ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่26 คนประหลาด [2]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.97K
      153
      5 ม.ค. 64

    บทที่26 คนประหลาด [2]

                เธอยื่นมือไปแตะที่น้ำตก  ละอองระยิบระยับทำให้ภาพทุกอย่างดูพร่ามัวเหมือนอยู่ในฝัน  หล่อนหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

                “หายากนะเนี่ย  พวกที่มีพลังเวทต่ำ ๆ แล้วมามุ่งเน้นสายต่อสู้...”  แว่วเสียงใสดังอยู่ในอากาศ  “ชักอยากรู้จักซะแล้วสิ  พ่อหนุ่ม”

                ข้ารู้สึกว่าไอเวทของเขามีจำนวนไม่มาก  แต่ข้าไม่รู้เลยว่าเขากำลังใช้เวทอะไรอยู่รึเปล่า

                เสียงของอาเรนเซียทำให้ลักซ์จำต้องดึงสติคืนมา  ดวงตาของเธอเปล่งแสงเพื่อควบคุมภาพนิมิตให้ทำท่าเกียจคร้านแล้วลอยฉวัดเฉวียนไปมา

                “เปล่า  เขาไม่ได้ใช้เวทอะไรเลย...ที่เดินทางมาที่นี่”

                เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเกียจคร้านสอดคล้องกับภาพนิมิต  ไม่ได้สนใจว่าเสียงนั่นจะตรงกับความรู้สึกของตัวเองจริง ๆ หรือเปล่า

                เอ๊ะ?

                “เขาเป็นพวกครึ่ง ๆ กลาง ๆ ”  เธอตอบอย่างไม่ยีหระ  “พลังเวทไม่โดดเด่นเลย  แก่นเวทนั่นเป็นขนาดที่ควรไปเอาดีทางกายภาพหรือเรียนสายสามัญมาก  แต่...เขากลับเลือกที่จะมาสายต่อสู้ด้วยสภาพครึ่ง ๆ กลาง ๆ ”

                ลักซ์...เจ้าพูดคำเหยียดนั่นมาสองรอบแล้วนะ

                เจ้าของชื่อหัวเราะลั่น  ไม่คิดที่จะเก็บคำบ่นไปใส่ใจนัก  แม้ว่าเสียงของอีกฝ่ายจะจริงจังมากก็ตาม

                คำว่าพวกครึ่ง ๆ กลาง ๆ ถือเป็นคำหยาบมากในการใช้เรียกคนที่มีพลังเวทต่ำ  นั่นเป็นเหตุว่าทำไมอาเรนเซียถึงได้ดุนางอย่างจริงจังเช่นนั้น

                พวกที่มีพลังเวทจะถูกกำหนดมาแล้วว่าร่างกายจะแข็งแรงได้ไม่เท่าพวกไม่มีพลังเวท  แม้จะมีต่ำแค่ไหนขีดจำกัดก็ไม่อาจเทียบได้  พวกที่มีแก่นเวทเล็กกว่าขนาดกำปั้นจึงมักมุ่งเน้นตัวเองไปในทางการทำงานเอกสาร  รับราชการมากกว่าที่จะไปทำงานสายต่อสู้ใด ๆ ก็ตาม

                แก่นเวทสามารถฝึกเพื่อขยายขนาดได้  แต่เป็นเรื่องยากมาก  อาจจะต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเพื่อที่จะเพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางออกมาสักหนึ่งเซนติเมตร

                ร่างกายก็ใช้งานได้ไม่เต็มที่  พลังเวทก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน  ไม่แปลกว่าทำไมลักซ์จึงสนใจอีกฝ่ายนัก

                แก่นเวทของเขามีขนาดเพียงครึ่งกำปั้น  มันเล็กมาก  เป็นขนาดที่ไม่มีทางใช้เวทใด ๆ ได้นอกจากการสร้างบอลเวทพื้นฐานกับใช้พลังเสริมสิ่งต่าง ๆ

                ทางด้ายกายภาพ  ชายคนนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงทีเดียว  แต่ก็ไม่ได้เท่าพวกองครักษ์ของเธอแน่นอน  ทว่าเรื่องความปราดเปรียว  ประสาทฉับไว  หล่อนมั่นใจว่าเขานำไปโข

                เพราะตอนนี้...เขาเห็นพวกเธอแล้ว

     

     

                “เถอะน่า  ผ่อนคลายหน่อย”  เสียงนางหาได้มีความรู้สึกผิดไม่  ดวงตาจ้องเขม็งไปยังร่างในชุดสีดำสนิทเบื้องล่างที่กำลังเหลือบตามาทางนี้  “ฉันคิดว่าเมื่อกี้หมอนั่นน่าจะใช้การวิ่งในการมาที่นี่  เป็นการวิ่งเพียว ๆ  ไม่มีเวทใด ๆ เสริมแน่นอน  เพราะฉันไม่เห็นไอเวทที่สลายออกมาสักนิด”

                นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไวเกือบเท่า ๆ เจ้าหรอกรึ?

                “ก็ใช่อ่ะนะ”  เธอยักไหล่  “กวางน้อย  ฉันสนใจเขา  ขอหน้าแสงล่ะนะ”

                สิ้นคำ  เธอก็แทรกตัวออกไปทันที  ไม่แม้แต่จะให้อีกฝ่ายครุ่นคิดคำตอบ  เมื่อหน้าแสงตกเป็นของตัวเอง  ลักซ์ก็พาร่างกระโดดลงไปทันที  ไม่ได้นึกเกรงเลยว่ากิ่งไม้ที่ตนยืนอยู่สูงกว่าสิบเมตร!

                ตุบ!

                เสียงเท้าสัมผัสพื้นเบากว่าที่ควรจะเป็นจนแทบไม่มีเสียง  ดวงตาต่างสีของคนสองคนพลันสบประสานกัน  ลักซ์ผุดยิ้มแสยะ  จ้องใบหน้าที่ครึ่งล่างถูกปกปิดไว้ด้วยผ้าโปร่งสีดำอย่างสนใจ

                เธอเดินเข้าไปใกล้เขา  แต่ก่อนที่ไหล่จะสัมผัสกัน  หล่อนก็หมุนตัวผละออกห่าง  เบี่ยงเป้าหมายไปทางสัตว์อสูรตัวหนึ่งแทน  หยิบเอามีดสั้นที่เหน็บอยู่ที่ขาอ่อนออกมาควง  ความมันวาวและอัญมณีนับไม่ถ้วนบ่งบอกว่าราคาของมันไม่ใช่น้อย ๆ เลย

                กลิ่นอายประหลาดแผ่ขยายออกมาจากเรือนร่างอรชร  รุนแรงเสียจนพวกผู้สมัครสอบไม่กล้าขยับร่างกาย  ลักซ์มองผลตอบรับด้วยความพอใจ  เลื่อนดวงตาหรี่โค้งไปทางเจ้าเสือตัวโตเบื้องหน้า

                ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น  ไอสังหารเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้นจนเจ้าเสือถึงกับขาสั่น  ก้าวถอยหลังพร้อมขู่คำราม

                ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างประหลาดใจ  เจ้าสัตว์อสูรเหล่านี้สร้างมาให้มีจิตใจกล้าแกร่ง  ไม่เกรงกลัวภัยอันตรายใด ๆ  ทว่ามันกลับกำลังหวาดกลัวสาวน้อยคนนั้นอย่างเห็นได้ชัด

                “ยืนรอความตายรึไง?”

                เธอพูดอย่างยั่วเย้า  เจ้าเสือนั่นมีปฏิกิริยาทันใด  มันขู่คำรามก้อง  กระโจนใส่ด้วยความดุร้านและรวดเร็ว  ไม่คาดว่าเพียงแค่สาวเจ้าก้าวถอยหลังครั้งหนึ่ง  เหยื่ออันโอชะก็หลุดลอยจากอุ้งเท้ามรณะของมัน

                “ช้าว่ะ...”

                เด็กสาวแลบลิ้น  กล่าวหน้าตาย  ใช้มือที่ไม่ได้ถือมีดจับเข้าที่ใต้คอหนาของมัน  ออกแรงบีบจนบังเกิดเป็นเสียงร้องโหยหวนอันติดขัด  มันพยายามดิ้น  แต่กลับไม่สามารถสลัดมือเล็กเรียวนี่ออกไปได้

                รีอัลรัมเล่มงามถูกยกสูง  ก่อนแทงเข้าที่กลางหัวของมันจนมิดด้าม  ตายคาที่ในดาบเดียว

                รอบข้างพลันเงียบกริบ  แม้แต่บรรดาสัตว์อสูรมายาที่ว่าไร้ความรู้สึกยังพากันหวาดกลัวจนตัวสั่น  ลักซ์ฉีกยิ้มหวาน  ควงมีดในมืออย่างอารมณ์ดี

                เพียงเสี้ยวกะพริบตา  ร่างอรชรก็พลันเลือนหายไปจากตำแหน่งที่เคยยืน  ทุกคนมองหาด้วยความฉงน  ก่อนจะพบว่าร่างนั้นลอยคว้างอยู่กลางอากาศ  จุดหมายลงจอดคือกลางดงสัตว์อสูรกว่าครึ่งร้อย!

                แม้จะรู้ว่าสัตว์อสูรฝีมือระดับไม่มีทางคณามือคนอย่างลักซ์  ทว่าความบ้าบิ่นนี้ก็ทำเอาอาเรนเซียที่เฝ้ามองอยู่ภายในอ้าปากหวอไม่ได้

                หล่อนเบิกตามองคนที่เคลื่อนที่พลิ้วไหวรวดเร็วเสียจนมองแล้วเวียนหัวอย่างโง่งม  เวลาไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ  รอบกายก็พลันเต็มไปด้วยยันต์จำนวนมาก

                ลักซ์หันไปยิ้มให้สัตว์อสูรที่เหลืออยู่แค่หยิบมือแล้วกระโดดพรวดใส่เจ้าเสือผู้โชคร้าย  ทำการหักขาหน้าทั้งสองข้างของมันด้วยมือเปล่า  เสียงคำรามโหยหวนดังลั่นป่า

                ไม่นานก็มี  พวกมัน  โผล่มาช่วยเพื่อนกันโขยงใหญ่

                เจ้าเสือผู้โดนหลอกใช้น้ำตาตกใน  ช็อคตาย(?)กลายเป็นยันต์ด้วยตัวเอง  ทิ้งบรรดาเพื่อนให้เผชิญโชคเผชิญภัยแทนตัวเอง

                ภาพเหตุการณ์การสังหารหมู่สุดสะเทือนขวัญ(?)ทำเอาแทบไม่มีใครกล้าขยับตัว  ต่างอ้าปากตาค้างจ้องมองลักซ์อย่างโง่งม  จะมีก็แต่พ่อหนุ่มชุดดำที่ออกล่าไปพลางดูไปพลางด้วยสีหน้าตายสนิท

                เหล่าผู้คนที่ทนมองความโหดร้ายไม่ไหวต่างชิ่งหนีไปที่อื่น  โดยสาวเจ้าที่มัวแต่สนุกไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองตกเป็นหัวข้อการสนทนาแสนเขย่าขวัญไปแล้ว

                “เฮ้อ  พอก่อนละกัน”

                มหกรรมล้างเผ่าพันธุ์สิ้นสุดลงในสี่สิบกว่านาทีต่อมา  ลักซ์บิดกายไปมาอย่างเกียจคร้าน  เพิ่งมาเห็นว่ารอบข้างหาสิ่งมีชีวิตแทบไม่ได้  จะเหลืออยู่ก็แต่พ่อหนุ่มชุดดำผู้นั้น

                ทั้งคู่สบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ  ดวงตาที่หาอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้คู่นั้นทำเอาลักซ์ถึงกับผุดยิ้ม  เธอยกมือขึ้นขยับนิ้วเป็นการทักทายอย่างมีจริตเกินจริง  ทำท่าจะเดินจากไป  ไม่คาดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาขวางหน้าตนเอาไว้  เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้นพลัน

                เมื่อลี้หลบไปอีกทาง  เขาก็ตามมา  คล้ายอยากพูดอะไรแต่กลับไม่พูดออกมา

                “อะไร?  สนใจข้ารึ?”

                เธอเอ่ยแซว  ยื่นมือไปหมายจะเลิกผ้าคลุมผืนบางนั่นออก  ทว่ากลับถูกมือแกร่งคว้าข้อมือไว้  หล่อนลอบถอนหายใจ  ชักมือกลับ  แต่อีกฝ่ายดันคว้าไว้เสียแน่น

                เด็กสาวเหลือบตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่า  ดวงตาหรี่ลง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×