ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Black Butler | OC] The crimson roses ชะตาสีเลือด [LIAR'S FATE SERIES #2]

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่10 คำเตือนจากมัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 719
      44
      29 พ.ค. 64

    บทที่10 คำเตือนจากมัน

                การปรากฏตัวอย่างกะทันหันพร้อมกรงนกที่เจ้านกดำนั่นสีเข้มกว่าครั้งก่อนมากทำแดริลถึงกับอึ้ง  เขาเดินออกมาจากหลังเคาท์เตอร์บาร์  จับเจ้าหล่อนหมุ่นไปหมุนมาเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหล่อนยังเหลือครบสามสิบสอง

                ...อันที่จริงมันก็ไม่น่าจะขาดหายไปได้หรอก  ก็แค่ตกใจเฉย ๆ น่ะ

                ใครจะไปคิดล่ะว่าหล่อนจะ เนื้อหอม ขนาดที่มันมาหาถี่ขนาดนี้น่ะ  ขนาดเขาที่เป็นคนวางแผนยังไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ

                ดูถูกไม่ได้จริง ๆ แฮะ

                หญิงสาวสะบัด  อากาศพลันฉีกออกปรากฏเป็นมิติสีดำขนาดประมาณลูกฟุตบอล  เธอเอื้อมมือเข้าไปคว้าเอากรงนกออกมาส่งให้แดริล

                เขารับมันมาส่องดู  อดอุทานไม่ได้

                “ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้มาเยอะกว่าทุกทีสินะ  สีเข้มขึ้นเยอะเลย”

                เธอพยักหน้า

                “ประมาณสามเท่า”

                ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย  แม้แต่เจ้านี่ที่แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนหน้านี้ถึงสามเท่าก็ยังทำอะไรหล่อนไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?

                เป็นเด็กที่...น่าสนใจ

                เขาเก็บกรงเข้าไปในช่องว่าง  หมุนตัวไปคว้าขวดไวน์มารินโลหิตสีแดงสดใส่แก้วส่งให้หญิงสาว

                “เธอเพิ่งจับมันได้เลยงั้นสิ?  แบบนั้นก็แปลว่า...”  แดริลลากเสียงยาว  ดวงตาปรากฏประกายหยอกล้อ  “เธอกำลังจะโดนลักหลับ?”

                ใบหน้าของอาเคร่ายังคงนิ่งเฉย  เธอจิบโลหิตสีสดเล็กน้อย  เหลือบตามองใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายหนุ่ม

                “ก็แค่อาหารมื้อดึก”

                เห็นอีกฝ่ายไม่รับมุกเขาก็เพียงไหวไหล่  หายเข้าหลังร้านไปก่อนกลับมาพร้อมอาหารให้แก่หญิงสาวกำลังหิวโซจากการเสียเลือดเป็นจำนวนมาก

                เธอทานอย่างเงียบ ๆ  แดริลรอจนหญิงสาวทานเสร็จจึงเอ่ยปากขึ้น

                “กรงนกก่อน ๆ ฉันส่งกลับไปที่นีกหมดแล้ว”  เขาพูดยิ้ม ๆ  “พอเห็นว่าส่วนใหญ่มีแต่พวกไม่เกี่ยวข้องอีกแล้วก็ต่างพากันโมโหใหญ่เลยล่ะ”

                หญิงสาวได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ

                “พวกเขาว่านายเหรอ?”

                แดริลยักไหล่  สีหน้าแสดงชัดว่าทำอันใดไม่ได้

                “แน่นอน  ก็เป็นหัวหน้านี่นา”  เขายังคงยิ้มอย่างสบาย ๆ  “พวกเขาบอกว่าในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าแต่กลับออกคำสั่งให้เธอโฟกัสกับภารกิจไม่ได้ถือเป็นความผิดพลาด”

                ชายหนุ่มไหวไหล่

                “ก็เลย...โดนงดไม่ให้เข้าร่วมการประชุมของเหล่าเบื้องบนจนกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น”

                อาเคร่านิ่งฟังพร้อมกับหลุบตามองฝ่ามือที่ผสานอยู่บนตักของตน  ใบหน้ายังคงไม่มีอารมณ์ใดแสดงให้เห็น  แม้แต่เสียงที่ใช้พูดก็ยังราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง

                "...ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้อะไรเลยก็ยังตัดสินผู้อื่นน่ะเหรอ?”

                “หืม?”

                แดริลร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ  หญิงสาวแม้จะพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ  ทว่าเพราะไม่มีปี่มีขลุ่ยเกินไป  เขาจึงรู้สึกตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย

                หญิงสาวเงยหน้าสบตาชายหนุ่ม  กล่าวไม่ช้าไม่เร็ว

                “หากพวกเขารู้จักที่จะหาข้อมูลว่าเหยื่ออย่างฉันเป็นอย่างไร  ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะไม่พูดแบบนี้”  เธอยื่นแก้วไวน์ไปข้างหน้า  ให้อีกฝ่ายช่วยรินโลหิตให้  “แต่แบบนี้ดูท่าคงไม่ได้รู้อะไรเลย  ไม่รู้ทั้งที่ว่าเหยื่ออย่างฉันนั้น ดีเกินไป  ไม่รู้ทั้งที่ว่ามันฉลาดอย่างไร”

                เธอหลุบตาลง  แต่เพราะใบหน้าไม่มีอารมณ์ใด ๆ ปรากฏอยู่เลย  มันทำให้เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอ่านอันใดอยู่กันแน่

                “เช่นนั้นจะเป็นความผิดของนายได้ยังไงล่ะจริงมั้ย?  นายไม่ใช่พระเจ้าเสียหน่อยที่จะทำได้ทุกอย่าง”

                เขาเลิกคิ้วสูง  ในดวงตาฉายชัดว่ากำลังตกใจ

                “นี่เธอ...กำลังเป็นห่วงฉันเหรอ?”

                อาเคร่าได้ยินแล้วก็เอียงคอ  ก่อนโคลงศีรษะ

                “ไม่รู้สิ  คงอย่างนั้นล่ะมั้ง?”

                เขาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะ

                “มีสาวสวยมาห่วงใยเนี่ยทำให้รู้สึกดีจังน้า”

                เธอเพียงจ้องมองเขาตรง ๆ โดยไม่พูดอะไร  ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็ยกมือยอมแพ้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  ในสายตาเต็มไปด้วยแววหยอกล้อ

                “อย่างไรก็เพื่อนร่วมงานนี่นะ”

                ชายที่กำลังรินเครื่องโลหิตให้หญิงสาวชะงักไปจังหวะหนึ่งก่อนจะหัวเราะแล้วรินต่อ

                อาเคร่าดื่มจนหมดค่อยวางแก้วและลุกขึ้นยืน

                “ขอบคุณสำหรับอาหาร”

                แดริลโบกมือ

                “ราตรีสวัสดิ์  คุณหนูอาเคร่า”

                ร่างที่กำลังเปิดประตูชะงัก  มองคนที่กำลังยิ้มเป็นเชิงหยอกล้อให้ตนอย่างเฉยชา  กระนั้นก็ยังพยักหน้าน้อย ๆ กับชายหนุ่ม

                “ราตรีสวัสดิ์”

                ปึง

                เขามองดูบานประตูปิดลงโดยไม่กล่าวคำใด  รอยยิ้มที่เคยมีค่อย ๆ จางลงอย่างช้า ๆ  ดวงตาทอประกายครุ่นคิดบางเบา

                ความเงียบโรยตัวอยู่ครู่หนึ่งก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ ของชายหนุ่ม

                “เป็นเด็กที่แปลกจังแฮะ”

                ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ดีแท้ ๆ ว่าเขาเป็นใครแต่ก็ยังจะห่วงใยกันอยู่  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีความรู้สึกจึงไม่ได้คิดอะไรหรือเพราะเป็นเด็กดีเกินไปกันแน่

                “...ฮ่ะ ๆ”

                ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็น่าสนใจทั้งนั้นแหละ

     

     

                “...ทำไมถึงมาอยู่ที่ห้องฉันได้?”

                อาเคร่าถามขึ้นเมื่อพบว่าภายในห้องพักของตนนั้นมีคนอื่นกำลังยึดเตียงของเธออยู่  แวมไพร์หนุ่มที่นอนเอกเขนกดีดตัวขึ้นนั่ง  อ้าปากพลางบ่น

                “ช้าชะมัด  ฉันเกือบจะหลับอยู่แล้วเนี่ย”

                เธอไม่ได้สนใจที่เขาไม่ตอบคำถามตน  เพียงจ้องมองเงียบ ๆ เท่านั้น

                อัลยกมือยอมแพ้  พยักเพยิดไปทางนอกหน้าต่าง  หญิงสาวจึงเดินไปชะโงกหน้าดู  พบว่ามีซากศพของปีศาจนับร้อยตายเกลื่อนเต็มพื้นจนแทบมองไม่เห็นหญ้าด้านใต้

                “อยู่ดี ๆ พวกปีศาจก็ดันคลั่งขึ้นมาแล้วตรงมาที่นี่  ฉันเลยคิดว่าเธอคงทำตัวเองเลือดออกอีกแน่เลยตามมาดู”  เขาพูดด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย  “นอกจากจะหาตัวเธอไม่เจอแล้วยังต้องมาจัดการเจ้าพวกนั้นแทนเธอเพื่อกันไม่ให้พวกมันฆ่าคนในคฤหาสน์อีก  ทั้ง ๆ ที่นั่นไม่ใช่หน้าที่ฉันเลยแท้ ๆ  ให้ตาย”

                หญิงสาววาดมือ  กลุ่มก้อนเหนียวหนืดสีดำอมม่วงพลันพุ่งเข้ากลืนกองศพเหล่านั้นจนหายสิ้นในพริบตา  เธอมองไปทางคนที่ทำหน้าเซ็งอยู่บนเตียง  น้ำเสียงเฉยชาสุดประมาณ

                “หากไม่ทำภารกิจก็ล่ม  ดังนั้นที่นายทำก็สมควรแล้ว”  เธอพูดพร้อมกวาดตาดูสภาพห้องที่เรียบร้อยดีทุกประการก่อนดึงผ้าม่านปิด  “อีกอย่าง  ฉันไม่ได้ทำตัวเองเลือดออก  โดนโจมตีจนบาดเจ็บต่างหาก”

                “นั่นก็ทำให้เลือดออกเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?”

                อาเคร่าคร้านจะต่อล้อต่อเถียงจึงเพียงเดินหายเข้าห้องน้ำไป

                เสียงของน้ำที่หล่นลงกระทบพื้นดังลอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ  เขาพลันกลอกตามองฟ้าเมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่เพียงเมินเขา  แต่ยังกล้าเข้าไปอาบน้ำทั้ง ๆ ที่มีผู้ชายนั่งทนโท่อยู่นี่ทั้งคน  ซึ่งนั่นออกจะไม่ถูกต้องเสียเท่าไหร่...ไม่สิ  มันแย่เลยต่างหาก

                ทว่าก็นั่นแหละ  จะให้ไปสอนเรื่องชายหญิงกับอันเดธที่โดนริบความรู้สึกนึกคิดเนี่ยนะ?  นั่นมันโง่พอ ๆ กับการพยายามที่จะสอนเป็ดให้บินได้แบบนกนั่นแหละ

                “ทำไมเธอถึงบาดเจ็บได้?”

                เขาเร่งเสียงเล็กน้อยเพื่อที่จะให้คนในห้องน้ำได้ยิน  ไม่ได้กังวลสักนิดว่าจะมีใครได้ยินเสียงของตนหรือไม่  เพราะตั้งแต่เขามาที่นี่เขาก็ลงเวทไว้โดยรอบคฤหาสน์นี้แล้ว

                “เจ้านั่นมามาฉัน”

                “หา?”  เขาทำหน้าไม่เชื่อ  “ฉันไม่คิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตตนไหนในมิตินี้ทำอันตรายเธอได้นะ”

                “ก็ใช่”  เธอตอบ  “แต่มันดันสิงร่างคนอื่นมานี่สิ  เลยประมาทไปหน่อย”

                อัลเลิกคิ้ว  วิญญาณที่เคยลงนรกโดยส่วนใหญ่ไม่อาจเข้ากันได้กับกายหยาบแม้จะเป็นเพียงการสิงสู่ชั่วขณะหนึ่งก็ตาม  ความจริงที่ว่ามันสิงร่างคนอื่นเพื่อเข้าทำร้ายอันเดธหน้าตายผู้นี้จึงเป็นอะไรที่น่าแปลกใจไม่น้อย

                “นายมาหาฉันแค่เพราะเรื่องนี้น่ะเหรอ?”  อาเคร่าที่เงียบไปนานถามขึ้น  เสียงน้ำหยดดังเป็นระลอก ๆ  “นั่นไม่สมกับเป็นนายสักนิด”

                ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้

                “อะไรที่ว่าไม่สมกับเป็นฉันไม่ทราบ หืม?”

                ซ่า!

                เสียงน้ำดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงคล้ายคนกำลังลุกขึ้นจากอ่างน้ำ  อัลอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงรูปร่างของหญิงสาวในยามที่ไร้อาภรณ์โดยที่หน้าไม่แดงใจไม่สั่น  เพียงโคลงศีรษะไปมาแล้วพึมพำในใจ

                เป็นแค่เด็กที่ยังไม่ทันจบม.ปลายแท้ ๆ  โตเร็วชะมัด

                แน่นอนว่าคนในห้องน้ำรู้ไม่เท่าทันความคิดของแวมไพร์หนุ่ม  หรือบางทีอาจจะรู้  แต่แค่ไม่เก็บเอามาใส่ใจก็เท่านั้น

                “นายไม่ใช่คนใจดี  อย่างน้อยก็กับฉัน”

                เมื่อได้ยินคำตอบ  แวมไพร์หนุ่มพลันยิ้มกว้างจนตาหยี  หัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ

                “รู้ด้วยเหรอ?”  เขาพูดเสียงสั่นด้วยยังไม่อาขหยุดหัวเราะได้  “ใช่  ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะแค่เรื่องเธอหรอก  แต่แค่จะมาบอกว่ามันก็มาหาฉันเหมือนกัน”

                เสียงในห้องน้ำหยุดลงครู่หนึ่งก่อนที่ประตูจะเปิดออก  ร่างระหงที่พราวด้วยหยดน้ำกับชุดลำลองสีขาวก้าวออกมาอย่างแช่มช้า  หยดน้ำไหลลงมาตามเส้นผมทิ้งรอยด่างไว้บนพื้น

                “มันไปหานาย?”

                อัลพยักหน้า

                “ทั้งฉันทั้งเจ้าหมาป่าเฒ่านั่น”

                หญิงสาวชะงัก  จ้องมองดวงตาสีดำตัดเขียวของอีกฝ่ายคล้ายกำลังค้นหาประกายโกหกข้างในนั้น  น่าเสียดายที่มันไม่มีอยู่เลยสักนิด

                “เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปหาแดริลมา  เขาไม่เห็นพูดถึงเลย”

                “ก็ตามสไตล์เจ้านั่นนั่นแหละ”

    อัลกล่าวอย่างไม่ยีหระ  เอนตัวนอนเอกเขนกอย่างไม่คิดจะแบ่งเตียงให้เจ้าของห้องเลยแม้สักนิด  หญิงสาวเห็นเช่นนั้นจึงจำต้องเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้ากระจก

    “เกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

    เขาเหล่ตามองคนที่นั่งเช็ดผมอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าครุ่นคิด  ในใจกำลังเดาว่าหากอีกฝ่ายมีความรู้สึก  ในตอนนี้หล่อนจะรู้สึกอย่างไรอยู่

    “ก็ไม่มีอะไรมาก  แค่อยู่ ๆ ก็มาปรากฏตรงหน้าแล้วก็โจมตีแบบกะเอาให้ตายครั้งหนึ่ง  เสร็จแล้วก็ทิ้งท้ายว่าอย่ายุ่งกับอาหารของมันแล้วก็หายไปเลย”  เขาพูดถึงตรงนี้  ใบหน้าพลันฉายประกายหงุดหงิด  ดึงหน้ากากกันแก๊สลงพร้อมทำเสียงจึ๊กจั๊ก  “น่าเสียดายที่ทั้งฉันทั้งตาเฒ่านั่นจับมันไม่ได้สักคน”

    อาเคร่าไม่ได้ตอบ  ดวงตาของเธอหลุบต่ำอย่างครุ่นคิด  ศีรษะเอียงน้อย ๆ

    “อาหาร...หมายถึงฉันสินะ”

    เขายักคิ้ว

    “แน่นอน  ที่น่าอร่อยที่สุดในมิตินี้ก็มีแต่เธอนั่นแหละ”  อัลพูดพลางเลียปาก  ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยยังมองไปทางร่างขาวซีด  “ขนาดฉันยังอยากกัดสักคำสองคำ”

    เธอมองเขา  สายตาเฉยชาคู่นั้นเหมือนกำลังถามว่าเขากล้าหรือ?

                ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้น  ไม่คิดต่อล้อต่อเถียง

                “...ในเมื่อมันก็บอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับฉันอีก  แต่นายดันมาโผล่อยู่ในห้องฉันแบบนี้เนี่ย...”  เธอพูดพลางปรายตามองคนที่ยึดเตียงตนอย่างสมบูรณ์นิ่ง  “...ไม่กลัวตายหรือไง?”





                 ใครที่เผลอคิดไปว่าการที่อัลโดนเจ้ร่าอาบน้ำอัดหน้า(?)จะทำให้พี่แกเขินนั้น  เสียใจด้วยค่ะ ท่านคิดผิด  เพราะเห็นหน้าใส ๆ แบบนี้พี่แกอายุอานามก็เป็นร้อยแล้วเหมือนกัน  ดังนั้นแค่โดนสาว ๆ อาบน้ำให้ฟังเนี่ยจิ๊บ ๆ 555

                 Enjoy!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×