คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่10 ชายจรจัด [1]
บทที่10 ชายจรจัด [1]
แรงถีบส่งให้ร่างของเจคลอยห่างออกไป วิสัยทัศน์ที่เรียกได้ว่าแย่ทำให้ระยะห่างเพียงเล็กน้อยเป็นเหมือนกำแพงดำมืดอันหนาเตอะ
เธอมองไม่เห็นเขาเสียแล้ว
เด็กหญิงว่ายขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจแวบหนึ่งแล้วทิ้งตัวลงมาอีกครั้ง กระแสน้ำซัดมาทางไหล่ขวา พร้อม ๆ กับมือใหญ่ที่คว้าหมับลงมาอย่างกะทันหัน
แขนแกร่งล็อคคอหล่อนไว้แน่น ลักซ์ศอกใส่สีข้างเขาเต็มแรงจนทางนั้นจำต้องปล่อยมือ เด็กหญิงลี้ตัวเองไกลออกไปเพื่อซ่อนตัว
เพราะอยู่ในน้ำ การโจมตีต่าง ๆ จึงช้าและเบากว่าที่ควรจะเป็นมาก ทว่าหากพลาดกันสักนิด ก็อาจมีศพลอยตุ๊บป่องกลางแสงจันทร์ได้ง่ายกว่าการต่อสู้บนบกเสียอีก...
การต่อสู้ในน้ำไม่ใช่สิ่งทีเธอถนัดแม้แต่นิด เพราะเพิ่งจะเริ่มเรียนได้แค่ไม่เท่าไหร่ ทำให้หล่อนค่อนข้างเงอะงะ รุกกลับอีกฝ่ายไม่ได้ เรียกได้ว่าเละเทะอย่างที่เป็นอยู่
กระแสน้ำดันมาจากข้างหน้า เธอถีบขาออกไปเป็นอย่างแรก ชายหนุ่มรีบเบี่ยงตัวหลบ วาดมีดออกเป็นวงกว้าง เด็กหญิงว่ายทิ้งระยะห่างก่อนดีดตัวขึ้นสูง กระชากคอเสื้อชายหนุ่มแล้วพลิกตัวล็อคคอเขาไว้จากด้านบน
ร่างใหญ่กว่าออกแรงสะบัด เอื้อมมือไปจับเอวของนางก่อนออกแรงบีบ ความเจ็บที่ส่งตรงเข้ากระดูกทำเอาจอมมารน้อยสะดุ้ง สำลักน้ำ ผละตัวหนีทันใด
นางรีบตะกายตัวเองขึ้นไปหายใจแล้วลงมาใหม่ ไม่คาดว่าจะเจอฉาก ‘ตุ้งแช่’ เข้าเต็มหน้า เมื่อจู่ ๆ อาจารย์ผู้น่าเคารพรักก็โผล่พรวดออกมาจากความมืดอย่างรวดเร็ว!
มีดเงินฉวัดเฉวียนอยู่ตรงหน้า เธอได้แต่เป็นฝ่ายตั้งรับอย่างน่าสงสาร อารมณ์ที่ไม่คงที่ทำให้การเต้นของหัวใจผิดปกติ การควบคุมอากาศเองก็ลำบากตามไปด้วย
นางกลอกตาให้กับความไร้ฝีมือของตัวเองทีหนึ่ง ถีบขาออกจนทางนั้นกระเด็น ว่ายหนีขึ้นไปหายใจแล้วกลับลงมาใหม่อย่างรีบร้อน
‘ไม่ได้เรื่อง...’
เธอพึมพำในใจด้วยนึกหงุดหงิดตัวเอง ฝึกมาก็เป็นอาทิตย์แล้ว ร่างกายก็ใช่ว่าจะปวกเปียกไม่พร้อมต่อสู้เสียหน่อย เหตุใดผลจึงยังออกมาน่าเกลียดถึงเพียงนี้
ลักซ์หงุดหงิดงุ่นง่านจนควบคุมลมหายใจไม่ได้ ดำผุดดำว่ายอยู่หลายครั้ง
จอมมารน้อยเหวี่ยงมีดสะเปะสะปะหมายระบายอารมณ์ขุ่นมัว ออกตัวว่ายไปข้างหน้าเพื่อตามหาอาจารย์หนุ่ม ใจปรารถนาจะโจมตีอีกฝ่ายให้ได้สักครั้งหนึ่ง
แรงกระเพื่อมอย่างผิดปกติพุ่งเข้าใส่แผ่นหลัง หล่อนหันขวับ ทว่ากลับไม่พบสิ่งใดทั้งสิ้น
หมับ!
“!”
พลันแขนก็ถูกกระชากอย่างแรงจนตัวเซวูบ เจคปรากฎขึ้นในระยะประชิด เธอตกใจแทบช็อค เกือบจะอ้าปากร้องออกมา ดีที่ทางนั้นยกมือขึ้นปิดปากเธอแล้วถลึงตาใส่ยิ้ม ๆ เป็นการเตือนเข้าเสียก่อน
เขากระชับนางเข้าอ้อมแขนแล้วพาขึ้นมาเหนือน้ำ เจ้าหนูน้อยหน้าหงิก ว่ายขึ้นฝั่ง ความสนุกที่มีหายวับไปกับตาจนกลายเป็นเซ็งสุดขีด
นางทิ้งตัวแผ่ ร่างกายเปียกโชกจนเหมือนลูกหมาตกน้ำ
“ฝีมือข้ามัน...โคตรห่วย”
ลักซ์พึมพำเสียงหงอยระคนหงุดหงิด ใบหน้าฉายชัดถึงความผิดหวัง เธอโยนมีดออกห่างด้วยความไม่สบอารมณ์ เจคส่ายหน้า นั่งลงข้าง ๆ อีกฝ่าย ยื่นมือมาลูบหัวปลอบป้อย ๆ
“คุณหนูเพิ่งฝึกได้เพียงไม่กี่วัน เท่านี้ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีมากแล้ว”
“ข้าไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะโจมตีท่านเนี่ยนะพัฒนาการที่ดี? เหอะ ข้าขำจะตายอยู่แล้วอาจารย์”
เจ้าหนูว่าเสียงเมื่อย สีหน้านั้นเมื่อยขั้นกว่า อาจารย์หนุ่มถอนหายใจยาว
“คุณหนูอย่าได้กดดันตัวเองจนเกินไป ไม่มีใครที่จะเก่งกาจขึ้นได้ด้วยเวลาอันสั้นหรอกนะ”
“พวกอัจฉริยะไง”
เธอสวนทันควัน นึกย้อนไปยังความทรงจำก็ต้องริษยาสุดใจ กับบรรดาเด็กที่เก่งกาจสิ่งใดมาก ๆ จนเป็นที่รู้จักไปทั่ว หรือพวกเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งทุกวิชาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สนใจเรียนเป็นพิเศษ
ผิดจากเธอที่กว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้น จำต้องพยายามจนแทบจะสิ้นกำลังตายอยู่กลางทาง
เจคเล็งเห็นว่าบรรยากาศรอบตัวของลูกศิษย์ค่อนข้างแย่ เขาจึงลูบหัวนางอีกครั้ง
“พวกอัฉริยะที่คุณหนูว่า บางทีอาจเป็นพวกที่พยายามมาก แต่ไม่มีใครรู้ก็ได้” เขาเงียบไปอึดใจ หรี่ตามองลูกศิษย์ตัวน้อย “คุณหนูไม่ควรยึดติดกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป มันจะทำให้พัฒนาการของคุณหนูเป็นไปไม่เต็มที่”
สีหน้าของเด็กน้อยไม่สู้ดีนัก เธอถอนหายใจ พลิกตัวเข้าหาอาจารย์หนุ่ม กำแขนเสื้อของเขาไว้เบา ๆ
“ข้าเองก็อยากที่จะไม่ใส่ใจมัน ทว่าไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่ข้าผิดพลาด ทำได้ไม่ดี หรือเอาชนะไม่ได้ ในอกข้าจะบีบรัดอย่างรุนแรง”
เธอขยำเสื้อตรงบริเวณหน้าอกไว้แน่น หัวคิ้วมุ่นหากัน
“ข้าจะเริ่มหงุดหงิด อยากทำลายข้าวของ รู้สึกตัวเองโง่ ไร้ประโยชน์ สักพักก็เริ่มอยากทำให้ดีขึ้นเพื่อเอาชนะ เพื่อเป็นอันดับหนึ่ง แต่พอมันไม่เป็นไปตามหวัง ข้าก็จะรู้สึกแค้น สุดท้ายความคิดก็จะไปวนเวียนอยู่ที่แผนชั่วในการกำจัดคู่แข่ง พออารมณ์พวกนี้มีมากเข้า บางทีข้าก็รู้สึกอยากอาเจียนพิกล”
เธอยังคงมุ่นหัวคิ้วไม่เลิก สีหน้าดูยุ่งยากใจ
“เอ่อ...ข้าหวังว่าที่ข้าพูดออกไปจะพอฟังรู้เรื่องนะคะ”
สุ้มเสียงเหนื่อยอ่อนที่ระบายออกมาทำให้ดวงตาของชายหนุ่มอ่อนแสงลงเล็กน้อย เขาลอบยิ้มอย่างขบขันไปกับคำพูดประชกประชันตบท้ายนั้น
“นั่นเพราะท่านเครียดเกินไป คุณหนู...”
ลักซ์ทำหน้าหมาหงอย เสียงเองก็เบาตามท่าทีไป ดูไม่สดชื่น ผิดจากทุกทีเหมือนคนละคน ขยับตัวเอาหัวเกยขาคนด้านข้าง
“ข้ารู้...ทุกคนเองก็รู้ ข้าถึงต้องกินยาสงบใจทุกมื้ออาหารอยู่นี่ไงคะ” นางกล่าวเสียงอู้อี้ “...แต่ข้าก็กินมันมาหลายปีดีดัก จนอดกังขาไม่ได้ว่ามันได้ผลจริงหรือ?”
เจคเลิกคิ้ว ใช้มือสางผมนางออกจากข้างแก้ม
“หืม? ก็เชื่องดีนี่คุณหนู”
ลักซ์เบ้ปากแล้วกลอกตาใส่เขาทันใด
“ฮ่า ๆ ตลกมากค่ะ”
ความคิดเห็น