ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic exo baekdo.} ll เจ้าเคะกาแฟหอมกับนายเซเคะเงินล้าน ll

    ลำดับตอนที่ #8 : ๏ ch.8 ๏ ๛

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 394
      5
      31 ก.ค. 57

     

     

    8

                ผมยืนรอแบคฮยอนอยู่หน้าบ้านหลังจากที่เดินไปส่งพ่อหน้าปากซอย พอแบคฮยอนเปิดประตูออกมาก็ทำเอาผมยืนอึ้งไปเลย

                เหมือนเขาเป็นพระเอกในนิยายที่อยู่ในชุดสูทฉบับนักธุรกิจรูปหล่ออย่างไงอย่างงั้น(แล้วนี่มันไม่ใช่นิยายหรอ -_-?) ผมสีดำหน้าม้าปรกลงมาเหมือนทุกครั้งเพราะเขาเคยบอกผมว่าไม่ชอบเซ็ตผมให้มันยุ่งยากกับชีวิตเท่าไหร่แถมยังเสียเวลามากเลยด้วย แต่อะไรจะไม่เด็ดไปกว่าการที่เขาเขียนตาหรอกนะ

    ดูดีมากๆเลยล่ะ...

    ตะลึงกับความหล่อของแบคอยู่ล่ะสิ

    อ๊ะ เอ่อ นั่นสิ

    ผมหลุดจากภวังค์แล้วตอบเขาตะกุกตะกักด้วยความเขิน เขากางร่มขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้หิมะร่วงมาใส่แล้วใช้มืออีกข้างกระชับผ้าพันคอของผมก่อนจะปัดเศษหิมะออก

    คยองส่งแบคเสร็จเมื่อไหร่ แบคจะให้โฮย่ากับแอลมาส่งที่บ้านเหมือนเดิมนะ

    ผมพยักหน้ายิ้มๆ ประจวบเหมาะพอดีกับที่รถสปอร์ตคันหรูจอดมาเทียบกับฟุตบาทตรงหน้าผมสองคน ผู้ชายที่นั่งข้างคนขับเปิดประตูออกมาโค้งหัวให้แบคฮยอนแล้วเปิดประตูด้านหลังให้เข้าไปนั่ง แต่แบคฮยอนก็เลือกที่จะให้ผมเข้าไปในก่อนโดนที่มีเขาเข้าไปทีหลัง

    เดี๋ยวแบคแนะนำให้คยองรู้จักนะ สองคนนี้เป็นเลขาของแบคเอง คนที่นั่งข้างคนขับชื่อแอล ส่วนคนขับชื่อโฮย่า

    ก่อนที่รถจะออกตัว ผมสบตากับแอลแว๊บเดียว สายตาคมนั้นมองผมอย่างสงสัย...

    นายใส่แค่ชุดนี้ไปหรอ ทำไมฉันไม่เห็นนายเตรียมกระเป๋าอะไรไปเลย

    นั่นสิ ตั้งแต่เจอก็เห็นแบคฮยอนยืนตัวเปล่าไม่มีอะไรติดตัวไปด้วยเลย

    แบคมีคอนโดอยู่ที่นู่นน่ะ เสื้อผ้าอะไรก็มีพร้อมหมดแล้วล่ะ

    ดีจัง งั้นถ้าไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยๆก็คงมีอยู่หลายคอนโดเลยน่ะสิ แบบนั้นก็สะดวกไปเลยนะเวลาไปเที่ยวก็ไปพักที่นั่นเลย คนรวยนี่น่าอิจฉาจัง

    ซองยอลรายงานเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ว่าคุณฮยอก คุณราวี่ และคุณเอ็นเข้ามาโจมตีคนในบริษัทเราที่สาขาทงแดมุน สังกัดที่ 138 ครับ ไม่ทราบว่านายท่านจะให้ทำยังไงต่อไป แอลรายงานความคืบหน้าให้แบคฮยอนฟังด้วยสีหน้าขรึมหลังจากที่พวกผมคุยเสร็จ

    แล้วนายไปสืบมารึยังว่าพวกนั้นต้องการอะไร

    แบคฮยอนถามเสียงนิ่งต่างจากที่คุยกับผมริบรับ พอเจอบรรยากาศนักธุรกิจครอบงำแบบนี้มันก็ชวนอึกอัดแฮะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอบรรยากาศแบบนี้

    แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสามคนนั้นจะยังไม่เข็ดหลังจากที่โดนแบคฮยอนตบท้ายทอยจนสลบเหมือดไปขนาดนั้น เจ็บไม่รู้จักจำเลยจริงๆ คนเรานะคนเรา ถ้าอยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่าหรอก กับอีแค่ลูกเมียน้อยถึงกับเกลียดเข้าไส้ในขณะที่แม่ตัวเองไม่มีทีท่าว่าจะเกลียดชังอะไรขนาดนั้นเลย

    ไม่สามารถสืบอะไรได้มากเพราะมันไม่มีมูลอะไรเลย ทั้งสามคนอาจแค่ต้องการปั่นหัวนายท่านละมั้งครับ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้ดูร้ายแรงอะไร ถ้านายท่านจะให้เก็บก็คงไม่ยาก

    ไม่ต้องหรอก ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ส่งเงินไปเป็นค่าทำขวัญพร้อมคำขอโทษด้วยละกัน

    แต่ผมเกรงว่าทั้งสามอาจจะเข้าไปเล่นที่จุดอ่อนของนายท่านก็ได้นะครับ

    จุดอ่อน... นายคิดว่าอะไรคือจุดอ่อนของฉันกันล่ะแอลแบคฮยอนถามเสียงเข้มพร้อมกับทำหน้าเหมือนคิดอะไรได้สักอย่าง

    ก็อย่างเช่นคนสำคัญของนายท่าน...

    นายหมายถึงคนข้างๆฉันใช่มั้ยล่ะ

    แขนขาวแกร่งเลื่อนมาโอบไหล่ผมทันทีเมื่อพูดจบ เอาอีกแล้ว เขาทำให้ผมอายอีกแล้ว -///-

    ครับ

    สามคนนั้นมันไม่เล่นพิเรนทร์อะไรแบบนี้หรอก ฉันรู้ดี...

     

    พอมาถึงสนามบินผมกับแบคฮยอนก็รีบลงจากรถโดยมีบอดี้การ์ดที่มาจากไหนไม่รู้เยอะแยะเดินมาขนาบข้างไปพร้อมกัน เขาคงอาจจะเตรียมมาไว้ล่วงหน้าละมั้ง -o-?

    แสงแฟลชมากมายถาโถมมาอย่างเต็มที่เมื่อแบคฮยอนเริ่มก้าวเข้าประตู มือเรียวยื่นแว่นกันแดดสีดำมาให้ผมใส่อย่างเป็นห่วงเพราะกลัวจะแสบตากับแสงแฟลชมากมาย มันก็แสบจริงๆนั่นแหละ ดีนะที่เขาเตรียมแว่นมาเผื่อผมด้วย ไม่งั้นคงได้ตาบอดก่อนจะส่งเขาเข้าเกทแน่ๆ

    อยู่บ้านคนเดียวก็ดูแลตัวเองดีๆนะคยองก่อนที่จะเข้าเกท แบคฮยอนก็หันมาพูดกับผมซะก่อน

    อื้อ

    อย่ากลับบ้านดึกล่ะ ถ้าหิมะตกหนักก็รีบเข้าบ้านเลยนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย

    อื้อ

    เมื่อคืนแบคโทรไปบอกพี่เลย์ไว้แล้วล่ะว่าให้ไปดูแลคยองที่บ้าน คอยตรวจว่าคยองไม่ซื้ออาหารสำเร็จรูปอย่างกิมจิเข้ามาอีก

    ToT

    นายมันโหดร้ายมากที่สุดเลยแบคฮยอน!

    แล้วถ้ากิมจิที่นายทำไว้ให้ฉันมันหมดแล้วล่ะ

    ก็รอจนกว่าแบคจะกลับไปทำให้กินนั่นแหละ ไม่ต้องไปซื้อแบบสำเร็จรูปมากินล่ะ

    แต่ว่า...

    ไม่ มี แต่

    แบค T__T…”

    งั้นแบคเข้าเกทแล้วนะ

    เดี๋ยวสิ เอานี่ไปด้วย

    ผมยื่นกล่องขนมให้เขา ข้างในเป็นมากาลองกว่ายี่สิบกว่าชิ้นที่ผมตื่นมาทำแต่เช้าให้เขาไว้กินเล่นบนเครื่องบิน

    ขอบคุณนะ กลับมาเมื่อไหร่แบคจะตอบแทนคยองให้คุ้มเลย

    อื้อ เดินทางปลอดภัยนะ

    หลังจากที่แบคฮยอนเดินจากไป โฮย่ากับแอลก็เดินมาควบผมทันที

    นายท่านอยากจะไปไหนต่อมั้ยครับ หรือว่าจะกลับบ้านเลยโฮย่าถามผม

    =o=?

    ผมถึงกับเอ๋อรับประทานเมื่อโดนแทนตัวเองว่านายท่าน เกิดมายังไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองดูสูงส่งยังไงก็ไม่รู้

    อะ เอ่อ...

    ไม่ต้องประหม่าก็ได้ครับ อยู่ไปนานๆเดี๋ยวนายท่านก็ชินเอง

    งั้นแวะไปที่คาเฟ่ดโยก่อนได้มั้ย ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

    ผมทำท่าเจี๋ยมเจี้ยมแล้วถามไปอย่างนั้น ทำหน้าเน่ออะไรก็ไม่ถูกเลยจริงๆ น่าอายจัง...

    อย่าพูดเหมือนผมจะไม่อนุญาตสิครับ สำหรับพวกเราแล้วนายท่านจะสั่งอะไรพวกเราก็ทำให้ได้ทุกอย่าง คนที่สามารถอนุญาตกันได้ก็คือท่านอนุญาตพวกเราเท่านั้นโฮย่าว่า

    ยิ่งคนสำคัญของคุณแบคฮยอนอย่างท่านแล้ว พวกเรายิ่งต้องดูแลมากๆ เพราะนายท่านกำชับมาอย่างนั้นแอลก็ว่าต่อ

    ขอบใจนะ

    ผมเดินกลับรถโดยที่ยังมีเขาสองคนขนาบข้างไปด้วย แอลเปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่งแล้วเดินไปที่นั่งที่ตัวเองบ้างก่อนที่รถจะออกตัวออกจากสนามบิน

    เก็บคำขอบคุณของท่านไว้เถอะครับ มันไม่จำเป็นสำหรับพวกผมหรอก

    ก็คนเหมือนกัน ทำไมจะพูดไม่ได้ผมบ่นอุบถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ยินก็ตาม

    พูดสบายๆกับฉันก็ได้นะ ฉันไม่ชอบให้พวกนายพูดอะไรทำนองนั้นเท่าไหร่ มันไม่ชินน่ะผมว่าอีก

    ไม่ได้ครับ ถ้าคุณแบคฮยอนรู้เข้าแล้วอาจจะไม่ชอบใจ

    งั้นบอกว่าฉันสั่งละกัน

    แอลเงียบเหมือนกับว่าเขาไปต่อไม่ถูก แต่สุดท้ายเขาก็มองหน้ากับโฮย่าแว๊บหนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆแล้วยิ้มบางๆ

    ถ้านายไม่พูดแบบสบายๆ ฉันเนี่ยแหละจะสั่งให้แบคฮยอนทำโทษนายแน่ๆ

    โอเค ก็ได้ๆ

    แอลยกมือสองข้างขึ้นเหมือนยอมพ่ายแพ้ ส่วนโฮย่าก็หลุดขำกึกมานิดหน่อย แต่ผมหูดีเลยได้ยินน่ะ -..-

    รู้จักทางไปคาเฟ่ฉันใช่มั้ย

    รู้จักอยู่แล้ว เรื่องของคนสำคัญของนายท่านพวกเรารู้หมดนั่นแหละ

    งั้นหรอ แบคฮยอนให้สืบหรอ

    ผมทางอย่างข้องใจ ถ้าเขามาสืบเรื่องของผมทุกเรื่องแบนี้มันเสียมารยาทเกินไป ผมไม่ชอบ

    เปล่าหรอก เห็นในเน็ตมีภาพถ่ายนายกับนายท่านไปไหนมาไหนด้วยกัน แถมยังมีแต่คนบอกว่าคนที่เดินข้างนายท่านชื่อคยองซู แค่เสิร์ชชื่อนายในเน็ตก็โผล่ภาพคาเฟ่ของนายมาเยอะแยะ

    อ่าว มีแต่ภาพคาเฟ่แล้วไม่มีภาพฉันหรอ -_-?”

    เอ่อ... รู้สึกว่าคาเฟ่นายจะเด่นกว่านะ

    จะทุบคาเฟ่ตัวเองให้เละเลยซะดีมั้ยเนี่ย เด่นกว่าเจ้าของร้านได้ยังไงฮะ! เออ แต่ช่างเถอะ ถ้าทุบทิ้งผมก็ไม่มีอะไรใช้ทำมาหากินน่ะสิ

    ฉันเชื่อว่าภายในวันนี้ภาพนายมาส่งนายท่านที่สนามบินคงได้ลงข่าวในเน็ตก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่สำนักข่าวจะเอาไปตีพิมพ์แน่นอนโฮย่าว่าด้วยน้ำเสียงตื้นเต้นนิดหน่อย

    งั้นหรอ ช่างเถอะ

    แต่ว่านะ ถ้าทุกคนรู้ข่าวนี้ก็อาจจะเข้ามาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เพจร้านผมแน่ๆเลย หรือไม่ก็อาจจะมีคนถามผมที่ร้านแน่ๆ แต่เอาเป็นว่าไว้ค่อยเคลียร์ในเพจเลยละกัน

     

    ผมเดินเข้ามาในร้านเหมือนปกติ แต่ที่ผิดปกติคือสายทุกคู่ต่างมองมาที่ผมเป็นตาเดียว อย่าบอกนะว่ารู้กันหมดแล้วน่ะ ทำไมข่าวไวจัง

    ลงข่าวไวดี สำนักข่าวJYPไม่เคยพลาดอะไรเลยจริงๆ

    แอลยื่นไอแพดให้ผมดูข่าวเกี่ยวกับแบคฮยอนที่กำลังจะเดินทางไปเปิดหุ้นใหม่ที่อเมริกาโดยมีเจ้าของร้านคาเฟชื่อดังอย่างผมไปส่งถึงสนามบิน และมีภาพผมกับแบคฮยอนอีกเยอะแยะเลยล่ะ แต่เดี๋ยวนะ...

    เจ้าของร้านคาเฟ่ชื่อดังงั้นหรอ =_=…

    ข่าวนี้ก็เว่อร์ไปหน่อยนะครับ

    อ้าว พี่เลย์...

    สวัสดีครับ/สวัสดีครับ

    แอลกับโฮย่าโค้งหัวให้พี่เลย์อย่างสุภาพเมื่อเจอหน้า รู้หน้าที่ดีจริงๆเลยนะเนี่ย สมกับที่เป็นเลขาของแบคฮยอนนักธุรกิจร้อยล้านจริงๆ

    คิดว่าจะไม่เจอนายซะอีก เมื่อกี้เฉินบอกว่านายไม่เข้าร้าน พี่ก็เลยว่าจะกลับน่ะ

    พี่มีธุระอะไรรึเปล่าฮะ

    ไม่มีหรอก แค่แวะมาดูตัวเล็กของเราทำงานน่ะ

    ตัวเล็กของเรา...ผมมองหน้าพี่เลย์งงๆก่อนที่เขาจะตอบออกมาให้คลายความสงสัย

    หมายถึงคยองซูไง

    พี่เลย์ง่ะ ถ้าผมตัวเล็กแบคฮยอนก็ต้องตัวเล็กนะ ทำไมเรียกผมคนเดียวล่ะ

    ผมทำหน้าเง้างอนใส่พี่เลย์อย่างเสียไม่ได้ อย่างน้อยผมกับแบคฮยอนก็สูงไล่เลี่ยกันนะ เรียกผมคนเดียวแบบนี้ไม่ได้หรอก

    ไม่หรอก เหมาะกับคยองซูสุดแล้วล่ะ จะมีใครบ้างที่ตัวเล็กแบบนี้ ไหล่ก็แคบอย่างกับผู้หญิง ตาโต หน้าตาน่ารักแถมยังมีเบบี้เฟสแบบนี้ด้วย ตัวเล็กเหมือนผู้หญิงมากเลยล่ะ

    “-o-”

                พูดอะไรไม่ออกจริงๆ โดนว่าขนาดนี้แล้วผมสมควรจะดีมั้ยเนี่ย ความจริงก็ชอบนะที่มีคนมาชม แต่ชมทำนองนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะกลายร่างเป็นผู้หญิงยังไงไม่รู้ หรือว่าจะเป็นตุ๊ดดีล่ะ

    พี่ไปทำธุระต่อละกันนะ อย่ากลับบ้านดึกล่ะ ถ้าไอ้แบครู้มีหวังพี่โดนว่าแน่ๆ

    กลัวน้องด้วย OoO”

    ไม่ได้กลัวหรอก พี่เบื่อเวลาแบคมันบ่นน่ะ ทำตัวอย่างกับคนแก่

    พี่เลย์เบะปากว่า แต่เฮ้อ... เขาน่าจะปรับเปลี่ยนสายตาตัวเองให้มันดูมีอารมณ์เดียวกันกับใบหน้านะ มองไม่ออกเลยว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่...

    งั้นพี่ไปก่อนนะ นายสองคนก็ดูแลคยองดีๆล่ะ

    พี่เลย์ทิ้งทายคำสั่งไว้ให้แอลกับโฮย่าก่อนจะเดินไปคร่อมดูคาติคันละแสนแพงแล้วขับออกไปอย่างเท่ระเบิด

    นายสองคนรออยู่หน้าร้านละกันนะ เดี๋ยวฉันออกมาแล้วค่อยกลับบ้านเลยผมหันไปบอกทั้งสองคนแล้วเดินเข้าหลังร้าน

    โอเค จะได้เช็คงานต่อสักที

    ทำไมนายพูดเหมือนก่อนหน้านี้ฉันทำให้นายมีภาระก็เลยทำให้เช็คงานไม่ได้ล่ะแอล ฉันผิดหรอ -_-

    พี่คยองซู!”

    เสียงจงอินเรียกมาแต่ไกลเมื่อเขาเห็นผม ไม่วายทำให้ผมต้องเดินไปหาเขาเหมือนทุกครั้ง และสิ่งที่ทำให้ผมเอะใจคือการที่ใบหน้าของเซฮุนมีรอยฟกช้ำอยู่สองสามจุดจนผมใจหาย

    ใครทำอะไรเซฮุน

    ผมแทรกตัวเข้าไปหาเซฮุนแล้วจับใบหน้าของเขาเบาๆก่อนจะขยับซ้ายขวาเพื่อดูร่องรอยทั้งหมด

    ผม... เอ่อ โดนนักเลงต่างมหาลัยเล่นเอาน่ะ แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก สบายมาก

    เซฮุนยิ้มแป้นแล้นแล้วจับมือที่กำลังสัมผัสใบหน้าเขา ฟกช้ำจนม่วงขนาดนี้มันจะสบายได้ยังไงกัน นายคิดว่านายเป็นจอมอึดถึกทึนรึไงเนี่ย

    นายชักจะเกินไปแล้วนะ แต่ก่อนนายไม่เห็นจะเกเรแบบนี้เลย นิสัยไม่ดี!” ผมว่าเสียงเหี้ยมแล้วหยิกเข้าที่รอยช้ำก่อนจะดึงไปมา

    โอ๊ยยยยย!”

    สมน้ำหน้า อยากซ่าดีนัก

    แต่ผมว่าพี่น่าจะหลีกทางไปให้จงอินกลับมานั่งก่อนนะ พี่ดึงจงอินออกไปจนเขาหัวชนโขกกับกำแพงซะแล้ว

    อ๊ะ จริงหรอ ขอโทษนะจงอิน

    นี่ผมเผลอทำไปแบบไม่รู้ตัวเลยหรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลยจริงๆว่าเผลอดึงจงอินซะแรงขนาดนั้น แต่จงอินกลับไม่โกรธผมเลยสักนิดเดียว หนำซ้ำเขายังยิ้มมาให้แล้วบอกว่าไม่เป็นไร

    ขอโทษนะจงอิน พี่ไม่รู้ตัวเลย มัวแต่เป็นห่วงเซฮุนจนเผลอลืมตัว นายไม่โกรธนะ

    แต่ผมก็ยังแคร์เขา เพราะผมกลัวว่าเขาอาจจะเก็บเอาไปโกรธไว้ในใจหรือคิดไม่ชอบใจผมแน่ๆ ยังไงก็ต้องขอโทษไว้ก่อนนั่นแหละ ทำดีไว้ก่อนก็จะได้ดีตาม ปากคนก็เอาแต่พูดว่าไม่เป็นไรนั่นแหละ แต่ในใจนี่เก็บความรู้สึกจริงๆเอาไว้ได้เก่งมากเลยนะ

    ไม่หรอก ไม่ต้องขอโทษ พี่เป็นห่วงมันมากนี่นา

    อ๊ะ พี่ต้องไปตรวจของในร้านแล้วล่ะ!”

    พอนึกขึ้นได้ผมก็รีบวิ่งปร๋อเข้าไปหลังร้าน ตายๆๆ เดินเข้ามาในร้านตั้งหน้าตั้งตาเหมือนจะเข้ามาทำงานแต่ก็ไม่ได้สนใจหน้าที่ตัวเองเลยสักนิด คุยจนลืมไปเลย

    มาทำไม วันนี้ไม่มีงานอะไรหรอกครับคุณผู้จัดการ

    โถ่ พี่เฉิน ก็อยากแวะมาช่วย...

    แค่นายสอนให้ฉันทำขนมสูตรใหม่ที่นายคิดได้ก็พอ แล้วก็กลับบ้านไปคิดคงคิดเงินเตรียมจ่ายเงินเดือนให้พี่เถอะนะ ไม่ต้องมาวุ่นวายเลย

    ว่าผมวุ่นวายหรอ ไล่ออกนะ T__T”

    ไม่ออก จะอยู่กับคาเฟ่นี้ไปจนตายเลยล่ะ

    นั่นสิ ไม่ต้องหามงหาเมียหรอก แต่งงานกับคาเฟ่ไปเถอะไอ้เฉินเสียงพี่ลู่หานแขวะมาแต่ไกล เรื่องแขวะแบบนี้พี่ลู่ไม่เคยพลาดตลอด

    ปากหมาจริงๆเลยพี่ลู่ ไปทำงานไป

    อย่าตีกันนะ ไม่อยากไปเฝ้าพวกนายสองคนที่โรงพยาบาล

    พี่หมินโผล่เข้ามาในห้องทำขนมบ้างพลางหยิบถาดขนมออกไปพร้อมกับเตะขาพี่ลู่ไปหนึ่งทีเป็นการแหย่เล่นของคนแก่ๆสอง

    ชอบเล่นกันเหมือนเด็กๆตลอดเลยนะสองคนนี้...

    งั้นผมกลับเลยนะ

    อย่าเพิ่งๆ เอาขนมไปกินเล่นที่บ้านด้วยไป พายบลูเบอร์รี่ที่วางอยู่ข้างๆนายน่ะ เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้ หยิบไปเลยๆ

    ผมหยิบถุงกระดาษสีฟ้าห่ออย่างน่ารักๆไว้ในมือก่อนจะเดินออกมาจากหลังร้านแล้วตรงไปหาแอลกับโฮย่าที่ยืนรอด้วยท่ายืนที่ตรงนิ่งดูมีสง่า สงสัยคงฝึกมาอย่างดีแน่ๆ ไม่มีดุกดิกหรือยุกยิกให้เห็นเลย ถ้าเป็นผมนะ โดนไล่ออกตั้งแต่ทีแรกแล้วล่ะ นิ่งขนาดนี้ไม่ได้หรอก เฉาตายแน่ๆ

    กลับกันเถอะ

    บ้าน?แอลพูดเชิงคำถาม

    กระท่อมมั้งไอ้โง่ตามด้วยคำด่าของโฮย่า

    รอบข้างผมมีแต่คนปากจัดทั้งนั้นเลย -_-

    ฉันว่านายท่านคงต้องรักนายมากแน่ๆเลยนะ

    หลังจากที่รถออกตัว แอลก็เริ่มเปิดประเด็นคุยทันที และเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยอยากจะปริปากพูดสักเท่าไหร่ เรื่องนี้สำหรับผมแล้วมันดูพูดยากน่ะ เพราะผมยังไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงบ้าง และก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่เลยด้วย

    ใช่ ตั้งแต่ทำงานมานะ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนายท่านยิ้ม

    ทำอย่างกับแบคฮยอนมีฉันคนเดียวอย่างงั้นแหละ

    หล่อๆรวยๆแบบนั้นคงมีสาวๆมาล้อมรอบแน่ๆเลย คนจำพวกนี้สาวติดตรึมทั้งนั้นแหละ

    ยอมรับเลยว่านายท่านไม่ได้มีนายคนเดียว ก่อนที่จะเจอนายน่ะ นายท่านควงผู้หญิงเป็นว่าเล่นอยู่ตลอด แต่ใบหน้าไม่ว่ายังไงก็ยังคงที่เหมือนสายตาท่านเลย์เปี๊ยบ

    พอแอลพูดแบบนี้แล้วผมคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่งแฮะ!

    พี่เลย์แสดงอารมณ์ทางสีหน้าแต่ไม่แสดงทางสายตา ส่วนแบคฮยอนแสดงอารมณ์ทางสายตาแต่ไม่แสดงทางสีหน้า มั้งนะ... แต่แบคฮยอนแสดงออกมาทุกรูขุนขนมากกว่าเหอะ

    แต่ว่านายคือผู้ชายคนแรกของนายท่านและเป็นคนแรกที่ทำให้นายท่านยิ้มได้ทั้งๆที่พวกเราไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ความรักทำให้คนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

    ถ้าพวกนายมีความรักเดี๋ยวก็รู้เองแหละ ไม่แน่พวกนายสองคนอาจจะแอบชอบกันก็ได้นะ

    จบคำพูดผม แอลกับโฮย่าก็หันมามองหน้ากันแว๊บหนึ่งก่อนจะหันหนี อ่า พวกเขาเกลียดกันหรอเนี่ย แต่ว่าทำไมทั้งสองคนถึงหน้าแดงล่ะ... มันทะแม่งๆแฮะ

    ช่างเถอะ...

    ถึงบ้านแล้วก็คงต้องลงจากรถ ไว้วันหลังค่อยวกมาถามเรื่องนี้อีกทีละกันนะ

    ขอบใจนะที่มาส่ง

    ฉันบอกแล้วไงว่าให้เก็บคำพวกนี้เอาไว้ มันไม่จำเป็นสำหรับพวกฉัน

    ฉันจะพูด มันผิดรึไง ถ้าฉันอยากทำก็ห้ามไม่ได้หรอกนะ

    โอเคๆ ไม่ห้ามแล้ว เข้าบ้านได้แล้วนะ เดี๋ยวนายท่านจะเป็นห่วง

    ผมเดินเข้าบ้านทันทีหลังจากจบคำของแอลแล้วกระโดดลงบนโซฟาอย่างเบื่อหน่าย พอกลับบ้านก็ไม่มีอะไรทำเลย น่าเบื่อชะมัด โทรหาคุณฮีชอลเกี่ยวกับเรื่องสาขาใหม่ที่นอกเมืองก็ดูจะเป็นไปได้ด้วยดี ร้านใหม่ที่นอกเมืองกำลังได้เค้าโครงสวยๆตามที่ผมต้องการเลยล่ะ ดีใจเป็นบ้า เผลอๆผมอาจจะย้ายบ้านไปอยู่ที่นั่นก็ได้ เพราะแถวนั้นสงบดี

    ครืด ครืด ครืด

    เทาโทรมา!

    ยอโบเซโย

    [คยองซู นายอยู่ไหน ฉันจะรับนายไปเที่ยวด้วยกันสักหน่อย]

    อยู่บ้าน

    [บ้านนายอยู่ไหน]

    นายรู้จักบ้านของแบคฮยอนมั้ย บ้านฉันอยู่ข้างบ้านแบคฮยอนน่ะ

    [อ่าว งั้นตอนนี้ฉันก็อยู่ใกล้ๆนายน่ะสิ]

    ทำไม?

    [ก็ฉันอยู่หน้าบ้านแบคฮยอน =_=]

    ติ๊ด

    ผมวางสายแล้ววิ่งออกไปจากบ้านอย่างดีใจ อย่างน้อยก็มีเทามาอยู่เป็นเพื่อนล่ะนะ จะได้ไม่ต้องนั่งเบื่อเหงาๆอยู่คนเดียวในบ้านแล้ว

    แบคฮยอนไม่อยู่บ้านหรอ เทาถามทันทีเมื่อเจอหน้าผม

    ไม่อยู่หรอก วันนี้แบคฮยอนไปทำงานที่อเมริกาน่ะ เพิ่งขึ้นเครื่องไปเมื่อไม่นานมานี่เอง

    งั้นหรอ ว่าจะชวนไปเที่ยวซะหน่อย แต่ช่างเหอะ เจอบ้านนายก็อยู่บ้านนายเนี่ยแหละ ต้อนรับแขกหน่อยสิคุณคยองซู เทาโอบไหล่ผมพลางเดินไปที่บ้านพร้อมกัน

    ผมเสิร์ฟชามะลิให้เขาหลังจากที่เข้ามาในบ้านได้สักพัก หลังจากนั้นเทาก็เอาแต่เดินสำรวจรอบบ้านผมเหมือนที่ผมอยากจะทำแบบนี้ในบ้านแบคฮยอนเช่นกัน

    บ้านนายน่าอยู่ว่ะ ดูอบอุ่นดี

    ก็อบอุ่นจริงๆนั่นแหละ แล้วตกลงไม่ไปเที่ยวแล้วหรอ

    ไม่ล่ะ ก็อยากไปอยู่หรอก แต่พอเจอนายก็เลยอยากอยู่บ้านนายมากกว่า

    ก็ดี เพราะถ้าได้ไปเที่ยวผมก็จะชวนให้เขามานั่งเล่นในบ้านเนี่ยแหละ ขี้เกียจออกไปไหนไกล ขี้เกียจเดินด้วย

    ว่าแต่... แบคฮยอนไปอเมริกานายไม่เหงาหรอเทายิ้มกริ่มให้ผมพลางจิบชา

    นายอย่าถามอะไรแบบนั้นได้มั้ย ฉันไม่อยากจะตอบ

    ผมหันหน้าหนีเขา ไม่อยากจะเชื่อ เขาถามแค่นี้ก็ทำให้ผมนึกถึงหน้าแบคฮยอนจนหน้าแดงแล้วเนี่ย

    แต่ฉันมีเรื่องจะถามนายแต่ผมก็ต้องยอมหันไปหาเขาเพื่อถามคำถามที่ค้างคาใจแบบสุดๆหลังจากที่ได้ฟังแอลเล่ามา

    เรื่องอะไรล่ะ

    แบคฮยอนควงผู้หญิงทุกวันจริงๆหรอ

    อืม... จะว่ายังไงล่ะ แต่ตั้งสมัยเรียนที่จีนก็ไม่ค่อยนะ แต่เดี๋ยวนี้มันหนักกว่าเดิม ก็ไอ้แบคฮยอนมันเซ็กจัดจะตาย อย่างน้อยมันก็ต้องหาที่ระบายบ้างวันละครั้ง ยิ่งทำงานหนักๆแบบมันแล้วยิ่งมีความต้องการเยอะนะ คงหาอะไรมาคลายเครียดมั้ง

    งั้นแสดงว่าทุกวันนี้เขาก็ยังทำอยู่หรอ

    ผมถามอย่างข้องใจ ระหว่างที่เขาจีบผมแล้วไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่า เขาก็ต้องไปหาใครสักคนมาทำแบบนั้นน่ะสิ แบบนั้นผมโกรธจริงๆนะ

    รักกันต้องไม่นอกใจไม่ใช่หรอ เพื่อคนที่รักแล้วต้องทำได้ทุกอย่าง ยิ่งเรื่องแบบนี้แล้วยิ่งต้องห้ามเลยล่ะ มันไว้ทำกับคนที่ตัวเองรักไม่ใช่หรอ

    ไม่หรอก ตั้งแต่มันเจอนายก็ไม่เห็นมันควงใครเลยสักคน แต่มันก็คงจะหาที่ระบายของมันเองล่ะมั้ง

    ที่ระบาย...

    ก็ช่วยตัวเองไง

    -///-

    บางที นายก็ตรงไปนะ

    ผมส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดบ้าบอเมื่อกี้ออก แบคฮยอนทนเพื่อผมซึ่งนั่นมันก็ถูกต้องแล้วล่ะ ผมคงไม่ต้องมาคอยระแวงว่าเขาจะไปหาคนอื่นใช่มั้ยล่ะ อย่างน้อยๆเขาก็กำลงทำเพื่อผมอยู่

    อ้อ แล้วผู้ชายผิวขาวๆที่เป็นพนักงานเสิร์ฟของร้านนายน่ะ ชื่ออะไร

    พี่ซูโฮน่ะหรอ

    นั่นแหละ ฉันชอบ ว่าจะจีบสักหน่อย

    พี่ซูโฮชอบคนอบอุ่นนะ แล้วก็ขี้อ้อนด้วย เขาชอบบอกกับฉันแบบนั้น

    ฉันก็เป็นแบบนั้นนะ งั้นก็ง่ายเลยน่ะสิถ้าฉันจะจีบ

    เอาแล้วไง แสดงว่าเทาชอบพี่ซูโฮเข้าแล้วแน่ๆ คิดไม่ผิดเลยจริงๆว่าเทาต้องชอบพี่ซูโฮตั้งแต่เจอครั้งแรก แถมยังทำท่าอึ้งเหมือนเคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างงั้นแหละ

    งั้นก็ลองไปหาซะสิ ตอนนี้พี่ซูโฮก็พักกินข้าวอยู่แถวๆมหาฯลัยนั่นแหละ ผมสีครีมเด่นตานายก็คงหาเจอ

    จริง ขอบใจมากเพื่อนรัก >_<”

    เทาพุ่งเข้ามากอดผมเต็มรักแล้ววิ่งปรู๊ดออกไปจากบ้านทันทีโดยไม่บอกลาสักคำ อะไรกัน เรื่องความรักนายถึงกับเป็นแบบนี้เลยหรอเนี่ย ไวไฟวิฟิจริงๆเลย แบบนี้ผมก็ต้องอยูเหงาที่บ้านอีกแล้วน่ะสิ

    ช่างเถอะ ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะก็ได้ รับลมเย็นๆสบายๆน่าจะเวิร์คกว่าอยู่ที่บ้าน

     

    พอมาถึงที่สวนสาธารณะผมก็รู้สึกเหมือนมีกาตัวหนึ่งกับจุดสามจุดลอยผ่านหัวไป...

    สวนสาธารณะเงียบมาก คงเป็นเพราะเป็นช่วงเวลาเรียนและไม่ใช่ช่วงเย็นก็เลยไม่มีเด็กนักเรียนและคนพลุกพล่านไปมาสักเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ต่อให้มีคนมากมายอยู่ที่นี่ยังไงก็ต้องเดินเหงาคนเดียวอยู่แล้ว

    นั่นเซฮุนนี่

    ผมหรี่ตามองศาลาที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนสักเท่าไหร่ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของคนตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ

    เซฮุนจริงๆด้วย... แต่สภาพของเขาต่างจากที่เห็นเมื่อเช้าเยอะเกินไปจนน่าใจหาย เลือดไหลออกมาเยอะมาก ที่ใบหน้ามีรอยช้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

    ไม่เป็นไรนะ

    ผมก้มลงพยุงเซฮุนที่นอนหอบหายใจอยู่บนพื้นศาลาให้ลุกขึ้นนั่งช้าๆแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดเบาๆ

    พี่คยองซู...สายตาที่เคยมองผมอย่างอบอุ่นตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

    มันหมายความว่ายังไงกัน...

    ใครทำร้ายนาย แล้วจงอินล่ะ จงอินหายไปไหน ทำไมเขาไม่มาช่วยนาย

    จงอินทำ...

    มะ หมายความว่ายังไง

    ผมฉุนกึกขึ้นสมองเมื่อได้ยิน สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรอ

    ที่ผมเป็นแบบนี้เป็นเพราะฝีมือไอ้จงอิน ฮึก เขาเกลียดผมแล้วล่ะ มือไม้ของเซฮุนสั่นเทาไปหมด หยาดน้ำตาไหลลงมาช้าๆก่อนที่เขาจะโผเข้ากอดผมแล้วร้องไห้ฟูมฟาย

    ทำไมเขาต้องทำแบบนี้

    ผมสารภาพรักกับจงอิน...

    “!!!”

    ผมรักเขา แต่เขารักพี่ ฮึก ฮือๆ

    เซฮุน... พี่ขอโทษ

    ผมโมโหจนตัวสั่นเมื่อได้ยิน แค่นี้จงอินถึงกับต้องทำร้ายเลยหรอ

    พี่ไม่ผิดหรอก ฮือ ผมรักพี่นะ อึก

    เลือดของเซฮุนเปรอะเปื้อนที่เสื้อเชิ้ตของผมเต็มไปหมดแต่ผมก็ไม่สนใจ ผมพยายามพยุงเซฮุนกลับบ้านถึงแม้ว่าจะเจ็บมือข้างขวามากแค่ไหนก็ตาม แต่เรื่องของเซฮุนต้องมาก่อน

    เมื่อมาถึงที่บ้านผมก็จับเขานอนลงบนโซฟาแล้วหากะละมังน้ำมาชุบน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ก่อนที่จะทำแผล

    ที่เขาทำ... เป็นเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมาหลายปี ผมผิดเองที่เพิ่งบอกรักเขาไปเมื่อวานอยู่ๆเซฮุนก็เอ่ยขึ้นมา

    เขาบอกผมมาตั้งนานแล้วล่ะ ว่าชอบพี่คยองซู แต่ผมก็ดัน...ผมใช้มือปิดปากเซฮุนเอาไว้ทันทีเมื่อรู้ว่าเขาจะพูดในสิ่งที่อยากไม่จะพูด

    ยิ่งพูดยิ่งเจ็บ... ยิ่งทำร้ายตัวเองเปล่าๆ

    นายพักอยู่กับพี่เถอะนะ บ้านนายอยู่ต่างจังหวัดไม่ใช่หรอ ถ้าไปอยู่คอนโดกับจงอินเหมือนเก่าพี่ว่านายตายแน่ เซฮุนพยักหน้าเป็นคำตอบ แล้วหลับตาพริ้มอย่างอ่อนเพลียก่อนจะหลับปุ๋ยไปเลย

    ผมลูบผมบลอนด์อย่างเบามือ ใบหน้าหล่อคมมีแต่รอยฟกช้ำจนไม่เหลือเค้าโครงความหล่ออีกแล้ว หัวใจของผมมันกำลังหวั่นว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จงอินทำเกินไป ผมไม่เคยเห็นจงอินทำเซฮุนขนาดนี้มาก่อน ไม่สิ เรื่องเจ็บตัวของเขาสองคนไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง

    พอเข้าหกโมงเย็นผมก็สะดุ้งตื่นหลังจากหลับไปหลายชั่วโมง มองไปที่เซฮุนเขาก็ยังหลับลึกอยู่ไม่ตื่นสักที

    ผมเลือกที่จะค่อยๆเดินไปที่ชั้นสองเงียบๆเพื่อเตรียมห้องนอนไว้รับรองเซฮุนที่ไม่รู้ว่าจะมาพักนานแค่ไหน แต่เท่าที่รู่คือผมไม่อยากให้เขาไปอยู่กับจงอินอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะแปรงสีฟัน สบู่ และข้าวของเครื่องใช้ที่เตรียมไว้ได้ก็พยายามเตรียมให้เขาทั้งหมด

    คยองซู

    อ๊ะ! ตกใจหมดเลย พี่เลย์นี่เอง

    พี่เกือบจะแหกปากเรียกนายแหนะ แต่เห็นว่ามีลูกศิษย์ของคริสนอนอยู่พี่ก็เลยเดินหานายเงียบๆ

    พี่อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่คริสนะ

    ทำไมล่ะ

    ผมสบตาพี่เลย์โดยไม่พูดอะไรเพราะไม่อยากบอก จนในที่สุดพี่เลย์ก็ยกมือยอมก่อนจะเดินไปทั่วห้องแล้วหยิบจับของบางอย่างขึ้นมาดู

    ตกแต่งแบบนี้ แสดงว่าเป็นห้องไว้รับรองแขกสินะ

    ฮะ แล้วพี่เลย์มาหาผมมีธุระอะไรรึเปล่า

    ก็ไอ้แบคมันให้มาดูแล แต่ถ้านายไม่อยากพี่ก็ไม่ว่าหรอก

    งั้นพี่ไม่ต้องมาหรอกฮะ เอาเวลาว่างไปใช้กับพี่คริสดีกว่านะ

    ดูเหมือนว่าพี่เลย์จะเดินออกจากห้องไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้วนะ นี่ก็รีบจังเลย พูดว่าไม่ต้องมาปั๊บก็เผ่นไปซะละ คงจะไม่อยากอยู่จริงๆนั่นแหละ

    เฮ้อ เห็นเค้ามีความรักกันก็อยากมีบ้างจัง

    คิดถึงแบคฮยอนเลยเรา...

    โอ๊ย!!”

    เสียงเซฮุนร้องลั่นจนผมสะดุ้งเผลอกระตุกผ้าปูที่นอนออกมา ให้ตาย... เพิ่งจัดใหม่เมื่อกี้เองนะ ต้องจัดใหม่อีกแล้วหรอเนี่ย

    เซฮุนเป็นอะไรรึเปล่า ผมวิ่งลงบันไดไปด้วยตะโกนถามเซฮุนไปด้วย ก่อนจะเห็นสภาพคนนอนตกโซฟาร้องโอดโอยอยู่กับพื้น

    ไม่เป็นไรครับ โอย ปวดไปทั้งตัวเลยเซฮุนว่าน้ำตาคลอเบ้า

    ผมใช้นิ้วไล้ปาดน้ำที่เล็ดออกมาเบาๆก่อนจะช่วยเขาพยุงให้ลุกขึ้นไปนั่งที่ห้องครัว ให้เดาว่าเขาน่าจะหิวแล้ว ผมเพิ่งหุงข้าวไว้เมื่อเช้า ให้กินกับกิมจิของแบคฮยอนละกัน

    อร่อย พี่ทำเองหรอ

    ผมนั่งมองเซฮุนกินกิมจิฝีมือแบคฮยอนแล้วตอบกลับไป

    ไม่ได้ทำหรอก แบคฮยอนทำไว้ให้น่ะ

    พี่สองคนเป็นแฟนกันหรอ

    เอ่อ... ไม่ได้เป็นหรอก

    แล้วทำไม...

    แบคฮยอนจีบพี่อยู่น่ะ

    เซฮุนมองผมด้วยสายตากรุ่มกริ่มพลางเคี้ยวข้าวตุ่ยๆไปด้วยยิ้มไปด้วย ทำไมต้องยิ้มอย่างนั้นด้วยล่ะ ผมร้อนตัวว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่นะ นายห้ามคิดอะไรแบบนั้นนะเซฮุน

    แล้วเค้าเป็นยังไงสำหรับพี่ล่ะ

    ก็... แบคฮยอนเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่งเลยล่ะ เขาทำในสิ่งที่พี่ไม่เคยเจอและชอบมากถึงแม้ว่าเขาจะชอบดุพี่ก็เถอะ

    พี่คิดว่าเขารักพี่มากมั้ยครับ

    รักสิ แบคฮยอนทำทุกอย่างเลยล่ะ พี่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ชอบ

    ครั้งหนึ่งที่พี่ไล่เขา เขาก็ยังยอม...

    พี่รู้มั้ย เวลาที่พี่พูดถึงพี่แบคฮยอน พี่ยิ้มจนแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะ

    อ๊ะ หรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

    ผมจับแก้มตัวเองเขินๆพลางมองค้อนเซฮุน หัวใจมันเต้นตึกตักๆเลยล่ะ

    แล้วนายจะทำยังไงเรื่องจงอินล่ะ มือที่กำลังจับช้อนชะงักทันทีเมื่อผมเอ่ย

    ขอโทษที พี่ทำนายหมดอารมณ์กินแน่ๆเลย

    ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าผมคงต้องทำใจแล้วกลับบ้านที่ปูซาน

    แล้วเรื่องเรียนล่ะ

    ลาออกแล้วก็ไปช่วยพ่อกับแม่ทำสวนน่ะ

    ไม่มีอะไรที่น่าสงสารไปกว่านี้แล้วล่ะ เซฮุนอุตส่าห์พยายามทำงานหาเงินเพื่อส่งตัวเองมาเรียนในเมืองที่ค่าเทอมออกจะแพงแสนแพง ความจริงที่พักเขาก็แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ ยังดีที่จงอินพาไปอยู่ด้วย แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพอไม่มีจงอินแล้วชีวิตของเซฮุนดูจะไม่มีที่ไปนอกจากความคิดเมื่อกี้

    งั้นนายมาพักอยู่กับพี่

    เสื้อผ้าล่ะ

    เดี๋ยวพี่ไปเอาที่คอนโดให้ พี่จะพูดเอง

    พี่จะไม่บอกอะไรใช่มั้ย

    ไม่บอกหรอก ถ้านายบอกก็คงจะโดนทำแบบนี้อีกแน่

    ขอบคุณนะครับ

    ไม่เป็นไร นายไปอาบน้ำนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปหาเสื้อผ้าของพ่อมาให้ใส่ก่อนนะ

    ไม่ว่ายังไงผมก็จะช่วนเซฮุนทุกทาง น้องที่ผมรักต้องไม่เสียการเรียนเพราะเรื่องพวกนี้เด็ดขาด

     

    วันต่อมา

    ผมยืนอยู่ชั้นหนึ่งของคอนโด ในมือมีไอดีการ์ดห้องของจงอินถือไว้อยู่ วันนี้ผมจะมาเอาของของเซฮุนออกจากห้องของจงอินให้หมด ดีนะที่วันนี้ไปเรียนทำให้จงอินไม่ได้อยู่ที่ห้อง ส่วนเซฮุนจะหยุดเรียนแต่ผมก็ไม่ให้หยุด ผมรู้ว่าเขายังไหว แต่เขาไม่อยากบากหน้าไปเรียนทั้งที่ยังเจอจงอินน่ะสิ เขาไม่สามารถหยุดแบบนี้ไปเรื่อยๆได้หรอกนะ เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องเจอหน้าจงอินอยู่ดี

    ชั้น 12 ห้อง 112”

    ผมพึมพำพลางเดินไปที่ลิฟต์ก่อนจะชะงักเมื่อเจอจงอินกำลังเดินออกมา ผมนี่ใจเต้นระทึกเหมือนเจอผีเลยล่ะ

    พี่มาทำอะไรที่นี่จงอินยิ้มอย่างดีใจ

    ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาดูดีและเรียบร้อยทุกอย่าง แถมยังทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่ข้างกายไม่มีเซฮุนเหมือนอย่างเก่า

    ให้ตายเถอะ...

    ผมคิดว่าเขาจะไปเรียนแล้วซะอีก อุตส่าห์มาช่วงห้าโมงเช้าเพราะมันสายมากแล้วนะเนี่ย แต่ป่านนี้เขาก็ยังไม่ไปเรียนอีกหรอ

    พี่มีธุระมาหาเพื่อนที่นี่น่ะ ไม่คิดว่านายจะอยู่ที่นี่ แล้วเซฮุนไปไหนล่ะ

    มันออกไปเรียนก่อนผมแล้วล่ะ โกรธอะไรผมก็ไม่รู้

    โกหกหน้าตายชัดๆ นายนั่นแหละ เป็นบ้าอะไรถึงต้องทำร้ายเซฮุน...

    งั้นหรอ สายแล้วนายก็ต้องไปเรียนได้แล้วเหมือนกันนะ ระวังพี่คริสทำโทษละกัน

    ครับ

    อ๊ะ!”

    ผมผงะเล็กน้อยเมื่อจงอินยื่นหน้ามาที่ข้างหูก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วเบา

    งั้นผมไปเรียนล่ะ

    เขาเดินจากไปด้วยดี ผมถึงกับโล่งอกไปเปราะ แต่ภารกิจของผมก็ยังต้องดำเนินต่อไปสินะ

    พอขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นสิบสอง ผมก็ดิ่งไปที่ห้อง 112 ทันทีแล้วรีบสแกนไอดีการ์ดเข้าไปในห้อง

     

    เสื้อผ้าทั้งหมดของผมอยู่ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ลิ้นชักล่างสุดทั้งหมดจะมีเสื้อผ้าผมทั้งหมด หนังสือเรียนอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องรับแขกริมหน้าต่าง ต้องแยกให้ดีเพราะหนังสือของผมกับจงอินปนกันบางส่วน โน๊ตบุ๊คของผมจะวางอยู่ข้างทีวี ส่วนกระเป๋าเดินทางที่พี่จะเอาใส่ของอยู่ข้างๆตู้เก็บรองเท้า

     

                เข้ามาในห้องก็เจอะกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ไว้ใส่ของทันที นับว่ามันเป็นอะไรที่โชคดีมากเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหา

    ผมยกกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนทางด้านซ้ายมือแล้วสแกนสายตาหาตู้เสื้อผ้า หลังจากนั้นก็รีบเปิดกระเป๋าแล้วเปิดลิ้นชักชั้นล่างทั้งหมดออกมาแล้วรีบจับใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ นับว่าใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จ

                แถมยังต้องวิ่งว่อนหาโน๊ตบุ๊คที่เซฮุนบอกว่าอยู่ข้างทีวีแต่แท้จริงแล้วมันไม่ได้อยู่ข้างทีวีแต่มันกลับหายไปไหนไม่รู้! ที่แน่ๆเซฮุนอาจจะจับผิดแน่นอน!

                ติ๊ด ติ๊ด

                เสียงสแกนไอดีการ์ดเข้าห้อง! นี่จงอินยังไม่ไปเรียนอีกหรอ!

    บ้าชิบ ดันลืมของซะได้... แล้วนี่มันรองเท้าใครวะ

    ผมทำตัวลีบไปกับโต๊ะทำงานที่อยู่ริมหน้าต่าง ซึ่งโต๊ะหันข้างจนทำให้ผมหลบอยู่ในซอกด้านในได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่คาดคือการที่มีเงาของจงอินกำลังเดินมาทางนี้แล้ว...

    เจอตัวแล้ว...





    ___________________________________________________________________________


     

    Please Do for me.

    Vote. l Fav. l commment.

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×