ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #58 : บทที่56 ไลกีอาร์ [2]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.21K
      118
      6 ม.ค. 64

    บทที่56 ไลกีอาร์ [2]

                เจ้าตัวกินมดหลังไฟตัวนั้นเดินอย่างเชื่องช้าไปตามทางของมัน  ตลอดทางที่มันเดินมีเห็ดอิราดีเมียขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก  บ่งบอกว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของมัน

                ลักซ์โหนตัวไปตามกิ่งไม้อย่างช้า ๆ  พยายามที่จะเข้าใกล้ตัวมันให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

                เด็กสาวนึกทบทวนไปถึงข้อมูลของตัวกินมดหลังไฟทีละอย่างด้วยความใจเย็น  ดวงตาจ้องเขม็งตามร่างของมันไปไม่มีกะพริบ

                สิ่งที่เจ้าตัวนี้แพ้อย่างรุนแรงคือน้ำแข็งของตัวกินมดหลังน้ำแข็ง  ลองลงมาคือเวทธาตุน้ำแล้วก็รวมถึงน้ำด้วย  แต่สองอย่างหลัง  หากไม่รุนแรงจริง ๆ ก็คงทำได้แค่ให้มันหงุดหงิดแค่นั้น...

                หรือก็คือไร้ประโยชน์นั่นแหละ...

                ลักซ์มองมันอย่างครุ่นคิด  กำลังจะสลับตำหน้าแสงให้อาเรนเซียออกมาช่วยจัดการ  ไม่คาดว่าจู่ ๆ พื้นดินก็สั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงจนต้นไม้ที่หล่อนยืนอยู่โยกคลอนอย่างรุนแรง

                โฮก!

                เสียงคำรามดังราวอัสนีบาตรที่ฟาดลงมาบนพื้นดิน  เธอรับรู้ได้ว่าต้นเสียงอยู่ไกลมาก  แต่กลับยังคงได้ยินชัดเจนแม้ห่างออกมา

                แรงลมหอบหนึ่งพัดพาแว่วเสียงคำรามนั้นให้ลอยผ่านไป  เจ้าตัวกินมดหลังไฟตกใจกลัวจนตัวสั่น  วิ่งเตลิดหายไปทันที

                เด็กสาวขมวดคิ้ว  ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้น  มองตามร่างของสัตว์อสูรที่หมายตาซึ่งวิ่งห่างออกไปอย่างเสียดายอยู่ลึก ๆ

    เธอกระโดดลงมายืนบนพื้น  ออกเดิมตามหาสัตว์อสูรต่อ

    โฮก!

    เสียงคำรามกึกก้องดังขึ้นอีกครา  คราวนี้พื้นที่เธอยืนอยู่สั่นเสียจนเซไปสองก้าว  ต้นไม้ทุกต้นไหวเอนจนเหมือนจะโค่นลงมาเสียให้ได้

    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพลัน  เหลียวแลซ้ายขวาด้วยท่าทีระวังภัย

    เสียงนั่น...ดูเหมือนจะใกล้ขึ้นกว่าเมื่อครู่มากทีเดียว...

                ลักซ์เม้มปาก  อารมณ์ดีกันยุ่งจนเลือกไม่ถูกเสียแล้วว่าควรทำสีหน้าเช่นใดดี

                เสียงคำรามมีพลังนัก  เกรงว่าหากได้พบเจอมันเข้า  เธอและกวางน้อยอาจไร้หนทางต่อกร

    ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่โผล่มาแถวนี้แหละนะ...

    คำภาวนายังไม่ทันจะจบดี  พลันเธอก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจของคนอื่นที่ไม่ใช่หล่อนกำลังเดินเข้ามาใกล้ทางด้านหลัง  ฟังจากเสียงย่ำเท้า  อย่างไรก็ไม่ใช่เสียงของรองเท้าที่เหยียบลงบนใบไม้

    แขกผู้มาเยือน  ส่งเสียงครางต่ำ  เป็นเสียงเดียวกับเจ้าเสียงคำรามสะเทือนฟ้าสะเอนดินก่อนหน้านี้ไม่มีผิด  นั่นยิ่งทำให้ร่างของหล่อนแข็งเกร็งขึ้นไปอีกระดับ

    อุ้งเท้าที่ย่างเข้ามาใกล้หยุดลง  ความเงียบปกคลุมบริเวณโดยรอบ  นอกจากเสียงหายใจแล้ว  ก็ปรากฎสุ้มเสียงอื่นใดอีก

    ลักซ์?

    การนิ่งเงียบของคนหน้าแสงทำเอาหล่อนฉงนยิ่ง  อาเรนเซียรู้แต่ว่ามีเสียงสัตว์อสูรคำราม  แต่เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ที่ด้านหลังของกายหยาบได้มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งปรากฏขึ้น

    นั่นนับเป็นข้อเสียอันใหญ่หลวงของอาเรนเซีย  สัมผัสทั้งห้าของเธออยู่สูงกว่าระดับปกติแค่เล็กน้อยเท่านั้น

    ลักซ์ไม่ตอบ  เธอกำลังสับสนอยู่นิดหน่อย  เจ้าอาคันตุกะด้านหลังไม่มีไอสังหารหรือออร่าความไม่เป็นมิตรใด ๆ ปรากฏออกมาเลย

    ทำไมมันถึงไม่ทำร้ายเธอ?  อย่างน้อยก็แค่คิด  แต่ทำไมถึงไม่มีเลย?

    หลังจากยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบชวนอึดอันอยู่พักใหญ่  นางก็ตัดสินใจหันกลับไปมองทางด้านหลังในที่สุด

    ดวงตาสีทับทิมของมันจ้องเขม็งมาที่ลักซ์  ต่างฝ่ายต่างนิ่งงันไม่ขยับ

    เด็กสาวสบตาของมันไม่วางตา  ใบหน้าอย่างเสือขาวอันมีเขี้ยวยาวโค้งพ้นปลายคาง  ตลอดร่างพิสุทธิ์มีประกายสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ  บนหลังคือปีกสีขาวสี่ข้างขนาดใหญ่  ปลายหางที่มีอยู่สามเส้นลุกโชนด้วยลูกไฟสีฟ้า  ร่างของมันสูงเกือบเท่าอกของเธอ  ความยาวรวมหางด้วยแล้ว  อาจมากถึงสองเมตรครึ่ง

    หล่อนเม้มปาก  เหงื่อเย็นไหลซึม  จ้องมองเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเขื่องตรงหน้าอย่างหนักใจ

    เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามันเกิดอยากโจมตีขึ้นมา  ศพของเธอจะมีสภาพไหน

    ตัวเองตายน่ะเธอไม่สนใจหรอก  แต่จะให้พากวางน้อยติดสอยห้อยตามไปเป็นคู่หูวิญญาณเร่ร่อนด้วยนี่...

    เธอลอบกลอกตาพลัน  นี่หล่อนชักจะไร้สาระเกินไปแล้ว

                หัวคิ้วของเธอย่นเข้าหากันเล็กน้อย  ต่างฝ่ายต่างยืนนิ่งไม่ไหวติง  ดวงตาคู้ใหญ่แวววาวราวทับทิมจับนิ่งอยู่บนร่างนางไม่ไปไหน

                มันส่งเสียงในลำคอก่อนสาวเท้าเข้าหา  ลักซ์เกร็งร่างทันใด  ในหัวเริ่มคิดคำนวณว่าหนีแบบไหนจึงจะมีโอกาสรอดชีวิตได้มากที่สุด

                เจ้าเสือหน้าตาประหลาดค่อย ๆ หยุดยืนหลังจากขยับใกล้เข้ามาประมาณเมตรหนึ่ง  มันค่อย ๆ ยอบศีรษะอันโตของมันลงอย่างแช่มช้า

                “...นายท่าน”

                น้ำเสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นเมื่อมันเปิดปาก  เธอชะงักกายพลันด้วยนึกอึ้ง

                สัตว์อสูรที่พูดได้...ส่วนใหญ่จะมีแต่พวกชั้นสูงเท่านั้น

                “นายท่าน...นายแห่งข้า”

                คำที่มันพูดนั้นคล้ายจะเจือไว้ซึ่งความเศร้าหมอง  หล่อนขมวดคิ้ว  พลันในหัวก็ปวดแปล๊บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ  ร่างกายเซวูบ  สองขาไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน

                โดยที่เธอไม่คาดคิด  เจ้าเสือตัวยักษ์พุ่งตัวเข้ามารับร่างของหล่อนไว้ได้อย่างทันท่วงที  ทำให้ร่างของกวางยังคงงดงามไร้บาดแผลเช่นที่ควรจะเป็น

                ประกายสายฟ้าที่แล่นอยู่รอบกายของมันไม่ได้สร้างอันตรายให้เธออย่างที่คิด

                ลักซ์ขมวดคิ้วแน่น  อาการปวดร้าวในศีรษะค่อย ๆ ทุเลาลง

                “นายแห่งข้า...”

     

     

                ลักซ์กลับออกจากป่าเป็นคนแรก ๆ ของกลุ่มเด็กในห้อง  โดยมีเจ้าเสือขาวยักษ์เป็นพาหนะแสนหรูหรา  ทำเอาทุกคนต่างมองมาตาไม่กะพริบ

                เธอเองก็ยังมึนงงอยู่เล็กน้อย  ว่าเพราะเหตุใดทุกอย่างจึงจบลงด้วยอิหรอบนี้

                หากมีคนเดินมาถามว่า  ได้เจ้าเสือนี่มาได้อย่างไร  เธอควรตอบว่าอย่างไรดีนะ?  มันเดินเข้ามาหาแล้วเรียกว่านายท่านหรือ?

                ให้ตายเถอะ  นางยังไม่แน่ใจเลยว่าพูดกับเด็กสามขวบแล้วเด็กจะเชื่อไหม

                อาจารย์ผู้ส่งเด็กไปลงนรก(?)มองเจ้าเสือตัวโตตาค้าง  อ้าปากกว้างจนกรามแทบจะหลุดลงไปกองกับพื้น  หน้าตาจึงได้ชวนให้คนมองขบขันยิ่ง

                นะ  นั่นมันมิใช่สัตว์อสูรในตำนาน  ไลกีอาร์หรอกหรือ!?

                ร่างของเขาพลันสั่นเทา  เหตุใดสัตวิอสูรระดับนี้จึงมาอยู่ในป่าหลังโรงเรียนได้?  นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย!

                ลักซ์ลอบมองท่าทีตื่นตะลึงของอาจารย์ผู้นั้นเงียบ ๆ  ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

                เจ้าเสือนี่คงไม่ธรรมดาจริง ๆ นั่นแหละ

                เธอกระโดดลงจากหลังของเจ้าเสือยักษ์  แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับนักเรียนคนอื่นที่ออกมาก่อนแล้ว  พวกเขาต่างมองมาที่สัตว์อสูรของหล่อนอย่างอิจฉาตาร้อน

                พวกที่ออกมาก่อนแล้ว  มีทั้งที่ได้ตัวที่น่าสนใจ  และพวกที่ได้สัตว์อสูรระดับพอใช้ได้  ยังไม่มีใครสักคนที่ได้ในระดับที่โดดเด่นจนเป็นจุดสนใจเท่าเธอ

                เจ้าเสือที่บอกว่าตนชื่อไลกีอาร์เดินเข้ามาใกล้เธอ  ทำให้สัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ถูกขั้นพลังที่ต่างกันกดดันจนตัวสั่นงนงก  บางตัวถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

                ลักซ์กลอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด  ชื่อของไลกีอาร์เธอเองก็เคยได้ยินมาบ้างตามนิยายอ่านเล่นของโลกนี้  และพอจะทราบว่ามันมีอยู่จริงในตำนาน  รูปร่างคล้ายกับที่อธิบายไว้ในหนังสือมาก  จะต่างก็มีแต่ขนาดตัวที่เล็กกว่าในตำนานถึงสี่เท่าตัว

                ทุกครั้งที่มีคนออกมาจากป่า  พวกเขาจะมองมาที่สัตว์อสูรของเธออย่างสงสัยใครรู้ก่อนทุกครั้ง  แล้วค่อยเลื่อนหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วใส่หล่อน

                มุมปากของเธอกระตุก  ไม่รู้เพราะเหตุใด  จู่ ๆ ใบหน้าอันหนาเตอะก็ให้สั่นคลอนไปหมดจนชักจะรู้สึก  อับอาย  ขึ้นมาหน่อย ๆ

                ชั่วโมงเรียนผ่านไปอย่างไม่มีอะไรให้สนใจ  เวลาหลายสิบนาทีที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้ลักซ์ได้ความรู้ใด ๆ มาประดับสมองเลยแม้แต่นิดเดียว

                เธอคืนการควบคุมให้อาเรนเซียทันทีที่กริ่งหมดคาบดัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×