ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า - Attack on Titan [Yuri] [Mikannie]

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 21 ผิดพลาด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      44
      14 พ.ค. 57

    ตอนที่ 21 ผิดพลาด

    ต้นไม้ยักษ์ต้นไม้ปกติหักโค่นล้มทลายลงไปตลอดทางที่เอ็ปเดินผ่าน เขาไม่ได้จะทำลายนครแห่งทะเลสาบจริงๆ เพียงแต่อยากทดสอบความสามารถจริงๆของทหารอาสาเมื่อต้องพบกับไททันที่มีสติปัญญาของจริง แน่นอนว่าพวกนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยสักนิด แม้แต่กลุ่มหัวกะทิอย่างจินและเซีย หากไม่มีแจนโผล่เข้ามา พวกนั้นคงได้แต่ยืนเป็นง่อยกันอยู่บนกิ่งไม้เท่านั้น เอ็ปนับถือในความสามารถของแจน แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะถูกทุกอย่าง

    เมื่อวานนนี้เอ็ปได้ฟังแผนของแจนแล้ว ไม่ถึงกับสิ้นหวังเสียทีเดียว แต่ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดในแผนก็คือความสามารถและไหวพริบของทหารแต่ละคนหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ยิ่งเอ็ปได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาแปลงร่างแล้ว รับรองว่าแผนของแจนล่มตามคาด ทหารอาสายังไม่พร้อม...ไม่มีทางพร้อม

    โคนี่และชาช่าพุ่งเข้าใส่จากด้านหลังทั้งซ้ายและขวาพร้อมกัน สลิงถูกยิงมาติดบนหลังของไททันวานร เอ็ปรู้สึกได้ จึงจับสลิงออกมาแล้วโยนข้ามหัวตัวเองกลับไปด้านหลัง ลอยสูงขึ้นไปไกลเหนือยอดไม้ แต่ทั้งสองคนก็ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติโหนตัวกลับมาได้ ทหารอาสาคนที่เหลือพุ่งตามมา คนหนึ่งอ้อมต้นไม้ยักษ์มาด้านหน้า หวังจะแทงดาบใส่ลูกตาของไททันวานร เขาจึงคว้าตัวทหารคนนั้นไว้และโยนทหารกลับไปข้างหลังเช่นเดิม

    “ว๊าากกกกก!!!!” ดูเหมือนทหารคนนั้นจะตกใจเกินไป เขาลอยขึ้นไปสูงมาก ก่อนจะร่วงลงมาโดยไม่มีการชะลอ แจนพุ่งมาจากด้านหลัง สองมือเก็บดาบลงไปและคว้ามือทั้งสองของทหารอาสาคนนั้นเพื่อจะดึงขึ้นมาก่อนกระแทกพื้นเละ เขาเหวี่ยงตัวเหมือนนักกายกรรม แล้วโยนทหารอาสากลับเข้าประจำตำแหน่ง

    ไททันวานรเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงทะเลสาบ สิ่งก่อสร้างกลางน้ำตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิมที่มันควรอยู่ แต่อีกไม่นาน มันอาจจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วทั้งนั้น ...อย่างน้อยก็ในความคิดของพวกทหาร

    แจนพุ่งเข้ามา บริเวณนี้ไม่มีป่ายักษ์ พื้นที่โล่งแบบเนินเขาลาดชันทำให้ใช้อุปกรณ์ไม่ได้ดีเท่าที่ควร ทหารอาสาบุกเข้ามาพร้อมแจน สองคนเล็งเส้นเอ็นข้อเท้า อีกสองคนตามแจนไปบริเวณท้ายทอย เอ็ปก้มลงตบสลิงของคนที่พุ่งมาที่ข้อเท้า พวกนั้นร่วงลงพื้นและกลิ้งไปแบบไม่ได้ลดความเร็วเลย เอ็ปดึงสลิงของทหารอีกสองคนออก แล้วโยนลงทะเลสาบ แจนดีดตัวขึ้นสูงเหนือหัวไททัน ก่อนจะพุ่งตัวลงมา หมายจะฟันท้ายทอยทิ้งในโอกาสที่มีครั้งเดียว พลาดไม่พลาดเขาก็ต้องพุ่งลงไปกระแทกพื้นข้างล่าง หมับ! เอ็ปคว้าตัวแจนไว้อย่างง่ายดาย

    ฉั่วะ!!! แจนตวัดดาบฟันนิ้วของไททันวานรขาดสะบั้น เป็นเทคนิคที่เขาเคยเห็นมาจากไรเนอร์ เพื่อที่จะทำอย่างนั้นได้ เขาต้องยอมให้มีดของเขาทื่อลงไปในครั้งเดียว แทนโหนตัวไปกับต้นไม้เตี้ยเพื่อชะลอก่อนลงพื้น เขาเปลี่ยนใบดาบอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาเปลี่ยน โคนี่กับชาช่าก็บุกเข้าใส่ไททันวานรอีกครั้ง เอ็ปคว้าตัวโคนี่ไว้ได้ แต่คว้าชาช่าไว้ไม่ทัน เธอบุกเข้ามาถึงท้ายทอย ทว่าฟันพลาดเพราะรีบเกินไป

    เกือบตายแล้วไหมล่ะ เอ็ปคิด

    เขาเดินลงทะเลสาบก่อนที่จะมีทหารคนไหนตามมาอีก เสียงระฆังเตือนภัยดังมาจากปราการริมทะเลสาบ ชาวเมืองพากันกรีดร้องและวิ่งหนีลงเรือเล็ก เอ็ปว่ายไปตามผิวน้ำ ไม่ต้องพยายามด้วยซ้ำ ตัวเขาไม่มีทางจมลงไปได้เลย ปืนใหญ่ประจำนครถูกหันเล็งมาทางเอ็ป มันยิงกระสุนระเบิดออกมาพร้อมกันไม่ต่ำกว่าสิบลูก เอ็ปหลบบ้างปัดบ้าง กระสุนระเบิดใส่มือของเขาหายไป แต่ไม่นานมันก็งอกกลับขึ้นมาใหม่ เอ็ปหยิบคนคุมปืนใหญ่มาปล่อยลงน้ำ เบื้องหน้าของเขาคือหอคอยขนาดใหญ่ของเคหาสน์กลางนคร พวกทหารตามกันมาแล้วทว่าก็ไม่ทันการณ์ เอ็ปเหวี่ยงมือใส่หอคอยหลังนั้นอย่างแรง กระแสลมแรงพัดให้ระฆังบนหอคอยตีเสียงดังด้วยตัวมันเอง แล้วเอ็ปก็หยุดมือ

    “เกมนี้พวกเจ้าแพ้แล้ว” เอ็ปหันไปบอกกับทหารที่ยืนงงอยู่บนเรือข้ามฟาก ทุกคนเข้าใจความหมายที่เอ็ปพูด แต่ไม่มีใครสักคนที่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงหยุดโจมตี “ครูฝึกแจน ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”

     

    เอ็ปถูกควบคุมตัวด้วยทหารอาสาขวัญหายทั้งกอง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแม้แต่น้อย เขาป้องกันตัวเองได้ทันทีที่คนเหล่านี้คิดจะฆ่าเขา แต่เขาไม่ได้คิดจะเป็นศัตรู ไม่ใช่ในเวลาที่คอเตชกำลังคิดการใหญ่อยู่ เขานั่งอยู่บนโต๊ะอาหารหรูหราในเคหาสน์ที่เกือบต้องพังทลายด้วยมือของเขามาแล้ว บนโต๊ะมีแจน ชาช่า โคนี่ คริสต้านั่งอยู่ รอบๆนั้นก็มีทหารอาสาและทหารประจำนครยืนปะปนกัน

    “แน่ใจเหรอว่าอยากให้ทหารของเจ้าฟังเรื่องนี้” เอ็ปถาม แจนจ้องเขาเขม็ง แต่ก็ยอมไล่ให้พวกทหารออกไป

    กลับมีบางคนที่ไม่ยอมทำตามคำสั่ง...นั่นคือเซีย จินพยายามจะเอาตัวเธอออกไป แต่เอ็ปก็บอกว่าไม่เป็นไร และให้พวกเขาทั้งคู่อยู่ในห้องเพื่อฟังเรื่องที่จะพูดไปพร้อมกัน

    “เจ้าเป็นคนฉลาด แจน กิลชูไตน์ ลองเดาซิว่าข้าจะพูดเรื่องอะไรด้วย” เอ็ปมองแจน แล้วมองไปทางคนอื่นๆ

    “ฉันไม่รู้” แจนตอบ

    “น่าเสียดาย... จะว่าไปเจ้าคงเห็นข้าเป็นศัตรูสินะ”

    “ไม่” แจนตอบ ทำให้ทุกคนในห้องมองเขาอย่างแปลกใจ “นายไม่ได้ฆ่าใคร ไม่ได้ทำลายเมือง ก็แค่...ทดสอบ”

    “นั่นแหละสิ่งที่ข้าจะพูด”

    “แจน ฉันไม่เห็นเข้าใจเลย” โคนี่พูด เขาเข้าใจอะไรได้ช้าตลอด บางทีก็ช้ากว่าชาช่าด้วยซ้ำ

    “ตามแผนการของแจน...สิ่งที่จำเป็นต่อแผนที่สุดคือฝีมือของทหารอาสา เก่งได้แค่ไหน แผนก็มีโอกาสสำเร็จได้แค่นั้น แต่จากที่ข้าได้ลองปะทะกับทหารอาสาโดยตรง ขอบอกว่าไม่ได้เรื่อง” เอ็ปมองเซียที่เหมือนจะโมโหที่โดนว่าเรื่องฝีมือ “ข้ามาจากนครแห่งขุนเขา ข้ารู้ข้าเห็น นักรบไททันที่แปลงร่างจากมนุษย์ได้มีมากกว่าที่เจ้าคิดมากมายนัก”

    “เท่าไหร่” คริสต้าถาม

    “ไม่ต่ำกว่าร้อย ถ้านับเฉพาะในระดับหัวกะทิแบบสหายพวกเจ้า แอนนี่ เลออนฮาร์ด” ทุกคนต่างเงียบกริบไม่กล้าออกความเห็น คริสต้า แจน ชาช่าและโคนี่ต่างเคยเห็นมาแล้วกับตาว่าแค่แอนนี่คนเดียวก็สร้างความโกลาหลได้มากขนาดไหน นี่ถ้ามีนักรบระดับเดียวกับแอนนี่อีกร้อยคน...ตายแน่ มีแต่ต้องตายเท่านั้น

    “รู้จักแอนนี่เหรอ” ชาช่าถามอย่างไม่รู้จักเวลา แจนยกมือบอกให้เธอเงียบ

    “งั้น...ถ้านายมาจากนครแห่งขุนเขา ทำไมถึงช่วยพวกเรา” เซียถาม แม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้พูด...แล้วจะทำไม

    “ข้าหวังเพียงแค่โอกาสที่จะไถ่บาป” เอ็ปตอบ “แม้บาปของข้าจะหนักหนาเกินเยียวยา”

    “กลับมาเรื่องฝั่งนั้น นายรู้จักนครแห่งขุนเขาดี มีโอกาสไหมที่ความคิดของฉันจะถูก” แจนถาม

    “เกินครึ่ง” เอ็ปตอบ การคาดเดาที่แจนใส่ไปในแผนคือนักรบที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีความสามารถมาตั้งแต่กำเนิดทุกคน ถ้ายึดทฤษฎีดั้งเดิมของเอเลนคือเขากลายเป็นไททันได้จากการทดลอง งั้นก็เป็นไปได้ว่าภายในนครแห่งขุนเขาก็มีการทดลองแบบนี้อยู่ จะต้องมีคนที่มีความสามารถเป็นอัจฉริยะคอยหนุนหลัง นั่นก็จะเป็นเป้าหมายของแผนการนี้ การฉลองต้อนรับเจ้าหญิงเซียเป็นเพียงฝ่ายถ่วงเวลา ทหารอาสาต้องแทรกซึมเข้าไปในเมือง ตามหาสถานที่ทดลองให้พบและถ้าเป็นไปได้...จับเป็นกลุ่มคนที่วิจัยเรื่องนี้มา ฝ่ายนั้นจะไม่สามารถสร้างนักรบรุ่นใหม่มาเพิ่มได้ “แต่พลาดไปจุดหนึ่ง....”

    “อะไร” โคนี่ถาม

    “คอเตชไม่ได้คิดว่านี่เป็นงานฉลองต้อนรับเจ้าหญิงจริงๆ” เอ็ปมองเซีย ถึงปิดบังว่าเซียไม่ใช่เจ้าหญิงจริงๆตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว “เขาตั้งใจให้นี่เป็นงานฉลองสำหรับราชา ผู้ที่จะครอบครองทุกดินแดนบนโลกนี้... เขาเอง”

    “อาณาจักรอื่นก็กลัวเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” เซียพูดขึ้น ในห้องตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่าเซียเป็นเจ้าหญิง “ท่านพ่อเริ่มสั่งสร้างกำแพงขนาดใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมรับสงครามที่กำลังจะเกิด เกาะอังกฤษก็พร้อมรบแล้วเหมือนกัน”

    “เป็นสงครามที่เสียเปล่า” คริสต้าพูด “กองทัพมนุษย์ปะทะกองทัพไททัน จะมีคนตายทั้งแผ่นดิน”

    “คอเตชตั้งใจจะทำอะไร” แจนถาม

    “ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของเขาเอง... ” เอ็ปนึกถึงสิ่งที่คริชาพยายามสร้าง เขาไม่ได้รับข่าวจากนครแห่งขุนเขามานานแล้ว ไม่รู้ว่าคริชาจะยอมฆ่าตัวตายอย่างที่เขายุรึเปล่า ...คงจะไม่ “ ...จักรพรรดิอมตะ”

    “เฮ้อ... ” แจนกุมขมับ ถ้าแบบนี้แล้วจะมีอะไรดีขึ้นกัน พวกเขาก็แค่มีชีวิตอยู่รอความตายจากไททันอยู่ดีไม่ใช่หรือยังไง “ในนครแห่งขุนเขา มีใครเคยคิดจะฆ่าคอเตชบ้างไหม”

    “ข้านี่แหละคนแรก” เอ็ปตอบ “กับพวกอยากได้อำนาจ แต่พวกนั้นไม่มีใครรอด”

    ปัง! ประตูห้องอาหารของเคหาสน์ถูกเปิดออกอย่างแรง แม้พวกทหารอาสาจะพยายามห้าม แต่เด็กสาวหัวแดงเดินเข้ามาพร้อมเสียงย้ำเท้าที่ฟังดูเหมือนโลหะกระทบพื้นไม้เพราะขาเทียมใหม่ของเธอทำจากโลหะ

    “เรเวน?” เซียหันไปมอง

    “นักรบขี่ม้า... ” เรเวนบอกอย่างร้อนรน “ ...จากนครแห่งขุนเขา”

     

    เรเวนออกจากกองทหารอาสา เธอกลับไปเป็นซิสเตอร์ของโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกอย่างที่เคยเป็น ก่อนจะอาสามาเป็นทหาร นั่นคือเหตุผลที่เธอมารยาทดี ระเบียบเป๊ะทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะทำ ส่วนเหตุผลที่โบสถ์ยอมส่งเธอไปเป็นทหารเพราะเธอเป็นตัวปัญหา ชอบขโมยของชาวบ้าน พอกลับไปสู่สถานที่ที่คุ้นเคย เธอก็ทำความสะอาดหอคอยโบสถ์ตามปกติทุกวัน แม้จะลึกบากที่ต้องใส่ขาเทียม และอีกเช่นเคย เธอขโมยกล้องส่องทางไกลมาจากทหารประจำนคร หลังจากที่เธอเกือบหัวใจวายกับไททันวานร เธอก็หยิบมันมาส่องดูเนินเขาเล่น แล้วเธอก็เห็น...

    นักรบสวมเกราะหนักขี่ม้าชูธงรูปอุ้งเท้าสัตว์สีดำ ...สัญลักษณ์ของคอเตช

    เรเวนวิ่งไปแจ้งข่าวกับคริสต้า เพราะไม่รู้ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงตัวปลอม ทุกคนในห้องจึงรีบออกมาดูด้วยตาตนเอง กว่าจะออกมาถึงประตูเมือง นักรบ 3 คนก็ข้ามเรือข้ามฟากมาแล้ว

    “ ...เบลทรูท... ” โคนี่เผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นมา เบลทรูทที่เคยอยู่ในเครื่องแบบทหารสีน้ำตาล บัดนี้เปลี่ยนไปสวมชุดเกราะหนักของนักรบ “ ...โอย..ตายแหง”

    “ ...คริ..ส...?” เบลทรูททำท่าจะทักคริสต้า เพราะแปลกใจที่อีกฝ่ายแต่งตัวชุดเจ้าหญิงฟูฟ่อง แต่คริสต้าก็จ้องเขม็งพลางส่ายหน้าไม่ให้เรียก เขาก็ไม่พูดแม้จะยังงงๆอยู่ “ใครคือเจ้าหญิงเซียจากดินแดนน้ำแข็ง”

    “ฉัน” คริสต้าตอบ ส่วนเบลทรูท...ยืนเอ๋อรับประทาน

    “คอเตชมีคำสั่งให้มารับตัวเจ้าหญิงไปยังนครแห่งขุนเขา” นักรบคนอื่นพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก “มากับเรา”

    “เจ้าหญิงจะไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้น” แจนเข้ามาขวาง ถ้าปล่อยให้ไปกับพวกนี้แผนก็ผิดไปหมดน่ะสิ ถึงจะเป็นแผนที่เสี่ยง แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีแผน “เราจะออกเดินทางไปพรุ่งนี้ และไม่มีใครขี่ม้าไปทั้งนั้น”

    “เราจะดูแลการเดินทางให้” นักรบต่อ แม้จะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบความคิดที่จะเดินทางทางทะเล “เพื่อความปลอดภัย พวกเราจะอยู่รอ และเดินทางไปพร้อมกันพรุ่งนี้”

    “...........” ไม่มีใครตอบคำถาม แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้ นักรบพวกนี้คาดเดาไม่ได้ ถ้าขัดใจขึ้นมา นครแห่งทะเลสาบอาจจะไม่เหลือ แจนที่ยืนด้านหน้าต้องเป็นคนตอบ “ก็ได้ งั้นเชิญมาด้วยกันก่อน ฉันจะเตรียมที่พักให้”
     

    *****************************************************************************
     

    >>>หลังฉาก<<<

    คริสต้า : ทำไมอัพช้า
    ไรท์เตอร์ : เอ่อ... //คิด...แต่งไม่ทัน ปกติมีที่แต่งเก็บไว้ เลยลืมว่าหมดสต็อก
    คริสต้า : ดองสินะ
    ไรท์เตอร์ : //ก้มหน้ารับความผิด

    แจน : ทำไมฉันต้องเจอปัญหาเยอะขนาดนี้เนี่ย
    ชาช่า : โคนี่ ฉันหิวแล้วล่ะ
    โคนี่ : ปลาไหลย่างไหม //ยื่นปลาไหลย่างให้
    แจน : นี่ฟังฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย
    ชาช่า : ขอบใจนะ //กินปลา
    โคนี่ : มีอะไรเหรอแจน //หันไปทำท่าตาเหล่ยิงเลเซอร์
    ชาช่า : ฮ่าๆๆ
    โคนี่ : นี่พวกเราไม่ได้เล่นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
    แจน : ใช่เวลามาเล่นไหมเนี่ย
    เบลทรูท : แจน แล้วจะให้ฉันพักที่ไหนล่ะ
    แจน : อย่าเพิ่งได้ไหม!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×