อะแฮ่มๆ จะเริ่มบ่นพร่ำเพ้ออีกแล้วนะครับ
หลังจากที่ผมบ่นเรื่องเพื่อนที่มหาลัยมานาน ดูเหมือนมันจะเข้าหูเพื่อนของผมจนทั้งห้องเขารู้กันเกือบหมดแล้วมั้งว่าผมเพื่อนน้อย
ดูเหมือนพวกนั้นจะเข้าใจผิดไปนิดนึง มันนึกว่าผมเข้ากับใครไม่ได้เลย แต่จริงๆผมก็เข้าได้เยอะนะ หลายสิบคนเลย(บางคนทักผมเหมือนสนิทแต่ผมไม่รู้จักชื่อเขายังมีเลย) แต่ที่ผมบอกว่าเพื่อนน้อยก็คือเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้จริงๆ เพื่อนที่ชวนไปเที่ยวเล่นได้แม้แต่ตอนวันหยุด เพื่อนที่คุยแล้วถูกคอมากๆต่างหากที่น้อยเหลือเกิน(ยิ่งไปเที่ยวนี่ไม่มีเลย)
อีกอย่าง ตอนผมอยู่มหาลัย ผมต้องใส่หน้ากากเพื่อเข้าสังคม แต่ใจจริงก็อยากเป็นตัวของตัวเอง เพราะใจที่ยังครึ่งๆกลางๆก็เลยกลายเป็นใส่หน้ากากครึ่งนึง ผลก็คือหน้ากากทำให้ทุกคนเข้ามาคุยกับผม แต่ส่วนที่ไม่ใส่หน้ากากทำให้ทุกคนเริ่่มถอยห่างจากผมนั่นเอง(ตอนแรกๆมีคนมาทำความรู้จักเยอะมาก แต่ตอนหลังผมเลี่ยงซะหมด)
ดังนั้น การไปหมูกะทะเมื่อวานและได้รับกำลังใจจากเืพื่่อน(แม้บางคนจะเข้าใจผมผิดก็ตาม) ทำให้ผมตัดสินใจจะถอดหน้ากากออกอย่างถาวร เพราะเมื่อวานนี้ผมสามารถคุยกับเพื่อนได้อย่่างสนุกสนาน กล้าที่จะเล่นมุขต่างๆ แป้กหรือไม่แป้กก็ช่างไม่สนใจอะไร เอาเป็นว่าผมไม่มีอาการเกร็งใส่เต็มที่ไม่ยั้งรั่วบ้างเล็กน้อยก็เป็นธรรมชาติของผม ต่างกับเวลาคุยกับเพื่อนในมหาลัยแบบฟ้ากับเหว
ดังนั้น ถ้าการถอดหน้ากากทำให้ผมสบายใจ ผมก็จะถอดออกละ แม้ว่ามันอาจจะทำให้ผมไม่เหลือเพื่อนเลยหรือว่าจะทำให้ผมมีเพื่อนมากขึ้นนั้นมันก็แล้วแต่กรรม
ผมไม่ได้ทำเพื่อให้ได้เพื่อนเยอะ แต่ผมทำเพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าจะไม่มีเพื่อนก็ขอให้ได้เป็นตัวของตัวเองจะสบายใจกว่ามาก
หมูกะทะเมื่อวานนัดได้32คนจากเกือบ50คน ก็นับว่าเยอะมากเมื่อคิดว่างานนี้จัดขึ้นอย่างกะทันหัน เพื่อนสนิทผมมากันเกือบหมด พวกเรานัดเจอกันที่โรงเรียน มีแจกไพ่กันนิดหน่อย พอหิวก็ไปโรบินสันก่อนเพราะยังเหลือเวลาอีกเยอะ แล้วก็มาโรงเรียนเล่นไพ่ต่อ(ตาสุดท้ายผมได้ที่โหล่-*-)
หลังจากนั้นก็นี่เลย หมูกะทะ
แรกๆคนมาน้อยมาก พวกเราก็ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะมีคนมาน้อยเพราะนัดกะทันหัน แต่ไปๆมาๆแม้แต่อาจารย์ของพวกเราก็มา เพื่อนก็เริ่มทยอยกันมา ผมรู้สึกเหมือนกลับมาเรียนมัธยมอีกครั้ง ทุกคนไม่เปลี่ยนไปเลย ยกเว้นก็แต่บางคนผมยาวขึ้นเท่านั้น
แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้ไปโรงเรียนตอนกลางคืนเหมือนครั้งที่แล้วเพราะต้องรีบกลับบ้าน แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะนัดกันครั้งหน้าเร็วๆนี้แน่นอน(ได้ข่าวมาว่าจะมีการเปลี่ยนสถานที่กินด้วย) อีกไม่นานก็จะได้พบเพื่อนๆอีกสินะ
ตอนนี้ผมไม่อยากเลือกระหว่าง เพื่อนเยอะๆ แต่ไม่จริงใจ กับเพื่อนน้อยๆแต่จริงใจทุกคน ผมแค่อยากจะถอดหน้ากากเพื่อเอาความเป็นตัวของตัวเองกลับมา ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเรื่องให้ปวดสมองอย่างเดียวคือเรื่องผู้หญิง
ผมชอบเธอแต่เธอไม่ชอบผม เอาอีกแล้วครับเรื่องแบบนี้ ไม่มีไรมาก แค่อยากรวบรวมความกล้าไปขอโทษที่ทำให้เขาอึดอัดใจ แล้วก็จบกันไป 4ปีในมหาลัยจะได้ไม่มีไรค้างคาใจ เรื่องรักมันแค่เรื่องเล็กน้อย
ผู้หญิงที่รู้จักกันมาแค่2เดือนจะมาเทียบกับเพื่อนที่รู้จักกันมาอย่างน้อย2ปีได้อย่างไร(บางคนรู้จักมาสามปี บางคนหกปีเลยด้วยซ้ำ)
ผมจะเอาชนะมหาลัยแห่งนี้ให้ได้
ผมจะต้องอยู่ให้รอดให้ได้ แม้ว่าจะต้องลุยตัวคนเดียวก็จะขอลองสักตั้ง
มีกำลังใจเยอะขนาดนี้จะถอยก็เป็นการหักหลังเพื่อนๆทุกคน ดังนั้นผมจะไม่ถอยเด็ดขาด

สุดท้ายนี้ รูปแห่งความเป็นลูกผู้ชาย(มุมกล้อง ท่าเดิน แสงและควัน ทำให้ภาพออกมาแมนได้ใจจริงๆ555) ก้าวเดินต่อไปนะ เพื่อนเลิฟทั้งหลาย
ความคิดเห็น
นึกว่ามาอัพนี่มีเรื่องอะไรอีก อ๋อ พูดถูกนะ เพื่อนที่เราไว้ใจได้จริงๆน่ะน้อย ส่วนเรื่องหน้ากากนั้นไม่ต้องไปสนใจมาก
เพราะใครๆก็ใส่หน้ากากเข้ากันทั้งนั้น (มากหรือน้อยเท่านั้นเอง) แต่ก็อยากให้เป็นตัวของตัวเอง
แค่นี้ล่ะ
PS. แกล้งงอนอย่างนี้เพื่อให้เธอง้อ รู้ไหมหนอฉันรออยู่นะ ชอบเวลาที่เธอ เอาใจฉัน นี่ถ้าไม่รักไม่แกล้งให้ง้อ จะไม่แกล้งหน้างออย่างนั้น ถ้ารักกัน ยอมหน่อยนะเธอ