ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [{Fic iKon} BOBBY x YOU (ft.iKON)] MY LOVE MY SLAVE

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : สัญญา (re-wrire + แก้คำผิด 100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.54K
      51
      2 ม.ค. 59

    My Love My Slave




    ตอนที่ 1 : สัญญา




    ร่างผอมเพรียวบางของหญิงสาวหน้าตาสะสวย อายุยี่สิบต้นๆหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้วใหญ่ของคฤหาสน์หลังงามของหนึ่งในตระตูลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลี 'ตระกูลคิมผู้เป็นเจ้าของ ชินกิ กรุ๊ป ที่มีธรุกิจในเครือมากมายไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารและโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน




    ประตูรั้วใหญ่ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับพ่อบ้านที่เดินมาต้อนรับแขก แค่ก้าวแรกที่เข้ามาในตัวบ้านก็ต้องตกตะลึงด้วยความหรูหราอลังการไม่แพ้พระราชวังในต่างประเทศเลยทีเดียว ของประดับตกแต่งภายในบ้านล้วนแต่มีราคาค่างวดมากมายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปวาดของจิตรกรระดับโลก รูปปั้นหรือรูปสลัก นี้ยังไม่นับแจกกันที่บรรจุดอกไม้ราคาแพงที่ประดับอยู่ทั่วไป แสดงให้เห็นถึงฐานะความเป็นอยู่ของเจ้าของบ้านว่าเหลือกินเหลือใช้มากเพียงใด





    พ่อบ้านพาหญิงสาวผู้มาเยือนไปที่ชั้นสองของบ้านตามคำสั่งของผู้เป็นนายที่ได้สั่งไว้ก่อนหน้า ร่างบางอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ที่สลัดลวดลายอย่างสวยงาม ถึงแม้ว่าจะลังเลเล็กน้อยในตอนแรกแต่หลังจากรวบรวมความกล้าแล้ว มือเรียวเล็กยกขึ้นเคาะบอกผู้เป็นเจ้าของห้องถึงการมาเยือนของเธอตามมารยาท




    ก็อก ก็อก ก็อก




    รออยู่ชั่วครู่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในเธอจึงลอกเคาะใหม่อีกครั้ง




    ก็อก ก็อก ก็อก




         เชิญ"




    ต่างจากครั้งแรก คราวนี้ผู้เป็นเจ้าของห้องกล่าวอนุญาตให้ร่างบางที่ยืนรออยู่หน้าห้องเข้าไปได้ ถึงแม้จะลังเลอยู่บ้างแต่ท้ายที่สุดเธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปตามคำเชิญ


    หญิงสาวก้าวเข้ามาในห้องนอนหรูหราแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเจ้าของห้องอยู่ในร่างเปลือยเปล่าพร้อมมัดกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างดีและกล้ามแขนที่สมส่วน มีเพียงผ้าขนหนูผืนน้อยที่บิดบังท่อนร่างอย่างหมิ่นเหม่เท่านั้น แววตาเรียบเฉยเย็นชาที่ไม่สามารถคาดเดาความคิดได้จ้องมายังผู้มาเยือนที่ตอนนี้ทำได้เพียงหลบตามองไปทางอื่น เจ้าของห้องยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเชิงพอใจ


    หญิงสาวผู้มาเยือนต้องตกใจแทบช็อกอีกครั้งเมื่อสายตาไปสะดุดหยุดอยู่ที่ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงใหญ่ของเจ้าของห้อง ยังดีที่ผ้านวมผืนหนาปกปิดส่วนต่างๆของร่างกายไว้ระดับหนึ่ง คงไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าระหว่างคนสองคนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง


    'นี่มันอะไรกันเนี่ยเธอได้แต่คิดในใจ แค่พบกันครั้งแรกก็ทำให้รู้สึกขยะแขยงผู้เป็นเจ้าของห้องได้มากมายขนาดนี้


         มาเร็วดีหนิเจ้าของห้องกล่าวพร้อมกับสาวเท้ามาหาผู้มาเยือน


         คุณนัดตอน 10 โมง แต่ถ้าคุณยังไม่สะดวกฉันออกไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะพูดจบพร้อมกับโค้งเล็กน้อยให้เจ้าของห้องและหันหลังเดินออกไป แต่ก่อนที่จะได้ก้าวออกจากห้องมือหนาฉุดรั้งแขนเรียวเล็กเอาไว้


         จะไปไหนหล่ะ?” ดวงตาเรียวเล็กที่ไร้ซึ่งความรู้สึกจ้องมองมาที่ใบหน้าของหญิงสาว


         รออยู่ในนี้แหละ ขอเวลาซักครู่พูดจบพร้อมกับปล่อยแขนของอีกฝ่ายออกก่อนจะเดินไป 'จูบคลอเคลียกับผู้หญิงบนเตียงของตัวเอง ถ้าเดาไม่ผิดนั่นอาจเป็นวิธีการปลุกให้ตื่นของอีกฝ่ายก็ได้ มือของหญิงสาวบนเตียงค่อยๆคล้องคอของอีกฝ่ายอย่างรู้งานก่อนจะยกตัวขึ้น ชายหนุ่มค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากอีกฝ่าย


         ตื่นได้แล้ว ผมมีแขกพูดเสร็จก็หันไปหยิบกระเป๋าสตางค์ใบหรูข้างเตียงของตัวเองก่อนจะหยิบเงินส่งให้หญิงสาว เขาไม่ลืมที่จะหอมแก้มอีกฝ่ายฟอดใหญ่ หญิงสาวที่ได้รับเงินทำทีเขินอายก่อนจะชายตามองผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนตัวแข็งอยู่ในห้อง สีหน้าและสายตาสะอิดสะเอียนของผู้มายืนไม่ได้ทำให้ชายหญิงทั้งคู่รู้สึกรู้สาเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามชายหนุ่มกับยกยิ้มมุมปากแสดงสีหน้าพอใจที่เห็นสีหน้าสะอิดสะเอียนของอีกฝ่าย


    หลังจากจัดการใส่เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นเพราะความรีบร้อนเมื่อคืน หญิงสาวที่เปลือยเปล่าเมื่อครู่ก็จากไป ตอนนี้ในห้องนอนใหญ่เหลือเพียงชายหญิงคู่หนึ่งเท่านั้น


         พร้อมจะคุยเรื่องสัญญารึยังครับ คุณจองดาจองเจ้าของห้องเอ่ยขึ้นหลังจากจัดการตัวเองให้อยู่ในชุดที่สุภาพกว่าเดิม เชิ้ตแขนยาวสีขาวที่พับแขนขึ้นเล็กน้อย ทับด้วยกางเกงยืนสีซีดทำให้เจ้าของห้องดูภูมิฐานขึ้นไม่น้อย


         คะ ... อ่อ ค่ะ พร้อมค่ะหญิงสาวตอบกลับตะกุกตะกักเล็กน้อย ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะผายมือเชิญหญิงสาวให้นั่งบนโซฟา



    เดือนก่อน



    

~งานสำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยโชล~


         ยินดีด้วยนะดาจอง ลูกสาวพ่อเก่งที่สุดเลยชายสูงวัยโอบกอดลูกสาวสุดที่รักด้วยความรักและภาคภูมิใจ 'จองดาจองบัณฑิตจบใหม่คณะบริหารธุรกิจลูกสาวสุดที่รักของ 'จองชานโฮประธานบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง เขารักและหวงแหนลูกสาวคนนี้มาก เธอเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของเขา เขาเลี้ยงดูฟูกฟักและทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน ไม่ว่าลูกสาวคนนี้ต้องการอะไรต่อให้ยากลำบากเพียงไหนเขาก็จะหามาให้เธอได้เสมอ


         จะรักกันแค่สองคนเหรอ งอนแล้วนะคุณนายอีซอนฮวาภรรยาของจองชานโฮพูดขึ้น ก่อนชักสีหน้างอนใส่สองพ่อลูกที่ดูจะรักกันมาเหลือเกิน


         โอ้ๆๆๆบัณฑิตสาวพูดพลางโผเข้ากอดผู้เป็นแม่แน่น ความรักของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูกสาวก็ไม่ได้น้อยกว่าผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย เธอเลี้ยงดูฟูมฟักลูกสาวคนนี้เป็นอย่างดี อบรมสั่งสอนให้เธอเป็นเด็กดี อ่อนโยน โอบอ้อมอารี และลูกสาวคนนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเธอกลับนำความภาคภูมิใจมาสู่ผู้เป็นแม่และครอบครัวเสมอมา


         น่านไง ผมเป็นหมาหัวเน่าเลยนะจองชานอูลูกชายคนเล็กของบ้านทำท่าเบะปากใส่สามคนพ่อแม่ลูกตรงหน้า


         มานี่ไอ้น้องตัวแสบไม่พูดเปล่าผู้เป็นพี่รีบคว้าคอน้องชายคนเล็กของบ้านมากอด


         ยินดีด้วยนะครับนูน่า นูน่าของผมเก่งที่สุดเลยครับน้องชายที่ตัวใหญ่กว่าพี่สาวพูดขึ้น สองพี่น้องกอดกันกลม


         มานี่มาผู้เป็นพ่อโอบกอดภรรยาและลูกทั้งสองของตัวเอง ช่างเป็นภาพที่สวยงาม ครอบครัวที่แสนสุข ใบหน้าของทั้งสี่คนเต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ใครจะรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมันไม่ได้คงอยู่ตลอดกาล


    


ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ประโยคนี้ยังใช้ได้ดี


    ไม่มีชีวิตใดที่มีแต่ความสุขสมหวังและไม่มีชีวิตใดที่พบเจอแต่ความทุกข์ทรมาน ชีวิตมีขึ้นมีลง และแน่นอนมันเกิดขึ้นกับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวนี้ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวตระกูลจอง มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึง ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ทุกชีวิตในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล


    โดยเฉพาะ 'จองดาจอง'


    หลังจากวันสำเร็จการศึกษาเพียง เดือน จองชานโฮ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกระหว่างเดินทางไปติดต่องานที่ต่างประเทศ ครอบครัวที่ขาดเสาหลัก ทำให้จองดาจองต้องเข้มแข็งและเป็นหลักให้ทุกคนในครอบครัว ถึงแม้จะอายุยี่สิบต้นๆ แต่ความคิดอ่านของเธอไม่ได้เด็กตามอายุ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพของพ่อเธอตัดสินใจเข้าไปบริหารงานในบริษัทแทนพ่อของเธอ เพียงแค่วันแรกเธอถึงกับช็อกเมื่อเห็นจำนวนหนี้สินของบริษัทที่มีจำนวนมากถึงหนึ่งหมื่นล้านวอนและกำหนดชำระหนี้สินคือในอีกไม่ถึงสามเดือนข้างหน้าซึ่งเรื่องนี้เธอและแม่ไม่เคยรู้มาก่อน เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ให้บริษัท จนกระทั่งเธอได้รับข่าวดีจากผู้เป็นแม่เพียง วันก่อนกำหนดวันชำระหนี้


         ดาจองอ่า คุณคิมจีวอนจากชินกิกรุ๊ปเสนอจะเทคโอเวอร์บริษัทเรา แล้วเขาก็จะใช้หนี้แทนเราทั้งหมดด้วยนะลูกผู้เป็นแม่กุมมือลูกสาวไว้แน่ น้ำใสค่อยๆเอ่อล้นมาจากดวงตาบวมช้ำที่ผ่านการร้องไห้มาก่อนหน้านี้เพราะในที่สุดปัญหาเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขเสียที


         จริงเหรอคะแม่ใบหน้าของยิ้มสาวเปื้อนยิ้ม ในที่สุดก็มีคนเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัท ถึงแม้จะรักษาบริษัทที่พ่อของตัวเองสร้างเอาไว้ไม่ได้แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถรักษาชีวิตพนักงานจำนวนมากในบริษัทไว้ได้


         ใช่จ๊ะ คุณจีวอนให้ลูกไปทำสัญญาเรื่องเทคโอเวอร์บริษัทที่บ้านเขาพรุ่งนี้"


         ทำไมไปที่บ้านคะ ไม่มาทำสัญญาที่บริษัทเป็นเรื่องแปลกที่สัญญาสำคัญแบบนี้จะทำที่บ้านมากกว่าที่บริษัท แต่ถึงจะสงสัยเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะไปทำสัญญาที่นั้น เวลานี้เรื่องสถานที่ทำสัญญาไม่ใช่ประเด็น อย่างน้อยที่สุดสัญญานี้จะทำให้ครอบครัวของเธอและบริษัทรอดพ้นวิกฤตไปได้ จะทำที่บ้านหรือที่บริษัทมันก็ไม่ต่างกัน


    และนี่คือเหตุผลที่ 'จองดาจองได้มาอยู่ในห้องนอนของ 'คิมจีวอน'











         นี่สัญญาชายหนุ่มที่นั่งบนโซฟาหรูตรงข้ามยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้หญิงสาว เธอกล่าวขอบคุณก่อนที่จะรับซองเอกสารนั้นมา ภายในซองมีเอกสารสัญญาการเทคโอเวอร์บริษัทและเอกสารการโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทให้ชินกิกรุ๊ป เธออ่านสัญญาทุกข้อโดยละเอียดถึงแม้ว่าจะรู้สึกขอบคุณที่คนคนนี้เข้ามาช่วยบริษัทเอาไว้ในช่วงวิกฤติ แต่สัญญาสำคัญแบบนี้ก็ต้องละเอียดรอบคอบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเอาเปรียบได้


         ฉันไม่มีปัญหาอะไรค่ะหลังจากอ่านสัญญาจบเธอตอบกลับคู่สัญญาอย่างสุภาพ พร้อมกับเตรียมจรดปากกาเซ็นต์สัญญาทันที แต่ก่อนที่ปลายปากการจะจรดลงบนกระดาษ มือหนาของอีกฝ่ายจาบจ้วงดึงมือของดาจองอย่างไรมารยาท ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจที่อยู่ดีๆคนแปลกหน้าที่ไหนมาจับมือถือแขนของเธอ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้เข้ามากู้วิกฤติของบริษัทจะชักสีหน้าบึงตึงไม่พอใจก็คงจะไม่ได้ สิ่งที่ทำได้เพียงค่อยๆดึงมือของตัวเองออกจากมือหนานั้น


    เหมือนเจ้าของมือหนาจะอ่านความคิดออก เมื่อยั้งไม่ให้หญิงสาวเซ็นต์สัญญาตามที่หวังได้แล้วก็ค่อยๆคลายมือออกก่อนที่เจ้าของมือเรียวเล็กจะเอ่ยปากขึ้น


         ก่อนที่จะเซ็นต์สัญญานั้น คุณจะต้องเซ็นต์สัญญานี้ก่อนพูดพลางยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลอีกซองส่งให้หญิงสาว ดาจองรับซองเอกสารมาอย่างงงๆก่อนจะเปิดอ่านสัญญาในนั้น ดวงตาคู่โตเบิกกว้างมากกว่าเดิมเพราะตกใจสุดขีดหลังจากได้อ่านสัญญาฉบับสุดท้าย เธออ่านสัญญาซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบก่อนจะเอ่ยปากถาม


         นี่มันสัญญาอะไร ฉันไม่เข้าใจ"



         สัญญาก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากทำไมไม่เข้าใจล่ะครับเจ้าของสัญญากล่าวพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก


    สัญญาทาส ของจองดาจอง ในสัญญาระบุว่าเธอจะต้องยอมขายตัวเองให้เป็นทาสของคิมจีวอน ไม่ว่าคิมจีวอนต้องการอะไรจากเธอ แม้แต่นอนกับเขาเธอก็ต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้ คิมจีวอนจึงจะยอมนำเงินหนึ่งหมื่นล้านวอนไปใช้หนี้บริษัทของเธอ และที่สำคัญเป็นสัญญาที่ไม่มีกำหนดสิ้นสุด


         ก็แค่ยอมเป็นของผม ก็เท่านั้นเองถึงแม้ตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่เติบโตมาเธอจะไม่เคยสนใจเรื่องความรัก เพราะเธอรู้สึกว่าแค่ความรักที่เธอได้รับจากครอบครัวและเพื่อนๆก็มากเพียงพอแล้ว เธอไม่โหยหาความรักแบบหนุ่มสาวเหมือนคนวัยเดียวกัน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าประโยคที่อีกฝ่ายเอ่ยมานั้นหมายความว่าอะไร และแน่นอนว่าเธอไม่มีวันทำตามที่อีกฝ่ายบอกเด็ดขาด


         ไม่มีทาง!!” ดาจองตอบกลับ สายตาใสซื่อเปลี่ยนเป็นไม่พอใจและจ้องกลับอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป


    ปัง!


    ดาจองปิดประตูเสียงดังแสดงออกถึงความไม่พอใจเจ้าของห้องเป็นอย่างมาก ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอ ดาจองจึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะให้เกียรติอีกฝ่าย ถึงแม้อีกฝ่ายจะเสนอตัวเข้ามากู้วิกติและชำระหนี้สิ้นให้กับบริษัท แต่สัญญาบ้าบอนั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถรับได้เลยจริงๆ ผู้หญิงที่รักในศักดิ์ศรีมากอย่างดาจองกับสัญญาขายตัวที่อีกฝ่ายตั้งขึ้น แทบจะไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยเพราะเธอไม่มีทางทำตามแน่นอน


    

     แล้วเธอจะต้องกลับมา ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าเงินของฉัน เงินของผู้ชายที่เธอรังเกียจ มันสามารถซื้อตัวเธอได้อย่างง่ายดาย จองดาจองจีวอนพูดขึ้นหลังจากประตูห้องของตัวเองปิดลงพร้อมกับยกยิ้มอารมณ์ดี เขามั่นใจว่าสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายจะต้องกลับมาและ 'ยอมเป็นของเขา ในเมื่อ 'เงินของคิมจีวอนคนนี้สามารถบันดาลได้ทุกอย่าง


    'เงินของคิมจีวอนที่ดาจองดูถูก


    'คิมจีวอนที่ดาจองดูถูก


    เขาจะทำให้เธอขายตัวเองให้กับคนที่เธอดูถูกด้วยสิ่งที่เธอดูถูก


    เมื่อกลับมาถึงบ้านดาจองไม่ได้เล่าเรื่องสัญญาให้แม่ฟังทั้งหมด เธอบอกแค่เพียงว่าสัญญามีปัญหาและเธอไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขบางข้อของสัญญาได้ ผู้เป็นแม่ก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะช่วยหาทางออกอย่างไรดี ดาจองบอกว่าเธอจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้ถึงแม้จะเหลือเวลาอีกแค่วันเดียว แต่เงินตั้งมากมายมันจะมีวิธีไหนกันที่จะหาเงินได้เร็วขนาดนั้น


         ผมจะลาออกจากโรงเรียนหลังจากรู้ว่าพี่สาวของตัวเองไม่ได้เซ็นต์สัญญา จองชานอูก็ประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่เรียนต่อและออกมาทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ แม่กับพี่สาวทักถ้วงและไม่ยอมให้น้องชายคนเดียวของบ้านทำเรื่องทำลายอนาคตตัวเองแบบนั้น


    

     นูน่าจะให้ผมเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ทำตัวเป็นคุณชายทั้งๆที่นูน่ากำลังลำบากหาเงินเพื่อล้างหนี้ให้พวกเรา"


         มันเป็นหน้าที่ของพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะชานอู เราแค่ต้องใจเรียนต่อไปไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นนะ"


         ผมทำไม่ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปลาออกพูดเสร็จหนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดปีก็วิ่งเข้าห้องตัวเอง ปล่อยให้แม่และพี่สาวนั่งถอนหายใจอยู่ในห้องนั่งเล่น ถึงแม้จะรู้ว่าน้องชายรู้สึกอย่างไร แต่ในฐานะพี่สาวคนโตของบ้าน ดาจองคงยอมให้น้อยชายทิ้งความฝันที่จะเรียนมหาวิทยาลัย ทิ้งความฝันที่จะเป็นผู้พิพากษาไม่ได้ แค่ดาจองที่ละท้ิงความฝันของตัวเองก็มากเกินพอแล้ว เธอจะให้น้องของเธอละทิ้งความฝันของตัวเองอีกคนไม่ได้


    ดาจองมองหน้าผู้เป็นแม่ ตั้งแต่แต่งงานแม่ของเธอก็ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านตระกูลจองเต็มตัว ถึงเธอไม่อยากให้แม่ต้องลำบากแต่ดาจองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้อย่างไร



         ก็แค่ยอมเป็นของผม ก็เท่านั้นเอง"


    



    สั้นๆง่ายๆก็คือ 'ขายตัวนั่นแหละ ถึงจะใช้คำพูดให้ดูดีอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน ดาจองนึกถึงคำพูดหยาบคายของอีกฝ่าย คำพูดที่ไม่ให้เกียรติเธอเลยแม้แต่น้อย และเชื่อว่าถ้าผู้หญิงทุกคนบนโลกที่ได้ยินประโยคนี้คงต้องรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ


    'เกลียด'


    ตลอดคืนนั้นดาจองนอนกอดรูปของผู้เป็นพ่อตลอดทั้งคืน น้ำใสๆไหลรินจากตาคู่สวยไม่ขาดสาย ในใจคิดเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรดีที่จะหาเงินมาใช้หนี้ จะทำตามข้อเสนอของสัญญาบ้าบอนั่นดีหรือไม่ ในเวลาไม่ถึง 24 ชม.ก่อนกำหนดชำระหนี้เธอยังจะมีทางเลือกอื่นอีกหรือ แต่เพื่อแม่และน้องชายแล้วไม่ว่าเธอจะต้องขายชีวิตตัวเองให้แก่ปีศาจ หรือตกนรกทั้งเป็นดาจองก็จะยอมรับมัน มันคือสิ่งที่เธอควรจะทำถึงแม้จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม


    พ่อจะไม่ยอมให้ครอบครัวของเราต้องลำบาก"


    ดาจองนึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อ


    'ถ้าเป็นพ่อ พ่อคงไม่ยอมให้คนในครอบครัวต้องลำบากใช่มั๊ยคะ เหมือนกับที่พ่อไม่ยอมบอกเรื่องหนี้สินกับพวกเรา และยังให้พวกเราได้มีชีวิตอย่างสุขสบายจนถึงวันสุดท้ายของพ่อ'


    ในฐานะเสาหลักของครอบครัวและลูกกตัญญู จองดาจองคนนี้ได้เลือกที่จะ 'ขายชีวิตชีวิตของตัวเองให้กับปีศาจที่ชื่อว่า 'คิมจีวอนถึงแม้ชีวิตจะต้องเดินลงนรก นรกขุมที่ลึกที่สุด นรกที่โหดร้ายที่สุด นรกที่ไม่มีทางหลีกหนีได้จนวันสุดท้ายของชีวิต จองดาจอง ผู้หญิงคนนี้ได้เลือกแล้วที่จะเดินไปหามันด้วยตัวเอง


    มันไม่ใช่เรื่องของ 'ความถูกต้อง' อีกต่อไป


    มันไม่ใช่เรื่องของ 'ความเต็มใจ' อีกต่อไป


    มันไม่ใช่เรื่องของ 'ศักดิ์ศรี ' อีกต่อไป


    มันคือเรื่องที่ดาจองต้องทำ ทำเพื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ 'ครอบครัว


    100%

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×