คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 9 : ขี้น้อยใจ (รีไรต์)
บทที่ 9
ยามเช้าแสงแดดสาดส่องกระทบเข้ามาผ่านหน้าต่าง
นัยน์ตากลมโตกระพริบไปมาเพื่อปรับสายตาเล็กน้อย เธอพลิกตัวไปมา ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
พลันได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเอ่ยปากอนุญาตให้เข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าต้องมีอะไร แต่ก็ยังเอ่ยปากถามไป
" โอลิเวีย มีอะไรถึงได้มาแต่เช้า "
ฉันจ้องมองที่เธอเมื่อถามเสร็จ
ก่อนที่โอลิเวียจะก้มหัวเบาๆ
" วันนี้วันเกิดคุณหนูไงเจ้าคะ ข้าเข้ามาเพื่อช่วยท่านเตรียมตัว "
สาวใช้พูดก่อนจะเดินเข้ามากันเป็นขบวนอีกครั้ง ฉันถอนหายใจเบาๆ
ทำไมความจำสั้นอย่างนี้นะฉัน.. วันเกิดตัวเองก็ลืมได้ !
เมื่อถึงช่วงเลือกเสื้อผ้า
ฉันก็ยกมือห้ามโอลิเวียทันที เมื่อเห็นว่าเธอกำลังหยิบชุดหวานแหว๋วมาให้
" เดียวข้าเลือกเอง "
พูดพลางส่งสายตากดดันไปให้เล็กน้อย
โอลิเวียทำหน้าหงอย แต่ก็ขานรับ
ฉันกวาดสายตามองชุดต่างๆ
ก่อนจะยกยิ้มพลางชี้ไปที่ชุดๆหนึ่ง
ชุดที่ฉันเลือกเป็นชุดแบบเรียบๆ
จนโอลิเวียต้องส่ายหัวอย่างไม่ยินยอม ฉันถอนหายใจ แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะเอาชุดนี้
โอลิเวียจึงจำต้องหยิบมาแต่งตัวให้อยู่ดี ตัวเสื้อเป็นแขนทรงตุ๊กตาสีขาวยาวจนถึงข้อมือ
มีลูกไม้เล็กๆประดับโค้งเป็นรูปตัวยูบริเวณเนินอก โบว์สีดำติดบริเวณคอเสื้อ
และมีกระดุมสีดำสามเม็ดติดเรียงกันลงมา ตั้งแต่บริเวณหลังลูกไม้รูปตัวยู
ก็เป็นสีดำ กระโปรงสองชั้นติดโบว์สีดำเล็กๆไว้ตามรอยพับพอให้ดูสวยงาม เธอเลือกที่จะไม่ใส่ของตกแต่ง
เนื่องด้วยความขี้เกียจเบาๆ..แต่คร่าวนี้เธอถักเปียสองข้าง จนทำให้วันนี้เธอดูเป็นเด็กน่ารัก และดูเรียบร้อยยิ่งกว่าวันไหนๆ
เมื่อแต่งตัวเสร็จ โอลิเวียก็ชมเธออีกรอบว่าสวยนักสวยหนา ฉันเพียงยิ้มรับเบาๆ
พลางคิดในหัวว่าไหนเธอบอกว่าไม่เอาชุดนี้ไง..
" งั้น.. ข้าไปล่ะ "
โอลิเวียโค้งตัวลา
ฉันจึงเดินออกจากห้อง ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับมงกุฎดอกไม้บนตู้เข้าให้
" ทำไมถึงไม่เหี่ยวนะ? "
เธอครุ่นคิด พร้อมกับที่มีเสียงๆหนึ่งเอ่ยตอบ
" เพราะแม่ใช้เวทย์มนต์ทำให้มันคงสภาพอยู่อย่างนั้นไงล่ะจ๊ะ "
ท่านแม่พูดก่อนจะเดินเข้ามาหยิบมงกุฎดอกไม้บนตู้มาถือไว้
" เวทย์มนต์เหรอคะ.. "
ฉันพึมพำเบาๆแต่ผู้เป็นแม่กลับได้ยิน
" ใช่แล้วจ้ะ เดียวอีกหน่อยลูกก็จะใช้เวทย์มนต์ได้เช่นกัน "
ท่านแม่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
ก่อนจะวางมงกุฎดอกไม้ไว้บนหัวของฉัน ฉันจึงขมวดคิ้วน้อยๆ
ดอกไม้ไม่น่าจะเหมาะกับคนอย่างฉันนะ..
ราวกับท่านแม่รู้ว่าฉันคิดอะไร
เธอเอ่ยปากชมว่ามันเข้ากับฉัน ก่อนที่จะพากันเดินออกไปจากห้องโถง เมื่อออกมาถึง
ก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อพบว่าเครซิเมอร์ใส่ชุดสีดำเหมือนฉัน
ไอ้หมอนี้มันแอบมาดูตอนฉันเลือกชุดรึเปล่าเนี้ย..
คิดอย่างเหนื่อยหน่าย
แต่ด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจตอนนี้ ทำให้ตัดสินใจไม่มองหน้าเครซิเมอร์
ฉันเมินหน้านี้
ก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปบนรถม้า ขณะที่รถม้าเคลื่อนที่
ฉันก็รับรู้ได้ถึงสายตาของเครซิเมอร์ที่มองมา แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ พลางทำตัวเป็นมองวิวทิวทัศน์จนมาถึงที่หมาย
เมื่อเข้ามายังพระราชวัง ฉันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับความวุ่นวายตรงหน้า
องค์ราชาเลือกแบบแผนอะไรซักอย่าง
รวมถึงองค์ราชินีที่กำลังสั่งเหล่าข้ารับใช้จนวิ่งวุ่นกันไปหมด
“ โอ้ ! หลานรักทั้งสอง มาแล้วรึ “
องค์ราชาเหมือนจะสังเกตเห็น จึงเอ่ยปากทักทาย
แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้ทำความเคารพ
องค์ราชาก็เอ่ยปากบอกให้ฉันและเครซิเมอร์ไปเล่นข้างนอกกับคาร์อิส
และคาร์ลอสเสียก่อน ฉันเพียงขานรับอย่างงุนงวย ก่อนจะเดินนำเครซิเมอร์ไป
“ ท่านพี่.. “
ยังไม่ทันเดินถึงสวน เครซิเมอร์ก็เรียกฉันไว้
แต่ฉันก็เลือกที่จะเมินเสียงนั้น พร้อมกับเดินต่อไปเรื่อยๆ
“ ท่านพี่ ! “
คราวนี้เครซิเมอร์เพิ่มระดับเสียง
พร้อมกับจับไหล่ของฉันให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา ฉันขมวดคิ้วใส่
พลางส่งสายตาเป็นเชิงว่ามีอะไร
“ ท่านพี่ กำลังโกรธข้าอยู่รึเปล่า “
เขาถาม
แต่ฉันก็เลือกที่จะเมินหน้านี้ จนเขาถามย้ำ
แถมยังบีบไหล่ฉันแน่นจนรู้สึกเจ็บขึ้นมาบ้างแล้ว
“ อะไรทำให้คิดแบบนั้น “
ฉันถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ดวงตาสีเขียวของเธอจ้องมองสบกับดวงตาสีทองของอีกฝ่าย
“ ก็.. พี่เหมือนพยายามเมินข้า “
เขาตอบ ฉันนิ่งเงียบ พร้อมกับถอนสายตาออก
“ ใช่ไหมละฮะ “
เขาถามย้ำอีกครั้ง
ฉันจึงค่อยๆถอนหายใจเบาๆ และพยายามแกะมือเขาออกจากไหล่
“ ไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องเมินเจ้า.. “
“ พี่โกรธข้าเรื่องที่เมื่อวานข้าไม่ได้ไปนอนด้วยใช่มั้ย !? “
เมื่อได้ยินที่เขาพูด
ฉันก็ชะงักเล็กน้อยเพราะแอบถูกจี้ใจดำเบาๆ เมื่อเครซิเมอร์เห็นอย่างนั้น
เขาก็ยิ้มทะเล้นออกมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังดูเคร่งเครียดแท้ๆ
“ โธ่ ท่านพี่ เมื่อวานข้าก็แค่เผลอหลับตอนไปเล่นที่ห้องท่านแม่
ไม่ได้จะทิ้งท่านจริงๆนะ “
เขาพูดก่อนจะโผล่ตัวมาอยู่ข้างหน้าฉันด้วยสีหน้าปนหยอกล้อหน่อยๆ
“ นี้ท่านพี่ไม่อยากนอนคนเดียวขนาดนั้นเลยเหรอ.. หรือว่า
ชอบที่ข้าอยู่ด้วยกันแน่ ! “
“ นี้ ! “
ฉันตะโกนใส่เขาอย่างเหลืออด
พลางพยายามเสแสร้งทำเป็นโกรธ แต่เหมือนเจ้าน้องชายจะไม่สะทกสะท้าน
แถมยังหัวเราะไปมาจนลั่นพระราชวังแล้วละมั้ง..
“ ท่านพี่ รู้ไหมว่าจะมาทำเป็นโกรธข้ากลบเกลื่อนความอาย มันไม่ช่วยหรอกนะ ถ้าหน้าท่านมันยังแดงอยู่แบบนั้น
“
“ หน้าข้าเปล่าแดง ! “
ฉันพูดพลางเดินหนีเขา
และสับขาอย่างเร็วที่สุดราวกับกำลังแข่งเดินเร็ว
ก่อนจะชะงักเท้าเมื่อภาพของตัวเองสะท้อนอยู่บนกระจก ฉันยกมือขึ้นจับหน้าเล็กน้อย
“ หน้าแดงจริงๆเหรอเนี้ย “
พึมพำก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์พลางทำให้หน้าหายแดง
ก่อนจะมีเสียงๆหนึ่งทักขึ้น
“ ออร์จังนี้นา “
ฉันละสายตาออกจากกระจก
ก่อนจะหันไปตามเสียงที่ได้ยิน
“ คาร์ลอส ? “
“ อือ ! วันนี้วันเกิดเจ้ากับเครจังสินะ ! “
เขาถามก่อนจะเดินมาจูงมือฉันเข้าไปในศาลากลางสวน
ที่เดิมที่เราเล่นด้วยกันครั้งแรก
“ เจ้าอยู่ที่นี้คนเดียวเหรอ “
ถามอย่างสงสัย
เมื่อมองไม่เห็นแม้แต่เงาของใครอีกคน
“ ไม่ใช่หรอก ก่อนหน้านี้อยู่กับท่านพี่คาร์อิสน่ะ แต่เพิ่งออกจากสวนไปเอง “
“ แล้วเครจังไม่มาด้วยเหรอ “
เขาตอบคำถามฉัน
และถามกลับในเวลาเดียวกัน ฉันส่ายหัวให้เขาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ เปล่าหรอก เครซิเมอร์เขา—“
“ ข้าอยู่นี้ ! “
ยังไม่ทันพูดจบประโยค
บุคคลที่เป็นหัวข้อการสนทนาก็โผล่เข้ามาทันที
พร้อมกับใครอีกคนที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะพูดถึงไป
บางที..
เจ้าพวกนี้ก็ตายยากเสียจริง
ฉันคิด
ก่อนจะใช้สายตามองเครซิเมอร์และคาร์อิสไปพร้อมๆกัน ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจ
เมื่อเห็นสายตาของคาร์อิสที่มองมาอย่างขบขัน นี้อย่าบอกนะ..
“ ท่านพี่คาร์อิส ทำไมถึงมาพร้อมกันกับเครจังล่ะ “
ยังไม่ทันได้ถามสิ่งที่ฉันคิดอยู่ในหัวออกไป
คาร์ลอสก็ถามถึงสาเหตุที่สองคนนี้มาอยู่ด้วยกันได้ซะก่อน
“ ข้าเดินๆอยู่ แล้วบังเอิญเจอกับคาร์อิสเข้า เลยเดินมาด้วยกันนะ “
เครซิเมอร์เป็นฝ่ายตอบ
คาร์อิสจึงพยักหน้าเป็นเชิงยืนยันเล็กน้อย
“ และเพราะแบบนั้น ทำให้ข้าได้ฟังอะไรดีๆมาด้วยล่ะ “
คาร์อิสพูดพลางยกยิ้มแปลกๆ
ทั้งยังมองมามาฉัน ฉันเสตาไม่มองเขา พลางคิดว่าจะออกจากสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดี
แต่ก็ต้องหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ พลางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังด้วยความอับอาย เมื่อเขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“ เจ้านี้ขี้น้อยใจกว่าที่ข้าคิดอีกนะ “
“ คาร์อิส !! “
Talk Talk
กราบรัวๆ ที่หายไปแบบนานนนนมาก
ยังไงก็กลับมาแล้วนะคะ TT จะชดเชยให้นะคะ ฮื่อ
อันนี้คือรูปประกอบชุดของออร์ล่ากับเครซิเมอร์ค่ะ
ความคิดเห็น