ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #5 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.03K
      75
      7 ก.พ. 63

    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song ::  Epic Music - The Last Hero


    EPISODE05

    Alternative Universe 01Everything started from 'force'


    วีร่ารู้สึกตัวขึ้นมาในยามค่ำคืนที่ดวงจันทร์ดวงโตสวยกว่าทุกคืน แสงสีเหลืองนวลส่องลงมากระทบร่างเธอที่นอนอยู่บนเตียง แทบลืมหายใจเมื่อพบว่าสิ่งที่ปิดกั้นเธอจากโลกภายนอกอันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

    สิ่งถัดมาที่สังเกตเห็นคือรอบข้างเป็นป่าที่ดูสงบนิ่ง หิ่งห้อยตัวน้อยเกาะกลุ่มกันเป็นฝูงใหญ่จนเกิดเป็นแสงสว่าง

    อิลูเมียยืนหันหลังให้เธอ นางกำลังวาดมือเล่นกับพวกหิ่งห้อย แสงสว่างเคลื่อนตัวไปรอบมือเรียว ราวกับนางกำลังร่ายมนตร์อะไรสักอย่าง

    "อิลูเมีย" เธอเรียกนางแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง ใช้มือทาบหน้าท้องตัวเองไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ถูกกระแทกด้วยอะไรทั้งนั้น

    "..." อิลูเมียเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้มือพยุงให้เธอลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร

    "ที่นี่..." เธอวางมือบนไหล่นางเพื่อค้ำยัน

    "ที่เดิม" นางกระซิบตอบอย่างแผ่วเบาราวกับเป็นเสียงที่ลอยมาตามสายลมก็ไม่ปาน "ข้าแค่เปลี่ยนมันให้เป็นสถานที่ที่ผ่อนคลายกว่าเดิมในชั่วขณะหนึ่ง"

    "เหรอ" วีร่าตอบรับ ไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเองรึเปล่าว่าอิลูเมียดูเหนื่อยกว่าทุกวัน

    "ข้าแค่ตระหนักว่าเจ้ากับลูกอาจอยากอยู่ในสถานที่ที่ปรอดโปร่งบ้าง" นางกล่าวพลางโอบเธอแน่น

    เธอสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของนางหลายวันมานี้ ถึงเธอจะไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับว่านางดีขึ้นจริงๆ และเพราะแบบนั้นเธอเลยไม่รังเกียจที่นางกอดเป็นครั้งแรก

    แถมปล่อยให้นางสอดมือเข้ามาโดยง่าย

    "ข้านึกไม่ถึงว่าเจ้าจะใส่ใจเรา" เธอขมวดคิ้ว ฝั่งตรงข้ามของป่าเป็นบ่อน้ำพุที่เธอใช้อาบน้ำบ่อยๆ

    "ข้าใส่ใจตลอด" อิลูเมียกระซิบแล้วไถริมฝีปากกับใบหูเธอ มันทำให้รู้สึกขนลุกจนต้องขยับเบาๆ เป็นเชิงห้ามให้นางหยุด

    "โกหก" เธอใช้น้ำเสียงเชิงประชดประชัน "เจ้าไม่เคยใส่ใจข้า"

    "เมื่อไหร่" นางถาม

    "..." เธอเงียบ

    "สี่วันแรกที่ข้าขังเจ้าไว้ที่นี่เหรอ"

    "..."

    "ใช่หรือไม่"

    "ยังถามอีก!" วีร่าอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียด นี่เธออุตส่าห์เงียบให้นางนึกเองแล้วยังมีหน้ามาถามอีก มันก็มีอยู่เรื่องเดียวไม่ใช่เหรอไง "เรื่องง่ายๆ เช่นนี้ทำไมเจ้าถึงไม่รู้ด้วยตัวเองเล่า"

    "..." อิลูเมียเงียบแล้วถอนหายใจ

    ส่วนเธอเบือนหน้าไปทางอื่น

    โมโห...นี่นางเป็นผู้หญิงจริงรึเปล่า ทำไมไม่เข้าใจเธอเลย

    "ข้าขอโทษ" นางกระซิบเสียงอ่อนแล้วรั้งให้เธอนั่งลงบนเตียงด้วยกัน "ไม่จำเป็นต้องโกรธเคือง"

    คำพูดนั้นทำให้วีร่านึกย้อนถึงเรื่องเก่าๆ เมื่อหลายร้อยปีก่อนผู้อื่นต่างมองอิลูเมียว่าเป็นราชินีที่แย่ที่สุด เนื่องจากนางเคยตามราวีสวามีเสียจนเดือดร้อนทุกแผ่นดิน

    ขี้โวยวายคือนิสัยที่ทุกคนตราหน้าว่านางเป็น

    แต่หลังจากนั้นนางก็เหมือนกับ... ไม่อยากโวยวายอะไรแล้ว นางปล่อยราวว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้ค่าพอๆ กับเศษฝุ่น และนางกลายเป็นราชินีที่ทุกดินแดนนับถือ นางถือเป็นหญิงสูงศักดิ์ ซึ่งล้ำค่าเกินกว่าที่ใครจะแตะต้องได้

    เมื่อนางประพฤติตัวสมราชินี กลายเป็นราชาแห่งทวยเทพเองที่ถูกมองว่าแย่ แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากเกี่ยวกับเรื่องนี้

    วีร่าไม่เคยนึกว่าวันหนึ่งหญิงสาวคนนั้นจะนั่งอยู่ตรงนี้กับเธอ ใช้สองแขนกอดเธอ และกล่าวขอโทษ

    เรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่เราเป็นเพื่อนกัน การกอดโดยบังเอิญถือว่ามากที่สุดที่ขอบเขตคำว่าเพื่อนจะให้ได้

    "เจ้าคงรำคาญข้ามากแล้ว" เธอเริ่มรู้สึกผิดเอง ช่วงนี้เป็นเธอเองที่ใส่อารมณ์ตลอด "ข้าเองก็ขอโทษเกี่ยวกับสิ่งที่ข้ากระทำลงไป"

    "ไม่จำเป็น" นางกระซิบ "ข้าทนได้เสมอ"

    "..." วีร่าเม้มริมฝีปากแน่น

    "หากเจ้าอยากฟังว่าเหตุใดช่วงแรกข้าถึงอารมณ์ร้ายนัก ข้าจะเล่าให้ฟัง" อิลูเมียประสานปลายนิ้วกับเธอ "ข้าโดนกดดันมามากเกี่ยวกับเรื่องเจ้า ก็เลยกริ้วมากจนหาที่ลงไม่ได้ รวมกับได้กลิ่นตัวของเจ้าข้าเลยไม่ค่อยมีสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำตัวเยี่ยงสัตว์ป่าเสียอย่างนั้น"

    "..." เธอเงียบกริบ รู้สึกมือเย็นเฉียบ เรื่องกลิ่นโผล่มาในหัวอีกแล้ว

    "ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้าเลย แต่เมื่อลองแล้วมันก็หยุดไม่ได้ เจ้า..." นางเว้นและดูไม่อยากพูดต่อ

    "ไม่จำเป็นต้องกล่าวออกมา ข้ารู้ อิลูเมีย ข้ารู้จักมันดี" มือเธอชื้นเพราะเหงื่อ

    ความสามารถของกลิ่นนั้น...เพราะมันติดตัวเธอมาตั้งแต่สมัยมนุษย์สองคนแรกของโลก ยังไม่เจริญ ไม่มีอารยธรรม มันจึงมีไว้กระตุ้นความอยากทางเพศกับความป่าเถื่อน ผู้หญิงเป็นได้แค่ที่รองรับอารมณ์เท่านั้น

    วีร่าเกลียดมัน เกลียดมันที่เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายเธอ

    "ไม่จำเป็นต้องทำสีหน้าเช่นนั้น" อิลูเมียกระซิบ

    "เจ้าทราบได้อย่างไรว่าข้าทำสีหน้าแบบไหน ทั้งที่เจ้ามองไม่เห็น"

    สภาพตอนนี้คืออิลูเมียนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังเธอ เราหันหน้าไปทางป่า มองหิ่งห้อยพวกนั้นด้วยกัน

    "ข้าสัมผัสได้" นางตอบ "สัมผัสได้มานานแล้ว"

    วีร่าชะงัก นึกถึงเหตุการณ์ที่สามารถอ้างอิงคำพูดนางขึ้นมาได้

    นั่นคงเป็นเหตุผลที่อิลูเมียมักมาคุยกับเธอยามมีปัญหาโดยที่นาตาเลียไม่รู้

    นั้นคงเป็นเหตุผลที่อิลูเมียรู้เสมอว่าตอนไหนที่เธอตกอยู่ในอันตราย

    นั่นคงเป็นเหตุผลที่ช่วงหนึ่ง...เธอสนิทกับอิลูเมียอย่างรวดเร็ว

    ทั้งกลิ่น...ทั้งความรู้สึก...

    "เจ้าเป็น..." เธอกลืนน้ำลายลงคอแล้วหยุดคำพูดไว้แค่นั้น รู้อยู่แล้วว่าสักวันเธอจะต้องเจอแน่ แต่ไม่นึกว่าคนคนนั้นจะเป็นนาง

    "ใช่" นางยืนยัน

    เธอหมดคำจะพูด ไร้เรี่ยวแรงขยับเขยื้อน ได้แต่ปล่อยให้นางกอดพยุงกายไว้

    จำได้ไหมว่าเธอเคยพูดไว้แล้ว คู่สร้างคู่สมของเธอเคยเป็นอดัมมาก่อน แต่หลังจากอดัมมีอีฟ คู่สร้างคู่สมของเราสองคนจะไม่ใช่กันและกันอีกต่อไป

    เธอเคยคิดไว้แล้วว่าคู่สร้างคู่สมที่แท้จริงของเธอคงโผล่มาในสักวัน แต่เธอนึกไม่ถึงว่าจะเป็นนาง... นางที่ถูกใช้มาทำให้เธอท้องเพื่อพรากลูกไปจากเธอ

    วีร่าอยากพูดอะไรสักอย่างเพื่อแก้สถานการณ์ นึกถึงประโยคประมาณว่า 'ล้อเล่นรึเปล่า' หรือ 'อย่าแกล้งข้าเลย' แต่เธอพูดมันออกไปไม่ได้

    มันคือความจริง ร่วมถึงเรื่องที่เธอเริ่มรู้สึกดีกับนางด้วย

    เพราะแบบนี้เหรอ ด้ายแดงพันธสัญญาเลยปรากฏขึ้นมาเชื่อมโยงนางไว้กับเธอ

    ใบหูเธออื้อกับความจริงที่ได้รับรู้ จนเธอไม่ได้ยินคำพูดของอิลูเมีย

    หางตาเธอเห็นว่านางพูดย้ำถึงสองครั้ง แต่เธอฟังไม่รู้เรื่อง

    ฟุบ!

    และกลับมาฟังรู้เรื่องอีกครั้งตอนที่ล้มตัวลงมานอนบนเตียงโดยมีอิลูเมียคร่อมอยู่ด้านบน

    "ทำอะไร..." เธอเอ่ยถาม ใช้มือกำแขนนางไว้แน่นตอนที่โดนกดเอาไว้ แต่นางไม่ได้ใส่แรงลงมาเลย ผิวตรงจุดที่นางเป่าลมหายใจใส่เองก็ร้อนระอุ

    "ก็...ข้าเกียจคร้านจะพูดซ้ำสองแล้ว" นางตอบแล้วเลื่อนสายตาขึ้นมามอง

    "แล้วก่อนหน้านี้เจ้าพูดสิ่งใดอยู่ อื้อ!" วีร่าพูดไม่ทันจบประโยค เบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มฉกฉวยลงมารวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด ความอุ่นละมุนสัมผัสปลายลิ้น เรียวปากถูกกดย้ำนานจนรู้สึกเริ่มชา แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันหวานกว่าทุกครั้ง ยิ่งนางไล้ไปตามเรียวปากเธอ มันก็ยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก

    นานหลายนาทีกว่าอิลูเมียจะผละออกไป

    วีร่ากลัวใจตัวเองมากที่สุด เธอหอบหายใจและร่างกายเริ่มสั่นเทาเมื่อนึกถึงความจริงข้อสุดท้าย

    ความจริงที่ว่า...เธอกลัวจะรักอิลูเมีย กลัวมากจริงๆ

    นางชะงักเมื่อเห็นน้ำตาเธอ และคงคิดว่าเป็นเพราะจูบเมื่อสักครู่ เพราะแบบนั้นนางเลยขยับห่างออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

    แต่เธออยากให้นางกอดเธอไว้ กอดเหมือนที่เคยกอด...

    หมับ!

    วีร่ารั้งต้นคออิลูเมียไว้แล้วเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าไปจูบนางเอง พยายามกดย้ำลงไปอย่างสับสน วินาทีที่ริมฝีปากเรากระแทกกันจนรู้สึกเจ็บ แต่เธอไม่สนใจ เธอดื้อดึงจนถูกดันให้กลับไปนอนราบบนเตียง

    เธอกำมือแน่นจนเล็บบาดผิว ที่ยังร้องไห้อยู่คือน้อยใจจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้

    "โอ๊ย!" เธอร้องออกมาเพราะรู้สึกปวดท้อง

    เหมือนลูกสัมผัสได้ว่าเธอรู้สึกยังไงอยู่ เลยประท้วง

    "ไร้สาระ" อิลูเมียปาดน้ำตาให้เธอ

    "..." นี่นาง...ว่าเธออยู่เหรอ

    "คิดมากทั้งแม่ทั้งลูก"

    "ข้าเปล่า" วีร่าพยายามปฏิเสธ แต่ปฏิเสธได้ไม่เต็มปากเพราะหากเธอไม่คิดมากลูกจะรู้ได้ยังไง เธอเลยเมินอิลูเมียแล้วลูบท้องตัวเองต่อไป

    "ข้ามีบางอย่างอยากให้เจ้ารับรู้ไว้" อิลูเมียกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้เธอเงียบแล้วรอฟัง จนกระทั่งนางแนบหน้าผากตัวเองเข้ากับหน้าผากเธอ ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจเธอเต้นกระหน่ำอยู่ในอก

    เหตุการณ์หนึ่งฉายเข้ามาในหัวของวีร่า


    สามปีก่อน อิลูเมียกำลังเดินผ่านเส้นทางที่มืดมิดซึ่งทอดยาว หน้ากากขนนกถูกสวมใส่อยู่บนใบหน้า นัยน์ตาสีฟ้าล้ำลึกเหลือบมองรอบข้างอย่างพิจารณา ที่เดินคู่กันคืออันนาในชุดกระโปรงรัดรูปสีน้ำเงิน

    "ท่านอิลูเมีย เหตุใดท่านจึงต้องมาที่นี่เล่า" อันนาปริปากถาม

    "ข้าสงสัยบางอย่าง" อิลูเมียตอบ

    นี่คือเหตุการณ์หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนักเวท ยาพิษควบคุมสติใช้งานได้ดีกว่าที่คิด แต่อันนาสามารถแก้ฤทธิ์พวกนั้นได้อยู่แล้ว เลยง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ

    เธอข้องใจและกังวลว่าเหตุใดหัวใจของเธอถึงต้องเต้นแรงตอนที่มีวีร่าอยู่ในอ้อมแขน สงสัยว่าทำไมถึงสามารถรับรู้ได้ว่าวีร่ากลัวขนาดไหนแม้ใบหน้าซีดเซียวพยายามไม่แสดงอารมณ์ออกมาเลยก็ตาม และคำตอบพวกนั้นมีแต่ 'ผู้ที่สร้าง' วีร่า เท่านั้นที่จะตอบเธอได้

    อิลูเมียเดินมาจนสุดทางเดินที่เป็นห้องกลมขนาดใหญ่ มีโต๊ะตั้งอยู่ตรงกลางและชายคนหนึ่งที่สวมหน้ากากอีกาสีขาวก็นั่งคอยเธออยู่

    เบื้องหลังชายผู้สูงศักดิ์คนนั้นมีชายหนุ่มสามคนยืนอยู่ ความตาย สงคราม และโรคระบาด

    จตุรอาชาแห่งวันโลกาวินาศทั้งสามมองเธอด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไรทั้งสิ้น อิลูเมียทราบดีว่า ในสถานที่แห่งนี้ เธอไร้ซึ่งอำนาจ เธอเลยโค้งทำความเคารพชายทั้งสี่โดยมีอันนาทำตาม

    "นั่งลงเถิด อิลูเมีย" ชายหนุ่มที่นั่งอยู่พูดด้วยวาจานุ่มนวลและระรื่นหู "แล้วบอกข้าเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เจ้ากังวลใจจนหาทางมาพบข้าที่นี่"

    "ขออภัยที่ข้าอาจดูไม่มีมารยาทนัก แต่ข้าอยากทราบเกี่ยวกับวีร่า" เธอนั่งลงตรงกันข้ามกับเขาโดยอันนานั่งข้างๆ จตุรอาชาแห่งวันโลกาวินาศทั้งสามยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย

    แต่เธอได้ยินความตายพึมพำว่า 'ลิลิธ' ออกมาอย่างแผ่วเบา

    ลิลิธคือชื่อต้องห้ามของวีร่า เป็นชื่อที่ถูกรังเกียจ

    "ขอทราบเหตุผลหน่อย" ชายสูงศักดิ์กล่าว

    อิลูเมียทราบว่าเธอจำเป็นต้องตอบคำถามนี้ เธอเลยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปทั้งหมด

    หลังจากฟังเรื่องทั้งหมด เขาก็นิ่งเงียบไปสักพักอย่างครุ่นคิด เธอมองไม่เห็นสีหน้าที่แท้จริงของเขาเลยคาดเดาไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

    "ข้าไม่นึกว่าชะตากรรมของนางจะดำเนินอยู่อีกครั้ง หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว และมันเลือกเจ้า ซึ่งเกี่ยวพันกับเทพีแห่งจันทราที่มากับเจ้าด้วย"

    "เลือกข้า...และเกี่ยวกับอันนาด้วยหรือ"

    อิลูเมียถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจ ชะตากรรมของวีร่าเลือกเธอหมายความว่าอะไร ส่วนอันนาก็มีสีหน้าใคร่รู้มากขึ้นและดูตึงเครียด

    ชายสูงศักดิ์พยักหน้าอย่างเชื่องช้า

    "ชะตากรรมของนางเลือกเจ้า และชะตากรรมของเจ้าเองก็เลือกนางเช่นเดียวกัน เข้าใจหรือไม่ อิลูเมีย เพราะอย่างนั้นเจ้าถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของนาง รวมกลิ่นได้กลิ่นที่ติดตัวนางมาตั้งแต่เกิดด้วย กลิ่นนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คู่สร้างคู่สมของนางได้กลิ่นเท่านั้น"

    "แต่ทั้งข้าและนางมีคู่พันธสัญญาอยู่แล้ว" เธอกล่าว

    'คู่สร้างคู่สม' เป็นคำที่ใช้จำกัดความของคนที่ชะตากรรมของเราเลือกให้ ไม่ใช่คนที่เราเลือกเอง

    "เช่นนั้นหากพันธสัญญาโบราณก่อตัวขึ้นด้วยตัวมันเอง มันจักทรงพลังยิ่งกว่าที่เจ้าและนางมีกับผู้อื่น"

    "..."

    "อย่าคิดขัดขวางมันจะดีกว่ามาก อิลูเมีย ข้าคงกล่าวกับเจ้าได้เพียงเท่านี้"

    หลังจากหมดคำพูดนั้น เป็นอันว่าชายสูงศักดิ์ไม่สามารถอธิบายสิ่งใดให้เธอฟังได้อีกแล้ว อิลูเมียกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกมาพร้อมอันนาที่ยังดูวิตกกังวล

    สงสัยจะเป็นคำพูดที่เขาบอกว่า 'เกี่ยวกับเทพีแห่งจันทราด้วย'

    "ไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเมื่อมันยังไม่เกิดขึ้นหรอก" เธอกล่าวกับอันนา

    "..." นางไม่ตอบอะไรกลับมา

    เวลาผ่านไป นานนับเดือน นานนับปี อิลูเมียที่ทราบเรื่องเธอกับวีร่ามาโดยตลอดเกิดความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึก เธอยอมรับว่ามุมมองความคิดของเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และนางก็น่าเอ็นดูขึ้นในคราบของหญิงเกียจคร้านที่นาตาเลียทำทุกอย่างให้

    เธอไม่แน่ใจว่าทำไมนาตาเลียต้องเอาใจสหายอย่างวีร่าขนาดนั้น และเผลอหึงหวงไปชั่ววูบหนึ่ง ก่อนจะเข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องของนิสัย หากสองคนนั้นนิสัยเหมือนกันคงไม่สามารถคบเป็นเพื่อนกันได้

    อิลูเมียจมอยู่กับกลิ่นและความรู้สึกนั้นนานนับสามปี จนเธอได้พบเตียวเสี้ยนวันนั้น วันที่เด็กสาวยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งแลกวิญญาณเพื่อให้นาตาเลียหันมารัก

    เธอถึงได้เข้าใจ ว่าเธอรักวีร่าและเธอเองก็อยากทำทุกอย่างให้นางหันมารักเธอเช่นเดียวกัน

    แต่ภารกิจที่เธอได้รับมาเกี่ยวกับนางสายเกินจะย้อนกลับไปได้แล้ว เธอต้องเดินหน้าเท่านั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอไม่คิดเคยว่านางจะไม่อยากเสียลูกไป...เหมือนกับเธอ

    เพราะเด็กคนนั้นก็จะเป็นลูกของเธอเหมือนกัน

    หากว่าช่วงร้อยปีให้หลังพวกปีศาจและอสูรไม่อาละวาดบ่อยกว่าที่ควร เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เทพอย่างเธอเป็นพวกวิตกกังวลเกินเหตุเกี่ยวกับอนาคตอยู่แล้ว ถึงแข็งแกร่งแค่ไหนก็กลัววันที่ตัวเองไม่มีอำนาจอีกต่อไป

    ความกลัวนั้นก็กลายเป็นความโหดร้ายที่พร้อมเหยียบย่ำทุกสรรพสิ่ง


    "นี่นะหรือสิ่งที่เจ้าต้องการบอกข้า" วีร่าเอ่ยถามหลังจากเห็นทุกอย่างจากอิลูเมียจบ เธอได้ยินแล้วว่านางรักเธอ รวมถึงเริ่มสัมผัสความรู้สึกของนางได้เหมือนกัน

    "ข้าเป็นห่วงเจ้า" นางกระซิบแล้วกดริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบา "ข้ารักเจ้า วีร่า"

    "หากเจ้ารักข้ากับลูก ก็ปกป้องเรา อิลูเมีย" เธอเตือนว่านี่คือสิ่งที่นางควรกระทำ ไม่ใช่บอกรักแต่ปาก เธออยากให้ลูกปลอดภัยจากฝีมือเทพพวกนั้น แต่เธอไม่มั่นใจว่าอิลูเมียจะสามารถรับมือพวกมันทั้งหมดได้รึเปล่า

    "แน่นอน" นางกล่าว แต่เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า "ข้าจะปกป้องเจ้ากับลูก"

    "..."

    "ใครหน้าไหนก็ไม่มีวันแตะเจ้าได้ ข้าสาบานด้วยชีวิตของข้าเอง"

    คำพูดของนางทำให้วีร่าทราบว่าเธอไม่ได้กลัวที่จะรักนาง...เธอรักนางอยู่แล้ว และแค่กลัวที่จะรักไปมากกว่านี้


    อิลูเมียดูแลวีร่าอย่างดีมาตลอดสองเดือน เธอพยายามไม่ให้สิ่งใดกระทบกระทั่งจิตใจนางนักเพื่อตัวนางเอง เพราะนางไม่ค่อยระมัดระวังอะไร

    มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอยังผิดหวังอยู่เล็กน้อยคือนางไม่เคยบอกรักเธอ

    แต่เธอน้อยใจไม่ได้หรอก เธอมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำ อีกไม่ถึงสามราตรีวีร่าจะคลอดทารกเพศหญิงออกมา เธอไม่ไว้ใจแพทย์สวรรค์ และมนุษย์คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เธอเลยบากหน้าลงมายังนรกภูมิ

    สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมความโหดร้ายไว้ทุกรูปแบบ เธอไม่ค่อยอยากมองเลยเดินผ่านไปยังบริเวณที่เป็นส่วนราชวัง ไม่มีเสียงอะไร ทุกอย่างเงียบกริบ จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่จนเห็นบัลลังก์สองอันตั้งอยู่สุดทางเดิน

    มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ เขามีเส้นผมสีขาวบริสุทธิ์ นัยน์ตาสีแดงโลหิต กับรูปร่างเซ็กซี่ยั่วยวน

    เขาปรายตามามองเธอแล้วเหลือบมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง

    ชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ามีผิวกายสีแดงที่ไม่เข้มมากนัก เส้นผมสีแดงเพลิง และรูปร่างแข็งแกร่งเหมือนนักรบก็ไม่ปาน

    "มาลอช เจ้าไม่เห็นบอกว่านางจะมาหา" ลูซิเฟอร์เอียงศีรษะไปมา

    "..." อสูรกายรับใช้ไม่ได้ตอบอะไร

    "เจ้ามาเพื่ออะไร" ลูซิเฟอร์หันมาถามเธอ

    อิลูเมียยืนนิ่ง เธอสูดลมหายใจ ตอนนี้อันนากับยอร์นรอคอยอยู่เบื้องบน หากพวกมันโจมตีเธอ เธอก็แค่หนีขึ้นไปให้ได้เท่านั้น แต่หากหนีไม่ทันเธอก็ไม่แน่ใจชะตากรรมของตัวเองเหมือนกัน

    "เรื่องของวีร่า" เธอกลั้นใจพูดออกไป

    "..." ลูซิเฟอร์เงียบ

    "ข้าอยากขอคนจากที่นี่ไปทำคลอดวีร่า" เธออธิบายไปทีละอย่าง แต่ทราบดีว่าลูซิเฟอร์ต้องพูดขัดขึ้นมาแน่ และจริงดังคาด

    "เมียข้าท้อง?"

    "..."

    "กับใคร"

    "กับข้าเอง" อิลูเมียยอมรับ เธอไม่ยอมปิดบังความจริงข้อนี้แน่ เพราะเธอเต็มใจที่จะมีลูก ถึงเขาจะเป็นผู้ผูกพันธสัญญาโบราณที่วีร่าเลือก แต่เธอไม่ยอมให้เขาไปแทนที่เธอแน่ๆ "วีร่าท้องลูกของข้า ได้ยินชัดเจนหรือไม่ ลูซิเฟอร์"

    "วีร่าหายตัวไปและตอนนี้อยู่ร่วมกับเจ้า ใช่หรือไม่"

    "ใช่ นางอยู่กับข้า"

    "..."

    "มีอะไรที่เจ้าอยากทราบอีกหรือไม่ หากไม่ โปรดทำตามสิ่งที่ข้าขอด้วยเถิด"

    "เขาไม่มีอยู่แล้ว แต่ข้ามี" เสียงของใครสักคนดังขึ้นด้านหลัง เธอเหลือบไปมองแล้วเห็นนาตาเลียผลักอันนากับยอร์นเข้ามาด้านใน "วีร่าอยู่ที่ไหน"

    "..." อิลูเมียเป็นฝ่ายไม่ตอบบ้าง เธอจะตอบนาตาเลียได้ยังไงในเมื่อนางจะพรากวีร่าไปจากเธอ เธอทำใจตอบกลับไปไม่ได้หรอก

    "อิลูเมีย วีร่าอยู่ที่ไหน" นัยน์ตาของนาตาเลียเรืองแสงสีเขียวเป็นสัญญาณว่านางกำลังจะกลับสู่ร่างที่แท้จริง เธอกำหมัดแน่น ความลำบากใจหนักอึ้งอยู่บนบ่า

    นี่กระมังที่ผู้คนต่างกล่าวว่าบางคราความรักกับหน้าที่ก็ไปด้วยกันไม่รอด

    "ข้ารักนาง" เธอตัดสินใจพูด ไม่สนลูซิเฟอร์หรือใครหน้าไหนทั้งนั้น "ข้ารักนาง นาตาเลีย ได้โปรดอย่า..."

    "นางอยู่ที่ไหน!!" นาตาเลียตวาดลั่น

    อิลูเมียขมวดคิ้ว ขอดีๆ แล้วไม่ได้หรือเธอต้องเล่นบทโหดเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่ยังตามราวีราชาแห่งทวยเทพ ช่วงนั้นเธอแทบไม่เป็นผู้เป็นคน

    "หากเจ้าอยากทราบ ข้าจักบอก แต่แลกกับการที่เตียวเสี้ยนต้องตาย ดีหรือไม่"

    "..." นาตาเลียชะงักแล้วกัดฟันกรอด

    "หากไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้น อย่าเค้นเอาคำตอบจากข้าอีกเลย และโปรดบอกกับสหายเจ้า..." เธอส่งสายตาไปทางลูซิเฟอร์ "ให้ช่วยจัดเตรียมหมอเพื่อไปทำคลอดวีร่าด้วย"

    "ลูซิเฟอร์" นาตาเลียเรียกชื่อราชาแห่งนรกภูมิ

    "ย่อมได้ตามนั้น" เขาไม่ปฏิเสธ

    ลูซิเฟอร์เป็นคนเลือดเย็นและไม่สนใครหน้าไหน ขนาดวีร่าอยู่กับเธอ ท้องลูกของเธอ เขายังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากนอกจากสายตาที่บอกว่ารับรู้แล้วเพียงเท่านั้นเอง

    "ข้าได้ยินแล้วว่าวีร่าท้อง" นาตาเลียสูดลมหายใจ "อย่าลืมพาลูกของนางมาหาข้า"

    อิลูเมียไม่ได้ตอบอะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้น เธอเพียงแค่พาอันนากับยอร์นออกมา

    "ข้าจะขึ้นไปรอเบื้องบน"

    เธอหมายความตามนั้น คิดว่ารออยู่ตรงทางเข้านรกราวๆ สิบนาทีได้ก่อนที่คนที่เธอรอจะขึ้นมาถึง ประกอบไปด้วยสตรีสามนาง ใบหน้าทั้งสามถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำ ร่างกายถูกคลุมด้วยชุดสีแดงเลือดหมู ปกปิดตัวตนไม่ให้เธอรู้

    เธอไม่คิดมาก พาทั้งสามเข้าไปในมิติของตัวเอง เห็นว่าวีร่ากำลังหลับอยู่

    "ไปอยู่ทางนั้น" อิลูเมียชี้ไปทางป่า เธอสร้างมันมาเพื่อการนี้ ถึงป่าจะไม่ใหญ่มาก แต่มันห่างจากที่นี่พอสมควร "หากข้าไม่ได้เรียก ไม่จำเป็นต้องออกมา"

    ไม่มีเสียงตอบรับ พวกนั้นแค่ทำตามคำสั่ง

    สองสามวันหลังจากนั้นวีร่าก็ให้กำเนิดทารกเพศหญิง และเธอให้ชื่อว่า 'ลอเรียล'

    คืนนั้นอิลูเมียหลับสนิทเพราะมัวแต่โอ๋ทั้งแม่ทั้งลูกที่แข่งกันร้องไห้ วีร่ากลัวอนาคต ส่วนลอเรียล ลูกร้องไห้ตามประสาทารก

    เธอเองก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับคนที่ขอมาจากทางนรก แต่ไม่จำเป็นต้องฆ่าทิ้ง อีกไม่นานเธอต้องออกจากที่นี่แล้ว

    แต่เมื่อเธอตื่นมา...ทั้งวีร่าและลูกไม่ได้นอนอยู่บนเตียงกับเธอ

    ทั้งสองหายไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว

    อิลูเมียทั้งหงุดหงิดและงุ่นง่าน เธอไม่เห็นสามคนนั้นที่พามาทำคลอดวีร่าแล้วด้วย พวกมันอาจเป็นคนพาวีร่าออกไป

    น่าจะฆ่าให้จบๆ ตั้งแต่แรก

    เธอเหนื่อย แต่ก็เข้าใจดีว่าไว้ใจใครที่ไม่ใช่คนของตัวเองไม่ได้ และที่สำคัญเธอท้อตอนนี้ไม่ได้ วีร่ากับลอเรียลคงรอเธออยู่

    เมื่อคิดได้อิลูเมียเลยลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เธอเดินออกมาจากมิติของตัวเองและคิดว่าคงไม่กลับเข้าไปอีก เลยพังมันทิ้ง คืนพลังส่วนหนึ่งให้ตัวเอง ยังไม่ทันได้เดินออกไปก็พบกับอันนาที่มาดักรออยู่ นางมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

    "ท่านอิลูเมีย ครานี้ราชินีแห่งนรกอเวจีและลูกอยู่กับราชาแห่งทวยเทพ" นางพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล "ข้าได้ยินมาว่าเทพองค์อื่นๆ เจอท่านวีร่ากับลูกตอนที่ทั้งสองกำลังถูกคนจากนรกพากลับไป แต่เทพพวกนั้นก็เข้าขวางไว้แล้วลักพาตัวมา ตอนนี้เหล่าเทพรวมตัวกันอยู่ที่น้ำตกทิศใต้ของเขาโอลิมปัส"

    "นำทางไป" เธอไม่เสียเวลาคิดอีกต่อไป

    เคยสาบานกับวีร่าไว้แล้ว...หากนางกับลูกเป็นอะไรไป เธอจะไม่ให้อภัยตัวเอง

    'หากเจ้ารักข้ากับลูก ก็ปกป้องเรา อิลูเมีย' ประโยคนั้นย้อนกลับมาในหัวเธอ

    รักมากจนแทบคิดไม่ออกว่าหากวีร่ากับลูกเป็นอะไรไป เธอจะอยู่ยังไง

    ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน กลายเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอไม่อยากอยู่คนเดียวอีกต่อไป

    จนอันนาพาเธอมาถึงสถานที่ที่ว่า น้ำตกขนาดใหญ่มีความสูงมากกว่าสี่สิบฟุต มีแท่นบูชาลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณยี่สิบฟุต หรือก็คือครึ่งหนึ่งของน้ำตก เธอเห็นร่างของลอเรียลนอนอยู่บนนั้นในสภาพห่อด้วยผ้าขาว ลูกกำลังหลับสนิท แต่หากตื่นขึ้นมาต้องวุ่นวายกว่าเดิมแน่

    ฉับพลันอิลูเมียเหลือบไปเห็นวีร่ากำลังถูกล่ามด้วยโซ่ มือและเท้าทั้งสองข้างถูกพันธนาการเอาไว้ เธอกัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่าผู้ที่เฝ้าวีร่าไว้คือลูกชายของเธอเอง แอรีส

    "เฮร่า" ราชาแห่งทวยเทพเรียกชื่อที่แท้จริงของเธอ "เจ้ามาได้ทันเวลาพอดี"

    "ซุส..." เธอเรียกเขาแล้วกำหมัดแน่น แต่สุดท้ายก็ยอมลงมายืนที่พื้นดินเคียงข้างเขา การอาละวาดตอนนี้ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเธอเองก็ยังคิดแผนช่วยทั้งวีร่าทั้งลูกไม่ได้ หากการที่เธอเข้าไปช่วยฝ่ายหนึ่งจะเป็นการฆ่าฝ่ายหนึ่ง ตอนนี้เธอนิ่งไว้เสียดีกว่า "เจ้าไม่เห็นบอกข้าเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้"

    "เรื่องบังเอิญที่อาธีน่ากับอะโฟรไดต์จับนางได้พอดี" ราชาแห่งทวยเทพกล่าวถึงเทพีแห่งสติปัญญากับเทพีแห่งความรัก

    เธอไม่แปลกใจว่าทำไมสามคนนั้นถึงสู้ไม่ได้ ที่น่ากลัวไม่ใช่อะโฟรไดต์ แต่เป็นอาธีน่า เพราะนางเป็นถึงเทพแห่งสติปัญญาและสงคราม นางถนัดการสงครามที่ใช้สติปัญญา ไม่เหมือนแอรีสลูกชายเธอที่มีแต่ความบ้าเลือด

    แต่แปลกตรงที่...ปกติอะโฟรไดต์ไม่ค่อยได้ออกจากโอลิมปัสเท่าไหร่นัก

    ในที่สุดอิลูเมียก็ตัดสินใจปัดปัญหาพวกนั้นออกไปจากหัว

    เธอหันไปมองวีร่า นางสลบอยู่เช่นเดียวกัน ใบหน้าสวยสง่าก้มลงต่ำ ผมสีแดงโลหิตหม่นมากเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดด

    ลอเรียลมีร่มเงาจากน้ำตกคอยบดบังแสงแดดให้อยู่ แต่เสียงน้ำตกดังขนาดนี้ลูกก็ยังไม่ตื่น...

    "ซุส เจ้าใช้มนตร์ทำให้ทารกหลับใหลหรือ" อิลูเมียกล่าวถาม และราชาแห่งทวยเทพก็พยักหน้ากลับมา

    เธอประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เทพโอลิมเปียนทั้งสิบสององค์อยู่กันครบ รวมเธอด้วย และต่างกระจายกำลังอยู่รอบน้ำตก

    ที่ยืนอยู่บนสุดน้ำตกและคงเข้าใกล้ตัวเธอเร็วที่สุดหากเธอไปเอาลอเรียลมาคืออาธีน่า นางถือหอกไว้ในมือ ร่างกายผอมเพรียวสวมใส่ชุดเกราะพร้อมรบอยู่เต็มอัตรา

    เธอไม่เคยทราบว่าแท้จริงแล้วซุสคิดจะทำอะไร ทราบเพียงแค่ภารกิจกับการฆ่าทารกทิ้งเท่านั้น แต่หากให้เดาจากสถานการณ์ตอนนี้...

    ซุสต้องเชิญพวกปีศาจกับพวกอสูรมาเป็นพยานความตายของลอเรียลแน่

    อิลูเมียไม่สามารถรอให้ถึงตอนนั้นได้

    "อันนา ข้าอยากให้เจ้าช่วยปกป้องลอเรียลระหว่างที่ข้าไปเอาตัววีร่าออกมา" อิลูเมียกล่าว อันนาพยักหน้า ในสายตาของนางมีแต่ความพร้อม เราตกลงกันแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แถมนางก็ได้ยินจากปากเธอแล้วด้วยว่าเธอรักวีร่า "ไปเลย"

    เธอผละออกมาจากตรงนั้น ตรงไปยังวีร่าและเห็นแอรีสมีสีหน้าแปลกใจ เขาดูไม่ระแวงอะไรและกำลังจะทำความเคารพเธอ

    "แม่ขอโทษ" อิลูเมียกระซิบบอกเขา "ขอโทษจริงๆ"

    ผลัก!

    เธอใช้พลังผลักเขาไปจนกระทั่งเขากระแทกกับก้อนหินขนาดใหญ่ ศีรษะฟาดเข้าอย่างแรงจนสลบไป ใช้เวลาพริบตาเดียวในการปลดโซ่ตรวนทั้งหมด เธอรับร่างที่อ่อนปวกเปียกเอาไว้และก่อนที่คนอื่นจะทันคิดอะไร เธอพาวีร่าไปยังแท่นบูชาที่ขังลอเรียลอยู่แล้วให้วีร่านอนลงข้างลูก

    "เจ้า...เฮร่า!!" เสียงคำรามของราชาแห่งทวยเทพเสียดแทงผ่านอากาศมาเข้าหูเธอ อันนาหยุดยืนอยู่ข้างเธอเพื่อปกป้องสองคนข้างหลัง ส่วนยอร์นยืนอยู่ด้านล่างกำลังเล็งธนูข่มขู่อาธีน่าไม่ให้ขยับ

    อิลูเมียสูดลมหายใจ เธอสัมผัสถึงพลังที่วนเวียนอยู่ในร่างกายของตัวเอง

    "อันนา หากข้าเป็นอะไรไป เจ้าต้องปกป้องวีร่ากับลอเรียล เข้าใจหรือไม่"

    "ข้าเข้าใจ ท่านอิลูเมีย"

    "สาบานสิ"

    "ข้าสาบานว่าจักปกป้องเมียและลูกของท่าน" อันนากล่าวออกมาชัดเจนจนอิลูเมียคลายความกังวล เธอหลับตาลง รู้สึกได้ว่าแสงแดดหายไปแล้ว ท้องฟ้ามืดมิดและขมุกขมัว สายฟ้าผ่าลงมาดังลั่นจนต้นไม้ล้มโค่นลงเป็นจำนวนมาก เทพทั้งหมดยืนนิ่ง นี่เปรียบเสมือนสงครามระหว่างเธอกับราชาแห่งทวยเทพ

    เธอผู้ครองตำแหน่งราชินีกำลังทรยศตำแหน่งของตัวเอง

    เพื่อปกป้องคนที่เธอรัก ต่อให้ต้องสละตำแหน่ง สละชื่อเฮร่า สละความเป็นเทพ

    เธอยอมทุกอย่าง

    อิลูเมียจมดิ่งในความคิดของตัวเองเพื่อหาจิตวิญญาณของบรรพบุรุษที่ซุกซ่อนอยู่ทุกหนแห่ง จนกระทั่งเธอพบเข้ากับดวงจิตสองดวง ไม่สิ เธอไม่ใช่ผู้หาพบ เหมือนท่านทั้งสองปรากฏตัวออกมาเพื่อพบเธอเสียมากกว่า

    'ข้าขอยืมพลังของพวกท่านได้หรือไม่' เธอกระซิบ

    'กล่าวกับข้าว่าเจ้าทำไปเพื่อสิ่งใด...' ดวงจิตดวงแรกเป็นผู้พูด

    'บอกเราว่าสิ่งนั้นมีความหมายมากเพียงไหน' ดวงจิตดวงสองถาม

    'ข้าทำเพื่อลูกและคนรักของข้า' อิลูเมียเรียบเรียงคำพูดก่อนตอบ 'ข้าไม่สามารถสูญเสียทั้งสองไปได้ เพราะต่อให้ข้าเป็นเทพ ข้าก็ไม่สามารถแก้ไขอดีตได้'

    '...'

    '...'

    'ข้ามาเพื่อวิงวอนต่อท่านทั้งสอง แต่ก่อนอื่นข้าขอกล่าวตามตรงว่าข้าเข้าใจพวกท่าน ข้าไม่ใช่ลูกหลานเพียงหนึ่งเดียวของท่านทั้งสอง และข้าขอพลังที่จะเอาไปจัดการกับลูกหลานพวกท่านเอง หากพวกท่านไม่อยากให้...'

    'เจ้าไม่เข้าใจเราหรอก เฮร่า' เสียงแรกกล่าว

    'หากเจ้าเข้าใจ เจ้าจะคิดได้ด้วยตัวเองว่าเราไม่ได้แคร์ผู้ใด แม้กระทั่งเจ้า' เสียงที่สองกล่าวขยายความ

    '...' เธอเงียบ

    'เรายิ่งใหญ่และอิสระเกินกว่าจะสนใจเทพรุ่นหลัง' เสียงแรกหลุดขำออกมา 'แต่ในเมื่อเจ้ามาขอร้องถึงเพียงนี้ ข้าก็มีใจอยากช่วย'

    'เราสองคนเองก็เป็นเช่นเจ้ากับแม่หนูน้อยจากนรก เราเข้าใจดีถึงความรักที่ถูกมองว่าผิด แต่ผู้ใดสนเล่า เราจะช่วยเหลือเจ้า' เสียงที่สองพูดอย่างเนิบนาบก่อนกล่าวต่อทิ้งท้าย

    '...'

    'เพราะความรักก็คือความรัก จงกำจัดผู้ที่ขวางทางเจ้าให้ราบเสีย เฮร่า'

    อิลูเมียลืมตาขึ้น เธอกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริง หน้ากากขนนกถูกสวมใส่ ชุดที่ใส่อยู่กลายเป็นชุดกระโปรงยาวแล้วมีเพชรประดับประดาเป็นอันบอกถึงฐานะและเกียรติยศ ทั่วทั้งร่างกายเรืองแสงสีทอง เธอชูมือทั้งสองข้างขึ้น

    แล้วเริ่มพึมพำบทร่ายเวทในหัวออกมา


    กล่าวสรรเสริญท่านทั้งสองผู้ยิ่งใหญ่

    ผู้เกรียงไกรเป็นเลิศวสุธา

    Related image

    จากนภาร่วงหล่นสู่ผืนดิน

    ธรณินทร์ที่แข็งกล้ายังสั่นไหว


    บังเกิดพลังแห่งแสงขนาดใหญ่ผ่าลงมายังพื้นดิน แทรกผ่านสายฟ้าและก้อนเมฆ พุ่งลงมาราวกับกำลังฉีกขาดมวลอากาศเป็นเสี่ยงๆ มันระเบิดเสียงดังเมื่อกระแทกเข้ากับร่างของเทพเจ้า ผู้ที่หลบไม่ทันและมีพลังไม่มากพอร่างกายฉีกขาดเป็นสองส่วนก่อนสลายหายไปเป็นฝุ่นสีทองเพื่อเตรียมไปรวมเป็นกายเนื้อใหม่

    แต่ผู้ที่หลบได้ อย่างเช่นอาธีน่าก็พาอะโฟรไดต์หลบไปอีกทางหนึ่ง ราชาแห่งทวยเทพไม่ถึงกับสลายหายไป แต่บาดเจ็บหนักมากเหมือนกัน

    อิลูเมียน้ำตาไหลลงมาหยดหนึ่ง พวกเขาเป็นพี่น้องเธอ เป็นลูกหลานเธอ แต่เธอปล่อยให้พวกเขามาทำร้ายครอบครัวเธอไม่ได้

    เธอสัมผัสกับพลังมากมายที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายและทราบว่าเทพรุ่นแรกทั้งสองให้มันมาเพื่ออะไร

    "นามของท่านคือนิกซ์" เธอกล่าว

    มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ ใบหน้าหยิ่งทะนงและดูดุร้ายเหลือบมองเธอ ปีกสีดำทมิฬกลางหลังให้ความรู้สึกพร้อมจะดูดกลืนทุกอย่างเข้าไปในความมืดมิด ดาบยาวในมือของนางอาบไปด้วยพลังอำนาจ

    "เมื่อข้าปรากฏทุกสรรพสิ่งถูกกลืนกินโดยความมืด ความตายเยื้องย่างทุกทิศทางที่ข้าจักก้าวเดิน ผู้ใดอาจหาญท้าทายชีวีดับสูญมรณา วิญญาณจักอาสัญจนสิ้นไร้เศษธุลี" นิกซ์กล่าว

    อากาศรอบข้างปั่นป่วนราวกับกำลังจะเกิดมหาวายุขึ้น แผ่นดินกำลังสั่นราวกับกำลังหวาดกลัวและยอมศิริราบให้เทพีแห่งความมืด

    อิลูเมียไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป หากมีนิกซ์ก็ต้องมี...

    "นามของท่านคือเฮเมร่า"

    หญิงสาวอีกคนปรากฎขึ้นเคียงข้างนิกซ์ หล่อนมีใบหน้าที่ดูอ่อนโยนกว่า แต่นิสัยกลับโหดร้ายไม่แพ้กัน นางเหยียดยิ้มเย้ยหยันทุกสรรพสิ่งแล้วมองร่างที่บาดเจ็บของเทพรุ่นหลังอย่างดูแคลน

    "ความมืดก่อกำเนิดจักบังเกิดเเสงสว่าง ไร้มรณะเเห่งอเวจีดำดิ่งสู่ก้นบึ้งเเห่งจิตใจ ผู้ใดล่วงเกินชีวีจักสลายกลางอาทิตย์อัสดง ทรมาณไร้จุดสิ้นสุดจนกว่าชีวิตจะหาไม่ใต้ดวงสุริยัน"

    เฮเมราเป็นเทพีแห่งแสงสว่าง นางเคยเป็นลูกสาวของนิกซ์มาก่อน แต่เมื่อหน้าที่ความรับผิดชอบเกื้อหนุนกัน ทั้งคู่กลายมาเป็นฝาแฝด

    แต่...จากคำพูดของเฮเมร่าเมื่อครั้งที่ยังสนทนาผ่านจิตกับเธอ ดูเหมือนทั้งสองไม่ได้กลายมาเป็นฝาแฝดกันเพราะหน้าที่อย่างที่เทพรุ่นหลังเข้าใจ

    "ขอบใจเจ้ามากที่ทำให้ข้ากลับมามีกายหยาบอีกครั้ง" นิกซ์พ่นลมหายใจอย่างมีความสุข ดูไม่เดือดร้อนกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่นัก

    "สงครามครั้งนี้เห็นทีจะรู้ผลเสียแล้ว" เฮเมร่าถือหอกอยู่ในมือ ปีกสีขาวของนางสยายกว้าง

    "เพียงท่านมาทุกอย่างก็ยอมสยบ" อิลูเมียกล่าวอย่างนอบน้อม เหงื่อไหลซึมไปทั้งแผ่นหลัง ไม่แน่ใจว่าตัดสินใจผิดพลาดรึเปล่า แต่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่นึกออก "แต่อย่าได้เข่นฆ่าผู้ใดเลย มหาเทพีทั้งสอง"

    "..." นิกซ์ไม่ตอบอะไร นางยิ้มแย้มแล้วหันมองลอเรียล เสี้ยววินาทีที่ปลายนิ้วเรียวสัมผัสกับใบหน้าลูกสาวเธอ อิลูเมียสะดุ้งเฮือก

    แต่นางเพียงแค่ลูบไล้แก้มลอเรียลเล่นเท่านั้น

    เธอเลยหันไปสนใจอันนาที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วแทน

    "ท่าน..." อันนาขยับปากพูดกับเธอ แต่ก็ดูพูดไม่ออกเมื่อมองนิกซ์กับเฮเมร่า

    "พวกเจ้าไปเสียเถิด ตรงนี้เราจะจัดการเอง" เฮเมร่าโบกมือไล่ เธอไม่รอช้า จัดการปลดโซ่ตรวนของแท่นบูชาออกแล้วอุ้มลอเรียลขึ้นมา อีกมือหนึ่งก็คอยพยุงวีร่าไปด้วยแล้วมุ่งหน้าไปยังภูเขาโอลิมปัส

    เธอวางร่างคนรักกับลูกไว้บนเตียงนอน ถึงสถานที่แห่งนั้นจะอยู่ไกล แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงระเบิด เสียงกรีดร้องได้ชัดเจน

    ความเสียหายใหญ่หลวง

    เทพยุคแรกไม่เคยเกรงใจใครอยู่แล้ว

    พลังที่นิกซ์กับเฮเมร่าให้มา ส่วนหนึ่งถูกใช้ไปกับการโจมตีของเธอ อีกส่วนหนึ่งใช้สร้างกายหยาบให้ทั้งสองอีกครั้ง เพราะแรกเริ่มเดิมทีทั้งสองกลายเป็นดวงจิตหลังหมดยุคสมัยของเทพยุคแรก ไม่สามารถสร้างกายหยาบเองได้

    อิลูเมียล้มตัวลงนอนข้างวีร่า เธอสลบไปเพราะความเหนื่อยล้า


    ผ่านมาสามปีนับจากวันนั้น ลอเรียลโตขึ้นทุกวัน ส่วนอิลูเมียกับวีร่าก็อยู่ด้วยกันบนเขาโอลิมปัสโดยไม่สนใครหน้าไหนเพราะมีนิกซ์กับเฮเมร่าคอยข่มขู่คนอื่นให้ จากเทพโอลิมเปียนผู้ยิ่งใหญ่บัดนี้แปรสภาพเป็นทาสรับใช้เทพยุคแรกทั้งสองไปตามๆ กัน

    นิกซ์ตัดพันธสัญญาโบราณที่เธอมีกับซุส และที่วีร่ามีกับลูซิเฟอร์ให้ เพราะนางเป็นหนึ่งในผู้สร้างพันธสัญญานี้ขึ้นมา

    แถมอิลูเมียก็ได้วีร่าอธิบายเรื่องทั้งหมดให้นาตาเลียฟังแล้วด้วย เธอเลยสามารถเป็นเพื่อนนาตาเลียต่อได้แบบไม่สนิทใจ เพราะนางดูเขม่นเธอเหลือเกิน

    วันนั้นที่วีร่าหายไป เป็นสามคนนั้นจริงๆ ที่เอาตัววีร่าไป แถมนาตาเลียก็ปลอมเป็นหนึ่งในสามแฝงตัวเข้ามาด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครใช้พลังฉีกมิติเธอเพื่อหาทางออกไป

    แต่ระหว่างทางก็ดันไปเจอกับอาธีน่าและอะโฟรไดต์ สองคนสลายหายไป เหลือนาตาเลียที่ยืนหยัดสู้ ซึ่งสู้ได้ไม่นานก็ถอยเพราะสงสัยว่าทำไมอาธีน่าถึงต้องการตัววีร่า

    เธอเพิ่งทราบว่าวันนั้นนาตาเลียก็แฝงตัวเพื่อดูเหตุการณ์อยู่ด้วย แต่ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย และเกือบพลาดพลั้งโดนลูกหลงจากการโจมตีเธอ

    เป็นเฮเมร่าที่เจอตัวนาตาเลีย นางเกือบโดนฆ่าทิ้งไปแล้วหากไม่อธิบายว่าเป็นสหายของเธอ

    เมื่อนึกถึงอดีตอันน่าเวียนหัวอิลูเมียก็อดถอนหายใจไม่ได้ ตอนนี้เธอกำลังนั่งคุยกับอันนาอยู่ในสวนของพระราชวัง ส่วนลอเรียลกำลังวิ่งเล่นอยู่อีกด้านโดยมีวีร่าคอยดูแลให้

    พูดถึงลอเรียล ลูกสาวเธอโตไวมากเพราะเป็นลูกครึ่งเทพกับปีศาจ

    ตอนนี้ลอเรียลเป็นเด็กสามขวบที่สภาพภายนอกเหมือนเด็กสิบขวบ

    แต่ก็ยังตัวเล็กอยู่มาก

    "ท่านลอเรียลซุกซนเสียจริง" อันนาที่กำลังนั่งมองลูกสาวเธออยู่อมยิ้มไปด้วยระหว่างพูด

    ส่วนอิลูเมียแอบกรอกตามองบน

    "เจ้าคงไม่ได้คิดจะผูกพันธสัญญาโบราณกับเด็กวัยสามขวบใช่หรือไม่"

    แน่นอนว่าการผูกพันธสัญญาโบราณหมายถึง...การทำเรื่องนั้น

    แก้มของอันนาขึ้นสีแดงเข้มจนเห็นได้ชัด นานๆ ครั้งที่เทพีแห่งจันทราจะแสดงท่าทีเขินอายออกมาให้เห็น เพราะแบบนั้นอิลูเมียเลยแหย่ต่อ

    "พระเจ้าเองก็กล่าวอยู่ว่านางมีความเกี่ยวพันกับเจ้า ข้าไม่รังเกียจหรอกหากต้องยกลูกสาวให้เจ้า"

    "..."

    "แต่ถ้าลอเรียลร้องไห้บ่อยก็อย่าเพิ่งรำคาญ"

    "..."

    "นิสัยแม่เต็มเปี่ยม"

    อิลูเมียสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตทันทีที่พูดประโยคนั้นจบ เธอลอบยิ้มเมื่อสามารถเรียกร้องความสนใจจากวีร่าโดยอธิบายเกี่ยวกับลอเรียลให้อันนาฟังไปด้วยได้

    ก็จริงอย่างที่เธอว่า อาจเป็นเพราะวีร่าร้องไห้บ่อยตอนตั้งครรภ์ ลอเรียลเลยร้องไห้เก่งเหลือเกิน 

    หากว่าไม่ได้วีร่ากับอันนาช่วยปลอบ พระราชวังคงแตกเพราะความรำคาญของนิกซ์กับเฮเมร่าก่อน

    แปลกดีที่รูปร่างหน้าตาภายนอก ลอเรียลเหมือนเธอมาก ถึงผมสีบลอนด์จะโทนเข้มกว่าเธอ แต่อย่างอื่นก็คล้ายเธอหมด ยกเว้นนิสัยที่ถอดแบบวีร่ามาเป๊ะๆ

    หมับ!

    เป็นลอเรียลที่วิ่งมากอดเธอไว้ ลูกซุกตัวเข้ากับไหล่ของเธอแล้วก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว สงสัยเล่นจนเหนื่อยเลยมาหาเธอ ลูกชอบมองเธอเป็นที่นอนเสมอ แล้ววีร่าก็นั่งลงข้างเธอ

    "ข้าขอตัว" อันนาปลีกตัวไปอย่างรวดเร็ว

    สายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านมาทำให้อิลูเมียรู้สึกผ่อนคลายอย่างถึงที่สุด เธอเลื่อนมือไปกุมมือวีร่าที่เอนพิงลงมาไว้

    "อิลูเมีย" วีร่าปิดเปลือกตาแล้วเรียกเธอ

    "หืม" เธอครางรับในลำคอ

    "ข้ารักเจ้า"

    นานนับนาทีที่อิลูเมียนั่งนิ่งเพื่อซึมซาบคำว่ารักเอาไว้ เมื่อหลุดจากภวังค์เธอก็พบว่าวีร่าหลับไปแล้ว เธอแนบริมฝีปากกับหน้าผากกลมมนแล้วตัดสินใจอุ้มทั้งแม่ทั้งลูกที่หลับสนิทเดินตรงเข้าไปในส่วนของห้องนอน

    เธอจัดแจงให้ลูกนอนตรงกลางระหว่างเธอกับวีร่าแล้วจูบแก้มทั้งสองเพื่อเป็นการบอกฝันดี

    เธอนอนมองสองสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตจนกระทั่งหลับตามไป


    ** นิกซ์ เทพีแห่งความมืดยุคแรกของตำนานกรีก มีชีวิตอยู่ก่อนจะเปลี่ยนมือเป็นช่วงไกอาและอูรานอส

    ** เฮเมร่า เทพีแห่งแสงสว่างยุคแรกของตำนานกรีก ตำนานส่วนมากกล่าวว่าเป็นลูกสาวของนิกซ์ บ้างว่าเป็นฝาแฝด







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×