-Azminz.27-
ดู Blog ทั้งหมด

ว่าด้วยเรื่องของ Emiura Sakura Original Character ที่ไรท์รักที่สุด

เขียนโดย -Azminz.27-
จาก Original Character สนองนีทในฟิค
"รักเก๊ก ๆ ของสาวหยิ่งกับนายยิ้มยาก"

สู่ กุญแจดอกสำคัญ ใน
The missing PARALLEL WORLD
.
.
.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.
.
.

            เมื่อสมัย 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคือตัวเองบ้ามากที่จะนั่งดู "ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น !" ได้เป็นวัน ๆ ดูวน ๆ ซ้ำ ๆ ไปแบบนั้นจนกระทั่งจำเนื่อเรื่องได้ ซึ่งในตอนนั้นเนื้อเรื่องที่ตัวเองตามตอนนั้น ภาคอนาคตน่าจะยังไม่จบถ้าจำไม่ผิด แต่ด้วยความที่มันอยากจะมีฟิคติดมือซักเรื่องนึงในชีวิต ประกอบกับตอนนั้นก่อนที่จะมาบ้าสึนะ คือบ้าปู่มาก ๆ เรียกว่ารูปนี่เต็มโทรศัพท์เลย 555555
.
.

พอ... เข้าเรื่องก่อน ... ถถถถ
.
.

            อย่างที่บอกคือ ตอนนั้นตัวเองเป็นแค่เด็กม.3 ที่ติดการ์ตูนซักเรื่องนึงจนอยากจะเขียนฟิคให้เรื่องไปในแบบที่ใจมันต้องการ อีกอย่างคือใจมันอยากจะมีฟิคซักเรื่องที่ขึ้นชื่อว่าตัวเองเป็นคนแต่ง ตอนที่แต่งก็รีบ ๆ พิมพ์ไปเพราะเวลาเล่นคอมน้อยมาก อีกอย่างคือมันเป็นการเขียนนิยายที่สนองนีทเพียว ๆ โดยไม่มีการกรองและลำดับเรื่องให้ไม่สับสน ประเด็น ปม รวมถึงอะไรต่าง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนผูกเอาไว้ยังไม่มีการแก้ไขจนกระทั่งเรื่องจบ ในช่วงที่พิมพ์นิยายนั้นยังไม่มีข้อมูลของตัวละครวองโกเล่รุ่นแรกมาให้ได้อ่านกัน เลยไม่รู้ว่าที่จริงปู่แกมีครอบครัวอะไรยังไง ด้วยความที่ชอบมากก็เลยสร้าง Original Character ตัวหนึ่งขึ้นมา ซึ่งก็คือ Emiura Sakura (เอมิอุระ ซากุระ) ซึ่ง ณ ปัจจุบันในฟิครีเมค The missing PARALLEL WORLD เธอก็ยังคงมีบทบาทโลดแล่นอยู่ในฟิคเรื่องนี้
.
.

            ในตอนแรกฟิค รักเก๊กๆของสาวหยิ่งกับนายยิ้มยาก นั้นตัวที่เป็นพระนางจริง ๆ คือ ซาวาดะ อิเอยะสึ(วองโกเล่พรีโม่) กับ เอมิอุระ ซากุระ เพราะเราจงใจเขียนมาให้เป็นแบบนั้น ในสมองไม่มีการกรองใด ๆ ว่าเรื่องมันควรลำดับอย่างไร เริ่มตรงไหน ต่อด้วยอะไร ไปยังอะไร รู้แค่อยากให้เป็นแบบนี้ แบบนี้ และแบบนี้ เขียน ๆ ไปให้มันจบไปแบบนั้น แต่ก็ไม่เคยกลับไปนั่งอ่านมันอีกเลย เพราะคิดไว้ว่าก็ได้ระบายออกไปแล้วเลยไม่สนใจมันอีก หลังจากนั้นก็ติดเรียน ติดกิจกรรมและเล่นเพจใน Facebook เป็นหลักจนกระทั่งลืมนิยายเรื่องนี้ไปเลย และตัวเองก็แต่งนิยายไปที่อื่นตลอด ๆ ไม่ได้ลงใน Social Media เท่าไหร่ จนกระทั่งมันอยู่ในจุดที่เริ่มจะไม่มีอะไรทำ ใน 7 ปีต่อมานี่แหละ
.
.

            จริง ๆ ต้องย้อนไปก่อนหน้านั้นอีกสองถึงสามปีที่กลับมานั่งตามรีบอร์นอีกครั้ง เราทั้งดูอนิเมะ อ่านมังงะ ค้นข้อมูลเชิงลึกและตามทุก ๆ อย่างกลับเข้ามาในสมอง ไม่เคยทำความเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า เพราะอะไร ถึงได้รักการ์ตูนเรื่องนี้นักหนา 555555 พอข้อมูลมันแน่นสมองไปหมดการทำเพจของเราในการแชร์สารพัดข้อมูลที่มี ก็ทำให้มีคนสนใจเพจมากขึ้น แต่ในหัวก็เริ่มคิดแล้วล่ะ ว่าจะกลับมานั่งขลุกอยู่กับฟิคอีกดีมั้ย แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็นไอเดียในการดำเนินเรื่อง ตอนนั้นยังนึกถึงฟิค รักเก๊กๆของสาวหยิ่งกับนายยิ้มยาก ไม่ออก คือลืมนางไปแล้วจริง ๆ เพิ่งมานึกถึงนางได้ก็เมื่อช่วงกลางปีก่อน ว่าเฮ้ย ! เราเคยแต่งฟิคเรื่องนี้ไว้นี่หว่า !
.
.

            แล้วตัวเองก็ได้กลับมาสัมผัสกับกิเลสแบบเด็ก ๆ ของตัวเองเมื่อ 7 ปีที่แล้ว การตามรหัสและอีเมลล์เดิมสำหรับล็อกอิน My iD Dek-D อันแรกในชีวิตคือมันไม่ง่ายเลย ทั้งขุดสมบัติหากระดาษแผ่นเดียวที่จดอีเมลล์และพาสเวิร์ดสำหรับล็อกอิน ไหนจะการกู้อีเมลล์คืนมาอีก แต่พอทำได้แล้ว กลับมานั่งอ่านนิยายตัวเองแล้ว คำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจตัวเองหลังจากที่ได้อ่านคือ "นี่กูเขียนอะไรลงไปวะเนี่ย ?!" แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดว่าจะแต่งฟิคนี้ใหม่ มันแค่นั่งด่าตัวเองเฉย ๆ ที่เขียนฟิคได้เละยิ่งกว่าเส้นมาม่าอืด ๆ ในถ้วย จนกระทั่งท้ายปีที่มันนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเอาไอเดียอะไรมาใช้ดำเนินเรื่องในฟิค ก็เลยตัดสินใจว่าจะรีเมคฟิคเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่อีกรอบนึง สร้างชีวิตให้ฟิคนี้อีกครั้งนึง ทำทุกอย่างให้มันออกมาดี ใส่ทุกอย่างในสมองที่มันยังไม่เคยบรรยายอะไรลงไป
.
.

            พอกลับมานั่งอ่านฟิคเดิมที่แต่ง เพราะตอนนั้นกำลังเตรียมมาร์คจุดที่จะดำเนินเรื่องใหม่ทั้งหมด สร้าง Story Board ของฟิคเดิมขึ้นมาและมาร์คจุดที่เป็นช่องว่างของเรื่องเอาไว้ เสร็จแล้วก็มาตั้ง Story Board ของฟิครีเมคต่อ แล้วมันก็มาสะดุดกับตัวละครตัวนี้ Emiura Sakura ที่ตัวเองเคยรักนักหนา พอมาดู ๆ แล้วความสามารถของนางมันโอเวอร์มากไปจนไม่มีความสมเหตุสมผล หลังจากที่มาเริ่มเขียนใหม่ก็เกิดเสียดายความสามารถเหล่านั้นขึ้นมา 555555 ก็เลยหาความสมเหตุสมผลให้กับตัวเธอไปเลย แต่ก็นั่งคิดอยู่เกือบวันว่าจะเอาอะไรมาถ่วงเธอลงไปจากความโอเวอร์นี้ ก็เลยพาลไปนึกถึงช่วงตอนจบของภาค สงครามสีรุ้ง ในมังงะ ตอนที่ผู้เฒ่าทัลโวเอาโหลใบหนึ่งมาให้สำหรับใช้ในการหมุนเวียนไฟธาตุกลุ่มนภาทั้งเจ็ดไม่ให้สูญหาย ก็เลยมานึกถึงความเสียหายบางอย่างขึ้น บวกกับโยนปริศนาของเรื่องนี้ไปทิ้งไว้ที่ตัวของซากุระ จนกำเนิดเป็นคำว่า "คำสาป" ขึ้นมา และใช้มันมาเป็นจุดประทับถึงตัวละครนี้
.
.

            พอหลังจากที่ได้แล้วว่าจะเอาอะไรมาถ่วงเธอ เราก็เลยมานั่งลงดีเทลไปอีกว่า คำสาปที่ว่าเนี่ย มันเป็นยังไง มีอะไร ทำอะไร อย่างไร แล้วมันส่งผลร้ายถึงเธอยังไง ความสามารถที่มีได้เพราะคำสาป แต่จะให้เหมือนคนปกติไปซะหมดมันก็เกินไป เลยไปนึกถึงอัลโกบาเลโน่ที่ถูกสาปแล้วตัวจะเล็กลง แต่นั่นก็เป็นคำสาปที่มีชื่อว่า อัลโกบาเลโน่ ด้วยความที่ตัวเองถึงจะแมนกว่าผู้ชายบางคนแต่ก็ยังชอบอะไรสวย ๆ งาม ๆ อยู่ ก็เลยเลือกที่จะเอาคำสาปนั้นมาโยงกับชื่อของตัวละครไว้ แล้วก็มานึกถึงภาพของบุคคลิกที่เคยเขียนไว้ในฟิคเดิมที่เราไม่เคยอธิบาย "ซากุระเป็นผู้หญิงที่แข็งนอกอ่อนใน" แต่อะไรล่ะ ที่จะทำให้เป็นผู้หญิงแข็ง ๆ เย็นชา ๆ แบบนั้น ประวัติชีวิตเธอจะเอายังไงดีในเมื่อเบี้องต้นก็เคยเขียนไว้ดีพอควร(ถึงจะจำไม่ได้แล้วก็ตาม 55555) ก็เลยมาเขียนประวัติใหม่ในรูปของ "เด็กผู้หญิงที่ถูกครอบครัวทิ้งขว้าง" กับความหลังอันเจ็บปวดจากการถูกคนแรก ๆ ที่รักในชีวิตมาหักหลัง เจ็บจนกลายเป็นปมฝังลึกในจิตใจ การถูกความรักทรยศหักหลัง ส่วนตัวแล้วมองว่ามันคือความเจ็บที่เจ็บปวดที่สุดโดยไม่จำเป็นจะต้องใช้อาวุธหรือการลงมือทำร้ายร่างกายใด ๆ แต่มันสามารถทำให้คนตายทั้งเป็นได้เลย
.
.

            หลังจากนั้นก็มาพลิกเรื่องต่อด้วยการเล่นมุกแผนซ้อนแผนต่อในฟิค ด้วยการให้เบียคุรันกลับมารับบทตัวร้ายต่อแทนที่จะมาสวมบทเป็นเพื่อนพระเอก และยังยัดเบื้องลึกเบื้องหลังเอาไว้สารพัดสารเพ จนต้องจดเอาไว้ในสมุดไม่งั้นลืมแน่ ๆ เพิ่มความยากลำบากของฝั่งตัวเอกโดยการเสก Original Character มาเพิ่มในด้านของฝั่งตัวร้าย การเปลี่ยนข้อมูลบางอย่างเพื่อให้ตรงและต่อเนื่องกับเนื้อเรื่องในตอนสุดท้ายที่จบไป เอาจริง ๆ ค่อนข้างเหนื่อยใจกับฟิคนี้อยู่นะ เพราะเนื้อหาเยอะมากจนบางทีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปล่อยให้เรื่องจบแบบนั้น มีต่อซักภาคสองภาคก็ดี เอาให้มันจบจริง ๆ อะ ได้มั้ยคะ อ.อามาโนะ 55555
.
.

            ย่อหน้านี้อาจจะมีการสปอยล์นิดหน่อยก็อย่าว่ากัน เอาจริง ๆ แล้วในฟิคนี้ เราสร้างซากุระขึ้นมาในความมืดเลยก็ว่าได้ เด็กผู้หญิงที่เคยมีความสุขแค่แวบเดียวในชีวิต แต่กลับต้องตกนรกเหมือนตายทั้งเป็นยี่สิบกว่าปี ต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ปกติ แต่ก็หนีไม่พ้นวิถีมาเฟียอยู่ดี ความเกลียดชัง การกลัวความรัก ความแค้น ความน้อยใจ มาหลอมรวมเกิดเป็นคน คนหนึ่งขึ้นมา รวมอยู่ในตัวของผู้หญิงที่ภายนอกแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีประวัติแบบนี้ เป็นตัวละครที่ปฏิเสธทุกความรู้สึกดี ๆ ที่วิ่งเข้าหาเธอ เพราะเธอคิดอยู่อย่างเดียวว่า ความรู้สึกเหล่านั้นมันไม่มีจริง มันก็แค่ฝันคืนเดียวเท่านั้น และ ก็จะใช้เธอเป็นทั้งกุญแจคลายปริศนาบางอย่าง และใช้เป็นอีกตัวละคร ที่ใช้ดำเนินเรื่องคู่ไปกับฝั่งของเบียคุรัน ใช้สึนะ และ ตัวจิอ็อตโต้ ในการเปลี่ยนความมืดในตัวของซากุระ ให้กลายเป็นแสงสว่าง 
.
.

            แต่ถามว่าในฟิคนี้ จะให้จิอ็อตโต้กับซากุระ ได้กลับมาคู่กันเหมือนฟิคแรกหรือเปล่า(จำไม่ได้ ว่าคู่นี้ได้คู่กันมั้ยในฟิคแรก แต่น่าจะใช่นะ 5555555)  ณ ตอนนี้จริง ๆ แล้วยังไม่ได้คิดเลย เพราะในใจคิดตอนจบเอาไว้เยอะมาก แต่ก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่า จะให้กลับมาคู่กันอีกดีมั้ย แต่ส่วนใหญ่ในหัวมีแต่เรื่องพรากจากทั้งนั้นเลย 5555555 มีทั้งจากสุขและจากเศร้า คือเราจะไม่บังคับตัวเองว่าให้ตอนจบไปลงที่ตรงไหน ให้ความสมเหตุสมผลของแต่ละจุดของเรื่อง ให้ปริศนาต่าง ๆ ที่คลี่คลาย และให้ความรู้สึกจากตัวละครเหล่านั้นเป็นตัวนำทางไปจนกว่าจะถึงตรงนั้นดีกว่า อย่างน้อยตัวเราที่เป็นคนเขียนเองจะได้ไม่เสียใจที่ "ทำไมเราไม่เลือกตอนจบแบบนั้นวะแบบนี้วะ" เพราะตอนจบที่จะเกิดขึ้นใน The missing PARALLEL WORLD คือตอนจบที่มาจากนิสัย และความรู้สึก รวมถึงการตัดสินใจจากตัวละครเหล่านั้นเองทั้งหมด
.
.

            ถ้าเกิดมีใครพลาดเข้ามาอ่านและอุตส่าห์อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ขอขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านบล็อกบ่นบ้า ๆ บอ ๆ ของเรา 555555 เผื่อวันนึงมีคนมาถามถึงตัวซากุระ เราจะได้เอาบล็อกไปแปะให้อ่านค่ะ ไม่มีอะไร 55555555555
.
.

ปล. ถ้าหากฟิคเรื่องนี้จบเมื่อไหร่ ไรท์จะเอาประวัติโดยละเอียดของทุก ๆ Original Character มาอัพเดทในบล็อกให้ได้อ่านกันนะคะ <3

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น