พระพุทธรูปยิ้ม หรือที่ชาวบ้านและผู้มีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เรียกติดปากกันว่า “หลวงพ่อยิ้ม”
พระพุทธรูปเก่าแก่มีอายุนับร้อยปี แห่งวัดนางกุย ที่มีพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใสจนเห็นได้ชัดองค์เดียวในแผ่นดินนี้ หากใครมีโอกาสได้ไปเห็นก็จะรู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมาก ผิดกับพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ตามวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากจะมีพระพักตร์นิ่ง เรียบขรึม แต่ดูสำรวมเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างที่เราเห็นกัน
หลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปที่มองดูแล้วทำให้รู้สึกสบายใจไปกับพระพักตร์ที่อาบไปด้วยรอยยิ้มเบิกบานดังกล่าวนี้ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดนางกุย ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองด้านใต้ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก
สถานที่ตั้งของวัดนางกุยนั้น ทิศตะวันออกติดที่ดินของชาวบ้าน ทิศตะวันตกติดวัดร้าง ทิศเหนือติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศใต้ติดที่ดินชาวบ้านและวัดร้างอีกแห่งหนึ่ง พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ความเป็นมาของวัดนางกุยนั้น จากหลักฐานที่กรมศิลปากรได้ทำการตรวจสอบ พบว่าสร้างในปี พ.ศ.2130 ผู้สร้างชื่อนางกุย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง จึงได้มาสร้างวัดนางกุยอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน
วัดนี้ในอดีตรุ่งเรืองมาก ดูได้จากหลักฐานที่มี เช่น พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเก่าแก่ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษ 11-16 อายุเกือบหนึ่งพันปีมาแล้ว หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่าในปี พ.ศ. 2310 วัดนางกุยได้รับความเสียหายมากและถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมจนแทบไม่เหลือสภาพความเป็นวัด
ต่อมาในกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงเสด็จมาสร้างหน้าบัน มีรูปนารายณ์ทรงครุฑ และรอบอุโบสถยังมียังมีเสนาคู่ รวมทั้งเจดีย์และพระปรางค์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนางกุยแห่งนี้ อดีตเคยเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในกรุงศรีอยุธยามาก่อน ภายในบริเวณวัด มีพระอุโบสถเก่าแก่ขนาดความกว้าง 13.4 เมตร ยาว 23.6 เมตร นอกจากนั้นยังมีหอสวดมนต์เดิมซึ่งสภาพชำรุดทรุดโทรมมากเพราะสร้างด้วยไม้ จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2542 มีลักษณะชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูกระเบื้อง และมีกุฏิสงฆ์จำนวน 5 หลัง เป็นไม้ 3 หลัง คอนกรีต 2 หลัง แบบทรงไทยประยุกต์
สิ่งสำคัญภายในวัดนางกุยซึ่งมีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมโบราณ ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี ปางสมาธิ ที่มีความงดงามมากหาชมได้ยาก และเก่าแก่โบราณมาก เจดีย์และพระปรางค์ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาสภาพทั่วไปของโบราณสถานขาดการบูรณะซ่อมแซม
นอกจากนั้นภายในวัดนางกุย ยังมีศาลแม่ตะเคียนทองซึ่งแกะมาจากต้นตะเคียนที่อยู่คู่กับวัดมาหลายร้อยปี ไว้เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านโดยทั่วไปอีกด้วย
สำหรับพระพุทธยอดยิ้มหรือหลวงพ่อยิ้มนี้ ตามประวัติกล่าวว่า ได้มีคนทางภาคเหนือรับจ้างล่องแพซุงไม้สัก โดยเริ่มต้นที่ปากน้ำโพซึ่งเป็นจุดรวมของแม่น้ำสี่แคว คือ ปิง วัง ยม และน่าน ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยใช้เรือกลไฟที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ลากจูงแพซุงล่องมาตามลำน้ำ
การเดินทางครั้งนั้นได้นำพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทำจากไม้สักทองติดมากับแพซุงโดยผ่านมาหลายจังหวัด เช่น นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง เข้าสู่อยุธยา และได้นำแพซุงมาจอดที่หน้าวัดนางกุย เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการตรวจเสียก่อน โดยด่านป่าไม้ในขณะนั้นตั้งอยู่ที่ด้านข้างป้อมเพชร ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องจักรต้องใช้แรงงานของชาวบ้านเลื่อยไม้สักเป็นแผ่น ๆ ส่งโรงไม้ และได้ถวายพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ทำจากไม้สักทององค์ที่นำมาให้วัดนางกุย เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชา
ลักษณะขององค์พระพุทธรูปมีพระพักตร์ยิ้มแย้ม ผิดแผกแตกต่างไปจากพระพุทธรูปทั่วไป ชาวบ้านจึงเรียกหลวงพ่อยิ้มกันเรื่อยมา และไดทำการลงรักปิดทอง เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านตลอดมานับร้อยปีเศษแล้ว
เหตุเกิดที่เมืองไทย ผู้แต่ง ปางบรรพ์
ความคิดเห็น