ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้กลีบเมฆ

    ลำดับตอนที่ #9 : หนังสือพิมพิ์เจววิส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 337
      1
      13 มี.ค. 51

          "นังสือพิมพิ์เจววิส"เสียงนักศึกษาแตกรังวิ่งกรูไปยังแผงหนังสือพิมพิ์เจววิส    จริง แล้วเขาไม่ค่อย

    สนใจหนังสือพิมพิ์ประเภทนี้สักเท่าไหร่ เพราะบรรณาธิการเกือบทุกรุ่นมักจะวิจารณ์และคอยจับผิดสภาของ

    หออื่น ยิ่งปีนี้ท่านเคิร์ทแต่งตั้งให้
    Diamond เป็นบรรณาธิการด้วยแล้ว  มันยิ่งอยู่นอกสายตาเขาเลย แต่

    ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นประตูอาคาร เสียงศัสตรูตัวฉกาจก็เอ่ยทักขึ้น
    "ว่าไง เค็นดิว ได้อ่านแล้วหรือยัง ไม่เสีย

    แรงที่สนับสนุนบิยอนเป็นบรรณาธิการ
    "ว่าจบคู่กรณีก็เดินจากไปทิ้งเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันเอาไว้   เขาตรงไป

    ยังแผงหนังสือพิมพิ์เจววิสฉบับที่ห้า ก่อนจะหยุดนิ่ง ภาพแรก ทำให้หัวใจเขาหล่นลงที่ตาตุ่ม ภาพที่สอง ทำให้

    เขาเกือบลืมหายใจ
    "แล้วทีนี้ นายจะทำไงต่อ"กริซที่เดินตามหลังมาตบบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ "ไม่เป็นไรเว้ย

    ปัญหามันมีไว้ให้แก้
    "เฟร็นส์เอ่ยอย่างเห็นใจ "เหมา"เสียงของเจ้าชายแหบห้าวแกมเย็นชา

         "ายแน่ใจเรอะ ว่าทำแบบนี้จะปิดข่าวได้"ฟาโรที่ช่วยแบกกล่องใหญ่สีน้ำตาลที่ข้างในบรรจุหนังสือ

    พิมพิ์ไว้แน่นถามขึ้นอย่างกังวล
    "นักศึกษาที่เลิกเรียนก่อนพวกเราคงซื้อไปหลายฉบับ"บริชประเมิณ

    สถานการณ์ ก่อนทั้งห้าสหายจะหยุดกึก เมื่อเสียงใส ทักมาจากด้านหลัง
    "หอบอะไรกันมาคะ เยอะแยะ

    เชียว
    "เด็กสาวผมสีน้ำตาลเดินมากับคู่หูอย่างอารมณ์ดี ต่างจากรุ่นพี่ที่มีสีหน้าเครียดจัด"เปล่า"เค็นดิวรีบปฏิเสธ

    เป็นคนแรก
    "เปล่า อะไรกัน ก็เห็นอยู่ชัด " เด็กสาวยังซักไซ้ไม่เลิก"ขอดูหน่อยสิ"วาเนซ๋าขออย่างมี

    มารยาท
    "พี่ว่าไม่ควรหรอก"เค็นดิวปฏิเสธอีกครั้งทำให้เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์โรสเบ้ปาก"ไม่ให้ดู ก็ไม่ดู

    ไม่เห็นต้องไปง้อ
    "พูดจบเธอก็ถอยห่างไป สร้างความโล่งใจให้กับพี่ ทั้งหลาย

                       

         "นี่มันอะไรกันน่ะ ตอบชั้นมาสิ"สาวสวยดาวมหาลัยเดินตรงมายังโต๊ะของสองเจ้าหญิงในร้านไอ

    ศครีมชื่อดังกลางตลาด นัยน์ตาสีฟ้าสวยเขียวปัดด้วยความโกรธ  หล่อนโยนหนังสือพิมพิ์เจววิสไว้กลางโต๊ะ

    ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของโรริน่าไว้แน่น
    "เธอก็รู้ว่าชั้น..."เธอยังไม่ทันจะพูดก็โดนเพื่อน ดึงตัวเอา

    ไว้
    "อย่า เมดิซ่า มันไม่คุ้มที่เธอจะมาเสียเวลากับเด็กคนนี้  เค้าทำอะไรเอาไว้ก็คงจะรู้ตัวดี"สิ้นเสียงกลุ่มสาว

    ก็ผละออกไป ทิ้งไว้เพียงความตกตะลึงของเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์โรส
    "ชั้นอธิบายได้"โรริน่าพูดตะกุก

    ตะกักกับเพื่อนรักที่ไม่รู้เรื่องหลังพยายามตั้งสติ
    "เรื่องนั้นคือชั้นไม่สบาย พี่เค้าเลย...."วาเนซ่าพยักหน้าอย่าง

    เข้าใจดี
    ไม่ต้องอธิบายหรอก" วาเนซ่าพูดพลางตบบ่าคู่หู

         "ดี๋ยวครับ ขอสัมภาษณ์ก่อน"เสียงกลุ่มนักข่าวดักรอสัมภาษณ์ที่หน้าร้าน  ภาพแรกในหนังสือพิมพิ์

    เป็นภาพที่เจ้าชายงี่เง่าอุ้มเธอไปห้องพยาบาล โดยมีฟาโร กริซและเฟร็นส์วิ่งตามหลังมา แต่ตากล้องมือดีดัน

    ถ่ายแค่ภาพเธอกับเจ้าชายบ้านั่น ส่วนภาพที่สองคือภาพที่เธอกำลังแกล้งเจ้าชายแสนงอน คิดแล้วมันยิ่งน่าเจ็บ

    ใจ
     เธอวิ่งฝ่าวงล้อมของนักหนังสือพิมพิ์และนักข่าวตรงไปยังหอพัก "เดี๋ยวครับ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง

    กันแน่
    "พวกนักข่าวจากDiamond ยังตื้อไม่เลิก "เรื่องเข้าใจผิด"โรริน่าตะโกนตอบ ขาของเธอก็โกย

    เต็มที่
    "เข้าใจผิดยังไง รูปก็เห็นอยู่ตำตา"นักข่าวตะโกน แต่ไร้คำตอบจากตัวต้นเรื่อง

              

       "ห็นเจ้าชายเค็นดิวไหมคะ"โรริน่าตะโกนถามรุ่นพี่ปีสี่ที่นั่งอ่านหนังสือในห้องโถง"เห็นฟาโรเรียก

    ประชุมสภาตั้งแต่กลับมาแล้ว
    "รุ่นพี่เงยหน้ามาตอบอย่างได้ใจความ เรียกประชุมตั้งแต่กลับมา เธอก็เป็นหนึ่ง

    ในสภา ทำไมไม่เรียกเธอล่ะ หรือว่า
    ?  จงใจปิดบังเรื่องนี้ เธอคิดขณะวิ่งขึ้นไปยังห้องประชุมสภาอย่างรวด

    เร็วโดยไม่ได้สนใจวาเนซ่าที่วิ่งตามมาไม่ทันเลยแม้แต่น้อย

        
       
    าง
    ! ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกอย่างแรงจนไปกระแทกผนังเกิดเสียงดังลั่น สายตาทุกคู่จับจ้องมา

    ยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
    "มันเกิดอะไรขึ้น ตอบมาสิ" โรริน่าโยนหนังสือพิมพิ์เจววิสลงกลางโต๊ะประชุมใหญ่

    ไร้ซึ่งคำตอบ ทั้งห้องเงียบกริบ ปราศจากสรรพเสียงใด
    "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันบ้าง"เธอเอะอะ

    โวยวาย
    "พอ เลย ถ้าจะว่าไป ต้นเหตุมันก็เพราะเธอนั่นแหละ"เมฟลุยที่เข้าร่วมการประชุมตวาดขึ้น "เธอ

    คิดว่าชั้นอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้งั้นหรอ แล้วอีกอย่างเรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดชั้น ต้องโทษเจ้าชายคนเก่ง

    ของเธอโน่น
    "โรริน่าพูดพลางโบ้ยความผิดไปให้เจ้าชายที่นั่งหน้าเครียด กุมขมับ "รูปแรก ชั้นอาจจะเชื่อว่า

    เธอไม่ได้ทำ แต่รูปที่สอง มันฟ้องชัด
    "เมฟลุยอธิบายพลางชี้ไปยังรูปภาพในหนังสือพิมพิ์ "ตอนนี้ไม่ใช่

    เวลาที่เราจะมาเถียงกันว่าใครผิด เราควรจะมาแก้ปัญหาต่างหาก
    "เมฟลุยพูดต่อ"แก้ ยังไง รู้มั้ยว่าเมื่อกี้ชั้นไป

    เจออะไรมา
    "โรริน่าแหวใส่"นักข่าวฝูงใหญ่ ดักสัมภาษณ์ชั้นที่หน้าร้านไอศครีม นี่ยังไม่รวมคุณสาว ๆดาว

    มหาลัยอีกนะ
    "โรริน่าเล่าเหตุการณ์  ทุกคนในห้องมีสีหน้าเครียดจัด "แล้วทีนี้ จะให้แก้อะไรอีกล่ะ"โรริน่าพูด

    อย่างหมดหวัง
    "มีทางเดียวคือต้องแถลงข่าว"ฟาโรเสนอ"ให้ตาย มาเรียนหนังสือนะ ไม่ใช่ดำรงตำแหน่งที่

    ไวท์โรส
    "โรริน่าสบถ"ไม่งั้นจะให้ทำไง"ฟาโรหันมาถามอย่างเซ็ง   แถลงข่าวเรอะ  เธอไม่นอนเล่นอยู่ใน

    วังให้พวกนักข่าวของไวท์โรสมาสัมภาษณ์ไม่ดีกว่าเรอะ นี่นึกว่าจะหนีเรื่องประเภทนี้พ้นซะละ ตอนอยู่ไวท์

    โรสก็ต้องโดนสัมภาษณ์โน่นสัมภาษณ์นี่ ทั้งเรื่องตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทที่หลายฝ่ายเห็นว่าไม่เหมาะสม

    ความรู้สึกที่มีต่อน้องสาวอย่างเฟโลอาและอะไรอีกมากมาย แล้วพอมาอยู่เจววิส ต้องมาแถลงข่าวเรื่องความ

    สัมพันธ์กับเจ้าชายงี่เง่าเนี่ยนะ ฆ่ากันชัด  เธอคิดขณะที่เดินออกจากห้องประชุมสภาหลังที่ประชุมลงมติ

    เห็นชอบเกินกว่าครึ่ง

         วงจันทร์สีนวลลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าสีนิล  ยามรัตติกาลเคลื่อนคล้อยเข้ามานานแล้ว แต่ห้องพักของคลีดี้ ยังเปิดไฟทิ้งไว้แสดงถึงคนภายในที่ยังไม่นอน  คลีดี้ผมสีทอง นัยน์ตาสีสวยกวาดมองตำราวิชาประวัติศาสตร์อย่างเลื่อนลอย อีกหนึ่งสมาชิกผมสี

    ส้ม
    ที่นั่งนิ่งใจลอยคิดหาหนทางอย่างสุขุม ต่างจากคู่หูนัยน์ตาสีเขียว ที่เดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องอย่างร้อนรน  
    "หยุดเดินเสีย

    ที
    "คลีดี้สาวแห่งPearl เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนร่วมห้องอย่างไม่พอใจ "แล้วเธอจะให้ชั้นทำไง ชั้นไม่อยากแถลงข่าวนี่"รองคลีดี้

    สวนกลับด้วยน้ำเสียงเครียด
    "แล้วเธอมีวิธีที่ดีกว่านี้เรอะ"เมฟลุยปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ  ก่อนจะถอนใจเมื่อตัวต้นเรื่องส่ายหัว "ใช่

    สิ
    ใครจะไปย้อนเวลาได้
    เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้"เมฟลุยทอดเสียงลงอย่างปลง "ใช่แล้ว น้ำยาลบความจำ"โรริน่าตะโกน 

    "จะบ้าหรอ ลบความจำกันทั้งมหาลัย ก็แย่สิ"เมฟลุยแหวใส่ "ก็ลองเปิดตำราปรุงยาสิ อาจมีสอนปรุงยาลบความจำแบบกำหนดเวลาก็

    ได้
    "วาเนซ่าเริ่มเห็นด้วยกับความคิดนี้ แล้วทั้งสามก็คว้าหนังสือปรุงยามาเปิดกันอย่างแข็งขัน

         "นี่ไงเจอแล้ว"วาเนซ่าพูด ทำให้ทั้งห้องเริ่มมีความหวัง "ไหนดูหน่อยซิ"เมฟลุยดึงหนังสือไปดู

    ก่อนจะพยักหน้า
    "ใช้ได้ ส่วนผสมไม่มีอะไรมาก"เธอยิ้มก่อนจะยื่นหนังสือไปให้เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งไวท์

    โรส
    "ไม่มีอะไรมาก ก็แค่นาฬิกาปลุก เกล็ดมังกร  ไฟจากปากมังกร" โรริน่าพูดกลั้วหัวเราะกึ่งประชด

    ประชัน
    "หรือเธออยากจะแถลงข่าว"เมฟลุยหันมาถามอย่างไม่สบอารมณ์ โรริน่าส่ายหน้าวืด "งั้นเริ่มกันเลย 

    นาฬิกาปลุก ชั้นพอจะมี แต่ไอ้เกล็ดมังกรกับไฟนั่นคงต้องไปขโมยจากคอกเลี้ยงสัตว์ของรุ่นพี่ปีสาม
    "โรริน่า

    เริ่มวางแผน ทั้งสามดึงเสื้อคลุมออกจากตู้ก่อนจะก้าวฉับ ออกจากห้องไป

        
         "ร็วเข้า จะเอาตัวไหนก็เลือกสักตัว เหม็นจะตายอยู่แล้ว"โรริน่ากระตุกแขนเสื้อเพื่อนทั้งสอง "เธอว่าตัวไหนมันพอจะเป็น

    มิตรที่สุด
    "เมฟลุยหันมาถามวาเนซ่าอย่างลังเล "มังกรพี่สาวเธอไง"วาเนซ่าตอบตรง "ไม่เอาด้วยหรอก ชั้นได้โดนด่าแน่  ถ้าเค้า

    รู้
    "เมฟลุยรีบปฏิเสธ  "งั้นเอาตัวนี้ละกัน ดูสงบเสงี่ยมดี"โรริน่าชี้ไปยังมังกรตัวใหญ่สีดำ ที่นอนหลับอยู่บนฟางอันอบอุ่น  ทั้งสามจึง

    เดินตรงไปยังมังกรสีนิลทันที
      โรริน่าเอื้อมมือไปดึงเกล็ดที่ขาหน้าของมัน แต่อาจเป็นเพราะความตื่นเต้น ทำให้เธอไม่ทันระวัง 

    มังกรเจ้ากรรมจึงตื่นขึ้นและพ่นไฟใส่ตามสัญชาติญาณ ส่งผลให้แขนเสื้อคลุมไหม้ไปเป็นแถบ เสียงกรีดร้องของเด็กสาวทั้งสาม 

    ทำให้ทหารกล้าที่เข้าเวรวิ่งมาดู

         "กิดอะไรขึ้น"เสียงดุดังมาจากภายในห้อง "มีนักศึกษาพยายามจะขโมยมังกรครับพี่"ทหารกล้าแห่ง

    Pearl รายงานหัวหน้าหอ ก่อนที่ประตูจะเปิดออก "เธออีกแล้ว"ฟาโรโอดโอยเมื่อเห็นดวงหน้าของรุ่นน้อง

    ผมสีน้ำตาล คนที่ทำเรื่องให้เขาปวดหัวได้ทุกวัน
    "นี่เธอด้วยหรอเมฟลุย"เสียงนั้นมีความผิดหวังละคนแปลก

    ใจ
    "ไปตามอัศวินม้าดำ งานนี้ชั้นไม่ขอเอี่ยว ให้พวกนั้นสอบสวนกันเอง"สิ้นเสียงบัญชาการของหัวหน้าหอ

    พัก ทหารกล้าน้อมตัวรับคำสั่งก่อนจะเดินจากไปอย่างเรียบร้อย

         "อ้ย อะไรกัน ปลุกกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่"เฟร็นส์ หนึ่งในอัศวินม้าดำ เดินบ่นมาพร้อมกับชายเสื้อ

    คลุมตัวยาวที่ปลิวตามแรงลม ตามหลังมาด้วยพี่เอ็ด อัศวินหน้าหวานและคู่หู พี่สนิช ส่วนอีกหนึ่งเจ้าชายที่เดิน

    หาวหวอด มากับเพื่อนรักที่ตีหน้าตาย และยังมีรุ่นพี่บริช ที่เดินตามหลังมาด้วยคท่าทางหงุดหงิด
    "เฮ่อ ชั้น

    ล่ะปวดหัว พวกนายจัดการต่อที  เด็กดื้อสามคนนี้พยายามจะขโมยมังกรในคอกเลี้ยงสัตว์ แต่ถูกจับได้เสีย

    ก่อน
    "ฟาโรอธิบายให้เพื่อนฟังด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน "ขโมยมังกร"บริชอุทาน"เฮอะ คิดว่าอยากได้มากหรือ

    ไง ไอ้มังกรเฮ็งซวยเนี่ย
    "โรริน่าสบถ"ที่อยากได้น่ะ เกล็ดกับไฟของมันต่างหาก"เธอพูดพลางเชิดหน้าขึ้น

    "เกล็ดกับไฟ จะเอาไปทำอะไร"เค็นดิวถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ตามแบบฉบับ ทำให้เด็กสาวตรงหน้าอารมณ์

    เสีย ทีพูดกับคนอื่นล่ะดี้ดี แต่พอพูดกับเธอ ต้องทำเสียงขรึมอยู่เรื่อย หน้าหมั่นไส้
     "ถามว่าจะเอาไปทำ

    อะไร
    "เค็นดิวยังซักไซ้ไม่เลิก ดวงตาสีน้ำเงินคมกริบจ้องมายังเธออย่างจะค้นหาความจริง"น้ำยาลบความจำ

    งั้นสิ
    " โรริน่าสะดุ้งเฮือก นี่เขารู้ได้อย่างไรกัน"รู้แล้วถามทำไม ประสาท"เด็กสาวแหวใส่โดยไม่ได้สนใจรุ่นพี่

    ตรงหน้า
    "ไม่อยากแถลงข่าว จนต้องลงทุนขนาดนั้นเชียว"เขาพูดด้วยน้ำเสียงรู้ทัน "เมื่อไหร่จะหยุดก่อเรื่อง

    เสียที
    "เขาเริ่มเทศนา  "เอาเป็นว่าการรับโทษในครั้งนี้ คนที่ได้รับโทษมีเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจ้าหญิงแห่ง

    ไวท์โรส ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยว เชิญ
    "เขาสั่งด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ  "อะไรอะ ไม่ยุติธรรม"โรริน่าโวยวาย แต่

    ก็ไร้ผล
    "บทลงโทษคือพรุ่งนี้มาช่วยพี่จัดเอกสาร"สิ้นเสียงของเจ้าชายเสียงผิวปากของรุ่นพี่ก็ดังเฟี้ยวฟ้าว

    "เฮ่ย ชั้นซักเชื่อซะแล้วสิ ว่าข่าวที่พวกDiamond เอาไปลงจะเป็นความจริง"บริชแซว "ก็แค่จะให้น้อง

    เค้ามาช่วยงาน หรือพวกนายอยากทำกันเอง
    "เค็นดิวรีบอธิบาย"อย่างโรริน่าน่ะ เป็นได้มากสุดก็แค่น้องสาว คิด

    อะไรกันมาก
    "เขารีบแก้ตัวต่อ"หรอ แต่สำหรับโรริน่าแล้ว พี่เป็นได้อย่างมากก็แค่คนแก่ที่ชอบจู้จี้จุกจิก คอยจับ

    ผิดตลอด
    "เธอพูดพลางเชิดหน้าเดินกลับห้องพักอย่างไม่สบอารมณ์


     

         "นี่แล้วมีอันนี้อีก"เค็นดิวเดินตรงมายังเจ้าหญิงผมสีน้ำตาล ที่บัดนี้นั่งจมกองเอกสารพลางยื่นปึก

    เอกสารอีกกองให้เธอจัดเรียงและตรวจตราตัวอักษร
    หลังจากการสัมภาษณ์อันยาวนานเสร็จสิ้นลง  เธอแทบ

    จะไม่ต้องพูดอะไรเลย ได้แต่ฟังเจ้าชายบ้าอำนาจอธิบาย แล้วเธอก็โดนลากตัวมาให้นั่งจัดเอกสารและตรวจตัว

    สะกดเอกสารที่สภาต้องแจกให้ชั้นปีต่าง พูดง่าย ก็คือเธอต้องนั่งอ่านต้นฉบับของเอกสารทั้งหมด ไม่ว่า

    จะเป็นจดหมาย ใบประกาศและอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
    "ว่าไง โรริจัง เหนื่อยไหม"เฟร็นส์ที่นั่งทำงานอยู่

    บนโต๊ะเงยหน้าหันมาทักทาย
    "เหนื่อยสิคะ เอกสารตั้งมากมาย แต่จะทำไงได้ เป็นแค่รองคลีดี้ จะเอาอะไรไป

    สู้อัศวินจอมเผด็ดการ
    "เธอตอบเสียงแจ๋วก่อนจะค้อนไปยังอัศวินที่พูดถึง "พูดแบบนี้ กระทบกันหลายคนนะ

    นี่
    "เอ็ดเอ่ยอย่างเอ็นดู"เปล่านะ ใครเป็นจอมเผด็ดการ ก็รู้ กันอยู่"เธอรีบแก้ตัวหวุดหวิด"ใครทำผิดก็ต้องได้

    รับโทษ
    "เสียงแหบห้าวจากเจ้าชายที่ถูกเอ่ยถึงโต้กลับ"เฮอะ รับโทษ รับโทษคนเดียวเนี่ยนะ ไม่ยุติธรรม"โรริ

    น่าเถียงกลับอย่างรวดเร็ว
    "ก็ใครกันเป็นตัวต้นคิด"เสียงแหบห้าวยังดังกลับมาอย่างไม่รอช้า โรริน่าเบ้ปากอย่าง

    จนคำจะเถียง ก่อนจะหันไปสนใจกับเอกสารต่อ
    "นี่ยังไม่รวมค่าเสียหายที่ทำแจกันแตกอีกนะ"เมื่อเห็นเด็ก

    สาวไร้ทางตอบโต้ เขาจึงรีบใส่ไฟทันที
    "งกชะมัด"เสียงพึมพำจากเด็กสาวทำให้เขาแอบอมยิ้มอย่างที่ไม่เคย

    เป็น

       

          "าบ เป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณ มันไม่ใช่เพียงแค่เหล็กหรือโลหะเท่านั้น"เสียงบรรยายของอาจารย์ฟิง

    เกิลท่ามกลางห้องที่ถูกสร้างบรรยากาศเป็นทุ่งหญ้า แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์  แสงแดดจากเวทย์

    มนตร์อ่อนแสงลง แสดงถึงยามบ่ายที่มาเยือน สายลมเวทย์พัดผ่านให้ความเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ประตูที่

    เพิ่งก้าวผ่านถูกปิดสนิทร เวทย์ช่วยอำพรางประตูให้กลืนกับบรรยากาศ 
    "คุณชามมิ่ง ดาบของคุณมีสรรพคุณ

    อะไร
    "อาจารย์ฟิงเกิลเดินผ่านแถวนักศึกษาที่นั่งอยู่บนพรมหญ้าสีเขียว อาจารย์สุ่มถามสรรพคุณของดาบแต่

    ละอัน มันน่าแปลก เพราะตามมารยาทแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเค้าถามกันหรอก มันเป็นกลยุทธของแต่ละ

    ฝ่าย
    "ผมยังหาสรรพคุณของมันไม่เจอเลยฮะ อาจารย์"ชามมิ่งตอบคำถามอย่างชาญฉลาด"คุณควรพยายามฝึก

    ซ้อมและหาสรรพคุณของมันให้เจอ คุณเวสตั้น
    "สรรพนามที่อาจารย์ใช้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด "คุณโรริน่า

    หวังว่าโรอากับเฟมิล่าคงสบายดี
    "ชื่อบุพการีถูกเอ่ยขึ้น ทำให้เธอฉุนนิด ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำใจ "ลุก

    มานี่ซิ
    "อาจารย์เรียก โรริน่าทำหน้างง อย่างไม่เข้าใจ  ก่อนจะกระโดดหลบปลายดาบที่อาจารย์ส่งมาให้"มุก

    จันทรา
    "เธอเรียกดาบอย่างคล่องแคล่วพลางกระโดดหลบคมดาบอีกครั้ง  ตั้งท่าเตรียมพร้อม ฟิงเกิลพุ่งดาบมาที่

    เธออีกครั้ง แต่คราวนี้โชคไม่เข้าข้างเธอเสียเลย ปลายดาบเฉือนเนื้อส่วนแขน  เรียกเลือดจากเจ้าหญิง โรริน่า

    กัดฟันกรอด ก่อนจะพุ่งปลายดาบตรงไปยังอาจารย์ ดาบปะทะดาบเกิดเสียงดัง  ก่อนผู้เยาว์จะเสียท่าให้ผู้อวุโส

    เลือดซิบไหลออกมาจากแผลใหม่ แต่ความพยายามก็ยังไม่หมด  เสียงดาบแหวกอากาศดังหวีดหวิวทำให้เป้า

    หมายอย่างเธอหลบได้ไม่ยาก  ดาบใหญ่เฉียดปลายผมสีน้ำตาลไปเพียงเล็กน้อย
    เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะ

    รับ อย่าว่าแต่เป็นฝ่ายรุกเลย ดาบของอาจารย์ฟิงเกิลพุ่งมายังเธออย่างกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่มีแม้ช่องว่าง

    ให้เธอได้ตั้งตัว กลุ่มเพื่อน ตีวงล้อมให้เป็นวงกว้างเพื่อป้องกันการเป็นลูกหลง แต่ถึงอย่างไรก็ยังมองมา

    อย่างเป็นห่วง
    โรริน่าถอยหลังกรูดเพื่อเตรียมโจมตี ดาบเรียวพุ่งตรงไปยังดาบใหญ่ที่คอยท่าอยู่ ดาบปะทะ

    ดาบอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเป็นฝ่ายได้เปรียบ เฉือนเสื้อคลุมของอาจารย์ขาด เสียงเฮจากเพื่อน ที่เฝ้าสังเกต

    การณ์เชียร์ลั่น เกมส์เริ่มสนุกเมื่ออาจารย์ฟิงเกิลไม่ได้เป็นผู้โจมตีเพียงฝ่ายเดียว
     ก่อนออดหมดเวลาจะดัง

    พร้อมกับเด็กสาวที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อคลุมที่ยังไม่ทันได้ซ่อมจากการโดนไฟไหม้ขาดเป็นทาง


    "วันนี้พอแค่นี้"อาจารย์ฟิงเกิลกล่าวทิ้งท้ายและหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์  โรริน่าเดินโซเซออกมาจากห้อง

    เรียนดาบ
    และตรงไปยังห้องสอนเวทย์มนตร์โดยมีเพื่อนรักเดินตามหลังมา

         "วันนี้เราจะเรียนเวทย์ชั้นสูง คือเวทย์สร้างปีก"เสียงอาจารย์สอนวิชาพ่อมดศาสตร์เอ่ยขึ้นหลังนัก

    ศึกษาเข้ามากันครบแล้ว เสียงพูดคุยวิพากวิจารณ์ดังกันเซ็งแซ่ ก่อนจะเงียบลงเมื่อหางตาของอาจารย์กวาดมอง

    มา
    "เปิดตำราพ่อมดศาสตร์หน้าที่ 38"สิ้นคำสั่งเสียงเปิดหนังสือก็ดังกันผึบผับ"เซเรีย เซราเฟีย อเมอทา ปาติคู

    ลา วิง
    "อาจารย์ร่ายเวทย์ใส่หนังสือเป็นตัวอย่าง  พออาจารย์ร่ายเวทย์จบ หนังสือพ่อมดศาสตร์เล่มหนาก็มีปีกสี

    ขาวโผล่ออกมา มันบินวนไปรอบห้อง ตามคำสั่งก่อนจะจอดลงที่โต๊ะอาจารย์อย่างสวยงาม เสียงปรบมือดังไป

    ทั่ว
    "เวทย์นี้ถึงจะเป็นคาถาที่ไม่ยาว แต่ก็ต้องใช้พลังจิตสูง คือต้องมีสมาธิ เพ่งจิตไปยังเป้าหมายให้ดี และที่

    สำคัญ เวทย์บทนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อพวกคุณมีพลังเวทย์ที่สูงในระดับนึง  ผมไม่คาดหวังให้พวกคุณทุกคนต้อง

    ใช้เวทย์นี้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่จะให้พวกคุณทดลองเพื่อจะได้เป็นแรงผลักดันให้พวกคุณฝึกฝน

    เวทย์จนมีระดับเวทย์ที่แกร่ง
    "เสียงเอะอะโวยวายดังไปทั่วเมื่อฟังคำอธิบายเสร็จ จนอาจารย์ต้องรีบห้าม

    ปราม
    "เอาอย่างนี้ละกัน เพื่อเห็นแก่ความขยันที่พวกคุณฝึกฝนเวทย์ ถ้าใครใช้เวทย์นี้ได้สำเร็จ ผมจะให้สอง

    คะแนน
    "เสียงโวยวายเงียบไป แต่แทนที่ด้วยเสียงร่ายเวทย์  ตามคาด คนที่ทำได้สำเร็จเป็นคนแรกจะเป็นใคร

    ไปได้นอกจากเจ้าหญิงแห่งวิชท์แลนด์ตามติดมาด้วยคู่หูเพื่อนยากจ้าหญิงโรริน่า เมอชาร์น คนที่ใคร ก็รู้จัก 


     
    ส่วนคนที่ทำได้แย่ที่สุดเห็นทีจะเป็นเจ้าหญิงนาเนีย แห่งมาเมโล ที่พยายามเสกแก้วน้ำให้บินได้ แต่ไม่ว่าจะ

    เสกซักเท่าไหร่ มันก็กลายเป็นหูกระต่ายโผล่ออกมาอยู่ดี  ทั้งชั่วโมงจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

         "ก่อเรื่องที่ไหนมาอีกล่ะ"เสียงของเจ้าชายรุ่นพี่ตะโกนมาจากระเบียงชั้นบน ทำให้รุ่นน้องอย่างเธอ

    ต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองอย่างไม่สบอารมณ์
     เจ้าชายรัชทายาทแห่งสโนเฟลค ที่ใคร ชมนักชมหนาว่า

    เก่งกาจ กำลังนั่งห้อยขาลงมาจากระเบียงชั้นสาม ในมือมีหนังสือเล่มหนาพร้อมปากกาด้ามโปรดสีทอง ใบ

    หน้ายิ้มแย้มแสดงถึงอารมณ์ที่แจ่มใส
    "ขอให้ตกลงมาเถอะ เพี่ยง"เสียงรุ่นน้องสาบแช่งทำให้เจ้าชายหุบยิ้ม

    "ถ้าบังเอิญพี่ทำหนังสือเล่มนี้ตกลงไป ก็ต้องขอโทษที"เขาขู่พลางยิ้มให้อย่างมีชัย โรริน่าแลบลิ้นใส่อย่าง

    สนิทรสนม
    "ว่าไง ไปก่อเรื่องที่ไหนมาล่ะ"รุ่นพี่ที่อยู่เหนือหัวยังตะโกนถามไม่เลิก "รู้ได้ไง ว่าไปก่อ

    เรื่อง
    "เธอถามลองภูมิ"ก็แหม เสื้อคลุมเจววิส เคยมีรอยขาดที่ไหนกัน แล้วยังมีคราบเลือดอีก"เขาตะโกน

    ตอบ
    "ก็แค่ฝึกซ้อมดาบนิดหน่อย"เธอตอบไปอย่างไม่ได้สนใจ"ไม่นิดล่ะมั้ง อย่าลืมไปซ่อมด้วย  เดี๋ยวเค้าจะ

    หาว่า
    Pearl ดูแลนักศึกษาไม่ดี ปล่อยให้ใส่เสื้อคลุมซอมซ่อ"เขาตะโกนลงมา สร้างความหมั่นไส้ให้รุ่นน้อง

    ได้ไม่น้อย
    "งั้นก็ซ่อมให้สิ"โรริน่าตะโกนขึ้นไปอีกครั้ง"ซ่อมเองไม่เป็นหรือไง"เค็นดิวยังคงตะโกนลงมา

    อย่างไม่รู้จักเหนื่อย
    "ซ่อมเป็นแต่มันเปลืองพลังเวทย์ เฟ้ย"โรริน่าตั้งใจปล่อยคำหยาบไปยังรุ่นพี่เบื้องบน



    ก่อนจะกระโดดหลบหนังสือเล่มหนา ที่รุ่นพี่บังเอิญทำหลุดมือตกลงมาและยิ้มให้อย่างกวน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×