คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : บทที่39 ภาพ [3]
บทที่39 ภาพ [3]
ว่าพลางสะบัดมือวูบ เบื้องหน้าปรากฏเป็นกลุ่มพลังงานคล้ายควันสีฟ้าหลอมรวมกันเป็นวงกลมขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะพุ่งทะลุกระจกโรงอาหารเข้าไปหาลักซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้น
มันซึมวาบเข้าไปในผิวนาง โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ
อันเดรโรจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอย ไม่คาดว่าเจ้าหล่อนจะชะงักและหันมายังทิศทางของเขา เทพสงครามหนุ่มเผลอกลั้นหายใจอย่างลืมตัวว่าร่างกายตนนั้นห่อหุ้มด้วยเวทอำพรางเอาไว้
ลักซ์ขมวดคิ้ว กวาดตามองจนทั่วก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ทว่าเมื่อครู่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกใครจ้องมองมาจากทางต้นไม้
...พลังงาน?
นางถอนหายใจให้กับความไร้สาระของตัวเองแล้วฟุบลงกับโต๊ะต่อ
อันเดรโรเผลอผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่ร่างกายจะพลันสลายไปอย่างรวดเร็ว
ลักซ์ที่ไม่เห็นว่าเจ้าไหม้(?)จะโผล่มาเสียทีก็ถอนหายใจเป็นรอบที่ห้า เดี๋ยวฟุบหน้าเดี๋ยวเงยหน้าสลับกันไปมาไม่หยุด ดูคล้ายคนสมาธิสั้นอยู่เนือง ๆ
จะก้มลงงีบสักหน่อยก็ไม่ง่วง จะนั่งเฉย ๆ เธอก็เบื่อ สุดท้ายจึงต้องทุ่มความสนใจไปที่การรับชมความงดงามของสถานที่แทน
โรงอาหารที่นี่เป็นอาคารชั้นเดียวขนาดกว้าง กำแพงโดยรอบรายล้อมไว้ด้วยกระจก พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาว ฝั่งตรงข้ามกับประตูทางเข้าคือร้านอาหารทั้งหมด จัดเรียงกับเป็นช่อง ๆ ยี่สิบช่องสำหรับร้านยี่สิบร้าน
ร้านอาหารกับบริเวณที่เป็นจุดกำหนดสำหรับต่อแถวซื้ออาหารกินพื้นที่ไปประมาณหนึ่งในสาม อีกสองส่วนที่เหลือเป็นในส่วนของโต๊ะนั่ง ชุดโต๊ะทุกตัวเป็นสีขาว และคาดว่าคงทำมาจากหินอ่อนเช่นเดิม ซึ่งแน่นอนว่าราคามันย่อมไม่ใช่อะไรที่ ‘ย่อมเยา’ แน่นอน
หางตาเหลือบไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาทางนี้ คราแรกนางนึกว่าเป็นเบิร์น ทว่าเมื่อหันไปมองกลับกลายเป็นใครอื่นที่คุ้นหน้าคุ้นตาแทน
รูปกายสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนราวธารน้ำนิ่งสงบ ดวงตาสีฟ้าสว่างไสวเหมือนท้องฟ้าราวกับจะสามารถดูดกลืนวิญญาณของผู้มองได้ เรือนผมราวเส้นไหมสีทองยาวระต้นคอ ร่างคล้ายจะกระจายเต็มไปด้วยออร่าแห่งความสูงศักดิ์
นางเผลอหยักยิ้มขึ้นโดยที่ตัวเองยังไม่รู้ตัว ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
‘นั่นองค์ชายรอง เซติน บาอัลเทลไม่ใช่เหรอ?’
อาเรนเซียทักขึ้นเมื่อมองดูจนแน่ใจแล้ว คนหน้าแสงไม่ได้ตอบอะไร นางยังคงจดจ้องอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ อย่างเงียบงัน จนชายหนุ่มอยู่ห่างเพียงไม่กี่ช่วงตัว นางจึงได้ยิ้ม
แล้วพึมพำออกมา
“ใช่...เป็นเขา”
เบิร์นเดินกลับมาพร้อมกับถาดอาหารในมือทั้งสองข้าง เขากวาดมองไปทั่วเพื่อหาที่ที่ลักซ์จองเอาไว้ แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าที่โต๊ะสำหรับสี่ที่ไม่ได้มีนางอยู่เพียงลำพัง
‘องค์ชายรองเซติน?’
เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจนัก คนผู้นั้นเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้อง ยามเข้าวังก็พบเจอกันบ้างบางครั้งคราว ทว่าจะพูดว่าสนิทสนมก็ไม่ใช่อย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้กลับกำลังนั่งคุยอยู่กับพี่ของเขา ไม่สิ กับลักซ์ที่ไม่ค่อยชอบหน้าอีกฝ่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่างออกรสเนี่ยนะ?
เป็นภาพที่ประหลาดอยู่ไม่น้อยจริง
ๆ
เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้ วางถาดอาหารทั้งสองวางลงบนโต๊ะ นั่นทำให้ทั้งเซตินและลักซ์ต่างหันมาสนใจชายหนุ่มได้อย่างชะงัด
“สวัสดี ข้ารบกวนรึเปล่า?”
เซตินเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักก่อนอย่างไม่ถือตัว เขามองหน้าสองพี่น้องสลับไปมา ซ้ายทีขวาทีด้วยท่าทีเจือนลงทุกขณะ
เบิร์นยกยิ้มน้อย
ๆ
“ไม่หรอกขอรับ เชิญตามสบาย”
“อย่าสุภาพนักเลย ข้ากับเจ้าเป็นเพื่อนร่วมห้องกันนะ” เซตินพูดพลางโบกมือไหว เสียงหัวเราะดังเบา ๆ “เรามาสนิทกันไว้เถอะ แต่ไม่ขอแบบ
‘ร้อนแรง’ เหมือนบีลิน่าล่ะ”
เขาพูดพร้อมขยิบตาอย่างซุกซน เป็นมุมมองที่แปลกใหม่สำหรับคนสุขุมแบบเซตินเป็นอย่างมาก
เบิร์นมองไปทางลักซ์ ก่อนยื่นขาไปสะกิดเจ้าหล่อนแบบเนียน ๆ ส่งคำถามที่มาที่ไปขององค์ชายรองไปทางสายตา เจ้าหล่อนเพียงเลิกคิ้วแล้วกลอกตาไปมองถาดอาหารตรงหน้าเซติน แล้วเปลี่ยนไปพูดกับอีกฝ่ายต่อด้วยท่าทีหัวร่อต่อกระซิก
น้องชายบุญธรรมหน้าดำไปทั้งแถบ ท่าทีคล้ายกำลังทอดสะพานนั่นมันอะไรไม่ทราบฮะ!
ลักซ์กวาดตามองของบนโต๊ะอย่างรวดเร็วเพื่อคิดหาวิธีแตะสัมผัสตัวเซตินแบบเนียน
ๆ
ในตอนแรกนางกะจะปัดช้อนให้หล่นลงไปใกล้อีกฝ่ายแล้วก้มไปเก็บ ทว่าช้อนดันอยู่ในถาดนี่สิ...
ต้องปัดแรงแค่ไหนถึงจะตกพื้นล่ะนั่น
และหากถ้าต้องใช้แรงมากในการปัดมันจริง ก็จงโบกมือลาความแนบเนียบได้เลย
เด็กสาวลอบกลอกตา หันไปมองเซตินอย่างสำรวจ กวาดขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่สี่รอบ
นางก็หยุดชะงักอยู่ที่เข็มกลัดบอกชั้นปีของอีกฝ่ายที่ดูจะใกล้หลุดเต็มที
แม้แผนนี่จะสิ้นคิดไปหน่อย แต่นางก็ตื่นเต้นอยาก ‘สัมผัส’ อีกฝ่ายเร็ว ๆ เกินกว่าจะมาใคร่ครวญอะไรต่อแล้ว
“เข็มกลัดเจ้าดูเบี้ยว
ๆ นะ”
นางกล่าว ไม่ทันให้อีกฝ่ายตั้งตัวก็ขยับกายเข้ามาใกล้ สองมือยื่นมาจับบริเวณเข็มกลัดบอกชั้นปี เซตินชะงักกึกอย่างงงงันไปแวบหนึ่ง
นางแกะเข็มกลัดออกและกลัดเข้าไปใหม่ ระหว่างที่ยกมือออกห่าง หลังมือของอีกฝ่ายแตะถูกปลายคางของเขาชั่วขณะหนึ่ง ผิวหนังที่ให้ความรู้สึกเย็นเล็กน้อยทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ
การกระทำดังกล่าวคล้ายตั้งใจและคล้ายไม่ตั้งใจในเวลาเดียว เซตินจ้องมองเจ้าหล่อนตาปริบ ๆ
ลักซ์รับรู้ได้ถึงความปวดภายในศีรษะและรอบกระบอกตา หล่อนรีบกะพริบตาทันทีเพื่อไล่อาการเจ็บปวด รู้สึกว่ามันจะแสบร้อนกว่ารอบที่แล้วเล็กน้อยจนนางต้องเม้มปาก จึงไม่ได้ทันสังเกตว่าชายหนุ่มผู้นั้นกำลังจดจ้องมาทางนี้ด้วยท่าทีฉงนสงสัย
ดวงตาของหล่อนดูจะแดงอยู่นิด
ๆ เธอยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนทานอาหารต่อดังเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองเธออย่างครุ่นคิดแวบหนึ่งก่อนจะคลายใจ หันมาเริ่มทานอาหารของตัวเองบ้าง
“ฆ่าให้หมด ทวีปแห่งนี้ต้องเป็นของข้า!”
“นำเด็กมาเพิ่มอีก!”
“โอ้ กรีดร้องสิ
อ้อนวอนข้า...และก็จงตายดังเช่นเดรัจฉานไร้ค่าเสีย”
เธอนึกทวนประโยคที่ได้ยินเมื่อตอนที่ได้สัมผัสในเสี้ยววินาทีนั้นอีกครั้ง ค่อย ๆ เรียบเรียงมันออกมาเป็นประโยคคำพูดทีละอัน
ๆ
เสียงเมื่อครู่เหลื่อมล้ำทับซ้อนกันจนมั่วไปหมด และเพราะการสัมผัสเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ทำให้สิ่งที่เห็นน้อยกว่ารอบของรุ่นพี่สายสามัญคนนั้นค่อนข้างมาก
ภาพในครั้งนี้นางแทบไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงคล้ายโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือด ห้องทึบ ๆ ที่มีเพียงโคมไฟเหนือเพียงดวงเดียวฉายใส่แผนที่ กับภาพเตียงสี่เสาหลังหนึ่งที่ชโลมไปด้วยเลือด
นั่นคือทั้งหมดที่เธอเห็น ไม่สามารถประติดต่ออะไรได้ทั้งสิ้น
เธอลอบเหลือบตาไปมองเขา ก่อนจะทานอาหารต่อเงียบ ๆ
ความคิดเห็น