ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 24 : 24th Bullets

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.11K
      12
      3 ก.ย. 57


    ตอนที่ 24 : 24th Bullets   

     

    ระหว่างพักกิจกรรม เพื่อรอการ คัมแบคนั้น  เหล่าสมาชิก Got7 ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ  พวกเขามี  

    E-License พร้อมจะทำงานต่างประเทศแล้ว  ตามปรกติ การไปแข่ง ลีค ต่างประเทศ ส่วนใหญ่

    ต้องอยู่ในระดับ
    S ขึ้นไปเท่านั้น ที่จะมีฐานแฟนคลับเพียงพอต่อการสนับสนุนการแข่งขันนอก

    ประเทศ แต่
    Got7 ก็ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่อันนี้





     

     

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ที่อ้าแขนรับเหล่านักฆ่าจากต่างชาติ  วงการเรียลริตี้ ฆ่าคนของประเทศ

    ญี่ปุ่นนั้นใหญ่โตไม่น้อยหน้าประเทศใดในโลก แถมมีเงินสะพัดกว่าที่เกาหลี นับ สิบ สิบ เท่า แต่

    ทางเดินมันไม่ง่าย นักฆ่าหลายกลุ่มจากเกาหลี ระดับสูงๆ ที่เคยมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็

    เยอะ
    Got7 ที่เพิ่งเริ่มบินก็ได้รับภารกิจสุดโหด ประหนึ่ง ลูกนกต้องบินฝ่า พายุทอนนาโดใหญ่น่ากลัว

    ซะแล้ว

     



     

    แต่ชีวิตก็ยังไม่โหดร้ายเท่าไหร่นัก เมื่อ บริษัทให้มาทำงานภายใต้การดูแล ของ ทีม 2PM โดย

    Got7 รับหน้าที่ เคลียเปิดทาง ให้ 2 PM ในสนามแข่งจริง ตลอด 1 เดือน และได้มีโชวเคสเป็น

    ของตนเองครั้งแรก ต่อหน้าแฟนคลับนับหมื่น  รวมถึงได้เข้าร่วม แข่งสนามรวม กับทีมระดับ

    ท๊อปของเกาหลี ที่ขนมาทำทัวร์นาเม้น รวมทุกค่ายทำให้สามารถสร้างฐานแฟนคลับกลับไปได้

    ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ ทีมอื่นๆทีเดียว

     



     

    ก่อนจะไปถึงรายละเอียดของงานดังกล่าว เราไปดูการเตรียมตัวของเหล่าสมาชิกทีม Got7  กัน

    ดีกว่า

     



     

    หลังจากมาที่ ประเทศญี่ปุ่นแล้ว นอกจากการฝึกซ้อมตามตารางประจำวัน จะมีการถ่ายทำ

    รายการซ่อนกล้องเพื่อออกอาการใน เคเบิลสำหรับแฟนคลับ เพื่อไม่ให้แฟนคลับที่เกาหลี ลืม

    พวกเขาซะก่อน ตลอดช่วงที่มาทำงานที่ ญี่ปุ่น 1 เดือนนี้

     



     

    มิสชั่น ตลอด 1 เดือน สำหรับ นักฆ่า ก็คือเกม Bloody Angle กติกาก็คล้ายๆ Buddy Angle

    คือสมาชิกแต่ละคน จะจับฉลาก ชื่อของสมาชิกในทีมที่จะมาเป็นคู่ แองเจิล กับบัดดี้ โดยแอง

    เจิล จะเป็นคนคอยดูแลบัดดี้ ตลอดการทำงานในญี่ปุ่น  เหมือนจะเป็นเกมกระชับมิตรภาพที่ดี 

     แต่ติดตรงที่ ในรายการนี้เป็น
    Bloody ไม่ใช่ Buddy คือ การ ดูแล take care ( เรียกสั้นๆว่า

    การเท๊ค) ไม่ใช่การช่วยเหลือกัน  แต่ เป็นการแกล้งกันแทน แน่นอนว่า ไม่มีลิมิต บัดดี้จะคอย

    ทำร้ายคู่ของตน ไปเรื่อยๆ โดยห้ามให้อีกฝ่ายรู้ ถ้าคู่ไหนทนไม่ได้ สามารถประกาศยอมแพ้ได้

    โดยผู้แพ้จะต้องยอมทำตามความต้องการอะไรก็ได้ของแองเจิลผู้ชนะ 1 อย่าง และรางวัลชนะ

    เลิศสูงสุดก็คือ แองเจิลที่สามารถแกล้งคู่ของตนได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่ถูกจับได้  กับคู่


    takeบัดดี้อดทน ที่สามารถทนได้ตลอดรอดฝั่ง จะได้รับวันหยุด 10 วัน พร้อมแพคเกจที่พักท่อง

    เที่ยวสุดหรู และบัญชีเงินฝาก 11 หลัก
    มันคือการแข่งขันแห่งศักดิ์ศรี ( เหรอ 555 )

     



     

    การจับฉลากบัดดี้ ก็ไม่ได้จับกันธรรมดา ต้องผ่านเกม ทดสอบความกล้า ที่จัดขึ้นในโรงเรียนร้าง

     



     

    ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ในฤดูหนาว หิมะโปรยปรายเป็นสีขาวทั่ว สนามบอล และหลังคาของ

    โรงเรียนร้าง อุณหภูมิก็ติดลบ เบาะๆ -4 องศา ที่นี่นอกจากเคยเป็นโรงเรียนแล้ว พอทิ้งร้าง มี

    บริษัทเอกชนมาเช่า และเคยเป็นสถานที่ทดลองมนุษย์ของบริษัทยาที่โดนปิดไปแล้ว ว่ากันว่า

    เคยมี มนุษย์ที่ถูกทดลองยา ตายไปไม่ต่ำกว่า 5000 คน  มีทั้ง เด็กทารก  วัยรุ่น วัยทำงาน และ

    คนแก่ สัตว์ทดลองนาๆชนิด วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียง คนบ้าง สัตว์บ้างร้องโหยหวน ว่ากันว่า ยัง

    มีผู้ถูกทดลองบางส่วน ที่ถูกทำให้พิการ หรือกลายพันธุ์ ยังหลบหนีอยู่ที่นี่ บ้างก็ว่ามี

    ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยๆ เช่นอยู่ดีๆ ไฟก็ ดับบ้าง เห็นลูกไฟ ลอยไปมาบ้าง

    บางทีก็มีผู้หญิงชุดขาวเดินไปมา พอทักก็จะหายไปบ้าง  พวกที่มาทดสอบความกล้ารุ่นก่อนๆ ก็

    ไม่เคยมีใครรอดกลับไปสักคน

     



     

    ตอนนี้สมาชิกทีม Got7 แบ่งเป็น 2 พวกแล้ว




     

    แบมแบม ยองแจ และ แจ๊กสันคือผู้ที่ ไม่ถูกกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ( กลัวผีนั่นเอง) ส่วน

    พวกที่เหลือ แจบอม จินยอง มาร์ค และยูคยอม เป็นพวกที่ไม่กลัวผี รู้สึกยิ้มสะใจกันมากในเวลา

    นี้
    และ   ต่างคนต่างก็คิดถึงวิธีทรมานบัดดี้ของตนเองกันไปล่วงหน้าแล้ว

     



     

    ทุกคนจะได้รับแผนที่ ที่ซ่อนชื่อบัดดี้ไว้คนละแผ่น ในแผนที่จะระบุจุดที่ซ่อน 6 ตำแหน่ง ตัด

    ตำแหน่งของตัวเองออก ป้องกันการจับได้ชื่อตัวเอง
    และทั้งหมดต้องแย่งชิงกันเอง ท่ามกลาง

    ความหนาวเหน็บ และความมืดมิดของยามราตรี 





    ....................







     


    รถตู้ของทีมงาน Got7 แล่นมาจอดเทียบที่ป้อมยามของโรงเรียนร้าง มีไฟสว่างแค่เสาไฟฟ้าตรง

    ถนน หน้าป้อมยามนี้เท่านั้น มองเข้าไปในโรงเรียน  มืดสนิท  อาณาเขตของโรงเรียนนั้น ไม่

    กว้างเท่าไหร่นัก เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 







    "จะให้เข้าไปทีละคนจริงๆเหรอครับ มันน่ากลัวน๊า" แบมแบม บอกผู้จัดการ พร้อมกับส่งสายตา

    อ้อนวอนไปยังเหล่าพี่ๆ สมาชิก
    Got7 ที่แต่ละคนกำลังเตรียมตัวใส่อุปกรณ์กันหนาวอยู่






    ปรกติไม่ว่า สถานการณ์จะเป็นแบบไหน แบมแบมไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาเลย แต่เรื่อง

    กลัวผีนี่มันช่วยไม่ได้จริงๆ






     

    มาร์ค รีบเข้าไปโอ๋ ปลอบแบมแบมคนแรก ด้วยการลูบศีรษะ ในขณะที่คู่แปลก แจ๊กสัน และยอง

    แจ จับมือกันแน่น เพราะทั้งสองก็กลัวผีเหมือนกัน แถมบรรยากาศ ยิ่งกว่าเป็นใจ






     

    ฝูงอีกาตัวสีดำมะเมี่ยม ขนาดบิ๊กไซส์พากันส่งเสียงร้องต้อนรับ และบินโฉบไปมาบนหลังคาป้อม

    ยามทางเข้าโรงเรียน จะงอย ปากขนาดใหญ่สีดำมันวาวสะท้อนแสงจันทร์ครึ่งเสี้ยว  ดูน่ากลัว 

    สมาชิกได้รับไฟฉายคนละ 1 กระบอก อาวุธ ที่ชอบ เต็มพิกัด แล้วแต่จะรีเควส  ถ้าไม่ได้กระป๋อง

    ใส่ชื่อบัดดี้ มาคนละใบ ภายใน 1 ชั่วโมงแล้วละก็ ต้องกลายเป็น บัดดี้กับผู้จัดการหนวดโนยอง

     ฮยองแทน และต้องใส่ไอ้โม่งดำคลุมหน้าตลอดการโปรโมทที่ญี่ปุ่น  แน่นอนว่า ไม่มีใครรับได้

    กับเรื่องนี้ ทุกคนต้องพยายามตามหากระป๋องใส่ชื่อบัดดี้ให้สำเร็จให้ได้






     

    "เดี๋ยวฮยองจะเข้าไปเคลียทางให้ก่อน แบมแบมรีบตามมานะครับ" มาร์คเลือกปืนสั้น.44 แมกนั่ม

    คู่ใจ พร้อมแมกกาซีนกระสุนสำรอง ประมาณ 10 อันใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำ เขาสวมหมวกบีนนี่

    สีน้ำเงิน ส่งยิ้มหวานให้แบมแบมก่อนจะก้าวลงจากรถตู้แล้ววิ่งเข้าไปในความมืดคนแรก





    .
    .
    .

     

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด" มีเสียงหวีด กรีดร้องเสียงสูงดังขึ้นภายในโรงเรียนหลังจากมาร์ควิ่ง

    หายไปไม่ถึง 1 นาที ทุกคนมองหน้ากันเลิกลัก เพราะที่นั่นมีแต่ทีม
    Got7 กับผู้จัดการเท่านั้น

    ไม่มีผู้คนผ่านไปมาแน่ๆ เพราะถนนที่โดนหิมะทับถมไม่มีรอยล้อรถ และรอยเท้าสักนิด และที่

    สำคัญที่นี่มันโรงเรียนร้างไม่ใช่เหรอ
    !!??






     

    แจบอมกับ จินยอง รีบวิ่งตามมาร์คเข้าไปในความมืด โดยหยิบอาวุธไปแค่ ปืนสั้น SIG คนละ

    กระบอกเท่านั้น






     

    แบมแบมขาสั่น  ขยับตัวไม่ได้ อยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว มีแจ๊กสันกับยองแจ มานั่งเบียดรวม

    กันใกล้ๆ






     

    ส่วนยูคยอม ลังเลจะวิ่งตามดี หรือจะอยู่เป็นเพื่อนแบมแบมดี เขาหยิบ Shot gun  ลำกล้องคู่ ขึ้น

    มา  พร้อมกระสุน อีก 6 กล่อง ใส่กระเป๋า ก่อนจะ ตัดสินใจ ตามพวก มาร์ค แจบอม และจินยอง

    เข้าไป






     

    ยองแจคลายมือ พร้อมกับไปเลือกอาวุธ เขาหยิบไรเฟิลยาว ติดลำกล้องและเลเซอร์เล็งเป้า

    พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งมาใส่กระเป๋าเสื้อกันหนาว แล้วหยิบไฟฉายมาแจกให้แจ๊กสันกับแบม

    แบม






     

    แจ๊กสันหยิบปืนกลเบา Heckler & Koch Mp7 ขึ้นมา 2กระบอก พร้อมแมกกาซีนอีก นับ 10 ใส่

    กระเป๋าเป้ ประหนึ่งจะออกรบกับกองทัพใหญ่ จนแบมแบม อดหัวเราะไม่ได้






     

    "ผีมันไม่กลัวปืนนหรอกนะฮยอง" แต่แบมแบมเลือกหยิบ UZI ปืนกลสั้น พร้อมแมกกาซีนเยอะไม่

    แพ้แจ๊กสันเพื่อความอุ่นใจ






     

    "เราสามคนเดินไปพร้อมกันดีกว่านะ" ยองแจ ออกความเห็น ซึ่ง แบมแบมกับแจ๊กสัน รีบพยัก

    หน้าเห็นด้วย







    "อีก 1 ชั่วโมงจะมารับที่นี่นะ ขอให้โชคดี" พี่เมเนเจอร์อวยพรให้แล้วก็ขับรถตู้ที่พาพวก Got7มา

    กลับออกไป







    "พวกเรารีบเข้าไปเอา กระป๋องชื่อบัดดี้ แล้วรีบออกมากันเถอะ ส่วนที่ใกล้ที่สุด น่าจะเป็น อาคาร

    หอสมุด ที่ติดกับป้อมยามตรงนี้เลย ลำบากแค่ตึกพวกนี้มี 8 ชั้น แผนที่ไม่บอกว่าอยู่ชั้นไหนนี่สิ
    "






    ยองแจอ่านแผนที่แล้วบอกแผนคร่าวๆ โดยมี แจ๊กสัน กับแบมแบมเบียดเข้ามา พร้อมกับ มอง

    ซ้ายมองขวา ล๊อกแล๊กๆ อย่างกลัวอะไรจะออกมาทักทาย







    ทั้งสามอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ยื่นมือซ้ายที่ถือไฟฉายไปข้างหน้า แล้วมือขวาถือปืนไข้วกัน

    เตรียมยิงอะไรก็ตามที่โผล่ออกมาโดยไม่คาดคิด แล้วค่อยๆย่องไปตามทางเดินอย่างระมัดระวัง


    ภายในตัวอาคาร ผนังและทางเดินนั้นเป็นคราบสรกปรกเปื้อนดำเต็มไปหมด มีฝุ่นหนาและหยาก

    ใย้ ใยแมงมุมแทบจะทั่วพื้นที่ บ่งบอกถึงความทิ้งร้างมานานแค่ไหน 







    พวกเขาเดินไปตรงส่วนที่น่าจะเป็นลิฟท์ ซึ่งแน่นอนว่าใช้ไม่ได้เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้า

    และขณะที่ยองแจกำลังเอาไฟฉายส่องไปที่ประตูลิฟท์ ที่มีรอยดำแห้งกรังนั้น ด้วยประสบการณ์

    ก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือรอยเลือด







    "ปัง!!" มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จากที่ใดที่หนึ่งในโรงเรียนร้าง ไม่ไกลจากพวกเขานัก ทำให้ทั้ง

    สามหันหน้าหาที่มาของเสียง







    แต่...ประตูลิฟท์ ดันเปิดออกโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว






    แจ๊กสันไหวตัวทันคนแรกเขา รีบ เอาตัวเองเข้าบังยองแจและแบมแบม จากตัวอะไรที่มองไม่ชัด

    ที่เข้าโจมตีพวกเขา







    แขนเหี่ยวเน่า ฟาดเข้าที่ซอกคอ และคางขาวๆของแจ๊กสันเฉียดๆ ส่งกลิ่นเหม็นน่าขยะแขยง

    โชยมาแตะจมูก







    ยองแจเอาไฟฉายส่องร่างผู้จู่โจมชัดๆทันที






    ร่างเตี้ยหลังค่อม ส่วมเสื้อผ้าเก่าเน่าขาดๆ ผมเผ้ายุ่งแข็ง ใบหน้าแทบไม่มีเนื้อติดแล้ว เห็นกะโหลก

    โผล่ออกมานอกเนื้อเน่า ยุ่ย ผิวหนังลอกจนเห็นกล้ามเนื้อเน่าภายใน เส้นเลือด และเอ็นสีขาวซีด

    มีน้ำเลือดน้ำหนองไหล เคลื่อนไหว ในท่าเกร็งแปลกๆฝืนธรรมชาติ ครางเสียง ฮื่อออ ฮ่า เข้า

    โจมตีทั้ง สามอย่างสเปะสปะ







    "โธ่!! ซ่อมบี้นี่เอง" ยองแจถอนหายใจ






    "ห๊า!! ซอมบี้มันก็เป็นผีชนิดนึงนะครับ  ฮยองไม่กลัวแล้วเหรอ?" แบมแบมร้องเสียงสูง






    "มาแบบเห็นตัว ไม่กลัวหรอกเฟ้ย" แจ๊กสันไม่พูดป่าว เขาเอาปืนกลที่ติดมารัวใส่ ซอมบี้หญิงไม่

    ยั้งจนร่างของมันล้มลง แล้วยองแจตามไป กระทืบหัวมันซ้ำ







    "โผล๊ะ!!" เสียงกระโหลก แคลเซี่ยมบางๆ ที่มีเนื้อยุ่ยๆ ล้อมหุ้มอยู่ ถูกแรงอัดเหยียบแตก มี

    ของเหลว หนืดๆหยึ๋ยๆ กระเด็นมาเปื้อนรองเท้าคอมแบทสีขาวของยองแจ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ

    อะไร แถมยังเงยหน้าหัวเราะท่าประจำอีกแล้ว







    ตอนนี้ ทั้งยองแจ และแจ๊กสัน กลับมาร่าเริง กันแล้ว ถ้าเป็นเจ้าซอมบี้พวกนี้ละก็ เท่าไหร่ก็เข้า

    มาเถอะ ตราบใดที่ยังตอบโต้ได้ และมาแบบเห็นตัว ส่วน แบมแบมยังไม่วางใจสถานการณ์เท่า

    ไหร่นัก เจ้าพวกนี้มันมีกันกี่ตัวฟระ





    .

    .

    .

     

    ด้านจินยอง กับแจบอมที่วิ่งลึกเข้าไปในความมืด ผ่านอาคารแรก เข้าไปลึกขึ้นๆ ไม่มีวี่แววของ

    มาร์คสักนิดแถมความอึดอัด ทึบทึมของบรรยากาศแถวนี้ก็ทำให้พวกเขาหายใจแทบไม่ออก







    "เฮ้ นายเป็นอะไรหรือป่าว?" แจบอมถาม จินยองพร้อมเอามือ ปัดผมม้าสีดำขลับที่ปรกหน้าผาก

    คนรักของเขาขึ้น  เหงื่อออกเยอะทีเดียว แม้อากาศจะหนาวจนติดลบ







    "ฉันไม่ชอบที่นี่เอาเสียเลย รู้สึกว่าคืนนี้จะต้องมีใครได้เสียเลือดแน่" จินยองยกนิ้วโป้งมากัด

    ทำท่าครุ่นคิด







    "ไม่มีอะไรหรอกน่า เชื่อลางสังหรณ์ของชั้นดีกว่า เอางี้ละกัน เรามาช่วยกันรวบรวม กระป๋องไป

    ให้น้องๆ เลือกดีกว่า เพื่อความปลอดภัย ยังไง โนยองฮยอง (เมเนเจอร์) ก็ไม่รู้อยู่แล้ว
    " แจบอม

    ยิ้มตาเป็นขีด แล้วสวมกอดจินยอง







    "นายรู้อะไรไหม  เกมนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะ  ตั้งแต่อายุ 15 และก่อนหน้านั้นหลายปี พวก

    เราไม่เคยมีวันหยุดเลย ถ้าเราสองคนชนะได้ ก็จะได้ไปพักผ่อนยาวๆสักครั้ง น่าจะดีนะ
    " แจบอม

    กระชับอ้อมแขนของเขาขึ้น







    จินยองก้มหน้าเขิน แต่ในใจก็แอบคิดเรื่องการใช้วันหยุดสักครั้งกับ แจบอม แบบคนธรรมดาบ้าง

    เหมือนกัน







    จินยองกอดตอบแจบอม พร้อมเอียงศีรษะซบไหล่สักพัก ก่อนจะเปลี่ยนมาเขย่งปลายเท้า จุ๊บ

    แก้มของแจบอม







    "ตกลง เรามาพยายามด้วยกันนะ ใช้ถนนเส้นนี้แบ่งเขตกลาง(ดูแผนที่ด้านบนประกอบนะจ๊ะ)






     นายหาฝั่งขวา ชั้นหาฝั่งซ้ายเอง แล้วถ้าใครเคลียก่อนให้ยิงปืน 3 นัด เป็นสัญญาน โอเคไหม
    ?"


    แจบอมเชยคางจินยองขึ้นมาก่อนจะประทับจูบด้วยริมฝีปาก อุ่นๆ ลงไป





    "ให้ไว แล้วอย่าบาดเจ็บหล่ะ" จินยองยกมือขึ้นมาแตะปากตัวเองที่โดนประทับรอย  ด้วยใจที่เต้น

    ตึกตัก ก่อนจะหันหลังแยกกับแจบอมไป






    .

    .

    .
     

    ยูคยอมวิ่งสเปะสปะไปในความมืดพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของเหล่า ฮยอง เพราะตอนนี้เขาตาม

    จินยองกับ แจบอมไม่ทัน แถมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของมาร์คอีก  ถูกทิ้งให้หลงทางซะแล้ว เพราะ

    ลืมหยิบแผนที่ตอนวิ่งออกมา  แต่ถึงกระนั้นถนนที่โล่งและ หิมะที่โปรยปราย อย่างอ้อยอิ่ง ย้อม

    โลกให้เป็นสีขาวบริสุทธิ์ เป็นประกายสะท้อนแสงจันทร์ดู สงบ สวยงาม มากกว่าน่ากลัวสำหรับ

    เขานั้น ทำให้ยูคยอมยืนกางแขนแหงนหน้าขึ้นท้องฟ้ารับหิมะ สูดบรรยากาศเงียบๆ แทนที่จะ

    ตระหนก จนกระทั่ง ได้ยินเสียงบางอย่าง







    "ฮัดชิ่ว!!" เสียงเล็กๆใสๆดังขึ้นข้างๆตัวยูคยอม จนเขาต้องก้มลงมอง






    เด็กผู้หญิงในชุดนอนสีขาวผมหยิกหยักศกสีดำเหมือนตุ๊กตา ไม่สวมรองเท้า ห่มผ้าเช็ดตัวเก่าๆ

    จามจนน้ำมูกไหล มายืนข้างเขาตอนไหนก็ไม่รู้







    "น้องมาจากไหนเนี่ย แต่งตัวอย่างนี้ไม่หนาวแย่เหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะครับ" ยูคยอมอุ้มเด็กน้อย

    แปลกหน้าขึ้น พร้อมถอดผ้าพันคอหนาอุ่นของเขาให้เด็กน้อยที่ตัวเย็นเฉียบแทน เห็นอย่างนี้ แต่

    สมาชิก
    Got7 พูดภาษาญี่ปุ่นได้ทุกคนนะ เพียงแต่จะเก่งไม่เท่ากันเท่านั้นเอง







    "ขอบคุณค่ะพี่ชาย มากิออกมาตามหา เจ้าชิโร่ มันหายไปไหนไม่รู้" เด็กน้อยยิ้มไร้เดียงสาให้  

    น่ารักจนยูคยอมต้องยิ้มตาม






    "น้องชื่อมากิเหรอครับ พี่ยูคยอมนะ เดี๋ยวพี่ช่วยหา มากิบอกทางให้พี่แล้วกันเดี่ยวพี่อุ้มพาไป"

    เด็กน้อยเอียงคอ เอานิ้วจิ้มแก้มตัวเอง น่ารัก ก่อนจะชี้ไปทาง 11 นาฬิกา





    .

    .

    .


    มาร์คพยายามตามหาต้นตอของเสียงกรีดร้อง จนเข้าไปลึกถึงโรงอาหาร ซึ่งมีแปลงเกษตรอยู่

    ด้านหลัง และเป็นเขตสุดกำแพงรั้วของโรงเรียนร้าง  อากาศที่เย็นติดลบทำให้หนาวจนปวด

    เข้าไปถึงในกระดูก สัญลักษณ์กระป๋องชื่อบัดดี้อยู่ไม่ใกล้จากตรงนี้นัก ระหว่างทางที่จะออกจาก

    โรงอาหารไปสู่ พื้นที่ด้านนอก ไม่น่ามีอะไรอยู่ ทำให้มาร์ค รีบเดินทะลุออกไปยังตำแหน่งตาม

    แผนที่ ในจังหวะที่แค่เหลือบมองแผนที่ในมือเท่านั้น บางสิ่งแข็งๆหนักๆก็เข้ามากระแทกศีรษะ

    ทำให้โลกของมาร์คมืดดับลง...





    ............


     


    "ปัง ปัง ปัง ปัง!!"  เสียงรัวปืนกลดังขึ้นเป็นระยะ ระยะ ระหว่างทางขึ้นบันไดตั้งแต่ชั้น 1 ไปชั้น 4

    แจ๊กสัน และแบมแบม ทำหน้าที่ยิงคุ้มกัน ให้ยองแจเข้าไปหากระป๋องใส่ชื่อบัดดี้ ในห้องติด

    บันไดห้องแรกของแต่ละชั้น ตามแผนที่








    "ฮยอง จริงๆเราควรจะหาของกันแบบเงียบๆไม่ใช่เหรอ กราดยิงมั่วซั่วงี้เกิดพวกซอมบี้มันไปตาม

    เพื่อนมา หรือมีหัวหน้าใหญ่ไรงี้พวกเราจะไม่ซวยกันหมดเหรอฮะ
    ?" แบมแบมสะกิดแจ๊กสัน แต่

    ตัวเองก็ตั้งหน้าตั้งตายิงไม่ยั้งเหมือนกัน







    "ไม่ทันแล้วหล่ะ แบม เหลืออีก 4 ชั้น เอง แล้วดูเหมือนด้านบน พวกซอมบี้จะยิ่งหนาแน่นขึ้น

    ด้วย
    " แจ๊กสันปลดแมกกาซีนเก่าออกแล้วล้วงเป้เอาแมกกาซีนอันใหม่ใส่เข้าไปอย่างไม่สะทก

    สะท้าน






    ยองแจเดินออกมาจากห้องแล้วแบมือยักไหล่ แปลว่าหาไม่เจอต้องขึ้นไปชั้นต่อไป





    พวกเขาเดินเกาะกลุ่มกัน มีแจ๊กสันถือไฟฉาย และเล็งปืนเดินขึ้นหน้านำไป โดยมีแบมแบมตาม

    หลัง และยองแจเดินต่อมาเป็นคนสุดท้าย






    "กึก.... กึก..... กึก....." เสียงเดินของทั้งสามคนก้องสะท้อนไปตามโถงบันได และทางเดิน  สลับ

    กับเสียงปืน  จนพวกเขาทั้งหมดมาถึงชั้นที่ 7 เสียงฮื่อ ฮา คราง  ของเหล่าซอมบี้รู้สึกเงียบลง

    บนชั้นนี้ ....เงียบจนผิดสังเกต






    "เจอแล้ว นั่นไง" ยองแจร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น  เมื่อเห็นแสงไฟกระพริบเป็นจังหวะสีแดง

    ที่ติดกับกระป๋องชื่อบัดดี้ที่เขาต้องการวางอยู่บนเคาเตอร์ในห้องกระจกติดบันได  โดยห้องนี้ดู

    เหมือนจะเคยเป็นห้องสมุดมาก่อน เพราะมีตู้หนังสือ เรียงติดๆกันพอมองเห็น และมีโต๊ะ วาง

    เรียงราย เหมือนห้องสมุดทั่วไป แต่แค่มันเต็มไปด้วยฝุ่น และหนังสือก็ตกหล่นอยู่เต็มพื้นไปหมด







    แจ๊กสันทำท่าจะเดินลุยเข้าไปเอาเจ้ากระป๋องนั่น แต่ยองแจห้ามไว้ก่อน





    "เดี๋ยวนะ  ผมว่ามันแปลกๆอยู่นะ" ยองแจหยิบพลุแสงที่เขาพกมาด้วย หักออกแล้วโยนเข้าไป

    กลางห้อง






    แสงสว่างวาบหนึ่งของมันทำให้เห็นอะไรๆได้ชัดอยู่สักแปบ ก่อนที่ทั้งหมดจะเบิ่งตากว้างด้วย

    ความตกใจ แล้วรีบตั้งท่าเตรียมพร้อมทันที!!






    ข้างๆตู้หนังสือใหญ่ใกล้เคาเตอร์ที่มีสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้น มีตัว..เอ่อ น่าจะเรียกว่าสัตว์

    ประหลาด หรืออะไรดี มันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ มี สองขา และสองแขน แต่ไม่มีผิวหนัง ร่างสูง

    ใหญ่ กว่า 3 เมตร ตัวเป็นสีแดงเหมือนหุ่นเครื่องในตามห้องวิทยาศาสตร์ ที่เอาผิวหนังชั้นนอก

    ออก เห็นกล้ามเนื้อภายใน ส่วนที่เป็นเนื้อดูเป็นสีแดงเละๆเยิ้มๆ มีเส้นเลือดภายนอกที่เห็นชัดเจน

    ว่าเส้นเลือดกำลังบีบตัวเป็นจังหวะเหมือน มีอะไรไหลอยู่ข้างในเป็นน้ำหนองเหลืองๆ หัวใจปูด

    นูนออกมาจากหน้าอก  ดวงตาถูกควักออกแล้วเย็บปิดไว้ ศีรษะล้านไม่มีผม และหนังหัว 

    กะโหลกเปิดไปซีกหนึ่งเห็นมันสมอง ปากมันกำลังอ้ากว้างเต็มไปด้วยฟันแหลมคมเรียง สองชั้น

    มากกว่า 50 ซี่  มีลิ้นยาวเกือบ  ฟุต และมีกรงเล็บคมใหญ่สีดำ กำลังแทะขาเน่าๆของซอมบี้แถว

    นั้นอยู่ อย่างเพลิดเพลิน






    "นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย!!??" แจ๊กสันอุทานด้วยเสียงกระซิบต่ำ พร้อมกับเอาเชือกผูกไฟฉายเข้ากับ

    ปลายปืนกล แล้วคว้าปืนกลอีกอันที่สะพายหลังอยู่เอามาถือเป็นปืนกลคู่เตรียมพร้อม






    "เดี๋ยวพวกเราจะล่อมันออกมา แล้วยองแจ นายเข้าไปเอาของออกมาให้ได้นะ" แจ๊กสันบอก

    แล้วพยักหน้าให้แบมแบม






     แบมแบมถอนหายใจยาวอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะส่องไฟฉายตรงไปทางเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น





    มันหันมาตามแสง ก่อนที่จะขว้างซากซอมบี้ทิ้งแล้วพุ่งทะลุกระจกห้องมาหาแบมแบม ทันที





    ขณะที่มันพุ่งทะลุออกมา เศษกระจกกำลังปลิวว่อนยังไม่ทันตกถึงพื้น  แจ๊กสันก็สาดกระสุนเข้า

    ด้านข้างอย่างไม่ยั้ง จนเจ้าตัวประหลาดยักษ์ร่างแดงเปลี่ยนความสนใจไปทางแจ๊กสันแทน






    ยองแจได้โอกาสวิ่งเข้าไปเอากระป๋องใส่ชื่อบัดดี้ ที่มีขนาดเท่ากระป๋องโค๊กสลิม และมีไฟกระ

    พริบติดรอบ ยัดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะจับไรเฟิล เล็งช่วยแจ๊กสัน






    กระสุนปืนกล ของแจ๊กสัน และแบมแบมนับร้อยนัดระดมยิงใส่ร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดจนทั่วตัว

     แต่มันแค่เซไปตามแรงเท่านั้น ผิวสีเลือดแดงของมันดูดกระสุนหายเข้าไปในร่าง มีเลือด น้ำ

    เหลืองซึมออกมานิดหน่อยก่อนที่รอยแผลของมันจะสมานกันหายไปกลับเป็นปรกติ ทำให้แจ๊ก

    สัน และแบมแบมอึ้ง ทึ่ง สยอง






    พอทั้งสองชะงักหยุดยิง  เจ้าตัวประหลาดยักษ์ก็ วิ่งเข้าชาจแจ๊กสันเต็มๆ ถึงแจ๊กสันจะตั้งการ์ด

    ด้วยแขนสองข้างและเข่าอีก 1 ข้างก็ยังโดนแรงกระแทกปลิวกระเด็น กลิ้งหลุนๆไปเกือบ 3

    เมตร






    ยองแจปีนขอบหน้าต่างที่แตกออกมาแล้วยิงไปที่ท้ายทอยของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น โดยไม่ทัน

    มองอย่างอื่น






    กระสุนเข้าเป้า เจ้ายักษ์ทรุดเข่าลง แต่ซอมบี้ที่แอบอยู่แถวนั้น สองสามตัวกระโดดโถมเข้าใส่ตัว

    ยองแจ จนเขาล้มลง






    แบมแบม เข้าไปช่วยยองแจก่อนด้วยการใช้สองมือบิดหักคอ เจ้าซอมบี้ที่รุมทึ้งยองแจตัวนึง

    ก่อนจะเอาปลายกระบอกปืนยัดปากแล้วกดรัวกระสุน จนหัวซอมบี้กระจุยตามไปอีกสองตัว






    "เป็นอะไรไหมฮยอง" แบมแบมยื่นมือให้ยองแจจับ พยุงตัวขึ้น





    ยองแจจับมือแบมแบมแล้วลุกขึ้น แต่ยังไม่วายเหยียบหัวเจ้าซอมบี้ 3 ตัวนั้นซ้ำ(แม้จะเละ และ

    หลุดจากตัวแล้ว)เพื่อความแน่ใจ





    "แผละ!!"....





    "เฮ้  ช่วยหน่อย!!" แจ๊กสันตะโกนขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ใช้แขนข้าง

    เดียวบีบคอเขาแล้วยกขึ้นลอยสูงบนอากาศเกือบ 1 เมตร






    ยองแจรีบใช้เลเซอร์เล็งเป้า แล้วยิงเข้าที่ข้อศอกของมือข้างที่มันจับแจ๊กสันอยู่





    แบมแบมเห็นเป้าหมายนั่น จากเลเซอร์เล็งของยองแจ จึงช่วยระดมยิง รวมถึงแจ๊กสันเองที่ยังมี

    ปืนอยู่ในมือก็พยายามจะยิงเข้าที่จุดเดียวกันจนข้อต่อของมันขาด ช่วงมือถึงศอกหลุดออกจาก

    ลำตัว






    ยองแจไม่รอช้ายิงเลเซอร์นำเข้าที่เข่าซ้ายของมันอีก และยิงรัวๆที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีแบม

    แบมช่วย และแจ๊กสันทีหลุดมาได้ กระหน่ำ ซ้ำที่แผลเดียวกัน






    ถึงจะมีความสามารถในการฟื้นตัวคล้ายอมตะ แต่การ งอก ระยางค์แขนขาที่ขาด ดูท่าจะทำไม่

    ได้ทันที  ในไม่ช้าขาซ้ายของมันก็หักขาดจากลำตัวเพราะโดนกระสุนรัวจนเป็นรังผึ้ง  






    ด้วยความที่เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์สูงกว่า 3 เมตร น้ำหนักก็เกือบ 1 ตัน ขาข้างเดียวไม่สามารถ

    รับน้ำหนักตัวไหว ทำให้มันล้มลง และส่งเสียงคำรามด้วยความโมโห






    แค่นี้ก็เพียงพอต่อการหนีแล้ว ยองแจรีบวิ่งเข้าไปพยุงแจ๊กสัน โดนมีแบมแบมยิงเปิดทางหนีไป

    ทางอาคารรูปตัวแอล ที่อยู่ถัดไปให้  ทั้งสามรีบวิ่งฝ่าความมืดและ ซอมบี้ ข้ามทางเชื่อมอาคาร

    ไปยังเป้าหมายต่อไป


     





    .

    .

    .


    "ฮือออออๆๆ" พอเข้าเขตอาคารใหม่ ก็มีเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังขึ้นมา....





    แบมแบมถึงกับหยุดตัวแข็งค่อยๆมองซ้ายมองขวา ไม่กล้าก้าวไปต่อ ขนแขน ไม่สิ ขนทั้งตัว ลุก

    ซู่ โดยไม่ทราบสาเหตุ  ที่สำคัญ ยองแจ กับแจ๊กสันก็ไม่มีวี่แววไม่ตามมาเสียที ทั้งที่เมื่อกี้วิ่งมา

    ไล่ ทิ้งกันไม่เกิน 3 เมตร






    "นะโม ตัสสะ ไม่เอาน๊า อย่ามาให้เห็นตัวนะครับผม" แบมแบมพนมมือสวดมนต์ภาษาไทยเท่าที่

    จำได้ อย่างตะกุกตะกัก ด้วยเสียงสั่นเครือ อย่างกับจังหวะ แร๊ฟ





    "ทำอะไรหน่ะ!!" มือเย็นๆนุ่มๆ สัมผัสเข้าที่คอของแบมแบม โดยที่ไม่ทันตั้งตัว จนแบมแบมตกใจ

    ร้องออกมา






    "ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!! ไปที่ชอบๆเถอะน๊า" แบมแบมตะโกนสุดเสียง แต่กลับได้ยิน

    เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยแทน






    " ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขวัญอ่อนจังนะเรา" ร่างตรงหน้าแบมแบมที่ปรากฏแก่สายตาให้เห็นก็คือ มาร์ค

    นั่นเอง เด็กน้อยถอนหายใจโล่ง อก






    "โห่ มาร์คฮยอง แบมกลัวจริงๆนะครับ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แล้วฮยองมาไงเนี่ย?" แบมแบม โผ

    เข้ากอดมาร์ค





    "เสียงปืนดังสนั่นขนาดนี้ไม่มาดูสิแปลก" มาร์คในเสื้อโค๊ทสีเทาเข้ม สวมหมวกบีนนี่สีแดงตอบ

    เขาไม่ยอมกอดตอบแบมแบม และไม่ลูบศีรษะเหมือนทุกทีทำให้แบมแบมเริ่มเอะใจอะไรขึ้นมา

    ขึ้นมา จึงรีบผละตัวออก






    "วันนี้มาร์คฮยองไม่ได้ใส่ชุดนี้หนิ นายเป็นใคร แล้วมาร์คฮยองอยู่ไหน?!!!" แบมแบมยกปืนขึ้น

    มาขู่ชี้ไปทางร่างคนที่เหมือนมาร์ค






    ร่างนั้นยิ้มให้แบมแบม ด้วยรอยยิ้มที่เหมือนเจ้าตัวมาเอง ก่อนจะเอานิ้วอุดที่ปลายกระบอกปืน

    ของแบมแบม อย่างไม่ยี่หระ





    แต่แบมแบมก็เหนี่ยวไกปืนยิงรัวๆ ใส่อย่างไม่ลังเล





    กระสุนพุ่งทะลุร่างนั้นหายไปราวกับผ่านอากาศ ไม่มีตัวตน .....




    แบมแบมตกใจขนหัวลุกซู่  หยุดหายใจไปชั่วขณะ นี่โดนผีหลอกเข้าแล้วใช่ไหมครับ อยากจิเป็น

    ลม.....

     






    .

    .

    .



    แบมแบมเข่าอ่อนลงกองกับพื้น แต่ก็ไม่ได้หมดสติสมใจ แค่ตัวและปากสั่น ตาเบิกโพลง แค่นั้น

    เอง...






    มาร์คตัวปลอม ก็ตามมานั่งกอดเข่า ยองๆ ยิ้มข้างๆ มองแบมแบมไม่ยอมไปไหน




    "ทะ..ทำไม..นะ..นาย ยะ..ยังอยู่ในร่างนี้อีกหล่ะ ..อะ..ไอ้.. ?" แบมแบมพูดแทบจะไม่เป็นภาษา

    มนุษย์ ก่อนจะถอนหายใจอีกรอบแล้วรวบรวมสติ ความกล้าตัดสินใจ เผชิญหน้าสนทนากับ

    ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอันนี้แทน






    "ถ้าฉันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น นายก็จะกลัวจนไม่ได้คุยกันดีๆหน่ะสิ ฉันอ่านจากความคิดของนายมี

    แต่หน้าของเจ้าคนนี้นี่นา
    "




    ก็จริง  อยู่ ว่าถ้ามาในร่างมาร์คแบมแบม แทบจะไม่กลัวเลย แต่เอ...นี่เขาคิดถึงมาร์คฮยองตลอด

    เวลาขนาดนั้นเลยเหรอ






    "พวกนายกำลังตามหาอะไรกันให้ฉันช่วยไหม?" คุณผีอัธยาศัยดีในร่างของมาร์คนำเสนอ





    "ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนหรือปล่าว" แบมแบมค่อนข้างไม่ไว้ใจ อะไรที่จะได้มาฟรีๆ ยิ่งด้วยวิธี

    แปลกๆแบบนี้ด้วย






    "ไม่หรอก แค่นายมาเล่นเป็นเพื่อนฉันซักพักก็พอ" มาร์คตัวปลอมพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากตัว

    จริงจนแบมแบมหลงเผลอตอบตกลงไป






    "ได้สิ ผมกำลังหากระป๋อง ทรงกลมไซส์ขนาดนี้ (แบมแบมทำมือประกอบคำบรรยาย) อยากได้

    อันที่ข้างในมีชื่อของ มาร์คฮยองอ่ะ  เขียนว่า
    M-A-R-K ทีมงานเอาเข้ามาซ่อนไว้ในโรงเรียนร้าง

    นี่เมื่อตอนกลางวัน
    " แบมแบมก้มหน้าหลบ แอบมีหน้าแดงนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อ






    "ผมชื่อ แบมแบมนะ จะให้ผมเรียกนายว่าอะไรดีอ่ะ ?" แบมแบมเอียงคอถาม





    "ชิโร่ ก็ได้ มีคนเรียกเราแบบนั้น " มาร์คตัวปลอมยังยิ้มเก่งไม่แพ้ตัวจริงทำให้แบมแบมยิ่งมุ่งมั่น

    อยากจะได้ กระป๋องใส่ชื่อมาร์คเข้าไปใหญ่ (ใช้ผีช่วยหาแบบนี้ ถือว่าโกงไหมนะ)




    .

    .

    .

     

    "พี่ชายเป็นคนแปลกจัง" เด็กผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของยูคยอมพูดขึ้น ในขณะที่ทั้งสองกำลัง

    เดินฝ่าดงหิมะที่สูงถึงเข่าเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ใกล้โรงอาหาร ด้านหลังโรงเรียน






    ยูคยอมเลิกคิ้วแล้วยิ้มให้เด็กน้อยพร้อมเอียงคอเป็นเชิงถาม ถึงเหตุผล





    "ภายในหัวใจของพี่ เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ประดุจคริสตัลใส  ไม่มีความคิดไม่ดี  ไม่มีความ

    เกลียดชัง  มีแต่ความรักความห่วงใยผู้อื่น หาได้ยากในมนุษย์ปัจจุบัน
    " มากิหันมองดูยูคยอมด้วย

    ความชื่นชมด้วยดวงตาเป็นประกาย






    ยูคยอม งง ว่าภาษาญี่ปุ่นของตัวเองยังไม่ดีหรือป่าว ถึงได้ยินเด็กน้อยพูดเรื่องยากๆได้ แต่ก็ไม่

    คิดอะไร เอามือลูบศีรษะมากิเป็นการชื่นชม






    ยูคยอมส่องไฟฉายเข้าไปในหอประชุมร้าง  ฝุ่นกระจายขึ้นฟุ้ง ตลอดเวลาที่เขาก้าวเดิน จนต้อง

    เอาชายผ้าพันคอที่พันให้มากิ มาปิดปากกับจมูกตัวเองนิดหนึ่ง ขณะเดินสำรวจไปรอบๆ






    "ชิโร่ ที่น้องมากิตามหา นี่หน้าตาเป็นยังไงไหนเหรอครับ?" ยูคยอมสาดไฟไปทั่วห้อง นอกจาก

    ฝุ่นที่หนาเป็นคืบ ใยแมงมุมรอบๆ โต๊ะเก้าอี้ระเกะระกะ ถูกทิ้งแล้ว โชคยังเข้าข้างเขาที่เจอไฟ

    กระพริบสีแดงแวบๆ ไม่ไกลนัก






    กระป๋องใส่ชื่อบัดดี้ วางอยู่บนโพเดี้ยม (แท่นที่ทำไว้สำหรับวางไมค์เวลายืนปราศัยบนเวที) บน

    เวที ในห้องประชุม ทำให้ยูคยอม ดีใจมาก อุ้มมากิแน่นขึ้น กระโดดหมุนไปหมุนมา ก่อนจะวิ่ง

    ลัล ลา ขึ้นเวทีไปหยิบของที่ต้องการ






    "ไม่มีแผนที่ก็หาเจอได้ โชคดีจัง" ยูคยอมยิ้มแย้ม  หน้าบาน อย่างอารมณ์ดี แล้วเก็บกระป๋องใส่

    ชื่อบัดดี้ที่ได้มาใส่ในกระเป่าเสื้อโค๊ทกันหนาวของเขา






    "มันคืออะไรเหรอคะ?" เด็กน้อยทำหน้าสงสัยกระป๋องที่ยูคยอมเก็บเข้ากระเป๋าไปเมื่อกี้





    "มันคือกระป๋องใส่ชื่อเพื่อนหน่ะ มันเป็นเกมที่พวกพี่เล่นกัน คือตามหาประป๋องที่ซ่อนไว้ที่นี่ พวก

    พี่ๆ มากัน 7 คน ไม่ใช่คนน่าสงสัยหรือเป็นคนไม่ดีนะ พอรวบรวมได้ครบเดี๋ยวพวกพี่ก็จะไปกัน

    แล้ว
    " ยูคยอมบิดตัวไปมา แสดงท่าทางมีความสุขจนออกนอกหน้า






    ขณะที่ยูคยอมกำลังดีใจ กึ่งวิ่งกึ่งกระโดดอยู่บนเวทีนั้น  พื้นเวทีที่เป็นไม้เก่าผุ ก็แตกทะลุ ทำให้

    ร่างหมียักษ์ร่วงลงสู่เบื้องล่าง ลึกลงไปใต้ดิน




    .

    .

    .

     


    มาร์คลืมตาขึ้นมาเพราะโดนแสงสว่างส่อง  และมีความรู้สึกเจ็บๆที่เปลือกตา





    ชายวัยกลางคนหลังค่อมใส่แว่น สวมเสื้อกาวน์ยาวสีขาว กำลัง เอามือแหกเปลือกตามาร์ค แล้ว

    เอาไฟฉายส่องตาเพื่อดูการหดขยายของรูม่านตาของเขา






    มาร์คถูกพันธนาการในท่านอน อยู่บนเตียงสแตนเลส มีเข็มขัดหนังขนาดใหญ่รัดตัวตั้งแต่ คอ

    หน้าอก สะโพก เข่า และข้อเท้า แขนซ้ายขวาถูกกุญแจมือล๊อก แยกออกมา และมีการต่อ แทง

    สายน้ำเกลือเข้าทางแขนซ้ายขวาอีกหลายเส้น






    รอบๆห้องเหมือน แล๊ปทดลองอะไรสักอย่าง มีบีกเกอร์ หลอดทดลอง ฟลาก คอนเดนเซอร์

    บรรจุน้ำยาหลากสีเต็มไปหมด มีไอน้ำ และควันพวยพุ่ง ตลอดเวลา ไกลออกไปมีแคปซูลแก้ว

    หลายขนาดบรรจุร่างทดลอง ทั้งมนุษย์ หลายช่วงอายุ มีทั้ง ทารก เด็ก ผู้ใหญ่ รวมถึง สัตว์ เล็ก

    ใหญ่ แปลกประหลาด น่ากลัว ปนน่าขยะแขยง เรียงรายรอบห้อง และด้านในสุดมีแคปซูลเรือง

    แสง บรรจุ เอมบริโอ (
    embryo - ตัวอ่อนของมนุษย์) ฝาแฝด รูปร่างเหมือนตัวอ่อนระยะ 6

    สัปดาห์ หัวโต กระดูกสันหลังยังฟอร์มตัวไม่เรียบร้อยยาวออกมาเหมือนหาง แต่ขนาดของตัว

    ใหญ่กว่าตัวอ่อนปรกติ น่าจะเท่าทารกแรกคลอดได้ซ้ำ มีสายสะดือโยงติดกัน มันขยับดุ๊กดิ๊กได้

    และลอยอยู่ในของเหลวบางอย่าง






    มาร์คพยายามดิ้น ขยับร่างกายและแขนขา  แต่ไม่เป็นผล เขารู้สึกผะอืดผะอมจนจะอาเจียนที่

    โดนฉีดอะไรไม่รู้เข้ามาในร่างกาย






    ตาลุง นักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์ ถอยห่างจากร่างมาร์คออกมานิดหนึ่งก่อนที่จะมองเขาด้วย

    หางตา แล้วเดินไปกด คอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกข้อมูลบางอย่าง






    "ปล่อยผมนะ!! ปล่อย!! ปล่อยสิโว๊ยยย ไอ้ X XXX @#$%^&)*_()^%$# " มาร์คทั้งดิ้น  ทั้ง

    โวยวาย ทั้งตะโกนด่า จนข้อมือ ที่โดนล๊อก ถูกกุญแจมือบาดเลือดไหล บริเวณคอก็เสียดสีกับ

    เข็มขัดหนังจนเป็นรอยแดง

     







    "โครมมมม!! ตูมมมม!!! ครืนนนนน!!" อยู่ๆเพดานของห้อง Labทดลอง ก็พังครืนลงมา เศษ ไม้

    หิน และปูนตกกระจายโดนเครื่องแก้ว และ แคปซูลใส่ร่างทดลอง ในห้อง
    Lab เบื้องล่างแตกไป

    บางส่วน






    ยูคยอม ตะกายออกมาจากซากปรักหักพังนั่น อย่างสะบักสะบอม ตามศีรษะและลำตัวเปื้อนเศษ

    ฝุ่น ปูน หน้าและคางมีรอยโดนไม้ขูด และมือก็มีเลือดออกนิดหน่อย






    "มากิ มากิ เป็นอะไรไหม ?" ยูคยอมยังเรียกและมองหาเด็กน้อยที่เมื่อกี้ยังอยู่ในอ้อมแขนหลัดๆ

    ด้วยความเป็นห่วง ซึ่งตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงา






    และเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อมองไปกลางห้อง เห็นเตียงที่มีโคมไฟผ่าตัดอยู่ด้านบนส่องสว่าง มี

    ร่างของมาร์คกำลังดิ้นอยู่บนนั้นโดยมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง






    "มาร์คฮยอง!!!" ยูคยอมตะโกนลั่น ก่อนจะวิ่งเข้าไปหามาร์คโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ





    มาร์คทำหน้าตกใจ แล้วตะโกนอะไรออกมาแต่ยูคยอมได้ยินไม่ถนัด จนเมื่อเขาเข้าจะถึงเตียง

    ของมาร์คอยู่แล้วถึงได้ยิน





    "ระวังข้างหลังนาย ยูคยอม!!" เสียงมาร์ค คำนั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่ยูคยอมได้ยินก่อนจะหมดสติ

    ไป

     



    .

    .

    .


    แจบอมเก็บกระป๋องใส่ชื่อบัดดี้ได้จากสนามเด็กเล่นด้านหลังอาคารเรียนโดยไม่เจออะไรแปลกๆ

    ก่อนที่จะย้อนขึ้นไปบนอาคารรูปตัว แอล ที่อยู่ใกล้ๆ






    ที่ชั้นสองตรงมุมรูปตัว L ของอาคารเรียน มีเสียงเปียโนแว่วมาให้ได้ยิน ทำให้เขาเดินตามเสียง

    และหาห้องได้ไม่ยากนัก






    แจบอมส่องไฟไปตามทางเดิน จนถึงหน้าห้อง ที่มีเสียงเพลงดังออกมา และเขาต้องพบกับ...





    แจ๊กสัน และยองแจ ที่ผลัดกันดันหลังเกี่ยงกันเข้าไปเอากระป๋องไฟแดงแวบๆในห้อง ด้วย

    ท่าทางที่ดู ตลกในสายตาเขา






    เล่าไปก็ไม่มีใครเชื่อ ว่าสองคนนี้เพิ่งผ่านฝูงซอมบี้โหด เป็นร้อยหยกๆ กลับมากลัวเสียงเปียโนที่

    ดังขึ้น ในห้องดนตรีที่ไม่เห็นมีคนเล่นแบบนี้






    ดูซิ แจบอมเดินเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ทั้งสองคนยังไม่หันมาสนใจ





    "ปัง!!" แจบอมแกล้งยิงปืนขึ้นบนฟ้า (เพดาน) ทั้งสองจึงหันปืนมาเล็งทางเขาตามสัญชาตญาณ





    เป็นไปตามคาด แจ๊กสันและยองแจรีบวิ่งมาหลบหลังแจบอมเมื่อเห็นหน้ากันชัดๆ





    "ผมยิงปืนเข้าไปเท่าไหร่ เจ้าแท่นวางโน๊ทนั่นก็ยังลอยไปลอยมา ไม่หยุด"แจ๊กสันดันหลังแจบอม

    ให้เดินเข้าไปในห้องแทนเขา โดนมียองแจเป็นกองหนุน ช่วยผลักอีกแรง






    "ฮยอง ช่วยทำอะไรหน่อยนะ กระป๋องนั่น อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว นะครับ" ยองแจ เบือนหน้า

    ออกแล้วหลับตาปี๋ แต่มือยังออกแรงดันส่งแจบอมไปข้างหน้า






    สมุดโน้ตดนตรี แท่นวางโน้ต ไมโครโฟน ไวโอลิน และคันชัก แซ๊กโซโฟน กีตาร์ และลูกแซก

    ลอยอยู่ในอากาศ เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นเคลื่อนไหวตามจังหวะเปียโน มีเสียงก๊องแก๊งออกมาบ้าง

    และทำให้ฝุ่นคลุ้งไปทั่วห้อง






    "แปะ แปะ แปะ" แจบอมก้าวเข้าไปในห้องพร้อมปรบมือ  หลังจากเสียงเพลงหยุดลง





    "เป็นคอนเสริตที่ดีมากนะครับ แต่ผมขอขัดจังหวะนิด พอดีผมมาเอาเจ้าสิ่งนี้" แจบอมเอื้อมมือไป

    หยิบกระป๋องติดไฟแดงแวปๆ พร้อมกับส่องไฟฉายไปรอบๆห้องด้วยความระมัดระวัง เจ้าเครื่อง

    ดนตรีทั้งหลายยังลอยอยู่ในอากาศ






    พอได้ของที่ต้องการ แจบอมหันหลังแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง แต่ เจ้าแท่นวางโน้ตดนตรีเหล็กสูง

    เมตรกว่าดันลอยไปขวางประตู โดยมีเครื่องดนตรีอื่นๆพุ่งเข้าโจมตีเขา






    แจบอมวิ่งหลบคันชักไวโอลินที่พุ่งเข้าใส่ประดุจลูกกระสุน ตามด้วยไมโครโฟนที่ลอยเฉี่ยวศีรษะ

    ไปนิดเดียว






    "ปัง!!" แจบอมยิงปืนไปที่เปียโน โดนสายเปียโนขาดไป2-3 เส้น แล้วตะโกนด้วยเสียงทุ้ม มี

    อำนาจ






    "ถ้าคุณไม่ให้ผมไปดีๆ ผมจะทำลายเปียโนนั่น แล้ววันหลังพวกคุณจะไม่ได้มาจัดคอนเสริตกัน

    แบบนี้อีกนะ จะดีเหรอครับ
    " เท่านั้นหล่ะหลังจากแจบอมพูดจบ ประตูก็เปิดให้เขาเดินออกมา

    สบายๆทันที






    "ขอบคุณมาก ถ้ามีโอกาส ผมจะส่งช่างมาซ่อมให้นะครับ" แจบอมพูดกับความว่างป่าวในห้อง

    ดนตรี ก่อนจะพาแจ๊กสัน และยองแจเดินออกจากอาคารไป






    "กระป๋องนี้ของใคร?" แจบอมหันมาถาม แจ๊กสันกับยองแจ




    "ถ้าฮยองได้แล้ว  ก็ของผม" แจ๊กสันยิ้มรับกระป๋องไป ใส่กระเป๋าเป้ที่เขาสะพายไว้




     

    .

    .

    .


    ด้านจินยองก็เก็บกระป๋องจากกลางสนามฟุตบอลได้โดยไม่มีอุปสรรคอะไรนอกจากหิมะที่หนา

    หน่อย ต้องลงมือขุดคุ้ยอยู่พักหนึ่ง เขาเก็บกระป๋องเข้ากระเป๋าเสื้อกันหนาวขนสัตว์ ก่อนจะเดิน

    ไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่หลังสนามฟุตบอลเพื่อเก็บกระป๋องอันต่อไป






    จินยองปีนรั้วเพื่อกระโดดเข้าไปยังสระว่ายน้ำกลางแจ้ง หิมะที่ยังไม่หยุดตก ค่อยๆพรากความ

    รู้สึกไปจากใบหน้าและปลายนิ้วของเขาเพราะความเย็นจนชาและไม่รู้สึกอะไรแล้ว ลมหายใจที่

    พ่นออกมาก็กลายเป็นควันอย่างรวดเร็ว






    ตามตำแหน่งในแผนที่แล้ว กระป๋องอันถัดไปน่าจะอยู่กลางสระพอดี  มันจะมีน้ำเหลืออยู่ในสระ

    ว่ายน้ำไหมนะ จินยองเดินไปคิดไปด้วยความสงสัย และในไม่ช้าเขาก็ได้เห็นกับตาตนเอง






    จินยองส่องไฟไปกลางสระ  ตอนนี้น้ำในสระจับตัวกันเป็นพื้นน้ำแข็ง แต่ไม่แน่ใจว่าจะหนาพอรับ

    น้ำหนักคนเดินได้ไหม  แสงสีแดงจากกระป๋องกระพริบแวปๆให้เห็นไกลๆ  แต่ภาพที่เห็นทำให้

    หัวใจจินยองกระตุกจนแทบหยุดเต้น






    "แบมแบม!!" แบมแบมกำลังถือกระป๋องใบนั้น ในท่านอนหงายแผ่ เหมือนหลับไปแต่อยู่ใต้พื้นน้ำ

    แข็งของสระว่ายน้ำ  ไปอยู่อย่างนั้นได้ยังไง และอยู่แบบนั้นมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย !!??








    ..................


    ทีแรกว่าจะเฉลยบัดดี้ตอนนี้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเขียนยิ่งไปไกล (ยาว)  กำลังจะกลับเข้าฝั่งไวๆนี้ ขออภัยที่มาลงล่าช้านะคะ อย่างอลเลยน๊า รักนะจุฟๆ คู่บัดดี้ไม่เหมือนใน real s2 น๊า เพราะมี สตอรี่อื่นด้วย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×