ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic HP | The Prince's Truth | [ DM/HP ]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 898
      89
      18 ม.ค. 65


     

     


     

     

    Chapter 

     

    2

     


     

     

              บ้านของแฮกริดยังคงสภาพเดิมแม้จะผุกร่อนบ้างตามกาลเวลา  ลมเย็นจากป่าต้องห้ามโชยปะทะบุคคลทั้งสามกำลังนั่งคุยสัพเพเหระหลังจากไม่ได้เจอกัน 


     

              ตั้งแต่เปิดเทอมแฮร์รี่ไม่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนตัวใหญ่ของเขาเลย มีเพียงช่วงรับประทานอาหารเท่านั้นที่จะได้เห็นแฮกริดนั่งส่งยิ้มเป็นครั้งคราว


     

                 สองคาบแรกวันนี้รอนกับแฮร์รี่ไม่ได้ลงเรียนเหมือนเพื่อนสาว เฮอร์ไมโอนี่พูดกรอกหูให้พวกเขาฟังบ่อยๆ ว่าความรู้คือชีวิต เธอจึงตั้งตกตั้งใจจนแทบไม่เหลือตารางว่างเพื่ออนาคตข้างหน้า


     

              "อ่า...จริงสิ" ชายร่างยักษ์เอ่ยขึ้นเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง "ฉันมีเพื่อนใหม่มาแนะนำ"


     

              ชายหนุ่มผายมือไปทางพงหญ้า หากเพ่งมองดีๆ จะเห็นอสรพิษนอนขดตัวแฝงอยู่ในนั้น เขาเรียกมันว่า อิชเชอร์ หรืองูดำแบล็คแมมบ้า  แฮกริดได้มาจากการประมูลหลายอาทิตย์ก่อน อิชเชอร์มีนิสัยยโสและมีพิษร้ายแรงหากใครทำให้มันโกรธ เขี้ยวแหลมของมันก็พร้อมจะฝังลงไปในทันที 


     

              แฮร์รี่สบตาสีดำทมิฬของมัน  "ผมไปหามันได้ไหมครับ" ความรู้สึกดึงดูดทำให้เขาอยากเข้าใกล้


     

              "ได้สิ แต่นายอย่าลืมนั่งยองๆ แล้วก้มหัวนะ--อิชเชอร์จะพอใจเมื่อมีคนเคารพมัน"


     

              "อย่าเลยแฮร์รี่ มันน่ากลัว" รองจากแมงมุมคงเป็นงูที่รอน วิสลีย์เกรงกลัว ชายผมแดงกระตุกชายผ้าคลุมเขาเบาๆ 


     

              แต่มีหรือแฮร์รี่จะฟัง 


     

              "ฮะฮ่า ปล่อยเขาเถอะรอน ดูท่าแฮร์รี่จะสนใจ" แฮกริดกลั้วหัวเราะ พลางกวักมือเรียกหนุ่มผมแดงให้เข้าไปในบ้าน "นายมาช่วยฉันเตรียมอาหารดีกว่านะ" ชายร่างยักษ์ขยิบตาให้เขาเหมือนรู้กัน แฮร์รี่ย่อตัวลงโดยไม่สนใจเสียงตะโกนไล่หลัง


     

              "ถ้านายโดนฉก ฉันจะขำกลิ้งเลยแฮร์รี่!"


     

              หนุ่มร่างผอมค่อยๆ เคลื่อนตัวไปหาสัตว์ร้าย อิชเชอร์ชูหัวตั้งตามสัญชาตญาณ แต่ไม่นานมันก็ลดหัวลงโดยที่แฮร์รี่ยังไม่ทันแสดงความเคารพ


     

              'ไม่ต้องหรอก'  เสียงทุ้มเย็นดังในโสตประสาทแฮร์รี่ 'ฉันรู้จักนาย' 


     

              แฮร์รี่เลิกคิ้ว "คุณพูดกับผมหรอ"


     

              'ก็มีแค่นายที่ฟังฉันรู้เรื่อง' อิชเชอร์คลายวงออก ก่อนจะเลื้อยเข้าใกล้เด็กชายผู้รอดชีวิต  แฮร์รี่ยื่นมือไปข้างหน้าหวังจะให้หัวพักพิง 'ขอบใจ'


     

              "ยินดีครับ" ใบหน้าหวานคลี่ยิ้ม นัยน์ตาเขียวมรกตพินิจมองร่างอสรพิษหลับใหลบนฝ่ามือ 


     

              เสียงย่ำเท้าใครบางคนใกล้เข้ามา แฮร์รี่ไม่ได้หันกลับไป มองจากเงาสะท้อนบนผืนหญ้าก็กระจ่างทันที


     

              "..."


     

              "เมื่อกี้นายพูดกับใครแฮร์รี่" หนุ่มผมแดงถามเสียงเบา แฮร์รี่เงยหน้ามองอีกคน พลางกระตุกมือให้งูดำเลื้อยหลบในพงหญ้า 


     

              "ก็พูดกับนายไง" ตอบเช่นนั้นทั้งที่รู้แก่ใจว่ารอนหมายถึงอะไร


     

              "ไม่--ฉันหมายถึงก่อนหน้านี้"


     

              "..."


     

              "นายพูดภาษาพาร์เซลกับอิชเชอร์ใช่ไหม"


     

              "..."


     


     


     


     

    ....

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     

              หลังจากเดินทางกลับบ้านแฮกริด แฮร์รี่กับรอนไม่ได้คุยกันหลังจากนั้น ทั้งสองต่างอยู่ในภวังค์จนถึงห้องโถง เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเมื่อหนุ่มกริฟฟินดอร์หย่อนตัวนั่งโต๊ะ


     

              "มาช้าจัง ไปไหนกันมา" เธอเปิดบทสนทนาพลางเก็บตำราเรียนใส่กระเป๋า หนุ่มสองคนมองหน้ากันเลิกลั่ก


     

              "บ้านแฮกริด" รอนตอบแทนแฮร์รี่ที่กำลังอ้าปากพูด 


     

              "อ๋อ"


     

              "..."


     

              "..."


     

              "..."


     

              ความเงียบเข้าปกคลุมสามสหาย ไม่มีใครเอ่ยบทสนทนาต่อ ต่างคนต่างเงียบจนผ่านไปครึ่งชั่วโมง รอนเหงื่อตกยามเห็นสายตาพิฆาตจ้องมา--แฮร์รี่ด้วยเช่นกัน


     


     

          "พวกนายเป็นไรกัน?"


     

          ความอดทนเฮอร์ไมโอนี่หมดลง หญิงสาวประสานมือวางบนโต๊ะหลังจากสังเกตอาการได้สักพัก สหายสองอ้ำอึ้งอึกอัก 


     

             


     

              "..."


     

              "..."


     


     

              "ไปรู้อะไรกันมา"


     

            

             รอนกับแฮร์รี่มองหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ความจริงรอนบอกว่าอย่าพึ่งให้มันกระจาย แม้จะไม่มีใครปิดเฮอร์ไมโอนี่ได้ก็ตาม...


     


     

              "คือแบบนี้นะ..." 


     

                   .


     


     

                   .


     


     

                   .


     


     

                   .


     

                   

              "นายจะบอกว่านายกลับมาพูดภาษาพาร์เซลได้?"


     

              "ฉันคิดว่างั้น..."


     

              "ฮอร์ครักซ์สลายหมดแล้ว" 


     

              "ใช่เฮิร์ม" รอนสมทบแฟนสาว "แต่ฉันได้ยินแฮร์รี่พูดเหมือนกัน"


     

              "..."


     

              บางทีเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร ถ้าจริงๆ แฮร์รี่ไม่สามารถทำมันได้...


     

                  ภาษาพาร์เซลเมาท์เป็นความสามารถพิเศษไม่สามารถเรียนรู้ได้ตามปกติ สามารถถ่ายทอดผ่านทางสายเลือดสุภาพบุรุษ หรือความผิดพลาดทางด้านเวทมนตร์แบบแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเขาสื่อสารกับงูได้จนกระทั่งโวลเดอร์มอร์สิ้นชีวิต


     

              แฮร์รี่มีรอนเป็นพยานว่าได้ยินเขาโต้ตอบกับงูแบล็คแมมบ้า 


     

              "มีใครรู้บ้างหรือยัง" หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มถาม


     

              "มีแค่เธอกับรอน" 


     

              "งั้นอย่าพึ่งบอกใคร" เฮอร์ไมโอนี่กำชับเสียงเข้ม "เรื่องนี้ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ หลังจากจอมมารตายนายก็ไม่ได้พูดมัน--พอเปิดเทอมมานายกลับมาพูดได้อีกครั้ง" 


     

              "..."


     

              "แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบบอกพวกฉันทันทีนะ" แฮร์รี่รับคำหญิงสาว ชายหนุ่มลูบแผลเป็นบนหน้าผากที่แทบเจือจาง 


     


     

              ความรู้สึกเจ็บแปลบเริ่มออกอาการทีละนิด...


     


     


     


     


     

            


     


     

    | 50% |

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     

              นัยน์ตาฟ้าซีดเต็มไปด้วยความเจ็บปวดยามมองรูปถ่ายบนฝ่ามือ ภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสของนาร์ซิสซาสีหน้ามีความสุขของเขาและบิดา 


     

              ตั้งแต่ยังเล็กเดรโกคอยระวังเสมอว่าควรทำอะไร ทุกอย่างถูกครอบด้วยกรอบแผ่นใหญ่  ลูเซียสหลงระเริงในศาสตร์มืดจนแปรเป็นคนละคน พ่อมักพูดกรอกหูว่าเลือดสีโคลนช่างน่ารังเกียจ เขาถูกปลูกฝังความเชื่อติดลบกระทั่งหลังจอมมารสิ้นสลายด้วยน้ำมือเด็กชายผุู้รอดชีวิต


     

              เงยหน้ามองตัวเองในกระจกฝุ่นเขรอะ แสงแดดยามบ่ายสอดส่องเผยร่างโปร่งใสนั่งไขว้ห้างไม่ไกล เดรโกยืนเท้าอ่างล้างหน้าเกือบชั่วโมง และเมอร์เทิญก็ไม่ละสายตาจากชายหนุ่มเสียนิด 


     

              "อย่าเครียดไปเลย" ผีสาวยกมือลูบแผ่นหลังอีกฝ่ายปลอบประโลม "เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น"


     

              "อย่ามายุ่งกับฉัน" เดรโกพูดเสียงเย็นพับรูปเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ นัยน์ตาจับจ้องกายหญิงสาว


     

              "..."


     

              มือขาวชะงักออกอย่างว่าง่าย เมอร์เทิญตีหน้าเศร้าก่อนจะลอยละล่องรอบห้องน้ำหญิง


     

              


     

              "ฉันขออยู่คนเดียวได้รึเปล่า" หนุ่มสลิธีรินขัดเสียงโหยหวน ผีสาวกำลังฮัมเพลงหุบปากฉับทันที สีหน้าและแววตาส่อแววไม่พอใจ สิ่งที่เมอร์เทิญควรทำคือการหายไป


     

              "โอเค..." หญิงสาวรับคำก่อนจะวูบไปในชักโครกจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่าน


     

              "..."


     

             หรี่ตามองผืนน้ำกระจายเป็นวงกว้าง 


     

              ความเงียบแผ่ปกคลุม


     

              และน้ำตาใสค่อยๆ ไหลออกมา...


     


     


     


     


     


     


     

         

    ....

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     


     

     

             


     

              นิ้วเรียวไล่สันหนังสือมาพักใหญ่ ภายในห้องสมุดเต็มไปด้วยองค์ความรู้หลากหลาย เวลาหนึ่งชั่วโมงไม่ได้ทำให้สำเร็จในการหาหนังสือ


     

         แฮร์รี่มั่นใจระดับหนึ่งว่าความสามารถที่กลับคืนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างมีเหตุผล และนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือน


     

            


     

              จอมมารตายแล้ว 


     

             ฮอร์ครักซ์หมดสิ้น


     

              

              แฮร์รี่เป็นหนึ่งในฮอร์ครักซ์ของโวลเดอร์มอร์  เมื่อฮอร์ครักซ์ในตัวถูกทำลายความสามารถต่างๆย่อมหายไป -- แต่รุ่งเช้าเขาสื่อสารกับอิชเชอร์ 


     

              หรือแท้จริงจอมมารยังมีชีวิต?


     

              ถ้ามีจริงๆ คงเป็นเศษเสี้ยวที่อ่อนแอมาก 


     

              ผู้เสพความตายทางกระทรวงจับเข้าคุกอัซคาบัน ผู้คุมวิญญาณถูกปลดในหน้าที่ ไร้สาระสิ้นดีถ้าจอมมารยังเหลือรอด


     

              อย่างไรเรื่องพิศดารไม่ได้จบลง ทางที่ดีไม่ควรประมาท


     

               แฮร์รี่เดินออกมาข้างนอก ช่วงบ่ายชายหนุ่มมักชอบไปหาผีสาวเพื่อนรัก  เมอร์เทิญคือคนที่แฮร์รี่ไว้ใจ

    ยามใดวิตกเธอก็พร้อมรับฟังและไม่ปากโป้ง 


     


     

              ขายาวก้าวไปตามทางเดินจนมาหยุดที่ห้องน้ำหญิง


     

          


     

              น่าแปลก...


     


     

              เมอร์เทิญไม่ได้ออกมาต้อนรับเขาเหมือนทุกครั้ง 


     


     

              "..."


     

              แสงสีส้มอ่อนบ่งบอกเวลายามบ่ายสอดส่อง ความอยากรู้อยากเห็นแฮร์รี่เริ่มทำงาน เมื่อหูเจ้ากรรมดันได้ยินเสียงสะอื้นใครบางคนดังลอดออกมา หนุ่มกริฟฟินดอร์ย่อตัวลงฝีเท้าเสียงเบา ค่อยๆ แง้มหน้าแอบดูบุคคลภายใน


     

              ภาพหนุ่มผู้อ่อนแอกำลังฉายซ้ำ.. 


     

              "เสียมารยาทมากนะที่มาแอบดูคนอื่นแบบนี้" เสียงเย็นเปรยขึ้น สายตาคู่คมหันมองหนุ่มกริฟฟินดอร์ ก่อนจะปาดคราบน้ำตาบนใบหน้า 


     

                   เป็นอีกครั้งที่แฮร์รี่เห็นมุมอ่อนแอของเจ้าชายน้ำแข็ง 


     

            

              "มาทำอะไร"


     

              อีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะถามกลับแทน "เป็นอะไร"


     

              "ไม่ยุ่งซักเรื่องคงไม่ตายหรอกพอตเตอร์" หนุ่มผมบลอนด์ตอบปัด ก่อนจะเดินชนไหล่ตรงไปทางประตูห้องน้ำ ไวเท่าความคิดแฮร์รี่รั้งมืออีกฝ่ายทันใด เดรโกยังคงเบี่ยงหน้าหนีไม่ได้ขัดขืน ทั้งสองยืนนิ่งกันอยู่แบบนั้น 


     

              เดรโกคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย...


     

              ทุกครั้งที่เขาเสียน้ำตาดันมีอดีตคู่อริโผล่มา


     

               ทำไมต้องเป็นหมอนี่ด้วย...


     

              "นายร้องไห้ทำไม"


     

              "แล้วนายจะมายุ่งทำไม"


     

              "ก็ฉันสงสัย"


     

              แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วง...


     

              แฮร์รี่เข้าใจดีว่าสภาพจิตใจเดรโกตอนนี้เป็นอย่างไร ทั้งการสูญเสีย อำนาจตกต่ำใครต่อใครที่ตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เดรโกเก่งที่ยังกลับมาเรียนแม้จะเจอสภาพสังคมแบบนี้ แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนเต็มตัว แต่ความเป็นห่วงเป็นใยของมนุษย์ร่วมโลกยังคงมี


     

              "เคยมีใครสนใจฉันด้วยรึไง?"


     

              "..."


     

              "ใส่ใจด้วยหรอว่าฉันเป็นอะไร"


     

              "ทุกคนเป็นห่วงนายนะมัลฟอย"


     

              "หึ" เดรโกยิ้มมุมปาก สายตาส่อแววตัดพ้อเห็นได้ชัด "ทุกคน? หรือมีแค่นายกันแน่?"


     

              "..."


     

              เป็นอีกครั้งที่ความเงียบเข้าแผ่ปกคลุมห้องน้ำหญิง เดรโกมองดวงตาคู่มรกตนั่นอีกครั้ง แต่ครานี้กลับอ่อนลง หนุ่มสลิธีรินเดินถอยออกไป หันตัวเดินกลับ 


     

              "อาจจะมีแค่ฉันก็ได้"


     

              "..."

              

              แฮร์รี่พูดขึ้นก่อนที่เดรโกจะสาวเท้าออกไป


     

              


     


     


     


     


     


     


     


     


     

             

              


     

              


     


     

    ...

     

     


     

     


     


     

     


     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×