ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #33 : 6 เปิดตา เปิดใจ 1/6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.01K
      1
      2 ก.พ. 65



    “สนุกมากเลยใช่ไหมคะ” มานิลาบอกเป็นน้ำเสียงโทนเดียวขณะทอดมองไปยังคนหลังพวงมาลัยที่ยังไม่เลิกฮัมเพลง

    เสียงของเธอช่างหวาน แต่กลับราบเรียบจนฟังไม่รื่นหูเท่าไรนัก เหนือสิ่งอื่นใดคือมันเป็นเสียงที่มีอิทธิพลมากถึงขั้นทำให้ธตรัฐต้องกดปิดเพลงแล้วเบี่ยงรถเข้าข้างทาง ชายหนุ่มมาสำนึกได้ว่าไม่ควรเปิดเพลงล้อเธอก็ตอนที่สายไปเสียแล้ว

    “ผมขอโทษ”

    “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ แต่คุณบอมส่งแค่นี้ก็พอ เดี๋ยวหนูนั่งรถเมล์ต่อเองค่ะ” หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัย ก่อนวางนิ้วตรงปุ่มปลดล็อกประตู แต่ไม่สามารถปลดล็อกมันได้

    “คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ธตรัฐคว้าข้อมือเรียวไว้ โชคยังดีที่ก่อนหน้านี้เขาตั้งระบบล็อกรถทั้งคัน ไม่เช่นนั้นตอนนี้มานิลาอาจพุ่งออกจากรถไปแล้วก็เป็นได้

    “อย่าแกล้งกันอีกเลยค่ะ หนูขอร้อง”

    ดวงตาที่มีเกล็ดน้ำแวววาวเคลือบอยู่มองราวตัดพ้อ แต่เธอกลับไม่หลั่งน้ำตาออกมาอย่างที่เขาคาดเดา คนมองเจ็บจี๊ด ๆ ที่อกข้างซ้าย มานิลาอ่อนไหวกว่าที่คิด ในขณะเดียวกันก็เข้มแข็งเกินกว่าจะหยั่งถึง คราวนี้เขาคงเล่นแรงไปแล้วจริง ๆ สาบานเลยว่าจะไม่ร้อง ไม่ฟังเพลงนี้อีกแล้ว...ในเดือนนี้

    “ผมขอโทษ ขอโทษทั้งเรื่องเมื่อวานและก็เรื่องวันนี้ด้วย”

    คำขอโทษนั้นไม่ได้ทำให้มานิลารู้สึกดีขึ้นมาได้เลยสักนิด หากคนเราพูดขอโทษแล้วคนฟังหายโกรธทันที คำว่าขอโทษคงเป็นคำที่ไร้ค่า หญิงสาวบิดข้อมือตัวเองให้หลุดจากมือแกร่งด้วยท่าทีที่คิดว่าละม่อมที่สุด ก่อนวางมือตรงหน้าขาแล้วมองมันนิ่งอยู่อย่างนั้น เธอไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่แม้แต่อยากได้ยินเสียง เพราะทุก ๆ อย่างที่เป็นเขาทำให้รู้สึกว่าทั้งร่างเหมือนถูกมือขนาดใหญ่บีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ แน่นจนหายใจไม่ออก

    “มะลิ...” ธตรัฐหาคำพูดตัวเองแทบไม่เจอ ที่เปล่งออกมาได้เห็นจะมีก็แต่ชื่อเล่นของเธอเท่านั้น

    มานิลาสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วแข็งใจบอก

    “ช่วยปลดล็อกรถให้หนูด้วยค่ะ”

    “ผมไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่ให้ผมไปส่งคุณเถอะ นะ...”

    หญิงสาวยังคงนั่งนิ่ง ไม่ตอบรับแต่ไม่ได้ปฏิเสธ นั่นทำให้คนรอคำอนุญาตคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วเต็ม ๆ เขาโน้มตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้มานิลาทันที เจ้าตัวออกอาการขัดขืนแต่แรงมดเช่นเธอหรือจะสู้แรงช้างเช่นเขาได้

    มานิลาเงียบมาตลอดทางจนกระทั่งถึงอะพาร์ตเมนต์ ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุของความเงียบก็พลอยเงียบไปด้วย เพราะรู้ดีว่าหากพูดอะไรไม่เข้าหูระหว่างทาง เขาต้องถูกโกรธมากกว่าเดิมเป็นแน่ การเงียบจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หญิงสาวประนมมือขึ้นขอบคุณ จากนั้นจึงลงจากรถโดยไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ

    “เดี๋ยวก่อนมะลิ”

    “คะ ?”

    นับเป็นคำแรกที่มานิลาพูดหลังจากที่เงียบไปนาน แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้คนฟังใจชื้น ทว่าก็ไม่ได้มากนักเพราะดวงตาหม่นเศร้าคู่ที่เขาจำได้ขึ้นใจตั้งแต่แรกเห็นบัดนี้ดูเศร้ายิ่งกว่าเดิม

    “วันนี้คุณไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารหรือเปล่า”

    “ค่ะ”

    “ผมมีธุระแถวนั้นพอดี ไปด้วยกันสิ” ถามออกไปก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ อยากได้ยินคำว่า ค่ะหรืออะไรก็ได้ที่เป็นการตกลง

    “ขอบคุณมากนะคะ”

    ธตรัฐแทบกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ แต่กลับต้องผิดหวังกับประโยคถัดมา

    “แต่ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปเองได้” หญิงสาวบอกแล้วสาวเท้าลงจากรถทันทีโดยไม่รอให้คนที่มาส่งได้พูดอะไรต่อ

    มานิลาใกล้จะเดินถึงประตูทางเข้าอะพาร์ตเมนต์อยู่แล้วเชียว ทว่าเสียงทุ้มที่เกิดจากการตะโกนฝ่าอากาศกลับทำให้เท้าเรียวชะงัก

    “ผมจะรออยู่ตรงนี้ ไม่ว่ากี่โมงก็จะรอ”

    หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ ก่อนหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายหลังใบเก่งออกมาเปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปด้านในโดยไม่สนใจคนที่อยู่บนรถอีก อยากรอก็รอไป เธอไม่สนใจเสียอย่าง ใครจะทำอะไรได้

     

    หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนอย่างคนหมดแรง สายตาอ่อนแสงมองนาฬิกาตั้งโต๊ะจึงรู้ว่าเหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงนิด ๆ ที่เธอจะใช้ห้องสี่เหลี่ยมขนาดยี่สิบกว่าตารางเมตรนี้เป็นแห่งหลบภัย แม้ความคิดฝ่ายหนึ่งบอกว่าเขาคงไม่อยู่รอจนถึงตอนนั้น แต่ความคิดอีกฝ่ายกลับตะโกนบอกเธอดัง ๆ ว่าคนอย่างธตรัฐไม่มีทางยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ

    การที่เขาบอกกึ่งบังคับให้เธอเลิกสอนพิเศษธริษตรีนั่นละยืนยันได้ดี

    เรื่องโชคดีของวันนี้เห็นจะมีอยู่เรื่องเดียวคือพลอยพิมพ์อาสาดูเด็ก ๆ ในห้องปฏิบัติการให้ เมื่อรุ่นพี่สาวขันอาสา พี่เลี้ยงหิ่งห้อยจึงไม่ต้องพาร่างที่ เกือบจะแหลกปั่นจักรยานเข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อจัดการกับงานของตัวเอง เคลียร์เรื่องเรียนไปได้หนึ่งอย่างแล้ว แต่ทำไมเรื่องอื่นถึงยังเข้ามารบกวนจิตใจของเธอตลอดเวลาแบบนี้

    มานิลาค่อย ๆ เอนตัวลงนอนตะแคงกับฟูกนอน อาการอ่อนเพลียจากการนอนน้อยไม่ได้ดูดพลังเธอไปได้มากเท่ากับการต้องเผชิญหน้ากับธตรัฐเช่นที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

    หญิงสาวเริ่มคิดถึงวันแรกที่เจอเขา คิดไล่มาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ผล็อยหลับโดยไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า มานิลาบิดตัวไล่ความขี้เกียจ ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ไม่นานจึงออกมาด้วยสีหน้าที่สดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก อาจเป็นเพราะได้สายน้ำพัดพาเอาความเครียดบางส่วนออกไปจากสมองและจากใจ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×