เร็วโดยไม่ได้สนใจวาเนซ่าที่วิ่งตามมาไม่ทันเลยแม้แต่น้อย
ผาง! ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกอย่างแรงจนไปกระแทกผนังเกิดเสียงดังลั่น สายตาทุกคู่จับจ้องมา
ยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญ "มันเกิดอะไรขึ้น ตอบมาสิ" โรริน่าโยนหนังสือพิมพิ์เจววิสลงกลางโต๊ะประชุมใหญ่
ไร้ซึ่งคำตอบ ทั้งห้องเงียบกริบ ปราศจากสรรพเสียงใด ๆ "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันบ้าง"เธอเอะอะ
โวยวาย "พอ ๆ เลย ถ้าจะว่าไป ต้นเหตุมันก็เพราะเธอนั่นแหละ"เมฟลุยที่เข้าร่วมการประชุมตวาดขึ้น "เธอ
คิดว่าชั้นอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้งั้นหรอ แล้วอีกอย่างเรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดชั้น ต้องโทษเจ้าชายคนเก่ง
ของเธอโน่น"โรริน่าพูดพลางโบ้ยความผิดไปให้เจ้าชายที่นั่งหน้าเครียด กุมขมับ "รูปแรก ชั้นอาจจะเชื่อว่า
เธอไม่ได้ทำ แต่รูปที่สอง มันฟ้องชัด ๆ "เมฟลุยอธิบายพลางชี้ไปยังรูปภาพในหนังสือพิมพิ์ "ตอนนี้ไม่ใช่
เวลาที่เราจะมาเถียงกันว่าใครผิด เราควรจะมาแก้ปัญหาต่างหาก"เมฟลุยพูดต่อ"แก้ ๆ ยังไง รู้มั้ยว่าเมื่อกี้ชั้นไป
เจออะไรมา"โรริน่าแหวใส่"นักข่าวฝูงใหญ่ ดักสัมภาษณ์ชั้นที่หน้าร้านไอศครีม นี่ยังไม่รวมคุณสาว ๆดาว
มหาลัยอีกนะ"โรริน่าเล่าเหตุการณ์ ทุกคนในห้องมีสีหน้าเครียดจัด "แล้วทีนี้ จะให้แก้อะไรอีกล่ะ"โรริน่าพูด
อย่างหมดหวัง"มีทางเดียวคือต้องแถลงข่าว"ฟาโรเสนอ"ให้ตาย มาเรียนหนังสือนะ ไม่ใช่ดำรงตำแหน่งที่
ไวท์โรส"โรริน่าสบถ"ไม่งั้นจะให้ทำไง"ฟาโรหันมาถามอย่างเซ็ง ๆ แถลงข่าวเรอะ เธอไม่นอนเล่นอยู่ใน
วังให้พวกนักข่าวของไวท์โรสมาสัมภาษณ์ไม่ดีกว่าเรอะ นี่นึกว่าจะหนีเรื่องประเภทนี้พ้นซะละ ตอนอยู่ไวท์
โรสก็ต้องโดนสัมภาษณ์โน่นสัมภาษณ์นี่ ทั้งเรื่องตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทที่หลายฝ่ายเห็นว่าไม่เหมาะสม
ความรู้สึกที่มีต่อน้องสาวอย่างเฟโลอาและอะไรอีกมากมาย แล้วพอมาอยู่เจววิส ต้องมาแถลงข่าวเรื่องความ
สัมพันธ์กับเจ้าชายงี่เง่าเนี่ยนะ ฆ่ากันชัด ๆ เธอคิดขณะที่เดินออกจากห้องประชุมสภาหลังที่ประชุมลงมติ
เห็นชอบเกินกว่าครึ่ง
ดวงจันทร์สีนวลลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าสีนิล ยามรัตติกาลเคลื่อนคล้อยเข้ามานานแล้ว แต่ห้องพักของคลีดี้ ยังเปิดไฟทิ้งไว้แสดงถึงคนภายในที่ยังไม่นอน คลีดี้ผมสีทอง นัยน์ตาสีสวยกวาดมองตำราวิชาประวัติศาสตร์อย่างเลื่อนลอย อีกหนึ่งสมาชิกผมสี
ส้ม ที่นั่งนิ่งใจลอยคิดหาหนทางอย่างสุขุม ต่างจากคู่หูนัยน์ตาสีเขียว ที่เดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องอย่างร้อนรน "หยุดเดินเสีย
ที"คลีดี้สาวแห่งPearl เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนร่วมห้องอย่างไม่พอใจ "แล้วเธอจะให้ชั้นทำไง ชั้นไม่อยากแถลงข่าวนี่"รองคลีดี้
สวนกลับด้วยน้ำเสียงเครียด"แล้วเธอมีวิธีที่ดีกว่านี้เรอะ"เมฟลุยปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะถอนใจเมื่อตัวต้นเรื่องส่ายหัว "ใช่
สิ ใครจะไปย้อนเวลาได้ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้"เมฟลุยทอดเสียงลงอย่างปลง ๆ "ใช่แล้ว น้ำยาลบความจำ"โรริน่าตะโกน
"จะบ้าหรอ ลบความจำกันทั้งมหาลัย ก็แย่สิ"เมฟลุยแหวใส่ "ก็ลองเปิดตำราปรุงยาสิ อาจมีสอนปรุงยาลบความจำแบบกำหนดเวลาก็
ได้"วาเนซ่าเริ่มเห็นด้วยกับความคิดนี้ แล้วทั้งสามก็คว้าหนังสือปรุงยามาเปิดกันอย่างแข็งขัน
"นี่ไงเจอแล้ว"วาเนซ่าพูด ทำให้ทั้งห้องเริ่มมีความหวัง "ไหนดูหน่อยซิ"เมฟลุยดึงหนังสือไปดู
ก่อนจะพยักหน้า"ใช้ได้ ส่วนผสมไม่มีอะไรมาก"เธอยิ้มก่อนจะยื่นหนังสือไปให้เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์
โรส"ไม่มีอะไรมาก ก็แค่นาฬิกาปลุก เกล็ดมังกร ไฟจากปากมังกร" โรริน่าพูดกลั้วหัวเราะกึ่งประชด
ประชัน"หรือเธออยากจะแถลงข่าว"เมฟลุยหันมาถามอย่างไม่สบอารมณ์ โรริน่าส่ายหน้าวืด "งั้นเริ่มกันเลย
นาฬิกาปลุก ชั้นพอจะมี แต่ไอ้เกล็ดมังกรกับไฟนั่นคงต้องไปขโมยจากคอกเลี้ยงสัตว์ของรุ่นพี่ปีสาม"โรริน่า
เริ่มวางแผน ทั้งสามดึงเสื้อคลุมออกจากตู้ก่อนจะก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องไป
"เร็วเข้า จะเอาตัวไหนก็เลือกสักตัว เหม็นจะตายอยู่แล้ว"โรริน่ากระตุกแขนเสื้อเพื่อนทั้งสอง "เธอว่าตัวไหนมันพอจะเป็น
มิตรที่สุด"เมฟลุยหันมาถามวาเนซ่าอย่างลังเล "มังกรพี่สาวเธอไง"วาเนซ่าตอบตรง ๆ "ไม่เอาด้วยหรอก ชั้นได้โดนด่าแน่ ถ้าเค้า
รู้"เมฟลุยรีบปฏิเสธ "งั้นเอาตัวนี้ละกัน ดูสงบเสงี่ยมดี"โรริน่าชี้ไปยังมังกรตัวใหญ่สีดำ ที่นอนหลับอยู่บนฟางอันอบอุ่น ทั้งสามจึง
เดินตรงไปยังมังกรสีนิลทันที โรริน่าเอื้อมมือไปดึงเกล็ดที่ขาหน้าของมัน แต่อาจเป็นเพราะความตื่นเต้น ทำให้เธอไม่ทันระวัง
มังกรเจ้ากรรมจึงตื่นขึ้นและพ่นไฟใส่ตามสัญชาติญาณ ส่งผลให้แขนเสื้อคลุมไหม้ไปเป็นแถบ เสียงกรีดร้องของเด็กสาวทั้งสาม
ทำให้ทหารกล้าที่เข้าเวรวิ่งมาดู
"เกิดอะไรขึ้น"เสียงดุดังมาจากภายในห้อง "มีนักศึกษาพยายามจะขโมยมังกรครับพี่"ทหารกล้าแห่ง
Pearl รายงานหัวหน้าหอ ก่อนที่ประตูจะเปิดออก "เธออีกแล้ว"ฟาโรโอดโอยเมื่อเห็นดวงหน้าของรุ่นน้อง
ผมสีน้ำตาล คนที่ทำเรื่องให้เขาปวดหัวได้ทุกวัน "นี่เธอด้วยหรอเมฟลุย"เสียงนั้นมีความผิดหวังละคนแปลก
ใจ "ไปตามอัศวินม้าดำ งานนี้ชั้นไม่ขอเอี่ยว ให้พวกนั้นสอบสวนกันเอง"สิ้นเสียงบัญชาการของหัวหน้าหอ
พัก ทหารกล้าน้อมตัวรับคำสั่งก่อนจะเดินจากไปอย่างเรียบร้อย
"โอ้ย อะไรกัน ๆ ปลุกกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่"เฟร็นส์ หนึ่งในอัศวินม้าดำ เดินบ่นมาพร้อมกับชายเสื้อ
คลุมตัวยาวที่ปลิวตามแรงลม ตามหลังมาด้วยพี่เอ็ด อัศวินหน้าหวานและคู่หู พี่สนิช ส่วนอีกหนึ่งเจ้าชายที่เดิน
หาวหวอด ๆ มากับเพื่อนรักที่ตีหน้าตาย และยังมีรุ่นพี่บริช ที่เดินตามหลังมาด้วยคท่าทางหงุดหงิด "เฮ่อ ชั้น
ล่ะปวดหัว พวกนายจัดการต่อที เด็กดื้อสามคนนี้พยายามจะขโมยมังกรในคอกเลี้ยงสัตว์ แต่ถูกจับได้เสีย
ก่อน"ฟาโรอธิบายให้เพื่อนฟังด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน "ขโมยมังกร"บริชอุทาน"เฮอะ คิดว่าอยากได้มากหรือ
ไง ไอ้มังกรเฮ็งซวยเนี่ย"โรริน่าสบถ"ที่อยากได้น่ะ เกล็ดกับไฟของมันต่างหาก"เธอพูดพลางเชิดหน้าขึ้น
"เกล็ดกับไฟ จะเอาไปทำอะไร"เค็นดิวถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ตามแบบฉบับ ทำให้เด็กสาวตรงหน้าอารมณ์
เสีย ทีพูดกับคนอื่นล่ะดี้ดี แต่พอพูดกับเธอ ต้องทำเสียงขรึมอยู่เรื่อย หน้าหมั่นไส้ "ถามว่าจะเอาไปทำ
อะไร"เค็นดิวยังซักไซ้ไม่เลิก ดวงตาสีน้ำเงินคมกริบจ้องมายังเธออย่างจะค้นหาความจริง"น้ำยาลบความจำ
งั้นสิ" โรริน่าสะดุ้งเฮือก นี่เขารู้ได้อย่างไรกัน"รู้แล้วถามทำไม ประสาท"เด็กสาวแหวใส่โดยไม่ได้สนใจรุ่นพี่
ตรงหน้า "ไม่อยากแถลงข่าว จนต้องลงทุนขนาดนั้นเชียว"เขาพูดด้วยน้ำเสียงรู้ทัน "เมื่อไหร่จะหยุดก่อเรื่อง
เสียที"เขาเริ่มเทศนา "เอาเป็นว่าการรับโทษในครั้งนี้ คนที่ได้รับโทษมีเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจ้าหญิงแห่ง
ไวท์โรส ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยว เชิญ"เขาสั่งด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ "อะไรอะ ไม่ยุติธรรม"โรริน่าโวยวาย แต่
ก็ไร้ผล "บทลงโทษคือพรุ่งนี้มาช่วยพี่จัดเอกสาร"สิ้นเสียงของเจ้าชายเสียงผิวปากของรุ่นพี่ก็ดังเฟี้ยวฟ้าว
"เฮ่ย ชั้นซักเชื่อซะแล้วสิ ว่าข่าวที่พวกDiamond เอาไปลงจะเป็นความจริง"บริชแซว "ก็แค่จะให้น้อง
เค้ามาช่วยงาน หรือพวกนายอยากทำกันเอง"เค็นดิวรีบอธิบาย"อย่างโรริน่าน่ะ เป็นได้มากสุดก็แค่น้องสาว คิด
อะไรกันมาก"เขารีบแก้ตัวต่อ"หรอ แต่สำหรับโรริน่าแล้ว พี่เป็นได้อย่างมากก็แค่คนแก่ที่ชอบจู้จี้จุกจิก คอยจับ
ผิดตลอด"เธอพูดพลางเชิดหน้าเดินกลับห้องพักอย่างไม่สบอารมณ์
"นี่แล้วมีอันนี้อีก"เค็นดิวเดินตรงมายังเจ้าหญิงผมสีน้ำตาล ที่บัดนี้นั่งจมกองเอกสารพลางยื่นปึก
เอกสารอีกกองให้เธอจัดเรียงและตรวจตราตัวอักษร หลังจากการสัมภาษณ์อันยาวนานเสร็จสิ้นลง เธอแทบ
จะไม่ต้องพูดอะไรเลย ได้แต่ฟังเจ้าชายบ้าอำนาจอธิบาย แล้วเธอก็โดนลากตัวมาให้นั่งจัดเอกสารและตรวจตัว
สะกดเอกสารที่สภาต้องแจกให้ชั้นปีต่าง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือเธอต้องนั่งอ่านต้นฉบับของเอกสารทั้งหมด ไม่ว่า
จะเป็นจดหมาย ใบประกาศและอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย "ว่าไง โรริจัง เหนื่อยไหม"เฟร็นส์ที่นั่งทำงานอยู่
บนโต๊ะเงยหน้าหันมาทักทาย "เหนื่อยสิคะ เอกสารตั้งมากมาย แต่จะทำไงได้ เป็นแค่รองคลีดี้ จะเอาอะไรไป
สู้อัศวินจอมเผด็ดการ"เธอตอบเสียงแจ๋วก่อนจะค้อนไปยังอัศวินที่พูดถึง "พูดแบบนี้ กระทบกันหลายคนนะ
นี่"เอ็ดเอ่ยอย่างเอ็นดู"เปล่านะ ใครเป็นจอมเผด็ดการ ก็รู้ ๆ กันอยู่"เธอรีบแก้ตัวหวุดหวิด"ใครทำผิดก็ต้องได้
รับโทษ"เสียงแหบห้าวจากเจ้าชายที่ถูกเอ่ยถึงโต้กลับ"เฮอะ รับโทษ รับโทษคนเดียวเนี่ยนะ ไม่ยุติธรรม"โรริ
น่าเถียงกลับอย่างรวดเร็ว"ก็ใครกันเป็นตัวต้นคิด"เสียงแหบห้าวยังดังกลับมาอย่างไม่รอช้า โรริน่าเบ้ปากอย่าง
จนคำจะเถียง ก่อนจะหันไปสนใจกับเอกสารต่อ"นี่ยังไม่รวมค่าเสียหายที่ทำแจกันแตกอีกนะ"เมื่อเห็นเด็ก
สาวไร้ทางตอบโต้ เขาจึงรีบใส่ไฟทันที "งกชะมัด"เสียงพึมพำจากเด็กสาวทำให้เขาแอบอมยิ้มอย่างที่ไม่เคย
เป็น
"ดาบ เป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณ มันไม่ใช่เพียงแค่เหล็กหรือโลหะเท่านั้น"เสียงบรรยายของอาจารย์ฟิง
เกิลท่ามกลางห้องที่ถูกสร้างบรรยากาศเป็นทุ่งหญ้า แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ แสงแดดจากเวทย์
มนตร์อ่อนแสงลง แสดงถึงยามบ่ายที่มาเยือน สายลมเวทย์พัดผ่านให้ความเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ประตูที่
เพิ่งก้าวผ่านถูกปิดสนิทร เวทย์ช่วยอำพรางประตูให้กลืนกับบรรยากาศ "คุณชามมิ่ง ดาบของคุณมีสรรพคุณ
อะไร"อาจารย์ฟิงเกิลเดินผ่านแถวนักศึกษาที่นั่งอยู่บนพรมหญ้าสีเขียว อาจารย์สุ่มถามสรรพคุณของดาบแต่
ละอัน มันน่าแปลก เพราะตามมารยาทแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเค้าถามกันหรอก มันเป็นกลยุทธของแต่ละ
ฝ่าย"ผมยังหาสรรพคุณของมันไม่เจอเลยฮะ อาจารย์"ชามมิ่งตอบคำถามอย่างชาญฉลาด"คุณควรพยายามฝึก
ซ้อมและหาสรรพคุณของมันให้เจอ คุณเวสตั้น"สรรพนามที่อาจารย์ใช้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด "คุณโรริน่า
หวังว่าโรอากับเฟมิล่าคงสบายดี"ชื่อบุพการีถูกเอ่ยขึ้น ทำให้เธอฉุนนิด ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำใจ "ลุก
มานี่ซิ"อาจารย์เรียก โรริน่าทำหน้างง ๆ อย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะกระโดดหลบปลายดาบที่อาจารย์ส่งมาให้"มุก
จันทรา"เธอเรียกดาบอย่างคล่องแคล่วพลางกระโดดหลบคมดาบอีกครั้ง ตั้งท่าเตรียมพร้อม ฟิงเกิลพุ่งดาบมาที่
เธออีกครั้ง แต่คราวนี้โชคไม่เข้าข้างเธอเสียเลย ปลายดาบเฉือนเนื้อส่วนแขน เรียกเลือดจากเจ้าหญิง โรริน่า
กัดฟันกรอด ก่อนจะพุ่งปลายดาบตรงไปยังอาจารย์ ดาบปะทะดาบเกิดเสียงดัง ก่อนผู้เยาว์จะเสียท่าให้ผู้อวุโส
เลือดซิบไหลออกมาจากแผลใหม่ แต่ความพยายามก็ยังไม่หมด เสียงดาบแหวกอากาศดังหวีดหวิวทำให้เป้า
หมายอย่างเธอหลบได้ไม่ยาก ดาบใหญ่เฉียดปลายผมสีน้ำตาลไปเพียงเล็กน้อย เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะ
รับ อย่าว่าแต่เป็นฝ่ายรุกเลย ดาบของอาจารย์ฟิงเกิลพุ่งมายังเธออย่างกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่มีแม้ช่องว่าง
ให้เธอได้ตั้งตัว กลุ่มเพื่อน ๆ ตีวงล้อมให้เป็นวงกว้างเพื่อป้องกันการเป็นลูกหลง แต่ถึงอย่างไรก็ยังมองมา
อย่างเป็นห่วง โรริน่าถอยหลังกรูดเพื่อเตรียมโจมตี ดาบเรียวพุ่งตรงไปยังดาบใหญ่ที่คอยท่าอยู่ ดาบปะทะ
ดาบอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเป็นฝ่ายได้เปรียบ เฉือนเสื้อคลุมของอาจารย์ขาด เสียงเฮจากเพื่อน ๆ ที่เฝ้าสังเกต
การณ์เชียร์ลั่น เกมส์เริ่มสนุกเมื่ออาจารย์ฟิงเกิลไม่ได้เป็นผู้โจมตีเพียงฝ่ายเดียว ก่อนออดหมดเวลาจะดัง
พร้อมกับเด็กสาวที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อคลุมที่ยังไม่ทันได้ซ่อมจากการโดนไฟไหม้ขาดเป็นทาง
"วันนี้พอแค่นี้"อาจารย์ฟิงเกิลกล่าวทิ้งท้ายและหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ โรริน่าเดินโซเซออกมาจากห้อง
เรียนดาบ และตรงไปยังห้องสอนเวทย์มนตร์โดยมีเพื่อนรักเดินตามหลังมา
"วันนี้เราจะเรียนเวทย์ชั้นสูง คือเวทย์สร้างปีก"เสียงอาจารย์สอนวิชาพ่อมดศาสตร์เอ่ยขึ้นหลังนัก
ศึกษาเข้ามากันครบแล้ว เสียงพูดคุยวิพากวิจารณ์ดังกันเซ็งแซ่ ก่อนจะเงียบลงเมื่อหางตาของอาจารย์กวาดมอง
มา"เปิดตำราพ่อมดศาสตร์หน้าที่ 38"สิ้นคำสั่งเสียงเปิดหนังสือก็ดังกันผึบผับ"เซเรีย เซราเฟีย อเมอทา ปาติคู
ลา วิง"อาจารย์ร่ายเวทย์ใส่หนังสือเป็นตัวอย่าง พออาจารย์ร่ายเวทย์จบ หนังสือพ่อมดศาสตร์เล่มหนาก็มีปีกสี
ขาวโผล่ออกมา มันบินวนไปรอบห้อง ตามคำสั่งก่อนจะจอดลงที่โต๊ะอาจารย์อย่างสวยงาม เสียงปรบมือดังไป
ทั่ว"เวทย์นี้ถึงจะเป็นคาถาที่ไม่ยาว แต่ก็ต้องใช้พลังจิตสูง คือต้องมีสมาธิ เพ่งจิตไปยังเป้าหมายให้ดี และที่
สำคัญ เวทย์บทนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อพวกคุณมีพลังเวทย์ที่สูงในระดับนึง ผมไม่คาดหวังให้พวกคุณทุกคนต้อง
ใช้เวทย์นี้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่จะให้พวกคุณทดลองเพื่อจะได้เป็นแรงผลักดันให้พวกคุณฝึกฝน
เวทย์จนมีระดับเวทย์ที่แกร่ง"เสียงเอะอะโวยวายดังไปทั่วเมื่อฟังคำอธิบายเสร็จ จนอาจารย์ต้องรีบห้าม
ปราม"เอาอย่างนี้ละกัน เพื่อเห็นแก่ความขยันที่พวกคุณฝึกฝนเวทย์ ถ้าใครใช้เวทย์นี้ได้สำเร็จ ผมจะให้สอง
คะแนน"เสียงโวยวายเงียบไป แต่แทนที่ด้วยเสียงร่ายเวทย์ ตามคาด คนที่ทำได้สำเร็จเป็นคนแรกจะเป็นใคร
ไปได้นอกจากเจ้าหญิงแห่งวิชท์แลนด์ตามติดมาด้วยคู่หูเพื่อนยากจ้าหญิงโรริน่า เมอชาร์น คนที่ใคร ๆ ก็รู้จัก
ส่วนคนที่ทำได้แย่ที่สุดเห็นทีจะเป็นเจ้าหญิงนาเนีย แห่งมาเมโล ที่พยายามเสกแก้วน้ำให้บินได้ แต่ไม่ว่าจะ
เสกซักเท่าไหร่ มันก็กลายเป็นหูกระต่ายโผล่ออกมาอยู่ดี ทั้งชั่วโมงจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"ไปก่อเรื่องที่ไหนมาอีกล่ะ"เสียงของเจ้าชายรุ่นพี่ตะโกนมาจากระเบียงชั้นบน ทำให้รุ่นน้องอย่างเธอ
ต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งสโนเฟลค ที่ใคร ๆ ชมนักชมหนาว่า
เก่งกาจ กำลังนั่งห้อยขาลงมาจากระเบียงชั้นสาม ในมือมีหนังสือเล่มหนาพร้อมปากกาด้ามโปรดสีทอง ใบ
หน้ายิ้มแย้มแสดงถึงอารมณ์ที่แจ่มใส "ขอให้ตกลงมาเถอะ เพี่ยง"เสียงรุ่นน้องสาบแช่งทำให้เจ้าชายหุบยิ้ม
"ถ้าบังเอิญพี่ทำหนังสือเล่มนี้ตกลงไป ก็ต้องขอโทษที"เขาขู่พลางยิ้มให้อย่างมีชัย โรริน่าแลบลิ้นใส่อย่าง
สนิทรสนม"ว่าไง ไปก่อเรื่องที่ไหนมาล่ะ"รุ่นพี่ที่อยู่เหนือหัวยังตะโกนถามไม่เลิก "รู้ได้ไง ว่าไปก่อ
เรื่อง"เธอถามลองภูมิ"ก็แหม เสื้อคลุมเจววิส เคยมีรอยขาดที่ไหนกัน แล้วยังมีคราบเลือดอีก"เขาตะโกน
ตอบ"ก็แค่ฝึกซ้อมดาบนิดหน่อย"เธอตอบไปอย่างไม่ได้สนใจ"ไม่นิดล่ะมั้ง อย่าลืมไปซ่อมด้วย เดี๋ยวเค้าจะ
หาว่าPearl ดูแลนักศึกษาไม่ดี ปล่อยให้ใส่เสื้อคลุมซอมซ่อ"เขาตะโกนลงมา สร้างความหมั่นไส้ให้รุ่นน้อง
ได้ไม่น้อย"งั้นก็ซ่อมให้สิ"โรริน่าตะโกนขึ้นไปอีกครั้ง"ซ่อมเองไม่เป็นหรือไง"เค็นดิวยังคงตะโกนลงมา
อย่างไม่รู้จักเหนื่อย "ซ่อมเป็นแต่มันเปลืองพลังเวทย์ เฟ้ย"โรริน่าตั้งใจปล่อยคำหยาบไปยังรุ่นพี่เบื้องบน
ก่อนจะกระโดดหลบหนังสือเล่มหนา ที่รุ่นพี่บังเอิญทำหลุดมือตกลงมาและยิ้มให้อย่างกวน ๆ
ความคิดเห็น