ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic HP | The Prince's Truth | [ DM/HP ]

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      87
      5 ก.พ. 62











    Chapter 
    1 


              ในที่สุดสิ่งที่เดรโกกลัวสุดขั้วหัวใจกำลังจะกลับมา...

              .
              .
              .

             
              อีก 2 วันโรงเรียนฮอกวอตส์จะเปิดเรียนตามปกติ เดรโกคลี่หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตปรากฏภาพปราสาทฮอกวอตส์กำลังเคลื่อนไหว นัยน์ตาสีซีดไล่อ่านตัวอักษร

              ' ฮอกวอตส์กลับมาพร้อมความสงบสุขอีกครั้ง '

              "..."

              เดรโกวางหนังสือพิมพ์ลง เอนตัวพิงโซฟาพลางมองลอดหน้าต่างเห็นต้นไม้กำลังโอนเอนไปตามลม ในหัวของเจ้าชายกำลังครุ่นคิด

              เพราะนาร์ซิสซา มัลฟอย เปลี่ยนฝั่งในนาทีสุดท้าย ครอบครัวเดรโกจึงรอดพ้นจากอัซคาบัน นั่นเป็นผลพวงให้ตระกูลตกต่ำจนแทบติดดิน ธุรกิจทุกอย่างพังทลาย ครอบครัวเลือดบริสุทธ์ไม่ได้เลื่องลืออีกต่อไป 


              "เดรโก" เสียงเคาะประตูเรียกสติให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ หนุ่มผมบลอนด์ยันตัวลุกขึ้นเปิดประตู หลีกทางให้คุณนายมัลฟอยได้นั่งบนโซฟา

              แม่ของเขายังคงความเยาว์เช่นแต่ก่อน หากแต่แววตาเธอไม่ได้สุขสม ยามลูกชายมองลึกเข้าไป มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

              "จะเปิดเรียนแล้วสินะ"

              "ครับ"

              "ทำให้ดีนะเดรโก"

              "..."

              มองผิวเผินนี่อาจเป็นบทสนทนาทั่วไปของแม่ลูก  แต่ความนัยนาร์ซิสซาหมายถึงอยากให้ลูกชายใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีเรื่องใดๆ มาพัวพัน ตั้งใจเรียนและสอบเข้ากระทรวง ครองตำแหน่งฉุดให้นามสกุลมัลฟอยกลับมา 

              เดรโกรู้หน้าที่ของตนดี

              "ครับ"



    ....


              "ฉันคิดถึงที่นี่ที่สุดเลย" รอน วิสสีย์พูดขึ้นกวาดสายตามองห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์ โอบล้อมไปด้วยสีแดงสดอันเป็นเอกลักษณ์ 

              
              วันนี้คือวันเปิดภาคเรียนแรก ทุกอย่างถูกสร้างให้เป็นเหมือนเดิมทุกประการ มีบุคคลใหม่ได้รับตำแหน่งการสอน ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ สัตว์มหัศจรรย์กลับมามีชีวิตชีวา 

                มักกอลนากัลได้เลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ใหญ่ เธอทำหน้าที่นั้นได้ดี อาหารของฮอกวอตส์คงความอร่อยเช่นเดิม 

              เฮอร์ไมโอนี่หย่อนตัวนั่งโซฟา หญิงสาวสูดดมอากาศชวนคิดถึง

              "ฉันหวังว่าปีนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ" เธอคลี่ยิ้ม หมายถึงเรื่องปางตายและอะไรก็ตามที่ผิดแปลกจากชาวบ้าน

              "ฉันเจอมัลฟอย" แฮร์รี่นั่งขัดสมาธิ เล่าเรื่องพบเจอหนุ่มผมบลอนด์ในตรอกไดแอนกอน "หมอนั่นกลับมาเรียน"

              "แน่อยู่แล้ว" เฮอร์ไมโอนี่ดูไม่ตกใจเท่าไหร่ "คงมาสอบเหมือนฉัน ใครๆ ต่างอยากครองตำแหน่งสูง" 


              "อย่างมัลฟอยน่ะหรอจะสอบ" รอนไหวไหล่ ปัจจุบันตระกูลวิสลีย์กับมัลฟอยยังคงความต่างสุดขั้ว หนุ่มผมแดงเคี้ยวลูกอมด้วยท่าทีสบายๆ "ยังไงเธอก็ได้ต่ำแหน่ง"

              "อย่าประมาทหน่อยเลย--หมอนั่นฉลาดหัวแหลมไม่เบา" 

              "ฉันว่ามัลฟอยโอเคกว่าเดิมเยอะเลยนะ" แฮร์รี่ชายตามองกองเพลิงกำลังลุกไหม้ในเตาผิง ภาพเหตุการณ์เก่าๆ ฉายขึ้นหัว  "แต่หมอนั่นน่าสงสาร..." 

              "..."

              "..."

              บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเงียบลงหลังแฮร์รี่พูดจบ ทุกคนในห้องต่างอยู่ในภวังค์ตนเอง สงครามยิ่งใหญ่ทำให้ใครหลายคนต่างสูญเสีย เพื่อน ครอบครัว และคนรัก ความเสียสละย่อมไม่ศูนย์เปล่าตราบใดเด็กชายผู้รอดชีวิตสามารถปราบมารได้

              แฮร์รี่เข้าใจเดรโกมาตลอดหลังเห็นเหตุการณ์ครั้งนั้น...

              แท้จริงเดรโกนั้นขี้ขลาด...เขาไม่ผิดหากจำเป็นต้องฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทุกคนต่างมีเหตุผลในการกระทำ

              "ผมไม่อยากทำ แต่ถ้าผมไม่ทำ  เขาจะฆ่าครอบครัวผม..."

              เดรโกตื่นกลัวขณะมองหน้าดับเบิลดอร์  มือของมัลฟอยสั่นจนแทบเล็งไปที่ชายชราไม่ถูก น้ำตาใสไหลอาบแก้มด้วยความหวาดหวั่น ท้ายสุดหนุ่มผมบลอนด์ไม่สามารถฆ่าอาจารย์ใหญ่ด้วยมือของเขา หากเป็นสเนป...ที่เป็นฝ่ายลงมือ


             "อะวาดา เคดาฟ-รา!"


              น้ำตาเดรโกล่วงเป็นสาย ขาทั้งสองแข็งทื่อยามเห็นลำแสงจากปลายไม้พุ่งตามคำสั่งของผู้ใช้ 


              ร่างของดับเบิลดอร์ลอยขึ้นบนอากาศ ค่อยๆ หงายหลังหล่นลงมา เหมือนภาพทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง แฮร์รี่เห็นรอยยิ้มอบอุ่นของชายชราก่อนลับสายตาไป

              "ผมขอโทษ..." เดรโกร้องสะอื้น

           
              นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่แฮร์รี่เห็นสีหน้าเจ็บปวดที่สุดของเจ้าชายน้ำแข็ง








    | 50% |






               "เดรโก มัลฟอย..."

              เสียงแหบหร่าดังสะท้อนหูจนชายหนุ่มลืมตาตื่น เขายันตัวกวาดสายตาไปรอบกาย มันดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้หนักแน่นและชัดเจน...
            

            
               "เดรโก มัลฟอย..."

               ชายหนุ่มหันขวับไปทางต้นเสียง

              ไม่มีใคร...

              "เฮือก!"

            ใจแทบหล่นไปถึงตาตุ่ม ดวงตาสีซีดเบิกกว้าง แสงจันทร์ส่องลอดผ่านหน้าต่างเป็นเหตุให้เขาประมวลคนตรงหน้าได้ชัดเจน ...

              มะ...ไม่จริงน่า...

              "...ว่าไงพ่อคนขี้ขลาด" 

              ร่างผอมแห้งจ้องคนบนเตียงเขม็ง "แกรู้ไหม ฉันเจ็บใจขนาดไหน..." ใบหน้าไร้สีเลือดฉายแววเดือดดาล ขายาวก้าวไปรอบๆ เตียงสี่เสา "แกหักหลัง..."

              "ผะ...ผมเปล่า" ร่างเดรโกไม่สามารถขยับหนี...ทุกอย่างแข็งทื่อไปหมด "ผมไม่--"

              "โกหก!"

               เสียงเย็นค้านลั่นห้อง เดรโกหันไปทางรูมเมท เบลสหลับสนิทไม่มีวี่แววตื่นสักนิด 

              ทำไมกัน...

              "อึก..."  

              ทว่าพอหันกลับ ร่างผอมจ่อไม้กายสิทธ์ไปที่หน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ดวงตาสีแดงเบิกกว้างเหมือนเล่นสนุก ยามปลายไม้ไล่ลงไปที่แขน  ความเจ็บแสบเล่นงานหนุ่มสลิธีรินแทบร้องโอดโอย

              "ร้องสิ"  ปากบางพูดเร่งเร้า  "ฉันบอกให้ร้องออกมา!"

              "อึก!" เดรโกกัดฟันกรอด ใบหน้าเหมือนหัวกระโหลกยกยิ้ม ก่อนจะกดปลายไม้ไปยังตำแหน่งที่เคยเป็นสัญลักษณ์ตรามาร...บัดนี้จางหายไม่เหลือร่องรอย

             
              "มันจะเกิดขึ้น"  ดวงตาคมแผดกร้าว

              "..."

              "อีกครั้ง..."

              .

              .

              .


              "เดรโก! เดรโก!"

              แรงเขย่าตัวปลุกร่างชุ่มเหงื่อตื่นจากห้วงนิทรา ชายหนุ่มดีดตัวนั่งหอบแฮก หนุ่มผิวเข้มเอ่ยถามสหายด้วยความเป็นห่วง

              "นายเป็นอะไร ฝันร้ายหรอ"  ทว่ากลับไร้ซึ่งคำตอบ 

              เขาฝัน...

              แค่ฝันไป

              แต่ในความฝันมันเหมือนจริง ความรู้สึกเจ็บร้อนตราตรึงราวกับพึ่งเกิด หนุ่มผมบลอนด์ชำเลืองมองท่อนแขนตัวเอง เมื่อไม่เห็นร่องรอยอะไรจึงโล่งใจ

              "เปล่า..." เสียงทุ้มตอบนิ่งๆ สายตาไม่ละจากจุดเดิม " ฉันไม่เป็นอะไร...ไปห้องโถงเถอะ เดี๋ยวตามไป"

              "ใช่หรอ" เบลสถามย้ำอีกครั้ง  ตั้งแต่รุ่งเช้าเขาปลุกเดรโกหลายคราแต่เจ้าตัวยังนอนเหงื่อตก มันทำให้เขาอดกังวลไม่ได้

              "ใช่" 

              "..."

               "ไม่เป็นไรหรอก..."

              .

              .

              .

              หนุ่มผมบลอนด์นั่งท้าวคางไม่แตะอาหารแม้แต่น้อย หากนี่เป็นเพียงฝัน มันคงไม่ใช่ฝันธรรมดา...ดวงตาและน้ำเสียงนั่น...ความหวาดกลัวกัดกินชายหนุ่มจนแทบคลั่ง 

              เขากำลังกลัว

              กลัวบุคคลที่ทุกคนต่างคิดว่าหายสาบสูญไปจากโลกนี้...

              "ทำไมนายไม่กินล่ะ" เสียงแหลมเอ่ยทักขณะมองจานอาหารว่างเปล่า แพนซี่ตักเนื้อไก่ลงบนจาน เดรโกมองอาหารชิ้นเดียวตรงหน้า

              "อืม"  ชายหนุ่มตอบรับในลำคอ ก่อนจะตักมันเข้าปากเมื่อเห็นหญิงสาวตั้งหน้าตารอให้เขากิน

              อาหารวันนี้ไม่อร่อยเหมือนทุกวัน...


    ...


              ช่วงวิชาปรุงยาเดรโกโดนศาตราจารย์ก่นด่านับไม่ถ้วน ไหนจะส่วนผสมที่ทำผิด หรือหม้อปรุงยาระเบิดรอบที่สาม  วิชาปรุงยาเป็นวิชาที่หนุ่มสลิธีรินทำได้ดี แต่วันนี้กับด้อยกว่าใคร รวมถึงบ้านกริฟฟินดอร์ 

              "หายากนะเนี่ย" รอนพูดพลางชี้ไม้กายสิทธิย์ไปที่เม็ดทับทิม  "ปกติเห็นเก่งจะตาย"

              "อะไรก็เกิดขึ้นได้"  เฮอร์ไมโอนี่เอ็ดอีกฝ่ายเบาๆ  "อีกอย่างนายไม่ควรไปดูถูกนะ"

              "ฉันเปล่า--ก็แค่พูด"

             

              "..."

              แฮร์รี่ไม่สนใจคำถกเถียงของคู่รักข้างกาย นัยน์ตาเขียวมรกตจับจ้องร่างสูงกำลังเหงื่อตกเห็นได้ชัด เดรโกกุมหัวตัวเองคิดหนัก ปากซีดตาสั่นเหมือนมีอะไรในใจ 

              อาการแบบนั้นมันทำให้นึกถึงสมัยปีหก... ช่วงที่ทั้งสองปะทะคาถากันในห้องน้ำหญิง



              มันทำให้แฮร์รี่อดฉงนใจไม่ได้...

               "ฉันว่ามันแปลกๆ" แฮร์รี่พูดเสียงแผ่ว พยายามให้ได้ยินแค่สามคน "หมอนั่นเหมือนกำลังกลัว"
          

              "ช่างเขาเถอะ" หนุ่มผมแดงตัดบท ตั้งหน้าตั้งตาโบกไม้กายสิทธิ์ ไม่นานน้ำเขียวข้นในหม้อแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง "มันคงไม่เกี่ยวกับเรา" 

              แฮร์รี่ไม่ตอบอะไร ร่างบางหย่อนเมล็ดทับทิมลงไป -- แต่สายตายังแอบมองหนุ่มสลิธีรินเป็นครั้งคราว



              ร่างสูงท้าวโต๊ะด้วยมือทั้งสองข้าง หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบทะลุจากอก เมื่อสักครู่เขาเห็นใบหน้าใครบางคนปรากฏขึ้นในหม้อปรุงยา รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมส่งมาราวจะกินเลือดกินเนื้อ 

             ' แกก็เหมือนพ่อของแก..' เสียงก้องกังวาลดังวนลูปอยู่ในหัว 

              'แกมันขี้ขลาด'

              เดรโกกำมือข่มอารมณ์ "ผมไม่ได้ขี้ขลาด...ผมทำไปเพราะผมไม่มีทางเลือก"

              ' ไม่...แกมันอีแค่เด็กไม่มีสมองคิด โง่เขลา เอาแต่ตามตูดพ่อไปวันๆ '

              "หุบปาก..." 

              เดรโกน้ำตาซึมเอ่อ เม้มปากแน่นพยายามคุมตัวเองไม่ให้ตะโกนลั่นห้อง  คำพูดของชายคนนี้เป็นเสมือนไฟกำลังจี้ให้เขาทุรนทุราย 


             

              .
              .
              .
              

              ในที่สุดสิ่งที่เดรโกกลัวสุดขั้วหัวใจกำลังจะกลับมา...



    _____________________



    จบไป 1 ตอนแล้ววววว
    หวังว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังนะคะ ตอนนี้ปั่นมาก พยายามแก้อะไรหลายๆ อย่างจนไม่รู้ว่าจะดีรึเปล่า
     1 เม้น 1 กำลังใจดีๆ นะคะ 
    ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัย และขอบคุณนักอ่านทุกคน

    จุ๊บ
            




                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×