ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #31 : Level_30

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.81K
      179
      3 ม.ค. 59



    ปี๊บๆๆๆ นาฬิกาปลุกแผดเสียงดังก้องไปทั่วห้องนอนเรียกให้ร่างหนาควานมือไปทั่วโต๊ะหัวเตียงเพื่อปิดเสียงกวนใจก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นพร้อมกับแนบแก้มลงไปบนเรือนผมนุ่มทั้งๆที่ดวงตายังคงปิดสนิท



    “อื้ออ..” 

    เสียงครางประทวงดังมาจากคนในอ้อมกอดคงเพราะถูกกวนตอนนอนและนั้นทำให้มาร์คค่อยๆปรือตาขึ้นมองก่อนปลายจมูกได้รูปจะกดลงไปบนขมับบางอย่างแผ่วเบาเนื่องจากไม่อยากกวนอีกฝ่ายมากนัก



    “อืมม..จะนอน”  

    มือบางยกขึ้นปัดป่ายไปทั่วด้วยความรำคาญจนมาร์คต้องยอมคลายอ้อมกอดแล้วขยับตัวออกมาเล็กน้อย



    “ขนาดหลับยังฤทธิ์เยอะเลยนะ” 

    มาร์คเอ่ยขำๆตอนนี้เขาขยับมานอนตะแคงข้างหันไปทางร่างบางพร้อมกับใช้มือข้างนึงท้าวหัวเอาไว้ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนไปจับผมอีกฝ่ายเล่น แบมแบมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนปัดมือนั้นออกแล้วพลิกตัวนอนหันหลังให้ทันทีทำให้มาร์คส่ายหน้าไปมาก่อนยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเล็ก



    “แบม”



    “.......”



    “แบมแบม”



    “.......”



    “กันต์พิมุกต์”



    “.......”  

    ร่างบางยังคงนิ่งเฉยไม่ไหวติงแต่อย่างใด



    “เมียครับ” 

    เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนจะงับลงไปที่ใบหูเบาๆ



    “สัส..” 

    เสียงหวานดังขึ้นทั้งๆที่ดวงตายังคงปิดสนิท มาร์คยกยิ้มขำเพราะตอนนี้ทั้งหน้าทั้งหูของร่างบางแดงเถือกไปหมดจนอดที่จะกดจมูกลงไปบนแก้มแดงๆนั้นไม่ได้



    “วันนี้มีเรียนกี่โมง”



    “รู้อยู่แล้วจะถามทำไม” 

    แบมแบมเอ่ยขึ้นขณะที่ยังคงหลับตานิ่งไม่ได้มีท่าทีว่าจะหันมาคุยกับอีกฝ่ายเลยสักนิด



    “หึ..ก็อยากถามไม่ได้รึไง” 

    มาร์คเอ่ยขำๆก่อนจะรั้งตัวอีกฝ่ายให้หันมาหาตน แบมแบมฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมหันมาดวงตาคู่สวยค่อยๆเปิดออกพร้อมกับจ้องมองอีกฝ่าย



    “หน้ามึงตอนตื่นนี่ยั่วดีชะมัด” 

    ไม่พูดป่าวมือหนาเริ่มเลื่อยเข้าไปในเสื้ออีกฝ่ายอย่างย่ามใจ แบมแบมถลึงตาใส่พร้อมกับรีบดึงมือซนนั้นออกไปทันที



    “อย่าแม้แต่จะคิด” 

    แบมแบมเอ่ยเสียงกร้าวก็ตอนนี้เขาปวดร้าวไปทั่วทั้งตัวแถมยังรู้สึกเสียดๆที่ช่องทางด้านล่างอีกด้วยใบหน้าหวานเหยเกนิดๆเมื่อเผลอตะเบ็งเสียงออกไป



    “เห้ยๆ เป็นอะไร” 

    มาร์ครีบลุกขึ้นนั่งและขยับเข้าไปใกล้ร่างบางทันที มือหนาเอื้อมไปจับตัวร่างบางพลิกไปมาเพื่อดูว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร



    “โอ๊ยย..จะฆ่ากูรึไง” 

    แบมแบมร้องเสียงหลงเมื่อโดนจับพลิกไปพลิกมาจนสะเทือนไปทั้งตัว



    “ขอโทษๆ” 

    มาร์คหยุดมือก่อนจะรีบขอโทษขอโพยเมื่อรู้ว่าตนเองทำให้อีกฝ่ายเจ็บ



    “ปล่อยมือ” 

    แบมแบมพูดขึ้นทำให้มาร์คยอมปล่อยมือแต่โดยดี



    “มึงเจ็บตรงไหน จะไม่สบายรึเปล่า”



    “แค่ปวดๆตัวไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกน่า”



    “แต่กูว่ากินยาดักไว้ก่อนดีกว่า”



    “ไม่ต้องหรอก กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ”



    “อย่าดื้อ..เดี๋ยวกูออกไปทำอะไรให้กินแล้วค่อยกินยา” 

    มาร์คพูดจบก็ขยับผ้าห่มให้ร่างบางเล็กน้อยก่อนจะลุกจากเตียงเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำแบมแบมมองตามอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเขาจึงหลับตาลงเพื่อข่มอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวก่อนจะผลอยหลับไปอีกครั้ง 



    ปิ๊งป่องๆๆๆ... 



    เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นทำให้แบมแบมขมวดคิ้วและค่อยๆลืมตาเพราะเขาพึ่งจะหลับไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้น ร่างบางเริ่มมองหามาร์คแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายยังอยู่ในห้องน้ำเขาจึงพยายามยันตัวลุกขึ้นเพื่อจะออกไปเปิดประตูเนื่องจากคนที่มากดออดเล่นกดรัวไม่หยุดจนกลัวว่าห้องข้างๆจะลุกมาด่าพ่อล่อแม่เอา



    “จะลุกไปไหน” 

    เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้ร่างบางหันไปมองยังต้นเสียง มาร์คที่มีผ้าขนหนูปกปิดร่างกายเพียงชิ้นเดียวพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พาดอยู่บนบ่ากำลังเดินเข้ามาหาเขาตามเนื้อตัวยังคงมีหยดน้ำเกาะพราวอย่างบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายพึ่งอาบน้ำเสร็จแน่นอน



    “ไปเปิดประตูคนมากดออดไม่ได้ยินรึไง”



    “เดี๋ยวกูไปเปิดเองมึงนอนต่อเถอะ” 

    มาร์คที่เดินมาหยุดข้างเตียงพูดบอกพร้อมขยี้หัวทุยเบาๆ แบมแบมพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งเนื่องจากเขาก็ไม่อยากขยับตัวมากเท่าไหร่อยู่แล้ว มาร์คเห็นว่าร่างบางนอนลงไปแล้วจึงเดินออกไปด้านนอกเพื่อไปเปิดประตูห้องที่ผู้มาเยือนยังคงกดออดระรัวไม่ยอมหยุด



    “ใครว่ะ..”

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสียเพราะนี่ยังเช้าอยู่ร่างหนาเดินตรงไปหน้าประตูก่อนมือหนาจะเปิดประตูออกเผยให้เห็นผู้มาเยือนที่ยืนร้องไห้โฮอยู่หน้าห้อง



    “ฮรึกก..มะ มาร์ค ฮือ “

    เสียงสะอื้นดังลั่นไปทั่วทางเดินจนมาร์คต้องกระชากตัวอีกฝ่ายเข้ามาภายในห้องพร้อมกับปิดประตูด้วยความหงุดหงิด



    “มาทำไม”



    “มาร์คอย่าทำกับเราแบบนี้ ฮืออ..ได้โปรด” 

    หญิงสาวเดินเข้าไปเกาะแขนมาร์คเอาไว้พร้อมกับเขย่าไปมาอย่างน่าสงสาร



    “ฉันคิดว่าเราคุยกันจบแล้ว เธอกลับไปเถอะแอชลี่” 

    มาร์คไม่แม้แต่จะหันไปมองหญิงสาวด้วยซ้ำ ทำให้เธอร้องไห้ออกมาหนักกว่าเก่า



    “ไม่..เราจะไม่กลับจนกว่ามาร์คจะยอมยกโทษให้เรา”



    “อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย เธอกำลังทำตัวน่าสมเพชรู้ตัวบ้างรึเปล่า” 

    มาร์คกดเสียงต่ำมือหนาพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากแขนของตน



    “ใช่..เรามันน่าสมเพชมาร์คจะด่าจะว่าเรายังไงก็ได้เรายอมทุกอย่างขอแค่มาร์คยอมยกโทษให้เรา นะมาร์คนะ เราขอโทษ” 

    แอชลี่ยังคงส่งเสียงเว้าวอนหยาดน้ำตาใสไหลออกมาไม่ยอมหยุด มาร์คยกมือขึ้นเสยผมด้วยท่าทีเซ็งๆ



    “ทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้ว่ะ ปล่อย...” 

    มาร์คเริ่มขึ้นเสียงเมื่อหญิงสาวยังดื้อดึงไม่เลิก



    “ไม่...บอกมาก่อนว่ายกโทษให้เราแล้ว”



    “จะปล่อยหรือไม่ปล่อย” 

    เสียงเย็นถูกส่งออกไปหญิงสาวชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของมาร์ค



    “บอกให้ปล่อยไง โถ่เว้ย” 

    มาร์คสะบัดแขนออกอย่างแรงจนหญิงสาวถลาไปตามแรงก่อนจะลงไปกองอยู่กับพื้นห้อง



    “ทำไมมาร์คทำกับเราแบบนี้ล่ะ ฮืออ”

    หญิงสาวนั่งสะอื้นจนตัวโยนกับพื้นห้อง มาร์คยื่นมองด้วยสายตาวาวโรยเขาไม่ได้อยากทำแบบนี้ใครจะอยากทำร้ายผู้หญิงแต่ในเมื่อพูดแล้วไม่ฟังเขาก็คงต้องทำอะไรสักอย่าง 



    แก๊ก...เสียงบานประตูห้องนอนถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางที่เดินออกมาด้านนอกด้วยสภาพทุลักทุเลนิดหน่อยทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทันทีก่อนแอชลี่จะเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น ก็ตอนนี้แบมแบมกำลังสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ของมาร์คที่ยาวลงมาปิดถึงแค่บริเวณขาอ่อนส่วนข้างล่างก็ใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวบางเท่านั้น จนร่องรอยต่างๆที่มาร์คทำเอาไว้เล็ดลอดออกมาให้เห็นบ้างทั้งตามลำคอและเรียวขา



    “ออกมาทำไม ทำไมไม่นอน” 

    มาร์ครีบเดินเข้าไปหาร่างบางทันทีโดยไม่ได้สนใจสายตาของหญิงสาวแม้แต่น้อย



    “เสียงดังขนาดนั้นใครจะนอนลง”



    “ไม่มีอะไรแล้วมึงกลับเข้าไปนอนเหอะ” 

    แบมแบมไม่ได้สนใจที่มาร์คพูดเลยสักนิดเขามองเลยร่างหนาไปด้านหลังก่อนจะนิ่งไปนิดเมื่อเห็นว่าหญิงสาวก็กำลังจ้องมาที่เขาเขม่งเช่นกัน



    “สวัสดีครับพี่แอชลี่” 

    แบมแบมดันมาร์คให้พ้นทางก่อนค่อยๆเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ยังคงจ้องมาที่เขาไม่วางตามือเรียวเอื้อมลงไปหมายจะดึงหญิงสาวให้ลุกขึ้นจากพื้น 



    เพี๊ยะ..แอชลี่ปัดมือของแบมแบมออกอย่างแรงก่อนจะมองร่างบางกับมาร์คสลับกันไปมาด้วยสายตาเจ็บปวด



    “เพราะแบบนี้ใช่มั้ยมาร์คถึงไม่ยอมให้โอกาสเราแก้ตัว เพราะไอเด็กนี้สินะ” 

    แอชลี่เอ่ยเสียงกร้าว แบมแบมชะงักไปนิดแต่ก็ยังคงปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาเองก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นมาเห็นในสภาพนี้นักหรอกแต่บทสนทนาที่ดังลอดเข้าไปภายในห้องทำให้เขาคิดว่าต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ไม่อย่างงั้นไอหัวเทาไม่รอดแน่เพราะจากที่ได้ยินดูเหมือนหญิงสาวคงไม่ยอมลามือง่ายๆ



    “พูดจาให้มันดีๆหน่อยนะแอช” 

    มาร์คตะคอกออกมาอย่างเหลืออดเช่นกัน แบมแบมรีบหันไปปรามให้อีกฝ่ายหยุดพูดก่อนจะหันกลับไปประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้น แอชลี่สะบัดตัวออกก่อนจะลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับร่างบาง



    “ไม่ต้องมาโดนตัวฉัน” 

    แอชลี่เอ่ยเสียงเข้ม



    “เจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ ผมต้องขอโทษแทนพี่มาร์คด้วยนะครับที่เขาทำรุนแรงกับพี่” 

    แบมแบมเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม



    “เลิกเสแสร้งสักที เห็นแล้วฉันจะอ้วก”



    “มันจะมากไปแล้วนะ” 

    มาร์คเอ่ยเสียงเครียดร่างหนาทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาหญิงสาวแต่แบมแบมขวางเข้าไว้ซะก่อน



    “มึงจะทำอะไรให้กูกินก็ไปทำดิเดี๋ยวกูคุยกับพี่เขาเอง”



    “แต่..”



    “บอกให้ไปก็ไปเหอะน่า” 

    แบมแบมดันร่างหนาให้ถอยออกไป มาร์คมองร่างบางกับแอชลี่สลับกันก่อนถอยหายใจออกมาเฮือกใหญ่



    “มีอะไรเรียกกูแล้วกัน” 

    มาร์คเอ่ยเสียงเรียบก่อนยอมผละออกมา เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อใส่เสื้อผ้าไม่นานก็กลับออกมาแล้วตรงเข้าไปในห้องครัวทันที แอชลี่มองตามมาร์คไปก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับแบมแบมอีกครั้ง



    “ไปนั่งที่โซฟาดีกว่าครับเดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” 

    แบมแบมไม่สนสายตาที่อีกฝ่ายส่งมาเขาหันหลังเดินนำไปยังโซฟาบริเวณห้องนั่งเล่น หญิงสาวฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินตามร่างบางไป



    “นั่งลงก่อนครับ พี่เจ็บตรงไหนมั้ยผมจะได้เอายามาให้ด้วย” 

    แบมแบมเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย



    “ไม่..” 

    หญิงสาวยอมนั่งลงที่โซฟาอีกตัวแต่ก็ยังคงเอ่ยเสียงแข็งใส่ร่างบางอยู่



    “งั้นรอแปปนะครับ เดี๋ยวผมมาคุยด้วย” 

    แบมแบมค่อยๆเดินเข้าไปในครัวเพราะยังรู้สึกเจ็บช่วงล่างอยู่ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมแก้วน้ำในมือ ร่างบางวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาวก่อนเดินไปนั่งลงที่โซฟาอีกตัวด้วยท่าทีสบายๆ




    50%




    “กินก่อนสิครับจะได้ใจเย็นลงบ้าง” 

    แอชลี่มองร่างบางด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะยกน้ำขึ้นมาจิบ



    “รู้สึกดีขึ้นรึยังครับ”



    “ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฉัน ฉันไม่ต้องการมีอะไรจะพูดก็พูดมาเลยดีกว่า” 

    หญิงสาวเริ่มเปิดประเด็นขึ้นก่อน



    “งั้นผมคงต้องขอพูดตรงๆหวังว่าพี่จะไม่โกรธนะครับ” 

    แบมแบมเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง



    “ไม่ต้องมาทำเป็นลีลามากฉันเห็นแล้วรำคาญ”



    “พี่รักพี่มาร์คจริงๆเหรอครับ”



    “ใช่...ฉันรักมาร์ค รักมากและก็ยังรักอยู่”



    “รักแล้วทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะครับ”



    “มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับมาร์คนายเป็นคนนอกจะไปรู้อะไรฉันว่านายอย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ดีกว่า อีกอย่างนายควรจะอยู่ให้ห่างจากมาร์คเพราะนายกำลังให้เขาผิดปกติรู้ไว้ซะด้วย” 

    แอชลี่แผดเสียงก้องไปทั่วห้องและนั้นทำให้แบมแบมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย



    “ผมว่าพี่เริ่มหลงประเด็นแล้วล่ะครับ ผมถามว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้นไม่ได้ให้พี่มาไล่ผม”



    “อย่ามากวนประสาทฉัน งั้นฉันขอถามนายบ้างว่านายเป็นอะไรกับมาร์คกันแน่”



    “หึ..แล้วพี่คิดว่าไงล่ะครับ” 

    ร่างบางเอ่ยยิ้มๆก่อนจะรั้งคอเสื้อยืดลงจนเห็นรอยเคี้ยวที่มาร์คกัดเขาเมื่อคืน หญิงสาวหน้าแดงด้วยความโกรธจัดเพราะแค่เห็นก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่ารอยพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

    “นี่คือคำตอบของผม หวังว่าพี่คงรู้ว่าผมหมายถึงอะไร” 

    ร่างบางมองหญิงสาวด้วยสาวตาเรียบนิ่ง



    “หน้าไม่อาย..แต่ต่อให้นายนอนกับเขาจริงก็ไม่ได้หมายความว่านายต้องเป็นอะไรกับเขาสักหน่อย” 

    หญิงสาวยังคงดื้อดึงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แบมแบมจึงได้แต่พยายามข่มอารมณ์ของตนให้เย็นลง



    “นั้นสินะครับ...ถ้าพี่คิดว่าผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วพี่จะเดือดร้อนทำไม พี่ควรจะมั่นคงในความรักที่พร่ำบอกถึงจะถูกสิครับพี่แอชลี่”



    “มันจะมากไปแล้วนะ นายคิดจะยั่วโมโหฉันใช่มั้ย” 

    แอชลี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนใส่ร่างบางอย่างเหลืออด



    “อย่าพึ่งโมโหสิครับ”



    “นายมันบ้า..นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่”



    “งั้นผมจะพูดตรงๆก็แล้วกัน ผมต้องการให้พี่เลิกยุ่งกับพี่มาร์คและถ้าอยากรู้ว่าผมมีสิทธิ์อะไรผมคงบอกได้แค่ว่าผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร หวังว่าพี่คงเข้าใจ” 

    แบมแบมเอ่ยเสียงเฉียบขาด ซ่า...หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นมาสาดใส่หน้าของแบมแบมอย่างจังทำให้ร่างบางนั่งหลับตานิ่งก่อนค่อยๆยกมือเรียวขึ้นลูบน้ำออกจากใบหน้า



    “ถ้าพอใจแล้วเชิญครับ ผมมีเรื่องจะพูดกับพี่แค่นี้” 

    ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะผายมือเชิญอีกฝ่ายให้ออกไปจากห้อง พอดีกับที่มาร์คเดินออกมาจากห้องครัวร่างหนารีบเดินเข้าไปดูสถานการณ์ทันทีและเมื่อเขาเดินมาถึงก็ต้องหลุดสบถออกมาเมื่อเห็นร่างบางยืนเปียกชุ่มไปทั้งตัว



    “ทำไมเปียกแบบนี้ว่ะ” 

    มาร์คเอ่ยเสียงกร้าวพร้อมกับหันไปจ้องแอชลี่เขม่ง



    “ไม่มีอะไร...มึงทำกับข้าวเสร็จแล้วเหรอ”



    “กูว่ามึงรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าเดี๋ยวก็ไม่สบายจนได้” 

    มาร์คเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเป็นห่วง ร่างบางจึงพยักหน้ารับก่อนหันไปทางหญิงสาวที่ยืนกำมือแน่นมองมาที่เขาด้วยสายตาวาวโรจน์



    “มาร์ค..” 

    หญิงสาวเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้ม



    “.....”  

    มาร์คหันไปตามเสียงเรียก



    “เราถามได้มั้ยว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรกับมาร์ค” 

    ในเมื่อไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากร่างบางแอชลี่จึงเลือกที่จะถามมาร์คแทน มาร์คหันไปมองแบมแบมนิดๆก่อนเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง



    “แบมแบมเป็นเมียฉันได้ยินชัดพอมั้ย”



    “ไม่จริง เราไม่เชื่อเมื่อก่อนมาร์คเกลียดเรื่องพวกนี้จะตาย แล้วทำไม”



    “ก็เพราะฉันเจอแต่ผู้หญิงเลวๆไง” 

    แอชลี่เงียบไปทันทีก่อนน้ำตาจะค่อยๆไหลลงมาอาบสองแก้มอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่



    “มาร์คกำลังจะบอกว่าเป็นเพราะเรางั้นเหรอ เพราะเราทำแบบนั้นมาร์คถึงได้เปลี่ยนไปชอบผู้ชายใช่มั้ย”



    “เรื่องแค่นี้ต้องถามด้วยรึไง ถ้าเข้าใจแล้วก็กลับไปสักที” 

    มาร์คตะโกนก้องไปทั่วห้องจนหญิงสาวสะดุ้งโหยง แบมแบมรีบเอื้อมมือไปจับแขนมาร์คเอาไว้เพราะกลัวว่าร่างหนาจะเข้าไปทำร้ายหญิงสาว



    “ผมว่าพี่กลับไปเถอะครับ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้อีกเลยผมว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะครับ”



    “มันเป็นเพราะฉันเองสินะ ฮ่าๆๆ เป็นเพราะฉันมาตั้งแต่แรก ฮรึกก เพราะความเลวของฉันเอง” 

    หญิงสาวหัวเราะทั้งน้ำตาทำให้แบมแบมที่เห็นอดสงสารหญิงสาวไม่ได้ ส่วนมาร์คก็ได้แต่ยืนหันหน้าไปอีกทางเขากำมือแน่นฟันซี่สวยขบเข้าหากันจนเส้นเลือดปูนขึ้นมาบริเวณขมับ



    “ฉันคงหมดหวังแล้วสินะ หมดแล้วจริงๆไม่เหลืออะไรอีกแล้ว” 

    หญิงสาวทรุดลงไปกองกับพื้นพร้อมปล่อยโฮออกมาอย่างหมดสภาพ แบมแบมยืนมองนิ่งๆก่อนหันไปพูดบางอย่างกับมาร์ค



    “มึงเข้าไปในห้องก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูดูเขาให้เอง” 

    มาร์คมองร่างบางด้วยสายตาหม่นๆแต่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ



    “กูไม่เป็นไร มึงนั้นแหละไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป”



    “เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนแล้วกันกูไม่อยากทิ้งเขาไว้แบบนี้” 

    แบมแบมพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่นั่งสะอึกสะอื้นไม่หยุด ใช้เวลาสักพักกว่าหญิงสาวจะคลายสะอื้นลงเธอค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกไปจากใบหน้า



    “เรายอมแพ้ แต่เราขออย่างนึงได้มั้ยแล้วเราสัญญาว่าเราจะไม่มาวุ่ยวายกับมาร์คอีก” 

    หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า



    “อะไร” 

    มาร์คเอ่ยกลับไป



    “มาร์คให้อภัยในสิ่งที่เราทำได้มั้ย เราขอแค่นี้  แค่นี้จริงๆ” 

    หญิงสาวมองมาด้วยสายตาเว้าวอนริมฝีปากซีดเม้มเข้าหากันเพื่อรอฟังคำตอบจากอีกฝ่าย มาร์คยืนนิ่งอยู่แบบนั้นไม่ยอมพูดอะไรออกมาจนแบมแบมต้องหันไปสะกิดที่แขนเบาๆ



    ก็ได้...ฉันอภัยให้แล้วหวังว่าเธอจะรักษาคำพูดนะ”



    “ขอบคุณนะ..” 

    หญิงสาวยิ้มออกมาจางๆก่อนยกมือลูบหน้าไล่ความขุ่นมั่วออกไป



    “อืม” 

    มาร์คขานรับในลำคอนิ่งๆ



    “งั้นเรากลับก่อนดีกว่า” 

    หญิงสาวพูดขึ้นก่อนทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนั้น



    “พี่ไม่เป็นไรแน่นะครับ นั่งพักก่อนดีมั้ย” 

    แบมแบมเห็นท่าทางอ่อนแรงของหญิงสาวก็อดเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้



    “ไม่เป็นไร..อ่อ แล้วถ้าฉันรู้ว่านายทำกับมาร์คเหมือนที่ฉันทำล่ะก็นายโดนหนักแน่ ฉันสาบานได้เลยว่าฉันจะมาจัดการกับนายด้วยตัวของฉันเอง จำเอาไว้ด้วย...” 

    แอชลี่เอ่ยเสียงดังฟังชัดก่อนจะเดินออกไปจากห้องปล่อยให้แบมแบมยืนเหวออยู่แบบนั้น



    “อะไรของเขาว่ะ ผู้หญิงนี่แม่งเข้าใจยากชิบ” 

    ร่างบางเกาหัวตัวเองงงๆก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงกอดบริเวณรอบเอวจากทางด้านหลังพร้อมกับหัวหนักๆของอีกฝ่ายที่ซบลงมาบนไหล่และก็นิ่งค้างอยู่แบบนั้น



    “มึงโอเคนะ” 

    มาร์คนิ่งมากซะจนแบมแบมต้องเอ่ยปากถามเพราะเขาไม่ค่อยเจอมาร์คในโหมดนี้สักเท่าไหร่



    “ขอกูอยู่แบบนี้แปปนึงนะ” 

    มาร์คพูดเสียงอู้อี้เนื่องจากฟุบหน้าอยู่กับไหล่บาง แบมแบมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขายืนให้มาร์คกอดอยู่แบบนั้นสักพัก ร่างหนาก็ปล่อยมือออกแล้วจับร่างบางให้หันไปเผชิญหน้ากับตนเอง



    “ขอบใจ” 

    สองคำสั้นๆที่มีความหมายมากมาย ร่างบางพยักหน้ารับนิดๆ



    “ช่างมันเหอะ...เห็นพวกมึงคุยกันไม่จบสักทีกูรำคาญก็แค่นั้นเอง”



    “จริงอ่ะ” 

    มาร์คถามกลับด้วยท่าทีทะเล้นๆ



    “เออ..”



    “หึหึ” 

    มาร์คยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงไปจูบร่างบางเบาๆโดยไม่ได้ลุกล้ำแต่อย่างไร



    “เชี่ยย..เลิกทำแบบนี้สักทีได้มั้ย” 

    แบมแบมดันมาร์คออกไปก่อนจะตะหวาดเสียงเขียว แต่ใบหน้าหวานกับแดงก่ำยิ่งกว่าลูกตำลึงเสียอีก



    “ไม่ได้ว่ะ เมียน่ารักขนาดนี้จะให้เลิกได้ไง”



    “สัส..บอกกี่ทีแล้วว่าให้เลิกพูดว่ากูเป็นเมียมึงกูไม่ผู้หญิงนะเว้ย”



    “ไม่ใช่ผู้หญิงแต่มึงก็เป็นเมียกูหรือจะเถียง” 

    มาร์คก็เถียงออกมาอย่างไม่ยอมเช่นกัน



    “โว้ยย...พูดกับมึงแล้วปวดหัว จะไปไหนก็ไปเลยกูจะไปอาบน้ำแล้ว” 

    แบมแบมพูดแค่นั้นก็เดินผละออกมาและตรงเข้าไปในห้องนอนของตนเองทันที มาร์คมองตามอีกฝ่ายยิ้มๆก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาความจริงแล้วเขาได้ยินบทสนทนาที่ร่างบางคุยกับหญิงสาวที่ห้องนั่งเล่นทั้งหมดเพราะเขายืนอยู่ที่ประตูห้องครัวตลอดเวลาและสิ่งที่ร่างบางพูดก็ทำให้เขาหัวใจพองโตการที่ร่างบางแสดงความเป็นเจ้าของออกมาก็ทำให้เขามีหวังขึ้นมาอีกนิดเพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็น่าจะเปิดใจให้เขามากขึ้นและต่อให้นั้นเป็นแค่การแสดงเขาก็ยังดีใจที่ร่างบางยอมพูดแบบนั้นออกมา มาร์คนั่งอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ร่างบางเนื่องจากเมื่อกี้เขามัวแต่ยืนฟังทั้งสองคนคุยกันจึงยังไม่ได้ทำอะไร มาร์คจัดการทำอาหารให้ร่างบางและเมื่อทำเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปเรียกร่างบางให้ออกมานั่งกินที่ห้องครัวซึ่งแบมแบมก็ยอมเดินออกมาแต่โดยดี พวกเขานั่งกินข้าวกันไปเงียบๆเพราะไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจนกินเสร็จมาร์คก็จัดการเก็บล้างส่วนแบมแบมเดินไปนั่งดูทีวีบริเวณห้องนั่งเล่น



    “ตกลงวันนี้มึงจะไปเรียนรึเปล่า” 

    มาร์คเอ่ยขึ้นขณะเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆร่างบาง



    “ไม่ไป ขี้เกียจตอบคำถาม” 

    แบมแบมหันไปตอบด้วยท่าทีเซ็งๆ



    “ตอบคำถามอะไร”



    “ก็รอยแม่งชัดขนาดนี้ใครเห็นก็ต้องถาม รำคาญขี้เกียจตอบ” 

    มาร์คยกยิ้มมุมปากนิดๆก่อนเอื้อมมือไปลูบบริเวณรอยกัดที่คอของร่างบาง



    “ก็มึงอยากดื้อทำไมล่ะและกูขอไว้เลยนะไอนิสัยนอนกับคนอื่นไปทั่วนี่เลิกซะ ไม่งั้นกูจะโทรไปบอกแม่มึง”



    “ไม่ต้องมาขู่ มึงไม่มีเบอร์แม่กู”



    “หึ..แค่หาเบอร์แม่มึงไม่ยากหรอก”



    “ไอ..”



    “อะๆ อย่าด่านะมึง ถ้าด่ากูจะกัดปากมึง” 

    มาร์คชี้หน้าคาดโทษทำให้ร่างบางเม้มปากเข้าหากันก่อนจะถลึงตาใส่อีกฝ่าย  



    “แม่ง..ทำไมชอบขู่กูนักว่ะ”



    “ไม่อยากให้ขู่ก็หัดทำตัวให้มันดีๆที่กูพูดเพราะกูห่วงมึงไม่อยากให้ใครมาว่ามึง กูขอแค่นี้ทำได้มั้ย” 

    มาร์คจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาจริงจัง แบมแบมเองก็มองกลับไปเช่นเดียวกัน



    “เออๆๆ แม่งเป็นพ่อกูรึไงเนี่ย” 

    ร่างบางยกมือขึ้นกอดอกก่อนเอ่ยออกไปด้วยท่าทีเซ็งๆ



    “ไม่ได้เป็นพ่อ เป็นผัว” 

    มาร์คพูดสวนขึ้นมาทำให้แบมแบมหยิบหมอนอิงที่วางอยู่บนตักปาใส่อีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด มาร์คปัดหมอนนั้นออกและขำกับท่าทีที่เห็นก่อนจะเอนตัวลงนอนโดยเอาหัวหนุนตักของร่างบางเอาไว้ แบมแบมเห็นดังนั้นก็พยายามดันหัวอีกฝ่ายออกไปแต่มาร์คก็ยังขืนเอาไว้



    “ขอนอนแปปนึง”



    “มึงก็ไปนอนที่อื่นดิมาหนุนตักกูทำไม”



    “อย่าขี้งกดิว่ะ กูขอนอนหน่อย”



    “ไปนอนดีๆ กูเมื่อย”



    “.......”



    “กูบอกให้ไปนอนดีๆไง”



    “.......”



    “มาร์ค”



    “........”



    “อย่ามาแกล้งหลับนะเว้ย” 

    แบมแบมดันหัวมาร์คออกแต่ร่างหนาก็ยังคงขืนเอาไว้แถมยังเอื้อมมือไปกอดเอวบางพร้อมกับฝังหน้าลงไปกับหน้าทองเรียบอีกต่างหาก จุ๊บ..ปากได้รูปจูบลงไปที่หน้าทองเรียบก่อนจะซุกหน้าลงไปโดยไม่ได้สนใจสิ่งที่ร่างบางทำเลยแม้แต่น้อย



    “ไอๆ..โถ่เว้ย เอออยากนอนก็นอนไปเลยแม่ง” 

    ร่างบางสบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ยอมให้มาร์คนอนอยู่แบบนั้นและนั่นทำให้มาร์คยกยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด




    ++++++++++++++++++++++++++++++++



     (( ...Happy New Year 2016... ))

    ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนค่าาา

    ก้าวเข้าปีใหม่แล้วยังไงก็ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆสิ่งที่หวังเอาไว้และมีความสุขในทุกๆวินาทีของปีนี้เลยนะคะ

    ที่สำคัญอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆน้าาา อย่าพึ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ รักทุกคนเบยย... ^ ^


    >>> TBC <<<

    ดูเหมือนแอชลี่จะยอมลามือแล้วจริงๆก็มาร์คชัดเจนซะขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องยอมล่ะนะ

    และถ้าทุกคนคิดว่าเรื่องวุ่นๆจะจบลงแล้วล่ะก็ คุณกำลังคิดผิด !!!

    แต่จะมีเรื่องอะไรเข้ามาอีกนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปนะคะ

    ไรท์บอกได้แค่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแอชลี่แล้วค่ะ ในเมื่อนางจากไปแล้วเราก็ควรปล่อยนางไปเนอะ ^ ^


    #ฟิคลองของ




    ?THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×