ลำดับตอนที่ #78
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #78 : บทที่เจ็ดสิบสาม -- ฉลองวันเกิด
บทที่เจ็ดสิบสาม
เขาและพี่สนตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตั้งใจจะไปทำบุญตักบาตรในวันเกิด เพราะพี่สนบอกว่าภายในมหาวิทยาลัยมีบริเวณที่จัดไว้สำหรับให้เหล่านักศึกษาได้ใส่บาตรและจะมีพ่อค้าแม่ค้ามากางโต๊ะขายอาหารสำเร็จรูปพร้อมดอกไม้ถวายพระให้พร้อมอย่างเสร็จสรรพ เพราะเหตุผลนี้ทำให้นักศึกษาสะดวกที่จะทำบุญกันมากขึ้น และพอประมาณเจ็ดโมงเช้าพระก็มาถึง เราใส่บาตรกันเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกสบายใจและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
เขาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปเรียนตามปกติ และก่อนที่จะออกจากห้องเขาก็ไม่ลืมที่จะโทรหาแม่และพ่อเพื่อขอบคุณที่ทำให้เขาเกิดมาและมีวันสำคัญในวันนี้ ท่านทั้งสองอวยพรวันเกิดผ่านปลายสายโทรศัพท์กลับมา พอเขาได้ฟังก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาทันที
“ ขอบคุณพ่อกับแม่ด้วยเหรอ ? ” พี่สนถาม
“ ครับ ” เพราะทุกๆปีเขาก็ทำแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้พูดขอบคุณต่อหน้าท่านทั้งสองเท่านั้นเอง
รุ่นพี่เผยยิ้มบาง “ ดีจังเลยเนอะ ”
พอไปถึงห้องเรียนในตอนเช้า แพรกับไอ้จัมโบ้ก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขาเสียยกใหญ่ตั้งแต่ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้เลยด้วยซ้ำ จนเพื่อนที่อยู่แถวนั้นร่วมใจกันร้องเพลงและปรบมือให้ด้วย ทำเอาเขาดีใจจนยิ้มแก้มปริ
“ ณัฐ แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ มีความสุขมากๆ !!! ” แพรยื่นของขวัญมาให้หนึ่งกล่อง เขายื่นมือออกไปรับด้วยหัวใจที่ปลาบปลื้ม
“ ขอบคุณมากนะแพร ”
“ ว่าแต่อะไรเนี่ย ทำไมหนักจัง ? ” เขาพิจารณามองกล่องของขวัญที่มีน้ำหนักพอประมาณ
“ ไว้เปิดดูเองละกันนะ ” เธอยิ้มหวาน
“ อ๊ะ ตากูบ้าง !! ” คราวนี้ไอ้จัมโบ้ยื่นสิ่งหนึ่งมาให้ โดยที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มภายนอกทั้งสิ้น
“ หือ ? ” เขามองสมุดเล่มสีดำขนาดใหญ่
“ สมุดสเก็ตภาพไง !! ” มันบอก
“ แกน่าจะห่อมาสักหน่อยนะจัมโบ้ แบบนี้ก็เห็นหมดสิ ” แพรพูดแทรกขึ้นมา
“ มันเปลือง ยังไงก็ต้องฉีกทิ้งอยู่ดี ”
คำตอบนั้นทำเอาเขาพยักหน้าหงึกๆตามทันที อืมม นั่นสินะ...ไอ้จัมโบ้ก็พูดถูกของมัน
“ ขอบคุณมากนะ ทั้งสองคนเลย ” เขายิ้มอย่างมีความสุข
“ ไม่เป็นไรหรอก ” แพรยิ้มหวานมาให้
“ อืม ใช่ !! ” เขาแหงนหน้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกอะไรออก
เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้าอย่างงงๆ
“ เย็นนี้ว่างมั้ย ? ไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง !! ”
แต่แล้ว...ปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองกลับทำให้เขาแปลกใจนิดๆ
“ เอ่อ... ” แพรหันไปมองหน้าจัมโบ้
“ ...คือเย็นนี้แพรไม่ว่างอ่ะณัฐ ขอโทษทีนะ ”
เขาหันไปมองหน้าเพื่อนตัวอ้วนทันที หวังว่าอีกฝ่ายคงจะไม่...
“ กูก็ไม่ว่างเหมือนกันว่ะ เพราะต้องไปกินเลี้ยงกับพี่รหัส เป็นวันเดียวที่พี่ทุกชั้นปีว่างตรงกันซะด้วย ก็เลย...ปฏิเสธไม่ได้เลย ”
ร่างเพรียวหน้าหงอยลงทันที
“ อืมม งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้วันหลังก็ได้ ”
“ ขอโทษนะ ”
***************************
ตกเย็น...เขากลับมาหอพักตามปกติ เพราะก่อนหน้านี้ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนสนิททั้งสองคนสักหน่อย แต่แล้ว...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนจะไม่ว่างกันทั้งคู่
เฮ้อ...นึกแล้วก็รู้สึกน้อยใจนิดๆ แต่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้นี่นา เดี๋ยวค่อยไปเลี้ยงฉลองด้วยกันวันหลังก็ได้
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ...
ทำไมคนที่นั่งด้านข้างเขาต้องทำหน้าบูดตลอดทางขับรถด้วยล่ะเนี่ย !!!
“ พี่สน ? ” เขาถามขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังจะลงจากรถ
“ อะไร ? ” ฝ่ายนั้นถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ ช่วยถือนี่ให้ด้วย ณัฐถือไม่ไหว ” เขาชี้นิ้วไปยังเจ้า ‘ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่’ ที่กำลังนั่งพุงป่องอยู่เบาะด้านหลังรถ
นั่นเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ก็เลยมีเพื่อนซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้ แต่ก็มีบางคนที่ทำเอาเขาแปลกใจได้เหมือนกัน เพราะมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งซื้อตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่มากกว่าครึ่งตัวคนมาให้น่ะสิ ทำเอาเขาตกใจจนพูดไม่ออกเพราะคิดว่าราคาคงจะหลายพันอยู่เหมือนกัน รู้สึกเกรงใจมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะเธอก็ตั้งใจซื้อมาให้จริงๆ ได้แต่รับของขวัญมาแล้วเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า จนเธอยิ้มเขินอายหน้าแดงแล้วรีบเดินจากไปนั่นแหละ
และพอตกเย็นหลังเลิกเรียนที่เขาต้องรอกลับกับรุ่นพี่ พอฝ่ายนั้นเห็นตุ๊กตาตัวนี้เข้าก็ซักถามเสียยกใหญ่ว่าได้มาจากไหน? ใครซื้อให้? ผู้หญิงหรือผู้ชาย? ชื่ออะไร? เขาก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมด และพอรุ่นพี่เห็นว่าไม่มีอะไรน่ากังวลฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก แต่ก็ยังทำหน้าบูดไม่พูดไม่จาแบบเดิม
...เฮ้อ...ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แหงๆ...
“ พี่สนถือตุ๊กตานะ ” เขาบอกอีกฝ่าย เพราะเขาก็ถือถุงของขวัญพะรุงพะรังเต็มมือมากพออยู่แล้ว ถ้าจะให้อุ้มตุ๊กตาที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
“ ให้มันเดินไปเองสิ ! ” คำตอบของรุ่นพี่ทำเอาเขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
“ บ้า ! น้องหมีจะเดินได้ไง มันหนักพุง ” เขาพูดเล่นบ้าง
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่รุ่นพี่ก็ยอมแบกน้องหมีออกมาจากรถแต่โดยดี ฝ่ายนั้นอุ้มจนเกือบจะไม่เห็นใบหน้าเพราะตุ๊กตาตัวใหญ่เหลือเกิน
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ฝ่ายนั้นก็แกล้งพูดเสียงลอย
“ แฟนเราก็ฮ็อตเหมือนกันนะเนี่ย ! ”
เขาแอบอมยิ้มทันที “ ทำไม...หึงเหรอ ? ”
พี่สนไม่ตอบคำถาม แต่วางเจ้าตุ๊กตาหมีไว้บนโซฟา การกระทำต่อมาของรุ่นพี่กลับทำให้เขาหลุดขำออกมาทันทีเพราะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เพราะฝ่ายนั้นทำหน้าถมึงทึง ชี้หน้าเจ้าตุ๊กตาหมี แล้วพูดขึ้นมาว่า...
“ อยู่นี่นะ ! ห้ามเข้าไปในห้องนอนเด็ดขาด ไม่งั้นจะเอาไปทิ้งขยะเลย ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ พี่สนต้องบ้าแน่ๆเลย ”
“ เนอะ น้องหมีเนอะ ” เขาพยักเพยิดให้เจ้าตุ๊กตาบ้าง ทำเอารุ่นพี่หลุดยิ้มออกมาทันที
“ น้องหมีห้ามมากวนเวลาที่พวกพี่จู๋จี๋กันนะ ” พี่สนนั่งลงข้างกันแล้วออกคำสั่งบอกตุ๊กตา
“ น้องหมี...ถ้าพี่สนหื่น ให้รีบจัดการเลยนะ ”
ฝ่ายนั้นหรี่ตา “ เดี๋ยวเอาไปคืนซะเลย ! ”
“ ไม่เอานะ ! ” เขาคว้าตุ๊กตาตัวนุ่มนั้นทันที
การกระทำนั้นทำเอารุ่นพี่หน้าบูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนใจหันมากอดร่างของคนด้านข้างแทน
“ พี่สนหึงไม่เข้าเรื่อง แค่ตุ๊กตาเนี่ยนะ ”
“ หึงได้หมดแหละ...คน สัตว์ สิ่งของ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ บ้า !! ” เขาหัวเราะแล้วแหงนหน้าขึ้นมามอง
“ ถึงยังไงณัฐก็ชอบของขวัญของพี่สนมากที่สุดอยู่ดี ”
“ จริงนะ ”
“ อื้มม ” เขาผงกหัวแรงๆ
รุ่นพี่เผยยิ้มบาง แล้วลูบศีรษะเขาเบาๆ เขาจึงรีบถามต่อ
“ งั้นหายหึงนะ ”
ฝ่ายนั้นส่ายศีรษะแล้วจิ้มนิ้วลงไปที่ริมฝีปากของตัวเอง
“ จูบพี่ก่อน ”
เขาอมยิ้ม ก่อนที่จะค่อยๆเกี่ยวลำคอของอีกฝ่ายให้โน้มเข้ามาใกล้...จนริมฝีปากของเราทั้งสองประกบแนบชิดกันในที่สุด
“ ห้ามหึงน้องหมีอีกนะ ” เขาพูดแหย่
“ อื้ออ ” ฝ่ายนั้นตอบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเข้ามาประทับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง...
***************************
...สามชั่วโมงต่อมา...
ขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือ และรุ่นพี่ก็กำลังนอนดูทีวีเล่นอยู่บนโซฟาอยู่นั้น
ทันใดนั้นเอง !! ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด เพราะแสงไฟได้ดับสนิทหมดทุกดวง
เอ๋...ไฟดับงั้นเหรอ ?
เขาตกใจ รีบขยับตัวเข้าไปใกล้พี่สนตามสัญชาตญาณ แต่แล้วฝ่ายนั้นกลับลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... !!! ” เสียงประสานร้องเพลงได้ดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟสีส้มส่องสว่างลอดเข้ามาให้ได้เห็น
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... ” กลุ่มคนประมาณเกือบสิบชีวิตได้เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเค้กก้อนใหญ่
เขาเห็นเข้าดังนั้นก็เข้าใจแล้วเผยยิ้มกว้างออกมาทันที
นี่ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้เขาอย่างนั้นเหรอ ?!!
ทั้งพี่กฤต พี่เม้ง พี่ปอร์เช่ พี่นนท์ พี่ฉัตร พี่เก่ง พี่โต้ง กลุ่มเพื่อนสนิทของพี่สนมากันหมดทุกคน...แต่ยังไม่ใช่แค่นั้น !!
เอ๋...นั่นมีแพรกับจัมโบ้ด้วยนี่นา ไหนบอกว่าไม่ว่างไง ?
“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์...แฮปปี้เบิร์ธเดย์...แฮปปี้เบิร์ธ...เดย์...ทู...ยู ”
พี่กฤตเดินถือเค้กก้อนใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มกว้างมาให้ ก่อนที่พี่สนจะมากระซิบที่ข้างหูบอกให้เขารีบเป่าเทียน เขาลึกลักเล็กน้อยเพราะทำตัวไม่ถูก แต่ก็รีบเป่าเทียนจนดับหมดทุกเล่มอย่างรวดเร็ว
“ เย้ ๆ ๆ ๆ สุขสันต์วันเกิดนะ !!!! ” เสียงของกลุ่มคนทางด้านหน้าตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขาดีใจจนยิ้มไม่หุบ แล้วแสงไฟภายในห้องก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง
“ เอ่อ... ” เขาได้แต่แปลกใจปนดีใจจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรก่อนดี ได้แต่หันไปมองพี่สนอย่างงงๆ
“ ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้ณัฐไง ” รุ่นพี่พูดขึ้น
“ ขอบคุณมากนะครับ ” เขายิ้มจนหน้าบาน แล้วโค้งหัวน้อยๆให้พวกรุ่นพี่ ก่อนที่จะรีบหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสอง
“ ไหนเมื่อเช้าบอกว่าไม่ว่างกันไง ?!! แล้วนี่ทำไมมาได้ ”
แพรยิ้มแป้น แล้วชี้นิ้วไปไปทางคนที่อยู่ด้านหลังเขาทันที
...เอ๋...พี่สนเหรอ...?
ฝ่ายนั้นมอบรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ นั่นทำให้เขาอยากจะกระโดดเข้าไปกอดรุ่นพี่ให้ชื่นใจ...แต่ก็ต้องยั้งใจไว้
“ พอไอ้สนมันชวน พวกพี่ก็เลยยกโขยงมากันหมดเลยนี่แหละ ” พี่เม้งรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“ อืม...เราก็เหมือนกัน ขอโทษนะที่แกล้งบอกว่าไม่ว่าง เพราะกลัวจะไม่เซอร์ไพรส์น่ะ ฮ่ะ ๆ ” แพรบอก
ตอนนี้เขารู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออก ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้กับเขา ทั้งเพื่อนของพี่สน...และก็เพื่อนสนิทของเขาเอง...ดีใจจังเลย...
“ ขอบคุณมากนะ ”
“ อ้าว !! ไม่ต้องพิธีรีตอง มา ๆ ๆ พวกเราจัดสถานที่ ” พี่ปอร์เช่พูด แล้วทุกคนก็แยกย้ายเข้ามาภายในแล้วนั่งตรงกลางห้องอย่างรวดเร็ว
รุ่นพี่เข้าไปในครัวเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และไม่นานอาหารที่เตรียมมาก็ถูกจัดวางไว้ตรงกลางห้อง พวกเราทั้งหมดนั่งรอบหม้อสุกี้หม้อใหญ่ พวกรุ่นพี่เล่นซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมรวมทั้งขนมของกินเล่นต่างๆมาเพียบ แล้วยังรวมกับเค้กปอนด์ใหญ่นี้อีก จึงไม่ต้องห่วงว่าจะกินกันไม่พอ
การกินอาหารร้อนๆในเวลาที่อากาศหนาวๆกับคนสนิทแบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศการกินเป็นไปอย่างสนุกสนานครื้นเครง เพื่อนสนิททั้งสองคนของเขาเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนพี่สน...โดยเฉพาะไอ้จัมโบ้ที่ดูเหมือนจะชื่นชอบรุ่นพี่กลุ่มนี้มาก เพราะเห็นมันหัวเราะไม่หยุดเลย
และระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่นั้น เขาก็แอบกระซิบที่ข้างหูพี่สนว่า
“ พี่สน...ขอบคุณนะ ”
“ ขอบคุณด้วยอย่างอื่นได้ม้า ? ” ฝ่ายนั้นทำหน้าทะเล้นใส่
“ อะไร ? ”
อีกฝ่ายโน้มตัวเข้ามากระซิบเบาๆ
“ เดี๋ยวคืนนี้จะบอกละกัน... ”
“ ทะลึ่ง !! ” โดยที่ร่างเพรียวไม่รู้ตัวเลยว่าได้เผลอหน้าแดงออกมา
ระหว่างที่กำลังนั่งกินอาหารกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น อยู่ดีๆพี่สนก็ลุกขึ้นไปหยิบกีตาร์โปร่งแล้วนั่งบนโซฟา ไม่ใช่แค่นั้น...เพราะพี่เม้งก็ย้ายร่างไปนั่งข้างพี่สนอีกเช่นกัน
เขาและเพื่อนทำหน้าสงสัย และไม่นาน...เสียงเกากีตาร์จากพี่สนก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกรุ่นพี่ปรบมือพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องกันยกใหญ่
“ อะแฮ่ม อะแฮ่ม !! ” พี่เม้งกระแอม
“ วันนี้เรามีโชว์เล็กๆน้อยๆมาให้ดูกันนะครับ เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดน้องณัฐของเรา เอ้ย ไม่ใช่ !! ของไอ้สนคนเดียวครับ ”
เขาหัวเราะแล้วโบกมือปฏิเสธหยอยๆ พี่สนเห็นดังนั้นก็ถลึงตาใส่เขาทันที เขาจึงรีบเก็บมือโดยเร็วพร้อมกับอมยิ้ม
“ ขอมอบเพลงนี้ให้กับเจ้าของวันเกิดนะครับ ”
เสียงปรบมือดังขึ้น พี่เม้งส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนที่จะเริ่ม ‘ท่อนพูด’ ของเพลง ระหว่างนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็ยิ่งส่งเสียงโห่ดังมากขึ้นกว่าเดิม บางคนก็หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย ได้ยินแต่เสียงแว่วๆว่าตลกสีหน้าพี่เม้ง
กดฟัง
(...ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับเขา แทบไม่น่าเชื่อว่าชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงขนาดนี้
และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ผมคิดว่าผมได้ตัดสินใจดีที่สุดแล้ว...)
...แม้ว่าการตัดสินใจของฉันจะผิดพลาดมากสักเพียงไหน
ก็ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...
พี่สนร้องท่อนเนื้อเพลง เขากับแพรปรบมือเสียงดังให้รุ่นพี่ทันที ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะส่งยิ้มหวานมาให้ เขาพึ่งจะได้เคยฟังพี่สนร้องเพลงก็วันนี้นี่แหละ พึ่งรู้ว่าก็เสียงดีเหมือนกันนะเนี่ย
(...ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน
เหมือนกับความสุขเหนือความสุข ความปลดปล่อยเหนือความปลดปล่อย...)
...ฉันรู้ ฉันรู้ ตั้งแต่วันที่ฉันนั้นมีโอกาสได้ใกล้เธอ
หัวใจฉันเองก็รู้ดี
เธอคือคนนั้น คนที่ฉันไม่เคยคิดฝันว่ามี
แล้วเธอ แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้...
ระหว่างที่กำลังร้องฝ่ายนั้นก็ชอบส่งสายตาหวานให้ เขารู้สึกเขินเสียจนไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะแพรที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็กรี๊ดเบาๆเพราะรู้สึกเขินเหมือนกัน เธอแอบกระซิบให้ฟังว่า...เขินแทน...นั่นเอง
(...และการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในชีวิตผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น...)
...แม้ว่าการ ตัดสินใจ ของฉันจะผิดพลาด
มากสักเพียงไหน ก็ไม่อาจ เปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...
...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนไม่สำคัญ...
(...แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม
แต่ว่า ผมคงหยุดมันไม่ได้แล้ว...)
...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนฉันยอม...
บทเพลงที่อีกฝ่ายตั้งใจมอบให้เขาได้จบลง เขาปรบมือให้รุ่นพี่ทั้งสองพร้อมกับยิ้มจนแก้มปริด้วยความซาบซึ้งใจ หลังจากนั้นพี่เม้งก็ถูกเพื่อนเรียกให้กลับเข้าไปในวงทันทีแล้วไล่ให้พี่เก่งมาทำหน้าที่นี้แทน เพราะเพื่อนๆทนฟังไม่ไหวกันแล้ว หลังจากนั้นบทเพลงก็ถูกร้องและเล่นอย่างต่อเนื่อง
เพราะคืนนี้เป็นคืนวันศุกร์...ทำให้พวกเขาสามารถฉลองกันอย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบตื่นไปเรียนแต่เช้า นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยจนปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า ทุกคนจึงได้ร่ำลาและแยกย้ายกันกลับที่พักของแต่ละคน
และพอเก็บห้องจนสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว เขากับพี่สนก็ผลัดกันอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ก่อนที่จะมานอนพักผ่อนบนเตียงที่หนานุ่ม เขากระโดดมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วนอนกอดรุ่นพี่เอาไว้เหมือนอย่างทุกวัน
“ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปีนี้จะได้ฉลองงานวันเกิด แล้วก็มีคนมาเยอะขนาดนี้...สนุกมากเลย ” เขาพูดขึ้นมาลอยๆขาก็พาดก่ายรุ่นพี่เอาไว้ ขนาดนอนอยู่ใต้ผ้าห่มยังไม่รู้สึกอุ่นเท่าไหร่เลย ต้องนอนกอดพี่สนแบบนี้แหละ...ถึงจะรู้สึกอบอุ่นจริงๆ
ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาไปมา “ แล้วมีความสุขมั้ย ? ”
“ มีความสุขมากเลยต่างหาก ”
“ ดีแล้ว ”
“ พี่สน...? ”
“ ฮึ ? ”
“ พี่สน...น่ารักที่สุดเลยรู้ป่าว ” เขาเอ่ยบอกด้วยความเขินอาย
“ รู้สิ...ทำไมจะไม่รู้ ไม่ใช่แค่น่ารักนะ หล่อมากด้วย ”
“ แหวะ ” เขาเบ้ปาก ก่อนที่จะกลับไปซบอกฝ่ายนั้นดังเดิม
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ถามหน่อยสิ...แล้วพี่สนไปชวนแพรกับจัมโบ้ตอนไหนอ่ะ ? ” เขาถามเรื่องที่สงสัย
“ บอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีบังเอิญเจอกัน พี่ก็เลยชวนว่าอยากจัดงานวันเกิดให้ณัฐ สองคนนั้นก็ตกลง ”
“ เหรอ ? มิน่าล่ะ พอณัฐชวนก็โดนปฏิเสธ ยังน้อยใจอยู่เลยเนี่ย ที่แท้...ก็สมคบคิดวางแผนกับพี่สนนี่เอง ”
“ ก็แค่อยากให้มาฉลองด้วยกัน ถ้ามาแค่เพื่อนพี่ก็คงจะไม่สนุกเท่าไหร่ ”
ร่างเพรียวยิ้มบาง
“ นั่นสินะ เพราะว่ามากันทั้ง ‘เพื่อนพี่สน’ แล้วก็ ‘เพื่อนณัฐ’ ความรู้สึกมันแบบว่า...บอกไม่ถูกเลย มีความสุขมากจริงๆ ”
รุ่นพี่กอดเขาให้แน่นขึ้น “ อืมม...พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกัน ”
“ พี่สน ขอบคุณนะ ”
เขาพูดคำนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะว่ารู้สึกอยากขอบคุณรุ่นพี่จริงๆ ที่ชีวิตตอนนี้เขามีความสุขได้มากมายขนาดนี้ก็เพราะพี่สนทั้งนั้นแหละ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่มีใครสักคนที่รักเราและเราก็รักเขา...ได้ทำอะไรเพื่อกันและกัน จะมีความสุขได้มากมายขนาดนี้...บางครั้งก็รู้สึกว่ามีความสุขมากเสียจนไม่รู้จะปลดปล่อยอย่างไรดี
เขาแหงนหน้ามองรุ่นพี่แล้วยิ้มหวานให้
“ ณัฐรักพี่สนนะ ” โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโตมากแค่ไหน
“ ครับ...พี่ก็รักณัฐเหมือนกัน... ” รุ่นพี่ก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากเขาเบาๆ
“ ...รักมากด้วย ”
“ แต่ณัฐรักพี่สนมากกว่านะ ”
“ ใครว่า...พี่รักณัฐมากกว่าอีก ”
****************************************
เขาและพี่สนตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตั้งใจจะไปทำบุญตักบาตรในวันเกิด เพราะพี่สนบอกว่าภายในมหาวิทยาลัยมีบริเวณที่จัดไว้สำหรับให้เหล่านักศึกษาได้ใส่บาตรและจะมีพ่อค้าแม่ค้ามากางโต๊ะขายอาหารสำเร็จรูปพร้อมดอกไม้ถวายพระให้พร้อมอย่างเสร็จสรรพ เพราะเหตุผลนี้ทำให้นักศึกษาสะดวกที่จะทำบุญกันมากขึ้น และพอประมาณเจ็ดโมงเช้าพระก็มาถึง เราใส่บาตรกันเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกสบายใจและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
เขาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปเรียนตามปกติ และก่อนที่จะออกจากห้องเขาก็ไม่ลืมที่จะโทรหาแม่และพ่อเพื่อขอบคุณที่ทำให้เขาเกิดมาและมีวันสำคัญในวันนี้ ท่านทั้งสองอวยพรวันเกิดผ่านปลายสายโทรศัพท์กลับมา พอเขาได้ฟังก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาทันที
“ ขอบคุณพ่อกับแม่ด้วยเหรอ ? ” พี่สนถาม
“ ครับ ” เพราะทุกๆปีเขาก็ทำแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้พูดขอบคุณต่อหน้าท่านทั้งสองเท่านั้นเอง
รุ่นพี่เผยยิ้มบาง “ ดีจังเลยเนอะ ”
พอไปถึงห้องเรียนในตอนเช้า แพรกับไอ้จัมโบ้ก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขาเสียยกใหญ่ตั้งแต่ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้เลยด้วยซ้ำ จนเพื่อนที่อยู่แถวนั้นร่วมใจกันร้องเพลงและปรบมือให้ด้วย ทำเอาเขาดีใจจนยิ้มแก้มปริ
“ ณัฐ แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ มีความสุขมากๆ !!! ” แพรยื่นของขวัญมาให้หนึ่งกล่อง เขายื่นมือออกไปรับด้วยหัวใจที่ปลาบปลื้ม
“ ขอบคุณมากนะแพร ”
“ ว่าแต่อะไรเนี่ย ทำไมหนักจัง ? ” เขาพิจารณามองกล่องของขวัญที่มีน้ำหนักพอประมาณ
“ ไว้เปิดดูเองละกันนะ ” เธอยิ้มหวาน
“ อ๊ะ ตากูบ้าง !! ” คราวนี้ไอ้จัมโบ้ยื่นสิ่งหนึ่งมาให้ โดยที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มภายนอกทั้งสิ้น
“ หือ ? ” เขามองสมุดเล่มสีดำขนาดใหญ่
“ สมุดสเก็ตภาพไง !! ” มันบอก
“ แกน่าจะห่อมาสักหน่อยนะจัมโบ้ แบบนี้ก็เห็นหมดสิ ” แพรพูดแทรกขึ้นมา
“ มันเปลือง ยังไงก็ต้องฉีกทิ้งอยู่ดี ”
คำตอบนั้นทำเอาเขาพยักหน้าหงึกๆตามทันที อืมม นั่นสินะ...ไอ้จัมโบ้ก็พูดถูกของมัน
“ ขอบคุณมากนะ ทั้งสองคนเลย ” เขายิ้มอย่างมีความสุข
“ ไม่เป็นไรหรอก ” แพรยิ้มหวานมาให้
“ อืม ใช่ !! ” เขาแหงนหน้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกอะไรออก
เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้าอย่างงงๆ
“ เย็นนี้ว่างมั้ย ? ไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง !! ”
แต่แล้ว...ปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองกลับทำให้เขาแปลกใจนิดๆ
“ เอ่อ... ” แพรหันไปมองหน้าจัมโบ้
“ ...คือเย็นนี้แพรไม่ว่างอ่ะณัฐ ขอโทษทีนะ ”
เขาหันไปมองหน้าเพื่อนตัวอ้วนทันที หวังว่าอีกฝ่ายคงจะไม่...
“ กูก็ไม่ว่างเหมือนกันว่ะ เพราะต้องไปกินเลี้ยงกับพี่รหัส เป็นวันเดียวที่พี่ทุกชั้นปีว่างตรงกันซะด้วย ก็เลย...ปฏิเสธไม่ได้เลย ”
ร่างเพรียวหน้าหงอยลงทันที
“ อืมม งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้วันหลังก็ได้ ”
“ ขอโทษนะ ”
***************************
ตกเย็น...เขากลับมาหอพักตามปกติ เพราะก่อนหน้านี้ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนสนิททั้งสองคนสักหน่อย แต่แล้ว...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนจะไม่ว่างกันทั้งคู่
เฮ้อ...นึกแล้วก็รู้สึกน้อยใจนิดๆ แต่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้นี่นา เดี๋ยวค่อยไปเลี้ยงฉลองด้วยกันวันหลังก็ได้
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ...
ทำไมคนที่นั่งด้านข้างเขาต้องทำหน้าบูดตลอดทางขับรถด้วยล่ะเนี่ย !!!
“ พี่สน ? ” เขาถามขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังจะลงจากรถ
“ อะไร ? ” ฝ่ายนั้นถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ ช่วยถือนี่ให้ด้วย ณัฐถือไม่ไหว ” เขาชี้นิ้วไปยังเจ้า ‘ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่’ ที่กำลังนั่งพุงป่องอยู่เบาะด้านหลังรถ
นั่นเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ก็เลยมีเพื่อนซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้ แต่ก็มีบางคนที่ทำเอาเขาแปลกใจได้เหมือนกัน เพราะมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งซื้อตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่มากกว่าครึ่งตัวคนมาให้น่ะสิ ทำเอาเขาตกใจจนพูดไม่ออกเพราะคิดว่าราคาคงจะหลายพันอยู่เหมือนกัน รู้สึกเกรงใจมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะเธอก็ตั้งใจซื้อมาให้จริงๆ ได้แต่รับของขวัญมาแล้วเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า จนเธอยิ้มเขินอายหน้าแดงแล้วรีบเดินจากไปนั่นแหละ
และพอตกเย็นหลังเลิกเรียนที่เขาต้องรอกลับกับรุ่นพี่ พอฝ่ายนั้นเห็นตุ๊กตาตัวนี้เข้าก็ซักถามเสียยกใหญ่ว่าได้มาจากไหน? ใครซื้อให้? ผู้หญิงหรือผู้ชาย? ชื่ออะไร? เขาก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมด และพอรุ่นพี่เห็นว่าไม่มีอะไรน่ากังวลฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก แต่ก็ยังทำหน้าบูดไม่พูดไม่จาแบบเดิม
...เฮ้อ...ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แหงๆ...
“ พี่สนถือตุ๊กตานะ ” เขาบอกอีกฝ่าย เพราะเขาก็ถือถุงของขวัญพะรุงพะรังเต็มมือมากพออยู่แล้ว ถ้าจะให้อุ้มตุ๊กตาที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
“ ให้มันเดินไปเองสิ ! ” คำตอบของรุ่นพี่ทำเอาเขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
“ บ้า ! น้องหมีจะเดินได้ไง มันหนักพุง ” เขาพูดเล่นบ้าง
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่รุ่นพี่ก็ยอมแบกน้องหมีออกมาจากรถแต่โดยดี ฝ่ายนั้นอุ้มจนเกือบจะไม่เห็นใบหน้าเพราะตุ๊กตาตัวใหญ่เหลือเกิน
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ฝ่ายนั้นก็แกล้งพูดเสียงลอย
“ แฟนเราก็ฮ็อตเหมือนกันนะเนี่ย ! ”
เขาแอบอมยิ้มทันที “ ทำไม...หึงเหรอ ? ”
พี่สนไม่ตอบคำถาม แต่วางเจ้าตุ๊กตาหมีไว้บนโซฟา การกระทำต่อมาของรุ่นพี่กลับทำให้เขาหลุดขำออกมาทันทีเพราะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เพราะฝ่ายนั้นทำหน้าถมึงทึง ชี้หน้าเจ้าตุ๊กตาหมี แล้วพูดขึ้นมาว่า...
“ อยู่นี่นะ ! ห้ามเข้าไปในห้องนอนเด็ดขาด ไม่งั้นจะเอาไปทิ้งขยะเลย ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ พี่สนต้องบ้าแน่ๆเลย ”
“ เนอะ น้องหมีเนอะ ” เขาพยักเพยิดให้เจ้าตุ๊กตาบ้าง ทำเอารุ่นพี่หลุดยิ้มออกมาทันที
“ น้องหมีห้ามมากวนเวลาที่พวกพี่จู๋จี๋กันนะ ” พี่สนนั่งลงข้างกันแล้วออกคำสั่งบอกตุ๊กตา
“ น้องหมี...ถ้าพี่สนหื่น ให้รีบจัดการเลยนะ ”
ฝ่ายนั้นหรี่ตา “ เดี๋ยวเอาไปคืนซะเลย ! ”
“ ไม่เอานะ ! ” เขาคว้าตุ๊กตาตัวนุ่มนั้นทันที
การกระทำนั้นทำเอารุ่นพี่หน้าบูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนใจหันมากอดร่างของคนด้านข้างแทน
“ พี่สนหึงไม่เข้าเรื่อง แค่ตุ๊กตาเนี่ยนะ ”
“ หึงได้หมดแหละ...คน สัตว์ สิ่งของ ”
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ บ้า !! ” เขาหัวเราะแล้วแหงนหน้าขึ้นมามอง
“ ถึงยังไงณัฐก็ชอบของขวัญของพี่สนมากที่สุดอยู่ดี ”
“ จริงนะ ”
“ อื้มม ” เขาผงกหัวแรงๆ
รุ่นพี่เผยยิ้มบาง แล้วลูบศีรษะเขาเบาๆ เขาจึงรีบถามต่อ
“ งั้นหายหึงนะ ”
ฝ่ายนั้นส่ายศีรษะแล้วจิ้มนิ้วลงไปที่ริมฝีปากของตัวเอง
“ จูบพี่ก่อน ”
เขาอมยิ้ม ก่อนที่จะค่อยๆเกี่ยวลำคอของอีกฝ่ายให้โน้มเข้ามาใกล้...จนริมฝีปากของเราทั้งสองประกบแนบชิดกันในที่สุด
“ ห้ามหึงน้องหมีอีกนะ ” เขาพูดแหย่
“ อื้ออ ” ฝ่ายนั้นตอบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเข้ามาประทับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง...
***************************
...สามชั่วโมงต่อมา...
ขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือ และรุ่นพี่ก็กำลังนอนดูทีวีเล่นอยู่บนโซฟาอยู่นั้น
ทันใดนั้นเอง !! ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด เพราะแสงไฟได้ดับสนิทหมดทุกดวง
เอ๋...ไฟดับงั้นเหรอ ?
เขาตกใจ รีบขยับตัวเข้าไปใกล้พี่สนตามสัญชาตญาณ แต่แล้วฝ่ายนั้นกลับลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... !!! ” เสียงประสานร้องเพลงได้ดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟสีส้มส่องสว่างลอดเข้ามาให้ได้เห็น
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... ” กลุ่มคนประมาณเกือบสิบชีวิตได้เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเค้กก้อนใหญ่
เขาเห็นเข้าดังนั้นก็เข้าใจแล้วเผยยิ้มกว้างออกมาทันที
นี่ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้เขาอย่างนั้นเหรอ ?!!
ทั้งพี่กฤต พี่เม้ง พี่ปอร์เช่ พี่นนท์ พี่ฉัตร พี่เก่ง พี่โต้ง กลุ่มเพื่อนสนิทของพี่สนมากันหมดทุกคน...แต่ยังไม่ใช่แค่นั้น !!
เอ๋...นั่นมีแพรกับจัมโบ้ด้วยนี่นา ไหนบอกว่าไม่ว่างไง ?
“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์...แฮปปี้เบิร์ธเดย์...แฮปปี้เบิร์ธ...เดย์...ทู...ยู ”
พี่กฤตเดินถือเค้กก้อนใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มกว้างมาให้ ก่อนที่พี่สนจะมากระซิบที่ข้างหูบอกให้เขารีบเป่าเทียน เขาลึกลักเล็กน้อยเพราะทำตัวไม่ถูก แต่ก็รีบเป่าเทียนจนดับหมดทุกเล่มอย่างรวดเร็ว
“ เย้ ๆ ๆ ๆ สุขสันต์วันเกิดนะ !!!! ” เสียงของกลุ่มคนทางด้านหน้าตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขาดีใจจนยิ้มไม่หุบ แล้วแสงไฟภายในห้องก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง
“ เอ่อ... ” เขาได้แต่แปลกใจปนดีใจจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรก่อนดี ได้แต่หันไปมองพี่สนอย่างงงๆ
“ ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้ณัฐไง ” รุ่นพี่พูดขึ้น
“ ขอบคุณมากนะครับ ” เขายิ้มจนหน้าบาน แล้วโค้งหัวน้อยๆให้พวกรุ่นพี่ ก่อนที่จะรีบหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสอง
“ ไหนเมื่อเช้าบอกว่าไม่ว่างกันไง ?!! แล้วนี่ทำไมมาได้ ”
แพรยิ้มแป้น แล้วชี้นิ้วไปไปทางคนที่อยู่ด้านหลังเขาทันที
...เอ๋...พี่สนเหรอ...?
ฝ่ายนั้นมอบรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ นั่นทำให้เขาอยากจะกระโดดเข้าไปกอดรุ่นพี่ให้ชื่นใจ...แต่ก็ต้องยั้งใจไว้
“ พอไอ้สนมันชวน พวกพี่ก็เลยยกโขยงมากันหมดเลยนี่แหละ ” พี่เม้งรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“ อืม...เราก็เหมือนกัน ขอโทษนะที่แกล้งบอกว่าไม่ว่าง เพราะกลัวจะไม่เซอร์ไพรส์น่ะ ฮ่ะ ๆ ” แพรบอก
ตอนนี้เขารู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออก ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้กับเขา ทั้งเพื่อนของพี่สน...และก็เพื่อนสนิทของเขาเอง...ดีใจจังเลย...
“ ขอบคุณมากนะ ”
“ อ้าว !! ไม่ต้องพิธีรีตอง มา ๆ ๆ พวกเราจัดสถานที่ ” พี่ปอร์เช่พูด แล้วทุกคนก็แยกย้ายเข้ามาภายในแล้วนั่งตรงกลางห้องอย่างรวดเร็ว
รุ่นพี่เข้าไปในครัวเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และไม่นานอาหารที่เตรียมมาก็ถูกจัดวางไว้ตรงกลางห้อง พวกเราทั้งหมดนั่งรอบหม้อสุกี้หม้อใหญ่ พวกรุ่นพี่เล่นซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมรวมทั้งขนมของกินเล่นต่างๆมาเพียบ แล้วยังรวมกับเค้กปอนด์ใหญ่นี้อีก จึงไม่ต้องห่วงว่าจะกินกันไม่พอ
การกินอาหารร้อนๆในเวลาที่อากาศหนาวๆกับคนสนิทแบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศการกินเป็นไปอย่างสนุกสนานครื้นเครง เพื่อนสนิททั้งสองคนของเขาเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนพี่สน...โดยเฉพาะไอ้จัมโบ้ที่ดูเหมือนจะชื่นชอบรุ่นพี่กลุ่มนี้มาก เพราะเห็นมันหัวเราะไม่หยุดเลย
และระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่นั้น เขาก็แอบกระซิบที่ข้างหูพี่สนว่า
“ พี่สน...ขอบคุณนะ ”
“ ขอบคุณด้วยอย่างอื่นได้ม้า ? ” ฝ่ายนั้นทำหน้าทะเล้นใส่
“ อะไร ? ”
อีกฝ่ายโน้มตัวเข้ามากระซิบเบาๆ
“ เดี๋ยวคืนนี้จะบอกละกัน... ”
“ ทะลึ่ง !! ” โดยที่ร่างเพรียวไม่รู้ตัวเลยว่าได้เผลอหน้าแดงออกมา
ระหว่างที่กำลังนั่งกินอาหารกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น อยู่ดีๆพี่สนก็ลุกขึ้นไปหยิบกีตาร์โปร่งแล้วนั่งบนโซฟา ไม่ใช่แค่นั้น...เพราะพี่เม้งก็ย้ายร่างไปนั่งข้างพี่สนอีกเช่นกัน
เขาและเพื่อนทำหน้าสงสัย และไม่นาน...เสียงเกากีตาร์จากพี่สนก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกรุ่นพี่ปรบมือพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องกันยกใหญ่
“ อะแฮ่ม อะแฮ่ม !! ” พี่เม้งกระแอม
“ วันนี้เรามีโชว์เล็กๆน้อยๆมาให้ดูกันนะครับ เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดน้องณัฐของเรา เอ้ย ไม่ใช่ !! ของไอ้สนคนเดียวครับ ”
เขาหัวเราะแล้วโบกมือปฏิเสธหยอยๆ พี่สนเห็นดังนั้นก็ถลึงตาใส่เขาทันที เขาจึงรีบเก็บมือโดยเร็วพร้อมกับอมยิ้ม
“ ขอมอบเพลงนี้ให้กับเจ้าของวันเกิดนะครับ ”
เสียงปรบมือดังขึ้น พี่เม้งส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนที่จะเริ่ม ‘ท่อนพูด’ ของเพลง ระหว่างนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็ยิ่งส่งเสียงโห่ดังมากขึ้นกว่าเดิม บางคนก็หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย ได้ยินแต่เสียงแว่วๆว่าตลกสีหน้าพี่เม้ง
กดฟัง
(...ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับเขา แทบไม่น่าเชื่อว่าชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงขนาดนี้
และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ผมคิดว่าผมได้ตัดสินใจดีที่สุดแล้ว...)
...แม้ว่าการตัดสินใจของฉันจะผิดพลาดมากสักเพียงไหน
ก็ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...
พี่สนร้องท่อนเนื้อเพลง เขากับแพรปรบมือเสียงดังให้รุ่นพี่ทันที ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะส่งยิ้มหวานมาให้ เขาพึ่งจะได้เคยฟังพี่สนร้องเพลงก็วันนี้นี่แหละ พึ่งรู้ว่าก็เสียงดีเหมือนกันนะเนี่ย
(...ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน
เหมือนกับความสุขเหนือความสุข ความปลดปล่อยเหนือความปลดปล่อย...)
...ฉันรู้ ฉันรู้ ตั้งแต่วันที่ฉันนั้นมีโอกาสได้ใกล้เธอ
หัวใจฉันเองก็รู้ดี
เธอคือคนนั้น คนที่ฉันไม่เคยคิดฝันว่ามี
แล้วเธอ แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้...
ระหว่างที่กำลังร้องฝ่ายนั้นก็ชอบส่งสายตาหวานให้ เขารู้สึกเขินเสียจนไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะแพรที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็กรี๊ดเบาๆเพราะรู้สึกเขินเหมือนกัน เธอแอบกระซิบให้ฟังว่า...เขินแทน...นั่นเอง
(...และการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในชีวิตผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น...)
...แม้ว่าการ ตัดสินใจ ของฉันจะผิดพลาด
มากสักเพียงไหน ก็ไม่อาจ เปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...
...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนไม่สำคัญ...
(...แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม
แต่ว่า ผมคงหยุดมันไม่ได้แล้ว...)
...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนฉันยอม...
บทเพลงที่อีกฝ่ายตั้งใจมอบให้เขาได้จบลง เขาปรบมือให้รุ่นพี่ทั้งสองพร้อมกับยิ้มจนแก้มปริด้วยความซาบซึ้งใจ หลังจากนั้นพี่เม้งก็ถูกเพื่อนเรียกให้กลับเข้าไปในวงทันทีแล้วไล่ให้พี่เก่งมาทำหน้าที่นี้แทน เพราะเพื่อนๆทนฟังไม่ไหวกันแล้ว หลังจากนั้นบทเพลงก็ถูกร้องและเล่นอย่างต่อเนื่อง
เพราะคืนนี้เป็นคืนวันศุกร์...ทำให้พวกเขาสามารถฉลองกันอย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบตื่นไปเรียนแต่เช้า นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยจนปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า ทุกคนจึงได้ร่ำลาและแยกย้ายกันกลับที่พักของแต่ละคน
และพอเก็บห้องจนสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว เขากับพี่สนก็ผลัดกันอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ก่อนที่จะมานอนพักผ่อนบนเตียงที่หนานุ่ม เขากระโดดมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วนอนกอดรุ่นพี่เอาไว้เหมือนอย่างทุกวัน
“ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปีนี้จะได้ฉลองงานวันเกิด แล้วก็มีคนมาเยอะขนาดนี้...สนุกมากเลย ” เขาพูดขึ้นมาลอยๆขาก็พาดก่ายรุ่นพี่เอาไว้ ขนาดนอนอยู่ใต้ผ้าห่มยังไม่รู้สึกอุ่นเท่าไหร่เลย ต้องนอนกอดพี่สนแบบนี้แหละ...ถึงจะรู้สึกอบอุ่นจริงๆ
ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาไปมา “ แล้วมีความสุขมั้ย ? ”
“ มีความสุขมากเลยต่างหาก ”
“ ดีแล้ว ”
“ พี่สน...? ”
“ ฮึ ? ”
“ พี่สน...น่ารักที่สุดเลยรู้ป่าว ” เขาเอ่ยบอกด้วยความเขินอาย
“ รู้สิ...ทำไมจะไม่รู้ ไม่ใช่แค่น่ารักนะ หล่อมากด้วย ”
“ แหวะ ” เขาเบ้ปาก ก่อนที่จะกลับไปซบอกฝ่ายนั้นดังเดิม
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ”
“ ถามหน่อยสิ...แล้วพี่สนไปชวนแพรกับจัมโบ้ตอนไหนอ่ะ ? ” เขาถามเรื่องที่สงสัย
“ บอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีบังเอิญเจอกัน พี่ก็เลยชวนว่าอยากจัดงานวันเกิดให้ณัฐ สองคนนั้นก็ตกลง ”
“ เหรอ ? มิน่าล่ะ พอณัฐชวนก็โดนปฏิเสธ ยังน้อยใจอยู่เลยเนี่ย ที่แท้...ก็สมคบคิดวางแผนกับพี่สนนี่เอง ”
“ ก็แค่อยากให้มาฉลองด้วยกัน ถ้ามาแค่เพื่อนพี่ก็คงจะไม่สนุกเท่าไหร่ ”
ร่างเพรียวยิ้มบาง
“ นั่นสินะ เพราะว่ามากันทั้ง ‘เพื่อนพี่สน’ แล้วก็ ‘เพื่อนณัฐ’ ความรู้สึกมันแบบว่า...บอกไม่ถูกเลย มีความสุขมากจริงๆ ”
รุ่นพี่กอดเขาให้แน่นขึ้น “ อืมม...พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกัน ”
“ พี่สน ขอบคุณนะ ”
เขาพูดคำนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะว่ารู้สึกอยากขอบคุณรุ่นพี่จริงๆ ที่ชีวิตตอนนี้เขามีความสุขได้มากมายขนาดนี้ก็เพราะพี่สนทั้งนั้นแหละ
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่มีใครสักคนที่รักเราและเราก็รักเขา...ได้ทำอะไรเพื่อกันและกัน จะมีความสุขได้มากมายขนาดนี้...บางครั้งก็รู้สึกว่ามีความสุขมากเสียจนไม่รู้จะปลดปล่อยอย่างไรดี
เขาแหงนหน้ามองรุ่นพี่แล้วยิ้มหวานให้
“ ณัฐรักพี่สนนะ ” โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโตมากแค่ไหน
“ ครับ...พี่ก็รักณัฐเหมือนกัน... ” รุ่นพี่ก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากเขาเบาๆ
“ ...รักมากด้วย ”
“ แต่ณัฐรักพี่สนมากกว่านะ ”
“ ใครว่า...พี่รักณัฐมากกว่าอีก ”
****************************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น