คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Moon Number.4
Moon Number.4
<That little Bird>
จันทราเจ้าเอย..
นกน้อยตัวนั้น
วาเรียมีปัญหา
สัญญาณมันเริ่มตั้งแต่การเดินทางเร่งด่วนจากอิตาลีมาญี่ปุ่น
ผู้พิทักษ์บางคนแยกตัวหายไปทันมีเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
เอกสารน่าสงสัยที่ปะปนกันจนชวนหงุดหงิด
แต่เธอช่วยอะไรไม่ได้เลย แถมยังถูกทิ้ง.. ใช่ ถูกทิ้ง ลุสซูเรียอุ้มโย้ปลอบใจเธอก่อนโยนเด็กหญิงไว้กับรีบอร์น
ที่มารีอยากจะร้องไห้ดังๆ คืออัลโกบาเรโน่คนนั้นโยนเธอไว้กับใครไม่รู้อีกต่อหนึ่ง
.
.
.
"ผมไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก"
"ไม่รับฟัง"
ประโยคแรกมาจากพี่ชายหน้าตาเย็นชา.. ถึงแม้จะเรียกพี่ชาย แต่อายุจริงมารีอาจจะมากกว่าหรือพอกัน ซึ่งวิญญาณร่างเด็กหญิงเมินข้อนั้นไป
ประโยคปฏิเสธที่ตามมาคือเสียงของทารกต้องสาปแห่งอรุณผู้ส่งต่อเธอให้คนแปลกหน้าก่อนจะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย
...ถูกทิ้งโดยสมบูรณ์
"คุณ"
มารีแหงนหน้ามอง
"คะ?"
"เป็นตัวอะไร"
มารีกำกระโปรงแน่น แก้มอมลมปลอมๆจนพองกลมเลียนแบบกระรอก ตัวอะไร? ทำไมหยาบคาย! เธอกำลังหงุดหงิดเรื่องปะป๊าอยู่ต้องมาเจอคนแบบนี้เหรอ!?
เด็กหญิงฮึดฮัดหันหลังเดินออกไปจากห้องรูปแบบญี่ปุ่นสมัยดั่งเดิม โดยมีเจ้าของห้องนั่งไร้ความรู้สึกมองตาม พอเห็นแผ่นหลังหายวับไปกับประตู ฮิบาริ เคียวยะ ก็ก้มหน้าทำงานตัวเองต่อ
"คุณเคียวครับ…"
"ปล่อยไว้นั่นแหละ"
"..ครับ"
ร่างโปร่งแสงนั่งคุกเข่าก้มหน้ามองพื้นเสื่อทากามะด้วยความสำนึกผิด ลืมว่าตนเองเป็นกายจิตที่แค่ไม่โดนแสงตะวันใครๆ ก็มองเห็นได้ เพราะบ้านหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ ร่มไม้ก็มาก พอจะเป็นเงาให้หลบแสง..
มีคนโวยวายแถมสลบไปอีก
รู้แบบนี้พลางตัวก่อนออกจากห้องไปก็ดี.. กระนั้นออกไปก็ไม่รู้จะทำอะไรหรือไปไหนอยู่ดี สุดท้ายก็หาคนที่ดูมีสติดีในบ้านพาเธอกลับมา
มารีเพิ่งได้รู้ชื่อของพี่ชายผมดำ คุณเคียว อย่างนั้นเธอจะเรียกเขาว่าพี่เคียว เพราะอีกฝ่ายไม่บอกชื่อเธอเอง
น่าเบื่อที่สุดตั้งแต่คุณพ่อตาย
นี่คือการฝึกสมาธิสินะ? มารีกระพริบตาปริบๆ มองคนขยันที่ทำงานยาวมาสองชั่วโมงเต็มๆ หลักฐานคือเข็มนาฬิกาที่วนครบสองรอบวงกลม เธอนั่งนิ่งเหม่อลอยออกไปไกลยันเมนูที่อยากกินในชาติหน้าแล้ว
ถ้าเด็กหญิงยังมีกายหยาบ คงจะตะคริวกินขาไม่เหลือ
เข้าช่วงบ่ายแล้ว
พี่เคียวนั่งทำงานต่อไป มารีสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายงานเยอะจัง ทั้งที่น่าจะเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย เอกสารยังเหลืออีกตั้งหลายสิบใบ
วิญญาณตัวน้อยขยับตัวหลังอยู่นิ่งมานาน เดินเตาะแตะไม่มีเสียงไปทางเด็กหนุ่ม ไล่สายตามองดูเนื้อหาในเอกสาร
แต่ประเดี๋ยวก่อน
ถึงเธอจะไม่เคยได้ไปโรงเรียนแบบปกติอย่างใครเขา ทว่างานพวกนี้ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ควรอยู่ในมือเด็กนักเรียกหรอกนะ
เอาเป็นว่ามารีจะทำเป็นไม่เห็น
ร่างเล็กกำลังเดินไปมารอบห้อง สำรวจไปเสียทุกซอกทุกมุม พี่เคียวคนนั้นไม่ว่าอะไรทั้งที่ดูเป็นคนขี้รำคาญ อาจเพราะเธอไม่ได้เสียงดังรบกวน
จะว่าไปเทียบกับวาเรียแล้ว ที่นี่สงบอย่างกับป่าช้า
‘นามิโมริ~ ของเราน่าอยู่~ ไม่ใหญ่ไม่เล็กกลางๆแหละดี…’
มารีหันตามเสียงเพลง มันเป็นเสียงเล็กๆ แหลมๆ ..แล้วเธอก็พบที่มาของมัน ...เจ้าลูกเจี๊ยบ ไม่สิ นกน้อยสีเหลืองตัวกลมปุ๊กลุกมีปีกน้อยๆ กำลังบินเข้าห้องทางช่องว่างของประตูห้อง ร่อนถลาตรงไปหย่อนร่างน่าบีบบนศีรษะของพี่เคียว
เด็กหญิงใจกระตุก
ว่าไปนั้น เธอมีหัวใจเสียที่ไหน
มือซีดยกขึ้นกุมหน้าอก ดวงตาระยิบระยับเปล่งประกาย ภายในหัวเต็มไปด้วยคำว่า น่ารัก
น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก
น่ารักเกินไป!
มารียังเป็นเด็กผู้หญิง เธอชอบสัตว์ตัวเล็กน่ารัก แล้วเจ้านกน้อยตัวนั้นก็ทำเธอรู้สึกอยากจับมาบีบมาฟัดมากๆ!
ดวงตากลมสองคู่ระหว่างหนึ่งวิญญาณและหนึ่งนกน้อยสบประสานเข้าหากัน
มารีเอียงหัวไปทางซ้าย
เจ้าก้อนขนสีเหลืองเอียงตัวตามน้อยๆ
พอเด็กหญิงเอียงไปทางขวาบ้าง
มันก็ทำตามเธอ
แก้มกลมยกขึ้นเพราะรอยยิ้มกว้าง เจ้านกน้อยร้องเพลงต่อ มารีลองตั้งใจฟัง เธอลืมสิ้นความรู้สึกน่าเบื่อ
จากฟังอย่างเดียวเป็นฮัมเพลงตาม จากฮัมเพลงตามกลายเป็นร้องประสานกัน
‘..เธอกับฉันเจอกันในโรงเรียนนามิโมริ
เรื่องธรรมดา ดาดๆ นี่แหละดี
เราอยู่ด้วยกันเสมอ
เด็กๆขยันขันแข็ง
..อา..
เราเดินไปด้วยกัน…’
มารีหัวเราะคิกคัก สนใจเพียงเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ส่วนอีกหนึ่งบุคคลในห้องนั้นเหมือนเธอจะลืมไปเสียสนิท
ฮิบาริ เคียวยะจัดการเก็บเอกสารเสร็จมาสักพักแล้ว สายตาคมปลาบจดจ้องเด็กที่ถูกรับฝากให้ดูแล ยากนักที่จะคาดเดาอารมณ์
มารีเป็นเพียงวิญญาณ เป็นเพียงเด็ก เธอทำให้เขาสนุกไปกับการต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอคล้ายฮิเบิร์ด ไม่น่ารำคาญ อยู่ด้วยแล้วไม่มีปัญหาอะไร พออยู่เฉยๆแล้วก็ไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่แน่อาจจะมีประโยชน์มากกว่าที่เห็น
กรรมการคุมกฎแห่งนามิโมริเกลียดสัตว์กินพืชที่ชอบสุมหัวกัน เกลียดความวุ่นวายและเสียงดังที่น่ารำคาญ ในตอนนี้มารีคือข้อยกเว้น ไม่มีข้อไหนที่ขัดกับกฎของเขา
เป็นสัตว์เล็กที่จะเก็บไว้ใกล้ตัวก็ไม่เสียหาย
ในขณะที่เด็กหญิงเพลิดเพลินไปกับคุณนกของเธอ เจ้าของก้อนกลมมีปีกก็นั่งมองเธอนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
ฮิเบิร์ดก็สนุกสนานกับเพื่อนใหม่ของมัน
.
.
.
"ขอบคุณที่ช่วยดูแลให้"
พอฟ้ามืด อัลโกบาเรโน่เดินทางมารับมารีด้วยตัวเอง แน่นอนว่าทางฝั่งวาเรียคงหัวหมุนจนแยกตัวออกจากงานไม่ได้
"ขอบคุณนะคะพี่เคียว!"
เจ้าของชื่อก้มมองวิญญาณเตี้ย เธอคงเรียกตามคุซาคาเบะเพราะไม่รู้จักเขา แต่ฮิบาริก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่กระตุกยิ้มแล้วหันหลังกลับเข้าบ้าน
ฮิเบิร์ดกระพือปีกน้อยพั่บๆ อำลาเป็นครั้งสุดท้าย มารีก็โบกมือตามไปก่อนจะแยกกัน
ร่างสูงโปร่งในชุดยูกาตะสีทึบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตั้งค่า อัพโหลดเพลงรอสายใหม่ที่เพิ่งได้มา
‘โรงเรียนนามิโมริของเราน่าอยู่~
ไม่ใหญ่ไม่เล็ก กลางๆแหละดี
โรงเรียนของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เด็กๆขยันขันแข็ง..อา...
มาร้องเพลงด้วยกัน
โรงเรียนนามิโมริ~
ยามเช้าสดใสของนามิโมริ ~
ธรรมดาเรียบๆง่ายๆแหละดี
ไม่ต้องหนักใจ
เด็กๆขยันขันแข็ง
ฮะฮา..
มาหัวเราะด้วยกัน
โรงเรียนนามิโมริ~
เธอกับฉันเจอกันในโรงเรียนนามิโมริ~
เรื่องธรรมดา ดาดๆ นี่แหละดี
เราอยู่ด้วยกันเสมอ
เด็กๆขยันขันแข็ง
..อา..
เราเดินไปด้วยกัน
โรงเรียนนามิโมริ~’
เป็นเสียงของเจ้าฮิเบิร์ดที่ร้องปกติ.. ทว่ามีสำเนียงใสเจื้อยแจ้วแทรกเข้ามาคลอตาม
"ผีก็อัดเสียงได้สินะ"
ในอีกด้าน มารีก็กำลังโทรหาพี่ชายฉลามเงิน
[ถึงไหนแล้ว! ข้าวเย็นจะกินไหม!]
"ใจเย็นนะคะพี่ชาย ขออีกห้านาที~"
[เออ! เร็วๆ!!]
ตอนนั้นเองที่นึกขึ้นได้
"สื่อสารผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้แบบสัญญาณไม่เสียแล้วแหะ"
วิญญาณก็คือวิญญาณ คลื่นไฟฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านั้นมักมีผลต่อเธอ เช่นเวลาส่งเสียงผ่านมือถือ บางครั้งก็ก็กลายเป็นเสียงหวีดร้องหรือเสียงคลื่นวิทยุ หลายครั้งที่ไม่มีใครรับสายเด็กหญิงเพราะกลัวจะปวดหู
คงจะควบคลุมคลื่นความถี่ของวิญญาณได้แล้ว
ในตอนที่อยู่กับคุณพ่อ เธอไม่เคยสื่อสารผ่านเครื่องมือจึงไม่คิดสนใจ เพิ่งมาฝึกสมัยอยู่กับวาเรียนี่เอง
(เป็นโชคดีของฮิบาริ เคียวยะ ที่ได้เสียงใสๆ แทนเสียงหวีดร้อง)
☽☽☽
ความคิดเห็น