สวัสดีคะทุกคน
ออยล์เองนะคะ
วันนี้ก็มาเขียนอีกเช่นเคยนะ
คราวที่เเล้วจบ
simple tense กับ past simple ไปเเล้ว
วันนี้เรามาขึ้น
..
...
....
.....
......
ขึ้นไรอ่ะ = =a อ๋อใช่ รู้เเระ
วันนี้เราจะมาขึ้น Present Continus กันนะคะ >w<
มาอ่านกันเลยยยยยยยยยยยย...........................
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb -ing + ( Object )
หลักการใช้
1. เมื่อการกระทำดำเนินอยู่ในปัจจุบัน (ขณะพูด) และต่อเนื่องมาถึงบัดนั้น และจบในอนาคต เช่น
My uncle is listening to the radio.(ลุงของผมกำลังฟังวิทยุ)
What is he doing? (เขากำลังทำอะไรเหรอ?)
2. การกระทำที่เกิดขึ้น ต้องเกิดขึ้นขณะนั้นจริง เช่น
More and more people are using Internet. (ผู้คนเริ่มเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทุกที)
Accidents are happening more and more frequently. (อุบัติเหตุเกิดขึ้นมากและบ่อยขึ้น)
3. แสดงเหตุการณ์ในอนาคต เกิดขึ้นแน่นอน เช่น
We are planning to go to the beach next week. (พวกเราวางแผนจะไปเที่ยวทะเลอาทิตย์หน้า)
She is going abroad next Tuesday. (หล่อนจะไปต่างประเทศวันอังคารหน้า)
4. ถ้าประโยคเชื่อมด้วย and ( 2 ประโยค) ให้ตัด Verb to be ที่อยู่หลัง and ออก เช่น
My father is smoking a cigarette and watching television. (คุณพ่อของฉันกำลังสูบบุหรี่และดูโทรทัศน)์
*กริยาที่นำมาใช้ใน Tense นี้ไม่ได้!!!*
1. กริยาที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น
I see the beautiful mountain.(ฉันดูภูเขาอันงดงาม) ไม่ใช้ I am seeing the beautiful mountain.
2. กริยาที่แสดงถึงภาวะของจิต, แสดงความรู้สึก, ความผูกพัน ไม่นิยมนำมาใช้ เช่น
I know him very well (ผมรู้จักเขาดี) อย่าใช้ : I am knowing him very well.
He believes that taxes are too high.(เขาเชื่อว่าภาษีแพงเกินไป) อย่าใช้ : He is believing that taxes are too high.
หลักการเติม -ing
1). กริยาที่ลงท้ายด้วย E ให้ตัด E ทิ้ง แล้วเติม -ing
2). กริยาที่ลงท้ายด้วย EE ให้เติม -ing ได้เลย
3). กริยาที่ลงท้ายด้วย IE ให้เปลี่ยนเป็น Y ก่อน แล้วเติม -ing
4). กริยาที่มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว พยางค์เดียว เพิ่มตัวสะกดอีกตัวหนึ่ง แล้วเติม -ing
5). กริยาที่มี 2 พยางค์ออกเสียงหนักที่พยางค์หลัง มีสระและตัวสะกดตัวเดียว เพิ่มตัวสะกด แล้วเติม -ing
6). กริยา 2 พยางค์ต่อไปนี้ เพิ่มตัวสะกดเข้ามาแล้วเติม -ing หรือไม่ก็ได้
[แบบอเมริกัน] : travel => traveling, quarrel => quarreling
[แบบอังกฤษ] : travel => travelling, quarrel => quarrelling
การทำกริยาให้อยู่ในรูป Present ContinuousTense
ในหน้านี้ครูสอนการทำกริยาให้อยู่ในรูป Present Continuous Tense ทั้งเมื่อเป็นประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฎิเสธ
รูปกริยาใน Present Continuous Tense ประกอบด้วย กริยา BE (ใน present tense เช่น is, am, are) และกริยาที่เติม -ing ตัวอย่างต่อไปนี้ ครูจะใช้กริยา sing เป็นตัวอย่างในการสร้างรูปกริยาใน Present Continuous Tense
|
ประธาน |
กริยา BE |
กริยาเติม -ing |
|
I |
am |
singing |
|
You |
are |
singing |
|
He |
is |
singing |
|
She |
is |
singing |
|
It |
is |
singing |
|
We |
are |
singing |
|
They |
are |
singing |
วิธีการเติม -ing
โดยทั่วไปเราสามารถเติม -ing ต่อท้ายกริยาได้ทันที แต่ในบางกรณีเราอาจต้องเปลี่ยนแปลงกริยาตั้งต้นก่อนที่จะเติม -ing ลงไปได้ เช่น
|
กริยาลงท้ายด้วย... |
วิธีการเติม -ing |
ตัวอย่าง |
|
หน้าพยัญชนะท้ายมีสระ 1 ตัว |
ใส่พยัญชนะท้ายเพิ่มไปอีกหนึ่งตัวแล้วเติม -ing |
swim - swimming |
|
หน้าพยัญชนะท้ายมีสระหนึ่งตัวและลงท้ายตัว E |
ตัด E ออกแล้วเติม -ing |
come - coming |
|
คำอื่นๆ |
เติม -ing |
say - saying |
ประโยคปฎิเสธใน Present Continuous Tense ทำได้ด้วยการเติม not หรือ n't หลังกริยา BE
|
ประโยคบอกเล่า |
ประโยคปฏิเสธ |
ปฏิเสธแบบลดรูป |
|
I am eating. |
I am not eating. |
I'm not eating. |
|
You are working. |
You are not working. |
You aren't working. |
|
He is driving. |
He is not driving. |
He isn't driving. |
|
She is teaching. |
She is not teaching. |
She isn't teaching. |
|
It is raining. |
It is not raining. |
It isn't raining. |
|
We are reading. |
We are not reading. |
We aren't reading. |
|
They are writing. |
They are not writing. |
They aren't writing. |
ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษมี 2 แบบ ได้แก่ การตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบว่า ใช่หรือไม่ (yes/no question) และการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เจาะจงว่าใคร(who), อะไร(what), เมื่อไหร่(when), ที่ไหน(where), ทำไม(why) และ อย่างไร (how) โดยคำถามประเภทนี้มักขึ้นตั้นคำบอกคำถามด้วย wh- เราจึงเรียกว่าคำถามประเภทนี้ว่า Wh- question
การสร้างประโยคคำถามเพื่อคำตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ (Yes/No question) ใน Present Continuous Tenseย้ายกริยา BE ไปไว้หน้าประโยค
การสร้างประโยคคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เจาะจง (Wh-question) ใน Present Continuous Tense ย้ายกริยา Be ไปไว้หน้าประโยค แล้วเติมคำแสดงคำถามลงไป
|
ประโยบอกเล่า |
ประโยคคำถาม แบบให้ตอบว่า ใช่/ไม่ใช่ |
ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh- |
|
I am eating. |
Am I eating? |
What am I eating? |
|
You are crying. |
Are you crying? |
Why are you crying? |
|
He is going. |
Is he going? |
Where is he going? |
|
She is arriving. |
Is she arriving? |
When is she arriving? |
|
It is sleeping. |
Is it sleeping? |
Why is it sleeping? |
|
We are leaving. |
Are we leaving? |
When are we leaving? |
|
They are fighting. |
Are they fighting? |
Why are they fighting? |
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ให้ใส่คำบอกคำถามไว้ข้างหน้าประโยคคำถามแบบ Yes/No โดยให้คิดว่า ถ้าเราไม่ใส่คำบอกคำถามให้แน่นอนลงไป ผู้ตอบก็จะตอบแค่ ใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าเราใส่คำบอกคำถาม เช่น ใคร(who), อะไร(what), เมื่อไหร่(when), ที่ไหน(where), ทำไม(why) และ อย่างไร (how) ไว้แล้ว ผู้ตอบจะต้องตอบให้ตรงกับคำบอกคำถาม ดังนั้นความแตกต่างเรื่องการสร้างประโยคคำถามทั้งสองแบบนี้อยู่ที่ แบบหนึ่งไม่มีคำบอกคำถาม ในขณะที่อีกแบบหนึ่งมีคำบอกคำถาม
Tense ที่ใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน
Tense สำคัญที่ใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบันได้แก่ Present Continuous, และ Present Simple
นอกจากกฎการใช้แล้ว ครูยังได้บอกข้อควรระวังในการใช้ Tense ทั้งสองนี้ด้วย ซึ่งครูหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักเรียนนะครับ
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด ให้ใช้ Present Continuous ซึ่งเราอาจเพิ่ม adverb of time (now, just now, right now, etc.) เพื่อบอกรายละเอียดของเวลาที่การกระทำนั้นเกิดได้อีกด้วย เช่น
- The children are just having breakfast.
เด็กๆ กำลังทานอาหารเช้ากันอยู่พอดีเลย - He is listening to the radio right now.
เขากำลังฟังวิทยุอยู่ในตอนนี้ - Please don't make so much noise. I'm studying.
กรุณาอย่าส่งเสียงดัง ฉันกำลังลังอ่านหนังสืออยู่ - "Where is Nitty?" "She's taking a bath."
"นิตตี้อยู่ไหน?" "หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่" - Let's go out now. It isn't raining any more
ออกไปข้างนอกกันเถอะ ฝนหยุดตกแล้ว (ในขณะนี้ฝนไม่ตก)
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าเป็นการกระทำที่ทำอยู่ในปัจจุบันก็ให้ใช้ Present Continuous
ลองดูตารางต่อไปนี้
|
ชนิดของการกระทำ |
ตัวอย่างประโยค |
คำอธิบาย |
|
การกระทำที่เกิดในขณะที่พูด |
John is winning the game. |
จอห์นกำลังชนะเกมส์นี้ |
|
It's raining outside. |
ฝนกำลังตกอยู่ข้างนอก | |
|
Soraya's working in the library. |
โซราย่ากำลังทำงานอยู่ในห้องสมุด | |
|
Sihol is spending Christmas with his family. |
ซิฮอลกำลังใช้เวลาในช่วงวันคริสมาสกับพ่อแม่ | |
|
สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย |
Lora lives in Florida . |
ลอร่าอาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า |
|
Jean-Paul has red hair. |
ณองปอลมีผมสีแดง | |
|
Martin likes chocolate. |
มาตินชอบช็อกโกแล็ต | |
|
Anna believes in God. |
แอนน่าเชื่อในพระเจ้า |
หมายเหตุ Present Continuous ยังสามารถใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตได้อีกด้วย
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยมี adverb of frequency อยู่ในประโยคด้วย เช่น (always, sometimes) ให้ใช้ Present Simple Tense
- Janes sometimes drops in to see her parents.
เจนส์แวะไปเยี่ยมพ่อแม่ของหล่อนเป็นบางครั้ง - She always cooks dinner at home.
หล่อนทำอาหารเย็นที่บ้านเป็นประจำ - In the summer, Tom usually plays tennis twice a week.
ในฤดูร้อน ทอมมักจะเล่นเทนนิสสัปดาห์ละสองครั้ง
เมื่อต้องการแสดงว่าเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เป็นความจริงตามธรรมชาติ หรือในทางวิทยาศาสตร์ ให้ใช้ Present Simple Tense
- The sun rises in the east and sets in the west.
ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก - The Nile is the longest river in the world.
แม่น้ำไนล์คือแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก - At sea level water boils at 212 degrees Fahrenheit .
ณ ความสูงระดับน้ำทะเล น้ำเดือดที่อุณหภูมิ 212 องศาฟาเรนไฮท์
- Jack often comes to work late.
แจ็คมาทำงานสายบ่อยๆ - I watch television every night.
ฉันดูโทรทัศน์ทุกคืน
| ระวัง |
|
การกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นนิสัย เราไม่ควรใช้ Present Simple Tense เช่น
จากประโยคดังกล่าว drives อยู่ในรูป Present Simple Tense เพราะแสดงถึงว่าเป็นการกระทำที่เป็นนิสัยของ Sally แต่ is taking ใช้เป็น Present Continuous Tense เพราะว่า การที่ Sally ขึ้นรถเมล์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องปกติ และไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นนิสัย แต่เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเฉพาะครั้งนี้เท่านั้น |
![]()
| Present Continuous รูปกริยา Subject + is(am,are) + (verb+ing). |
การใช้
1.ใช้ present continuous เมื่อการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่ต่อหน้า(ในขณะที่พูดประโยคนั้น)
1.The sun is shining.
2.The bees are humming.
3.What are you doing?
ในกรณีที่ผู้พูดต้องการ เน้นคำว่า กำลัง ให้หนักแน่นยิ่งจึ้น นิยมเติมคำ just ลงข้างหน้า(just ในกรณีเช่นนี้ไม่มีคำแปลในภาษาไทย)เช่น
4.The children are just having breakfast.
2.ใช้ present continuous ในเหตุการ์ที่ดำเนินอยู่เป็นประจำในขณะที่พูด
นี่เป็นข้อยกเว้นจากหลักท่วไปที่ว่า ใช้ present simple กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น
1.My son works hard this term.
2.He tries his best now.
ขณะนี้เขา(ใช้ความ)พยายามอย่างเต็มที่ (อย่างเตํมความสามารถ)
ประโยคทั้งสองนี้ใช้ตามหลักทั่วไป ซึ่งจะพบว่าเป็นประโยคเนือย ๆ ไม่กระฉับกระแฉง ประโยคดังกล่าวจะมีความหมายดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าใช้ present continuous คือ
1. My son is working hard this term.
2. He is trying his best now.
3.ใช้ present continuous แสดงเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน
การใช้ present coutinuous ในความหมายที่เป็นอนาคตนี้ ปกติเขาใช้กับกริาที่มีการเคลื่อนที่(verbs of movement) แต่จะใช้ กับกริยาอื่นบ้างก็ได้
1.We are going to Paris on Sunday.
2.Dang is coming here next week and is staying here until May.
3.What are you doing next Sunday?
กริยาที่ไม่ใช้ใน Continuous Tenses
|
hear |
ได้ยิน |
love |
จำได้ |
|
see |
เห็น |
hate |
เกลียด |
|
feel |
รู้สึก |
know |
รู้ |
|
smell |
ได้กลิ่น |
understand |
เข้าใจ |
|
taste |
ได้รส,รู้รส |
believe |
เชื่อว่า |
1. I don't see anything here.(ไม่ใช่ I am not seeing....)
ผมไม่เห็นอะไรที่นี้เลย
2. I see what you mean. (ไม่ใช่ I am seeing...)
ผมเข้าใจว่าคุณหมายความถึงอะไร
3.Do you hear the noise? (ไม่ใช่ Are you hearing...)
ผมได้ยินเสียงอะไรไหม
อิ.. อิ.... หมดเเล้ว หมดเเล้ว >o<
ออยล์มีรูปเเถมด้วยเเหละ สวยอ่ะป่าว
หล่อดีนะเนี้ย *///*
คนนี้ก็หล่อ หล่อไปหมดเลยยยย.... อ๊ากกกก........ OoO
ความคิดเห็น