ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    " YOU are the ONE " รักเราหวานซะ

    ลำดับตอนที่ #78 : บทที่เจ็ดสิบสาม -- ฉลองวันเกิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      6
      18 ก.ค. 53

    บทที่เจ็ดสิบสาม




                 เขาและพี่สนตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตั้งใจจะไปทำบุญตักบาตรในวันเกิด  เพราะพี่สนบอกว่าภายในมหาวิทยาลัยมีบริเวณที่จัดไว้สำหรับให้เหล่านักศึกษาได้ใส่บาตรและจะมีพ่อค้าแม่ค้ามากางโต๊ะขายอาหารสำเร็จรูปพร้อมดอกไม้ถวายพระให้พร้อมอย่างเสร็จสรรพ  เพราะเหตุผลนี้ทำให้นักศึกษาสะดวกที่จะทำบุญกันมากขึ้น  และพอประมาณเจ็ดโมงเช้าพระก็มาถึง  เราใส่บาตรกันเสร็จเรียบร้อยก็รู้สึกสบายใจและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า 


                 เขาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปเรียนตามปกติ  และก่อนที่จะออกจากห้องเขาก็ไม่ลืมที่จะโทรหาแม่และพ่อเพื่อขอบคุณที่ทำให้เขาเกิดมาและมีวันสำคัญในวันนี้  ท่านทั้งสองอวยพรวันเกิดผ่านปลายสายโทรศัพท์กลับมา  พอเขาได้ฟังก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาทันที



                 “ ขอบคุณพ่อกับแม่ด้วยเหรอ ? ”  พี่สนถาม



                 “ ครับ ”  เพราะทุกๆปีเขาก็ทำแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้พูดขอบคุณต่อหน้าท่านทั้งสองเท่านั้นเอง



                  รุ่นพี่เผยยิ้มบาง  “ ดีจังเลยเนอะ ” 





                  พอไปถึงห้องเรียนในตอนเช้า  แพรกับไอ้จัมโบ้ก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขาเสียยกใหญ่ตั้งแต่ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้เลยด้วยซ้ำ   จนเพื่อนที่อยู่แถวนั้นร่วมใจกันร้องเพลงและปรบมือให้ด้วย  ทำเอาเขาดีใจจนยิ้มแก้มปริ


                  “ ณัฐ แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ  มีความสุขมากๆ !!! ”  แพรยื่นของขวัญมาให้หนึ่งกล่อง  เขายื่นมือออกไปรับด้วยหัวใจที่ปลาบปลื้ม



                  “ ขอบคุณมากนะแพร ”
                  “ ว่าแต่อะไรเนี่ย  ทำไมหนักจัง ? ”  เขาพิจารณามองกล่องของขวัญที่มีน้ำหนักพอประมาณ


                 
                  “ ไว้เปิดดูเองละกันนะ ”  เธอยิ้มหวาน



                  “ อ๊ะ  ตากูบ้าง !! ”  คราวนี้ไอ้จัมโบ้ยื่นสิ่งหนึ่งมาให้ โดยที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มภายนอกทั้งสิ้น



                  “ หือ ? ”  เขามองสมุดเล่มสีดำขนาดใหญ่



                   “ สมุดสเก็ตภาพไง !! ”  มันบอก



                   “ แกน่าจะห่อมาสักหน่อยนะจัมโบ้  แบบนี้ก็เห็นหมดสิ ”  แพรพูดแทรกขึ้นมา



                   “ มันเปลือง  ยังไงก็ต้องฉีกทิ้งอยู่ดี ”



                   คำตอบนั้นทำเอาเขาพยักหน้าหงึกๆตามทันที   อืมม นั่นสินะ...ไอ้จัมโบ้ก็พูดถูกของมัน 



                  “ ขอบคุณมากนะ  ทั้งสองคนเลย ”  เขายิ้มอย่างมีความสุข
       

       
                  “ ไม่เป็นไรหรอก ”  แพรยิ้มหวานมาให้



                  “ อืม ใช่ !!  ”  เขาแหงนหน้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกอะไรออก



                  เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้าอย่างงงๆ



                  “ เย็นนี้ว่างมั้ย ? ไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ  เดี๋ยวเลี้ยงเอง !! ”



                  แต่แล้ว...ปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองกลับทำให้เขาแปลกใจนิดๆ



                 “ เอ่อ... ”  แพรหันไปมองหน้าจัมโบ้

                 “ ...คือเย็นนี้แพรไม่ว่างอ่ะณัฐ  ขอโทษทีนะ ”



                 เขาหันไปมองหน้าเพื่อนตัวอ้วนทันที  หวังว่าอีกฝ่ายคงจะไม่...



                 “ กูก็ไม่ว่างเหมือนกันว่ะ  เพราะต้องไปกินเลี้ยงกับพี่รหัส  เป็นวันเดียวที่พี่ทุกชั้นปีว่างตรงกันซะด้วย  ก็เลย...ปฏิเสธไม่ได้เลย ”



                 ร่างเพรียวหน้าหงอยลงทันที

                 “ อืมม งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก  เอาไว้วันหลังก็ได้ ”



                “ ขอโทษนะ ”




    ***************************



                  ตกเย็น...เขากลับมาหอพักตามปกติ  เพราะก่อนหน้านี้ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนสนิททั้งสองคนสักหน่อย  แต่แล้ว...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนจะไม่ว่างกันทั้งคู่
    เฮ้อ...นึกแล้วก็รู้สึกน้อยใจนิดๆ  แต่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้นี่นา  เดี๋ยวค่อยไปเลี้ยงฉลองด้วยกันวันหลังก็ได้


                 แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ...

                 ทำไมคนที่นั่งด้านข้างเขาต้องทำหน้าบูดตลอดทางขับรถด้วยล่ะเนี่ย !!!



                “ พี่สน ? ”  เขาถามขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังจะลงจากรถ



                “ อะไร ? ”  ฝ่ายนั้นถามอย่างไม่สบอารมณ์



                 “ ช่วยถือนี่ให้ด้วย  ณัฐถือไม่ไหว ”  เขาชี้นิ้วไปยังเจ้า ‘ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่’ ที่กำลังนั่งพุงป่องอยู่เบาะด้านหลังรถ



                 นั่นเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา  ก็เลยมีเพื่อนซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้  แต่ก็มีบางคนที่ทำเอาเขาแปลกใจได้เหมือนกัน  เพราะมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งซื้อตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่มากกว่าครึ่งตัวคนมาให้น่ะสิ  ทำเอาเขาตกใจจนพูดไม่ออกเพราะคิดว่าราคาคงจะหลายพันอยู่เหมือนกัน  รู้สึกเกรงใจมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี  เพราะเธอก็ตั้งใจซื้อมาให้จริงๆ  ได้แต่รับของขวัญมาแล้วเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า  จนเธอยิ้มเขินอายหน้าแดงแล้วรีบเดินจากไปนั่นแหละ 


                 และพอตกเย็นหลังเลิกเรียนที่เขาต้องรอกลับกับรุ่นพี่  พอฝ่ายนั้นเห็นตุ๊กตาตัวนี้เข้าก็ซักถามเสียยกใหญ่ว่าได้มาจากไหน?   ใครซื้อให้?   ผู้หญิงหรือผู้ชาย?  ชื่ออะไร?   เขาก็ตอบไปตามความจริงทั้งหมด  และพอรุ่นพี่เห็นว่าไม่มีอะไรน่ากังวลฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ซักถามอะไรอีก  แต่ก็ยังทำหน้าบูดไม่พูดไม่จาแบบเดิม

                 ...เฮ้อ...ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แหงๆ...

       


                 “ พี่สนถือตุ๊กตานะ ”  เขาบอกอีกฝ่าย  เพราะเขาก็ถือถุงของขวัญพะรุงพะรังเต็มมือมากพออยู่แล้ว  ถ้าจะให้อุ้มตุ๊กตาที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน



                 “ ให้มันเดินไปเองสิ ! ”  คำตอบของรุ่นพี่ทำเอาเขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา



                 “ บ้า ! น้องหมีจะเดินได้ไง  มันหนักพุง ”  เขาพูดเล่นบ้าง



                 ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่รุ่นพี่ก็ยอมแบกน้องหมีออกมาจากรถแต่โดยดี  ฝ่ายนั้นอุ้มจนเกือบจะไม่เห็นใบหน้าเพราะตุ๊กตาตัวใหญ่เหลือเกิน



                 เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ฝ่ายนั้นก็แกล้งพูดเสียงลอย

                 “ แฟนเราก็ฮ็อตเหมือนกันนะเนี่ย ! ”



                  เขาแอบอมยิ้มทันที  “ ทำไม...หึงเหรอ ? ”



                  พี่สนไม่ตอบคำถาม  แต่วางเจ้าตุ๊กตาหมีไว้บนโซฟา  การกระทำต่อมาของรุ่นพี่กลับทำให้เขาหลุดขำออกมาทันทีเพราะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่   เพราะฝ่ายนั้นทำหน้าถมึงทึง  ชี้หน้าเจ้าตุ๊กตาหมี  แล้วพูดขึ้นมาว่า...



                  “ อยู่นี่นะ ! ห้ามเข้าไปในห้องนอนเด็ดขาด  ไม่งั้นจะเอาไปทิ้งขยะเลย ”



                  “ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ  พี่สนต้องบ้าแน่ๆเลย ”

                  “ เนอะ  น้องหมีเนอะ ”  เขาพยักเพยิดให้เจ้าตุ๊กตาบ้าง  ทำเอารุ่นพี่หลุดยิ้มออกมาทันที



                  “ น้องหมีห้ามมากวนเวลาที่พวกพี่จู๋จี๋กันนะ ”  พี่สนนั่งลงข้างกันแล้วออกคำสั่งบอกตุ๊กตา



                  “ น้องหมี...ถ้าพี่สนหื่น ให้รีบจัดการเลยนะ ”



                  ฝ่ายนั้นหรี่ตา  “ เดี๋ยวเอาไปคืนซะเลย ! ”
     


                  “ ไม่เอานะ ! ”  เขาคว้าตุ๊กตาตัวนุ่มนั้นทันที



                  การกระทำนั้นทำเอารุ่นพี่หน้าบูดขึ้นมาอีกครั้ง  เขาเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนใจหันมากอดร่างของคนด้านข้างแทน


                  “ พี่สนหึงไม่เข้าเรื่อง  แค่ตุ๊กตาเนี่ยนะ ”



                  “ หึงได้หมดแหละ...คน  สัตว์  สิ่งของ ”



                  “ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ  บ้า !! ”  เขาหัวเราะแล้วแหงนหน้าขึ้นมามอง

                  “ ถึงยังไงณัฐก็ชอบของขวัญของพี่สนมากที่สุดอยู่ดี ”



                  “ จริงนะ ”



                  “ อื้มม ”  เขาผงกหัวแรงๆ



                  รุ่นพี่เผยยิ้มบาง  แล้วลูบศีรษะเขาเบาๆ  เขาจึงรีบถามต่อ

                  “ งั้นหายหึงนะ ”



                  ฝ่ายนั้นส่ายศีรษะแล้วจิ้มนิ้วลงไปที่ริมฝีปากของตัวเอง

                  “ จูบพี่ก่อน ”



                  เขาอมยิ้ม  ก่อนที่จะค่อยๆเกี่ยวลำคอของอีกฝ่ายให้โน้มเข้ามาใกล้...จนริมฝีปากของเราทั้งสองประกบแนบชิดกันในที่สุด



                  “ ห้ามหึงน้องหมีอีกนะ ”  เขาพูดแหย่



                  “ อื้ออ ”  ฝ่ายนั้นตอบอย่างไม่ใส่ใจ  แล้วเข้ามาประทับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง...




    ***************************



                    ...สามชั่วโมงต่อมา... 



                  ขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือ และรุ่นพี่ก็กำลังนอนดูทีวีเล่นอยู่บนโซฟาอยู่นั้น 
    ทันใดนั้นเอง !! ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด  เพราะแสงไฟได้ดับสนิทหมดทุกดวง


                  เอ๋...ไฟดับงั้นเหรอ ?


                   เขาตกใจ รีบขยับตัวเข้าไปใกล้พี่สนตามสัญชาตญาณ  แต่แล้วฝ่ายนั้นกลับลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที



                  “ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... !!!  ”  เสียงประสานร้องเพลงได้ดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟสีส้มส่องสว่างลอดเข้ามาให้ได้เห็น


               
                   “ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู... ”  กลุ่มคนประมาณเกือบสิบชีวิตได้เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเค้กก้อนใหญ่



                   เขาเห็นเข้าดังนั้นก็เข้าใจแล้วเผยยิ้มกว้างออกมาทันที

                   นี่ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้เขาอย่างนั้นเหรอ ?!!

                   ทั้งพี่กฤต   พี่เม้ง   พี่ปอร์เช่   พี่นนท์   พี่ฉัตร   พี่เก่ง   พี่โต้ง   กลุ่มเพื่อนสนิทของพี่สนมากันหมดทุกคน...แต่ยังไม่ใช่แค่นั้น !!

                   เอ๋...นั่นมีแพรกับจัมโบ้ด้วยนี่นา  ไหนบอกว่าไม่ว่างไง ?



                  “ แฮปปี้เบิร์ดเดย์...แฮปปี้เบิร์ธเดย์...แฮปปี้เบิร์ธ...เดย์...ทู...ยู ”



                   พี่กฤตเดินถือเค้กก้อนใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มกว้างมาให้  ก่อนที่พี่สนจะมากระซิบที่ข้างหูบอกให้เขารีบเป่าเทียน  เขาลึกลักเล็กน้อยเพราะทำตัวไม่ถูก  แต่ก็รีบเป่าเทียนจนดับหมดทุกเล่มอย่างรวดเร็ว



                   “ เย้ ๆ ๆ ๆ สุขสันต์วันเกิดนะ !!!! ”  เสียงของกลุ่มคนทางด้านหน้าตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง  ทำให้เขาดีใจจนยิ้มไม่หุบ  แล้วแสงไฟภายในห้องก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง


     
                   “ เอ่อ... ”  เขาได้แต่แปลกใจปนดีใจจนพูดไม่ออก  ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรก่อนดี  ได้แต่หันไปมองพี่สนอย่างงงๆ


     
                   “ ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้ณัฐไง ”  รุ่นพี่พูดขึ้น



                   “ ขอบคุณมากนะครับ ”  เขายิ้มจนหน้าบาน แล้วโค้งหัวน้อยๆให้พวกรุ่นพี่  ก่อนที่จะรีบหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสอง


                   “ ไหนเมื่อเช้าบอกว่าไม่ว่างกันไง ?!!  แล้วนี่ทำไมมาได้ ”



                   แพรยิ้มแป้น  แล้วชี้นิ้วไปไปทางคนที่อยู่ด้านหลังเขาทันที


                   ...เอ๋...พี่สนเหรอ...?



                    ฝ่ายนั้นมอบรอยยิ้มอบอุ่นมาให้  นั่นทำให้เขาอยากจะกระโดดเข้าไปกอดรุ่นพี่ให้ชื่นใจ...แต่ก็ต้องยั้งใจไว้



                   “ พอไอ้สนมันชวน  พวกพี่ก็เลยยกโขยงมากันหมดเลยนี่แหละ ”  พี่เม้งรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที


                   “ อืม...เราก็เหมือนกัน  ขอโทษนะที่แกล้งบอกว่าไม่ว่าง  เพราะกลัวจะไม่เซอร์ไพรส์น่ะ  ฮ่ะ ๆ ”  แพรบอก



                   ตอนนี้เขารู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออก  ทุกคนมาฉลองวันเกิดให้กับเขา  ทั้งเพื่อนของพี่สน...และก็เพื่อนสนิทของเขาเอง...ดีใจจังเลย...

                 
                    “ ขอบคุณมากนะ ”



                    “ อ้าว !! ไม่ต้องพิธีรีตอง  มา ๆ ๆ พวกเราจัดสถานที่ ”  พี่ปอร์เช่พูด  แล้วทุกคนก็แยกย้ายเข้ามาภายในแล้วนั่งตรงกลางห้องอย่างรวดเร็ว



                    รุ่นพี่เข้าไปในครัวเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และไม่นานอาหารที่เตรียมมาก็ถูกจัดวางไว้ตรงกลางห้อง   พวกเราทั้งหมดนั่งรอบหม้อสุกี้หม้อใหญ่  พวกรุ่นพี่เล่นซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมรวมทั้งขนมของกินเล่นต่างๆมาเพียบ  แล้วยังรวมกับเค้กปอนด์ใหญ่นี้อีก  จึงไม่ต้องห่วงว่าจะกินกันไม่พอ  
    การกินอาหารร้อนๆในเวลาที่อากาศหนาวๆกับคนสนิทแบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศการกินเป็นไปอย่างสนุกสนานครื้นเครง   เพื่อนสนิททั้งสองคนของเขาเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนพี่สน...โดยเฉพาะไอ้จัมโบ้ที่ดูเหมือนจะชื่นชอบรุ่นพี่กลุ่มนี้มาก  เพราะเห็นมันหัวเราะไม่หยุดเลย



                    และระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่นั้น  เขาก็แอบกระซิบที่ข้างหูพี่สนว่า

                    “ พี่สน...ขอบคุณนะ ”



                    “ ขอบคุณด้วยอย่างอื่นได้ม้า ? ”  ฝ่ายนั้นทำหน้าทะเล้นใส่



                    “ อะไร ? ”



                    อีกฝ่ายโน้มตัวเข้ามากระซิบเบาๆ

                    “ เดี๋ยวคืนนี้จะบอกละกัน... ”



                    “ ทะลึ่ง !! ”   โดยที่ร่างเพรียวไม่รู้ตัวเลยว่าได้เผลอหน้าแดงออกมา




                   ระหว่างที่กำลังนั่งกินอาหารกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น  อยู่ดีๆพี่สนก็ลุกขึ้นไปหยิบกีตาร์โปร่งแล้วนั่งบนโซฟา  ไม่ใช่แค่นั้น...เพราะพี่เม้งก็ย้ายร่างไปนั่งข้างพี่สนอีกเช่นกัน

                   เขาและเพื่อนทำหน้าสงสัย  และไม่นาน...เสียงเกากีตาร์จากพี่สนก็ได้เริ่มต้นขึ้น  พวกรุ่นพี่ปรบมือพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องกันยกใหญ่ 



                  “ อะแฮ่ม  อะแฮ่ม !! ”  พี่เม้งกระแอม



                  “ วันนี้เรามีโชว์เล็กๆน้อยๆมาให้ดูกันนะครับ  เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดน้องณัฐของเรา  เอ้ย ไม่ใช่ !!  ของไอ้สนคนเดียวครับ ”


         
                  เขาหัวเราะแล้วโบกมือปฏิเสธหยอยๆ  พี่สนเห็นดังนั้นก็ถลึงตาใส่เขาทันที  เขาจึงรีบเก็บมือโดยเร็วพร้อมกับอมยิ้ม



                  “ ขอมอบเพลงนี้ให้กับเจ้าของวันเกิดนะครับ ”



                  เสียงปรบมือดังขึ้น  พี่เม้งส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนที่จะเริ่ม ‘ท่อนพูด’ ของเพลง  ระหว่างนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็ยิ่งส่งเสียงโห่ดังมากขึ้นกว่าเดิม  บางคนก็หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย  ได้ยินแต่เสียงแว่วๆว่าตลกสีหน้าพี่เม้ง

                  กดฟัง

                  (...ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับเขา  แทบไม่น่าเชื่อว่าชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงขนาดนี้
                   และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้  ผมคิดว่าผมได้ตัดสินใจดีที่สุดแล้ว...)


                   ...แม้ว่าการตัดสินใจของฉันจะผิดพลาดมากสักเพียงไหน
                   ก็ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...



                  พี่สนร้องท่อนเนื้อเพลง  เขากับแพรปรบมือเสียงดังให้รุ่นพี่ทันที  ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะส่งยิ้มหวานมาให้  เขาพึ่งจะได้เคยฟังพี่สนร้องเพลงก็วันนี้นี่แหละ  พึ่งรู้ว่าก็เสียงดีเหมือนกันนะเนี่ย


                   (...ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน
                    เหมือนกับความสุขเหนือความสุข  ความปลดปล่อยเหนือความปลดปล่อย...)


                    ...ฉันรู้  ฉันรู้  ตั้งแต่วันที่ฉันนั้นมีโอกาสได้ใกล้เธอ
                    หัวใจฉันเองก็รู้ดี
                    เธอคือคนนั้น คนที่ฉันไม่เคยคิดฝันว่ามี
                    แล้วเธอ แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้...




                    ระหว่างที่กำลังร้องฝ่ายนั้นก็ชอบส่งสายตาหวานให้  เขารู้สึกเขินเสียจนไม่รู้จะทำยังไงดี  แต่ไม่ใช่แค่นั้น  เพราะแพรที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็กรี๊ดเบาๆเพราะรู้สึกเขินเหมือนกัน  เธอแอบกระซิบให้ฟังว่า...เขินแทน...นั่นเอง


                   (...และการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในชีวิตผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น...)


                    ...แม้ว่าการ ตัดสินใจ ของฉันจะผิดพลาด
                    มากสักเพียงไหน ก็ไม่อาจ เปลี่ยนหัวใจ ไปจากนี้...


                    ...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
                    ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
                    ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
                    แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนไม่สำคัญ...


                    (...แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม
                    แต่ว่า  ผมคงหยุดมันไม่ได้แล้ว...)


                    ...หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอ
                    ตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตา กันและกัน
                    ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
                    แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหนฉันยอม...





                    บทเพลงที่อีกฝ่ายตั้งใจมอบให้เขาได้จบลง   เขาปรบมือให้รุ่นพี่ทั้งสองพร้อมกับยิ้มจนแก้มปริด้วยความซาบซึ้งใจ  หลังจากนั้นพี่เม้งก็ถูกเพื่อนเรียกให้กลับเข้าไปในวงทันทีแล้วไล่ให้พี่เก่งมาทำหน้าที่นี้แทน  เพราะเพื่อนๆทนฟังไม่ไหวกันแล้ว   หลังจากนั้นบทเพลงก็ถูกร้องและเล่นอย่างต่อเนื่อง


                    เพราะคืนนี้เป็นคืนวันศุกร์...ทำให้พวกเขาสามารถฉลองกันอย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบตื่นไปเรียนแต่เช้า  นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยจนปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า  ทุกคนจึงได้ร่ำลาและแยกย้ายกันกลับที่พักของแต่ละคน


                    และพอเก็บห้องจนสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว  เขากับพี่สนก็ผลัดกันอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย  ก่อนที่จะมานอนพักผ่อนบนเตียงที่หนานุ่ม  เขากระโดดมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วนอนกอดรุ่นพี่เอาไว้เหมือนอย่างทุกวัน



                   “ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปีนี้จะได้ฉลองงานวันเกิด  แล้วก็มีคนมาเยอะขนาดนี้...สนุกมากเลย ”  เขาพูดขึ้นมาลอยๆขาก็พาดก่ายรุ่นพี่เอาไว้  ขนาดนอนอยู่ใต้ผ้าห่มยังไม่รู้สึกอุ่นเท่าไหร่เลย  ต้องนอนกอดพี่สนแบบนี้แหละ...ถึงจะรู้สึกอบอุ่นจริงๆ



                   ฝ่ายนั้นลูบศีรษะเขาไปมา  “ แล้วมีความสุขมั้ย ? ”



                  “ มีความสุขมากเลยต่างหาก ”



                  “ ดีแล้ว ”



                  “ พี่สน...? ”



                  “ ฮึ ? ”



                  “ พี่สน...น่ารักที่สุดเลยรู้ป่าว ”  เขาเอ่ยบอกด้วยความเขินอาย 



                  “ รู้สิ...ทำไมจะไม่รู้  ไม่ใช่แค่น่ารักนะ  หล่อมากด้วย ”



                  “ แหวะ ”  เขาเบ้ปาก  ก่อนที่จะกลับไปซบอกฝ่ายนั้นดังเดิม



                  “ ฮ่ะ ๆ ๆ ”



                  “ ถามหน่อยสิ...แล้วพี่สนไปชวนแพรกับจัมโบ้ตอนไหนอ่ะ ? ”  เขาถามเรื่องที่สงสัย



                  “ บอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  พอดีบังเอิญเจอกัน  พี่ก็เลยชวนว่าอยากจัดงานวันเกิดให้ณัฐ  สองคนนั้นก็ตกลง ”



                   “ เหรอ ? มิน่าล่ะ  พอณัฐชวนก็โดนปฏิเสธ  ยังน้อยใจอยู่เลยเนี่ย  ที่แท้...ก็สมคบคิดวางแผนกับพี่สนนี่เอง ”



                   “ ก็แค่อยากให้มาฉลองด้วยกัน  ถ้ามาแค่เพื่อนพี่ก็คงจะไม่สนุกเท่าไหร่ ”



                   ร่างเพรียวยิ้มบาง

                  “ นั่นสินะ  เพราะว่ามากันทั้ง ‘เพื่อนพี่สน’ แล้วก็ ‘เพื่อนณัฐ’  ความรู้สึกมันแบบว่า...บอกไม่ถูกเลย  มีความสุขมากจริงๆ ”



                   รุ่นพี่กอดเขาให้แน่นขึ้น  “ อืมม...พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกัน ”



                   “ พี่สน  ขอบคุณนะ ” 



                   เขาพูดคำนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้  เพราะว่ารู้สึกอยากขอบคุณรุ่นพี่จริงๆ  ที่ชีวิตตอนนี้เขามีความสุขได้มากมายขนาดนี้ก็เพราะพี่สนทั้งนั้นแหละ

                   ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่มีใครสักคนที่รักเราและเราก็รักเขา...ได้ทำอะไรเพื่อกันและกัน  จะมีความสุขได้มากมายขนาดนี้...บางครั้งก็รู้สึกว่ามีความสุขมากเสียจนไม่รู้จะปลดปล่อยอย่างไรดี



                   เขาแหงนหน้ามองรุ่นพี่แล้วยิ้มหวานให้
     
                  “ ณัฐรักพี่สนนะ ”  โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโตมากแค่ไหน


     
                  “ ครับ...พี่ก็รักณัฐเหมือนกัน... ”  รุ่นพี่ก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากเขาเบาๆ

                  “ ...รักมากด้วย ”



                  “ แต่ณัฐรักพี่สนมากกว่านะ ”



                  “ ใครว่า...พี่รักณัฐมากกว่าอีก ”



    ****************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×