ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #32 : Level_31

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.57K
      173
      9 ม.ค. 59




    ปิ๊งป่องๆๆๆ...เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้งทำให้แบมแบมที่นั่งอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นหันกลับไปมอง



    “ใครมาอีกว่ะ” 

    ร่างบางเอ่ยขึ้นก่อนจะเขย่าตัวคนที่นอนหนุนตักเขาอยู่



    “ตื่น..มีคนมา”



    “อื้มม..” 

    แทนที่จะตื่นมาร์คกลับซุกหน้าเข้าหาหน้าท้องของอีกฝ่ายมากขึ้นพร้อมกันถูไถหน้าไปมาราวกับเป็นหมาที่ต้องการจะอ้อนเจ้าของ



    “เฮ้อ..แม่งเป็นหมารึไงเนี่ย” 

    แบมแบมพูดออกมาด้วยท่าทีเซ็งๆมือเรียวเริ่มเขย่าตัวมาร์คแรงขึ้น



    “มาร์คตื่น”



    “.......”



    “ตื่นดิว่ะ”



    “.......”



    “ไม่ตื่นใช่มั้ย” 



    งับ..



    “โอ๊ยย..” 

    มาร์คร้องเสียงหลงรีบยกมือขึ้นมากุมหูของตนเองเอาไว้ทันทีก็จะไม่ให้ร้องได้ยังไงในเมื่อแบมแบมเล่นก้มลงไปกัดหูของเขาอย่างจัง



    “กัดทำไมวะ” 

    มาร์คเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าร่างบางจ้องมาที่เขาเขม่งแถมยังดูหัวเสียไม่น้อย



    “อย่ามาสำออย ลุกไปเปิดประตูมีคนมา”

    แบมแบมเอ่ยเสียงเข้ม เขาไม่กัดให้หูขาดติดปากออกมาก็ดีแค่ไหนแล้วแค่นี้มาทำเป็นโอดครวญทีตอนกัดเขาล่ะไม่คิด



    “ใครมา”



    “กูจะรู้มั้ย”



    “หงุดหงิดเรื่องอะไรอีกเนี่ย” 

    มาร์คค่อยๆยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับหันไปถามร่างบางอย่างอดไม่ได้



    “........”



    “เป็นอะไร” 

    มาร์คยังคงคาดคันเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองมาที่เขาแต่ไม่ยอมปริปากพูด



    “จะถามอะไรนักหนาว่ะ ไปเปิดประตูเหอะเขามากดออดตั้งนานแล้วนะ”



    “ไม่..จนกว่ามึงจะบอกกูว่าเป็นอะไร”



    “เฮ้อ...” 

    แบมแบมถอนหายใจอย่างข่มอารมณ์



    “จะพูดได้รึยัง ถ้ามึงไม่พูดก็ปล่อยให้แม่งยืนรอหน้าห้องไปแบบนั้นแหละ”



    “โว้ยย..ก็ตะคิวมันแดกขากู กูเมื่อย ขยับก็ไม่ได้ แม่งชาไปครึ่งตัวแล้วเนี่ย เป็นเพราะมึงนั้นแหละชอบทำกูเจ็บตัว มึงรีบๆไปเปิดประตูเลยนะก่อนที่ขากูจะหายชาแล้วลุกขึ้นไปจัดการกับมึง” 

    แบมแบมโวยออกมาเป็นชุดอย่างสุดทนที่เขาไม่ตอบมาร์คไม่ใช่ว่างอนหรือแกล้งกวนอีกฝ่ายหากแต่เขากำลังพยายามข่มอาการชาที่เกิดขึ้น ส่วนมาร์คก็มานั่งคาดคั้นจะให้เขาพูดออกมาให้ได้จนเส้นความอดทนที่มีขาดสะบั้นลงในที่สุด



    ฮ่าๆๆๆ” 

    มาร์คหัวเราะออกมาดังลั่นก็เขาหลงคิดไปต่างๆนาๆว่าร่างบางคงโกรธเขาเรื่องเมื่อคืนแต่ที่ไหนได้



    “ตลกมากนักรึไง”



    “ก็ไม่มากหรอก หึๆ ฮ่าๆๆ” 

    มาร์คพยายามจะกั้นขำแต่ก็ทำไม่ได้ เขายังหลุดหัวเราะออกมาไม่ยอมหยุด



    “.......” 

    แบมแบมจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆและนั้นทำให้มาร์คค่อยๆหยุดหัวเราะเพราะท่าทางแบบนี้แสดงว่าร่างบางเริ่มของขึ้นแล้ว



    “โอเคๆ หยุดแล้ว” 

    มาร์คพูดพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น



    “เดี๋ยวกูไปเปิดประตูก่อนแล้วจะกลับมานวดให้ นั่งรออยู่ตรงนี้แหละ” 

    พูดจบก็ขยี้หัวร่างบางไปมาก่อนจะก้าวไปยังหน้าประตู



    “กวนตีน” 

    แบมแบมสบถออกมาหลังจากมาร์คเดินห่างออกไป มาร์คเดินยิ้มขำกับเรื่องเมื่อครู่ขายาวเดินมาจนถึงบานประตูก่อนเปิดออกเผยให้เห็นกลุ่มแขกผู้มาเยือน



    “ทำเหี้ยอะไรอยู่ว่ะ นานชิบหาย” 

    เสียงโวยดังขึ้นก่อนกลุ่มคนที่มาจะเดินแทรกเข้าไปภายในห้องทำให้แบมแบมหันไปมองว่าใครมากดออด



    “เฮียแจ็ค!! ” 

    แบมแบมร้องทักแขกผู้มาเยือนก่อนจะต้องเบิกตากว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าใครที่เดินตามเข้ามาด้วย



    “ไอเนียร์ ไอแจ”



    “เออพวกกูเอง ทำไมมึงต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วย” 

    จูเนียร์เอ่ยขึ้นขำๆที่พวกเขามาที่ห้องของมาร์คก็เพราะเมื่อวานมาร์คดูเหมือนจะมีเรื่องเครียดๆอะไรสักอย่างเลยไลน์ไปหาเจบีให้มานั่งกินเหล้าที่ห้องและเมื่อจูเนียร์รู้เรื่องเลยให้ชวนแจ็คสันกับยองแจมาด้วยเนื่องจากแบมแบมก็พักอยู่ที่นี่และเขาก็ไม่ได้เจอเพื่อนมาสักพักแล้ว



    “ปะ..เปล่า แค่ตกใจไม่คิดว่าจะมากัน”



    “แล้วไอเจบีไปไหนล่ะ” 

    มาร์คที่พึ่งเดินตามเข้ามาถามขึ้น



    “ผมให้ไปซื้อเหล้ากับพวกของกินน่ะเดี๋ยวก็คงมา” 

    จูเนียร์เป็นฝ่ายตอบข้อสงสัย



    “เดี๋ยวนี้มึงกล้าใช้เพื่อนกูแล้วเหรอไอเนียร์”

    มาร์คเอ่ยขำๆ



    “ก็นะ” 

    จูเนียร์ยักไหล่กวนๆส่งกลับไป



    “ไงไอแสบ..วันนี้ไม่มีเรียนรึไง” 

    แจ็คสันเดินเข้าไปนั่งข้างๆน้องชายทำให้แบมแบมรีบขยับเสื้อขึ้นมาปกปิดรอยกัดที่คอทันที



    “มี..แต่อาจารย์ยกเลิกเลยไม่ได้ไป” 

    แบมแบมจำต้องโกหกออกไป ก็จะให้เขาบอกได้ยังไงว่าโดนจับกดจนไปเรียนไม่ได้



    “และนี่เป็นห่าอะไร นั่งยุกยิกๆอยู่ได้” 

    แจ็คสันเอื้อมมือไปแตะร่างบางและเพียงแค่แตะเบาๆก็ทำให้แบมแบมถึงกับสะดุ้งโหยงจนยองแจที่เดินตามมานั่งข้างๆแจ็คสันเอ่ยถามขึ้น



    “มึงเป็นอะไรทำไมหน้าแดงๆไม่สบายรึเปล่าว่ะ” 

    ยองแจถามออกไปพร้อมกับชะโงกไปดูเพื่อนที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงก่ำก้มราวกับคนเป็นไข้



    “กูไม่ได้เป็นอะไร อากาศมันร้อนๆว่ะ”



    “ร้อนบ้าอะไร ไอมาร์คเปิดแอร์เย็นอย่างกับขั่วโลกเหนือ” 

    เป็นแจ็คสันที่โผลงออกมา



    “ก็ผมร้อนอ่ะ เฮียจะทำไม” 

    ร่างบางหันไปเถียงแจ็นสันตามความเคยชินจนลืมเรื่องรอยที่คอไปเสียสนิท



    “ไอแบม” 

    จูเนียร์ที่เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังร่างบางเรียกขึ้นทำให้แบมแบมหันกลับไปมองก่อนจะพบว่าจูเนียร์มองมาที่ตนด้วยสายตาแปลกๆทำให้ต้องยกมือขึ้นมาขยับคอเสื้ออีกครั้ง



    “หึ” 

    จูเนียร์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปมองมาร์คที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมถาดน้ำในมือ



    “ไวใช้ได้นิ” 

    จูเนียร์เอ่ยขึ้นเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมอง



    “อะไรของมึงไอเนียร์” 

    เสียงแบมแบมถามขึ้นพร้อมกับหรี่ตามองเพื่อนสนิทด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจไอเนียร์ฉลาด ตาไว ที่สำคัญมันจับผิดเก่ง และนั้นทำให้ร่างบางเริ่มหวั่นใจแปลกๆ



    “ป๊าว..ว่าแต่มึงเถอะคอไปโดนอะไรมา” 

    จูเนียร์ปฏิเสธเสียงสูงก่อนจะย้อนถามกลับไปบ้าง



    “ใครโดนอะไร”



    “ไม่เอาน่า..มึงก็รู้ว่ากูพูดเรื่องอะไร ใช่มั้ยครับพี่มาร์ค” 

    จูเนียร์หันไปยิ้มให้มาร์คที่เดินมานั่งลงข้างๆร่างบาง



    “ก็บอกไปดิว่ากูกัดมึง” 

    มาร์คเอ่ยออกมาด้วยท่าทีสบายๆ แต่สามารถเรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมองร่างบางเป็นตาเดียวได้



    “กัดยังไง ตอนไหนว่ะ” 

    แจ็คสันถามขึ้นบ้าง



    “นั้นดิๆ เกิดอะไรขึ้นว่ะไอแบม” 

    ยองแจก็ถามออกมาด้วยความอยากรู้เช่นเดียวกัน ในขณะที่จูเนียร์ยืนขำอยู่ด้านหลัง



    “มึงพูดเหี้ยอะไรเนี่ย ไอพวกนี้ก็ไปเชื่อมัน” 

    แบมแบมหันไปโวยใส่มาร์คก่อนจะหันกลับมาโวยวายใส่คนอื่นๆในขณะที่มือเรียวก็ยกขึ้นมาปิดคอบริเวณที่มีรอยกัดเอาไว้



    “ใครบอกว่ากูเชื่อ กูจะเชื่อก็ต่อเมื่อมึงเป็นคนพูด งั้นถ้าไม่ได้โดนพี่มาร์คกัดจริงๆมึงไปโดนอะไรมา” 

    ด้วยความอยากแกล้งเพื่อนจูเนียร์จึงถามออกไปอีกครั้ง



    “เออ..คือ”



    “ว่าไง”



    “กูโดนหมากัด !!!




    45%



    “หืม..หมากัดเนี่ยนะ”



    “อะ..เออดิเนี่ยๆรอยหมากัด” 

    แบมแบมเอามือออกจากรอยเขี้ยวพร้อมกับยื่นคอไปให้เพื่อนดู



    “หมาที่ไหนว่ะ ท่าทางจะหื่นน่าดูแม่งเลือกกัดตรงซอกคอด้วยวะ” 

    จูเนียร์ว่าขำๆ



    “ทำไมมึงถามมากจังว่ะ จะอยากรู้อะไรนักหนาเนี่ย”



    “แล้วมึงได้ไปฉีดยารึยัง เกิดแม่งเป็นบ้าขึ้นมานี่งานเข้าเลยนะไอแบม” 

    แจ็คสันที่นั่งฟังอยู่พูดแทรกขึ้นขำๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับไอน้องชายตัวแสบเขารู้เรื่องทุกอย่างและที่รู้ก็เพราะไอเพื่อนตัวดีมันโทรมาสารภาพบาปตั้งแต่ครั้งแรกที่มันมีอะไรกับไอแบมแถมยังบอกให้เขาช่วยเชียร์มันกับไอแบมอีก ตอนแรกที่ได้ยินบอกเลยว่าอยากจะขับรถไปกระทืบมันมากมีอย่างที่ไหนไปอยู่ด้วยกันไม่ถึงอาทิตย์เสือกโทรมาบอกว่ามีอะไรกันแล้ว ถึงเขาจะดูบ้าๆบอๆแต่ก็ห่วงไอแบมเหมือนน้องแท้ๆไหนแม่มันจะฝากฝังเอาไว้อีก แต่พอไอมาร์คบอกว่าจริงจังไม่ใช่แค่อยากลองเขาที่เป็นเพื่อนมันมานานก็อดแปลกใจไม่ได้เหมือนกัน

     


    ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน...



    “มึงว่าไงนะไอมาร์ค !!!

    แจ็คสันตวาดเสียงกร้าวใส่โทรศัพท์เครื่องหรูในมือ



    ( กูนอนกับแบมแบมแล้ว )



    “นี่มึงเมารึเปล่า”



    ( กูไม่ได้เมา กูนอนกับมันแล้วจริงๆ )



    “มึงจะบ้าเหรอ ไอแบมมันเป็นผู้ชายนะเว้ย”



    ( ก็ผู้ชายไง )



    “แล้วมันก็เป็นน้องกูด้วย”



    ( ก็เพราะมันเป็นน้องมึง กูถึงได้โทรมาบอกนี่ไง )



    “เหี้ยเอ้ย..ทำไมมึงทำแบบนี้ว่ะ กูไม่น่าไว้ใจให้มันไปอยู่กับมึงเลยไอมาร์ค”



    ( มึงอยากโวยวายยังไงก็เชิญแต่กูแค่จะโทรมาบอกว่ากูจริงจังกับน้องมึง  ส่วนมึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของมึง )



    “นี่มึงกำลังจะบอกกูว่ามึงชอบน้องกูจริงๆงั้นเหรอ”



    ( เออ..แล้วมึงก็ต้องช่วยกูจีบน้องมึงด้วย )



    “เชี่ยมาร์ค..มึงเอากับน้องกูแล้วยังเสือกจะให้กูช่วยอีกเนี่ยนะ”



    ( หรือมึงอยากให้น้องมึงเสียตัวให้กูฟรีๆ  )



    “สัส..มึงคิดจะมัดมือชกกันรึไงว่ะ”



    ( เอาเป็นว่ากูบอกมึงให้รับรู้แล้ว งั้นแค่นี่นะน้องมึงเริ่มโวยวายอีกแล้ว ตู๊ดๆๆๆ )



    “ดะ..เดี๋ยวไอมาร์ค ฮัลโหลๆ ห่าเอ้ยย..” 

    แจ็คสันจ้องโทรศัพท์พร้อมกับสบถออกมา มีอย่างที่ไหนแม่งเล่นโทรมาพูดๆๆแล้วก็วางสายไปเฉยเลย



    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันว่ะเนี่ย” 

    และหลังจากวันนั้นเขาก็ค่อยตามดูทั้งคู่อยู่ห่างๆเพราะไม่อยากให้แบมแบมรู้ว่าเขารู้เรื่องนี้แล้ว ขืนมันรู้เข้ามีหวังโวยวายไม่เลิกแน่ๆ และจากที่ตามดูมาสักระยะดูเหมือนว่าไอมาร์คจะพูดจริงเรื่องที่มันบอกว่าจริงจังกับน้องเขาแจ็คสันจึงตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างมาร์คและแบมแบม แต่ถ้ามันทำน้องเขาเจ็บเมื่อไหร่ต่อให้เป็นเพื่อนที่สนิทกันขนาดไหนเขาก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน

     


    กลับมา ณ ปัจจุบัน



    “เออว่ะ..นี่ผมจะเป็นบ้ารึเปล่าว่ะ” 

    แบมแบมเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริงเพื่อหวังจะกลบเกลื่อนเรื่องรอยกัด



    “มึงไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะติดเชื้อบ้า”



    “ทำไม” 

    ร่างบางหันไปถามด้วยท่าทีงงๆ



    “ก็เมื่อคืนกูฉีดยากันไว้ให้แล้วไง” 

    มาร์คที่นั่งฟังอยู่สักพักเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มร้าย



    “งั้นมึงก็เบาใจได้แล้วล่ะไอแบม กูว่ายาที่พี่มาร์คฉีดให้น่าจะเอาอยู่ว่ะ” 

    จูเนียร์ตบบ่าเพื่อนเบาๆก่อนหันไปยกยิ้มให้มาร์คที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อนของเขา



    “ยะ ยาห่าไร..ไร้สาระ” 

    แบมแบมเอ่ยตะกุกตะกักใบหน้าหวานแดงก่ำเมื่อเขาดันเผลอไปนึกถึงยาสีขาวขุ่นที่โดนคนข้างๆจัดการฉีดให้เมื่อคืน



    “ไอแบม..มึงกับพี่มาร์คมีอะไรกันแล้วใช่มั้ย” 

    อยู่ดีๆยองแจก็โผลงออกมาหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน



    “มึงจะบ้าเหรอไอแจ พูดเหี้ยอะไรเนี่ย” 

    แบมแบมหันกลับไปโวยวายใส่เพื่อนแทบจะทันที



    “ก็กูนั่งฟังมาสักพักนึงแล้วไหนจะไออาการแปลกๆของมึงอีก อ่อ..กูยังสังเกตุเห็นรอยที่คอกับต้นขามึงด้วย กูเลยได้ข้อสรุปว่ามึงต้องไปฟัดกับใครมาแน่ๆแต่ดูเหมือนช่วงนี้มึงจะไม่ได้ไปปลดปล่อยที่ไหนเพราะพี่มาร์คไปรับไปส่งตลอดทำให้ข้อสงสัยอื่นตกไปเหลือแค่ข้อเดียวที่กูคิดว่าโอกาสน่าจะเกิดขึ้น 99.99% คือมึงกับพี่มาร์คมีอะไรกันแล้ว” 

    ยองแจเอ่ยออกมาเป็นชุดจนคนอื่นๆถึงกับอ้าปากค้าง ร่วมไปถึงเจบีที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องด้วย



    “มะ..ไม่ใช่นะเว้ย"

    แบมแบมที่สติหลุดไปเมื่อครู่รีบเอ่ยปฏิเสธขึ้นเมื่อดึงสติกลับมาได้บ้างแล้ว แต่ดูเหมือนคำปฏิเสธจะไม่เป็นผลเพราะทุกคนดูจะปักใจเชื่อเรื่องที่ยองแจพูดไปแล้ว



    “แฟนมึงนี่ใช้ได้เลยว่ะไอแจ็ค” 

    เจบีที่พึ่งเดินเข้ามาพูดขึ้นขำๆก่อนจะวางของลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปโอบคอจูเนียร์เอาไว้



    “เออว่ะ..แบบนี้กูก็แอบไปมีกิ๊กไม่ได้ดิวะ” 

    แจ็คสันหันไปพูดกับเพื่อนขำๆ ก่อนจะโดนยองแจตีเข้าที่แขนอย่างแรง



    “อยากตาย..ก็ลองมีดูดิ” 

    ยองแจชี้หน้าคาดโทษอีกฝ่ายทันที ทำให้แจ็คสันยิ้มขำก่อนจะเอื้อมมือไปโอบเอวอีกฝ่ายเอาไว้



    “ใครจะกล้าล่ะ มีแฟนจับผิดเก่งขนาดนี้” 

    แจ็คสันยิ้มกว้างพร้อมกับซบลงไปบนไหล่ของอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน



    “พอเลยพวกมึง อย่ามาออดอ้อนกันแถวนี้” 

    เจบีพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองมาร์คที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา



    “เป็นเหี้ยอะไรไอมาร์ค แล้วเมื่อวานไลน์ไปตามกูมามีเรื่องอะไร”



    “ไม่มีอะไร..กูแค่เซ็งๆเลยหาเรื่องแดกเหล้า” 

    มาร์คตอบเจบีแต่สายตาก็ยังคงมองไปที่ร่างบาง ซึ่งแบมแบมเองก็รับรู้แล้วหันกลับมามองมาร์คเช่นเดียวกัน



    “พอใจรึยัง...ไอเหี้ย !!! ” 

    แบมแบมพูดโดยไม่ออกเสียงใบหน้าหวานดูโกรธจัดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มาร์คลุกพรวดขึ้นแล้วทำท่าจะช้อนตัวร่างบางขึ้นมาจากโซฟา แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดตัวออกพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที สายตาดุดันจ้องไปที่มาร์คก่อนที่ขาเรียวจะก้าวออกไปจากตรงนั้น มาร์ครีบวิ่งไปรั้งแขนเรียวเอาไว้ก่อนจะลากอีกฝ่ายให้เดินไปยังห้องนอนของตนเอง



    “พวกมึงแดกกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกูมา” 

    มาร์คหันไปพูดกับเพื่อนก่อนจะหันกลับไปมองร่างบางที่ตอนนี้พยายามแกะมือของเขาออกจากข้อมือบาง



    “พวกกูกลับก่อนดีกว่าว่ะ” แจ็คสันเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยขึ้น



    “ไม่ต้องหรอก...นั่งกินกันไปเหอะ” 

    สิ้นเสียงมาร์คก็จัดการลากร่างบางเข้าไปในห้องนอนของตน เมื่อเข้ามาภายในห้องแบมแบมก็สะบัดมือออกจากการจับกุมแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากห้องแต่โดนมาร์ครั้งตัวเอาไว้ซะก่อน



    “จะไปไหน”



    “ปล่อยกู...”



    “อย่าเป็นแบบนี้ดิว่ะ” 

    มาร์คเอ่ยเสียเครียด



    “กูเป็นแบบไหน”



    “ก็ทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ไง” 

    มาร์คเผลอตะคอกออกไปอย่างลืมตัว ทำให้แบมแบมชะงักไปนิดก่อนจะเหยียดยิ้มส่งไปให้อีกฝ่าย



    “แล้วมึงมีสิทธิ์อะไรมาขึ้นเสียงใส่กูไม่ทราบ กูจะทำตัวยังไงมึงเกี่ยวอะไรด้วย อ่อ ลืมไปกูเป็นเมียมึงนี่เนอะ ตอนนี้เขาก็รู้กันหมดแล้ว พอใจรึยังล่ะหรือต้องให้กูออกไปประกาศอีกรอบว่ากูกับมึงได้กันแล้ว” 

    แบมแบมเอ่ยเสียงกร้าวเนื้อตัวสั่นไปหมดด้วยความโกรธ



    “รู้แล้วไง..เพื่อนมึงกับเพื่อนกูก็เป็นแฟนกัน”



    “แต่กูกับมึงไม่ได้เป็นอะไรกัน”



    “งั้นก็เป็นซะสิ” 

    มาร์คโผลงออกมาทำให้ร่างบางจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ



    “การที่กูมีอะไรกับมึงไม่ได้หมายความว่ากูต้องคบกับมึงนะมาร์ค”



    “งั้นมึงจะให้กูทำยังไงมึงถึงจะยอมคบกับกูว่ะแบม”



    “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ งั้นกูขอถามมึงกลับบ้างได้มั้ยว่าทำไมมึงถึงอยากคบกับกูนัก”



    “เพราะกูชอบมึงไง เหตุผลแค่นี่พอมั้ย”



    “และถ้ากูบอกว่าขอเป็นแค่เพื่อนร่วมเตียงมึงจะว่ายังไง” 

    แบมแบมเอ่ยเสียงเรียบ เขารู้ว่าเขาเห็นแก่ตัวแค่ไหนแต่เขาไม่พร้อมจะผูกมัดกับใครตอนนี้จริงๆ



    “มึงหมายความว่าไง”



    “กูรู้ว่ามันอาจฟังดูแปลกๆแต่กูจะอยู่ที่นี่ต่อและถ้ามึงหรือกูอยากเราก็มีอะไรกันได้เพราะยังไงกูก็ตกลงกับมึงแล้วว่าจะไม่ออกไปมั่วที่ไหนอีก แต่กูจะไม่คบกับมึงเราจะอยู่กันในฐานะเพื่อนร่วมห้องเท่านั้น” 

    แบมแบมเอ่ยออกมาด้วยท่าทีจริงจังและนั้นทำให้มาร์คจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เข้าใจ



    “กูไม่เข้าใจ ทำไมมึงถึงคบกับกูไม่ได้”



    “กูว่ากูพูดไปหมดแล้วนะ แต่ถ้ามึงยังไม่เข้าใจกูจะกลับไปอยู่หอเหมือนเดิม” 

    มาร์คมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมร่างบางถึงคบกับเขาไม่ได้แต่ก็ไม่อยากเสียอีกฝ่ายไปเช่นกัน



    “จะเอาแบบนี้จริงๆใช่มั้ยแบมแบม”



    “ใช่..”



    “โอเค..งั้นกูจะไม่คาดคั้นมึงเรื่องนี้อีกแต่เราจะกลับไปทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้มึงรู้ใช่มั้ย”



    “อืม..เราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลยนิ”



    “ถ้ามึงว่าอย่างงั้นกูก็ไม่มีปัญหาอะไร งั้นมึงไปนั่งบนเตียงไปเดี๋ยวกูนวดขาให้”



    “ไม่ต้องหรอกมันหายชาแล้ว มึงออกไปกินเหล้ากับเพื่อนเหอะกูขอล้างหน้าล้างตาแปปนึงเดี๋ยวตามออกไป” 

    แบมแบมพูดขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ มาร์คเองก็มองตามร่างบางไปก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แบมแบมเดินมาหยุดหน้ากระจกภายในห้องน้ำใบหน้าหวานมองเงาสะท้อนของตนเองนิ่งๆ



    “จะหาเรื่องใส่ตัวไปทำไมในเมื่อที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้ว กูก็แค่ไม่อยากเจ็บอีกเท่านั้นเอง” 

    แบมแบมพูดกับตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่มือเรียวเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำตรงหน้าก่อนจะวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าเพื่อหวังว่าความเย็นของน้ำจะช่วยชะล้างความขุ่นมัวในใจให้จางลงไปได้บ้าง...




    ++++++++++++++++++++++++++++



    >>> TBC <<<


    ทุกคนคงกำลังคิดว่าทำไมแบมแบมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ทำไมไม่ยอมใจอ่อนให้พี่มาร์คสักที

    ทุกอย่างที่แบมแบมทำเขามีเหตุผลนะคะ น้องเคยเจอเรื่องแย่ๆมาก่อนเลยขยาดเรื่องการผูกมัด

    ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้แบมแบมกลายเป็นแบบนี้ ตอนหน้าเราจะมาย้อนอดีตกันค่ะ ^ ^


    #ฟิคลองของ



    ?THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×