ภูมิแพ้ทางอาหาร ร้ายแรงแค่ไหน? (กรุงเทพธุรกิจ)
หลายคนทราบหรือไม่ว่าโรคภูมิแพ้นั้น มีปฏิกิริยาที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้ แล้วคุณละคิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้หรือไม่ ?
โรคภูมิ แพ้คืออะไร
โรคภูมิแพ้ คือโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งในคนปกติไม่มีปฏิกิริยานี้เกิดขึ้น ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น สารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิไวเกินนี้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งได้ตามอวัยวะที่เกิดโรคได้เป็น 4 โรคคือ โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้,โรคแพ้อากาศ,โรคตา อักเสบจากภูมิแพ้,โรคหอบหืด,โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
จาก ข้อมูลเบื้องต้น ลองมาทำความรู้จัก "โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร" ร้ายแรงแค่ไหน
โรค ภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร อาจปรากฏอาการได้ในหลายระบบของร่างกาย โดยอาจเกิดเฉพาะในระบบใดระบบหนึ่งหรือร่วมกันหลายระบบก็ได้ ที่พบบ่อยได้แก่
ระบบ ผิวหนัง เช่น อาจเป็นลมพิษแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง มีอาการที่ผิวหนังอักเสบ หรือบวมตามผิวหนัง เป็นต้น ที่พบบ่อยในเด็ก พบว่าการแพ้ไข่ หรือนมวัว มักทำให้เกิดผิวหนังอักเสบในทารก ส่วนการแพ้อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู ปลา มักทำให้เกิดลมพิษแบบเฉียบพลัน สารผสมในอาหารเช่น สี สารกันบูด หรือเชื้อราที่ปนเปื้อน อาจทำให้ลมพิษเรื้อรังมีอาการกำเริบขึ้นได้ เป็นต้น
ระบบ ทางเดินอาหาร อาจมีปากอักเสบ แผลในปาก ปวดท้อง ท้องเดิน เลือดออกในทางเดิน อาหาร หรือลำไส้อักเสบ เป็นต้น
ระบบ หายใจ อาจมีจมูกอักเสบ หลอดลมอักเสบ การบวมของกล่องเสียงและหลอดลม หรือหืดได้ ซึ่งมักเกิดร่วมกับอาการในระบบอื่นด้วย
ชนิด ของโรคภูมิแพ้จากอาหารตามระยะเวลาที่เกิดอาการหลังได้รับอาหารแล้ว อาจแบ่งได้เป็น
ชนิด ที่มีอาการเฉียบพลัน คือเกิดอาการหลังรับประทานภายใน 2-3 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยอาจมีอาการคันปากและเพดาน ลมพิษขึ้น หากอาการรุนแรงอาจถึงกับช็อคหมดสติได้
ชนิด มีอาการช้า อาจเกิดอาการภายหลังรับประทานอาหารเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันได้
อาหาร ชนิดใดที่เป็นตัวการของการเกิด โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร
ใน เด็ก อาหารที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้มีดังนี้คือ นมวัว ไข่ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ปลา
ใน ผู้ใหญ่ อาหารที่เป็นสาเหตุ คือ นม อาหารทะเล ปลา ถั่ว อย่างไรก็ตามอาหารชนิดอื่นนอกเหนือจากนี้ ก็มีโอกาศแพ้ได้
อาการของ โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร และสาเหตุอื่นๆ
อาการ ของโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร อาจเกิดขึ้นกับระบบใดๆก็ได้ในร่างกาย ในบางคน อาจมีอาการทันทีที่รับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป บางคนอาจมีอาการหลังจากนั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง อาการที่พบอาจเป็นอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้องแบบบิด อาการทางผิวหนัง เช่น การมีผื่นขึ้น ริมฝีปาก ลิ้น ช่องปากบวม อาการทางระบบทางเดินหายใจเช่น หายใจมีเสียงวี๊ด หายใจลำบาก อึดอัด แน่นในลำคอ อาการที่รุนแรงที่สุดคือ อาการช็อค ซึ่งเกิดเนื่องจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่รุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน
อาการ ต่างๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นอาการที่เกิดจาก ปฏิกิริยาภูมิแพ้อย่างเดียวหรือ คำตอบคือ ไม่ใช่ อาการต่างๆ เหล่านี้ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับภูมิแพ้ ดังตัวอย่างที่กล่าวไว้เรื่องท้องเดินจากการดื่มนม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดเอนไซม์ แลคโตส ซึ่งใช้ในการย่อยนม เป็นต้น
สำหรับ สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการคล้ายโรคภูมิแพ้ ได้แก่ อาการสั่นจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่ผสม คาเฟอีน อาการหอบ ที่เกิดจากการสารประกอบอาหารเช่นผงชูรส สารพิษที่ถูกปล่อยจากเชื้อโรคบางชนิดที่อยู่ในอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเดิน การติดเชื้อพยาธิในทางเดินอาหาร โรคของระบบทางเดินอาหารเอง เช่น โรคกระเพาะ โรคทางเดินน้ำดี และสาเหตุทางจิตใจ
การวินิจ ฉัย และสาเหตุที่ทำให้แพ้
ถ้า ท่านไม่แน่ใจว่า ท่านเป็นโรคแพ้อาหาร จริงๆ หรือไม่ ลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้โดยตรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการซักประวัติคุณอย่างละเอียด คุณจะได้รับคำถามต่างๆมากมายเกี่ยวกับอาการที่คุณเป็น แพทย์อาจให้คุณลองงดอาหารที่สงสัยว่าจะแพ้ และสังเกตุว่าอาการของคุณดีขึ้นหรือไม่ การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังไม่ค่อยได้ประโยชน์มากนัก สำหรับสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอาหาร
การ รักษาที่สำคัญที่สุด คือ หาอาหารที่แพ้ให้พบ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ร่างกายแพ้ ลองปรึกษาแพทย์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ ากแพทย์ที่ทำการรักษาท่าน
การ รักษาโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร ปัจจุบันการรักษาการแพ้อาหารที่ดีที่สุด คือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แพ้ และรับประทานสารอาหารทดแทน เช่น ถ้าแพ้นมวัว อาจใช้นมที่มีสูตรพิเศษซึ่งมีโปรตีนชนิดพิเศษแทน ปัจจุบันเริ่มมีการจำหน่ายนมสำหรับทารกที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิ แพ้ ในประเทศไทยแล้ว โดยทั่วไป หลังจากเลี่ยงอาหารที่แพ้มาแล้วช่วงหนึ่ง เช่น ประมาณ 1-3 ปี ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารเหล่านั้นได้
อาหาร ที่มักจะรับประทานได้ หลังจากเลี่ยงมาแล้วช่วงหนึ่ง ได้แก่ นมวัว และไข่ไก่ เนื่องจากร่างกายจะสามารถปรับตัวได้ โดยที่ภูมิคุ้มกันของลำไส้จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้สารแพ้จากอาหารผ่านเข้า สู่ร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้อาการแพ้ลดความรุนแรงลง จากการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียพบว่า ร้อยละ 60 ของเด็กที่แพ้นมวัว จะสามารถรับประทานนมวัวได้โดยไม่มีปฏิกิริยา เมื่ออายุ 6 ปี
สำหรับ ผู้ป่วยบางคน เช่น ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่แพ้อาหารทะเล เช่นกุ้ง หรือถั่วลิสง และผู้ที่มีอาการแพ้ที่รุนแรง มักจะแพ้สารอาหารเหล่านั้นตลอดชีวิต และจะเกิดอาการซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าจะเลี่ยงอาหารนั้นมานานแล้ว ผู้ป่วยบางคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจจะเกิดอาการได้ ถึงแม้กระทั่งได้กลิ่นหรือควันที่เกิดจากการประกอบอาหาร เช่นควันจากการปิ้งย่างอาหารทะเล ก็จะเกิดอาการได้โดยไม่ต้องรับประทานอาหารนั้นๆ
การ รักษาสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องให้น้ำเกลือในกรณีที่เสียน้ำจากการถ่ายเหลวมากๆ หรือให้ยาฉีดพวกแอดดรีนาลีน ในรายที่มีอาการช็อค ในรายที่มีอาการทางผิวหนังอาจให้ยาแก้แพ้ ยาต้านฮิสตามีน หรืออาจใช้ยาพวกเสตียรอยด์ในระยะสั้นๆ ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจต้องพกยาฉีดที่มียาแอดดรีนาลีน ชนิดบรรจุเสร็จไว้ติดตัว
ความคิดเห็น