ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] D18 Teacher's อาจารย์ที่ (ไม่) รัก

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.55K
      17
      24 มี.ค. 56

    Chapter 7

     

     

     

     

     

    เท็ตสึทุกคนจะมาทานข้าวเย็นที่นี่ ไปเตรียมให้เรียบร้อยด้วยละ

     

    ครับ

     

    ขานรับเสร็จคุซาคาเบะก็เดินออกไป ปล่อยให้คนห้าคนยืนมองหน้ากันเองอยู่ตรงนั้น แล้วก็เป็นอเลาดิที่พูดทำลายความเงียบขึ้นมา

     

    พวกเธอจะมาทำอะไรกัน

     

    นอน

     

    กิน

     

    เล่น

     

    เที่ยว

     

    สี่คำตอบจากปากคนสี่คน ฮิบาริ สึนะ โกคุเดระ และมุคุโร่ค่อย ๆ ไล่ตอบออกมาทีละคน และพอได้รับคำตอบแบบนี้อเลาดิถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่เจ้าเด็กพวกนี้โดดเรียนมาเลย และตอนนี้ยิ่งไม่เข้าใจหนักไปอีกว่าแล้วสรุปที่เขาลงทุนตามมาแบบนี้เพียงเพื่อจะมาดูเจ้าเด็กพวกนี้ นอน กิน เล่น เที่ยว กันแค่นี้น่ะนะ

     

    แล้วอาจารย์เถอะ จะตามพวกผมมาทำไม

     

    ฮิบาริถามขึ้นก่อนจะมองอาจารย์คนใหม่ด้วยสายตาพินิจพิจารณา ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่อาจารย์ที่ปรึกษาธรรมดา ความสุขุม รอบคอบที่แผ่ออกมา ไหนจะท่าทีเย็นชานี่อีก ถ้าเป็นอาจารย์จริง ๆ ไม่น่าจะมีกลิ่นอายของนักล่า หรึอบรรยากาศรอบตัวแบบนี้

     

    ตามมาดู

     

    เพื่อ?

     

    ฉันอยากรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กมีปัญหาอย่างพวกเธอ

     

    หึ

     

    อเลาดิมองคนที่ส่งเสียวขำเยาะเย้ยออกมา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าขำคำพูดของเขาหรืออะไรกันแน่ ยิ่งดวงตาสีดำนั้นแสดงความหยิ่งผยองออกมาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเห็นแววสั่นไหวชัดเจนขึ้นเท่านั้น และนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาอยากจะเข้าใจในการกระทำทุกอย่างที่แสดงออกมาของเด็กคนนี้

     

    งั้นก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ไม่ถูกกับคนที่บ้านนั้นแหละคือเหตุผล

     

    สึนะพูดขึ้นมาก่อนจะเดินแยกไปอีกทางซึ่งสองคนที่เหลือก็เดินตามไป มีเพียงร่างบางผมดำเท่านั้นที่เดินแยกเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งอเลาดิคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนจึงตัดสินใจเดินตามเข้าไป ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะตามเข้าไปก็ไม่รู้สิ

     

    มีอะไร

     

    ฮิบาริถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายปิดประตูเสร็จแล้ว เขาเห็นตั้งแต่อีกฝ่ายเดินตามเขามาแทนที่จะตามสามคนนั้นไปแล้วละ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากจะเข้ามาก็เข้ามาสิ ท่านพ่อไม่อยู่ก็ไม่มีใครว่าเขานี่หน่า

     

    ทำไมถึงไม่ไปกับสามคนนั้น

     

    ก็บอกแล้วไงว่าจะนอน แล้วอีกอย่าง...คนที่ต้องถามคำถามนั้นนะน่าจะเป็นผมมากกว่า

     

    ฉันก็บอกแล้วไงว่าจะมาดูความเป็นอยู่ของเด็กมีปัญหา

     

    อเลาดิบอกก่อนจะมองสำรวจไปทั่วห้อง การจัดแต่งห้องเป็นแบบเรียบง่าย เน้นการใช้สอยมากกว่าสวยงาม แต่ก็ถือว่าจัดห้องได้น่าอยู่เหมือนกันคือเป็นแบบแนวญี่ปุ่นโบราณที่จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรอยู่ในห้องเลย มีแค่ชั้นวางเสื้อผ้า ตู้ก็ไม่มี แล้วก็ฟูกนอน ชั้นหนังสือ และโต๊ะเขียนหนังสือตัวเตี๊ยที่มีโน๊ตบุ๊ควางอยู่บนนั้น ซึ่งก็ดูเหมือนเจ้าเครื่องสีดำนั้นจะเป็นวัตถุแปลกปลอมเพียงอย่างเดียวในห้องนอนของคุณหนูเรือนญี่ปุ่นโบราณหลังนี้

     

    สึนะก็บอกไปแล้วไงว่าเหตุผลก็มีเพียงเข้ากันกับคนที่บ้านไม่ได้ แล้วตอนนี้ท่านพ่อของผมก็ไม่อยู่ เพราะงั้นอาจารย์ก็มาเสียเที่ยวแล้วละ

     

    จะบอกว่าเธอเข้ากับพ่อเธอไม่ได้หรือไง

     

    ก็ประมาณนั้น

     

    ฮิบาริตอบแบบไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะเดินไปหยิบชุดยูคาตะสีดำสนิทที่พับวางอยู่บนชั้นมาเปลี่ยน...ตรงนั้นแหละ โดยไม่สนใจสายตาของคนอีกคนที่ยืนอยู่ในห้องด้วยเลย

     

    จะเปลี่ยนชุดให้สบายตัวหน่อยไหม จะบอกให้คนไปเอามาให้

     

    .....

     

    ถ้าไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร ท่านพ่อไม่อยู่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายนักหรอกเพราะผมไม่ถือ...แต่ถ้าอาจารย์ถือมันก็อีกเรื่องหนึ่ง

     

    ฉันยังไงก็ได้ แต่เปลี่ยนให้สบายตัวหน่อยก็ดี ขอยืมของเธอเลยก็แล้วกัน

     

    หืม?

     

    ฮิบาริขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ กล้าใส่เสื้อผ้าร่วมกันด้วยหรือไง ประหลาดคนชะมัด แต่พอเห็นอีกคนหยิบจากตรงชั้นวางของเขาแล้วก็เปลี่ยนซะตรงนั้น คนผมดำก็หันมาสนใจชุดของตัวเองต่อ

     

    อาจารย์ผูกเป็นหรือเปล่าเนี้ย

     

    ไม่เป็น

     

    อเลาดิตอบหน้านิ่งทั้ง ๆ ที่ก็กลัวเสียหน้าเหมือนกัน แต่จะทำไงได้เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่นนี่หน่า ก็แค่เคยมาเรียนที่ญี่ปุ่น นี่อ่านออกเขียนภาษาของประเทศนี้ได้ก็เก่งเท่าไหร่แล้ว แต่ถ้าจะให้มาแต่งตัวญี่ปุ่นแบบนี้เป็นก็คงเกินไปหน่อยแหละ

     

    ก็บอกสิ จะได้ผูกให้

     

    ฮิบาริบอกก่อนจะเดินมาผูกสายโอบิ ทั้งยังจัดชุดให้เข้ารูปดูดีขึ้นด้วย ด้วยไซส์ตัวที่ไม่ต่างกันมาก บวกกับเขาชอบใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ เลยทำให้อีกฝ่ายใส่ชุดของเขาได้พอดี

     

    ฉันไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่น...เป็นคนอิตาลี

     

    แล้วอาจารย์มาญี่ปุ่นทำไม

     

    โดนเรียกตัวให้มาคุมเด็กดื้อห้องหนึ่งนะสิ

     

    ท้ายเสียงสะบัดขึ้นนิดอย่างจะให้รู้ว่าเป็นเพราะใคร ส่วนคนโดนก็ทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นนิดก่อนจะก้มหน้าลงผูกสายโอบิให้อีกฝ่ายต่อ พอเห็นแบบนี้อเลาดิเลยยืนเฉย ๆ หันมองโน้น มองนี้ไปเรื่อยโดยไม่พูดอะไรบ้าง

     

    ความเงียบดำเนินต่อไปจนกระทั้งฮิบาริจัดชุดให้อีกฝ่ายเรียบร้อย เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่อเลาดิก้มหน้าลงมองสำรวจตัวเอง ดวงตาสองคู่สบกัน ปลายจมูกทั้งสองชนกัน เนื้อตัวของพวกเขาแนบชิดกัน และแล้ว...

     

     

    ครืดดดดดดด

     

     

    เคียวยะทำไมแก...

     

    เสียงพูดของโกคุเดระหายไปเมื่อเห็นภาพคนทั้งคู่ในห้อง ซึ่งพอได้ยินแบบนี้อเลาดิทำเพียงหันไปมองเฉย ๆ ส่วนฮิบาริเบิกตากว้างแต่ก็แค่แป๊บเดียวก็กลับมาเป็นปกติก่อนจะค่อยผละออกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนสามคนที่เห็นภาพนี้อ้าปากค้างไปแล้วเรียบร้อย

     

    คะ คะ...

     

    มุคุโร่พยายามจะเรียกชื่อเพื่อนของตัวเองแต่เสียงดันไม่ออกมาซะนี้ เจ้าตัวชี้นิ้วสั่นระริกไปที่ทั้งสองคนที่มองมาพลางขมวดคิ้วน้อย ๆ ทางฝั่งอเลาดิที่ไม่ได้คิดอะไรมองการกระทำของทั้งสามคนว่าแปลกแค่นั้น แต่กับฮิบารินี่อายไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่เจ้าตัวก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วถามกลบเกลื่อน

     

    เข้ามามีอะไร

     

    ตอนแรกกะจะมาตามไปนั่งเล่นที่สวนด้วยกัน แต่คิดว่าแกคงไม่อยากไปแล้วใช่ไหม

     

    สึนะบอกก่อนจะมองหน้าเพื่อนเหมือนไม่อยากเชื่อ แล้วเจ้าตัวก็หันไปลากอีกสองคนที่ยืนค้างอยู่แบบนั้นให้ออกไปด้วยกันโดยไม่ลืมจะปิดประตูให้ด้วย

     

    พวกเพื่อนของเธฮเป็นอะไรกันนะ

     

    ก็...

     

    ฮิบาริไม่รู้จะตอบยังไงดี เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้วยังคิดไม่ออกหรือไงกัน จะเปลี่ยนบทบาทลูกศิษย์อาจารย์กันตอนนี้หรือยังไง

     

    ช่างเถอะ แต่เธฮไม่ออกไปกับพวกนั้นหน่อยหรอ

     

    แล้วอาจารย์จะไปไหม

     

    แล้วแต่เธอ ตอนนี้ฉันอยากตามดูเธอมากกว่า

     

    ร่างบางผมดำนิ่งไปนิดกับคำตอบที่ได้รับ ก่อนจะเสตามองไปทางอื่นเพราะทนสบกับดวงตาสีฟ้าสวยคู่นั้นไม่ได้อีก ก็ในเมื่อตอนนี้ใจมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้วนี่หน่า ถ้ายังฝืนต่อไปมีหวังอีกฝ่ายคงรู้ความคิดของเขาแน่ ๆ

     

    ผมจะนอน ถ้าอยากนั่งดูก็เชิญดูไปเถอะ

     

    เจ้าตัวเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะเดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนตะแคงบนฟูกนอนโดยปล่อยให้อีกคนนั่งเฝ้าอยู่บนฟูกตรงหน้าเขา อเลาดิเหลือบมองคนแกล้งหลับแล้วยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเดินไปเลือกหนังสือจากชั้นวางมาสองสามเล่มแล้วกับมานั่งที่เดิม

     

    ดวงตาสีดำสนิทเปิดขึ้นมองคนตรงหน้าเล็กน้อย แล้วหลับลงใหม่เมื่ออีกฝ่ายมองกลับมา เจ้าตัวเลยแกล้งพลิกตัวตะแคงหันหลังให้ ซึ่งอเลาดิก็รอดูว่าเจ้าตัวจะหมดความอดทนเมื่อไหร่ แต่เพราะเขาอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยจนเวลาผ่านไปสักพัก หันไปมองอีกทีคนที่แกล้งหลับเมื่อกี้ก็หลับไปจริง ๆ ซะแล้ว

     

    ดวงตาสีฟ้าสวยทอดมองคนร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนฟูกนอน มือสวยเอื้อมปัดปอยผมที่ตกระใบหน้าอีกฝ่ายอยู่ออก ซึ่งก็เหมือนเจ้าตัวจะรำคาญเลยพลิกตัวหันหน้าเข้ามาหาเขาอีกหน อเลาดิขำออกมาน้อย ๆ กับความไร้เดียวสาเวลาหลับของเจ้าเด็กจอมแสบคนนี้ เจ้าตัววางหนังสือลงข้างตัว ลากผ้าห่มขึ้นมาห่มให้คนตัวเล็กถึงช่วงไหล่แล้วล้มตัวลงนอนตามจนกระทั่งหลับไปในที่สุด

     

     

     

     

    แกคิดเหมือนฉันไหม

     

    คิด

     

    ฉันก็คิด

     

    คนสามคนยืนกระซิบกระซาบกันอยู่หน้าประตู หลังจากที่ออกกันไปแล้วพวกเขาก็ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องที่เห็น และเพื่อความแน่ใจ พวกเขาถึงได้เสี่ยงตายมาดูอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ภาพที่เห็นก็คือ ร่างเพรียวบางของอาจารย์ผมสีฟางนอนหงายอยู่โดยที่ร่างเล็กของคนผมดำซึ่งก็คือเพื่อนของพวกเขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาอีกคนที่นอนอยู่

     

    งั้นก็ใช่แล้วละ

     

    สึนะเลื่อนปิดประตูก่อนจะพูดออกมาเสียงเบา พวกเขาสามคนมองหน้ากันเองแล้วพากันถอนหายใจออกมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นทางเดินตรงหน้าห้องนี่แหละ โดยไม่สนใจอะไรเลยด้วย

     

    “สรุปว่าสองคนนั้นเขา...”

     

    “...ก็คงเป็นอย่างที่เราคิดกันนั้นแหละ”

     

    โกคุเดระนั่งท้าวคางมองหน้าเพื่อนสองคนสลับไปมา ตอนนี้สติเขากลับมาเด่นชัดเหมือนเดิมแล้วเลยได้แต่นั่งมองไอ้สองคนนี้ทำหน้าคิดหนักกันอยู่

     

    “พวกแกหวงเคียวยะมันหรอ”

     

    สายตาสองคู่หันมามองคนถามทั้งที่ยังขมวดคิ้วมุ่นกันอยู่เลย ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วถามกลับมาเสียงขุ่น

     

    “หรือแกไม่หวงมัน”

     

    “เออไม่หวง ฉันห่วงมันเฉย ๆ...ไม่ใช่หมาหวงก้างอย่างพวกแกนี่ ไม่รู้จะอะไรนักหนา”

     

    “ก็แล้วแกกับเคียวยะมันหน้าหวงไหมละ ดูสภาพตัวพวกแกก่อนเถอะ แล้วค่อยมาว่าฉันกับสึนะมัน”

     

    มุคุโร่พูดก่อนจะหันไปสุมหัวกับสึนะต่อ โกคุเดระเลยได้แต่นั่งท้าวคางมองหน้าไอ้ขี้หวงสองคนแล้วส่ายหัวเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจว่าเมื่อไหร่มันจะเลิกไอ้นิสัยนี้กันสักที แต่แล้วเจ้าตัวก็ตาโตขึ้นมาเหมือนนึกอะไรได้ แล้วละล่ำละลักถามอย่างกับเรื่องคอขาดบาดตาย

     

    “ว่าแต่...พวกแกว่าใครรุกใครรับวะ สภาพแบบนั้นนะ”

     

    “อืม ฉันว่าเคียวยะของเราน่าจะรับนะ ก็ตัวเล็กหน้าสวยซะขนาดนั้น...”

     

    “แต่ฉันว่ามันก็ไม่แน่หรอก อาจารย์อเลาดิก็หน้าสวยไม่แพ้เคียวยะมัน แถมตัวก็ใหญ่กว่ากันไม่เท่าไหร่ ผอม ๆ บาง ๆ เหมือนกันแบบนั้นอาจจะรับก็ได้นะ”

     

    “อืม...นั้นนะสิ เอ๊ะ?...หรือว่าจะผลัดกันวะ”

     

    คำถามของโกคุเดระลอยคว้างอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครสามารถตอบได้ หนึ่งคนถามนั่งขมวดคิ้วมุ่นกับคำถามที่ตัวเองตั้งขึ้น ส่วนอีกสองที่โดนถามก็มุ่นคิ้วไม่ต่างกันเพราะหาคำตอบให้เพื่อนไม่ได้

     

     

     

    ..............................................................



     

    Writer talk : อืม...ไรท์เตอร์ก็คิดว่าผลัดกันคะฮายะจัง

    ตอบคำถามของโกคุเดระกันหน่อยสิคะว่าใครคิดยังไงกันบ้าง อิ ๆ...ตอนนี้เป็นเหมือนตอนใส ๆ ของอเลาจังกับเคียว ๆ เนาะ ไรท์เตอร์ว่าเวลาสองคนนี้เขาอยู่ด้วยกันแล้วมันน่ารักดีอะคะ ถ้าเป็นฟิคเรื่องอื่นไรท์เตอร์เองก็คงจิ้นไปแล้วเหมือนกัน แต่ว่าเป็นฟิคที่เราแต่งเองมันก็เลยเหมือนกันจะเข้าใจอารมณ์ของทั้งคู่ที่รู้สึกต่อกันตอนอยู่ด้วยกันมากกว่า เพราะงั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก ฟิคเรื่องนี้ยังคงเป็น D18 และ ดันเต้ อเลาดิ เหมือนเดิมนะคะ ไม่มีการเปลี่ยนคู่แต่อย่างใด(ลองคิดดูนะว่าถ้าให้อเลาจังคู่กับเคียว ๆ แล้วจะให้ดันเต้คู่กับดีโน่หรือคะ?) เพียงแต่อย่างที่บอกว่าไรท์เตอร์ชอบเวลาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนะคะ ถ้าใครอยากรู้ว่าทำไมไรท์เตอร์ถึงชอบทั้งคู่ในมุมแบบนี้ก็มาติดตามความลับของสองคนนี้ดูแล้วกันนะคะ(ห๊ะ สองคนนี้ก็มีความลับต่อกันด้วยหรอ///แน่นอนคะ(ยิ้มใสไร้มลพิษ))

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×