คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #94 : ~ Happy Family 2 ~ # 2
“ อิ่มแล้วเหรอลูก ” คุณแม่คนสวยเอ่ยถามลูกชายยิ้มๆเมื่อเห็นว่ามือเล็กกำลังดันถาดพิซซ่าออกจากตรงหน้า
เพราะมุนบินบอกว่าอยากทานพิซซ่าแจจุงก็เลยอยากเอาใจลูกชายเพื่อชดเชยที่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับมุนบินเท่าไหร่เพราะต้องคอยดูแลเยอึน เมื่อกลางวันหลังจากที่แน่ใจว่ามุนบินหลับสนิทแล้วแจจุงจึงแอบโทรบอกให้ยุนโฮซื้อพิซซ่าหน้าโปรดของลูกชายกลับมาด้วย
“ ครับ ” หลังจากที่ทานจนอิ่มแล้วร่างเล็กๆก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนบนตักของพ่อหมีที่นั่งยิ้มดูลูกชายทานของโปรดอยู่ข้างๆ ดูเอาเถอะชีวิตนี้จะมีใครสุขสบายเท่าชอง มุนบิน
“ ไหนบอกว่าอยากกินไงลูก กินไม่สมอยากแบบนี้คราวหลังคุณแม่ไม่ให้คุณพ่อซื้อมาแล้วดีกว่า ” เสียงหวานเอ่ยเย้าลูกรักก่อนจะได้รับค้อนวงโตกลับมา
ร่างบางจัดการเก็บพิซซ่าที่ลูกหมีทานเหลือใส่กล่องให้เรียบร้อย ก็เห็นนอนละเมอออกซะขนาดนั้นก็นึกว่าอยากทานจริงๆแต่พอเอาเข้าจริงๆทานได้สองชิ้นเจ้าลูกหมีก็โบกมือลาซะแล้ว
“ ก็หนูอิ่มจริงๆนี่นา ” ปากเล็กยู่เข้ามาหันกันก่อนจะใช้มือป้อมลูบที่หน้าท้องที่นูนขึ้นมานิดๆของตน ตอนนี้มุนบินแน่นท้องไปหมดแล้วอ่ะคุณแม่ขืนให้มุนบินกินเข้าไปอีกมีหวังท้องแตกตายแน่ๆ “ คุณแม่เก็บไว้ให้น้องสิ ” บอกไร้เดียงสาเพราะคิดว่าถ้าน้องตื่นขึ้นมาน้องก็คงจะหิวเหมือนตัวเอง
คำพูดที่ไร้เดียงสาของลูกชายสร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้ประดับบนใบหน้าของคนเป็นพ่อแม่ มือหนาสางผมนุ่มของลูกชายด้วยความเอ็นดูก่อนจะอธิบายให้ลูกชายเข้าใจ
“ น้องทานไม่ได้ครับ ” เสียงยิ้มบอกพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เขาคิดว่าเขาเห็นแววพี่ชายที่ดีที่อยู่ในตัวของมุนบินแล้วล่ะ เพราะถึงแม้จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่อย่างน้อยมุนบินก็ยังนึกถึงน้องสาวที่นอนอยู่ในเปล
“ ทำไมอ่ะ ” เอ่ยถามด้วยความสงสัยก่อนจะพลิกตัวนอนตะแครงปากเล็กอ้าออกเพื่อรอดูดน้ำส้มที่แม่บ้านพึ่งยกเข้ามาให้ ท่าทางที่แจจุงเดาได้ไม่ยากว่าลูกหมีกำลังบอกว่า หนูจะกินน้ำส้ม คุณแม่ป้อนหนูหน่อย
“ มุนบินลุกขึ้นมาทานดีๆลูก ” เพราะไม่อยากให้ลูกชายเสียนิสัยแจจุงเลยต้องทำใจแข็งปฏิเสธคำขอของลูกชายเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมุนบินจะสบายจนเคยตัว
“ ทำไมน้องถึงทานไม่ได้อ่ะคุณพ่อ ” ร่างป้อมๆค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากตักของผู้เป็นพ่อก่อนจะยื่นมือมารับแก้วน้ำส้มที่คุณแม่คนสวยยื่นให้หากแต่ปากเล็กก็ยังคงเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
ทำไมน้องถึงทานไม่ได้อ่ะ แล้วน้องไม่หิวเหรอขนาดมุนบินทานข้าวครบสามมื้อตามที่คุณแม่บอกมุนบินยังหิวเลยอ่ะ ตั้งแต่น้องเกิดมามุนบินยังไม่เห็นน้องกินอะไรเลยนอกจากน้ำกับนมคุณแม่
“ เพราะน้องยังเด็กไงครับ แล้วอีกอย่างตอนนี้น้องก็ยังไม่มีฟันด้วย ”
“ ฟันแบบหนูน่ะเหรอ ” ไม่ว่าเปล่ายังยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กๆของตัวเองให้พ่อหมีดูอีกด้วย
“ ครับ... ”
“ แล้วน้องไม่หิวเหรอ ” มุนบินยังคงสงสัยเรื่องนี้ไม่หาย มุนบินอยากรู้จริงๆนะว่าน้องไม่หิวแล้วก็ไม่เบื่อเหรอที่ต้องทานเหมือนเดิมทุกวัน
“ หิวครับ....แต่น้องก็ทานนมของคุณแม่ไงครับ ”
“ แล้วน้องจะอิ่มเหรอ ”
“ อิ่มสิครับ ”
“ แต่หนูไม่เห็นอิ่มเลย ” คิ้วเล็กขมวดเข้าหากัน น้องอิ่มได้ไงอ่ะเวลาทานนมตอนเช้ามุนบินไม่เห็นอิ่มเลย เอ๋? หรือว่าน้องจะลดความอ้วนเหมือนอายูฮวานเพราะมุนบินเคยได้ยินอาชางมินบอกว่าอายูฮวานลดความอ้วนด้วยการกินแค่ผักกับน้ำเปล่า
แจจุงกับยุนโฮได้แต่ยิ้มขำให้กับความช่างสงสัยของลูกชายแต่ไม่ว่ามุนบินจะสงสัยเรื่องอะไรพวกเขาก็พร้อมที่จะอธิบายให้เจ้าตัวเล็กเข้าใจเพราะการที่มุนบินสงสัยนั้นมันแสดงว่ามุนบินสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัว
“ ก็ตอนนี้หนูโตแล้วหนูก็ต้องทานเยอะกว่าน้องสิลูก ” แจจุงบอกลูกชาย “ ตอนหนูอายุเท่าน้องหนูก็กินแค่นี้เหมือนกันนะ ”
“ จริงเหรอ ” ถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อคุณแม่โกหกหรือเปล่าทำไมมุนบินไม่เห็นจะจำได้เลย
“ คุณพ่อถ่ายวีดีโอเก็บเอาไว้ด้วยนะ มุนบินอยากดูมั๊ย ” ยุนโฮก้มลงบอกลูกชายเพื่อช่วยยืนยันคำพูดของแจจุง
ครั้งแรกที่แจจุงให้นมมุนบินที่โรงพยาบาลเขาถ่ายวีดีโอเก็บไว้ด้วยนะ จำได้ว่าวันนั้นแจจุง
โวยวายไม่ยอมให้เขาถ่ายแต่พอเอาเข้าจริงๆก็ห้ามไม่ได้เหมือนเดิม เขาล่ะอยากให้มุนบินเห็นจังเลยว่าครั้งแรกที่ให้นมมุนบินคุณแม่หน้าแดงมากแค่ไหนแต่จะว่าไปแล้วนอกจากเขากับแจจุงก็ยังไม่มีใครได้ดูวีดีโออันนั้นเลยนะเพราะแจจุงสั่งห้ามไม่ให้เปิดให้ใครดู
“ อยากครับ ” พยักหน้าบอกอย่างตื่นเต้น มุนบินชอบจริงๆนะเวลาที่ได้ดูหรือได้ฟังเรื่องของตัวเองตอนเด็กๆ แต่อย่าว่าแต่มุนบินเลยยุนโฮกับแจจุงเองก็ชอบเหมือนกันเวลาที่ได้พูดถึงเรื่องเก่าๆ
“ งั้นเดี๋ยวคืนนี้เราเปิดดูกันเนอะ ” บอกเอาใจลูกชายก่อนจะได้รอยยิ้มเห็นดีเห็นงามจากลูกรัก แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ใบหน้าน่ารักก็หงอยลงทันตา
“ แต่คืนนี้หนูต้องไปนอนกับคุณย่า ” บอกด้วยน้ำเสียงเสียดาย คุณพ่อน่าจะบอกมุนบินเร็วกว่านี้เพราะเมื่อเช้ามุนบินสัญญากับคุณปู่คุณย่าเอาไว้แล้วว่าคืนนี้มุนบินจะไปนอนด้วยแลกกับหุ่นยนต์ตัวใหม่ที่คุณปู่จะพาไปซื้อ
“ แต่หนูไม่ได้นอนกับคุณแม่หลายวันแล้วนะลูก ” เสียงหวานของคุณแม่คนสวยตัดพ้อลูกน้อยเบาๆเมื่อได้ยินว่าคืนนี้จะเป็นอีกคืนที่มุนบินจะไปนอนห้องคุณปูคุณย่า นึกว่าคืนนี้จะได้นอนกอดลูกหมีแล้วซะอีกนี่เขาไม่ได้นอนกอดมุนบินมาหลายคืนแล้วน่ะคิดถึงจะแย่แล้ว
“ ก็คุณย่าบอกว่าเหงา เลยอยากให้หนูไปนอนเป็นเพื่อน ” บอกหุผลก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะปีนลงจากโซฟาแล้วเดินมานั่งบนตักของคุณแม่แขนป้อมโอบรอบคอเขาเอาไว้ก่อนจะซบหน้าลงบนอกบางเพื่อง้อเมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังงอน
“ คุณแม่ก็เหงาเหมือนกันนะ ” บอกเสียงงอนหากแต่แขนเรียวกลับกอดกระชับลูกชาย “ หนูจะไม่นอนกับคุณแม่จริงๆเหรอ ” คราวนี้ถึงทีคุณแม่เป็นคนอ้อนบ้าง
“ แต่หนูสัญญากับคุณย่าแล้วนี่นา ” บอกเสียงเบา มุนบินอยากนอนกับคุณพ่อคุณแม่อยู่นะแต่ว่ามุนบินสัญญากับคุณย่าเอาไว้แล้วนี่นาคุณพ่อเคยบอกมุนบินว่าลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญา
“ งั้นเอางี้มั๊ยเดี๋ยวคุณพ่อไปขออนุญาตคุณย่าให้ดีมั๊ย ” พ่อหมีที่นั่งเงียบอยู่นานเสนอความคิดเพราะใช่ว่าจะมีแค่แจจุงที่คิดถึงมุนบินเขาเองก็คิดถึงเสียงหัวเราะก่อนเข้านอนของลูกชายเหมือนกัน
มุนบินหันไปมองคุณพ่อด้วยแววตามีหวังก่อนจะพยักหน้าบอกว่าดีที่สุดเลยครับ “ ดีครับ ”
“ งั้นเราไปเตะบอลรอคุณปู่คุณย่าที่หน้าบ้านดีกว่าเนอะ ” เสียงทุ้มชวนเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับชวนออกไปเล่นนอกบ้านเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่แจจุงต้องไปเตรียมอาหารเย็นแล้ว
“ วันนี้คุณพ่อจะเตะบอลกับหนูเหรอ ” ถามด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด นานเท่าไหร่แล้วที่มุนบินไม่ได้เตะบอลกับคุณพ่อตาเรียวเล็กหันไปมองคุณแม่คนสวยอย่างขอคำตอบ “ คุณแม่เตะกับหนูมั๊ย ”
“ ขอคุณแม่ทำอาหารเย็นก่อนนะลูกแล้วเดี๋ยวคุณแม่จะตามไป ” บอกยิ้มๆ กว่าเขาจะเตรียมอาหารเย็นเสร็จเยอึนก็คงตื่นพอดี ร่างบางคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าได้พาเยอึนไปนั่งดูคุณพ่อกับพี่ชายเตะบอลกัน
“ จริงนะ ” ตาเรียวเล็กส่งมาขอคำยืนยันว่าคุณแม่จะตามไปจริงๆนะ
“ จริงครับ งั้นเดี๋ยวหนูไปรอที่สนามกับคุณพ่อก่อนนะลูกเดี๋ยวคุณแม่เอาลูกบอลไปให้ ” พยักหน้ายืนยันก่อนจะหลุดยิ้มขบขันเมื่อเห็นอาการดีใจจนเกินเหตุของลูกชาย
“ ครับ ” รับคำแข็งขันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วลากคุณพ่อออกไปยังสนามหน้าบ้าน “ ไปกันเถอะคุณพ่อ ”
แจจุงมองตามสองคู่แฝดต่างวัยก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏอยู่บนใบหน้าสงสัยว่าวันนี้ยุนโฮคงต้องเหนื่อยซะแล้วเพราะดูเหมือนว่าเจ้าลูกหมีคงจะไม่ยอมหยุดเล่นง่ายๆแน่ ขาเรียวเดินไปดูลูกสาวที่นอนอยู่ในเปลก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นไปหยิบลูกฟุตบอลมาให้ลูกชาย
.
“ มากันแล้วเหรอ ” เสียงหวานของคุณแม่ลูกสองดังมาจากบันไดบ้านพร้อมกับที่ร่างบางอุ้มลูกสาวตัวน้อยเดินลงมาพร้อมรอยยิ้ม
“ พวกเราคงไม่ได้มาเช้าเกินไปใช่มั๊ย ” จุนซูถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“ ไม่หรอก...ทานมื้อเที่ยงก่อนแล้วค่อยออกไปดีมั๊ย ” แจจุงบอกยิ้มๆก่อนจะเดินนำแขกทั้งสามไปที่ห้องรับแขก
“ ก็ดีเหมือนกัน ” ยูชอนพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะมองไปรอบๆเหมือนหาอะไรบางอย่าง “ คู่แฝดไปไหนซะล่ะ ” เสียงทุ้มเอ่ยถามถึงเพื่อนรักกับหลานชายที่ตอนนี้ได้ฉายาใหม่ไปแล้วเรียบร้อย
แจจุงยิ้มขำให้กับฉายาที่ยูชอนใช้เรียกยุนโฮกับมุนบิน มันก็น่าให้เรียกแบบนี้อยู่หรอกก็นับมันยิ่งเหมือนกันอย่างกับเป็นคนๆเดียวกันทั้งหน้าตาทั้งนิสัย ตอนนี้แจจุงคงได้แต่ภาวนาว่าถ้าเยอึนโตขึ้นคงเหมือนเขาบ้างเพราะถ้าอย่างนั้นเขาคงน้อยใจตายแน่
“ อาบน้ำอยู่น่ะเดี๋ยวคงตามลงมา ”
วันนี้เป็นวันหยุดครอบครัวหมีก็เลยตื่นสายกันทั้งบ้านแต่แทนที่ตื่นแล้วจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยแต่พ่อหมีกับลูกหมีคนโตกลับนอนอืดดูการ์ตูนเรื่องโปรดจนจบเขาไล่ให้ไปอาบน้ำเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป พอการ์ตูนจบก็เล่นมวยปล้ำต่อนี่ถ้าเขาไม่บอกว่าวันนี้ต้องพาเยอึนไปฉีดยาตามนัดมีหวังได้นอนแช่อยู่บนเตียงถึงเย็นทั้งพ่อทั้งลูกแน่ๆ
“ แล้วชานฮีเป็นยังไงบ้าง เลี้ยงง่ายมั๊ย ” แจจุงเขยิบเข้าไปชิดจุนซูก่อนจะก้มมองเด็กชายที่อยู่ในอ้อมแขน ปากอิ่มยกยิ้มเอ็นดูเมื่อปากเล็กๆนั่นอ้าหาวทั้งๆที่ยังหลับตา
“ ก็ไม่ค่อยงอแงเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ร้องไห้แต่ล่ะทีนี่ก็เอาเรื่องใช่เล่นเหมือนกัน ” จุนซูบอกพร้อมรอยยิ้มบางๆลูกชายเขาจะว่าเลี้ยง่ายก็ง่ายแต่บทจะเอาแต่ใจก็ใช่หน่อยเหมือนกัน
“ แต่ชานฮีไม่ค่อยอยากให้ฉันอุ้มเท่าไหร่อ่ะ ” ยูชอนได้ทีรีบฟ้อง เพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อหัวเน่ายังไงก็ไม่รู้เพราะชานฮีอยู่กับเขาได้ไม่ถึงห้านาทีก็ร้องไห้ซะแล้วเขาล่ะอิจฉายุนโฮจริงๆที่ทั้งเยอึนแล้วก็มุนบินติดคนเป็นพ่อ
“ หืม....จริงอ่ะ ” แจจุงเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ
“ จริง... ” จุนซูช่วยยืนยันอีกคน ร่างบางคิดว่าอาจจะเป็นเพราะยูชอนต้องออกไปทำงานกว่าจะกลับมาบางวันชานฮีก็เข้านอนไปแล้วเลยทำให้ชานฮีไม่คุ้นกับยูชอน ซึ่งเรื่องนี้พวกเขาก็เป็นกังวลเช่นกันเพราะถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆมันก็อาจจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพ่อกับลูกได้
“ คงจะเป็นเพราะยูชอนต้องทำงานล่ะมั้ง ” แจจุงสันนิษฐานไปเรื่อย
“ ยุนโฮก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน ” ยูชอนแย้ง ยุนโฮก็ต้องออกไปทำงานเหมือนกันแต่ทำไมเจ้าลูกหมีสองตัวถึงได้ติดหนึบราวกับว่าด้วยกันทั้งวันทั้งคืนอย่างนั้นล่ะ
“ เอ่อ...จริงด้วย ” แจจุงยิ้มแห้งๆเขาก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อเสียงวิ่งหนักๆที่มาพร้อมกับเสียงที่บอกว่าคู่แฝดของบ้านลงมาแล้ว
“ คุณแม่หนูหล่อมั๊ย ” ทันทีที่วิ่งเข้ามาในห้องรับแขกเสียงเล็กๆก็เอ่ยถามคนป็นแม่ทันที บนใบหน้าน่ารักนั้นมีแว่นกันแดดสำหรับเด็กสวมอยู่ด้วย
แจจุงยิ้มบางๆให้กับคำถามของลูกชายก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากเพื่อบอกว่า จุ๊ จุ๊ น้องนอนอยู่อย่าเสียงดังครับลูกหมี นิ้วเรียวชี้ไปยังยูชอนกับจุนซูเพื่อบอกให้ลูกชายทักทายคุณอาทั้งสองก่อนที่
มุนบินจะโค้งทักทายแล้วค่อยๆเดินย่องไปหาคนเป็นแม่ท่าทางที่เรียกรอยยิ้มจากผู้ใหญ่ในห้อง
“ คุณแม่หนูหล่อมั๊ย ” เอ่ยถามเสียงเบาราวกับกระซิบเพราะกลัวว่าตัวเองจะเสียงดังจนทำให้น้องของอาจุนซูตื่น ปากเล็กจุ๊บลงบนปากของน้องน้อยของตัวเองเบาๆ เพื่อทักทายยามเช้าเหมือนทุกวัน
“ หล่อมากครับ ” จมูกรั้นกดลงบนแก้มนุ่มของลูกชาย “ ใครเป็นคนเลือกชุดให้เอ่ย? ”
“ คุณพ่อครับ ” ตอบด้วยน้ำเสียงภูมิใจก่อนจะหันไปมองพ่อหมีที่เดินตามเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับยักคิ้วบอกว่า คุณแม่บอกว่าหนูหล่อแหละคุณพ่อ
แจจุงไม่แปลกใจเลยที่วันนี้เห็นมุนบินใส่แว่นกันแดดลงมาแบบนี้ ก็พ่อลูกคู่นี้ปล่อยให้เลือกซื้อผ้ากันเองทีไรไม่เคยมีคำว่าธรรมดาเพราะแบบนี้ไงล่ะแจจุงถึงไม่ค่อยอยากให้ยุนโฮแต่งตัวให้มุน
บินเท่าไหร่ ก็ถือซะว่านานๆทีลูกหมีจะได้แปลกตาไปบ้าง
“ มานานแล้วเหรอ ” ยุนโฮเอ่ยถามแขกทั้งสองพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนที่ร่างป้อมๆของลูกหมีจะตามขึ้นมานั่งบนตักอย่างรู้งาน
“ สักพักแล้วล่ะ ”
“ อืม....งั้นทานข้าวเลยมั๊ยจะได้ออกไปเลย ” ยุนโฮพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะมองนาฬิกาแล้วเอ่ยชวนเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะถึงเวลาที่เยอึนกับชานฮีต้องไปฉีดวัคซีนตามนัดแล้ว
ยุนโฮจัดการอุ้มลูกหมีลงจากตักก่อนจะจูงเดินนำไปที่ห้องอาหารเมื่อเห็นว่าทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย แจจุงหันไปเรียกแม่บ้านให้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อเยอึนกับชานฮีในระหว่างที่ผู้ใหญ่กำลังทานอาหาร
..........................................
“ เป็นอะไรทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนคนใกล้ตายอย่างนั้นล่ะ ” ยุนโฮเอ่ยถามเพื่อนรักในขณะที่กำลังนั่งรอคุณภรรยาทั้งสองพาลูกน้อยเข้าไปฉีดวัคซีน
อันที่จริง ยุนโฮสังเกตตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่บ้านแล้วเพราะเหมือนว่ายูชอนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และยิ่งเห็นเพื่อนรักนั่งเงียบแถมทำหน้ากลุ้มใจเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากยุนโฮก็ยิ่งสงสัย
ยูชอนปรายตามามองเพื่อนรักก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เขาไม่เคยปิดอะไรยุนโฮได้เลยใช่มั๊ย “ เฮ้อ.... ” เสียงถอนหายใจของยูชอนมันดังพอที่จะทำให้มุนบินที่นั่งดูการ์ตูนในไอแพดต้องหันมามอง “ ไม่ตายก็เหมือนตายล่ะวะ ” บอกเสียงเอื่อย ตอนนี้ปาร์คยูชอนคนนี้ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็นหรอก
“ หืม... ” ยุนโฮหันมามองด้วยน้ำเสียงแปลกใจก่อนจะขยับตัวเพื่อให้มุนบินขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับรับไอแพดจากเจ้าตัวเล็กมาถือเอาไว้ให้เมื่อลูกหมีบอกว่า
คุณพ่อหนูเมื่อยแล้ว คุณพ่อถือให้หน่อยสิ
“ หมายความว่ายังไง ” เมื่อจัดท่านั่งให้มุนบินเรียบร้อยแล้วยุนโฮก็หันมาถามถึงเรื่องที่คุยค้างกันไว้เมื่อสักครู่
“ ฉันรู้สึกว่าชานฮีไม่ชอบฉัน ” บอกเสียงเศร้า จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าหากปาร์คยูชอนคนนี้จะอิจฉาภรรยาตัวเองที่ลูกรักมากกว่า
มันน่าเศร้าน่ะที่มีลูกทั้งทีแต่กลับไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อได้เต็มที่เท่าไหร่ ยิ่งเห็นยุนโฮกับมุนบินเขาก็ยิ่งอิจฉาเขาเองก็อยากสนิทกับลูก อยากกอด อยากฟัด อยากเล่นกับลูกเหมือนกับที่ยุนโฮทำบ้างแต่ดูเหมือนว่าชานฮีจะไม่อยากทำแบบนั้นกับเขาเท่าไหร่เพราะเมื่อใดที่อยู่กันตามลำพังลูกชายสุดที่รักก็จะเกิดอาการงอแงทันที
“ พูดเป็นเล่นน่า ....มีที่ไหนลูกไม่ชอบพ่อ ” ยุนโฮพูดติดตลก
“ ฉันพูดจริงนะ ” บอกเสียงเครียด “ ฉันต้องจะทำยังไงดี ” ปรึกษาเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงที่เป็นกังวลของยูชอนทำเอายุนโฮไม่กล้าที่จะล้อเล่น เขาเองก็ไม่เคยเจอแบบนี้ด้วยสิเพราะทุกครั้งที่มุนบินงอนหรือว่าเมินเขาก็จะรู้สาเหตุทุกครั้งและนั่นมันทำให้เขาง้อได้ตรงจุด แต่กรณีของยูชอนนั้นต่างออกไปเพราะชานฮีเองก็ยังเด็กมากเลยทำให้ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เจ้าตัวเล็กไม่อยากให้ยูชอนเข้าใกล้แบบนี้
“ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ” ส่ายหน้าบอกอย่างจนปัญญา “ ฉันว่าแกลองปรึกษาคุณหมอดูสิเผื่อจะมีวิธี ” ยุนโฮแนะนำเห็นทีว่าเรื่องนี้คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดคงจะเป็นคุณหมอแล้วล่ะ
“ ฉันก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน ” พยักหน้าเบาๆเขาก็เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกันแต่คงต้องรอดูอีกสักพักก่อนเผื่อว่ามันจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้างเพราะถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน
“ แต่ฉันว่า แกควรจะอยู่กับลูกบ่อยๆนะ ช่วงแรกๆอาจจะให้จุนซูอยู่ด้วยแล้วพอชานฮีเริ่มคุ้นแกก็ลองอยู่กับลูกตามลำพังฉันว่ามันน่าจะช่วยได้ ” มือหนาข้างที่ว่างตบลงบนไหล่เพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลหรือเปล่าแต่ยุนโฮก็คิดว่ามันคงจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และพอเห็นยูชอนเป็นแบบนี้ยุนโฮก็อดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้เพราะถ้าหากว่ามุนบินหรือเยอึนเป็นแบบนี้กับเขาบ้างเขาคงได้ไปแอบร้องไห้วันละสามเวลาหลังอาหารแล้วล่ะ
“ อืม...แล้วฉันจะลองดู ขอบใจนะ ”
“ ไม่เป็นไร แกก็อย่าคิดมากเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา ”
“ อืม.... ”ยูชอนส่งยิ้มบางๆให้เป็นการขอบคุณก่อนจะมองหน้ายุนโฮนิ่งเขากำลังคิดว่าควรจะถามดีหรือเปล่าเพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว “ เออ...ยุนโฮฉันมีอีกเรื่องอยากจะถามแกอ่ะ ”
“ ว่ามาสิ ” คิ้วหนาเลิกขึ้นขณะที่กำลังเลือกการ์ตูนเรื่องใหม่ให้ลูกชาย
ยูชอนมองหน้าเพื่อนก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอึกอัก “ เอ่อ...คือว่า ตั้งแต่แจจุงคลอดเยอึน แก เอ่อ มีอะไรกับแจจุงยังวะ ” สาบานได้ว่าปาร์คยูชอนไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนแต่เขาแค่อยากจะรู้ว่ายุนโฮเป็นเหมือนเขาหรือเปล่า
“ เฮ้ย.....คิดไงถึงถามเรื่องนี้ ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจเพราะไม่คิดว่ายูชอนจะถามเรื่องแบบนี้
“ ก็ไม่คิดไงอ่ะ ก็แค่อยากรู้ ” ตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ แล้วแกคิดว่าจะเหลือมั๊ยล่ะ ” ยุนโฮบอกกลั้วรอยยิ้มคิดว่าเขาจะปล่อยแจจุงให้รอดมาจนถึงตอนนี้เหรอไม่อยากจะบอกว่าตั้งแต่เดือนแรกแล้วล่ะ แต่แล้วตาเรียวก็ต้องเบิกโตเมื่อฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ “ อย่าบอกนะว่าแกกับจุนซู..... ”
“ เออ....จะปีนึงแล้วเนี่ย ” ยูชอนพยักหน้ารับเซ็งๆ ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจุนซูท้องนี่ก็เกือบมีแล้วเนี่ยที่เขากับจุนซูห่างหายจากเรื่องอย่างว่าจนตอนนี้ปาร์คยูชอนคนนี้จะเฉาตายอยู่แล้ว
ลูกก็ไม่ได้กอด เมียก็ไม่ได้แอ้ม เกิดเป็นปาร์คยูชอนมันช่างอนาถดีแท้
“ จริงดิ ” ยุนโฮทำหน้าไม่อยากจะเชื่อตั้งเกือบปีเลยนะเป็นเขาลงแดงตายแน่ๆ “ แกทนได้
ไงวะ ”
“ ทนไม่ได้ก็ต้องทน ” บอกปลงๆ ก็คนมันไม่มีทางเลือกนี่หว่าตอนนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงลูกในท้องเป็นอันดับแรกก็เลยไม่กล้าทำอะไร
“ ตอนท้องก็ไม่เคยเหรอ.... ” คิ้วหนาขมวดมุ่นตอนนี้ยุนโฮแปลกใจจริงๆนะที่ได้ยินยูชอนพูดแบบนี้
“ อืม... ”
ยุนโฮอ้าปากค้างอย่างเหลือเชื่อเขานึกว่ายูชอนมันจะตบะแตกตั้งแต่ตอนที่จุนซูท้องซะแล้วเพราะเห็นมาถามว่าตอนที่แจจุงท้องเขากับแจจุงเคยทำเรื่องอย่างว่ากันมั๊ย ซึ่งเขาก็บอกไปว่าเคยเพราะเคยถามคุณหมอแล้วคุณหมอบอกว่ามีอะไรกันได้ปกติแต่ต้องระวังเป็นพิเศษก็แค่นั้น แต่วันนี้ยูชอนกลับมาบอกว่าไม่ได้มีอะไรกับจุนซูมาเกือบปีแล้วแบบนี้จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงไหว
“ แล้วแกไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ ตั้งเกือบปีน่ะเว้ย ” มันไม่ใช่เวลาน้อยๆเลยนะ ยุนโฮไม่เชื่อหรอกว่าเวลาอยู่กับจุนซูแล้วยูชอนจะไม่รู้สึกอะไรขนาดเขาอยู่กับแจจุงเขายังรู้สึกเลย
“ รู้สึกสิ ” ทำไมจะเขาจะไม่รู้สึกล่ะ รู้สึกมากซะด้วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการแอบไปปลดปล่อยคนเดียว
“ แล้ว? ” คิ้วหนาขมวดเป็นปม รู้สึกแล้วทำไมไม่ทำล่ะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติของคนเป็นผัวเมียกันนี่นา
“ ฉันไม่กล้าขอ เห็นช่วงนี้จุนซูดูเหนื่อยๆ กลัวว่าขอไปแล้วจะไม่ได้ ” บอกออกไปถามตรง เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้จุนซูดูเหนื่อยๆเพราะต้องเลี้ยงลูกทั้งวันพอหัวถึงหมอนก็หลับสนิทไม่เปิดโอกาสให้เขาได้สะกิดเลยสักคืนเล่นแบบนั้นแล้วยูชอนก็ไม่อยากกวนใจคนรักเพราะกลัวว่านอกจากจะไม่ได้แล้วดีไม่ดีอาจจะได้ไปนอนนอกห้องอีกด้วย
“ เรื่องแบบนี้ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอวะ ”
“ แต่ว่า.... ” ยูชอนกำลังจะค้านหากแต่เสียงทุ้มของยุนโฮก็ดังขัดขึ้นมาซะก่อน
“ ไม่แน่นะ บางทีจุนซูอาจจะรอให้แกขอก็ได้ ”
***** หายไปนานมาก ลืมกันรึยังเอ่ย ? ช่วงนี้ไรเตอร์ยุ่งๆ ยังไงก็ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะจ๊ะ
ตอนนี้อยากแต่งเมียแต่งเวอร์ชั่นยุนแจมากมาย แต่เวลาอยู่ไหน น น น 555+
***** ขออีกนิด " ปาร์คยูชอนไม่ชอบให้ใครมาทำร้าย เพราะปาร์คยูชอนชอบทำร้ายตัวเอง "
เครดิต :: ทวิตเตอร์หกพันสองเดอะมิคกี้
ความคิดเห็น