ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักพลทหาร Private Supermodel and the Love Commander

    ลำดับตอนที่ #72 : ตอนที่ 70 What a Surprise!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 109
      0
      3 มิ.ย. 57

    ตอนที่ 70 What a Surprise!

     

    "เฟิร์ส บีบครีมให้หน่อย" ฉันหันไปบอกคนข้างตัวที่ยืนเงอะง่ะ ทำหน้าเบื่อโลก เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา

     

    "ทำไง? บีบเป็นแต่นม" แต่เมื่อฉันหันไปส่งที่บีบครีมให้ เฟิร์สกลับพร้อมสวนมาอย่างหน้าตาเฉย พร้อมมองต่ำลงจากใบหน้าฉัน...

     

    "ทะลึ่ง" ฉันรีบพูดเอามือข้างนึงปิดหน้าอกและง้างมืออีกข้างเตรียมเผ่นกระบาล

     

    "ใจเย็นดิ หมายถึงนมนั้น ไม่ใช่นมเธอ" เฟิร์สพูดขำๆ แล้วเพยิดหน้าผ่านตัวฉันไปที่กล่องนมบนโต๊ะ

     

    "แล้วไป"

     

    "นี่เธอ ทำไมต้องตั้งใจขนาดนี้ด้วยอ่ะ ซื้อเอาไม่ได้หรอก" เฟิร์สทักขึ้นมาเมื่อช่วยฉันทำไปได้สักพัก ดูหมอนี่ก็ทำท่าตะลึ่งไปซะทุกอย่างเมื่อเห็นฉันตั้งหน้าตั้งตาทำโน้นทำทุกอย่างอย่างขะมักเขม้น

     

    "นั้นสินะ" ฉันแค่นเสียงหัวเราะออกมานิดๆ อดขำตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

     

    "เออดิ เสียเวลาจัง แถมมาทำบ้านคนอื่นเขารกหมดแล้ว" เฟิร์สบ่นเซ็งๆ และมองไปรอบห้องครัวเล็กๆ ของบ้านจ่าเฉย ที่เต็มไปด้วยข้าวของของฉันเต็มไปหมด

     

    "ฉันหมายถึง นั้นสินะ ทำฉันต้องทำแบบนี้ด้วย" ฉันพูดแล้วรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าของใครบางคน

     

    "คงเพราะหมอนั้นไม่เหมือนใครล่ะมั้ง ฉันหมายถึงพี่นายอ่ะ" ฉันหันไปมองหน้าเฟิร์สอีกครั้ง และก็ไม่แปลกใจที่ใบหน้าหล่อๆ นั้นเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย

     

    "ยังไง"

     

    "ไม่รู้สิ ทั้งชีวิต ฉันไม่เคยเปิดรับใคร เคยคิดว่าความรักไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่พอเจอเขา ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไป สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ได้รู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึก กล้าทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ บางทีฉันรู้สึกเหมือนว่าเวลาอยู่กับเขาฉันได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ"

     

    "แล้วมันเกี่ยวกับการมานั่งทำเค้กยังไง"

     

    "บอกไป นายไม่เข้าใจหรอก นอกจากพ่อ นอกจากพี่ชายฉัน ฉันไม่เคยมานั่งทำอะไรแบบนี้หรอกนะ" ฉันเลิกอธิบายและหันกลับมาเอาครีมบาดลงบนเค้กที่ทำเสร็จแล้ว หากแต่มีคำพูดบางอย่างของเฟิร์สทำเอาฉันหยุกชะงัก

     

    "อันนี้ไม่ได้จะว่าอะไรนะ แต่เธอคิดว่าที่บ้านพี่ตั้มเขาจะโอเคหรอ"

     

    "ไหนจะสังคม คนรอบข้างเขาอีก" เฟิร์สค่อยๆ พูดต่อ มันคงเป็นเรื่องที่ฉันไม่ทันคิด หรือไม่กล้าจะคิดเลยด้วยซ้ำ ว่าถ้าหากออกไปนอกค่ายนี้ เจอกับสายตาของคนรอบข้าง ทุกอย่างจะยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ไหม

     

    "แต่ถามเฉยๆ นะ ไม่ต้องทำหน้าเป็นหมาขี้หักในแบบนั้นหรอก" เฟิร์สรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันนิ่งไป

     

    "อะไรที่ยังไม่เกิด ก็อย่าเพิ่งไปคิดถึงมันเลย เอาเป็นแค่ตอนนี้ฉันมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว" ฉันถอนหายใจออกมานิดๆ ไม่ได้คิดจะหนีปัญหา แต่ขอเพียงอยู่กับปัจจุบันก่อนได้ไหม

     

    "แต่ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่เขาไม่เลือกฉัน ฉันก็พร้อมจะไป จะไม่ยื้อ แมนม่ะ" ฉันยักคิ้วนิดๆ ให้หนุ่มหล่อครงหน้า ซึ่งดูเหมือนจะเรียกบรรยากาศดีๆ ให้กลับสู่ห้องครัวนี้อีกครั้ง

     

    "แมนม๊ากกกก" เฟิร์สพูดเสียงยานคาง พร้อมเอามือที่เลอะครีมมาจิ้มจมูกฉันที่เชิดใส่หน้าเขาอยู่

     

    "นี่ เลอะหมดแล้ว แกล้งหรอ" ฉันโวยวายและเบี่ยงตัวหนี แต่ในขณะเดี๋ยวกันก็รีบจิ้มครีมในมือป้ายอีกฝ่ายกลับเป็นการตอบโต้

     

    "เธอมันน่าหมั้นไส้ว่ะ เห้ย เธอ หยุดนะ เดี๋ยวไม่เสร็จกันพอดี" เฟิร์สโวยวายบ้างเมื่อเห็นฉันตอบโต้ เสียงหัวเราะของเราทั้งคู่ดังขึ้นไปพร้อมๆ กันกับเค้กรสกาแฟที่ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง ฉันหวังว่าตาผู้หมวดนั้นจะสัมผัสใด้นะว่าทั้งฉันและน้องชายเขาตั้งใจช่วยกันทำมากแค่ไหน

     

    "เสร็จสักที เห้ออออ" เฟิร์สชูมือดีใจเป็นเด็กๆ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    "ยัง" ฉันพูดขัดขึ้นทันที เรียกเครื่องหมายคำถามปรากฏบนหน้าอีกฝ่ายทันที

     

    "ยังอีกหรอ ขาดอะไรอ่ะ นี่ก็น่ากินล่ะนะ" ฉันไม่ใส่ใจเสียงบ่นของอีกฝ่าย แต่หันไปหาอุปกรณ์บางอย่างแทน โดยที่แอบคิดในใจกะอีแค่นี้ทำบ่น ทีเตะบอลกันเหงื่อท่วมกลางแดดเปรี้ยงๆ เล่นได้ เมื่อเจอของที่ต้องการ ฉันก็หันกลับมาเจอเฟิร์สกำลังจะแอบเอานิ้วจิ้มเค้กพอดี

     

    "นี่แนะ ห้ามนะ" ฉันรีบตีมือเฟิร์ส และยกเค้กออกมาให้ห่างมือหัวขโมยที่กำลังทำหน้าบึ้ง ก่อนจะบีบครีมสีชมพูสำหรับเขียนหน้าเค้ก เฟิร์สพยายามมอง แต่ฉันเอาตัวบังไว้ ...ยังไม่ถึงเวลานะสุดหล่อ อิอิ

     

    "ที่ยังไม่เสร็จก็เพราะขาดสิ่งนี้ไงล่ะ" ฉันหันไปทำหน้าภูมิใจนำเสนอ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากก็แค่....

     

    "หัวใจ? แค่เนี้ยะ" เฟิร์สพูดแล้วขมวดคิ้วงงๆ กับลายที่เห็นบนหน้าเค้ก

     

    "แต่แค่นี้มันก็คือทั้งหมดที่ฉันมีแล้วนะ" ฉันยิ้มตอบอย่างจริงใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากน้องชายเจ้าของหัวใจคือ...

     

    "อ้วกว่ะ" เฟิร์สบึนปากทำท่าคะอึดพะอม

     

    "จริง พูดเองยังเลี่ยนเองเลยอ่ะ" ฉันเองก็หัวเราะออกมา พูดอะไรไปว่ะเนี่ย โครตจะน้ำเน่า

     

    "งั้นโทรให้พี่อิฐมารับเลยนะ เธอจะไปอาบน้ำรอใช่ไหม"

     

    "อือ" ฉันพยักหน้าตอบเฟิร์สที่กดมือถือหาคู่หู่หมอนั้น

     

    ส่วนฉันนะหรอก็ไม่ลืมขอบคุณจ่าหรอกนะ กลับบ้านคราวนี้ต้องหาอะไรกลับมาฝากแกบ้างแล้วล่ะ

     

    "โชคดีนะ ฝากแฮปปี้เบิร์ธเดย์พี่ตั้มด้วยนะพี่" เฟิร์สบอกกับคุณอิฐที่ขับรถมารับ แน่นอนว่าหมวดไม่รู้แน่นอน

     

    "ขอบใจนะ" ฉันหันไปบอกผู้ช่วยเชฟจำเป็น และโบกมือลา จริงๆ หมอนี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันแหะ แม้จะดูนักเลงไปหน่อย แต่ก็ดูแล้วน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีอีกคนเลย

     

    "ทุ่มทุนมากเลยนะเนี่ย" คุณอิฐหันมามองฉันและของในมือ...แค่นี้เอง ทุ่มทุนอะไรกัน ก็แค่ทำเค้กให้ กลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัว เลือกชุดที่พอดูได้ แต่งหน้านิดๆ แค่นั้นเอ๊ง อิอิ

     

    "แล้วพรุ่งนี้คุณภัทรกลับไงครับ"

     

    "คงให้วิวมารับแหละค่ะ"

     

    "หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ อย่าหนีไปซะก่อนล่ะ เดี๋ยวมีเข้าป่าด้วยนะครับ อย่างคุณภัทรจะไหวไหมน้าาาา" คุณอิฐหันมาพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนลองเชิง จะขู่ก็ไม่ปาน ออกแนวท่าทายซะมากกว่า

     

    "โหย คุณอิฐพูดงี้ได้ไง ภัทรไม่หนีให้เสียชื่อพ่อหรอก ภัทรต้องกลับมาฝึกต่อให้จบแน่นอน" ฉันหันมาตอบอย่างมุ่งมั่น เริ่มแล้วก็ต้องลุยต่อให้จบสิ ภัทรียาซะอย่าง

     

    "เยี่ยม" คุณอิฐหันมาชูนิ้วโป้งให้....อะไรก็มาเถอะ ฉันรับไหว

     

    "คุณภัทรเข้าไปก่อนนะ ห้องจองไว้อยู่หัวมุมด้านใน ถ้าหาไม่เจอก็ลองถามเด็กเสิร์ฟดู ผมจองชื่งตั้มไว้เดี๋ยวผมเอารถไปจอดก่อน ยังไม่มีใครมา ตั้มมันอยู่กับเจน ผมบอกเจนให้แกล้งไปเข้าห้องน้ำล่ะ จะได้ไม่เป็น กขค" คุณอิฐลดกระจกลงมาบอก ก่อนจะขับไปจอดรถ ...นอกจากรู้มาก แล้วยังรู้งานด้วยแหะ

     

    "คุณตั้มที่จองไว้ค่ะ" ฉันเดินเข้าไปบอกน้องพนักงานตอนรับ ที่พาเดินนำไปห้องในสุด ดูจากร้าน และถึงขนาดต้องจองห้องส่วนตัวแบบนี้ แอบรู้สึกดีใจที่ไม่เสร่อใส่ชุดฝึกทหารออกมา

     

    บางครั้งฉันก็ลืมนึกไปว่าหมอนี่ก็มีมุมไฮโซเหมือนกัน เห็นตัวดำคล้ำแดด สมบุกสมบันแบบนี้ แต่แค่วันเกิดยังหาร้านหรูใช้ได้เลยแหะ

     

    พอมาถึงหน้าห้อง น้องพนักงานก็เดินแยกไป แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเปิดประตูเข้าไป ก็มีเสียงดังออกมา...ไหนคุณอิฐบอกยังไม่มีใครมาไง

     

    "ทุเรศว่ะ ไอ้เหี้ยนี่ เอาอะไรมาให้กูเนี่ย" เนื่องจากประตูแง้มไว้ทำให้ฉันเห็น จำของวันเกิดที่แกะกล่องของขวัญหันไปโวยเพื่อนที่กำลังหัวเราะร่ากันอยู่

     

    "ของขวัญวันเกิดไง เห็นคนพูดกันมึงแอบซุกแฟนในค่าย ฝากไปให้ทั้งมึงและคนนั้นด้วยเลย" หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเขาพูดขึ้นมา...แฟนหรอ หมายถึงฉันรึเปล่า?

     

    "แฟนเฟินอะไรกูโสดครับ ขอโทษ แล้วนี่อะไรของมึงเนี่ย เกี่ยวไรว่ะ" เสียงของหมวดทำเอาฉันจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เขาพูดไม่ผิดนิ ถูกแล้วที่เขาโสด ก็เรา...ไม่ได้เป็นอะไรกัน

     

    "ทำเป็นไก๋นะมึง อย่ามาเฉไฉหน่อยเลย ไอ้อิฐยังบอกเลย มึงแอบกิ๊กกะพลทหาร ชอบแบบนี้ก็ไม่บอกนะหมวดตั้ม กิ๊วๆ" เพื่อนอีกคนเดินมากอดคอแซว เรียกเสียงขบขันจากคนที่เหลือได้เป็นอย่างดี

     

    "ไม่น่าเดี๋ยวนี้ไม่ควงสาวคนไหนมาให้เพื่อนดู ได้ข่าวล่อลูกนายพลเลยหรอว่ะ แล้วเป็นไง...ดีกว่าผู้หญิงไหม ฮ่าๆ" จากที่สงสัยว่าเพื่อนเขาหมายถึงใคร ตอนนี้มันคงเป็นใครอื่นไม่ได้ ฉันลองมองใบหน้าของหมวดที่เริ่มกระอักกระอ่วน  คำพูดที่ฉันเกลียด สิ่งที่ฉันกลัว มันกำลังเกิดขึ้นใช่ไหม

     

    "คือไอ้พจน์มันอยากลองบ้าง แบ่งบ้างดิว่ะ" กล่องเค้กในมือมันสั่น ฉันรู้สึกได้

     

    "ลองก็เหี้ยล่ะ กูยังชอบผู้หญิงอยู่เว้ย เดี๋ยวเตะปากแตก" หมวดรีบผลักเพื่อนออกแล้วจัดเสื้อดีๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น

     

    "ฮ่าๆ แล้วไป คิดว่ามึงจะเปลี่ยนแนวไปกินอะไรแบบนั้น มีหวังแม่มึงอกแตกตาย คุณหญิงคงหาปี๊ปคลุมหัวแน่ๆ" ฉันกลื่นน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ

     

    "เออ ไม่ต้องห่วง กูไม่ได้ชอบเกย์ กะเทยอะไรทั้งนั้น ฉะนั้นเอาของขวัญมึงคืนไปเลยกูขนลุก" เมื่อสิ้นเสียงที่เหมือนมีดปัดลงบนอก ขอบตาร้อนผ่าว ฉันมองภาพตรงหน้าพร่ามัว ขาก้าวถอยหลัง เพื่อจะไปให้พ้นจากภาพตรงหน้า

     

    "ขอโทษค่ะ พอดีดิฉันไม่ทันมะ...อ้าว คุณภัทร" ฉันชนกลับคุณเจนที่ไม่รู้ว่าเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เสียงคุณเจนดูจะดังพอให้ได้ยินถึงคนที่อยู่ด้านใน ฉันเหลือบไปมองก็เห็นสายตาตกใจของผู้ชายที่เพิ่งฆ่าฉันทั้งเป็นจ้องมาอยู่

     

    "เดี๋ยวก่อนค่ะ ไม่เข้าไปข้างในก่อนหรอ" คุณเจนร้องทักตามหลังเมื่อเห็นฉันรีบเดินออกไป

     

    "จะไปไหนครับ" คุณอิฐแน่ๆ เสียงแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้ฉันมองอะไรไม่ชัดเลย ฉันยังเดินต่อไปเรื่อยๆ แม้จะเริ่มมองทางไม่เห็น น้ำอะไรบางอย่างมันเอ่อล้นเต็มดวงตา ในสมองได้แต่ครุ่นคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้

     

    "คุณๆ หยุดก่อน" เสียงคุ้นเคย เสียงที่เปล่งคำพูดกรีดแทงฉันไปเมื้อกี้ ฉันพยายามปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เพราะมันคงเหมือนทุกครั้งที่เขาต้องคว้าแขนฉันไว้ อย่างน้อยที่สุด...เขาจะต้องไม่เห็นมัน

     

    "ผมบอกให้หยุด" แล้วก็จริง มือใหญ่ของเขาคว้าหมับลงบนแขนฉัน ครั้งนี้แรงบีบมันเจ็บกว่าครั้งไหนๆ ไม่ใช่แค่บนแขน แต่มันเจ็บถึงใจเลยล่ะ เมื่อต้องหันมาเห็นเจ้าของมือนี้

     

    "ไง" ฉันพยายามยิ้มทักทาย พยายามแล้วที่จะยิ้ม พยายามแล้วที่จะทำให้มันปรกติที่สุด

     

    "ไงอะไร คุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วออกมาได้ไง" เขาตวาดขึ้นมา พร้อมสีหน้าจริงจัง แบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาคงโกรธ ใช่ เขาโกรธ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาทำให้เขาอาย ไม่ตั้งใจจะทำให้เขาขายหน้า ฉันลืมนึกไปเลย ลืมนึกว่าตัวเองเป็นอะไร

     

    "พอดีมากับคุณอิฐนะ แต่จะกลับแล้ว แวะเอาของขวัญมาให้ เห็นเคยบอกว่าอยากชิม" ฉันก้มมองกล่องเค้กในมือ ไม่อยากให้เขาเห็นทั้งน้ำตาที่พร้อมจะไหล ทั้งหัวใจบ้าๆ ที่อยู่ในกล่องนี้

     

    "แต่มันคงไม่เหมาะกับที่นี่หรอก ฉันเอากลับไปกินกับบอสดีกว่า" ฉันกระพริบตาถี่ๆ เงยหน้าพูดเองตอบเองเสร็จสรรพ

     

    "ฟังผมก่อน คือผม...."

     

    "นายไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอก...ฉันเข้าใจ" ฉันรีบพูดแทรกหมวดที่เตรียมอธิบาย อย่าพูดอะไรอีกเลย ฉันไม่อยากเสียใจ ไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว

     

    "ไม่ คุณไม่เข้าใจ คุณกำลังเข้าใจผมผิด" จากหนึ่งมือเป็นสองมือที่จับแขนฉันเอาไว้ มืออุ่นที่เคยกอบกุมฉันเอาไว้ ความรู้สึกมากมายที่เคยรู้สึกได้จากอุ้งมือนี้ มันยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นสบตา

     

    ก็ได้ฉันจะฟัง มันคงไม่มีอะไรเจ็บไปกว่าสิ่งที่ได้ยินแล้วล่ะ

     

    "คือว่า..."

     

    "ตั้ม มึงมาทำอะไรตรงนี้ว่ะ มีอะไรวิ่งตาตื่นออกมา" แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เพื่อนกลุ่มเมื่อกี้ก็พากันเดินตามออกมา เมื่อเห็นเพื่อนๆ มา ทำให้เขารีบปล่อยแขนฉันออก คำพูดที่ตั้งใจจะรอฟัง กลับกลืนหายลงคอไป

     

    "ฉันบอกแล้วฉันเข้าใจดี...เข้าใจทุกอย่าง" ถึงตอนนี้ฉันยิ้มออกแล้วล่ะ ยิ้มออกจริงๆ ยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง ยิ้มให้กับความโง่งี่เง่า ความอวดดี และไม่รู้จักเจียมตัว

     

    "สุขสันต์วันเกิดนะ มีความสุขมากๆ ฉันไปก่อนล่ะ" ฉันพูดเร็วๆ ก่อนที่บรรดาเพื่อนเขาจะเดินมากอดคอรั้งตัวไว้

     

    ฉันพยายามวิ่งออกมาจากตรงนั้นไห้เร็วที่สุด วิ่งขึ้นแท็กซี่ที่ไม่รู้ใครเรียกไว้รึเปล่า ในสมองรู้แต่เพียงว่าต้องไปให้พ้นจากที่นี่ ไปให้พ้นจากผู้ชายคนนี้

     

    เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดมันไม่มีจริง มันเป็นแค่ความรู้สึกคิดไปเองของฉันคนเดียว เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่สิ ไม่เคยมีเราเลยต่างหาก

     

    ทันทีที่กลับมาที่ค่ายฉันรีบกลับขึ้นเรือนนอนที่ปิดไฟมืดหมดแล้ว โชคดีที่จะได้ไม่มีใครเห็นร่องรอยบนหน้า จะได้ไม่มีใครถามถึงเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้น เค้กกาแฟกับหัวใจบ้าๆ ที่ฉันโยนมันทิ้งลงถังขยะ

     

    ฉันเปิดตู้ หยิบกระเป๋าที่มีมือถือของฉันกดข้อความส่งออกไป ได้โปรดมาพาฉันออกไปที ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง ภาพทุกอย่างทุกฉายซ้ำขึ้นอีกครั้ง ตั้งแค่วันแรก จนถึงฉากสุดท้ายเมื่อกี้

     

    มันเจ็บ...เจ็บเหลือเกิน นี่หรอความรัก ฉันเอาผ้าห่มคลุมโปง เอามือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยให้น้ำตามันไหลให้พอ แต่ทำไมยิ่งร้อง ยิ่งอยากลืม ใบหน้าของผู้ชายคนนั้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขา ความอบอุ่นที่เคยได้รับ กลับฉายชัดขึ้นทุกที ยิ่งชัดเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น เพราะนับจากนี้ไป...จะไม่มีมันอีกแล้ว

     

    ………………………………………………….

     



    มาลงช้ามากเลย ขอโทษทีนะคะ คือจริงๆ อันนี้มันเป็นสองตอน แต่โฟร์ว่าถ้ารวมกันมันน่าจะโอเคกว่า เพิ่งเขียนเสร็จ สดๆ ร้อนๆ เลย ไม่ว่ากันเนอะ 

    /อีนางเอกมโนจัง คิดเองเป็นเรื่องเป็นราว เอาจริงๆ หมวดของเรายังไม่ได้ทันพูดอะไรเลยนะเนี่ย 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×