ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Great Warrior Online สงครามมหาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #13 : Chap.X บอสใต้ดิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 870
      10
      17 ก.ย. 57

    CHAPTER X.



      

     

    บอสใต้ดิน

     

     

                เมื่อเรย์นาคลายผนึกลง วิหารก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นห้องที่เรย์นาอยู่นั้นค่อยๆ พังทลายลง อีกห้องหนึ่งจึงแตกตื่น ผู้เล่นวิ่งหนีกันอลหม่านแต่ก็มีคนบางส่วนคอยกางม่านพลังให้วิหารคงสภาพชั่วคราวเพื่ออพยพผู้เล่นออก เรย์นาเป็นหนึ่งในคนที่โดนช่วยไว้เนื่องจากห้องที่ใช้ทำการคลายผนึกนั้นมีสภาพเก่าแก่กว่าห้องของสัตว์อสูรมากนักจึงทำให้ห้องพังลงมาเร็วเป็นพิเศษ เศษหินร่วงลงมากันเรย์นากับทางออกสูงเกือบสองเมตร ในขณะที่เรย์นากำลังคิดว่าเธอควรจะพังหินพวกนี้ก็มีผู้เล่นคนหนึ่งปีนขึ้นมาบนหินนั้น

     

                ปีนขึ้นมาเลย ถ้าเธอช้าได้โดนหินพวกนี้ทับตายแน่เขายื่นมือลงมาแล้วออกแรงดึงเรย์นาขึ้นไป และแล้วทั้งคู่ก็สัมผัสได้ถึงสงคราม มีผู้เล่นสามกลุ่มยืนแยกกัน ผู้เล่นคนนั้นแยกตัวไปยืนอยู่กับผู้เล่นอีกกลุ่มหนึ่ง

     

                มีเรื่องแล้วว่ะ ไอ้พวกนี้มันหาว่ากิลด์เราทำลายวิหารแล้วก็ฆ่าคนของมันชายคนหนึ่งพูดขึ้นกับผู้เล่นที่ช่วยเรย์นา และเรย์นาก็แทบสะดุ้งเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นคือคนเดียวกันผู้เล่นที่เธอช่วยไว้

     

                ถ้าเธอเดาไม่ผิดผู้เล่นที่ยืนประชันหน้ากันคือผู้เล่นในกิลด์ความมืด ส่วนอีกกลุ่มคงเป็นผู้เล่นอิสระ เรย์นาเดินเนียนๆ ไปรวมกับผู้เล่นกลุ่มนั้นซึ่งแต่ละคนก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก คือไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมวิหารถึงถล่มและทำไมผู้เล่นสองกลุ่มนี้ถึงโทษกันไปโทษกันมา ไม่ใช่เรื่องที่แปลกนักถ้าจะมีคนคิดเช่นนี้ เพราะวิหารแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คนต่างเมืองมักมาเก็บระดับกัน ผู้เล่นเหล่านั้นจึงไม่รู้เรื่องความบาดหมางระหว่างสองกิลด์นี้

     

                แต่ก่อนที่ทั้งสองกิลด์จะเริ่มเปิดฉากต่อสู้กัน วิหารก็ถล่มลงมาแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ในวิหารนั้นไม่พากันออกมาวิ่งเล่นท่ามกลางผู้เล่นเช่นนี้ โดยเฉลี่ยแล้วสัตว์อสูรในวิหารแห่งนี้จะอยู่ที่คลาส 3 ระดับ 30 ชนชั้นทหาร ถ้าตั้งรูปแบบการจัดตำแหน่งของผู้เล่นดีๆ ก็สามารถรับมือได้แต่ผู้เล่นไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการตั้งรับสัตว์อสูรขนาดนี้ ผู้เล่นแต่ละอาชีพก็กระจัดกระจายกันไปไม่ได้อยู่ในที่ๆ ควร และที่สำคัญจำนวนผู้เล่นหลักๆ อยู่ที่สองกิลด์ที่เตรียมจะซัดกันอยู่ ซึ่งไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่มีทางร่วมสู้กันได้แน่ๆ

     

                ผู้เล่นจากกิลด์นักรบและความมืดสังหารสัตว์อสูรที่เข้ามาในอาณาเขตของตนส่วนเหล่าผู้เล่นอิสระนั้น ส่วนมากหนีกลับเมืองไป พวกที่เหลืออยู่คือพวกระดับสูงพอสมควรที่มั่นใจในฝีมือของตัวเองจริงๆ และสามารถพูดได้เลยว่าในที่นี้นั้น เรย์นามีระดับต่ำที่สุดแล้ว และนี่เป็นช่วงตกอับของเธออย่างแท้จริง ถึงแม้จะได้รับอาชีพแล้วแต่เธอก็ไม่สามารถใช้ความสามารถจากอาชีพได้ ขณะนี้เธอติดสถานะ ห้ามใช้เวทไฟและน้ำทุกประเภท จะควบคุมน้ำจากเวทมนตร์ของผู้เล่นอื่นก็ไม่ได้เพราะความแตกแน่จึงทำได้เพียงหลบบนต้นไม้และคอยซุ่มยิงธนูไปยังจุดสำคัญของสัตว์อสูรทีละตัวเท่านั้น

     

                แต่แล้วหายนะที่แท้จริงก็เกิดขึ้น มีสัตว์อสูรคลาสสามระดับปลายและคลาสสี่มาร่วมวงด้วย อาจเพราะเรย์นาปลดผนึกหรือเพราะอะไรสักอย่างแต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว ผู้เล่นที่ระดับสูงที่สุดที่อยู่ในบริเวณนี้อยู่ที่คลาส 3 ระดับ 80 ซึ่งก็คือหัวหน้ากิลด์ทั้งสอง ในความเป็นจริงแล้วถ้าเรย์นาสู้กับหัวหน้ากิลด์ความมืดเธอก็ไม่มั่นใจเลยว่าเธอจะชนะ ที่เธอแสดงความสามารถออกไปในตอนนั้นแค่ใช้เพื่อทำลายขวัญศัตรูเท่านั้น และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าเธอต้องตายแน่ๆ ถ้าลงไปวุ่นวายกับสัตว์อสูรพวกนี้ในสภาพที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้สักบท

     

                ผู้เล่นอิสระหนีไปเกือบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่นอกจากเรย์นาแล้วมีเพียงผู้เล่นที่รอชมการต่อสู้ถึงตัวเองจะตายก็ไม่เป็นไรกับพวกระดับสูงไม่กี่คน ผู้เล่นจากกิลด์ทั้งสองเคร่งเครียดขึ้นทันที เหมือนรู้งานผู้เล่นอิสระนั้นเริ่มไปรวมกลุ่มกับกิลด์ใดกิลด์หนึ่ง การยืนล่อเป้าเป็นกลุ่มเล็กๆ นั้นเสี่ยงเกินไป แน่นอนว่าเรย์นาไปรวมกับกิลด์นักรบและส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อผู้เล่นอิสระเลือกฝ่าย หัวหน้ากิลด์จึงเริ่มปรับขบวนใหม่ทันที

     

                ฝ่ายชนไปอยู่ด้านหน้า พวกนักเวทกับนักธนูอยู่หลังแนวป้องกัน นักดาบไปอยู่หลังพวกหน่วยชน อัศวินมาตรงนี้!เสียงของชายที่ช่วยเรย์นาไว้ดังขึ้น เรย์นาตัดสินใจว่าถ้าไม่นับเรื่องเวทมนตร์แล้วศาสตร์การต่อสู้ที่เธอถนัดที่สุดก็คือดาบและธนู แต่ด้วยจำนวนนักดาบที่มีน้อยจนน่าใจหายเรย์นาจึงลเอกที่จะอยู่โซนนักดาบและก็สังเกตว่าชายคนนั้นก็เป็นนักดาบเช่นกัน

     

    ไง เจอกันอีกแล้ว นึกว่าเธอจะเป็นพวกนักเวทซะอีกชายคนเดิมทักขึ้น

     

    มีเรื่องนิดหน่อยเลยใช้เวทไม่ได้น่ะเรย์นาตอบกลับอย่างไม่ใส่นัก เธอกำลังหาดาบที่ดีที่สุดในช่องเก็บของเธอ ซึ่งก็อยู่แค่ระดับ C เท่านั้น

     

                ไม่มีใครพูดอะไรอีก เสียงพูดคุยที่เคยมีกลับเงียบกริบ สัตว์อสูรระดับสูงที่มาร่วมในตอนแรกค่อยๆ ถูกเหล่าผู้เล่นสังหารไป แต่ที่น่ากลัวคือหลังจากนี้อีเว้นท์ที่เกิดขึ้นคือการทำลายรังสัตว์อสูร ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าผู้เล่นจะต้องเปิดศึกกับสัตว์อสูรจำนวนมากและที่สังหารไปเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น การตั้งรับครั้งต่อไปจึงต้องทำให้รัดกุมที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดก็มีเสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับเสียงระบบแจ้งการปรากฏตัวของสัตว์อสูร

     

    สัตว์อสูร ซาลามันเดอร์ไฟ จำนวน 280 ตัว ชนชั้น ทหาร คลาส 4 ระดับ 30 ปรากฏตัว ผู้ที่ถูกสังหารจะถูกลดลง 3 ระดับ

     

               นักเวทเตรียมตัว มันมาแล้ว!ชายคนเดิมตะโกนขึ้น กลุ่มนักเวทจึงเริ่มร่ายเวทและยิงใส่พวกสัตว์อสูร ซึ่งเวทเหล่านั้นมีทั้งเวทโจมตีที่ใช้รบกวน คำสาป จนถึงเวทบทใหญ่ที่สามารถสังหารสัตว์อสูรคลาสสี่ได้ถ้าหากมีเวลาร่ายพอและโจมตีได้ตรงจุด

     

    ​            ซาลามันเดอร์ไฟที่ถูกโจมตีโดยเวท แตกกันเป็นกลุ่มๆ และแยกโจมตีทั้งสองกิลด์ แสงจากเวทและลูกธนูยังปรากฏเรื่อยๆ แต่จำนวนของสัตว์อสูรนั้นแทบไม่ลดลง ทำลายขวัญกำลังใจของผู้เล่นที่โจมตีอยู่อย่างมาก เมื่อซาลามันเดอร์เข้ามาใกล้พอสมควรนักเวทและนักธนูก็หยุดโจมตีเพื่อไม่ให้ฝ่ายชนที่อยู่ด้านหน้าสุดโดนลูกหลงไปด้วย จริงอยู่ที่ผู้เล่นสายชนนั้นมีพลังป้องกันและเลือดในปริมาณที่สูงมาก แต่ซาลามันเดอร์ไฟเองก็มีพลังโจมตีที่สูงพอสมควรเช่นกันยิ่งเป็นสัตว์อสูรคลาสสี่ด้วยแล้ว จึงทำให้เลือดของฝ่ายชนนั้นลดลงเร็วพอสมควรถ้าเทียบกับทุกครั้งที่ผ่านมา

     

                กลุ่มโจมตีระยะประชิดเริ่มเข้าไปร่วมวงโดยมีนักเวทสายสนับสนุนคอยช่วย พลังโจมตีของเรย์นาอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าต่ำมาก อาวุธระดับ C เดิมก็มีพลังโจมตีอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว ยิ่งเรย์นาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้จึงต้องพึ่งพลังโจมตีจากดาบเพียงอย่างเดียว การโจมตีของเรย์นาจึงเน้นไปที่ตำแหน่งข้อต่อหรือจุดอ่อนต่างๆ เป็นหลัก เรย์นาหลีกเลี่ยงการโจมตีจากด้านบนหรือก็คือบริเวณหลังของมัน เพราะซาลามันเดอร์ไฟมีผิวหนังที่ค่อนข้างหนาจึงต้องเลือกโจมตีจากบริเวณท้องผ่าขึ้นมาด้านบน

     

                ในด้านผู้เล่นคนอื่นมีพลังโจมตีสูงกว่าก็จริง แต่กลับขาดไหวพริบในการโจมตี การโจมตีตรงๆ โดยไม่สังเกตจากจุดอ่อนทำให้เสียเวลาในการสังหารแต่ละตัว และมีโอกาสที่จะถูกส่งกลับเมืองระหว่างโจมตีเพราะประมาทเวทไฟของมัน การเคลื่อนไหวของผู้เล่นแต่ละคนอยู่ภายใต้สายตาของหัวหน้ากิลด์ทั้งสอง

     

                "ได้เส้นทางแล้ว ไปจัดการบอสดีกว่า ไอ้พวกนี้จัดการไปก็มีมาใหม่เรื่อยๆ เสียเวลาเปล่า" ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เรย์นาและผู้เล่นชายที่ช่วยเรย์นาไว้

     

    "แล้วไอ้พวกกิลด์ความมืดไม่ไปเก็บมันรึไง" ผู้เล่นอีกคนถามขึ้น ผู้เล่นที่มาบอกยิ้มเล็กน้อย

     

                "ไอ้พวกระดับหัวหน้าหนีไปหมดแล้ว มีหัวหน้ากิลด์แค่นั้นแหละที่ซุ่มอยู่ คงเล็งพวกผู้เล่นอิสระที่มีฝีมือไว้ล่ะมั้งแต่เชื่อได้เลย มันไม่มาสอดหรอก"

     

                ผู้เล่นสองคนคุยกันไปสู้กันไป เรย์นาไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักเพราะเธอเองก็กะไว้ว่าจะหาจังหวะดีๆ ชิ่งอยู่เหมือนกันก่อนที่จะมีแผลมากกว่ารอยบาดเล็กๆ น้อยๆ จากเกล็ดของมัน ผู้เล่นรอบข้างเริ่มกลายเป็นแสงกันมากขึ้นทำให้เธอเสียจังหวะจากการคอยหลบสัตว์อสูรที่มารุมมากขึ้นแต่เรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นสายชนร่างยักษ์ใส่เกราะเต็มอัตราศึกเสียหลักล้มทับเรย์นาจนได้ยินเสียงน่าสยดสยองมาจากแขนตัวเอง

     

                ซาลามันเดอร์ไฟใช้หางของมันแทงทะลุเกราะของผู้เล่นร่างยักษ์จนกลายเป็นแสงไปและถามหน้าของเรย์นาไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่มันจะทำอย่างนั้นอีกครั้งเรย์นาก็ถีบบริเวณหน้าของมันเต็มแรงชนิดที่ว่าไม่กลัวโดนมันกัดขาขาด เมื่อมันเสียหลักไปด้านหลังเธอก็ใช้มีดสั้นแทงไปยังศีรษะและใช้ดาบตัดคอทิ้ง เรย์นาเก็บมีดสั้นขึ้นมาและเตรียมไปลุยต่อแต่ก็ต้องชะงักเพราะผู้เล่นสามคนที่คุยกันในตอนแรกดึงเธอออกจากบริเวณที่มีการตะลุมบอนกัน

     

    "มีอะไร" เรย์นาถามอย่างระวัง 

     

    "ตรงซากวิหารมีทางไปชั้นใต้ดินอยู่ บอสมันอยู่ตรงนั้นเราจะขอความร่วมมือเธอไปช่วยจัดการบอสหน่อย" เขาพูดขึ้น

     

                "ทำไมเป็นฉัน" พูดกันตามตรงผู้เล่นที่ไม่สมควรไปล่าบอสที่สุดก็คือเรย์นา พลังโจมตีที่ต่ำรวมกับระดับที่อยู่ในอันดับบ๊วยทำให้เธอไม่มีประโยชน์อะไร

     

                "ในชั้นใต้ดินเราจะใช้เวทมนต์โจมตีไม่ได้อย่างมากก็แค่เวทสนับสนุน เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทักษะดั้งเดิมไม่ใช่สกิลในเกม ดูจากเมื่อกี้เธอเก่งการโจมตีระยะประชิดน่าจะเหมาะที่สุดแล้ว" ผู้เล่นในชุดคลุมสีดำที่เป็นคนมาบอกข่าวอธิบายอย่างละเอียด เขาร่ายเวทรักษาใส่แขนของเธอไม่นานแขนของเรย์นาก็กลับเป็นปกติ

     

                "เอาล่ะ มาแนะนำตัวกันก่อน ฉัน เทนจิ เป็นหัวหน้ากิลด์นักรบ คนตรงนั้นชื่อเพลย์เป็นรองหัวหน้า แล้วก็นั่น..." เขาชี้ไปที่คนใส่ชุดสีดำพร้อมบอกชื่อแต่ก่อนที่จะได้ออกเสียงชายในชุดดำก็ขัดขึ้นมาก่อน

     

    "เฟซ"

     

    "เรย์นา" เธอแนะนำตัว ก่อนที่เฟซจะเป็นคนบอกถึงกลยุทธ์ใยการต่อสู้

     

    "เทนจิกับเพลย์ถนัดดาบ ฉันเป็นนักเวทคงช่วยได้แค่แนะนำ ไปก็เกะกะเปล่าๆ เธอถนัดอาวุธอะไรบ้าง"

     

    "ฉันได้หมด เรย์นาถูกฝึกการป้องกันตัวต้ังแต่เด็กจึงสามารถใช้สิ่งของรอบตัวมาเป็นอาวุธได้ทันที ต่างจากผู้เล่นทั่วไปที่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้อาวุธเป็นเพราะใช้ในการล่าสัตว์อสูร

     

                "บอสมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกอย่างทั้งรูปร่างและโครงสร้าง มันสามารถใช้เวทได้ตามปกติแต่บอสชนิดนี้มีจุดเด่นที่พลังกาย ไม่ใช่พลังเวท เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของเกมในบริเวณที่เราสู้กับบอสนั้นจะมีอาวุธไม่จำกัดเราสามารถใช้อาวุธอะไรก็ได้ และถ้าโชคดี อาวุธจะเลือกเราเมื่อเรากำจัดบอสได้อาวุธนั้นจะเป็นของเราซึ่งในนั้นมีอาวุธระดับ B ถึง S ถ้าเรารอดมาได้ขนาดนั้นล่ะก็นะ" เฟซพูดจบก็เริ่มเขียนวงเวทขนาดใหญ่พอที่จะให้ทั้งสี่เข้าไปยืนได้สบายๆ

     

    "เตรียมตัวล่ะ นี่เป็นทางตรงไปรังของมันเลย!" พื้นดินบริเวณที่เขียนวงเวทหายไป เรย์นาและผู้เล่นกิลด์ความมืดอีกสามคนร่วงลงไปทันที

     

                ข้างล่างนั้นมีทางยาวลึกเข้าไปอีก ถ้ามองขึ้นไปก็นึกไม่ออกเช่นกันว่าจะขึ้นไปได้อย่างไรแต่ที่น่าปวดหัวกว่าคือ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะชนะบอสได้อย่างไรเช่นกัน เรน์นา เทนจิ เพลย์และเฟซเดินไปตามทางไม่นานก็เจอพื้นที่โล่งกว้าง มีทั้งดาบ มีดและอาวุธชนิดต่างๆ เสียบไว้ที่พื้น ถ้าจะพูดว่าเป็นสุสานอาวุธก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก ทั้งสี่มีท่าทีระวังตัวขึ้นทันที จิตสังหารอ่อนๆ ที่มาจากทุกทิศทุกทางสามารถบอกได้อย่างดีว่านี่คือเวทีสำหรับล่าบอส หลังจากลังเลกันสักพักเทนจิก็เป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปเหยียบบริเวณที่โล่งนั้น

     

                เมื่อเขาเหยียบเข้าไปก็เกิดจิตสังหารพุ่งตรงมายังหัวหน้ากิลด์นักรบทันที เรย์นาขว้างมีดสั้นผู้เล่นเริ่มต้นของตัวเองเข้าไปขัดมีดสั้นที่พุ่งตรงมายังเทนจิได้อย่างเฉียดฉิวทำให้มีดนั้นเบี่ยงเฉียดหน้าเขาไปเพียงนิดเดียว แรงกดดันที่มาจากบอสทำให้ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรทั้งสิ้น บอสมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกอย่างตามที่บอกมา แต่รสนิยมการแต่งตัวออกจะประหลาดหน่อยคือใส่เสื้อที่มีซิปรูปมาถึงหัวปิดหน้าปิดตา แสดงให้เห็นถึงความสามารถอีกอย่างคือการมองเห็นที่ไม่จำกัด

     
     

    สัตว์อสูร บอส ใต้ดิน ชนชั้น ทหาร คลาส 4 ระดับ 200 ปรากฏตัว ผู้ที่ถูกสังหารจะถูกลดลง 7 ระดับ

                เฟซร่ายเวทป้องกันให้ก่อนที่เพลย์จะเป็นคนเริ่มโจมตีบอสเป็นคนแรกเขาใช้ดาบแทงโดยเล็งจุดตายเป็นหลัก จุดแรกคือที่หัว เมื่อบอสใต้ดินหลบได้เขาก็แทงบริเวณคอ จริงอยู่ที่หากโจมตีที่จุดตายได้การต่อสู้ก็จะจบทันที แต่บอสระดับนี้ก็ไม่ใช่กระจอกการโจมตีที่เล็งเพียงจุดตายจะทำให้เป้าหมายเดาการเคลื่อนไหวได้ง่าย บอสใต้ดินแทงกลับบริเวณขาของเพลย์ เขาหลบได้ทันและสวนกลับโดยเล็งไว้ที่ท้อง มันปัดดาบของเขากระเด็นอย่างง่ายดายเทนจิอ้อมไปด้านหลังและฟันเข้าที่กลางหลังของมันแต่บอสใต้ดินมีกำลังกายรวมถึงความเร็วในระดับที่สูง มันสามารถหลบและใช้ดาบแทงกลับเทนจิได้ในทันที

     

                เทนจิเบี่ยงหลบจุดตายจากที่มันแทงไปตำแหน่งหัวใจจึงเคลื่อนไปยังต้นแขนแทน การเคลื่อนไหวของทั้งคู่ช้าเกินไปที่จะต่อสู้กับบอสตัวนี้ ในขณะที่เทนจิและเพลย์กำลังต่อสู้กับบอสเรย์นากลับยืนวิเคราะห์อยู่เงียบๆ เพื่อไม่ให้บอสสนใจ เธอกำลังรอจังหวะเหมาะๆ ในการลอบโจมตีเพื่อตัดกำลังของมันอยู่ เพลย์ตวัดดาบไปที่หัวของมันพร้อมกับที่เทนจิแทงที่สีข้างปิดทางหนี อย่างน้อยๆ ก็ควรสร้างบาดแผลให้มันได้บ้างแต่บอสใต้ดินกลับกระโดดในระดับความสูงที่ไม่น่าเป็นไปได้ทั้งคู่สบถอย่างหัวเสีย เตรียมจะตั้งรับครึ้งต่อ

     

    ฉึก!

     

                เสียงลูกธนูดังขึ้นในตำแหน่งเดียวกับที่บอสใต้ดินกระโดดขึ้นไป เมื่อเพลย์และเทนจิมองขึ้นไปก็พบว่ามีลูกธนูปักทะลุขาขวาของบอสอยู่ ลูกธนูดอกนั้นมาจากเรย์นานั่นเอง เธอรอจังหวะที่มันกระโดดขึ้นไปบนอากาศและไม่มีที่หยั่งเท้าสำหรับหลบและใช้จังหวะนี้ในการโจมตีเพื่อตัดความเร็วในการเคลื่อนที่ของมัน การโจมตีอย่างไม่หยุดพักของสองผู้เล่นกิลด์นักรบทำให้การมีตัวตนของเรย์นาถูกลืมไปชั่วคราวซึ่งทำให้ความระมัดระวังตัวของบอสใต้ดินลดลงไปเช่นกัน เมื่อความเร็วของมันลดลงก็มีโอกาสที่จะโจมตีมันได้มากขึ้น

     

                เรย์นาขว้างระเบิดควันที่ซื้อมาจากในเมืองไปยังบริเวณนั้นเพื่อปิดการเคลื่อนไหวก่อนจะขว้างมีดสั้นอีกสองเล่มที่เตรียมไว้ ไม่นานควันก็จางลงปรากฏมีดสั้นที่มีลักษณะเหมือนน้ำแข็งเกาะและมีไอย็นลอยออกมาปักอยู่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ถูกโจมตีครั้งแรก บอสใต้ดินร่วงลงมาที่พื้น เรย์นายิ้มอย่างมีเลศนัย

     

    รู้มั้ย ถ้าถูกน้ำแข็งกัดตำแหน่งเดียวกับที่โดนลูกธนูอาบยาพิษยิงจะเป็นยังไง"




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×