aeae08
ดู Blog ทั้งหมด

พระพุทธรูปยิ้ม หนึ่งเดียวในประเทศไทย

เขียนโดย aeae08

 

               พระพุทธรูปยิ้ม  หรือที่ชาวบ้านและผู้มีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต  เรียกติดปากกันว่าหลวงพ่อยิ้ม

               พระพุทธรูปเก่าแก่มีอายุนับร้อยปี  แห่งวัดนางกุย  ที่มีพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใสจนเห็นได้ชัดองค์เดียวในแผ่นดินนี้  หากใครมีโอกาสได้ไปเห็นก็จะรู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมาก  ผิดกับพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ตามวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากจะมีพระพักตร์นิ่ง  เรียบขรึม แต่ดูสำรวมเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างที่เราเห็นกัน

               หลวงพ่อยิ้ม  พระพุทธรูปที่มองดูแล้วทำให้รู้สึกสบายใจไปกับพระพักตร์ที่อาบไปด้วยรอยยิ้มเบิกบานดังกล่าวนี้  ประดิษฐานอยู่  ณ วัดนางกุย  ตำบลสำเภาล่ม  อำเภอพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองด้านใต้ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก

               สถานที่ตั้งของวัดนางกุยนั้น  ทิศตะวันออกติดที่ดินของชาวบ้าน  ทิศตะวันตกติดวัดร้าง  ทิศเหนือติดแม่น้ำเจ้าพระยา  ทิศใต้ติดที่ดินชาวบ้านและวัดร้างอีกแห่งหนึ่ง  พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

   ความเป็นมาของวัดนางกุยนั้น  จากหลักฐานที่กรมศิลปากรได้ทำการตรวจสอบ  พบว่าสร้างในปี พ..2130 ผู้สร้างชื่อนางกุย  เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง  จึงได้มาสร้างวัดนางกุยอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยา  ซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน

   วัดนี้ในอดีตรุ่งเรืองมาก  ดูได้จากหลักฐานที่มี เช่น พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเก่าแก่ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี  พุทธศตวรรษ 11-16 อายุเกือบหนึ่งพันปีมาแล้ว  หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่าในปี พ.. 2310  วัดนางกุยได้รับความเสียหายมากและถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมจนแทบไม่เหลือสภาพความเป็นวัด

ต่อมาในกรุงรัตนโกสินทร์  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 3 ได้ทรงเสด็จมาสร้างหน้าบัน  มีรูปนารายณ์ทรงครุฑ  และรอบอุโบสถยังมียังมีเสนาคู่  รวมทั้งเจดีย์และพระปรางค์  ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนางกุยแห่งนี้  อดีตเคยเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในกรุงศรีอยุธยามาก่อน  ภายในบริเวณวัด  มีพระอุโบสถเก่าแก่ขนาดความกว้าง 13.4 เมตร  ยาว 23.6 เมตร                                                    นอกจากนั้นยังมีหอสวดมนต์เดิมซึ่งสภาพชำรุดทรุดโทรมมากเพราะสร้างด้วยไม้  จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี  พ.. 2542 มีลักษณะชั้นบนเป็นไม้  ชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูกระเบื้อง  และมีกุฏิสงฆ์จำนวน 5 หลัง  เป็นไม้ 3 หลัง  คอนกรีต 2 หลัง  แบบทรงไทยประยุกต์

               สิ่งสำคัญภายในวัดนางกุยซึ่งมีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมโบราณ  ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี  ปางสมาธิ  ที่มีความงดงามมากหาชมได้ยาก  และเก่าแก่โบราณมาก  เจดีย์และพระปรางค์  เป็นศิลปะสมัยอยุธยาสภาพทั่วไปของโบราณสถานขาดการบูรณะซ่อมแซม

นอกจากนั้นภายในวัดนางกุย  ยังมีศาลแม่ตะเคียนทองซึ่งแกะมาจากต้นตะเคียนที่อยู่คู่กับวัดมาหลายร้อยปี  ไว้เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านโดยทั่วไปอีกด้วย

               สำหรับพระพุทธยอดยิ้มหรือหลวงพ่อยิ้มนี้  ตามประวัติกล่าวว่า  ได้มีคนทางภาคเหนือรับจ้างล่องแพซุงไม้สัก  โดยเริ่มต้นที่ปากน้ำโพซึ่งเป็นจุดรวมของแม่น้ำสี่แคว คือ ปิง วัง ยม และน่าน  ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยใช้เรือกลไฟที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง  ลากจูงแพซุงล่องมาตามลำน้ำ

               การเดินทางครั้งนั้นได้นำพระพุทธรูปปางมารวิชัย  ทำจากไม้สักทองติดมากับแพซุงโดยผ่านมาหลายจังหวัด เช่น  นครสวรรค์  ชัยนาท  สิงห์บุรี  อ่างทอง  เข้าสู่อยุธยา  และได้นำแพซุงมาจอดที่หน้าวัดนางกุย  เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการตรวจเสียก่อน  โดยด่านป่าไม้ในขณะนั้นตั้งอยู่ที่ด้านข้างป้อมเพชร    ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องจักรต้องใช้แรงงานของชาวบ้านเลื่อยไม้สักเป็นแผ่น ๆ ส่งโรงไม้  และได้ถวายพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ทำจากไม้สักทององค์ที่นำมาให้วัดนางกุย  เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชา

               ลักษณะขององค์พระพุทธรูปมีพระพักตร์ยิ้มแย้ม  ผิดแผกแตกต่างไปจากพระพุทธรูปทั่วไป ชาวบ้านจึงเรียกหลวงพ่อยิ้มกันเรื่อยมา  และไดทำการลงรักปิดทอง  เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านตลอดมานับร้อยปีเศษแล้ว

 

 

                                 เหตุเกิดที่เมืองไทย       ผู้แต่ง  ปางบรรพ์

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น