ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [{Fic iKon} BOBBY x YOU (ft.iKON)] MY LOVE MY SLAVE

    ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 17 : ผู้ร้ายตัวจริง? (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.49K
      10
      3 ม.ค. 59

    My Love My Slave



    ตอนที่ 17 : ผู้ร้ายตัวจริง?



               ได้ความว่าไงบ้าง" จีวอนที่นั่งอยู่บนโซฟารับแขกในห้องทำงานของผู้จัดการร้านอาหารกึ่งผับที่เขาและเพื่อนอีก 3 คนเป็นเจ้าของอยู่เอ่ยถามขึ้น



               ก็อย่างที่เล่านั่นแหละ หลังจากนายกับคุณดาจองออกไปก็มีชายสามคนมาทำร้ายคิมจินฮวาน" มิโนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งกล่าวตอบ



               แล้วรู้มั๊ยมันเป็นใคร" จีวอนถามต่อหลังจากวางแก้วที่บรรจุน้ำเหลืองอำพันชั้นดีในนั้น



               ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ค่อยชัด แต่กำลังให้คนตามสืบให้" มิโนตอบ



               คนดีๆอย่างคิมจินฮวานไม่น่ามีศัตรูที่ไหน ถ้าเป็นแกก็ไม่แน่" ซงยุนฮยองล้อเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำตาขวางใส่เขาอยู่



               อยากรู้จริงๆว่าใครกัน ทำเรื่องชั่วๆแต่กลับโยนความผิดให้คนอื่น" จีวอนกล่าวด้วยความโมโห




    คิมจีวอนไม่ชอบให้ใครมากล่าวหาว่าเขาทำผิดในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ จริงอยู่ว่าในคืนนั้นเขาทำร้ายจินฮวาน แต่เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้อีกฝ่ายต้องเข้า ICU มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น และเขาก็คิดไม่ผิดจริงๆเพราะภาพจากกล้องวงจรปิดแถวนั้นปรากฏภาพชายอีกสามคนที่รุมทำร้ายคิมจินฮวานหลังจากที่เขาออกมาจากที่นั้นแล้ว



               ความจริงแกไม่เห็นต้องสนใจเลยนะ แค่เอาหลักฐานไปให้ตำรวจ แค่นี้คุณดาจองเขาก็ไม่เข้าใจแกผิดแล้ว" ยุนฮยองเสนอความคิดเห็น



               ฉันไม่ได้กลัวว่าใครจะเข้าใจผิด ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมากล่าวหาในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ" จีวอนกล่าวเสียงแข็งพร้อมกับปรายตามองเจ้าของความคิดนั้น



    ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่า ใคร ที่ีจีวอนหมายถึงคือ จองดาจอง ของเล่นที่จีวอนสุดแสนจะหวงแหน จนทุกคนในห้องลงความเห็นว่าจีวอนคงไม่ได้เห็นดาจองเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นหรอก เพราะพฤติกรรมหลายๆอย่างที่เขาทำ ที่เขาแสดงออกนั้น ต่างจากคนอื่นๆโดยสิ้นเชิง และเขาไม่เคยเล่นของเล่นชิ้นไหนมากกว่า 3 ครั้ง และไม่เคยมีของเล่นชิ้นไหนที่เขาจะสนใจความเป็นไปจนให้คนตามเฝ้าไม่ห่างขนาดนี้



               เอาที่สบายใจเลยละกัน" กูจุนฮเวกล่าวหลังจากเงียบมานาน


    .

    .

    .

    .

    .


    หลังจากลำบากหางานอยู่หลายวันดาจองก็ได้งานเป็นลูกจ้างในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพราะไม่มีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงานเลย เธอจึงต้องจำใจทำงานเป็นคนงานในร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ชีวิตในทุกวันของดาจองลำบากมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ไหนจะงานที่แสนหนัก ทั้งเตรียมอาหาร เสิร์ฟอาหาร แถมยังต้องล้างจานในอากาศหนาวๆอีก ต้องคอยระวังตัวจากพวกลูกค้าชีกอ แถมเธอต้องปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้แม่และน้องชายรู้เพราะกลัวว่าคนทั้งสองจะเป็นกังวล ไหนจะต้องตัดขาดกับเพื่อนสนิท 'คิมจีฮเย' ตามคำสั่งของคุณนายแบคแม่ของจีฮเยอีก ทุกวันนีี้ดาจองเหมือนตัวคนเดียว โชคยังดีที่ช่วงนี้คิมจีวอนไม่ค่อยมาวุ่นวายกับเธอมากนัก ไม่อย่างนั้นเธอคงลำบากกว่านี้แน่ๆ



               คนสวย~ เอาโซจูมาอีกหน่อยสิจ๊ะ แล้วก็...”




               ว๊าย...ปล่อยนะ" ดาจองที่ลงไปนั่งอยู่บนตักลูกค้าแก่คราวพ่อร้องโวยวาย เธอพยายามแกะมือปลาหมึกของผู้ชายคนนั้นออก



    ตุ๊บ!



               ว๊าย...” หมัดหนักเหวี่ยงเข้าที่ใบหน้าชายแก่ชีกอเข้าอย่างจัง ก่อนที่มืออุ่นจะดึงให้ดาจองมาอยู่ด้านหลังของตัวเอง



               เห้ย อะไรกันว่ะเนี่ย อยากมีเรื่องเหรอ" ชายแก่ที่มีเพื่อนอีก 2 คนช่วยประคองตัวลุกขึ้นมาเอะอะโวยวาย



               ขอโทษนะคะคุณลูกค้า อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ" ป้าเจ้าของร้านออกมาขอโทษและห้ามทั้งสองฝ่ายพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตมาที่ดาจอง



    เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบลงดาจองตัดสินใจขอโทษลูกค้าทั้งสามคนและขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องเธอ โชคยังดีที่ป้าเจ้าของร้านค่อนข้างสนิทกับลูกค้ากลุ่มนั้นจึงตกลงกันได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่วายคาดโทษดาจองเอาไว้ว่าถ้าเธอก่อปัญหาในร้านอีกหล่อนจะไล่ดาจองออกทันที ดาจองทำได้แต่ก้มหน้าขอโทษและสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกพร้อมกับพาตัวคนก่อเรื่องออกไปตกลงกันนอกร้าน



               ฉันไม่ผิดนะดาจอง ก็ไอ่บ้านั่นมันลวนลามเธอ" ยังไม่ทันที่ดาจองจะเอ่ยปากพูดคิมดงฮยอกก็ชิงแก้ตัวก่อน ทุกอย่างที่เขาทำไปเป็นเพราะเขาอยากจะปกป้องดาจอง




    ปกป้องคนที่เขารักเท่านั้น



               ดาจอง เธอลาออกจาร้านนี้แล้วกลับไปทำงานที่บริษัทพ่อฉันเถอะนะ ฉันไม่ชอบเลยที่เธอเป็นแบบนี้" จีฮเยขอร้อง



               พวกเธอสองคนเลิกยุ่งกันฉันซักทีได้มั๊ย" ดาจองตะคอกใส่ทั้งสองคน มันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำกับจีฮเยและดงฮยอกมาก่อน



    หลังจากพบแม่ของจีฮเยวันนั้นดาจองก็ไม่ได้ติดต่อกับจีฮเยและดงฮยอกอีกเลย เธอรู้ดีว่าควรจะทำอะไรและควรจะอยู่ตรงไหน เธอไม่ควรยุ่งกับคิมจินฮวานเพราะยังไงเสียเรื่องของเธอกับเขามันก็เป็นไปไม่ได้ เธอไม่ควรเป็นเพื่อนกับจีฮเยอีกต่อไปเพราะคนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่าจีฮเยเป็นผู้หญิงไม่ดีแบบเธอ และเธอรู้ดีว่าจีฮเยรู้สึกอย่างไรกับดงฮยอก การที่เธอห่างออกมาแบบนั้นอาจจะทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันและเปิดใจให้กันมากขึ้น   ดังนั้นระหว่างคนพวกนั้นกับเธอไม่มีความจำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป



               ดาจองอ่า นี่ฉันจีฮเยไง จีฮเยเพื่อนรักเธอนะ จะให้ฉันเลิกยุ่ง เลิกสนใจเธอได้ยังไง" จีฮเยกล่าวเสียงสั่น



    ใครจะรู้ว่าดาจองเองก็เจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องตัดขาดความเป็นเพื่อนกับทั้งสองคน ในชีวิตของเธอมีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนและจีฮเยกับดงฮยอกก็เพื่อนสองคนในนั้น มิตรภาพระหว่างพวกเขาเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับดาจอง เธออยากกอดจีฮเยและระบายเรื่องราวทุกอย่างให้เธอได้รู้ แต่สิ่งที่เธอทำได้คือผลักไสไล่ส่งคนทั้งสองออกไปจากชีวิตเธอ





               เมื่อก่อนหน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เธอสองคนกลับไปซะ ฉันไม่อยากเจอพวกเธออีก" ดาจองไล่เสียงแข็ง




               ดาจองอ่า/ดาจองอ่า" จีฮเยและดงฮยอกพูดขึ้นพร้อมกัน



               ฉันบอกให้ไปยังไงล่ะ ไปสิ!ดาจองตะโกนไล่ทั้งสองคน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน



    จีฮเยและดงฮยอกต่างไม่เข้าใจว่าทำไมดาจองถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เธอเคยเป็นคนจิตใจดี สุภาพอ่อนโยนกับทุกคน คำหยาบซักคำเธอยังไม่เคยพูดออกมาเลย แต่ทำไมวันนี้ดาจองกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน




    เมื่อไม่เห็นวี่แววดาจองหลังจากยืนอยู่หน้าร้านหมูกระทะอยู่นานคนทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับบ้าน ดงฮยอกอาสาเดินไปส่งจีฮเยที่สถานีรถไฟใต้ดิน ระหว่างทางไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นอาจเป็นเพราะทั้งคู่กำลังใช้ความคิดไตร่ตรองว่าทำไมดาจองถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้



               จีฮเยอ่า...เธอกลับไปก่อนได้มั๊ย" ดงฮยอกหยุดเดิน



               ฉันทิ้งดาจองไว้ที่นั่นไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะ" พูดจบดงฮยอกก็รีบวิ่งกลับไปยังที่ที่เขาจากมาเมื่อครู่ ทิ้งให้จีฮเยยืนอยู่ลำพัง



               แต่นายทิ้งฉันไว้ลำพังได้สินะ...” จีฮเยกล่าวเศร้าๆหลังจากดงฮยอกจากไป เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ขาทั้งสองข้างที่เคยมีเรี่ยวแรงดีคล้ายจะหมดแรงเดินต่อ



               สำหรับนาย ดาจองต้องมาก่อนสินะ ก่อนฉันคนที่อยู่ข้างๆนายมาตลอดเลยใช่มั๊ย"



    15% 

    .

    .

    .

    .

    .

    .

               นี่นาย ใครให้นายมานั่งตรงนี้ ฉันจองที่ตรงนี้ไว้แล้วนะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับมืออุ่นที่วางบนบ่าด้วยแรงน้อยๆทำเอาเด็กนักเรียนชายแว่นหนาคนหนึ่งถึงกับสะดุ้ง



              ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่ามีคนจองแล้ว" เด็กชายแว่นหนางุ่นง่านเก็บกระเป๋าของตัวเองเพื่อออกไปจากโต๊ะนักเรียนที่เด็กหญิงคนนั้นอ้างว่าเธอจองไว้แล้ว



              ดาจองๆ ตรงนี้...นั่งนี่กัน" เด็กนักเรียนหญิงคนเดิมตะโกนเรียกเพื่อนอีกคนที่กำลังเดินเข้าประตูมา พร้อมกับชี้นิ้วไปยังโต๊ะนักเรียนที่เด็กชายแว่นหนากำลังเก็บของอยู่



              นายนั่งตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันนั่งข้างหลังเอง" เด็กผู้หญิงที่มาใหม่เดินมายังโต๊ะเจ้าปัญหาพร้อมบอกกับคนที่กำลังเก็บกระเป๋าเพื่อย้ายที่นั่งตามคำสั่งของใครอีกคน



              ได่ไงกัน ฉันอุตส่าห์จองไว้ ไหนบอกจะนั่งด้วยกันไง" ไม่พูดเปล่าเธอเกาะแขนเพื่อนสนิทตัวเองแน่น



              ไม่เป็นไรหรอกจีฮเย ฉันนั่งข้างหลังเธอก็ได้ ตรงนี้ไงห่างกันนิดเดียวเอง" เธอพูดพร้อมกับวางกระเป๋าสะพายที่โต๊ะด้านหลังของเด็กชายคนนั้น



    รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนหน้าใสไร้เครื่องสำอางค์ของเด็กม.ปลายปี 1 และนั้นทำให้จีฮเยไม่สามารถขัดใจดาจองได้เลย



              สวัสดี ฉันจองดาจองนะ นายชื่ออะไรเหรอ" ดาจองถามเด็กแว่นที่เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ดูก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่อัธยาศัยดีอยู่ไม่น้อย



    ดาจองกับจีฮเยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้เพราะทั้งคู่เรียนเคยดนตรีที่เดียวกัน เมื่อรู้ว่าจะได้เรียนชั้นม.ปลายที่เดียวกันพวกเธอจึงสัญญากันว่าถ้าได้อยู่ห้องเดียวกันก็จะนั่งด้วยกันและเป็นบัดดี้กันไปจนจบม.ปลาย และในที่สุดพวกเธอก็ได้อยู่ห้องเดียวกันจริงๆ



              ดงฮยอก คิมดงฮยอก" เด็กคนนั้นกล่าวตะกุกตะกัก ในมือกอดกระเป็านักเรียนใบใหญ่แน่น ดูท่าทางเขาจะเป็นคนแก่เรียนมากเลยทีเดียว



              ฉันจีฮเย คิมจีฮเย ยินดีที่ได้รู้จัก" จีฮเยกล่าวทักทั้งๆที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก ยังไงเธอก็ยังอยากนั่งข้างๆเพื่อนของเธอ จองดาจอง


    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกเขาทั้งสามคนก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด จีฮเยกับดงฮยอกเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดเป็นความผูกพันธ์เกาะเกี่ยวหัวใจของจีฮเยเอาไว้โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าความรู้สึกที่มีต่อดงฮยอกเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่



    อาจจะเป็นตอนที่ดงฮยอกช่วยเธอติวหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย



    อาจจะเป็นตอนที่ดงฮยอกเดินไปส่งเธอที่บ้านหลังจากติวหนังสือกันจนดึกดื่น



    อาจจะเป็นตอนที่ดงฮยอกเผลอกอดแสดงความดีใจกับเธอตอนที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้



    หรืออาจจะตั้งแต่ที่ดงฮยอกนั่งเรียนข้างๆเธอแล้วก็ได้


    .

    .

    .

    .

    .

    .



    จีฮเยยื่นนิ่งอยู่นานจนคนที่เดินตามมาห่างๆอดเป็นห่วงไม่ได้



    'ยัยนั่นจะร้องไห้เสียใจมั๊ยนะ'



    ความคิดหนึ่งดังขึ้นใจในของผู้ที่เดินตามเธอมา ร่างสูงที่ยืนหลบอยู่ไม่ไกลเริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นหญิงสาวยืนก้มหน้านิ่ง ก่อนที่ขาคู่ยาวแสนเอาแต่ใจจะก้าวเดินตรงไปยังเป้าหมาย ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่เสียงสะอื้นน้อยๆของจีฮเยก็ยิ่งดังชัดเจน และนั่นยิ่งทำให้คนที่อยู่ใกล้เพียงแค่สองก้าวหงุดหงิด



               อย่าร้องไห้สิจีฮเย เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย"



    เสียงของจีฮเยดังขึ้นก่อนที่มือของจุนฮเวจะเอื้อมไปสัมผัสบ่าเล็กตรงหน้า เมื่อได้ยินแบบนั้นมือของจุนฮเวหยุดชะงักทันที เขาเก็บมือล้วงกระเป๋าตัวเองตามเดิม ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้อยากจะปลอบใจเธอ เมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้สนใจความทุกข์ร้อนของคนตรงหน้าซะหน่อย



    หลังจากปลอบใจตัวเองจีฮเยก็เรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที จุนฮเวยืนดูอยู่ห่างๆ ก่อนจะเหยียดยิ้มให้ตัวเอง ถ้าเขาไม่บังเอิญมาหาดาจองที่ร้านเพราะยุนฮยองขอร้องให้ช่วยดูแลเธอในช่วงที่จีวอนกำลังยุ่งเกี่ยวกับเรื่องคนร้ายที่ทำร้ายจินฮวาน เขาก็คงไม่รู้สึกว่าตัวเองดูน่าขันขนาดนี้ เป็นเพราะยุนฮยองกลัวว่าดาจองจะเป็นเป้าหมายของพวกคนร้าย เขาจึงมักจะมาเดินเตร่อยู่หน้าร้าน คอยสังเกตสังกาไปเรื่อยๆ จนวันนี้เขาเจอเพื่อนของดาจองมาหาเธอที่ร้านและดูเหมือนว่าจะมีเรื่องทะเลาะกัน เดิมทีเขาอยากจจะบอกกับจีฮเยด้วยซ้ำว่าทำไมดาจองถึงเป็นแบบนี้แต่ดาจองขอร้องเขาไว้ตั้งแต่วันนั้นว่าห้ามบอกใครเรื่องที่เธอพบแม่ของจีฮเย โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามบอกใครเรื่องที่แม่ของจีฮเยคุยกับเธอ เขาจึงทำได้แค่เดิมมาส่งจีฮเยอยู่ห่างๆ แต่จุนฮเวก็ยังไม่เข้าใจตัวเองอยู่ดีว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย



    แล้วนี่ได้้อยูในคำขอร้องของยุนฮยองรึเปล่า?

    .

    .

    .

    .

    .



    ถึงแม้จะโดนสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับจินฮวานอีกแต่ดาจองเองยังคงรู้สึกผิดและเป็นห่วงจินฮวานอยู่ไม่นอน เธอจะแอบมาเยี่ยมจินฮวานที่โรงพยาบาลทุกเช้าเพื่อไม่ให้แม่ของจินฮวานหรือจีฮเยรู้ เธอมักจะน้ำตาคลอเสมอเมื่อองดูสภาพของจินอวานที่ยังคงหายใจรวยรินและยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ข่าวดีก็คือการตอบสนองของจินฮวานดีขึ้นมาก พยาบาลบอกกับดาจองว่าใช้เวลาอีกไม่นานจินฮวานก็น่าจะถอดเครื่องช่วยหายใจได้



    สวนหย่อมขนาดกลางที่ตั้งอยู่บนชั้น 10 ของโรงพยาบาล สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้บรรดาผู้ป่วยและญาติได้มาพักผ่อนหย่อนใจ ม้านั่งไม้สีน้ำตาลวางเรียงกันเป็นแนวยาว ทางเดินหินแกรนิตสีดำตัดกับหินกรวดสีขาวที่โรยอยู่โดยรอบเพิ่มความทันสมัยให้กับสวนแห่งนี้ หญ้าญี่ปุ่น ซุ่มไม้เลื้อย และต้นไม้ขนาดกลางทำให้สวนนี้ร่มรื่นไม่น้อย แดดอ่อนๆยามสายให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่าร้อนระอุ และยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเริ่มเย็นด้วยแล้ว แสงแดดอ่อนๆยิ่งช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้คนที่นั่งถอดถอนใจอยู่คนเดียวก็เป็นได้




               เจอกันอีกแล้วนะครับ" เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้น ดาจองหันไปตามหาของแหล่งกำเนิดเสียง พลันรอยยิ่มโง่ๆปรากฏขึ้นบนใบหน้ามนของชายหนุ่มที่เธอรู้จัก




               คุณฮันบิน" ดาจองยิ้มน้อยๆ




               ฮันบินครับ ผมบอกตั้งกี่ทีแล้ว ว่าแต่มานั่งทำอะไรบนนี้คนเดียวครับ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรอีกแล้วเหรอ" ฮันบินที่ตอนแรกดูเหมือนจะเคืองเล็กน้อยที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อตัวเองซะห่างเหินค่อยๆนั่งลงบนม้านั่งไม้สีน้ำตาลข้างๆดาจองก่อนจะถามไถ่เรื่องของดาจอง



               ก็แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยค่ะ" ดาจองตอบไปตามจริง



               มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้มั๊ยครับ" ฮันบินถาม น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความห่วงใยอย่างไม่บิดบัง สายตาที่มองดาจองทำให้หญิงสาวใจหวิวได้ชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มตอบแทนคำตอบ




               ว่าแต่คุ...ฮันบินเถอะคะ มาทำอะไรที่โรงพยาบาลแต่เช้าเลยคะ" ดาจองเกือบจะเผลอเรียกคุณออกไปแต่เห็นตาขว้างๆที่ฮันบินส่งมาให้แล้วเธอก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที



    ฮันบินไม่ได้ตอบอะไร เขามองเหม่อไปบนท้องฟ้า นัยตาเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้า ดาจองไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้มาก่อน ฮันบินที่ดาจองรู้จักมักจะเป็นคนที่สดใส ยิ้มแย้มอยู่เสมอ แต่วันนี้เขากลับดูเศร้ามากกว่าทุกวัน



               ผมพาน้องสาวมาทำกายภาพครับ" ในที่สุดฮันบินก็พูดออกมา ดูเหมือนจะเป้นเรื่องยากและเขาไม่ค่อยอยากจะพูดถึงมันเท่าไหร่ แต่ฮันบินก็เลือกที่จะบอกเรื่องนี้กับดาจอง



    เมื่อได้ยินคำตอบของฮันบิน จิตใจของดาจองก็หล่นวูบ การเห็นคนในครอบครัวต้องทุกข์ทรมานนั้นคงไม่ต่างอะไรกับการถูกปาหินใส่ทุกวัน ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยบรรเทาได้คงทำให้คิมฮันบินในฐานะพี่ชายเสียงใจไม่น้อย ดาจองเองก็อยู่ในฐานะพี่สาวเหมือนกันย่อมเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นพี่ดี



               ฉันเชื่อว่าเธอต้องหายค่ะ" ครั้งนี้เป็นดาจองบ้างที่พูดให้กำลังฮันบิน



    ฮันบินไม่ได้ตอบกลับ เขายิ้มบางๆให้หญิงสาวเท่านั้น



               จะเป็นอะไรมั๊ย ถ้าฉันอยากไปเยี่ยมเธอซักครั้ง ฉันอยากให้กำลังใจเธอหน่ะค่ะ" หลังจากคิดใคร่ครวญอยู่นาน ดาจองก็ตัดสินใจพูดความปรารถนาของเธอให้ฮันบินได้รับรู้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่หมอหือนักกายภาพบำบัด แต่เธอเชื่อว่ากำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรามีแรงสู้ต่อไปได้



    ฮันบินมองดาจองอย่างแปลกใจ



               ได้สิครับ ถ้าดาจองไม่รังเกียจ"



               จะรังเกียจทำไมคะ นั่นน้องสาวคุณไม่ใช่รึไง ถึงต่อให้ไม่ใช่น้องสาวคุณฉันก็ไม่รังเกียจหรอกค่ะ ทุกคนก็เป็นคนเท่ากันหมด จะครบ 32 หรือ พิการ มันก็ไม่ได้ลดคุณค่าของความเป็นคนของเราลงไม่ใช่เหรอคะ" ดาจองยิ้มตอบ



    เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮันบินก็ไม่ปฏิเสธที่จะพาดาจองไปพบกับน้องสาวของเขา คิมซูบิน




    หลังจากทำกายภาพเสร็จแล้วฮันบินก็เข็นคิมซูบินที่นั่งอยู่บนรถเข็นมาพบกับดาจอง คิมซูบินหญิงสาวอายุรมากกว่าดาจอง 1 ปี ถึงแม้ว่าจะอยู่บนรถเข็นและขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้แต่เธอก็ยังดูสวยสดใสตามแบบหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ เธอยิ้มให้ดาจองอย่างเป็นมิตร



               สวัสดีค่ะคุณดาจอง" ซูบินกล่าวทัก



               สวัสดีค่ะ ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณก็ได้นะคะเรียกดาจองเฉยๆก็พอ ฉันคิดว่าเราน่าจะอายุพอๆกัน" ดาจองกล่าวอย่างเป็นมิตร



               ความจริงแล้วดาจองเด็กว่าซูบินปีนึงนะ ซูบินเป็นพี่ดาจองต่างหาก ต้องเรียกออนนี่ิจะมาโมเมว่าตัวเองอายุเท่ากับดาจองได้ยังไง แก่กว่าเห็นๆ" ฮันบินกล่าวแซวน้องสาวตัวเอง



               โอปป้า" ไม่พูดเพียงอย่างเดียว หมัดเล็กๆกระแทกเข้าที่พุงของฮันบินเต็มแรง เล่นเอาอีกฝ่ายจุกได้เหมือนกัน



               จริงเหรอคะ งั้นฉันต้องเรียกว่าออนนี่สินะ ซูบินออนนี่" ดาจองรับมุก  ฮันบินหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นน้องสาวทำหน้ามุ่ย



               อย่าไปเชื่อฮันบินโอปป้านะคะ ถึงจะแก่กว่าแต่ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนกันมากกว่า" ซูบินแสดงความจริงใจของเธอออกมา



               จะดีเหรอคะ" ดาจองย้ำ สำหรับเธอเรื่องมารยาทและลำดับอาวุโสเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม่ของเธอมักจะสอนให้เธอเคารพพูดใหญ่และใช้คำพูดที่สุภาพกับผู้อาวุโสกว่า



               ดีค่ะ" ซูบินฉีกยิ้มกว้าง



               งั้นก็ได้ค่ะ" ดาจองยิ้มตอบ ดูเหมือนทั้งคู่จะเข้ากันได้ดีทีเดียว



    หลังจากพูดคุญทำความรู้จักกันอยู่ครู่ใหญ่ ดาจองก็ให้กำลังใจซูบินว่าเธอจะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้ง ขอเพียงแค่เธอมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และไม่ท้อ ซูบินเองก็ดูเหมือนจะมีความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเดินให้ได้อีกครั้งเช่นกัน



               หวังว่าโอปป้าคงไม่ลืมสัญญาของเรานะ" ซูบินเอ่ยขึ้นหลังจากที่สองพี่น้องเงียบกันอยู่พักใหญ่ ดาจองได้จากไปแล้ว เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคน



    ฮันบินยังคงเงียบไม่ตอบ เป็นครั้งแรกที่เขาลังเลที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอีกฝ่าย



               อื้อ ไม่ลืมหรอก สัญญาไว้แล้วหนิ เราเองก็ทำตามสัญญาให้ได้ละกัน รีบกลับมาเดินให้ได้ไว้ๆ" ฮันบินบอกพร้อมกับยีผมน้องสาวเล่นหนึ่งที

    30% 

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    ในวันที่ป้าเจ้าของร้านหมูกระทะไม่อยู่ ดาจองต้องจัดการเก็บกวาดร้าน ล้างจาน และปิดร้านเพียงคนเดียว เวลาตีสองเกือบตีสามไม่ควรเป็นเวลาที่หญิงสาวตัวเล็กๆเดินทางผ่านความมืดกลับบ้านเพียงลำพัง เพราะบางทีเรื่องไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้น



               จะรีบไปไหน" เสียงหนึ่งดังมาจากมุมมืดก่อนที่มือหนาจะฉุดกระชากร่างบางเข้าไปในอ้อมกอด



               ว๊าย ปล่อยนะ!!!แสงไฟส่องถนนสาดส่องมาเพียงเล็กน้อย ทำให้ดาจองเห็นใบหน้าของเจ้าของมือนั่นอย่างชัดเจน



               ปล่อยเหรอ หึ! เพื่อนเธอทำฉันหน้าช้ำไปหลายวันเธอไม่คิดจะชดใช้หน่อยเหรอ" ลูกค้าแก่คราวพ่อที่มีเรื่องกับดงฮยอกไม่กี่วันก่อนจับร่างเล็กกดลงกับกำแพง ก่อนจะจู่โจมเข้าที่ซอกคอขาวเนียนของดาจอง



               ปล่อยนะ! ช่วยด้วย" ดาจองพยายามดิ้นหนีปากสกปรกของอีกฝ่ายที่พยายามซุกไซ้ซอกคอของเธอ ดาจองตะโกนร้องสุดเสียง วินาทีนี้ต่อให้คนที่มาช่วยเธอไว้คือคิมจีวอน ดาจองก็พร้อมที่จะกล่าวคำขอบคุณเขาด้วยความเต็มใจ



    ดูเหมือนสวรรค์จะเห็นใจสาวน้อยผู้น่าสงสาร ชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ดาจองเบิกตากว้างเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนพิงเสาไฟฟ้าต้นที่ใกล้ที่สุดในบริเวณนั้น ผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต แต่ในนาทีนี้เธอยอมเป็นหนี้บุญคุณคิมจีวอนดีกว่าถูกกระทำย้ำยีแบบนี้



               คิมจีวอน ช่วยด้วย" ดาจองตะโกนขอความช่วยเหลือ



    จีวอนที่ยืนพิงเสาไฟฟ้าอยู่ยกยิ้มให้อีกฝ่าย เขาไม่มีท่าทีจะเข้ามาช่วยเหลือดาจองเลยแม้แต่น้อย ตรงกับข้ามเขายังยืนมองดูอีกฝ่ายถูกกระทำย้ำยีอย่างสบายใจ พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก มือข้างหนึ่งล้วงหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาสไลด์โดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของดาจองเลยแม้แต่น้อย



    เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลใจร้ายมากขนาดไหน น้ำใสก็เอ่อท้นล้นลงอาบแก้ม แววตาตัดพ้อถูกส่งไปยังคนที่ยืนเฉยไม่แม้แต่จะเข้ามาช่วยเธอ ดาจองนึกสมเพชตัวเองในใจ เธอจะหวังให้คนแบบคิมจีวอนมาช่วยเธอเนี่ยนะ นั่นคงเป้นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่คนอย่างคิมจีวอนจะทำสินะ



               ปล่อยนะ" ดาจองพยายามดิ้นหนีอีกฝ่ายสุดฤทธิ์ แต่ทำยังไงก็ดิ้นไม่หลุดจากพันธนาการของอีกฝ่ายเสียที


    สวรรค์ไม่เคยทอดทิ้งคนดี คำกล่าวนี้คงใช้ได้กับจองดาจอง ถึงแม้สวรรค์จะส่งคนเลวอย่างคิมจีวอนมายืนอยู่ตรงนั้น แต่สวรรค์ก็ไม่ลืมส่งผู้ชายที่แสนดีอีกคนมาช่วยเธอให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้



    35% (ลงทำไม?  ตอบ : ลงให้มันหมดๆไป  จะได้ไม่ค้างคา)



               ปล่อยนะ ไอ้สารเลว" มือแกร่งพร้อมหมัดหนักเหวี่ยงเข้าที่หน้าชายแก่คนนั้น



    คิมฮันบินปล่อยมัดรัวใส่ชายคนนั้นอยู่หลายหมัดจนทรุดลงกับพื้น ก่อนจะเข้าไปประคองดาจองที่อยู่ในสภาพหวาดกลัวและตกใจสุดขีด เขาจำได้ดีว่าเคยเห็นดาจองในสภาพนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเสื้อผ้าของเธอเปรอะเปื้อนและหลุดรุ่ย ยังดีที่วันนี้เขาเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นดาจองจองมีสภาพไม่ต่างจากวันนั้น



    ดาจองตัวสั่นระริกอยู่ในอ้อมกอดของฮันบิน เธอทั้งหวาดกลัวและตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความรู้สึกประหวาดบางอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกลับเกิดขึ้นกับเธอ ความรู้สึกเสียใจ เสียใจที่คนที่มาก่อนไม่ยอมช่วยเธอ แต่กลับมองดูเธอถูกทำร้ายอย่างใจเย็น สำหรับคิมจีวอนแล้วดาจองคงไม่ใช่คนในสายตาเขา และเช่นเดียวกับเธอ สำหรับดาจองแล้วคิมจีวอนคือปีศาจร้ายในคราบมนุษย์ดีๆนี่เอง



               ไม่เป็นไรนะครับ ผมอยู่นี่แล้ว" คิมฮันบินกระชักกอดดาจองแน่นและนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น



    คิมฮันบินค่อยๆประคองดาจองออกมาจากมุมมืดนั่น แสงไฟส่องสว่างข้างทางทำให้จีวอนมองเห็นภาพคนทั้งคู่ประคองกอดกันชัดเจน และนั่นทำให้เขาหัวเสียไม่น้อย



               ดาจอง มานี่" คิมจีวอนเรียกดาจองหลังจากที่เห็นเธอเดินมากับฮันบินโดยที่ฝ่ายชายประคอบกอดเธอเอาไว้



    ดาจองเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายเล็กน้อยเผยให้เห็นคราบน้ำตาที่เอ่อล้น ยิ่งไปกว่านั้นสายตาชิงชังที่เขามักจะได้รับจากเธอยังปรากฏบนใบหน้าเล็กนั่นอีก คิมจีวอนไม่ชอบที่ดาจองมองเขาด้วยสายตาเช่นนั้น ไม่ชอบเลยจริงๆ




               ฉันบอกให้มานี่!" ไม่พูดเพียงอย่างเดียวคิมจีวอนยังกระชากดาจองให้มายืนอยู่ข้างตัวเอง





               ปล่อยนะ ฉันเจ็บ" แรงบีบข้อมือของจีวอนทำให้ดาจองร้องออกมา น้ำตาที่เคยกลั้นไว้บัดนี้ร่วงหล่น ความรู้สึกโกรธ เกลียด ชิงชัง และน้อยใจ อัดแน่นอยู่ในหัวใจของดาจองจะต้องระบายมันออกมาในรูปของหยดน้ำตา



    เมื่อได้สติจีวอนรีบคลายมือของตัวเองออกทันที เปิดโอกาสให้ดาจองผลักเขาเต็มแรงก่อนจะวิ่งกลับไปหลบหลังฮันบินที่ยืนอยู่ไม่ห่าง คิมจีวอนเซเพราะแรงผลักเล็กน้อย แต่เขาเจ็บใจมากกว่าที่โดนอีกฝ่ายผลักแบบนี้ เขาไม่น่าคลายมือที่บีบข้อมือเรียวนั้นไว้เลย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่หลุดไปหาคนอื่นแบบนี้



    เมื่อตั้งหลักได้คิมจีวอนจึงปรี่เข้าไปหมายจะคว้าตัวดาจองกลับมาให้ได้แต่คิมฮันบินขวางเอาไว้ เขาจ้องหน้าจีวอนอยู่ไม่กลัวเกรง ตาเรียวคมดุจพญาเหยี่ยวจ้องตอบอย่างไม่ลดละเช่นกัน



               หลบไป ฉันบอกให้หลบไป" หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาได้ไม่นาน คิมจีวอนก็หมดความอดทน เข้าเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน แต่คิมฮันบินยังยืนนิ่ง เขาใช้ร่างบังดาจองจากจีวอนเอาไว้



               จองดาจอง ถ้าเธอไม่มายืนข้างฉันเดี๋ยวนี้ เธอเดือดร้อนแน่" คำขู่ที่ไม่ใช่แค่คำขู่ ดาจองรู้ดีว่าจีวอนทำจริงแน่น แต่เธอไม่ต้องการอยู่กับผู้ชายคนนั้น เธอต้องการไปให้พ้นจากเขา



    เมื่อเห็นอีกฝ่ายตัวสั่นเทาเพราะคำขู่และดูเหมือนว่าเธอกำลังจะก้าวขาลงสู่นรกที่มีคิมจีวอนเป็นมัจจุราช คิมฮันบินไม่รอช้าที่จะปกป้องเธอ เขาจับมือเธอเอาไว้ในขณะที่เธอก้มหน้างุด ดาจองเงยหน้าขึ้นมองฮันบินเล็กน้อย ไม่รู้ว่าดาจองคิดไปเองหรือเปล่าแต่สายตาของฮันบินบอกกับเธอว่า อย่าไป และนั่นทำให้ดาจองหยุดชะงัก



    เมื่อเห็นผู้ชายคนอื่นแตะต้องของเล่นของเขา นั่นยิ่งทำให้คิมจีวอนโมโหหนักเข้าไปให้ เขาปล่อยหมัดแกร่งเข้าที่หน้าของฮันบินเต็ม แต่ฮันบินก็ไม่ยอมจีวอนเช่นกัน เขาปล่อยหมัดสวนเข้าให้และรีบคว้ามือของดาจองวิ่งหนีไปด้วยกัน เขารู้ดีว่าสุดท้ายแล้วดาจองคงจะต้องเลือกไปกับจีวอนด้วยเหตุผลบางประกาศ แต่เขาไม่อยากให้เธอไปเจอนรกแบบนั้นอีกแล้ว ถึงแม้จะแค่ครั้งนี้ที่จะช่วยให้เธอหลีกหนีนรกนั่นได้แต่เขาก็อยากให้เธอได้พ้นจากนรกนั้น แค่สักครั้งก็ยังดี

    .

    .

    .

    .

    .


    ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากเรื่องต่างๆมากมายนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคิงไซส์หนานุ่มบนห้อง Suite ของโรงแรม H&J โดยที่เจ้าของร่างไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสายตาสองคู่จ้องมองอยู่ เมื่อแสงแดดสาดผ่านผ้าม่านสีขาวเพื่อเตือนให้คนที่นอนหลับไหลได้รูถึงวันใหม่ที่มาเยือน เปลือกตาหนักค่อยๆกระพือขึ้นก่อนตาคู่ใสจะลืมขึ้นเต็มตา



               ตื่นแล้วเหรอครับ ผมให้คนเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว" เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ปลายเตียง ดาจองค่อยๆพยุงตัวขึ้นนั่ง



               อันนี้เป็นเสื้อผ้าของซูบิน ผมขอยืมมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปทานข้าวที่ห้องอาหารกันนะครับ" ฮันบินส่งยิ้มอ่อนละมุมให้หญิงสาวก่อนจะจากไปปล่อยให้เธอได้มีเวลาเป็นส่วนตัว



    คิมฮันบินเป็นเจ้าของโรงแรม 4 ดาวแห่งหนึ่งในโซล และมีโรงแรมในเครืออีก 2 แห่งอยู่ที่เกาะเจจู ที่ซึ่งพวกเขาสองเคยเคยไปเที่ยวด้วยกัน และที่ปูซาน ตอนที่เขาพาเธอมาที่โรงแรงแห่งนี้เมื่อคืนเธอตกใจเล็กน้อยเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะประสงค์ร้ายกับเธอ ฮันบินอดขำในกริยาตื่นกลัวของดาจองไม่ได้ เขาอธิบายให้เธอฟังว่านี่เป็นโรงแรมของเขาพร้อมกับเปิดห้อง Suite ราคาแพงที่สุดให้ดาจองได้นอนหลับ



    ตอนแรกดาจองปฏิเสธบอกว่าเธอขอกลับไปนอนที่บ้านแต่ฮันบินห้ามไว้เพราะว่าเขามั่นใจว่าคิมจีวอนต้องไปดักเจอเธอที่บ้านแน่นอน ดังนั้นการกลับบ้านในตอนนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เมื่อใคร่ครวญตามคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว ดาจองจึงยอมพักอยู่ที่โรงแรมของฮันบินแต่ของพักในห้องธรรมดาและเป็นคนจ่ายค่าห้องพักเอง ฮันบินรู้ดีว่าถ้าเขาปฏิเสธดาจองคงจะไม่ยอมและออกไปนอนตามโรงอาบน้ำหรือไม่ก็ซาวนาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงทำเป็นยอมเธอแต่ความจริงแล้วกลับมาเธอขึ้นมายังห้อง Suite ตามที่ตั้งใจไว้ ดาจองไม่สามารถปฏิเสธอีกฝ่ายได้อีกแล้วจึงต้องจำใจนอนในห้องสุดหรูขนาดใหญ่นี้คนเดียว



    หลังจากรับประทานอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย ฮันบินอาสามาส่งดาจองที่บ้าน แต่ดาจองปฏิเสธเพราะเธอตั้งใจว่าจะแวะไปดูอาการของจินฮวานก่อน แต่ฮันบินก็ยังขออาสาไปส่งเธอที่รพ.โดยอ้างว่าซูบินต้องไปทำกายภาพที่นั่นพอดี ทำให้ดาจองไม่มีข้ออ้างจะปฏิเสธอีกฝ่าย



    หลังจากได้ทราบข่าวว่าจินฮวานได้ย้ายออกจากห้อง ICU ไปอยู่ห้องพิเศษแล้ว ดาจองรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยจินฮวานก็ปลอดภัยแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเรื่องที่ทำให้จินฮวานต้องโดนทำร้ายอีก ดาจองแอบไปยืนอยู่หน้าห้องพักฟื้นของจินฮวานแต่ไม่ยอมเข้าไป เธอมองป้ายชื่อที่ติดอยู่หน้าประตูแล้วถอนหายใจเล็กน้อย



               ทำไมไม่เข้าไปหล่ะครับ" ฮันบินที่มาด้วยกันเอ่ยถาม




               อย่าดีกว่าค่ะ ฉันไม่ควรเจอเขาอีก" หญิงสาวพูดเศร้าๆก่อนจะหันหลังเดินจากไป คิมฮันบินมองชื่อที่ติดที่ประตูที่เขียนว่า 'คิมจินฮวาน' สายตาที่อ่านไม่ออกของฮันบินปรากฏขึ้น ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

    .

    .

    .

    .

    .

    .


               หม่ามี๊~ หม่ามี๊กลับมาแล้ว" เสียงใสตะโกนร้องด้วยความดีใจก่อนจะวิ่งตรงมากอดขาดาจองที่เพิ่งเดินเข้าห้องนั่งเล่นของบ้านตัวเอง



    คิมจีวอนนั่งยิ้มโชว์ฟันกระต่ายอยู่บนโซฟา ถัดไปไม่ไกลมาชานอูที่นั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับของเล่นกองโตของซารังที่ขนมาจากบ้านของคิมจีวอน


               นูน่าทำงานล่วงเวลาทั้งคืนเลยเหรอครับ นี่จินฮวานฮยองเค้าใช้งานพี่หนักเกินไปรึเปล่าเนี่ย?” ชานอูบ่นอุบหลังจากเห็นหน้าพี่สาวที่ดูเหน็ดเหนื่อย



    ดาจองยิ้มจื่นๆ ก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงปรามจีวอนไม่ให้พูดอะไรเกี่ยวกับเธอทั้งหมด ชานอูยังคงไม่รู้เรื่องที่เธอทำงานเป้นเลขาให้จีวอนไม่ใช่จินฮวาน และยังคงไม่รู้เรื่องที่เธอลาออกไปทำงานร้านหมูกระทะด้วยเช่นกัน



               กินข้าวเถอะครับ จีวอนฮยองซื้ออาหารเช้ามาฝาก" ชานอูลุกขึ้นจากกองของเล่นและเดินตรงมายังพี่สาว เขาดันไหล่ดาจองให้ไปที่ห้องครัว ก่อนจะอุ้มซารังที่ยังคงเกาะขาของดาจองอยู่ขึ้นมา



               นูน่ากินมาแล้ว ขอขึ้นไปนอนข้างบนก่อนนะ"



               แต่ว่าจีวอนฮยองมีธุระสำคัญจะคุยกับนูน่านะครับ เรื่องงานที่บริษัท ใช่มั๊ยครับฮยอง" ชานอูหันไปถามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล



               งั้นผมพาซาออกไปเล่นข้างนอกนะครับ สองคนจะได้คุยกันตามสบาย" ชานอูไม่รู้เลยว่าได้ผลักพี่สาวของตัวเองมายืนอยู่บนปากทางเข้านรกแล้วในตอนนี้



    หลังจากชานอูและซาารังจากไปดาจองไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเองทันที เธอไม่มีอะไรจะคุยกับอีกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงานที่บริษัทเพราะตอนนี้เธอไม่ได้ทำงานที่นั่นอีกแล้ว



    ถึงแม้ว่าดาจองจะคิดว่าตัวเองไว้แล้ว แต่คิมจีวอนที่อ่านสถานการณ์ออกยังไวกว่า เขารั้งตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ก่อนที่เธอจะก้าวไปถึงบันไดบ้านเสียอีก ข้อมือของดาจองถูกกระชากแรงอีกครั้ง ความเจ็บปวดรวดร้าวทำให้เธอเปิดปากร้องออกมา นั่นทำให้จีวอนชะงักเล็กน้อยแต่เขายังไม่ยอมลดแรงที่บีบข้อมือนั่นไว้ เขาได้บนเรียนจากเมื่อคืนแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มีมารยามากอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด


    50% 


               ไม่ต้องมาร้องเลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะเจ็บจริงๆ"



               ฉันไม่ได้โกหก ฉันเจ็บจริงๆนะ ปล่อยฉันเถอะ" เพราะถูกกระชากและเหวี่ยงไปกระแทกพื้นเมื่อคืนทำให้ข้อมือของเธอบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด คงมีแค่จีวอนที่ปล่อยให้ความโมโหบังตานี่แหละที่มองไม่เห็น



               งั้นก็ร้องดังๆให้พวกผู้ชายของเธอมาช่วยสิ แต่ระวังหน่อยนะ...” คิมจีวอนขยับหน้าเข้าใกล้ดาจอง



               ถ้าเธอร้องดังมากไป...ชานอูอาจจะได้ยินเข้าก็ได้" เขากระซิบข้างหูเธอ ก่อนจะยกยิ้ม มือแกร่งคลายออกจะร่างบางของหญิงสาว



    คำพูดแฝงเลศนัยนั้นทำให้ดาจองถึงกับชะงัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจีวอนจะทำอะไร คนอย่างเขาทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นอยู่แล้ว...แม้แต่ตัวเธอ



               จะคุยอะไร รีบๆคุยมา ฉันเหนื่อย" ดาจองเริ่มเปลี่ยนท่าที เธอกลัวว่าความลับระหว่างเธอกับคิมจีวอนจะรั่วไหลอีก แค่แม่ของจีฮเยรู้เรื่องนี้เธอก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังดีเสียกว่าที่จะให้คนในครอบรัวของเธอรับรู้เรื่องนี้



               เหนื่อยเหรอ? หึ!”



               คงสนุกกันถึงเช้าถึงได้เหนื่อยขนาดนั้น" จีวอนเสียดสี



    ดาจองกำมือแน่นพยายามสะกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้ ความจริงเธอควรจะชินชากับคำพูดทำนองนี้ของคิมจีวอนได้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของจีวอน หัวใจของเธอเหมือนถูกกรีดแทงด้วยมีดนับสิบเล่ม



               จะพูดอะไรก็พูดมา" ดาจองพยายามที่จะไม่สนใจคำพูดพวกนั้น เธอต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

     

              ไปอยู่บ้านฉัน"


              ไม่มีทาง!”



               แน่ใจเหรอ ฉันว่าชานอูหรือแม่เธออาจไม่คิดอย่างนั้นถ้ารู้ว่าเธอไปทำงานที่ร้านหมูกระทะนั้นและเกือบจะถูก..” จีวอนใช้สายตามองดาจองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มร้าย



               ก็แค่เกือบ"


               "แต่โชคดีที่มีคนดีๆผ่านมาช่วยฉันไว้ได้ ฉันต้องขอบคุณเขามากๆ ไม่เหมือนกับบางคน...” ดาจองสวนกลับพลางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เรื่องของคนใจร้ายที่ไม่ยอมช่วยเธอแต่กลับยืนมองดูเธอถูกทำร้ายอย่างสบายใจก่อนจะปรายตามองคนที่เธอพูดถึง น้ำใสค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมา ความรู้สึกเสียใจและน้อยใจเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว



    สายตาที่แฝงไปด้วยความโกรธเคือง เสียใจ และน้อยใจที่ดาจองมองมายังจีวอนทำให้หัวใจเขาหล่นวูบอีกครั้ง ใช่ว่าเขาจะไม่ช่วยเธอเสียเมื่อไหร่ เขาเองก็โกรธจนแทบบ้าเหมือนกันที่ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มายุ่งกับของเล่นของเขา เขาโกรธจนอยากจะขยี้ไอ้หมอนั่นให้ตายคามือเสียด้วยซ้ำ เขาอยากจะปกป้องเธอใจจะขาด ดาจองเชื่อจริงๆเหรอว่าเขาจะยอมให้ไอ้หมอนั่นทำอะไรเธอได้ง่ายๆ มันจะไม่มีวันเกิดเร่ืองแบบนั้นขึ้นแน่นอนตราบใดที่เขายังยืนอยู่ตรงนั้น เพียงแค่ในเวลานั้นเขากำลังคิดอยู่ว่าจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นอย่างไรดี จะเข้าไปช่วยเธอเพื่อเอาไว้เป็นบุญคุณ เพราะจีวอนรู้ดีว่าคนอย่างดาจองถ้าใครมีบุญคุณด้วยแล้วเธอจะต้องตอบแทนแน่นอนไม่เว้นแม้กระทั่งเขา หรือจะใช้เหตุการณ์นี้บังคับให้เธอทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ  แต่จะอะไรก็ช่างยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ใครทำอะไรดาจองเป็นอันขาด




    แพล้ง!




    ก่อนที่จีวอนจะทำสิ่งอื่นไม่มากกว่านี้  แจกันใบสวยที่วางอยู่ไม่ไกลกระทบเข้าที่ศีรษะของเขาเข้าเต็มแรง เลือดค่อยๆไหลซึมออกมาและหลังจากนั้นสติของเขาก็ดับวูบลง ดาจองมองเหตุการณ์ด้วยความตะลึงงัน  คิมดงฮยอก ที่ยืนอยู่ด้านหลังจ้องมองร่างที่ล้มลงบนพื้น



              "มันทำอะไรเธอรึเปล่าดาจอง"



              "..." ดาจองไม่ได้ตอบอะไร ความสนใจของเธอตอนนี้อยู่ที่ร่างไร้สติที่นอนอยู่บนพื้น



              "เกิดอะไรขึ้นครับ" ชานอูเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับซารัง



    หลังจากที่เขาอนุญาตให้เพื่อนสนิทของพี่สาวเข้ามาในบ้าน เขากังวลใจว่าจะเกิดเรื่องชกต่อยระหว่างดงฮยอกฮยองและจีวอนฮยองอีกจึงรีบตามเข้ามาดู  และมันแทบไม่ต่างจากสิ่งที่เขากังวลเลยแม้แต่น้อย  ดงฮยอกไม่ได้สนใจคนที่มาใหม่ เขาเดินตรงเข้าไปหาดาจองที่ยังคงตกใจกับสิ่งที่เกินขึ้น ดงฮยอกประคองกอดดาจองไว้แต่สายตาของดาจองไม่อาจละจากร่างของจีวอนได้



              "ไม่เป็นไรนะดาจอง ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันจะไม่ปล่อยให้มันทำอะไรเธอเด็ดขาด" ดงฮยอกลูบหัวดาจองอย่างอ่อนโยน



              "ฮยองปล่อยนูน่าเดี๋ยวนี้เลยนะ ฮยองมีสิทธิ์อะไรมากอดนูน่าของผมแบบนั้น" ชานอูกระชากดงฮยอกที่กำลังกอดดาจองออกมา



    ไม่มีใครสนใจคนที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นนอกจากดาจองคนเดียวเท่านั้น เธอค่อยๆประคองศีรษะที่อาบเลือดช้า



              "ชานอูอ่า ตามรถพยาบาลที" ดาจองสั่งน้องชายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



              "เร็วสิ!" เมื่อน้องชายยังไม่ยอมทำตามแต่ยังคงจ้องตัวการที่ทำให้จีวอนบาดเจ็บดาจองจึงเอ่ยปากเร่ง

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    อาการภายนอกโดยทั่วไปไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เหลือเพียงแต่รอเวลาที่จีวอนจะฟื้นคืนสติขึ้นมาเท่านั้นหลังจากฟื้นขึ้นมาหมอจะตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เป็นไรจริงๆ จีวอนถูกย้ายไปยังห้องพิเศษวีไอพีที่จัดเตรียมไว้สำหรับคนตระกูล คิม แห่งชินกิกรุ๊ปเท่านั้น ยุนฮยองแนะนำให้ดาจองกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนถ้าจีวอนฟื้นขึ้นมาเขาจะโทรไปบอกเธอ ส่วนคิมดงฮยอกนั้นคงจะดำเนินการตามกฏหมายข้อหาทำร้ายร่างกาย ยุนฮยองคงไม่สามารถปล่อยให้คนที่ทำร้ายเพื่อเขา ทำร้ายเจ้านายของเขาลอยนวลไปได้



              "อย่าเอาเรื่องดงฮยอกเลยได้มั๊ยคะคุณยุนฮยอง ฉันขอร้อง"



              "ไปขอร้องมันทำไมดาจอง" ดงฮยอกท้วง



              "เรื่องนี้ผมว่ารอให้จีวอนฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่าครับ"



              "ไม่ต้องฟื้นขึ้นมาได้ยิ่งดี" ดงฮยอกแสยะยิ้ม



              "ดงฮยอกอ่า" ดาจองเอ่ยห้าม



    อะไรกันที่ทำให้ดงฮยอกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เด็กชายเจี๋ยมเจี้ยมที่น่ารักเมื่อเจอกันครั้งแรก รุ่นพี่ประธานนักเรียนสุดฮอตแสนใจดี คุณครูแสนฉลาดที่คอยติวหนังสือให้เธอและจีฮเย เพื่อนที่แสนดีของดาจองคนนั้นหายไปไหนกัน ทำไมนับว่าดงฮยอกยิ่งอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลัง ไม่มีเหตุผล และยังสาปแช่งคนอื่นแบบนี้



              "ถ้าจีวอนไม่ฟื้นหรือเป็นอะไรไป ผมว่าคุณจะยิ่งเดือดร้อนเข้าไปใหญ่นะครับคุณดงฮยอก" ยุนฮยองกล่าวเรียบๆ



              "ดงฮยอกอ่า นายกลับไปก่อนเถอะนะ"



              "ถ้าดาจองยังไม่กลับฉันก็ยังไม่กลับ"



              "ดงฮยอกอ่า นายกลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะขอร้องคิมจีวอนไม่ให้เอาเรื่องนาย แต่ตอนนี้นายช่วยกลับไปก่อนได้มั๊ย"



              "ผมว่าถ้าคุณไม่กลับไปดีๆตามที่คุณดาจองขอร้อง ผมคงต้องให้ตำรวจพาคุณออกไป อันที่จริงผมให้ตำรวจจัดการกับคุณตอนนี้เลยก็ยังได้ แต่เห็นกับคุณดาจอง ผมจะให้คุณได้กลับไปนอนสบายๆที่บ้านก่อน แล้วพรุ่งนี้เราค่อยไปคุยกันที่สถานีตำรวจละกันนะครับ" ยุนฮยองร่ายยาว



              "กลับเถอะดงฮยอก"



    เมื่อได้รับคำขู่และคำขอร้องของดาจอง ดงฮยอกก็จำใจต้องกลับบ้านไปก่อน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุนฮยองกับดาจองเท่านั้นที่อยู่ดูอาการจีวอน ไม่นานคนขับรถของตระกูลคิมก็มาถึง ยุนฮยองกำชับให้เขาส่งดาจองให้ถึงบ้านโดยปลอดภัย ดาจองลายุนฮยองแต่เธอก็ยังอดเป็นห่วงคนที่นอนไม่ได้สติบนเตียงนั่นไม่ได้

    .

    .

    .

    .

    .

    .



    หลังจากสลบไปหลายชม.จีวอนก็ฟื้นคืนสติสิ่งแรกที่เขาต้องการคือลากตัวคนที่ทำให้เขาเลือดออกมากระทืบให้หายแค้น เมื่อรู้จากยุนฮยองว่าคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้คือคิมดงฮยอก ผู้ชายอีกคนที่คอยมาวุ่นวายกับของเล่นที่เขายังไม่เบื่อ นั่นยิ่งทำให้เขาโมโหมากขึ้นไปอีก นอกจากจะยุ่งกับของของเขา ยังใส่ร้ายเขาเรื่องทำร้ายจินฮวานด้วย ถึงเวลาแล้วที่คนอย่างคิมจีวอนจะทำให้คิมดงฮยอกรู้สำนึกเสียบ้าง



              "แล้วจะให้แจ้งความมั๊ย?" ยุนฮยองที่ยืนกอดอกอยู่ปลายเตียงเอ่ยถาม



              "เรื่องไหนหล่ะ?"



              "ก็ทั้งสองเรื่องแหละ หลักฐานก็มี คนก็จับมาได้แล้ว" ยุนฮยองเสนอ



              "เรื่องที่มันทำฉันหัวแตกฉันจะไม่แจ้งความ เพราะเดี๋ยวฉันจะจัดการมันเอง ส่วนเรื่องที่มันใส่ร้ายฉัน ฉันมีวิธีจัดการในแบบของฉัน แค่ทำตามที่ฉันบอก" สายตาประสงค์ร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม



              "ฉันว่าก็แค่แจ้งความก็จบแล้ว" มิโนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้เสนอความเห็น



              "ถ้ามันจบง่ายขนาดนั้น มันก็ไม่สนุกสิ" จีวอนยกยิ้ม




    ชายหนุ่มเริ่มกวาดตาไปรอบห้องพักฟื้นขนาดใหญ่ มีเพียงชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ส่วนคนที่เขามีธุระด้วยนั้นกลับหาไม่เจอทั้งๆที่เธอเป็นต้นเหตุให้เขาต้องเจ็บตัวแบบนี้



    เมื่อสังเกตเห็นว่าเพื่อนสนิทมองหาใครบางคน ยุนฮยองก็อมยิ้มพร้อมกับพูดลอยๆ


              "คุณดาจองเขากลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว"


    จีวอนมองหน้าเพื่อนสนิทที่รู้ทันก่อนจะเบือนหน้าหนี เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่ไหน เพราะต่อจากนี้ไปเธอจะต้องอยู่ในที่ที่เขากำหนดเป็นคนเท่านั้น



              "ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันให้คนรถบ้านนายไปส่งแล้ว รับรองถึงบ้านปลอดภัยแน่นอน"



              "ถึงบ้านปลอดภัยเหรอ? หึ! แล้วหลังจากนั้นหล่ะ คงจะออกไปเริงร่ากับผู้ชายคนอื่นสินะ หรืออาจจะไปพอดรักอยู่กับไอ้คิมดงฮยอกนั่น" พูดจบก็สะแยะยิ้ม


    ยุนฮยองกับมิโนมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ

    .

    .

    .

    .

    .

    .


              นูน่าไปอยูบ้านจีวอนฮยองเถอะครับ" ชานอูพยายามเกลี้ยกล่อมพี่สาวของตัวเอง



              ชานอู นูน่าว่าเราคุยเรื่องนี้กันจบแล้วนะ นูน่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น"



              แต่...”



              ไม่มีแต่" พูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ปล่อยให้น้องชายคนเดียวนั่งถอนหายใจอยู่ตรงนั้น



    ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของคิมจีวอนในวันนั้น จองชานอูคงไม่ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่สาวของตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น ใจจริงเขาก็ไม่อยากให้พี่สาวเข้าไปอยู่ที่นั่นเท่าไหร่ แต่เมื่อฟังเรื่องที่จีวอนเล่าว่าพี่สาวของเขาลาออกจากงานและไปทำงานที่ร้านหมูกระทะจนเกือบจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ถ้าคิมจีวอนไปช่วยไว้ไม่ทันพี่สาวของเขาต้องเป็นอันตรายและเขาคงไม่มีหน้าจะมองหน้าแม่และดาจองนูน่าได้อีก แต่นั่นไม่ใช่เพียงแค่เหตุผลเดียวที่ทำให้ชานอูอยากส่งพี่สาวตัวเองเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้น



    บ้านที่ชานอูคิดว่าพี่ของเขาจะปลอดภัย



              ฮยองรู้ว่านายมีเรื่องปิดบังพี่สาวนายอยู่ ถ้านายไม่อยากให้พี่สาวนายรู้ นายควรจะเกลี้ยกล่อมให้พี่สาวนายมาอยู่บ้านฮยองนะ"



              ฮยองขู่ผมเหรอ?”



              อย่าเข้าใจผิดสิชานอู ฮยองรู้ว่านายอยากช่วยพี่สาว แต่ถ้าพี่สาวนายรู้เข้าเธอจะดีใจเหรอที่นายทำแบบนั้น ฮยองว่าเธอจะผิดหวังในตัวนายมากกว่านะ การที่พี่สาวนายมาอยู่ที่บ้านฮยองมันจะทำให้นายทำอะไรได้สะดวกมากขึ้นนะ"



              ฮยองคิดงั้นเหรอ?” ชานอูเริ่มลังเล



              ฮยองหวังดีทั้งกับนายทั้งพี่สาวนายนะ ฉะนั้นฮยองคิดว่ารอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนแล้วค่อยบอกพี่นาย ถึงเวลานั้นพี่นายคงไม่ผิดหวัง แต่จะภูมิใจในตัวนายด้วยซ้ำ" จีวอนพยายามชักจูง



    ใช่แล้ว...คิมจีวอนทำสำเร็จ ตอนนี้จองชานอูติดกับเขาเรียบร้อยแล้ว ชานอูพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการโน้มน้าวพี่สาวของตัวเองให้ไปอยู่บ้านหลังนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขากำลังผลักพี่สาวของตัวเองให้ก้าวเข้าสู่นรกขุมที่ลึกที่สุด



    ดาจองไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมน้องชายของเธอถึงได้คะยั้นคะยอให้เธอไปอยู่ที่บ้านหลังนั้น ไม่รู้ว่าคิมจีวอนชักจูงชานอูได้อย่างไรกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะไม่ยอมไปอยู่ในบ้านหลังนั้นเด็ดขาด

    .

    .

    .

    .

    .



    ครืน ครืน ครืน



         มีอะไร" ดาจองรับสายอย่างไม่ลังเล เสียงแข็งนั้นบ่งบอกได้ดีทีเดียวว่าคนที่อยู่ปลายสายไม่ใช่คนที่เธออยากสนทนาด้วยมากนัก


    [พูดดีๆไม่ได้รึไง]



         “....”


    [ช่างเถอะ ฉันแค่จะบอกว่า ฉันจะแจ้งความจับคิมดงฮยอกเพื่อนของเธอ ข้อหาพยายามฆ่า]



    70%


         พยายามฆ่า? มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอคิมจีวอน"



    [ไม่มากไปหรอกสำหรับคนที่ทำให้ฉันต้องเสียเลือด] ปลายสายตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา



    [แต่ถ้าเธออยากช่วยเพื่อนเธอ ฉันก็พอมีวิธีนะ] เสียงเจ้าเล่ห์ของจีวอนทำให้ดาจองหวั่นใจ



    [ถ้าเธอยอมมาอยู่ที่บ้าน..]



         ไม่มีทาง"


    ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด


    ยังไม่ทันที่คิมจีวอนจะพูดจบดาจองก็ชิงวางสายไปเสียก่อน เธอรู้ดีว่าสิ่งที่จีวอนต้องการคืออะไร เอาดงฮยอกมาเป็นข้ออ้างให้เธอไปอยู่ที่บ้านหลังนั้น เธอไม่มีทางหลงกลอุบายของจีวอนเด็ดขาด เขาจะเอาหลักฐานที่ไหนมาบอกว่าดงฮยอกพยายามฆ่าเขา ถ้าเธอผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ไม่ยอมเป็นพยานให้เขาแล้วคิมจีวอนจะทำอะไรดงฮยอกได้ ดาจองยกยิ้มสะใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเธออยู่กว่าเหนือคิมจีวอน

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    ถึงแม้จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในวันนั้นแต่ดาจองยังคงกลับไปทำงานที่ร้านหมูกระทะนั้น โดยมีคิมฮันบินเป็นบอร์ดี้การ์ดจำเป็นให้กับเธอทุกวัน เขามันจะมานั่งทานหมูกระทะดึกๆและหาเรื่องเดินไปส่งเธอที่บ้านทุกวัน ถึงแม้จะไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายแต่การมีใครสักคนเดินไปด้วยกันในยามค่ำคืนน่าจะอุ่นใจกว่าการเดินไปบนถนนคนเดียว



         คืนนี้หนาวนะครับ"



         ดาจองอ่า" เสียงที่คุ้นเคยตะโกนเรียกจากด้านหลัง



    ดาจองหยุดนิ่ง คิมฮันบินที่เดินมาด้วยกันหันมองตามเสียงเรียก 'คิมจีฮเย' เพื่อนสนิทของดาจองวิ่งกระหืดกระหอบตามมาอยู่ด้านหลัง เธอแอบรอดาจองจนเธอเลิกงานเพื่อที่จะคุยธุระสำคัญกับเธอ



    ดาจองยังคงนิ่งเฉย ฮันบินมองหน้าหญิงสาวอย่างอ่านออก เธออยากคุยกับเพื่อนคนนี้แต่ต้องนิ่งเฉยไว้เพราะมีบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ต่อไปได้อีกแล้ว บางอย่างที่เขาอยากรู้ว่ามันคืออะไร



         ดาจองอ่า ฉะ..ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ" ไม่นานจีฮเยก็เดินมาประชิด


         

         จะ จินฮวานโอปป้าฟื้นแล้ว โอปป้า เขาถามหาเธอ เขาอยากเจอเธอ" พูดด้วยอาการเหนื่อยหอบ เมื่อพี่ชายของเธอฟื้นคืนสติ ชื่อแรกที่เขาเรียกหาคือ จองดาจอง คนเป็นน้องสาวรู้ถึงความต้องการของพี่ชายที่อยากพบอีกฝ่าย เธอไม่ลังเลที่จะตามเพื่อนสนิทไปหาพี่ชายทันที ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยินดีที่จะเจอเธอก็ตาม



    เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าของดาจองก็เปลี่ยนไป กระบอกตาเริ่มร้อนผาวเมื่อรู้ว่าใครคนที่เธอเป็นห่วงฟื้นคืนสติขึ้นมา ถึงจะดีใจที่อีกคนปลอดภัยแต่เธอก็ต้องเก็บซ้อนมันเอาไว้ ถึงดาจองอยากจะวิ่งไปหาจินฮวานที่โรงพยาบาลมากแค่ไหน แต่คำพูดของแม่จีฮเยในวันนั้นทำให้ดาจองในตอนนี้ทำได้เพียงยืนรับฟังเท่านั้น


         

         เธอจะไปเยี่ยมจินฮวานโอปป้าหน่อยได้มั๊ย" จีฮเยขอร้อง


    ดาจองไม่ได้ตอบอะไร เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง อาจจะดูเหมือนเย็นชา แต่เธอไม่มีทางเลือก เธอเดินจากไปปล่อยให้จีฮเยยืนอยู่ตรงนั้น ฮันบินมองจีฮเยก่อนจะเดินตามหญิงสาวไป


         ผมว่า คุณควรจะไปเยี่ยมคุณจินฮวานหน่อยนะครับ อย่างน้อยเค้าก็เคยเป็นเจ้านายคุณ" ฮันบินเสนอ


         อย่าดีกว่าค่ะ มันจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ไปกันใหญ่" ดาจองบอกปัด ก่อนถอนหายใจเนื่อย ฮันบินเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในที่สุดเขาก็มาส่งหญิงสาวถึงหน้าบ้าน


    เมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาก็ต้องแปลกใจที่น้องชายคนเดียวไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนแรกดาจองเป็นกังวลไม่น้อยแต่เมื่อเห็นโน้ตที่ชานอูทิ้งไว้ว่าจะไปทำรายงานบ้านเพื่อนกลับพรุ่งเธอก็เบาใจ ก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวเข้านอน


    ก็อก ก็อก ก็อก


    เสียเคาะประตูบ้านดังสนั่นทำให้ดาจองที่อยู่ในชุดกระโปรงนอนสีขาวตัวบางต้องรีบหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำและรีบลงไปเปิดประตูบ้านทันที ด้วยกลัวว่าผู้มาเยือนจะทำให้เพื่อนบ้านในละแวกนั้นตกใจตื่น ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นน้องชายตัวดีที่ทำงานเสร็จแล้วกลับบ้านมาและคงจะลืมเอากุญแจบ้านติดไปด้วย ไม่เช่นนั้นคงจะไขประตูเปิดเข้ามาเองแล้วไม่เคาะเสียดังลั่นขนาดนี้



         กลับมาแล้วเหรอชานอู นูน่ากำลัง..” เมื่อเปิดประตูออกไปก็ต้องตกใจไม่น้อยเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่น้องชายอย่างที่คิดไว้ แต่กลับเป็นเพื่อนสนิทของเธอ คิมดงฮยอก



         มีอะไรรึเปล่าดงฮยอก" ดาจองกระชับเสื้อคลุมแน่น เธออยู่ในชุดที่ไม่เรียบร้อยนักเพราะเข้าใจว่าคนที่เคาะประตูคือน้องชายจึงรีบลงมาเปิดให้ ไม่คิดว่าจะเป็นคนอื่น


      

       ขอเข้าไปหน่อยได้มั๊ย" ดงฮยอกเอ่ย สีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีของเขาทำให้ดาจองไม่อยากจะปฏิเสธ แต่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งติดตัวอีกฝ่ายก็ทำให้ดาจองกังวลอยู่ไม่น้อย


      

       มีธุระอะไรรึเปล่า"


     

        เดี๋ยวนี้ต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะเจอเธอได้" ฟังจากน้ำเสียงแล้วคิดว่าอีกฝ่ายคงจะดื่มหนักมาไม่น้อย



         เธอเมาอยู่นะ กลับบ้านไปเถอะ" ดาจองบอกปัด เธอคงจะยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้านถ้าชานอูอยู่ด้วยหรือดงฮยอกมีสติครบถ้วน ดาจองปิดประตูแต่ดงฮยอกยั้งไว้ก่อนจะแทรกตัวผ่านบานประตูเข้ามาในบ้านของอีกฝ่ายอย่างไร้มารยาท พร้อมกับกดล็อกประตูบ้านหมายจะไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้



         ออกไปนะ ดงฮอยก"




         ฉันไม่ออก ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าจินฮวานฮยองฟื้นขึ้นมา เธอก็จะกลับไปหาเขาอยู่ดี เธอไม่มีทางมองมาที่ฉันอยู่ดี" ถึงจะไม่ค่อยมีสติแต่ดงอยอกก็รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป


    ดาจองเริ่มเดินถอยหนีดงฮยอกทีละก้าวในขณะที่ดงฮยอกเองก็เดินก้าวเข้าหาดาจองทีละก้าวเช่นกัน



         ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นของผู้ชายคนไหน ฉันมาก่อน ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอ และฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเป็นของฉัน" พูดจบก็พุ่งตัวเข้าใส่อีกฝ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างของหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของดงฮยอกรียบร้อยแล้ว ดาจองตกใจสุดขีดและพยายามดิ้นรนให้พ้นจากอีกฝ่าย ดงฮยอกดันดาจองเข้ากับผนังบ้านก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากของดาจอง หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเบิกตากว้าง เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นนี้ ดาจองพยายามดันดงฮยอกให้ออกไปแต่อีกฝ่ายกลับปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของเธอ ดาจองทรุดตัวลงกับพื้นเพราะความเจ็บปวด แต่ก็ยังพยายามร้องเรียกให้คนช่วยด้วยเสียงอันน้อยนิด



         เธอจะร้องเรียกใครก็ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก" ดงฮยอกช้อนร่างของดาจองขึ้นมาก่อนจะวางเธอลงบนโซฟาในห้องรับแขก ชายหนุ่มคร่อมทับร่างบางเอาไว้ก่อนจะถอดเสื้อยืดของตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องสุดแกร่ง เขากระชากเสื้อคลุมอาบน้ำของดาจองอกเผยให้เห็นเนื้อขาวเนียนที่ตอนนี้ปลุกเร้าอารมณ์ของดงฮยอกมาขึ้นไปอีก ตอนนี้ดาจองหมดทางหนีแล้ว สิ่งที่เธอทำได้คือร้องขอความช่วยเหลือ



         ช่วยด้วย ..ฮึก.. ช่วยด้วย" ดาจองพยายามตะโกนให้ดังที่สุดแม้จะสะอึกสะอื้นอยู่ก็ตาม เธอหวังว่าจะมีใครซักคนได้ยิน ดงฮยอกไม่ได้สนใจเสียงร้องหรือเสียงสะอื้นไห้ของอีกฝ่าย เขามั่นใจว่าไม่มีใครสามารถช่วยหญิงสาวได้ ชานอูเองก็คงจะไม่อยู่บ้านไม่อย่างนั้นตอนเปิดประตูเมื่อครู่ดาจองคงไม่เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือชานอู ดงฮยอกไซ้ซอกขอขาวเนียน ดาจองทำได้เพียงย่นคอหนีแต่ดงฮยอกยังไม่ยอมหยุด มือสองข้างเริ่มลุกล้ำเขาไปยังเนื้อเนียนใต้ร่มผ้า ชุดนอนของดาจองเลิกขึ้นเผยให้เห็นเนื้อสีขาวราวน้ำนม ดงฮยอกยังคงทำตามความปรารถนาของเขาโดยไม่สนผิดชอบชั่วดี ต่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายโฉดขมเหงรังแกหญิงสาวเขาก็ยอม ถ้ามันจะทำให้เขาได้ตัวเธอมาครอบครอง เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นผู้ชายที่แสนดีอีกต่อไป



         โอ๊ย" ดาจองยังไม่ยอมง่ายๆ เธอกัดเข้าที่ไหล่ขวาของดงฮยอกในจังหวะที่อีกฝ่ายพยายามสร้างรอยรักที่ซอกคอของเธอ ดงฮยอกสะดุ้งเล็กน้อย รอยฟันลึกทำให้ดงฮยอกโมโหก่อนจะพลั้งมือตบปากหญิงสาวเข้าอย่างแรงจนได้เลือด


    ดาจองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าดงฮยอกจะมีนิสัยป่าเถื่อนแบบนี้ หรือนี่เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไป แต่จะอะไรก็ช่างตอนนี้ดาจองต้องการเพียงอย่างเดียวคือรอดพ้นจากการกระทำโหดร้ายชของดงฮยอก


         ไอ้ชั่ว" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับรั้งไหล่ของดงฮยอกไว้ หมัดหนักปล่อยเข้าใส่หน้าคนชั่วช้าเข้าเต็มแรง


    คิมจีวอนไม่ยอมหยุดง่ายๆ เขายังคงปล่อยหมัดใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง ก่อนจะกระทืบอีกฝ่ายที่นอนโอดครวญอยู่บนพื้นห้องรับแขกอีกสองสามครั้ง เมื่อเห็นคนตรงหน้าหมดฤทธิ์เขาจึงหันกลับมาสนใจร่างบางที่อยู่บนโซฟา สภาพของเธอทำให้เขาเทือบอยากจะกรทืบดงฮยอกซ้ำอีกซักร้อยรอบ ถ้าคิมจีวอนมาไม่ทัน เขาไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันฟ้องทุกอย่างไว้ชัดเจนแล้ว


    เดิมทีจีวอนจะมาตกลงกับดาจองเรื่องย้ายไปอยู่ที่บ้านของเขา แต่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากในบ้าน เขารู้ได้ทันทีว่านั้นคือเสียงของหญิงสาวแน่นอน และได้ยินเสียงของผู้ชายอีกคนดังออกมาด้วย จีวอนมั่นใจว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่ายแน่ และคราวนี้เขาจะไม่ทำพลาดเหมือนคราวที่แล้วเด็ดขาด เขาจะปกป้องดาจองด้วยตัวเขาเอง


    คิมจีวอนประคองกอดดาจองที่ตัวสั่นเทาและยังมีน้ำตานองหน้า เขาหยิบเสื้อคลุมมาคลุ้มให้เธอก่อนจะโอบกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมกอด ถึงแม้จะเป็นคิมจีวอนที่เธอเกลียดแสนเกลียด แต่นาทีนี้ต้องยอมรับว่าดาจองซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายที่ได้ช่วยเหลือเธอในครั้งนี้


    ดงฮยอกค่อยๆยันร่างบอบช้ำของตัวเองขึ้นมา หลังจากโดนหมัดหนักๆของจีวอนตอนนี้เขาเริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว สายตาขยะแขยงในตัวเขาอย่างที่สุดของดาจองทำให้เขานึกเกลียดตัวเองไม่น้อยเหมือนกัน


         ดาจอง ฉันขอโทษ" ดงฮยอกเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด


         ออกไป ก่อนที่กูจะให้คนมาหามศพมึงออกไป" จีวอนเอ่ยปากไล่


         ดาจอง ฉันไม่ได้ตั้งใจ" ดาจองไม่ตอบ เธอหลบตาและซุกเขาที่อกแกร่งของจีวอน น้ำตายังคงไหลไม่ขาดสาย เธอไม่คิดเลยว่าดงฮยอกจะทำกับเธอแบบนี้ ดาจองผิดหวังในตัวเพื่อนสนิทคนนี้จริงๆ


    ดงฮยอกพยายามเดินเขาไปหาคนทั้งคู่ที่นั่งอยู่ที่โซฟาแต่จีวอนชี้นิ้วสั่งห้าม


         ถ้ามึงเข้ามาอีกก้าวเดียว มึงได้เป็นศพแน่ ออกไป!คิมจีวอนตะโกนกร้าว ใบหน้าดุดันทำให้ดงฮยอกนึกกลัวอยู่ไม่น้อย เขาทำได้เพียงแค่เดินจากไปเงียบๆพร้อมกับความรู้สึกผิด


    มือหนาลูบหลังปลอบโยนหญิงสาวที่กำลังขวัญเสีย จีวอนไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากพร่ำบอกอีกฝ่ายว่าไม่เป็นไรแล้ว เขาอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรหญิงสาวได้แน่นอน ดาจองได้ยินก็เบาใจจนในที่สุดก็เผลอหลับในอ้อมกอดของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

    .

    .

    .

    .

    .


    แสงแดดอุ่นสาดส่องผ่านม่านสีขาวในห้องนอนสุดหรู เตียงใหญ่ถูกจับจองด้วยชายหญิงคู่หนึ่ง เจ้าของเตียงนอนตะแคงกายมองร่างเล็กที่นอนคุดคู้อยู่ใกล้ๆ จีวอนกระชับผ้าห่มให้หญิงสาวที่ยังคงหลับสนิทอยู่ ร่องรอยแผลจาการกระทำรุนแรงของคิมดงฮยอกปรากฏขึ้นชัดเจน คิมจีวอนได้แต่แค้นใจที่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้แตะต้องของเล่นสุดหวงของเขา


    ถึงเขาจะเล่นของเล่นด้วยความโมโหบ้าง ด้วยความรุนแรงบ้าง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายให้หญิงสาวได้เลือดตกยางออก เขาไม่ใช่พวกที่นิยมความรุนแรงและไม่มีทางทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายแน่นอน


    ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดอกสู้แสงอรุณของวันใหม่ ภาพห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้นอนอยู่บนเตียงของตัวเอง เธอมองไปรอบๆและเห็นจีวอนนอนตะแคงมองเธออยู่ไม่ไกล เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเธอจำได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคนช่วยเธอไว้ แต่เธอก็มองไม่เห็นความจำเป็นใดๆที่จีวอนจะต้องพาเธอมาที่นี่ ที่บ้านของเขา


         ตื่นแล้วเหรอ" จีวอนถามพร้อมกับลุกขึ้นนั่งเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า เขามักจะไม่ใส่เสื้อนอนอยู่แล้วถึงแม้อากาศจะใกล้เข้าฤดูหนาวเต็มที


    ดาจองเองก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งเช่นกัน เธออ้าปากจะพูดกับอีกฝ่ายแต่รอยแผลที่คิมดงฮยอกสร้างไว้ทำให้เธอเจ็บเกินกว่าจะขยับปากพูดได้


    เมื่อเห็นอีกคนเจ็บจีวอนเองกลับไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนดาจองจะเจ็บปวด จะร้องไห้เสียใจยังไง เขามองว่ามันเป็นเรื่องสนุกและสะใจสำหรับเขาที่สุด แต่ระยะหลังมานี่ทุกครั้งที่เขาเห็นหญิงสาวเจ็บปวด ร้องไห้ หรือเสียใจ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจหรือสะใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกหงุดหงิดและโมโหทุกครั้งไป



         เจ็บมากมั๊ย" น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยนั้นทำให้ดาจองประหลาดใจเล็กน้อย จีวอนส่งมือหนาเอื้อมสัมผัสใบหน้าสวย นิ้วหัวแม่มือลูบสัมผัสแผลที่มุมปาดอย่างเบามือด้วยกลัวอีกฝ่ายจะเจ็บ


    ดาจองไม่ได้ตอบอะไรแต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ


         ขอบคุณนะ" เพียงแค่ประโยคสั้นๆแต่ทำให้จีวอนอดยิ้มไม่ได้


    ถึงจะเกลียดอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่เธอก็แยกแยะได้ว่าสิ่งที่เขาทำเมื่อคืนนั่นได้ช่วยให้เธอรอดพ้นจากเรื่องเลวร้าย และแน่นอนว่าเธอรู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริง


    100%


    มาแล้วค่ะ มาตามคำสัญญา ^^

    ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก  แอบเปลี่ยนชื่อตอนนิดหน่อยเพราะมันยังเดินเรื่องไปไม่ถึงตอนนั้น  ฮ่าาาา 

    กลัวว่าเดี๋ยวตอนนี้มันจะยาวไปเลยตัดจบก่อน


    ชี้แจงฉบับย่อ (ฉบับเต็มอยู่หน้าหลักนิยายาค่ะ) 

    ช่วงนี้จะมีการรีไรท์แก้คำผิดในตอนแรกๆ  อาจจะมีแต่งเพิ่มบ้างบางตอนแต่คิดว่าไม่เยอะ ส่วนจะต้องอ่านใหม่ทั้งหมดมั๊ย คำตอบคือไม่จำเป็นค่ะ ตอนไหนที่แต่งเพิ่มและอยากให้อ่านจะเขียนบอกไว้นะคะ (ความจริงอยากจะรีไรท์ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยลงต่อ แต่เดี๋ยวกลัวว่าจะรอกันนาน ฮ่าาาาาา) 


    ส่วนเรื่องลงฟิค  เราจะเปลี่ยนมาลงฟิควันเสาร์นะคะ จะลงทีละ 50% นะคะ ไม่ลงยิบย่อยแล้วนะ เดี๋ยวรีดจะรำคาญเอา >///<  ไม่ได้ลงทุกเสาร์นะคะ เสาร์ไหนที่ลงจะบอกในทวิตนะคะ แต่จะพยายามลงให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้


    ปล.

    1. ขอบคุณทุกคนที่รออ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ เราอ่านทุกคอมเม้นต์นะคะ มีตอบบ้างเล็กน้อยแล้วแต่อารมณ์ 

    ฮ่าาาา 

    2. สนุกไม่สนุกยังไงบอกได้นะคะ อยากให้ปรับปรุงอะไรก็บอกนะคะ ยินดีรับฟังคำติชมของรีดทุกคนค่ะ ^^

    3. มีแท็กในทวิตเตอร์ด้วยนะ #ทาสจีวอน ฝากสกรีมกันหน่อยนะคะ  หรือใครจะเมนชั่นมาคุยกันก็ที่ @badtzlady ค่ะ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×