ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    An accident or not ??

    ลำดับตอนที่ #7 : An accident or not ?? 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.1K
      226
      16 ก.ย. 53

     

    An accident or not ??

     ตอนที่ 7


    At the night…
    I realize this sorrow….
    And make up my mind….to fade away

    Thank you for the pain you give me……
    When tears fall to the ground
    You will not see me in your way anymore………….



    ***************************************************************

    คาคาชิกลับมาบ้านในตอนเช้ามืด เมื่อคืนชายหนุ่มอยู่เฝ้านารุโตะที่โรงพยาบาลทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอน 
    ลูกศิษย์เขาพ้นขีดอันตรายก็จริงแต่คำพูดที่คุโนะอิจิที่ทุกคนเคารพพูดทำให้เขารู้สึกหนักใจ

    ภายใน 3 วันนี้ถ้าเจ้าหนูตกเลือดอีกที เด็กในท้องก็คงจะ..... 

    หญิงสาวไม่อาจเอ่ยออกไปให้จบได้ มันเป็นสิ่งที่ทรมานใจหล่อนยิ่งนัก 
    แล้วนี่ถ้าเจ้าตัวรู้จะทำหน้ายังไง จะไม่ยิ่งเสียใจ คิดมากไปยิ่งกว่าหล่อนหรือ 

    โจนินหนุ่มเองก็ไม่อาจที่จะเอ่ยสิ่งใดได้เช่นกัน 
    แม้กระทั่งหญิงที่ชื่อว่าเป็นถึงโฮคาเงะเองยังพยายามอย่างที่สุดที่จะกลั้นน้ำตา

    สภาพจิตใจที่ถูกกดดันส่งผลกระทบต่อร่างกายและเด็กในท้อง 

    ซึนาเดะเอ่ย ขอบตาแดงช้ำเนื่องจากเธอเองก็ไม่ได้พักผ่อนเลยเช่นกัน
     
    เป็นครั้งแรกที่คาคาชิเองก็รู้สึกถึงความอ่อนแรงในน้ำเสียงที่เคยดุดันแฝงอำนาจของหญิงสาว

    ด้วยรักและผูกพันนั่นล่ะที่ทำให้เจ็บปวด ไม่ต้องบอกคาคาชิก็รู้ดีว่าท่านซึนาเดะคนนี้รักเจ้าหนูมากเพียงใด 
    แม้ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดแต่ก็รักดั่งลูก และเมื่อลูกกำลังเผชิญสิ่งที่เลวร้ายมีหรือที่แม่จะไม่เสียใจทุกข์ทรมาน 


    ซึนาเดะหลังจากรักษาจนสุดความสามารถแล้วก็ได้ย้ายเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าหม่นมาพักห้องแยกพิเศษ 
    ที่สามารถมองเห็นสวนและวิวของต้นไม้ใบหญ้าได้ชัด เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายจิตใจ 

    ชายหนุ่มนั่งเฝ้าร่างที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่
     
    ผ้าห่มสีขาวห่มมิดอกสักครู่จนแน่ใจว่าปลอดภัยจึงผละออกมา 
    เหลือแค่โฮคาเงะสาวที่ยังคงยืนเช็คอาการอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ทั้งที่ดวงตาใบหน้านั้นอิดโรยเต็มที

    พอเดินมาถึงหน้าประตูทางเข้าบ้านก็สังเกตเห็นร่างหนึ่งนั่งพิงอยู่ท่าทางคล้ายคนหลับ 
    คาคาชิสะกิดดูจึงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มร่างสูงรอเขามาตั้งแต่เมื่อคืน 
    เพราะใบหน้านั้นเย็นเฉียบอีกทั้งบนเส้นผมยังมีเกล็ดน้ำค้างที่แข็งตัวเกาะอยู่เต็ม


    อ๊ะ!!! ครู นารุโตะ!!! นารุโตะมาที่นี่รึเปล่า!!!! 

    ร่างที่ถูกสะกิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายก็ร้อนรนถาม 
    ชายหนุ่มมองพยักหน้าแล้วไขกุญแจเปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน

    เข้ามาสิ ซาสึเกะ ครูมีเรื่องจะคุย

    ผมก็เหมือนกัน 

    ผ้าขนหนูและผ้าห่มถูกยื่นให้เด็กหนุ่มที่นั่งมองคนยื่นด้วยสายตามากมายด้วยคำถาม 
    เขามาหาครูโจนินตั้งแต่เมื่อคืนตอนประมาณสี่ทุ่มเศษหลังจากที่วิ่งรอบหมู่บ้าน
    เพื่อตามหาคนที่เขาเคยได้ไว้ในอ้อมแขน
     หากก็ไม่พบร่องรอยใดๆ

    ไม่ว่าจะที่บ้านนารุโตะเอง บ้านซากุระ
     หรือบ้านใครๆที่เขาคิดว่านารุโตะจะไป
    แม้กระทั่งโรงเรียนนินจาจนที่สุดท้ายที่เขานึกขึ้นได้ก็คือบ้านของครูโจนิน
     
    แต่พอมาถึงประตูกลับล็อกเอาไว้ และที่ทำให้เขาเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ 

    ทำไมหน้าประตูถึงมีรอยหยดเลือดเปื้อนอยู่
     

    เขาตัดสินใจรอแต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการค้นหาทำให้เขาเผลอหลับมาตื่นอีกทีก็คือตอนที่ชายหนุ่มสะกิด 
    พอมองรอบๆจึงรู้ว่าเป็นเวลาเช้ามืด 

    ครูว่านารุโตะมาหาครูแล้วตอนนี้อยู่ไหนล่ะ 

    ซาสึเกะเอ่ยหลังจากที่รับผ้าห่มมาพันรอบตัวเพิ่มความอบอุ่น
     
    คาคาชิเอาแก้วช็อกโกแล็ตร้อนมาวางไว้ตรงหน้าเด็กหนุ่มแล้วนั่งลงบ้าง

    ก่อนที่เธอจะถามครู ครูขอให้เธอตอบมาก่อน 
    ซาสึเกะพยักหน้า พยายามเก็บความร้อนใจเอาไว้ให้มากที่สุด

    เธอคุยอะไรกับนารุโตะเมื่อวาน คำถามที่ทำเอาอีกฝ่ายกระตุก สีหน้าสำนึกผิด

    ผมมันแย่จริงๆ ผมทำนารุโตะร้องไห้ ผมบอกว่าผมไม่อยากเห็นหน้าเขา......

    นารุโตะเขาว่าอะไร เธอถึงไปว่าเขาแบบนั้น

    เขาชวนผมไปกินราเม็ง แต่ผมปฏิเสธ เขาบอกอีกว่าครูก็ไป แล้วก็จะชวนซากุระไปด้วย ผมก็เลย..

    โกรธงั้นสิ เธอคิดว่าครูกับนารุโตะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยใช่ไหมล่ะ

    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่ใช่ 
    มือของซาสึเกะเริ่มกำแน่น ใบหน้าที่นองน้ำตาทำให้เขารู้สึกเหมือนฟ้าฟาดลงมากลางใจ 

    ครูผมอยากเจอนารุโตะ!!!! เมื่อวานเขาตะโกนร้องไห้ใส่หน้าผมว่าจะไม่มาให้เห็นอีก 
    รวมถึงลูกด้วย!!!!!


    โจนินหนุ่มเอามือกุมขมับ นี่ซาสึเกะยอมรับแล้วสินะ 
    ไม่สิความจริงอาจจะพอรู้และเริ่มยอมรับมาตั้งนานแล้วก็ได้แต่พอเห็นนารุโตะทำท่าทางปกติเลยไม่กล้าพูด 
    จนเมื่อนารุโตะทนไม่ไหวระเบิดออกมาเองเลยมั่นใจสิท่า

    ไม่เข้าใจทั้งที่ใจก็ตรงกันทั้งคู่แต่ทำไมเรื่องมันถึงบานปลายมาได้ขนาดนี้ 
    คาคาชิคิดพลางนึกเห็นร่างที่นอนนิ่งอยู่ที่โรงพยาบาล

    อีกสักสองสามวันครูจะพาเธอไปหานารุโตะแล้วกัน 

    คาคาชิตัดสินใจไม่บอกอะไรมากกว่านั้นและเลี่ยงที่จะไม่ให้ซาสึเกะไปเจอเด็กสาวก่อนที่จะพ้นกำหนดสามวัน
     
    ตอนนี้นารุโตะเปราะบางเกินไปที่จะเผชิญหน้า 
    ดั่งแก้วร้าวที่พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อหากไปสัมผัสอย่างไม่ระวัง 

    ขอให้นารุโตะและเด็กในท้องอย่าเป็นอะไรไปเลย

    โจนินหนุ่มรู้ดีลูกเป็นสิ่งสุดท้ายที่ค้ำชูเด็กสาวให้ยืนหยัดขึ้นได้ เป็นหวังเดียว...และหากเสียไป....
    เขาเองก็ไม่อยากจะนึกว่านารุโตะจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
     

    คนที่สูญเสีย.............เขาเห็นมามากมาย ไม่จบด้วยการฆ่าตัวตายก็จมอยู่กับความเศร้าหมองไปทั้งชีวิต 
    น้อยคนเหลือเกินที่จะกลับมาร่าเริงเข้มแข็งและมีจุดหมายในชีวิตใหม่ได้ 

    แล้วเรื่องแบบนี้ทำไมต้องเกิดกับลูกศิษย์ของเขา นารุโตะยังเด็ก
     
    และเป็นเด็กที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก็ต้องเจอกับเรื่องหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว 
    แต่ก็จะพยายามฝ่าฟันมาตลอด แต่ครั้งนี้มันเกินที่ไหล่บางๆนั้นจะรับไหวแน่ 

    ถ้าเสียลูกล่ะก็............. 

    ถ้าเสียไปจริงๆล่ะก็..............................

    อาจจะตัดสินใจตายไปเลยก็ได้ ตายทั้งที่ยังไม่รู้ว่าซาสึเกะรัก ทั้งแม่ทั้งลูก

    ฉันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่นารุโตะคุง!!!

    คาคาชิหลังจากเอ่ยปากบอกเด็กหนุ่มว่าจะพาไปหานารุโตะ 
    ทำให้ซาสึเกะเบาใจไปบ้างแต่ไอ้สังหรณ์แปลกๆมันก็ยังคงรบกวนจิตใจของเขาอยู่เรื่อยๆ พอกลับมาถึงบ้าน
    ในสวนที่เขาเคยปลูกไม้หลากหลายไว้ วันนี้กลับดูหมองๆผิดปกติ
     ดอกไม้ที่เคยสดกลับแห้งเฉาร่วงหล่น
    ใบไม้ก็ทิ้งใบ
     

    ชักจะแปลกๆแล้วสิ เด็กหนุ่มพยายามไม่คิดอะไรทางลบ 
    ขจัดความว้าวุ่นใจไปแล้วตั้งหน้าตั้งตาดูแลสวนให้สวยสด ละอองน้ำจากสายยางถูกสาดไปทั่วเหล่าใบเขียวๆ 
    ซาสึเกะดูแลมันด้วยหวังว่าสักวันนารุโตะอาจจะได้มาเห็นแล้วรู้สึกสบายตา

     ถ้าคลอดแล้วฉันจะไม่ปล่อยนายอีกเลย นารุโตะ ทั้งนาย ทั้งลูกของนาย....ลูกของเรา... 

    ซาสึเกะคิดพลางวาดภาพเจ้าตัวเล็กที่หน้าตาคล้ายๆเขากับนารุโตะวิ่งซนไปมาบนบ้านและเล่นอยู่ในสวน 
    แค่คิดมันก็ทำให้เขาเผลอตัวยิ้มออกมาซะนี่ 
    จะว่าไปน่าจะซักสองคนกำลังดีแต่ว่าคนอุ้มท้องจะยอมรึเปล่าหนอ 
    ตอนนี้คงได้แต่รอวันที่คาคาชิจะพาเขาไปหานารุโตะล่ะนะ ถ้าเจอแล้วจะกอดให้แน่นเชียว 

    ยอมรับตัวเองเลยว่าเป็นพวกหึงแรงเหมือนกันแฮะ
    เด็กหนุ่มนึกพลางหยุดรดน้ำต้นไม้เปลี่ยนไปพรวนดินที่โค่นต้นกุหลาบหินแทน


    *************************

    ช่วงสายคาคาชิกลับเข้าไปเยี่ยมนารุโตะอีกครั้ง พอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเด็กสาวนั่งพิงหมอนหลับตานิ่ง 
    จากอากัปกิริยาเขาพอจะเดาได้ว่าทำสมาธิอยู่ คาคาชิเลยเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงเงียบๆ 
    นึกแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆร่างบอบบางถึงได้เปลี่ยนแปลงท่าทางไปได้รวดเร็วนัก 

    เมื่อวานเขาจำได้ว่านารุโตะยังทำหน้าทุกข์ทรมานอยู่แท้ๆ
    แต่วันนี้ใบหน้าที่ดวงตาปิดสนิทนั้นกลับเรียบนิ่งสงบดูไร้ความเจ็บปวดจากวันก่อนก่อนโดยสิ้นเชิง
     
    ไม่นานนักร่างที่นั่งตัวตรงอิงหมอนก็เปิดเปลือกตาขึ้น

    นึกยังไงถึงได้ทำสมาธิ

    ครูอิรุกะเคยสอนว่าสมาธิจะทำให้เกิดพลัง ผมเลยตั้งสมาธิ นึกถึงลูกในท้อง
    ขอให้ลูกแข็งแรง......
     ปลอดภัย.....

    ร่างที่นั่งพิงหมอนยิ้มเย็นหากซ่อนความอบอุ่นไว้ คาคาชิเห็นก็เอามือขยี้หัวเด็กสาวเบาๆ

    เก่งนักนะเรา

    ไอ้เราซะอีกที่กังวลจนเกินเหตุนึกว่าตอนนี้จะนั่งซึมไม่ก็นั่งร้องไห้
    ที่ไหนได้กลับรู้วิธีฟื้นฟูร่างกายกับจิตใจได้เองเลยแฮะ
     

    เห็นอีกฝ่ายอาการดีขึ้นเลยอยากจะลองหยั่งเชิงเรื่องที่จะพาซาสึเกะมาเยี่ยมดู


    นี่ นารุโตะเรื่องซาสึเกะ เธอจะเอาไง จะคุยให้เคลียร์ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ

    หน้าขาวนวลหลังจากยิ้มให้แล้วก็หันกลับไปมองที่นอกหน้าต่างด้านนอกตั้งใจที่จะไม่ตอบคำถาม

    ที่ต้นไม้สูงแผ่กิ่งก้านข้างหน้าต่างมีรังนกอยู่
     
    ลูกนกตัวเล็กร้องจิ๊กจั๊กคอยอาหารที่ไม่นานนักก็มีแม่นกบินโฉบมาเกาะที่ขอบรังแล้วป้อนเหยื่อให้ 
    ภาพนั้นทำให้เขาเข้มแข็ง แค่แม่นกตัวเดียวยังเลี้ยงดูลูกได้.................

    และฝันเมื่อคืนก่อนยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งและความมั่นใจให้เขา...............................................

    ครูฮะ เห็นนกนั่นไหมน่ะ นารุโตะเอ่ยพลางชี้มือให้อีกฝ่ายมองตาม

    อือ นกบลูทิสต์นี่นา 

    ผมว่ามันเก่งดีนะ 

    เด็กสาวไม่พูดอะไรอีกแต่ไหลตัวลงนอน
     คาคาชิจัดหมอนให้และดึงผ้าห่มมาห่มจนมิด
    นึกถึงคำที่โฮคาเงะสาวบอก สามวัน
     กำหนดคือสามวัน 
    ถ้าบอกรังแต่จะเพิ่มความเครียดและกดดันร่างที่นอนอยู่นี่เปล่าๆ

    ครู ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงผมก็ไม่แท้งแน่ล่ะ 
    นารุโตะพูดราวกับรู้ว่าเขากังวลอยู่ทำเอาเขาเองก็ตกใจ

    รู้เรื่องกำหนดสามวันแล้วรึ!!! แต่ว่าไปเอาความมั่นใจนั่นมาจากไหนขนาดท่านซึนาเดะยังหนักใจ

    ลูกสาวผมน่ะแข็งแรงมากนะ 
    ครั้งนี้นารุโตะยิ้มมุ่งมั่นยิ่งทำให้โจนินหนุ่มอึ้งหนักไปอีก เริ่มสงสัยว่าเด็กสาวรู้ได้ยังไง

    หรือว่าท่านซึนาเดะบอก ไม่ทันได้ถามหาคำตอบร่างที่พูดเมื่อสักครู่ก็หลับผล็อย 
    คาคาชิจึงเลี่ยงออกจากห้องไปเบาๆแบบขามา พอเสียงประตูปิดลงร่างที่นอนหลับก็ลืมตาโพลง

    ครูฮะ ผมขอโทษเรื่องที่ผมตัดสินใจไปแล้วอย่างหนึ่งแต่ไม่ได้บอก

    ผมรู้ดีถ้าผมบอกครู ครูคงต้องบอกซาสึเกะต่อแน่ เพราะฉะนั้นอย่ารู้เลยนะฮะ
     เด็กสาวพลิกตัวนอนตะแคงมองนกที่กางปีกบินอิสระ ลูกนกน้อยๆในรังรอคอยแม่นกที่ออกไปหาเหยื่อ 
    ไม่ว่าจะมองซักเท่าไหร่ก็เห็นแค่แม่นกเท่านั้นที่บินออกไปและกลับเข้ามาที่รัง.....

    หน่วยแพทย์และตัวซึนาเดะเองเฝ้าดูอาการของเด็กสาวอย่างใกล้ชิดอีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะพ้นสามวัน 
    ความห่วงและกังวลว่าเด็กจะแท้งลดน้อยลงไป หญิงสาวจึงคลายใจพักผ่อนได้บ้าง

    ตอนเช้าก็เดินเข้ามาตรวจอาการนารุโตะเช่นเคย
     และก็เป็นเช่นเดิมร่างที่อยู่ในห้องจะตื่นอยู่ก่อนเสมอ
    และหน้าต่างที่เคยถูกปิดถูกเปิดออกให้ห้องรับอากาศยามเช้าตรู่
     
    แดดอ่อนๆสาดส่องพาให้ภาพที่เห็นนั้นละมุนละไม 
    เด็กสาวนั่งหลับตานิ่งที่โซฟานุ่มสีส้มข้างหน้าต่างดวงหน้านั้นยิ้มบางเป็นสุข 
    สักครู่ก็ลืมตาขึ้นมองโฮคาเงะสาวที่มองอยู่นิ่งงัน

    นั่งสมาธิอีกแล้วล่ะสิ

    เปล่าฮะ แค่นั่งหลับตาแล้วปล่อยใจให้รับพลังอุ่นๆของแสงแดดได้เต็มที่เท่านั้นเองฮะ

    หึ รู้ด้วยเหรอว่าแสงอาทิตย์จะช่วยเติมพลังกายพลังวิญญาณ

    เจ้าหนูเขาสอนน่ะ แหะ แหะ ว่าจบก็ลูบท้องอย่างรักใคร่ จดอีกฝ่ายอดถามไม่ได้

    เจ้าหนูในท้องน่ะรึ

    ผมเล่าให้ป้าฟังยัง เรื่องฝันน่ะ แต่ดูท่าจะยังแฮะ

    ฝันที่เห็นคืนก่อนคือตัวเองที่นั่งซุกตัวอยู่ที่โพรงไม้ใหญ่ 
    ร้องไห้คร่ำครวญแต่ไม่นานนักก็มีเด็กสาวคนหนึ่งโผล่มาชวนเขาไปเล่นที่ริมบึง 
    บึงน้ำยามค่ำสะท้อนแสงจันทร์จนทั้งบึงแทบจะเป็นสีเงิน
    ทั้งคู่ลงไปว่ายน้ำที่บึงใส
     บรรยากาศนั้นสลัวลางหากอบอุ่นใจ สนิทใจยิ่ง 
    คงจะเพราะแสงจันทร์ที่ทอลงมานั้นราวกับจะเป็นแสงตะวัน เดือนเพ็ญสวยจับตาดั่งต้องมนต์ 

    เด็กสาวว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆเขาแล้วกอดเอวเขาไว้แน่นเพิ่งจะได้สังเกตเต็มตาว่าเด็กสาวคนนี้ผมเป็นสีดำสนิทยาวสลวย ดวงตานั้นสุกสกาวดั่งว่าจับดวงจันทร์มาขังไว้ในตาคู่นั้นหาก
    แต่ลองเพ่งพิศให้ดีจะเห็นเหลือบฟ้าใสของฟ้าคราม


    หนูจะอยู่กับคุณ คุณจะแข็งแรงขึ้นแน่ แต่ต้องนั่งรับไอแดดตอนเช้าบ่อยๆ

    ทำไมถึงจะอยู่กับฉันแล้วพ่อแม่หนูล่ะ แล้วทำไมถึงรู้ว่าฉันไม่ค่อยสบาย 

    เด็กสาวไม่ตอบแต่ยิ้มให้อย่างน่ารัก มือเล็กเลื่อนขึ้นจับใบหน้าของเขา 
    สัมผัสที่ช่างคุ้นเคยเหมือนกับสัมผัสรักที่เขาลูบท้องขณะเจ้าตัวเล็กอยู่ในนั้น 

    แม่คะ หนูรักแม่ รอดูหนูลืมตานะ 

    ทันใดนั้นเขาก็ตื่นจากฝัน ที่ข้างแก้มมีน้ำตาไหลอาบ หากเป็นน้ำตาแห่งความปิติ มือกุมรอบท้องแน่น
    ลูกของฉัน ความเข้มแข็งฟื้นคืนสู่ใจฉับพลัน 


    ซึนาเดะมองคนที่นั่งเล่าสีหน้ามีความสุขก็อดจะดีใจไม่ได้

    ถ้าอย่างงี้ ไงก็ไม่แท้งแล้ว ดีจริงๆ

    ป้าซึนาเดะ อย่าลืมที่สัญญานะ เรื่องนั้นน่ะ 
    หญิงสาวหุบยิ้มทันที ใจเริ่มห่วงขึ้นมาอีกระลอก แต่ก็ไม่อาจเอ่ยทักท้วง 
    แววตามุ่งมั่นของคนตรงหน้าทำให้เธอต้องยอมแม้ว่าจะห่วงสักปานใดก็ตาม

    ตกลงจะไม่บอกคาคาชิจริงๆใช่ไหม ถึงยังไงเขาก็ครูเธอ เป็นคนที่ห่วงเธอพอๆกับฉัน

    ไม่ล่ะ เพราะห่วงนั่นแหละที่จะทำให้ซาสึเกะรู้ ดังนั้นผมจะไม่บอกเด็ดขาด

    แล้วตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ล่ะ

    คืนนี้

    เดี๋ยว ทำไมถึงไม่เป็นตอนเช้าพรุ่งนี้ล่ะ

    ครูจะมาทันน่ะสิ เผลอๆได้ลากเจ้านั่นมาจะยิ่งยุ่งยากหนักเขาไปอีก
    ผมจิตใจอุตส่าห์ดีขึ้นแล้วร่างกายก็มีแรงแล้ว
     ไม่อยากจะดิ่งวูบตอนเจอหมอนั่นอีกหรอกนะ

    ในเมื่อเด็กสาวพูดถึงขนาดนี้โฮคาเงะอย่างเธอก็คงจะขัดไม่ได้

    แต่ทำไมถึงคิดว่าซาสึเกะจะมาล่ะ

    แค่สังหรณ์เท่านั้น แต่ความเป็นไปได้ก็สูงมาก

     

    ถ้าอย่างนั้น........ หญิงสาวก้มลงจูบหน้าผากนารุโตะแผ่วเบา

    รักษาตัวเองด้วยล่ะ แล้วฉันจะไปหาบ่อยๆ

    แหม ป้า ให้พี่ชิซุเนะไปอยู่เป็นเพื่อนแล้วไง แล้วก็อีกอย่างมันก็บ้านป้าเองไม่ใช่เร๊อะ~”

    แต่ไม่ใช่บ้านที่อยู่ประจำนี่ แถมไม่ได้อยู่ในแคว้นโคโนะฮะอีกตังหาก แต่อยู่ตั้งฮิโนะคุนิ ยังไงฉันก็ห่วง

    ขอบคุณฮะ 

    นารุโตะกอดหญิงสาวกลับ ก่อนที่ซึนาเดะจะตรวจร่างกายให้
    แล้วช่วยเก็บของและเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง
     
    หญิงสาวไปติดต่อเรือจ้างที่เดินทางระหว่างแคว้นเอาไว้ให้เรียบร้อยในตอนบ่ายก่อนที่
    ส่งชิซุเนะมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนู
     

    ตอนค่ำคาคาชิมาเยี่ยมครั้งหนึ่งแต่เพราะของที่เก็บใส่ประเป๋ามีไม่มากนักทำให้โจนินหนุ่มไม่ได้เอะใจ 
    ด้วยคิดว่าคงเป็นของเด็กสาวชิซุเนะ

    นารุโตะ ครูกลับล่ะนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน

    ฮะ พรุ่งนี้………”

    คงไม่เจอแล้วล่ะฮะ 

    มองเห็นครูที่เคยดูแลเดินไกลออกไปจากเขตโรงพยาบาลทางหน้าต่าง 
    ความรู้สึกเหงาเศร้าเริ่มก่อตัวขึ้นอยู่ภายในอีกครา เด็กสาวอายุมากกว่าเดินเข้าปลอบใจแล้วก้มมองนาฬิกา

    ได้เวลาแล้วค่ะ ท่านซึนาเดะป่านนี้คงรออยู่ที่ท่าเรือแล้ว 

    นารุโตะมองหญิงสาวพยักหน้ารับรู้


    ไปกันเถอะพี่ชิซุเนะ

    ******************************

    อ้าว ซาสึเกะ ลงทุนมารอแต่เช้าเชียวรึ โจนินหนุ่มเอ่ยเมื่อเห็นลูกศิษย์ของตนมายืนรออยู่หน้าบ้าน 

    วันนี้ครบสามวันแล้ว ยังไงผมต้องเจอนารุโตะให้ได้ 

    เออ รู้น่าว่าคนหนุ่มเลือดร้อน เอาไปกันเถอะ นารุโตะป่านนี้คงยังหลับอยู่ก็ได้ 

    ซาสึเกะตามคาคาชิจนมาถึงที่โรงพยาบาล สายตาเริ่มปริวิตก เป็นห่วงนารุโตะขื้นมา
    โจนินหนุ่มเห็นสีหน้านั้นเลยเอามือตบหลัง
     ไม่ให้ลูกศิษย์คิดมาก ใจยังนึกถึงโฮคาเงะสาวอยู่เนืองๆ 
    นี่ถ้ารู้ว่าเขาพาเจ้าหนูอุจิวะมาจะว่ายังไงกันนะ มีหวังเขาคงโดนสวดยับล่ะงานนี้ 

    ครู นารุโตะเป็นอะไร 

    เด็กหนุ่มตัดสินใจถามหลังจากเงียบเดินตามมานาน คาคาชิถอนใจยังไงเดี๋ยวก็ต้องรู้ 
    รู้มันตอนนี้เลยจะดีกว่า
    แต่คำตอบที่ได้ยินทำเอาซาสึเกะแทบจะลงไปกองอยู่กับพื้นให้ได้

    ตกเลือด ตอนนี้อยู่ระหว่างรอดูอาการว่าจะแท้งรึเปล่า เด็กหนุ่มอุจิวะจ้องครูของตนเขม็ง หน้าเริ่มซีด
    ทำให้คาคาชิต้องพูดต่อ

    แต่ท่าทางคงไม่เป็นไรหรอก ก็เห็นแข็งแรงขึ้นด้วยนี่นา อยู่นี่ท่านซึนาเดะประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก

    พอมาถึงหน้าห้องกำลังจะเปิดประตูหน่วยแพทย์ที่อยู่ในทีมดูแลเด็กสาวก็เดินมา 
    มองโจนินหนุ่มแล้วเลื่อนมามองเด็กหนุ่มอีกคน 

     

    อ้าว คราวนี้เจ้าหนูมาเยี่ยมเพื่อนด้วยเหรอ 

    ซาสึเกะมองสายตาเย็นชาที่อีกฝ่ายพูดไม่สบอารมณ์อย่างแรง
     
    จนคาคาชิต้องห้ามเอาไว้ไม่งั้นหน่วยแพทย์คนนั้นได้โดนลูกบอลเพลิงไม่ก็พันปักษาแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

    เออ คาคาชิซังมาคงเสียเที่ยวแล้วล่ะครับ เจ้าหนูไม่ได้อยู่นี่แล้ว

    แล้วย้ายไปอยู่ห้องไหนหรือครับ 

    ไม่ได้ย้ายไปห้องไหนหรอกครับ แต่ อ้าว ท่านซึนาเดะไม่ได้บอกคาคาชิซังหรอกหรือครับ 
    สีหน้าหน่วยแพทย์งุนงงเพราะปกติเห็นรู้อะไรกันแค่ไม่กี่คนเรื่องเจ้าหนูนารุโตะท้องและคนนั้นก็คือคาคาชิเอง

    แล้วนารุโตะย้ายไปไหน!!!!! 

    ซาสึเกะขึ้นเสียงทันที เริ่มหงุดหงิด เอาแต่พล่ามกันอยู่ได้ เขาอยากจะเจอนารุโตะจะตายอยู่แล้วนะ

    ไม่เอาน่า ซาสึเกะ เขาก็กำลังจะบอกอยู่นี่ไงล่ะ

    นารุโตะ ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วล่ะครับ ตั้งแต่เมื่อคืนหลังคาคาชิซังออกไปแป๊บเดียวเอง

    แล้วไปที่ไหน!!! 

    ทั้งคู่ที่รู้ข่าวตกใจ ช็อกไม่คิดว่านารุโตะจะตัดสินใจเร็วแบบนี้
     

    ไม่รู้สิครับ บอกแค่ว่าไปท่าเรือ ท่านซึนาเดะไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น 
    แต่เห็นให้เด็กสาวชิซุเนะมารับนารุโตะไป แบกกระเป๋าไปด้วย 
    เมื่อคืนเขายังบอกขอบคุณผมอยู่เลย แล้วก็ลาไป เพราะเห็นว่าท่านซึนาเดะดูแลเองผมก็เลยไม่ห้าม


    เด็กหนุ่มพูดไม่ออกได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น 
    จนหน่วยแพทย์คนนั้นเดินเลี่ยงไปดูคนไข้รายอื่นต่อไปราวกับว่าจะตอกย้ำความโง่เขลาของตัวเอง
    หน้าของนารุโตะที่นองน้ำตาลอยเด่นชัดเจน
     

    แค่ชั่วข้ามคืน.........................................................
    แต่ก็สายเกินไป..............................

    ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า!! ฮ่า!!! ฮ่า!!!!!!

     
    เด็กหนุ่มเริ่มหัวเราะราวคนบ้า จนคาคาชิต้องพาออกจากที่นั่น 

    คาดหวังไว้มากมายว่าถ้าเจอจะกอดเอาไว้ จะขอโทษ จะทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ
    จะไม่ขัดใจ จะไม่ปล่อยไปอีก และที่สำคัญ
     จะบอกความรู้สึกที่เก็บมานานให้ได้รับรู้ แต่ทว่า.....

    สาย.....สายไป.......คนที่เขาต้องการจะบอกไม่ได้อยู่รับฟังอีกแล้ว..........................

    ซาสึเกะ ซาสึเกะ ใจเย็นไว้ ซาสึเกะ ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะไม่ได้ยิน 
    หลังจากหัวเราะลั่นเหมือนคนสติแตกก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา 
    ไม่โต้ตอบอะไรมาเลยสักอย่าง คาคาชิยิ่งหนักใจเข้าไปอีก ทำได้แค่นั่งอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น
    แต่อยู่ๆเด็กหนุ่มก็ลุกพรวด


    เดี๋ยว!!! ซาสึเกะจะไปไหน!!!

    นารุโตะ จะไปตามนารุโตะ จะไปท่าเรือ 

    คาคาชิรีบตามร่างที่วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว รู้ว่าถ้าให้ไปคงหายไปอีกคนแน่ 
    เพราะรู้ดีตราบใดที่ไม่เจอคนที่หา ซาสึเกะก็จะหาไปเรื่อยๆ 

    เรื่อยๆจนกว่าจนกว่าจะเจอ และจะไม่หยุด ไม่พัก ไม่คอยใคร 
    และท่าเรือก็อยู่ไกลจากที่นี่มากแถมไม่ได้มีแค่ท่าเรือเดียว

    เดี๋ยวครูถามท่านซึนาเดะให้ เธอรออยู่ที่บ้านเถอะ 
    แต่ยิ่งเป็นการจุดชนวนให้อีกฝ่าย

    ใช่ ต้องถาม ต้องถามท่านซึนาเดะ 

    ซาสึเกะพูดย้ำก่อนเบนเส้นทาง
     พอมาถึงที่ห้องทำงานของโฮคาเงะกลับเจอจิไรยะแทน 
    ตอนนั้นเด็กหนุ่มแทบจะปีนขึ้นโต๊ะคว้าคอชายร่างสูงถามแต่โดนหลังมือเสียก่อนเลยสลบคาโต๊ะ

    มันอะไรกัน คาคาชิคุง เจ้าหนูอุจิวะนี่มันเป็นอะไรของมัน ตางี้ขวางเชียว

    แต่แววตามันเหมือนจะตายให้ได้ยังไงชอบกล จิไรยะคิด

    ท่านคงรู้เรื่องนารุโตะจากท่านซึนาเดะแล้วสินะครับ
    เออ รู้แล้ว ถึงไม่ละเอียดก็เหอะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหนูนี่ต้องกระหืดกระหอบตามตัวนารุโตะขนาดนั้นด้วย 
    ว่าพลางชี้ไปที่ร่างที่นอนสลบอยู่ที่โซฟา

    รักไงครับ 

    จิไรยะมองไปที่เด็กหนุ่มนิ่ง ก่อนจะถอนใจบ้าง 

    ถ้าจะถามฉัน ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ายัยนั่นมีบ้านอยู่ที่ไหนบ้าง 
    แต่บอกแค่ว่าจะอยู่ดูแลเจ้านารุโตะสักอาทิตย์ให้ฉันทำหน้าที่แทนไปก่อน

    อาทิตย์นึงหรือครับ โจนินหนุ่มทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเดินไปซาสึเกะแล้วโค้งตัวเคารพ

    ผมคงไม่รบกวนแล้วล่ะ ครับ ส่วนซาสึเกะคุงผมจะจัดการเอง แล้วก็ขอโทษแทนที่เสียมารยาทครับ 
    จิไรยะไม่ว่าอะไรโบกมือให้ไปได้เท่านั้น

    ทำไมมันถึงได้ยุ่งขนาดนี้กันนะ เจ้าหนู 
    เสียงรำพึงอ่อนใจเล็ดลอดออกมาจากปากของหนึ่งในสามนินจา

    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×