ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อภินิหารธิดาเทพ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 เมืองหลวง(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      15
      28 มี.ค. 59

    ตอนที่ 5

    เมืองหลวง

    รุ่งขึ้นเป็นวันเดินทางเธอเก็บเสื้อผ้าบางชุด  สมุดบันทึกเหตุการณ์สำคัญ สิ่งของมีค่าอีกเล็กน้อยและตั๋วเงิน ที่เธอหาของป่าไปขายมาได้  หลิงชิ่ง แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเธอตื่นมาเมื่อเช้านี้กลับไม่พบร่างของเจ้าเสือน้อย ไป๋เฟิ่ง  มันคงจะกลับเข้าป่า  รอเธอเรียกแน่ๆ

    หลังจากที่ลำลากันเป็นที่เรียบร้อย  จึงได้ฤกษ์ออกเดินทาง ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาส่งด้วยความยินดี  ทั้งยังอาสาไปส่งเธอยังเมืองหลวงอีกด้วย  เมืองที่ท่านเทพเซียนส่งเธอมานั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ห่างจากเมืองหลวงซักเท่าไร

    ตอนนี้เธออยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยมขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในถนนสายหลักสายหนึ่ง  ผู้คนบนท้องถนนสัญจรผ่านไปมากันอย่างวุ่นวาย  โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีผู้ใช้บริการไม่มากไม่น้อย

    เถ้าแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นลูกค้าเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ

    “แม่นาง เชิญๆ  โรงเตี๊ยมของเรามีอาหารเลิศรส  ห้องพักก็มีดูท่าแม่นางคงเป็นคนต่างถิ่นข้า  ไม่เคยเห็นท่านมาก็เลย”  เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเข้ามาต้อนรับ อดสงสัยถึงหน้าตาของหลิงชิ่งไม่ได้  ดวงตากลมโตสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่งหน้าตาแบบนี้ใช่ว่าจะเห็นได้ง่ายๆ

    “ใช่แล้ว  เถ้าแก่ ข้ามาจากเมืองใกล้ๆนี่เอง  ข้าขอห้องพักสำหรับ  1  เดือนท่านมีรึไม่”  หลิงชิ่งตอบอย่างเป็นกันเองด้วยร้อยยิ้มสดใสที่ใครๆเห็นก็หลงรัก  ทั้งยังไม่นึกแปลกใจที่เถ้าแก่ถามเรื่องหน้าตาของเธอ เพราะตอนที่เธออยู่ที่หมู่บ้านเธอก็จะเจอคำถามนี้บ่อยๆ   หน้าตาของเธอนั้นออกไทยแท้ๆ  ไม่ได้มีเชื้อจีนสักนิดจึงค่อนข้างแปลกตาสำหรับผู้คนที่นี้อยู่มาก

    “โอ้..  เชิญเลยแม่นาง  ข้าจะให้เสี่ยวเอ่อร์ นำทางไปนะขอรับ”  เถ้าแก่ได้ลูกค้ารายใหญ่ก็ดีใจ  นานๆทีจะมีคนพักอยู่นาน

    เสี่ยวเอ่อร์นำทางหลิงชิ่งมายังชั้นบนของโรงเตี๊ยม  ดูๆแล้ว ชั้นนี้มีมีประมาณ  4  ห้องห้องของเธอเป็นที่อยู่ทางขวามือสุด  เสี่ยวเอ่อร์นำทางเข้าไปในห้องของเธอ

    “แม่นางขอรับท่านจะรับประทานอาหารเลยไหมขอรับ  ข้าน้อยจะนำขึ้นมาให้”  เสี่ยวเอ่อร์ถามอย่างสุภาพ

    หลิงชิ่งที่นึกขึ้นมาได้นี่ก็เวลาเที่ยงแล้วเธอมั่วตื่นเต้นกับการเดินทาง จนลืมเวลาไปเสียสนิท

    “ยกขึ้นมาได้เลยจ๊ะ  ขอซาลาเปาหนึ่งจานด้วยนะ” 

    “ขอรับ”

    เสี่ยวเอ่อร์ออกไปแล้ว หลิงชิ่งมองสำรวจห้องอย่างตื่นเต้น ที่นี้ก็คล้ายๆกับในหนังจีนบ้างเรื่อง  ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่มีหน้าต่างสองฝั่ง เตียงขนาดกลางอยู่ริมห้อง  มีโต๊ะกลมกลางห้องไว้ทานอาหาร  แจกันประดับห้องอีกสองสามใบ  หลิงชิ่งวางของของเธอลงเดินสำรวจรอบๆ  เสี่ยวเอ่อร์ที่นำอาหารมาให้ก็เข้ามาพอดี จัดแจงวางอาหารไว้ให้แล้วกลับออกไป

    “พวกเจ้าออกมากินซาลาเปาสิ”  หลิงชิ่งส่งเสียงเรียก สองแฝด  ทั้งสองปรากฏกายขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ อันอันที่คว้าซาลาเปาเข้าปากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลิงชิ่งมองดูสองแฝดทานซาลาเปา อย่างสนุกสนาน เธอจึงเริ่มทานข้าวในส่วนของตัวเองบ้าง  เธอรู้มาว่าสองแฝดสามารถอิ่มทิพย์หรือจะกินจริงๆก็ได้  โดยส่วนใหญ่แล้วสองแฝดมักทานขนมเล่นเท่านั้น

    หลังจากที่ทานข้าวและจัดของเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลิงชิ่งก็ออกเดินทางสำรวจเมืองหลวงทันที  หลิงชิ่งเดินเล่นเข้าไปในตลาด  ดูสิ่งของมากมายอย่างตื่นเต้น โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้เป็นจุดสนใจของใครหลายๆคน  ไม่ว่าจะเป็นบุรุษเพศ หรือสตรีเพศวัยไหนๆก็ต่างต้องเหลียวมอง ไม่เว้นแม้แต่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินดูสง่างาม  ใบหน้าถูกปิดด้วยหมวกที่มีผ้าคลุมสีขาว  ที่มองมาด้วยความสนใจ  มุมปากยกยิ้มอย่างลืมตัว

    บุตรตรีตระกูลไหนกัน  ที่ปล่อยให้บุตรสาวเดินทางออกมานอกจวนเพียงลำพังเช่นนี้ หน้าตาของนางช่างแตกต่าง แต่กลับสวยหวานราวกับนางสวรรค์  หากนางอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้เป็นไปมิได้ ที่เขาจะไม่รู้จักนาง เช่นนั้นนางคงเป็นคนต่างถิ่นอย่างแน่นอน

    “อี้ชุน  ข้าอยากรู้ว่านางคือใคร?” 

    “ขอรับ”  สิ้นเสียงสั่ง บุรุษข้างกายพลิ้วกายหายไปอย่างรวดเร็ว

    ร่างบางที่กำลังเดินดูของต่างๆ  แม้จะรับรู้ถึงสายตาของผู้คนรอบข้างแต่นางหาได้สนใจไม่  เรื่องแบบนี้คนสวยเจอมาเยอะ!  ร่างบางที่เป็นที่จับตามองเดินเข้ามาเรื่อยๆยังร้านเครื่องประดับ  โอ้... ว้าว!!  นี้มันของจริงที่จับต้องได้ลูบคล่ำได้!!   เธอกำลังหมายถึงเครื่องประดับหยก แหวน  ปิ่นปักผมมากมายที่กำลังเรียงรายอยู่ตรงหน้าเธอในขณะนี้  ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเห็นของจริงในโลกปัจจุบันมาแล้วก็ตามแต่มันจับต้องไม่ได้เพราะของพวกนั้นถือเป็นของเก่าแก่ที่ควรอนุรักษ์ไว้ในพิพิธภัณฑ์  ไม่สมควรถูกเธอจับต้องแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้สิ่งของพวกนี้  กำลังนอนเรียงรายอยู่ตรงหน้าของเธอเพื่อที่จะให้เธอได้สัมผัสมัน  โอ้มายก็อดดดด...  มีความสุขจริงๆ

    หลังจากที่หลิงชิ่งเลือกเครื่องประดับอยู่นาน เธอก็สะดุดตากับปิ่นปักผมหยกขาวเป็นรูปผีเสื้อตัวน้อย

    พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร  สวยหรือไม่

     สวยมากเลยเจ้าคะ  เหมาะกับพี่สาวมากเลยนะเจ้าคะเสียของอันอันตอบมา เธอพยักหน้าเบาๆอย่างเห็นด้วย

    “ปิ่นนี้ช่างเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก  แม่นางน้อย”  เสียงบุรุษขี้เล่นดังขึ้นมาด้านข้างหู  หลิงชิ่งและสองแฝดที่กำลังชื่มชมปิ่นปักผมอยู่นั้น จึงไม่ทันสังเกต เห็นบุรุษหนุ่มเจ้าสำราญในชุดสีฟ้าอ่อนผู้หนึ่งเดินตรงมาหาเธอ

    “ว้ายยย...”  ดรุณีน้อยตกใจเสียหลัก ซวนเซเล็กน้อย  บุรุษหนุ่มจึงรีบคว้าเอวบางเอาไว้อย่างทันทวงที

    “แม่นางช่างขวัญอ่อนยิ่งนัก” เสียงหยอกเย้าของเขาดังขึ้นมาเหนือหัวของเธอ  ใครสั่งให้นายมาไม่ให้สุ้มให้เสียงก่อนเล่า!!  อีกตาบ้า!!!  หลิงชิ่งรวบรวมสติแล้วผลักเขาออกอย่างแรง ทำให้เขาผละถอยหลังไปเล็กน้อย

    “ใครใช้ให้เจ้าทำให้เช่นนี้เล่า!!  เป็นใครก็ตกใจกันทั้งนั้น!!  หลิงชิ่งพูดอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์ที่กำลังโกธร  ตาบ้านี้เป็นใครกัน?  เธอกำลังเลือกปิ่นของเธออยู่ดีๆ

    “มีใครเคยบอกเจ้าหรือไม่แม่นางน้อย  เวลาเจ้าโกรธา  ช่างน่ารักนัก”  บุรุษในชุดสีฟ้ากล่าวต่อ  น่าแปลกแม่นางน้อยผู้นี้ไม่มีความเขินอายเลยสักนิดเวลาคุยกับเขา  ไม่ว่าอิสตรีที่ไหนก็ต้องหลงกลใบหน้าหล่อเหล่าและคารมของเขาจนต้องเขินอายไปตามๆกัน  เหตุใดแม่นางน้อยผู้นี้กลับไม่สะทกสะท้าน  อีกทั้งหน้าตาที่สวยงามแปลกตานี้อีกเล่า ช่างน่าสนใจจริงๆ

    หลิงชิ่งกำลังมองหน้าเขาอย่างหน้าเรื่องฉับพลันก็รู้สึกถึงแววตาวิบวับที่เขามองมาทำให้เธอรู้สึกประหลาดขนลุกอย่างไม่ทันตั้งตัว  หลงชิ่งจึงรีบหันไปจ่ายค่าปิ่นปักผมแล้วเดินจากมาทันที แต่ไม่วายชายหนุ่มผู้นั้นกำลังตามเธออย่างไม่ห่าง  เธอหยุดเขาหยุด เธอเดินเขาเดิน  เธอวิ่งเขาวิ่ง   อีตาบ้านายมันน่ารำคาญ  มาเมืองหลวงวันแรกก็โดนพวกโรคจิตตามซะแล้วหรือนี่!?  เวร!!

    แน่นอนว่าทุกกระทำของเธอนั้น ย่อมตกอยู่ในสายตาของคนที่เฝ้ามองเธอมาตลอด  ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินกำลังมองดู หญิงสาวเลือกซื้อเครื่องประดับ แววตาของนางมีประกายสดใสเป็นประกายของความสุขที่มากล้นใบหน้าของนางแสดงออกอย่างชัดเจนว่านางกำลังมีความสุขมากจริงๆ ดวงตาประกายสดใส  ริมฝีปากบางแย้มกว้างจนเผลอทำให้คนมองหลงใหล  จนกระทั่งบุรุษเจ้าสำราญผู้นั้นเดินเข้ามาหานาง    เย่วซือเสียน!!  บุตรชายคนรองของท่านเจ้ากรมการคลัง  เป็นคุณชายเจ้าสำราญ จอมเจ้าชู ที่แสดงแววตาสนใจนางอย่างชัดเจน  จนเขารู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ  แต่ก็สะใจนักที่นางมิได้สนใจ

    “มู่หลง ส่งคนตามประกบนางไว้ รายงานข้าทุกฝีก้าว”

    “ขอรับ”

     --------------------------------------
     

    เมื่อกี้ไรท์เข้าไปแก้เนื้อหานิดหน่อยบางตอนและเปลี่ยนชื่อตอนนิดหน่อย
    อาจจะทำให้รำคาญกันเล็กน้อย  ไรท์จึงขออภัยเลยลงตอนนี้ให้อ่าน เย้ๆๆ  ไรท์พยายามเพิ่มเนื้อหาแล้วนะ
    ตอนนี้ก็เพิ่งแต่งเสร็จร้อนๆ จากสมองน้อยๆของไรท์ 55555

    อยากถามความเห็นนิดหน่อยที่ว่าตอนที่ 1  กับ  2  ที่งงๆกันจะสลับตอนกันดีมั้ย  หรือว่ายังไง?

    ยังไงก็ติชมกันได้เช่นเดิม
    ขอบคุณที่อ่านนะค้าาาาา

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×