ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KOOKV | Omega Queen #กุกวีโอเมก้าควีน (Omegaverse) | New Edition Available

    ลำดับตอนที่ #3 : Omega Queen | 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2K
      210
      27 ก.ย. 64

    KOOKV | Omega Queen - 2



     

     

     


     

    นัยน์ตาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกสายเลือดที่ครอบครองอย่างสีซิลเวอร์จากบิดาที่เจือไปด้วยสีน้ำทะเลจากมารดากำลังจับจ้องไปยังเหล่าทหารกล้าและนางกำนัลที่บ้างก็อยู่ในร่างหมาป่า บ้างก็อยู่ในต่างมนุษย์ต่างกำลังจัดเตรียมงามสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นของอาณาจักรคาร์โรซินเวีย หนึ่งในอาณาจักรหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ครั้งนี้ถึงคราวเวียนบรรจบมาเป็นเจ้าภาพ โดยเจ้าชายจัสติน องค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรคาร์โรซินเวียได้รับหมอบหมายให้เป็นหัวเรือหลักในการจัดงานครั้งนี้



    การประลองไตรภาคีจากสามอาณาจักรหมาป่า คาร์โรซินเวีย เวสฮาร์ท และโฟเวลตัส ที่จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีในทุกๆห้าปีได้เวียนมาถึงอีกครั้ง แน่นอนว่าการที่คาร์โรซินเวียได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประลองในครั้งนี้ จัสตินไม่อาจยอมให้งานครั้งนี้น้อยหน้าครั้งก่อนๆที่อาณาจักรอื่นเป็นเจ้าภาพอย่างแน่ และแน่นอนความร่ำรวยมั่งคั่งของคาร์โรซินเวียก็สามารถเนรมิตและดลบันดาลทุกอย่างให้ออกมาอย่างใจนึก



    งานเฉลิมฉลองจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และยาวนานต่อเนื่องถึงเจ็ดวัน เริ่มต้นที่พิธีเปิดงานประลองไตรภาคีและสิ้นสุดที่งานเฉลิมฉลองวันเกิดขององค์ชายรัชทายาท อัลฟ่าหนุ่มผู้ที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ของบรรดาผู้ที่ยังถือพรมจารีย์ไร้คู่ครองไม่ว่าจะเป็นอัลฟ่า เบต้า หรือโอเมก้า ก็ต่างหลงใหลในรูปร่างหน้าตาที่ราวกับพระเจ้าสร้างมา และการเป็นว่าที่พระราชาคนต่อไปทำให้ตระกูลชนชั้นสูงแทบทุกตระกูลพยายามเป็นอย่างมากในการจับคู่บุตรหลานของตนเองกับเจ้าชาย ทว่ากลับไร้การเหลียวแลจากหมาป่าขนสีขาวอย่างจัสตินทุกครั้งไป



    แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังคาดหวังว่าบุตรหลานของตนเองคนใดคนหนึ่งจะเป็นคนที่โชคชะตากำหนดไว้ของเจ้าชาย และงานเต้นรำในคืนวันเกิดอายุสิบแปดของเจ้าชายอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาแล้ว



    ชายผ้าคลุมสีแดงปักทอด้วยเส้นด้ายทองคำเป็นรูปมังกรทางด้านหลังพลิ้วไสวไปตามจังหวะการก้าวเดินของชายหนุ่ม ปลายเท้าชะงักลงเมื่อได้กลิ่นหอมของคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ลอยคลุ้งมาจากห้องเครื่องในปราสาท ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะถูกมอบให้กับผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาโฉมงามราวกับตุ๊กตา โดยที่กาลเวลาไม่อาจทำให้ความงดงามของมารดาของเขาลดลงได้เลยแม้แต่น้อย



    “เสด็จแม่ทำท้องชายร้องแต่หัววันเลยนะพะยะค่ะ”



    อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยทักทายผู้เป็นที่แม่หรือที่ใครต่อใครรู้จักกันในนามหนูน้อยหมวกแดงผู้เลอโฉม ราชินีแห่งอาณาจักรคาร์โรซินเวีย พร้อมทั้งตรงเข้าไปหอมแก้มซ้ายทีขวาทีจนโอเมก้าวัยกลางคนต้องหลุดหัวเราะออกมาให้กับความขี้เล่นของลูกชายตัวเอง ก่อนจะส่งคุกกี้ของโปรดเข้าปากลูกชายตัวน้อยในวันวานที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มจนตัวโตกว่าเขาไปเสียแล้ว



    “หิวก็เอาไปกินรองท้องก่อนสิองค์ชาย ยังพอมีเวลาก่อนจะเข้าเฝ้าเสด็จพ่อไม่ใช่เหรอลูก”



    “แน่นอนครับ ชายจะกินให้หมดนี่เลย”



    “ได้ยังไงกัน ชายไม่ยอมนะพะยะค่ะเสด็จแม่” น้ำเสียงขุ่นมัวที่นำมาก่อนตัว เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากราชินีคนงามและจัสตินได้เป็นอย่างดี ก่อนที่หน้าประตูจะปรากฏร่างของอัลฟ่าเด็กวัยเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆอย่างเจ้าชายโจชัว



    เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีพุ่งเข้าไปคลอเคลียผู้เป็นแม่ ใบหน้าที่ถอดแบบพ่อและแม่มาอย่างลงตัว ทั้งยังคับคล้ายคับคากับผู้เป็นพี่ชายซบลงบนอกอันแสนอบอุ่นอย่างออดอ้อน นิสัยตามแบบฉบับลูกคนเล็กที่ถูกทุกคนในครอบครัวเอาอกเอาใจมาตลอดเผยออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้โจชัวเพิ่งจะบอกกับจัสตินเองว่าจะหัดเป็นอัลฟ่าที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเสียที



    “ข้าอุตส่าห์เดินไปเอาหนังสือที่หอดูดาวให้ท่านพี่ ดูสิเสด็จแม่ ท่านพี่แกล้งข้าอีกแล้ว” เจ้าคนเล็กหันไปฟ้องผู้เป็นแม่ พลางเลื่อนหนังสือดาราศาสตร์เล่มหนาที่วางอยู่ตรงหน้าไปให้พี่ชาย



    “ใครว่าล่ะ ข้าให้เจ้าไปเอาเพราะเจ้าอยากเรียนไม่ใช่เหรอ”



    “ท่านพี่จะสอนข้าเหรอพะยะค่ะ”



    “อืม ยังพอมีเวลาก่อนงานประลองไตรภาคี – ส่วนนี่คุกกี้ของเจ้า ข้าไม่ใช่คนใจร้ายเสียหน่อย”



    “ก็แล้วไป ถ้าท่านพี่ไม่แบ่งให้ข้า ข้าจะให้เสด็จแม่ทำให้ใหม่แล้วกินคนเดียวให้พุ่งกางไปเลย”



    ราชินีคนงามยกยิ้มให้กับการเย้าแหย่ของลูกชายทั้งสอง นั่งถามไถ่เกี่ยวกับความก้าวหน้าในทักษะต่างๆและการเล่าเรียนของเจ้าชายทั้งสองอยู่พักใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จัสตินต้องปลีกตัวไปเข้าเฝ้าองค์ราชาแห่งคาร์โรซินเวีย จัสตินโค้งคำนับให้ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะตรงไปนั่งบนโซฟาที่พ่อของเขานั่งอยู่ก่อนหน้านี้



    “เสด็จพ่อเรียกชายมาพบด่วนแบบนี้ มีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่าพะยะค่ะ”



    “อันที่จริงก็ค่อนข้างสำคัญ เจ้ารู้ใช่ไหมจัสตินว่าคาร์โรซินเวียของเรามีความสัมพันธ์อันดีกับเวสฮาร์ทมาตั้งแต่อดีต”



    ชายหนุ่มพนักหน้ารับ “แต่ว่าตั้งแต่ที่ผู้ครองบัลลังก์คนก่อนสิ้นพระชนม์ไป ชายยังไม่เคยมีโอกาสได้พบกับองค์ราชินีคนใหม่ของเวสฮาร์ทเลย – เขาจะมาที่งานประลองด้วยหรือเปล่าพระยะค่ะเสด็จพ่อ”



    อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความตื่นเต้น ได้ยินมาว่าตอนนี้ผู้ที่สืบสายเชื้อครอบครองบัลลังก์ของเวสฮาร์ทอยู่คือบุตรชายคนเล็กของพระราชาองค์ก่อน ผู้ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ในกรงทองไม่ค่อยมีผู้ใดได้พบเห็นหน้าคาตาบ่อยเท่าไหร่นัก ผิดกับผู้เป็นพี่ชายอย่างเจ้าชายมิเกลที่เขามีโอกาสได้พบอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะมีข่าวลือหนาหูว่าอีกฝ่ายหายตัวไป



    นับตั้งแต่การจากไปของราชินีผู้เป็นแม่ อาณาจักรเวสฮาร์ทก็ราวกับปิดตายลง แม้จะไม่ได้เปิดประตูเมืองไม่ต้อนรับใครเข้าออก แต่ทว่าประตูปราสาทที่ปิดลงก็มิต่างอะไรจากการปิดตายอาณาจักร ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสถานการณ์ทางการเมืองของเวสฮาร์ทไม่สู้ดีมานับตั้งแต่ตอนนั้น



    และอีกหนึ่งข่าวลือที่จัสตินได้ยินมาคือความงดงามของราชินีองค์ปัจจุบันของเวสฮาร์ท โอเมก้าที่มีสายเลือดสีน้ำเงินของกษัตริย์ที่ขึ้นครองบัลลังก์อย่างชอบธรรม ว่ากันว่าโอเมก้าคนนั้นงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ จัสตินไม่รู้หรอกว่าข่าวลือนั่นเป็นเรื่องที่ชาวบ้านอุปโลกน์กันไปเอง หรือราชินีองค์นั้นจะเป็นโอเมก้าจริงๆ เพราะเขาไม่เคยพบอีกฝ่ายและในฐานะอัลฟ่าที่เป็นว่าที่พระราชาและว่าที่จ่าฝูงคนต่อไป เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่อัลฟ่าจะต้องก้มหัวยอมให้โอเมก้าเป็นผู้นำง่ายๆ



    มิใช่ว่าเขาดูถูกดูแคล้นโอเมก้าหรอกนะ เขาจะกล้าคิดอย่างนั้นได้อย่างไรกันในเมื่อผู้ให้กำเนิดเขาก็เป็นโอเมก้า แต่ทว่ามันเป็นเพราะสัญชาตญาณของอัลฟ่า เราถูกสร้างให้เป็นผู้นำ มันทุกจาลึกลงในสายเลือดมานับตั้งแต่บรรพบุรุษว่าอัลฟ่าต้องเป็นผู้นำ ส่วนเบต้า และโอเมก้าต้องเป็นผู้ตาม



    “พ่อก็อยากให้หนูวาเนสซ่ามาเหมือนกัน จะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง – แต่ตอนนี้สถานการณ์ในเวสฮาร์ทค่อนข้างน่าเป็นห่วง พ่อได้ข่าวมาว่าปีนี้พวกกบฏแอบลักลอบเข้าไปในปราสาทเพื่อลอบฆ่าหนูวาเนสซ่าหลายครั้งแล้ว”



    ชื่อวาเนสซ่างั้นเหรอ ...



    อืม เป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก



    “เหตุใดสถานการณ์ถึงได้เลวร้ายขนาดนั้นกันล่ะเสด็จพ่อ” จัสตินเป็นฝ่ายเอ่ยถาม



    “ลูกคงเคยได้ยินข่าวลือว่าวาเนสซ่าเป็นโอเมก้า”



    “พะยะค่ะ แต่ชายคิดว่ามันน่าจะเกินจริงไปหน่อย”



    “ผิดแล้วลูกรัก – ข่าวลือนั่นเป็นความจริง หนูวาเนสซ่าเป็นโอเมก้า”



    “พระเจ้า ...”



    นัยน์ตาสีซิลเวอร์เบิกกว้างอย่างไม่คิดว่าเลยข่าวลือที่พูดกันหนาหูจะเป็นความจริง เขาไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมสถานการณ์ทางเมืองเวสฮาร์ทไม่สู้ดีอย่างที่ควรจะเป็น เพราะอย่างไรเสียพวกที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีและอีโก้สูงเฉียดฟ้าอย่างอัลฟ่าไม่มีทางยอมก้มหัวให้กับวาเนสซ่าอย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าตัวจะครอบครองบัลลังก์อย่างชอบธรรมก็ตาม ซึ่งดูเหมือนว่าหนทางเดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตวาเนสซ่าจากชะตากรรมที่แสนโหดร้ายที่จัสตินพอจะมองเห็นหนทาง คือวาเนสซ่าจะต้องมีคู่เป็นอัลฟ่าที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะสามารถครอบครองบัลลังก์และเป็นราชาที่ทุกคนยอมรับเท่านั้น



    “พ่อส่งราชทูตไปเวสฮาร์ทแล้ว อีกไม่นานคงได้คำตอบ – ถ้าหนูวาเนสซ่าจะมาร่วมงาน พ่ออยากให้องค์ชายคอยอารักษ์ขาการมาเยือนอาณาจักรของเราครั้งแรกของหนูวาเนสซ่าในฐานะองค์ราชินีอย่างสมเกียรติ”



    “น้อมรับพระบัญชาพะยะค่ะเสด็จพ่อ”



    “พ่อคิดว่าพวกกบฏคงใช้โอกาสนี้ลงมืออีกแน่ ยังไงเตรียมตัวให้พร้อมล่ะองค์ชาย”



    “หากมันคิดจะทำร้ายนกน้อยในกรงทอง ก็คงต้องข้ามศพหมาป่าตัวนี้ไปก่อนแล้วล่ะพะยะค่ะ”

     

     


    ดวงตากลมโตเสมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างของรถม้าล้อลากหลังงามที่กำลังสั่นโครงเครงไปตามจังหวะการเดินของม้าสายพันธุ์ดีตัวเขื่อง ห่างไปจากจุดที่เขาอยู่ราวไม่ถึงสิบไมล์เป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองสูงใหญ่เฉียดฟ้าอันเป็นอาณาเขตของอาณาจักรเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษอย่างอาณาจักรคาร์โรซินเวีย



    ทว่ารถม้ากลับหยุดอย่างกะหันทัน เสียงกรี๊ดร้อง เสียงคู่คำรามของหมาป่า รวมทั้งเสียงดาบที่กระทบกันก็ทำให้นัยน์ตาสีโกเมนสั่นไหว ร่างกายหดเกร็งพร้อมกับลมหายใจที่ตื้นถี่ขึ้นเมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา มือเรียวจับฮูดของผ้าคลุมสีขาวขึ้นมาคลุมศีรษะพลางหยิบดาบที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาจับแน่น เป็นอีกครั้งที่ความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ เป็นอีกครั้งที่วาเนสซ่าต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแบบนี้



    เรดควีนแห่งเวสฮาร์ทได้แต่ตัดพ้ออยู่ในใจ ก่อนที่จะดึงดาบออกมาจากปลอกที่เก็บและในเสี้ยววินาทีต่อมาประตูรถม้าก็ถูกเปิดออก ดาบเล่มยาวถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันตัวทันที วาเนสซ่าไม่รู้ว่าคนที่ใส่ชุดดำปิดหน้าปิดตา และหมาป่าหลายตัวพวกนี้เป็นใครแต่เขาตั้งใจจะสู้จนสุดชีวิตเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอดพ้นจากพญาเพชรฆาต นัยน์ตาสีโกเมนสั่นไหวอีกครั้งเมื่อเห็นทหารและนางกำนัลของตัวเองต่างทำหน้าที่ปกป้องเขาจนตัวตาย คนตัวเล็กพลิกตัวหลบปลายดาบที่แท่งมาที่ลำตัวได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะอาศัยความว่องไวและจังหวะที่คนใจร้ายตรงหน้าเผลอแทงดาบเข้าไปทันที



    ปลายดาบที่ปักอยู่กลางอกของคนใจร้ายตรงหน้าทำเอาเรดควีนตัวสั่นระริก เมื่อความผิดชอบชั่วดีก่อตัวขึ้นในจิตใจหยาดเลือดเหม็นคาวของคนผู้นั้นเปรอะเปื้อนผ้าคลุมสีขาวของเขาเป็นวงกว้าง ก่อนที่นัยน์ตาสีโกเมนจะเบิกตากว้างเมื่อปลายดาบอีกด้ามถูกจ่อมาที่ลำคอของเขา



    “ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องมอบชีวิตให้กับความตายแล้วล่ะองค์ราชินี – อั่ก!



    ทว่ายังไม่ทันที่มันจะพูดจบ เสียงหวีดร้องของราชินีแห่งเวสฮาร์ทก็ดังขึ้นพร้อมกับดวงตากลมสวยที่ปิดลงด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่เห็นศีรษะของมันหลุดออกจากบ่าต่อหน้าต่อตา วาเนสซ่าทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอย่างน่าสงสาร



    ภาพตรงหน้าปรากฏร่างไร้วิญญาณและไร้ศีรษะของคนที่สั่นวาจาจะเอาชีวิตของเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน หยาดโลหิตไหลทะลักออกมาจากสวนที่ถูกตัดขาดเจิ่งนองเป็นวงกว้าง กระเด็นเปรอะเปื้อนไปตามรถม้าจนดูน่าสยดสยอง รวมถึงเสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่และใบหน้าปานตุ๊กตาที่ถูกเลือดกระเด็นใส่ กลิ่นสนิมคละคลุ้งไม่ทั่วบริเวณ ก่อนที่นัยน์ตาสีโกเมนจะสบขากับนัยน์ตาสีซิลเวอร์ของหมาป่าขนสีขาวร่างใหญ่ที่ในปากของมันคาบศีรษะส่วนที่ขาดหายไปของร่างไร้วิญญาณตรงหน้า



    โอเมก้าตัวน้อยผงะถอยหลังด้วยความหวาดกลัว เนื้อตัวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคาวเลือดสั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม เมื่อหมาป่าขนสีขาวตรงหน้าสะบัดศีรษะที่คาบอยู่กระเด็นไปไกลพร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายของอัลฟ่าชั้นสูงที่กดข่มและสร้างความกดดันในบรรยากาศ ทำให้โอเมก้าคนงามอึดอันจนหายไม่ออก ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนมิอาจควบคุมตัวเองได้ หยาดน้ำตาเอ่อล้นจนไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามราวกับกำแพงที่เก็บซ่อนเอาอ่อนแอเอาไว้ ถูกอัลฟ่าตรงหน้าทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี



    “อึก!



    เสียงสะอื้นที่วาเนสซ่าพลางเก็บซ่อนมันเอาไว้ เล็ดลอดออกอย่างน่าสงสาร แต่ใครจะคิดเล่าว่าเพียงเสียงสะอื้นของเรดควีนคนงามจะทำให้บรรยากาศกดดันเมื่อครู่ผ่อนคลายลง



    “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”



    โอเมก้าตัวน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่นัยน์คู่สวยจะเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อร่างของหมาป่าที่ตัวใหญ่กว่าหมาป่าทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ผ้าคลุมปักลายมังกรสีแดงเพลิงที่มีคนรีบเอามาให้ชายหนุ่มสวมทำให้วาเนสซ่ารู้ได้ทันทีว่าอัศวินขี่ม้าขาวที่มาช่วยชีวิตเขาไว้คือใคร



    องค์รัชาทายาทแห่งคาร์โรซินเวีย – เจ้าชายจัสติน



    “ก็ดีแล้วล่ะที่เจ้าไม่เป็นอะไร ลุกขึ้นเถอะ ... ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าตกใจ”



    อัลฟ่าหนุ่มพยุงโอเมก้าที่แสนเปราะบางตรงหน้าให้ลุกยืนขึ้น ขณะที่นัยน์ตาสีซิลเวอร์ก็สำรวจร่างกายของคนตรงหน้าอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าแขกคนสำคัญของอาณาคาร์โรซินเวียไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนตามที่พูดจริงๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเพียงเสี้ยววินาทีหนึ่งนัยน์ตาสีเคยเป็นสีซิลเวอร์คู่นั้นเปล่งประกายเฉดสีอันงามดังดอกลาเวนเดอร์ออกมา ก่อนที่มันจะหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของโอเมก้าคนงามทุกอย่าง



    วาเนสซ่าหลบสายตาที่จ้องมาหา ก่อนที่ภาพรอบกายจะทำให้โอเมก้าตัวน้อยสั่นผวาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารอบกายหยาดโลหิตสีแดงชาดและกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง ทั้งยังเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณทั้งของผู้หมายเอาชีวิตของเขา และผู้ที่ปกป้องชีวิตของเขาจนต้องจบชีวิตของตัวเอง แม้แต่คนที่รอดชีวิตก็ต่างได้รับบาดเจ็บปางตาย



    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างบาดแผลในจิตใจให้กับราชินีแห่งเวสฮาร์ทไม่น้อยเลยทีเดียว กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องสูญเสียคนของตัวเองไปแบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่คนของเขาต้องเสียเลือดเสียเนื้อบาดเจ็บจนปางตายแบบนี้ ความเสียใจก่อตัวขึ้นในหัวใจของเรดควีนจนหยาดน้ำตาเอ่อล้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับจางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา



    ทว่าท่าทางไร้เรี่ยวแรงเหมือนจะล้มลงอีกครั้งก็ทำให้อัลฟ่าหนุ่มรีบช้อนตัวโอเมก้าคนงามเข้าสู่อ้อมกอดทันที ก่อนที่คนตัวเล็กจะถูกจับให้นั่งลงบนอานม้า ผ้าคลุมสีขาวที่อาบย้อมโลหิตถูกชายหนุ่มปลดออกไปอย่างถือวิสาวะ กลิ่นหอมหวานเฉกเช่นดอกกุหลาบฟุ้งขึ้นมาทันที ก่อนที่มันจะเบาบางลงเมื่อผ้าคลุมสีแดงของเขาถูกสวมลงบนร่างกายอันแสนบอบบาง



    ไม่มีคำพูดใดๆปริปากออกมาจากคนทั้งสอง จัสตันเลือกที่จะใช้ความเงียบปลดปล่อยให้โอเมก้าตัวน้อยในอ้อมกอดที่นั่งอยู่บนหลังม้าจมอยู่กับห้วงความคิดของตัวเอง คนที่เผชิญกับความโหดร้ายมาหมาดๆหากจะขวัญหนีตีฝ่อก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นเขาจึงเลือกให้อีกฝ่ายใช้ความคิดอยู่กับตัวเองไปก่อน



    “ขอบคุณนะ ...”



    เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นเรียกรอยยิ้มจากคนที่กระโดดขึ้นมานั่งซ้อนหลังแล้วออกแรงกระชับบังเหียนม้าให้ก้าวเดิน “รู้ไหมว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าที่พวกมันคิดเยอะเลย”



    “ไม่หรอก ความอ่อนแอต่างหากที่ข้ามี”



    “แต่โอเมก้าที่สามารถจับดาบขึ้นมาปกป้องตัวเองได้มันมีไม่กี่คนหรอกนะ” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยค้าน



    “นั่นคือสิ่งที่ข้าจำเป็นต้องเรียนรู้มันต่างหาก หากข้าไม่สู้ คนที่ตายก็เป็นข้า”



    วาเนสซ่าเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น เหตุการณืที่ต้องเผชิญก่อนหน้านี้มันทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแย่ไม่น้อย ก่อนที่เปลือกตาที่มุกจะปิดลงใช้ความเงียบเป็นกำแพงกั้นระหว่างคนที่นั่งซ้อนหลังตัวเองอยู่บนหลังม้า ทว่าความอ่อนล้าที่เกิดขึ้นก็ทำให้กายเล็กเอนหลังพิงอกคนตัวสูงกว่าและจมสู่ห้วงนิทราไปโดยไม่รู้ตัว



    อัลฟ่าหนุ่มก้มมองคนที่หลับคอพับคออ่อน ก่อนจะกระชับกายบางให้แนบชิดมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้คนตัวเล็กตกลงไป ยิ่งใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นกายอันแสนหอมหวานที่หอมฟุ้งติดจมูกจนจัสตินต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาใกล้เป็นอัลฟ่าวัยเจริญพันธุ์อย่างสมบูรณ์ หรือเป็นเพราะโอเมก้าตัวน้อยในอ้อมกอดมีกลิ่นฟีโรโมนที่หอมกว่าโอเมก้าทั่วไป เขาถึงได้กลิ่นอีกฝ่ายมากถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้าโอเมก้าคนเดียวที่เขาได้กลิ่นฟีโรโมนอย่างชัดเจนคือแม่ของเขาคนเดียวเท่านั้น หากเป็นคนอื่นเขาจะได้กลิ่นเพียงจางๆ



    เพียงไม่นานม้าตัวเขื่องก็ก้าวเข้ามาในเขตเมืองหลวงของคาร์โรซินเวีย ผู้คนที่พบเห็นเจ้าชายของอาณาจักรต่างพากันแสดงความเคารพ จัสตินทำเพียงพยักหน้าตอบรับก่อนจะกระชับบังเหียนเพื่อให้ม้าวิ่งเร็วขึ้น เพราะอุณหภูมิในร่างกายของคนตัวเล็กที่สูงขึ้นมาก ประกอบกับใบหน้าที่ซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัดเป็นสิ่งที่กำลังทำให้อัลฟ่าหนุ่มร้อนใจ ประตูพระราชวังฝั่งที่อยู่ใกล้กับที่พักที่แม่ของเขาจัดเตรียมไว้ให้ราชินีแห่งฮาร์ทถูกเปิดออกเพื่อให้ม้าตัวเขื่องที่พาบุคคลสำคัญทั้งสองเข้าไป



    องค์ราชาและราชินีที่กำลังรอคอยการกลับมาของลูกชายและแขกคนสำคัญของอาณาจักรรีบเข้าไปผู้มาใหม่ทั้งสองทันที ร่างเล็กที่หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของลูกชายประกอบใบหน้าซีดเซียว ทำเอาราชินีแห่งคาร์โรซินเวียนึกใจคอไม่ดี รีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงกับช่วยลูกชายพาวาเนสซ่าไปที่ห้องนอน ทว่าอัลฟ่าหนุ่มกลับปฏิเสธหลวงข้าหลวงที่จะเข้ามาช่วย รีบอุ้มคนตัวเล็กไปยังห้องนอนที่อยู่จัดไว้ทันที



    “จัสติน เกิดอะไรขึ้นกับหนูวาเนสซ่ากันลูก”



    “ชายคิดว่าวาเนสซ่าถูกพิษพะยะค่ะเสด็จแม่”



    “พระเจ้า ... พวกเจ้า หมอหลวงอยู่ไหน รีบไปตามมาให้ไวเดี๋ยวนี้!



    ยอมรับเลยว่าตอนแรกจัสตินไม่คิดว่าการที่จู่วาเนสซ่าหลับไปจะเป็นเพราะการถูกพิษ เขาคิดเพียงว่าโอเมก้าตัวน้อยคงจะอ่อนเพลียกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญเท่านั้น แต่หลังจากที่สังเกตเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวมากขึ้นประกอบกับอุณหภูมิที่สูงอย่างน่าตกใจ ก็ทำให้อัลฟ่าหนุ่มรู้ได้ทันที่ว่านี่ไม่ใช่การหลับไปเพราะอ่อนเพลีย ทว่าเป็นเพราะพิษต่างหาก



    “มันคือพิษอะไรกัน”



    อัสโฟเดลกับวูฟส์เบนพะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”



    อัสโฟเดล ดอกไม้ในทุ่งหญ้าที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมของน้ำยาตายทั้งเป็น และวูฟส์เบนสมุนไพรดอกสีม่วงที่เป็นพิษร้ายสำหรับหมาป่า

     


    To be continue

     

    ดีใจๆที่หลายคนรอคอยเรื่องนี้นะคะ สำหรับนักอ่านที่เคยอ่านเรื่องนี้ฉบับแรกเราอยากให้ลองอ่านกันใหม่นะคะ ช่วงแรกอาจมีความคล้ายคลึงกับฉบับเดิมบ้าง แต่รับรองว่าฉบับรีไรท์ใหม่เส้นเรื่องจะเจ้มจ้นข้นมากทั้งสองปมของจัสตินและเรดควีนอย่างที่เคยบอกไปเลยนะคะ หวังว่าจะชื่นชอบกัน และได้ผ่อนคลายความตึงเครียดต่างๆในแต่ละวันไปกับงานเขียนของเราค่ะ

    ขอส่งกำลังใจให้กับนักอ่านที่กำลังเผชิญกับอุทกภัยทุกท่านค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้โดยวัย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ขอให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นกลียุคที่มีทั้งโรคระบาด ภัยธรรมชาติ และรัฐบาลที่บริหารงานล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเหล่าไปได้โดยไวค่ะ ท้ายที่นี้ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ    

     


    B
    E
    R
    L
    I
    N

     

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×