ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดผิดนะฟิคนี้...ที่มีหนูเป็นลูกการิน!

    ลำดับตอนที่ #65 : :>>: บทที่ 62 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 416
      7
      10 ก.พ. 57

                ความเดิมตอนที่แล้ว >>>

     

                ในขณะที่ฉันจมดิ่งลงไปในห้วงความคิดของตัวเอง เสียงเปิดประตูห้องถ่ายเอกสารดังขึ้น พร้อมกับคำประกาศก้องอันน่าย่ำเกรงแลดูคุ้นหู

                “พอแค่นั่นแหละน้ำอบ!

     

    -------------------------------------------------------------------

     

    :>>: บทที่ 62 :<<:

    ลองใจ หรือ ไขคดี (?)

     

                ฉันหันขวับไปมองคนพูดด้วยแววตาที่ตะลึง จู่ๆ ประตูที่เปิดอ้าก็พบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือ...

                “พ่อ! แม่! ทำไมถึง...!?

                “ญาณอาถรรพ์มีประโยชน์กว่าที่คิดนะน้ำอบ ไม่ได้นำความโชคร้ายมาให้แม่อย่างเดียวซะหน่อย”

                แม่ฉันยิ้มหวานข้างๆ พ่อ ในขณะที่พริกหวานได้หยุดโอดครวญ ตัวเขาสั่นเทิ้มราวกับลูกนกเปียกน้ำ พร้อมกับพูดจาวกไปวนมา เพราะดูท่าว่าจะเสียสติไปแล้ว

                “ผมกลัวแล้ว...ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมกลัวแล้ว...ผมขอโทษ”

                “ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกจะจำพิธีกรรมเรียกวิญญาณอาฆาตมาได้”

                พ่อฉันก้าวผ่านเข้ามาในห้อง ลมโหมกระพืออีกครั้ง แต่ดูท่าว่าพ่อกับแม่จะไม่หวั่นเกรง เพราะเพียงแค่พ่อประนมมือสวดบริกรรมคาถาสะกดวิญญาณ ไม่นานนักลมภายในห้องก็สงบลง บรรยากาศภายในห้องกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด

                “...อะแฮ่ม!” พ่อปรายตามองมาทางฉัน พร้อมกับกระแอมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย จึงได้หันไปมองคนที่โอบเอวอยู่ทางด้านหลังของฉันเอง

                “ฮะ...เฮ้ย!?!?

                ฉันอุทานหน้าแดงซ่าน เมื่อพบว่าเทียนหอมยังคงโอบเอวฉันไว้อย่างไม่ยอมปล่อยด้วยท่อนบนที่เปลือยเปล่า จนกระทั่งฉันใช้มือผลักเขาให้ไปไกลๆ เทียนหอมถึงได้ยอมปล่อยฉันออกอย่างง่ายดาย

                “เอ่อ...ขอโทษที”

                ดูเหมือนว่าเทียนหอมจะรู้สึกอายๆ บ้างเหมือนกัน เขาถึงได้ผละออกจากตัวฉันไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะลุกออกมาจากวงเวทย์ที่ฉันวาด เทียนหอมคว้าเอาเสื้อนักเรียนที่ถูกเหวี่ยงออกจากวงเวทย์มาใส่ให้เรียบร้อย ในขณะที่ฉันยังหน้าร้อนวูบวาบไม่หาย

            “การิน วิญญาณดวงนั้นเขาแค้นมากเลยนะ นายไปทำแบบนั้นเขาจะไม่แผลงฤทธิ์ใส่นายเหรอ” แม่หันไปถามพ่อด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ ในขณะที่พ่อกลับไหวไหล่แล้วก้าวเท้ามาหาฉัน พร้อมกับพูดว่า “แล้วไง?”

                “...”

               “เป็นอะไรมากไหมน้ำอบ ยืนไหวไหม” พ่อยื่นมือมาให้ฉันจับ ฉันอมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะคว้ามือพ่อแล้วฉุดให้ตัวเองลุกขึ้นยืน

                “เลือดยังไหลอยู่เลย ไปทำแผลก่อนเถอะ”

                พ่อพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ พร้อมกับพยายามจะยื้อตัวฉันให้เดินไปตามพ่อ ในขณะที่ฉันเริ่มที่จะขืนตัวเพื่อต่อต้านการกระทำของพ่อ

                “ไม่ค่ะ พ่อต้องตอบคำถามหนูก่อน”

                “...???”

                “พ่อรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าวิญญาณอาฆาตตนนี้ต้องการที่จะฆ่าฆาตกรที่ทำอย่างนั้นกับเขา เพราะฉะนั้น ถ้าหนูเรียกพิธีกรรมเรียกวิญญาณอาฆาตออกมา ก็จะเป็นการเรียกดวงวิญญาณให้มาล้างแค้นกับพริกหวานได้โดยตรง?”

                “เอ๊ะ...?”

                “หรือเพราะมันเป็นแผนมาตั้งแต่แรก...เพื่อที่จะลองภูมิเทียนหอม”

                ฉันถามหน้าตาจริงจัง พ่อสบตาฉันด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก จนกระทั่งแม่ที่ดูเหมือนว่าจะทนแรงกดดันระหว่างพ่อกับฉันไม่ไหว ท่านถึงได้โพล่งขึ้นมาบ้าง

                “พอเถอะ พ่อลูกคู่นี้จะทำสงครามประสาทกันไปถึงไหน”

                “น้ำอบ... มันไม่ใช่...”

                “ อย่างที่หนูคิด’ ? พ่อจะพูดคำนี้ออกมาใช่ไหม แต่หนูรู้นะ ว่าแม่เขาจับสัมผัสด้านมืดจากพริกหวานไม่ได้ นั่นเป็นเพราะพริกหวานได้บิดเบือนเศษเสี้ยวกรรมของตัวเอง ดังนั้นเป็นไปได้เหมือนกันที่วิญญาณที่ต้องการจะหาตัวพริกหวานเพื่อทำการแก้แค้นก็ทำไม่ได้เช่นกัน ใช่ไหมพ่อ? ใช่ไหม?”

                ฉันถามด้วยแววตาที่แข็งกระด้าง พ่อถึงกับเงียบกริบเหมือนหมดข้อแก้ตัว ฉันเดินไปหาพริกหวาน ในขณะที่เทียนหอมกับพ่อรีบเข้ามากระชากแขนคนละข้างเอาไว้ และถามขึ้นมาพร้อมกัน

                “จะทำอะไรน่ะ!??

                “พ่อ เทียนหอม ปล่อย!” ฉันสั่งและบิดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แต่ทว่าคนที่เดินตัดหน้าฉันไปกลับเป็น...

                หมับ!

                “นั่นเธอจะไปไหน!!?” พ่อรีบปล่อยแขนฉัน แล้วไปคว้าแขนแม่ให้หันไปประจันหน้ากับพ่อ แม่พูดด้วยแววตาที่เหม่อลอยเหมือนสติไม่ได้อยู่กับตัว “...เพราะมัน เพราะมันคนเดียว ...เพราะมัน ...ฆ่า ...ต้องฆ่ามัน...”

                “ลัล นี่เธอ...?! บ้าเอ้ย!!!

                พ่อสบถพร้อมกับเขย่าตัวแม่จนหัวสั่นคลอน แต่สายตาของแม่กลับจ้องเขม็งไปที่พริกหวานอย่างน่ากลัว

                “เพราะมัน! ต้องฆ่า ฆ่าให้ตาย เพราะมันคนเดียว!!!

                “เทียนหอม! นายเห็นอะไรใช่ไหม!?” ฉันหันไปถามเทียนหอมด้วยสีหน้าที่แตกตื่นสุดขีด เทียนหอมพยักหน้าเบาๆ “...อืม แม่เธอถูกวิญญาณพี่ชาญสิงแล้วแหละ และดูเหมือนว่าเขาจะฆ่าพริกหวานให้ได้ถึงจะยอมออกจากร่าง”

                “ว่าไงนะ!?

                ฉันกับพ่อโพล่งถามพร้อมกัน แต่ทว่าเทียนหอมกลับหันมองไปยังมุมห้องเหมือนเห็นสิ่งที่พวกเรามองไม่เห็น

                “เทียนหอม...นี่นายมองอะไรอยู่” ฉันถามด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดี ในขณะที่พ่อกลับแสยะยิ้มออกมา

                “หึๆ หึๆ เห็นผีน่ะสิ และคิดเหรอว่าแค่นี้แล้วฉันจะแก้ไขไม่ได้!

                พ่อพูดจบ ใช้มือจับขมับแม่ ก่อนที่จะบริกรรมคาถาอะไรบางอย่าง ร่างแม่กระตุกพร้อมกับกรีดร้องเสียงยาวจนน่าหวาดกลัว

                “ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!

                ฟุบ!

                “แม่!” ทันทีที่แม่สลบ ฉันก็พยายามจะพุ่งตัวไปหาแม่ แต่เทียนหอมกลับคว้าแขนฉันไว้ ฉันหันไปประจันหน้าเขาแทบจะทันที “นี่นาย...ปล่อยฉันนะ!

                “สงบสติอารมณ์ก่อนน้ำอบ ...พี่พิ้งค์เขาอยู่ที่นี่กับเรา”

                “!!!?

                “เขาบอกว่าเขาไม่สามารถบอกกับชาญให้เลิกอาฆาตได้ ...ต้องตามอีกคนมาช่วย”

                เทียนหอมพูดเสียงเข้ม ฉันกำลังจะอ้าปากถาม แต่พ่อชิงพูดออกมาเสียก่อน

                “ต้องตามใคร...บอกให้ไว!

                “...ลูกหว้าครับ...”

                “!!!!!” ทั้งพ่อและฉันถึงกับยืนตกตะลึง ในขณะที่เหตุการณ์ในห้องกำลังตกอยู่ในภวังค์กึ่งอลหม่าน เสียงของใครบางคนที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมา “...ถามหาฉันเหรอ?”

     

                ขวับ!!!

                 “ลูกหว้า!???

               ฉันกับเทียนหอมพูดออกมาพร้อมกัน คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูคือร่างหญิงสาวที่คุ้นตา และเธอก็ไม่ได้มาเพียงแค่คนเดียว เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างกันก็คือ...

                “เซซ่า...เซซ่าใช่ไหม?”

                “...”

                ฉัน พ่อ และเทียนหอมหันไปมองพริกหวาน ที่ในตอนนี้เขากำลังจ้องมองเซซ่าด้วยแววตาที่ยินดี เขานั่นเองที่พูดประโยคเมื่อครู่นี้ออกมา ในขณะเซซ่าและลูกหว้าก้าวเข้ามาในห้องนี้อย่างระมัดระวัง ฉับพลัน ลมโหมกระพือหนักเหมือนรับรู้การมาของทั้งคู่ ราวกับไม่พอใจ เศษกระดาษที่ตกอยู่ตรงพื้นปลิวว่อนไปหาลูกหว้าเพียงคนเดียว!

                พรึบบบบบบ!!!

                ฉัวะ! ฉัวะ!

              ส่วนขอบกระดาษที่คมกริบได้ชิมเนื้อเนียนๆ ของลูกหว้าทันทีที่มันพุ่งไปหาเธอ ลูกหว้าเอาแขนทั้งสองข้างป้องกันใบหน้าจนขอบกระดาษที่ปลิวหาบาดกับแขนของตัวเธอเอง แต่ลูกหว้ากลับไม่ตอบโต้ เธอยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งลมสงบลง

                “...ถ้าพี่ชาญจะโกรธเคืองอะไรกับพี่พริกหวาน ก็ช่วยโกรธลูกหว้าที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เถอะค่ะ!

               “ลูกหว้าระวัง!” เซซ่ารีบผลักตัวลูกหว้าให้กระเด็นไปอีกทาง เนื่องจากจู่ๆ กล่องกระดาษลังโต ซึ่งบรรจุกระดาษข้อสอบเอาไว้ได้ลอยหวือมาทางเธอจำนวน 3 - 4 กล่อง และโชคดีที่ลูกหว้าหลบพ้น ส่งผลให้กล่องกระดาษเหล่านั้นกระแทกกับผนังนอกห้องดัง ตึงและเศษกระดาษก็ได้ปลิวว่อนที่ชานระเบียงอีกครั้ง

           “พี่ชาญคิดเหรอคะว่าถึงพี่จะฆ่าหนูกับพี่พริกหวานไป พี่พิ้งค์เขาจะยินดีกับสิ่งที่พี่ทำ เพราะเนื่องจากสิ่งที่พี่จะกระทำนั้น...มันเป็นชีวิตของคนทั้งคนเลยนะคะ!

     

                ครืนนนนนนนนนนนน!!!!

                ลมโหมกระพือหนักกว่าเดิม จนแทบจะเป็นพายุขนาดย่อมในห้องถ่ายเอกสาร ลูกหว้ายังคงตะโกนต่อไปไม่หยุด โดยหวังว่าเสียงที่ส่งออกมานั้นจะกลบเสียงพายุอันบ้าคลั่งนี้ได้

                “หนูรู้ดีว่าสิ่งที่หนูทำนั้นมันเห็นแก่ตัว น่ารังเกียจ และช่างสิ้นคิด แต่สิ่งที่หนูได้เรียนรู้ก็คือ...การที่หนูทำแบบนี้ หนูไม่เคยที่จะมีความสุขเลย!!!

                “ลูกหว้า!!!” ฉัน เทียนหอม และเซซ่ากรีดร้องออกมาพร้อมกับ เมื่อเครื่องถ่ายเอกสารตัวเขื่องกำลังพุ่งไปหาเธอด้วยความเร็วที่กระโดดหลบก็ไม่พ้น แต่ทว่าลูกหว้ากลับยืนอยู่อย่างนั้น เธอหลับตาลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

                “พี่ชาญ...พี่พิ้งค์ หนูขอโทษค่ะ”

     

                โครมมมมมม!!!

                “ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!

                ฉันกรีดร้องตาเบิกกว้าง เมื่อสิ้นเสียงคล้ายสั่งลาของลูกหว้า เครื่องถ่ายเอกสารเครื่องนั้นก็กระแทกเข้ากับร่างของเธอจนเกิดเสียงน่ากลัว ร่างของลูกหว้าไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ตัวของเธอปลิวไปพร้อมกับเครื่องถ่ายเอกสารดังกล่าว และลมที่กรรโชกแรงได้ส่งผลให้ทุกคนต้องหลับตาลงเพราะเริ่มที่จะแสบตา

                ลูกหว้า...ตายแล้ว!!??

     

    ::: ~~~ To be continues ~~~ :::
    -------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×