ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7] JJ Factors - เจเจแฟ๊กเตอร์ [SF/OS][Bnior][BNyoung]

    ลำดับตอนที่ #16 : [SF] Casino Royal [BNior] Encore update+spacial 150%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.54K
      9
      4 พ.ย. 60



    [SF] Casino Royal [BNior] Encore






     

    ณ. ห้องแห่งหนึ่งที่มีผนังสีขาวเรียบทั้ง 4 ด้าน  ทางเข้ามีผ้าลินินสีขาวผืนใหญ่ขึงไว้ต่างม่านแทนบานประตูที่ชำรุดและถูกถอดออกไปซ่อมแซม 

     

     

    "อ๊ะ....อ๊ะ....อ๊ะ....อือออ"

     


    "พะ..พะ ..พี่จินยอง อย่าทำอย่างนี้สิครับ"

     


    "อ่า.. ยองแจ..ผิวนายขาวดีเหลือเกิน จับตรงไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด"

     


    "ยะ อย่า...ตรงนั้น... อื้อ....พี่จินยอง...ผม....เจ็บ"

     


    "อดทนอีกนิดนะยองแจ  ...เด็กดี  พี่จะเร่งให้เสร็จไวๆ"

     


     

    "เฮ้ย!! พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่เนี่ย" เสียงทุ้มเข่นเขี้ยวรอดไรฟันดังมาก่อนเจ้าของร่างสูงหล่อกำยำในชุดสูทสุดเนี๊ยบเจ้าของคาสิโนใหญ่จะปรากฏกายออกมา  เดาว่าเขาคงแอบฟังคำสนทนาข้างต้นอยู่ก่อนแล้วสักพัก

     


    "อ่าว พี่แจบอมนี่เอง  มีธุระแถวนี้เหรอครับ ตะวันยังไม่ตกดินเลยนี่นา"  ร่างขาวอวบของยองแจ หรือก็คือน้องชายของเขาถูกคลุมไว้ด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ชวนจินตนาการถึงบทพูดตอบโต้ของคนสองคนตรงหน้าอย่างน่าแคลงใจให้สงสัย 18+

     


    "อยากรู้อะไรก็ถามได้นะครับ" ชายหนุ่มผู้มีชื่อในบทสนนาข้างต้นอีกคนรีบออกตัว ใบหน้าหวานอมยิ้มเต็มแก้มประดับด้วยรอยแนวเป็นขีดๆคล้ายหนวดแมวน่ารัก ในชุดเสื้อเชิตสีฟ้าคอจีนปล่อยชายยาว กับกางเกงชิโน่สีน้ำตาลอ่อนใส่สบาย  

     


    "พวกนาย...ไม่ได้...เอ่อ..." อิม แจบอมนึกอายตัวเองที่จินตนาการเตลิดไปไกล  ด้วยในห้องที่อุส่าห์ลุยผ่านม่านผ้าสีขาวคละฝุ่นเข้ามาไม่ได้มีอะไร นอกจากไฟสตูดิโอ 3 ดวงใหญ่จัดวางเป็นมุมสามเหลี่ยม กับเก้าอี้นั่ง โต๊ะเล็กๆสำหรับใช้วางของมีโนทบุ๊คอยู่บนนั้น แล้วก็กล้องถ่ายรูประดับโปรฯพร้อมแฟลชและขาตั้งกล้องอย่างดิบดี

     


    "กำลังถ่ายบัตรเชิญเข้างานครับ  ผมอยากได้ภาพนู๊ดอาร์ตๆหน่อยให้เข้ากับธีมหอศิลป์ เลยมัดมือชกยองแจมาเป็นนายแบบ  ได้ข่าวว่าเขาก็ต้องรับผิดชอบงานเปิดตัวคาสิโน รอยัล นี่เหมือนกัน"

     


    "อืม ก็ใช่ แต่ใช้นายแบบเป็นเจ้าหมูอ้วนนี่ไม่เห็นมีดีอะไรเลย  ก็แค่ขาว  กล้ามเกิ้ม ก็ไม่มี  แถมตัวก็กลมเป็นปล้องแหนม ให้พี่เป็นแบบแทนไม่ดีกว่าเหรอจินยอง" คนตัวสูงเดินเข้าหาตากล้องกิตติมศักดิ์ แล้วเอามือนวดไหล่ไปจนถึงบีบต้นคอให้คนตัวเล็กอย่างเป็นธรรมชาติ  ร่างบางตอบรับหลับตาพริ้มเคลิ้มไปทันทีราวกับถูกโจมตีจุดอ่อน

     


    "จริงด้วย พี่แจบอมทั้งหล่อล่ำ กล้ามโต พี่จินยองจะได้ไม่ต้องถ่ายไป บิดแก้มผมไปยังงี้  เจ็บชมัด" อีกคนได้ที ฟ้องพี่ชายตัวเองรัวๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่อารมณ์ว่าโกรธเป็นจริงเป็นจังอะไร

     


    "ก็ยองแจน่ารักไง  ส่วนคุณแจบอมผมไม่ให้มาเป็นนายแบบหรอกครับ" ดวงตาหวานฉ่ำแวววาวขึ้นหลังจากเปลือกตาสีมุกเปิดขึ้นมามองคู่สองพี่น้องหน้าตาดีถกถียงกัน

     


    "ทำไมอ่ะ?" ยองแจที่ปากไวกว่าถามออกไปทันที  ในขนาดที่แจบอมเองก็สงสัย

     


    "หวง"

     


    " ฉ่า  -////- " พบคนหน้าแดง 2 อัตรา  จินยองกัดริมฝีปากพร้อมกับพลิกตัวมามุดหน้าซุกไหล่หนาของคนที่กำลังยืนนวดซ้อนหลังเขาอยู่ 

     


    ฝ่ายคนตัวโตรีบก้มลงหอมหัว ฟัดแก้มคนตรงหน้า  ลำแขนใหญ่โอบคนน่ารักจมไปกับอ้อมอกกว้าง  ยองแจได้แต่มองบน

     


    "จ้า  หวานกันเข้าไป  ตอนนี้ผมคงไม่มีความหมายแล้วสินะ"

     


    ...ตามนั้น  คือสิ่งที่ยองแจคิดได้ เมื่อหันไปสบตาคนพี่ที่ยักคิ้วมาให้อย่างเย้ยหยันน่าโมโห  ขนาดกระทืบเท้าเสียงดังเดินฟึดฟัดออกจากห้องไป ก็ไม่มีทีท่าว่าสองคนนั้นจะหันกลับมาสนใจเขาสักนิดเลย  ฮึ่มมม.  อย่าให้ยองแจมีแฟนมั่งนะ จะหวีดให้ลืมโลกไปเลย

     


    "คิกๆ  แกล้งน้อง" ลูกแมวในอ้อมแขนแกร่งเงยศีรษะ คนตัวเล็กใช้ริมฝีปากนิ่มถูไถรอบกรอบใบหน้าคมและคางสาก   ออดอ้อนได้น่ารัก จั๊กจี้ จนเจ้าของทนไม่ไหว ต้องถูกประคองปลายคางเนียน ริมฝีปากนุ่มให้อยู่นิ่งอยู่กับที่ แล้วมอบจุมพิษมากเทคนิคสูบวิญญาณให้

     


    จนเจ้าลูกแมวโดนมอมเมาด้วยรสจูบวาบหวามช่ำชอง  รู้สึกวูบวาบไปทั้งร่างจนไรขนอ่อนตั้งชัน  ริมฝีปากอิ่มตึงสีสวยถูกประกบบดเบียดจนแทบหมดลมหายใจลง หยาดน้ำใสคลอเอ่อรื้นรอบดวงตาฉ่ำหวานดูน่าขยี้ยำยีเป็นที่สุด 

     


    ปล่อยให้คนรักสูดหายใจกอบโกยอากาศเข้าปอดจนสำลักหน้าแดง  นึกเอ็นดูทุกท่าทางจนอดยิ้มตามไม่ได้ ให้ตายเถอะ อิม จินยองทำไมน่ารักได้มากมายขนาดนี้  ตาคมแอบตวัดหลบสายตาทำไม่รู้ไม่ชี้เมื่อโดนคนรักถมึงตาใส่ที่ไปแกล้งเขา  แต่คนน่ารังแกก็ยังคงน่ารังแกอยู่วันยังค่ำ เมื่อกล้องถ่ายรูปที่ตั้งอยู่กลางห้องเข้ามาอยู่ในระยะมองเห็น

     


    "จินยองจะรู้ไหมน๊า ว่าเมื่อก่อนพี่ก็ชอบถ่ายรูป" ร่างหนาเดินไปปลดกล้องโปรฯพร้อมเลนส์บ้องโตแสนหนักออกจากขาตั้ง ใช้เพียงมือข้างเดียวคว้ามันขึ้นมาจรดใบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวจ้องมองคนรักผ่านช่องมองภาพขนาดเล็ก แถมหรี่ตาที่เรียวเล็กอยู่แล้วจนกลายเป็นเส้นโค้งขีดเดียวดังจันทร์เสี้ยว พร้อมกับยกยิ้ม  มือที่ว่างอีกข้างก็หมุนปรับโฟกัสเลนซ์จนได้ระยะ ท่าทางทะมัดทะแมงประหนึ่งช่างภาพมืออาชีพ

     


    "ยิ้มหน่อยสิครับ นางแบบ" เสียงทุ้มออกคำสั่ง ทำให้ร่างบางขัดเขิน เหรอหราไปต่อไม่ถูก

     


    "ตั้งใจโพสท่าดีๆนะ  สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรมากกว่านี้"

     


    โอยย แค่โทนเสียงแหบพร่า และคำพูดว่าจะไม่ทำอะไรมากกว่านี้ของคนพี่  แต่ตอนนี้จินยองอดที่จะคิดไม่ดีไม่ได้เลยหน่ะสิ  ก็พอคุณแจบอมได้ลองจับกล้อง สายตาก็เปลี่ยนไปจากตอนแรกเลยนี่นา  สายตาของคุณเขาตอนนี้มันแบบว่า  ... แบบว่าคนรักกำลังต้องการครอบครอง กลืนกินจินยองเข้าไปยังไรอย่างนั้น.....งื้อออ....แก้มร้อนไปหมดแล้ว

     

     

     

    **********

     

     

     

    "โอ๊ะ คุณแจ๊คสันอย่าเพิ่งเข้าไปครับ" ยองแจรั้งร่างหนาของผู้จัดการฝ่ายทรัพย์สินไว้ได้หน้าประตูของคาสิโนแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่งทาสี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์  ออกแรงลากนิดหน่อยร่างที่ดูใหญ่โตกว่าก็ติดมือออกมายังมุมหนึ่งของลานจอดรถที่อยู่ถัดไปจากตัวอาคารในตอนแรกไม่ไกลนัก

     


    "มีงานด่วนอะไรเหรอครับ? อีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงพี่แจบอมก็จะเข้าไปทำงานที่แกรนด์คาสิโนอยู่แล้วนี่นา"

     


    "เอ่อ..." แจ๊คสันอึกอักเล็กน้อย  เพราะเจ้านายสั่งมาว่าหากมีความเคลื่อนไหวเรื่อง "เทศกาลชมดอกไม้ฯ" เมื่อไหร่ให้รายงานต่อเขาด้วยตัวเองทันที ห้ามใช้การโทรศัพท์ หรือส่งข้อความเพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่เหลือหลักฐานอะไรให้สาวถึง

     


    "อ่า ... ใส่ถุงมือหนังสีดำเสียด้วย  พี่แจบอมใช้ให้คุณไปทำงานสกปรกมาสินะ"

     


    "...."

     


    "ไม่บอกก็ไม่เป็นไร  ผมมันไม่ใช่คนสำคัญสำหรับใครอยู่แล้วนี่"

     


    "ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ  เพราะคุณยองแจสำคัญ และไม่ควรมาเกลือกกลั้ว แปดเปื้อนในโลกโสมมเบื้องหลัง  ...แค่รอยยิ้มของคุณยังคงอยู่  ก็เปรียบดังแสงตะวันให้คนในโลกมืดอย่างผม  ดังนั้นงานพวกนี้คุณไม่ควรรับรู้... นะครับ"

     


    "...และนั่นเป็นเหตุผลให้คุณหลีกเลี่ยงการสารภาพรักของผมมาตลอดงั้นเหรอ"

     


    "...."

     


    "ตอนนี้พี่แจบอมอยู่กับพี่จินยองในแกลลอรี่ชั้น 3 คุณรอก่อนสัก 1 ชั่วโมงค่อยเข้าไปพบก็แล้วกัน"

     


    "ขอบคุณครับ"

     


    "....ช่างเถอะ  ผมขอตัว"

     


    ยองแจพยายามเก็บกลั้นความผิดหวังเข้าไปในอกอย่างลึกที่สุด  เพราะมีดวงตาเรียวเล็กไม่ต่างจากพี่ชาย  เวลาที่เขาร้องไห้เสียใจ หรืออ่อนแอจนน้ำตารื้นขึ้นมาคลอหน่วยตาสวย จึงมักไม่มีใครเคยสังเกตเห็น ยองแจก็ทำงานพวกนี้แม้จะเป็นเบื้องหน้าให้มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาก็ไม่ใช่เด็กใสๆไม่ประสากับการแข่งขันสกปรกทางธุรกิจอย่างการใช้กำลัง หรืออิทธิพลข่มขู่หรอก  ไม่งั้นคงไม่สามารถรักษาตำแหน่งเซเลปทนายเล่ห์เหลี่ยมจัดอันดับต้นๆของประเทศไว้ได้จนถึงตอนนี้

     


    "แต่ถ้าคุณกับพี่แจบอมไม่อยากให้ผมรู้  ผมจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เหมือนที่ผ่านมาก็แล้วกันนะ" ร่างบางยิ้มขื่นทิ้งท้ายก่อนจะขับรถสปอร์ทราคาแพงของตัวเองกลับออกไป

     


    ยองแจรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่แจบอมรับแจ๊คสันให้เข้ามาทำงานเป็นคนสนิท  โดยก่อนหน้านี้แจ๊คสันเคยเป็นคนสำคัญในแก๊งมาเฟียใหญ่ที่ล่มสลายไปแล้วเพราะการหักหลังชิงดีกันเอง  คนอย่างแจ๊คสันถือเป็นหูตา มือขวา หรือยิ่งกว่า คือหัวใจในการทำงานสร้างตัวขึ้นมาของ อิมคอเปอเรชั่น   โลกสกปรกเป็นที่ของไฮยีน่าผู้หิวโหยเงินทอง ผลประโยชน์  และเพราะแจ๊คสันมีอุดมการณ์เดียวกันคือไล่เก็บกวาด พวกซากสวะที่ทำให้นายใหญ่ผู้มีบุญคุณต่อเขาต้องจากไป  จึงร่วมมือกับแจบอมลากไส้ และแผ้วถางหนทาง กำจัดผู้มีอิทธิพลในโลกมืดที่เป็นศัตรูและขวากหนาม   จนเมื่องานสำเร็จแจบอมก็ให้แจ๊คสันล้างมือมารับผิดชอบงานเบื้องหน้ากับยองแจแทน จะมีเรียกใช้เป็นพักๆ นานๆครั้งที่เริ่มมีงานตึงมือ  ยองแจคิดว่าเรื่องของพี่จินยองครั้งนี้คงเป็นงานใหญ่ที่สำคัญไม่เบา

     

     

     

    *******

     

     

     

    เสียงพูดคุยทุ้มๆของผู้ชายสองคนฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่ได้ดังลอดเข้ามาในความฝันของจินยอง ก่อนที่ร่างบางจะลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาพลบค่ำ  จินยองสำรวจตัวเองตอนนี้ที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบ  หากแต่พอพับแขนเสื้อขึ้นมา และเลิกขากางเกงที่เต่อเหนือระดับตาตุ่มขึ้นดู ก็พบว่าตั้งแต่ข้อเท้า ท้องแขน เต็มไปด้วยรอยคิสมาร์คสีแดงจ้ำ ช้ำเต็มไปหมด รอบนอกยังทิ้งรอยไว้เยอะขนาดนี้  เขานี่ไม่กล้าเปิดเสื้อดูรอยตามตัวเลยว่ามันจะเยอะขนาดไหน  พอจะลุกขึ้นก็เข่าอ่อนทรุดตัวลงหมดแรงไปเฉยๆ  ดีว่าห้องที่ตื่นขึ้นมานี้เป็นห้องพักเล็กๆมีเตียงนอน มันติดกับห้องสตูดิโอที่เขาใช้ทำงานศิลป์  สมัยก่อนตอนที่เขาเคยอาศัยอยู่ที่นี่ เขาชอบใช้เป็นที่พักระหว่างทำงานวาดรูป หรือซ่อมแซมภาพเขียน

     


    ใบหน้าหวานเห่อแดงจัดด้วยนึกถึงกิจกรรมเมื่อครู่คล้ายๆเดจาวูที่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาแล้วนักต่อนักหลังจากที่ถูกคุณแจบอมเชยชม  จินยองมักเหนื่อยจนหลับไปก่อน

     


    เสียงพูดคุยงึมงำก่อนหน้าฟังได้ชัดเจนขึ้นเมื่อคนฟังมีสติ  ถึงเสียงจะดูเครียดกว่าทุกที แต่จินยองก็จำได้ว่าเป็นเสียงของคุณแจบอม และคุณแจ๊คสัน  แต่แค่จินยองขยับตัวลุก ก่อนที่จะทันรู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรกัน เสียงสนทนาก็หยุดลงราวกับรู้ตัวว่ากำลังถูกแอบฟัง เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาทางที่จินยองอยู่แทบจะทันที

     


    "มากองจุ๊มปุ๊กอะไรบนพื้นห้องครับที่รัก" คุณแจบอมหน้าตูมรีบเข้ามาช่วยประครองผมลุกขึ้นยืนแล้วพาไปนั่งที่เตียง

     


    "แล้ว...แล้ว...คุณแจ๊คสันไม่เข้ามาเหรอครับ?"

     


    "แจ๊คสันเขามาคุยเรื่องงานหน่ะ คุยเสร็จแล้วเลยให้กลับไป  จินยองของพี่หล่ะครับ ตื่นนานหรือยัง"

     


    "เพิ่งตื่นได้สักครู่เองครับ พอจะลุกขึ้นก็ขาอ่อนแรงไปเฉยๆ แล้วคุณแจบอมก็เข้ามาพอดีเนี่ย"

     


    คนหน้าบูดตอนแรกเปลี่ยนเป็นยิ้มอบอุ่นให้  หวังว่าจินยองคงไม่ทันได้ยินว่าเขาใช้ให้แจ๊คสันไปทำอะไรหรอกนะ  ไม่เช่นนั้นคนรักคงมองเขาเปลี่ยนไปจากเดิมแน่ๆ  จินยองยังไม่รู้จักตัวตนของเขาทั้งหมด  ด้านมืดที่โหดร้ายน่ากลัวแจบอม ไม่อยากแสดงออกมาให้คนในครอบครัวได้เห็นโดยไม่จำเป็น

     


    "คุณแจบอมมีอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่าเอ่ย?" ลองโยนหินถามทางเพราะสัญชาตญาณระวังภัย  แต่ก็ใจอ่อนให้กับรอยยิ้มนุ่ม  และมือใหญ่สากที่กำลังลูบกลุ่มผมสีดำนิ่มมือของเขาไปมา เป็นภาษากายตอบกลับโดยไม่ใช้คำพูดแต่สามารถทำให้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และไว้วางใจได้

     


    "จะบอกดีไหมน๊า  พี่กำลังจะเตรียมเซอร์ไพรซ์ใหญ่ให้ภรรยาของพี่หน่ะ  แต่..อ๊ะ บอกไปแล้วก็ไม่ตื่นเต้นแล้วสิ?"

     


    "ฮิ ฮิ" คนได้ฟังเผลอยิ้มกว้าง


     

    "งั้นผมจะบอกความลับของผมให้คุณฟังหนึ่งอย่างเป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ เราจะได้เจ๊ากัน"

     


    "ว่า!?" คนตัวใหญ่ทำท่ายิ้มลุ้น นัยน์ตาเรียวรีมีประกายวาววับขึ้นมาทันที

     


    "วันเปิดคาสิโน รอยัล ผมก็มีเซอไพรซ์เหมือนกัน  ถ้าผมทำได้ดี คุณต้องให้รางวัลผม 1 อย่างนะ"


     

    "อยากได้กี่อย่างก็ได้ สำหรับจินยองเนี่ย  แม้แต่ชีวิตพี่ก็ให้ได้"


     

    "บ้า..ผมจะเอาชีวิตคุณไปทำไม  คุณแจบอมเนี่ยต้องมีชีวิตยืนยาวมากๆเพื่ออยู่กับผมต่อจากนี้และตลอดไปต่างหากหล่ะครับ"

     

     

     

    **********

     

     

     

    แต่อะไรๆก็มักไม่เป็นไปตามใจเราต้องการ...

     

     

     

    ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ อิม แจบอมไม่ได้กลับไปนอนที่แกรนด์ โฮเทลที่มีคนรักรออยู่เลย เขากำลังสะสางงานยุ่งยากบางอย่างโดยมี อิม ยองแจ และหวัง แจ๊คสันติดร่างแหรวมไปด้วย

     


    "ผมไปสืบเรื่องของที่พี่จินยองต้องการประมูลในงาน "เทศกาลชมดอกไม้ฯ" จากคุณลีมาแล้วครับ  กว่าจะหาตัวอดีตพ่อบ้านประจำตระกูลปาร์ค คนนี้เจอไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เบาะแสน้อยมาก เพราะตาแกไปอยู่ต่างจังหวัดเสียแล้ว  ดีว่าติดตามจากบัญชีที่พี่จินยองโอนเงินให้เป็นค่ารักษาพยาบาลหลานของเขา แล้วกว่าจะชักแม่น้ำทั้งห้า รีดเค้นข้อมูลออกมาได้อีก พี่ต้องภูมิใจในตัวผมให้มากๆนะ" ยองแจกล่าวอ้างผลงานของตัวเองต่อหน้าพี่ชาย และแจ๊คสันที่แต่ละคนอยู่ในสภาพอิดโรยไม่น่าดู ทั้งสองคนรวมทั้งยองแจกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมเล็กที่ลึกลับและปลอดภัยเป็นพิเศษ ภายในแกรนด์คาสิโน

     


    "สิ่งนั้นก็คือ แผนที่เหมืองทองคำทั้ง 7 แห่ง ของราชวงศ์โซซอนที่ล่มสลาย  กับลายแทงสมบัติของราชวงศ์ที่ถูกนำไปเก็บซ่อนก่อนที่พวกญี่ปุ่นจะเข้ามายึดครองประเทศเกาหลีของเราในช่วงสงครามโลก  ตอนนั้นตระกูลปาร์ค ซึ่งเป็นข้าราชบริพารเก่าแก่ใกล้ชิดเป็นผู้เก็บรักษาไว้โดยการใส่กรอบแล้วมีการวาดภาพศิลปะทับลงไปในภายหลัง  พวกเขานำมันไปติดโชว์รวมไว้กับภาพวาดอื่นๆที่อยู่ในหอศิลป์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการนี้  โดยไม่มีใครระแคะระคาย  แต่เพราะเรื่องเพื่อนของเจ้านายคนเก่าก็คือเพื่อนของพ่อพี่จินยองมาหลอกทำธุรกิจจนผิดพลาดล้มละลาย ของที่ดูมีราคารวมถึงพวกรูปวาดจึงถูกหลอกกวาดไปขายทอดตลาดมืดเพื่อชำระหนี้ที่ไม่มีทางหมด ด้วยถูกบังคับ ขู่ทำร้าย และความกลัวใดๆก็ตาม แผ่นที่ล้ำค่าในรูปของงานศิลป์จึงถูกเทรวมไปใช้หนี้ด้วย ถ้าจะกะโตกกระตากว่ารูปนั่นมีความสำคัญสูงค่ามากเป็นสำคัญพิเศษ  ความลับถึงมูลค่าที่แท้จริงของมันก็จะต้องเปิดเผยออกมา  และโดนคนอื่นแย่งชิงไปใช้แสวงหาประโยชน์จนไม่อาจตามกลับคืนมาได้  คนในตระกูลปาร์คจึงยอมเก็บความลับไว้ให้ตายไปกับตัวเอง ตอนนั้นพี่จินยองยังเรียนอยู่ต่างประเทศ แถมทั้งครอบครัวยังมาทำอัตวินิบาตกรรมอีก  ส่วนหนึ่งก็คงเพราะละอายใจที่ไม่สามารถปกป้องแผนที่และลายแทงสมบัติเหล่านั้นได้นั่นแหละ"

     


    "มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย" แจ๊คสันไม่เคยรู้เบื้องหลังของจินยองมาก่อน ผิดกับแจบอมที่พอรู้เรื่องของคนรักมาก่อนบ้าง รวมถึงเขายังตามสืบเรื่องสำคัญบางอย่างต่อ

     


    "ยังไม่จบแค่นี้ครับ  ภาพที่เขียนทับลงไปบนแผนที่ล้ำค่ามันดันเป็นภาพทำปลอมเลื่องชื่อของ ปิกัซโซ่ ที่มีชื่อว่า Femme aux bras  croises  ซึ่งเป็นรูปผู้หญิงใส่ชุดสีขาวธรรมดาๆนั่งกอดอกหันหน้า 45 องศาในบรรยากาศโทนสีฟ้าให้ความรู้สึกสงบ แต่มีราคาสูงถึง 50 ล้านดอลล่าห์ (ประมาณ 5หมื่น7พันล้านวอน)  ในราคาปิดล่าสุดที่สถาบันคริสทีน ประมูลได้ แล้วมันดันถูกขโมยไปจากที่เก็บเสียด้วยในตอนนี้ ดังนั้นทั้งภาพของจริงราคาสูง และภาพทำเลียนแบบของพี่จินยองที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ทั้งสองภาพมีโอกาสสูงที่จะมาปรากฏในงานประมูล 'เทศการชมดอกไม้ฯ' ในครั้งนี้ด้วยไง"

     


    "เรื่องแยกภาพจริงกับภาพเลียนแบบออกจากกันนี่ ผมว่าคุณจินยองคงจัดการเองได้  ดีไม่ดีเจ้าตัวอาจจะเป็นคนที่วาดภาพเลียนแบบทับลงไปด้วยซ้ำ เพราะเหมือนจะได้ยินมาว่าเขาก็ไปร่ำเรียนมาทางนี้พอสมควร  หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็นภาพที่ตระกูลตัวเองเคยเก็บรักษาไว้มาแล้ว  ส่วนเรื่องของการได้มานี่แหละ ผมว่าเราควรต้องเตรียมเงินสด เกือบ 6 หมื่นล้านวอน สำหรับแข่งขันประมูลภาพ  1 ภาพ  แต่ถ้ากันพลาดก็ต้องสำรองไว้สัก หนึ่งแสนห้าหมื่นล้านวอน สำหรับทั้งสองภาพเลย ซึ่งก็เท่ากับ 22.75 เปอร์เซ็นต์ของเงินสดที่ อิมคอเปอเรชั่นมีอยู่ในมือตอนนี้ หรือ เกือบเท่ากับ 1 ใน 4 ของสภาพคล่องของเรา"


     

    ยองแจกลืนน้ำลายฝืดคอหลังจากได้ฟังความเห็นของแจ๊คสัน ผู้จัดการฝ่ายทรัพย์สินอย่างตรงไปตรงมา  เงินจำนวนมากมายขนาดนี้จะต้องแบกกี่กระสอบหอบกี่กระเป๋าเข้างานกัน  มันควรจะต้องมีรถขนเงินเป็นคันๆของแขกแต่ละคนเลยไหม  พวกบ้านี่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยเลยหรือไงถึงต้องกำหนดให้ใช้เป็นเงินสดในการร่วมประมูลซื้อขายกันแบบนี้  หรือว่าพวกเขาล้วนแน่ใจว่าตัวเองมีดีพอที่จะปกป้องเงินฟ่อนมากมายเหล่านั้น

     


    "ทางผมสืบมาได้อีกว่าผู้อยู่เบื้องหลังงานประมูลในครั้งนี้ คือท่านชเว ซุนชิล คนสนิทของท่านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน  ผู้หญิงคนนี้ฉากหน้าเป็นผู้นำลัทธิลัทธิหนึ่งที่มีสาวกอยู่ทั่วประเทศ ส่วนฉากหลัง เป็นผู้แทรกแซงและชี้นำกิจการบริหารประเทศ คือสามารถควบคุมประธานาธิบดีไว้ได้อีกทอดหนึ่ง  เรียกว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจที่สุดในประเทศนี้เลยคงจะไม่ผิด  การประมูลงานศิลปะผิดกฎหมายเหล่านี้แท้จริงแล้วมีเบื้องหลังเกิดขึ้นโดย พวก The Bilderberg ซึ่งเป็นชื่อของสมาคมลับของชนชั้นสูงสำหรับมหาเศรษฐีในโลกแห่งการทำธุรกิจและการธนาคารข้ามชาติ นักการเมือง ผู้นำประเทศ และราชวงศ์ต่างๆ  กลุ่มคนที่มีเงินมีอำนาจควบคุมเศรษฐกิจกว่า 50 % ของโลกใบนี้  พวกเขาคงว่างมาก เลยจัดงานประมูลเย้ยกฎหมาย อวดร่ำอวยรวยไรสาระนี่ขึ้นมา ทุกครั้งที่จัด สถานที่จัดงานจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  ครั้งนี้คนสนิทของประธานาธิบดีจับสลากได้เป็นผู้รับผิดชอบ  งานจึงมีขึ้นที่เกาหลีใต้ในชื่อของ "เทศการชมดอกไม้แห่งอินชอน" และเอเจ้นท์ผู้ขายของในตลาดมืดต่างคึกคักในการหาสินค้างานศิลป์แปลกๆ มาให้พวกเศรษฐีสติไม่ดีเหล่านี้ แข่งขันกันประมูล"

     


    "ดงเสือสิงห์กระทิงแรดที่แท้ทรู ถ้าพี่แจบอมไม่ยื่นมือมาช่วย พี่จินยองคงไม่รอดปากเหยี่ยวปากกาในงานนี้แน่ๆ" แค่คิดตามยองแจก็รู้สึกขนลุกขนพองไปด้วยแล้ว  ตระกูลอิมนั้นเพิ่งเติบโตมีอิทธิพลขึ้นมาในรุ่นของเขา  นับว่ายังเป็นเด็กน้อยห่างชั้นนักในเรื่องฐานะทรัพย์สินเมื่อเทียบกับตระกูลสมาชิกในกลุ่ม Bilderberg ที่ก่อตั้งหยั่งรากลึกในสังคมชั้นสูงของบุคคลสำคัญระดับโลกมาอย่างยาวนาน  และการที่นายชเว ซึงฮยอน หรือ ทีโอพี จะมีบัตรเข้าร่วมงานนี้จึงไม่แปลก เพราะตระกูลชเว ของชเว ซุนซิล เป็นผู้เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรงนั่นไง

     


    "แล้วพี่แจบอมหาบัตรเข้างานให้พี่จินยองได้แล้วหรือยังครับ  แล้วยังของตัวพี่เองอีก  พี่คงไม่ปล่อยให้พี่จินยองไปคนเดียวใช่ไหมหล่ะ?" แค่คิดถึงเกมชิงบัตรร่วมงานของพี่จินยองในครั้งก่อน ยองแจก็ยังสยองไม่หาย  ยิ่งบัตรพวกนี้ไม่ใช่ของที่เงินจะซื้อได้  การแย่งชิง ขโมยมายิ่งทำไม่ได้ใหญ่ เพราะต้องใช้ DNA รับรองฐานะการเงินของผู้ถือบัตร ถึงจะเข้างานได้นี่นะ


     

    "จนถึงตอนนี้  ก็คิดว่าพวกเราคงได้เข้าร่วมงานแน่นอนแล้ว 80 เปอร์เซนต์หน่ะ ไม่งั้น สองสัปดาห์ที่ผ่านมาพี่คงเสียเปล่าแน่ๆ" แจบอมที่นั่งฟังอยู่นานที่สุดก็เปิดปากบ้าง


     

    "พวกพี่ไปทำอะไรกันมาไม่เห็นเล่าให้ผมฟังมั่งเลย  คงไม่ใช่ว่าไปไล่ฆ่าใครแล้วขโมยบัตรเข้าร่วมงานมาใช่ไหม?"

     


    "ก็นายบอกเองไม่ใช่เหรอ  บัตรเข้าร่วมงานแต่ละใบ มัน ผูกกับ DNA ผู้ถือไหมหล่ะ ขโมยมา ปล้นมา ก็เท่านั้น ถ้าเจ้าของบัตรเชิญไม่มาด้วยก็เข้างานไม่ได้  พี่เลยทำเรื่องที่เหนื่อยหน่อย แต่ได้ผลกว่านั้นเยอะไงในช่วงนี้ เรื่องที่ทำให้พี่กับแจ๊กสันมีสภาพดูไม่จืดอย่างที่นายเห็น"


     

    "เริ่มจากให้แจ๊คสันไปสืบข้อมูลสถานที่ที่คนสนิทของประธานาธิบดีหมายตาใช้จัดงาน  ซึ่งในกรุงโซลแม้จะมีโรงแรมไฮโซหรูหราหลายแห่ง  แต่เรื่องความปลอดภัยมันก็ยังไม่เพียงพอ แถมสถานที่แบบนั้นมีโอกาสที่ตำรวจจะมายุ่มย่าม และความลับของงานอาจจะรั่วไหล เพราะบุคคลที่จะเข้าร่วมงานแต่ละคนก็ไม่ใช่คนธรรมดา  ดังนั้นการทำเรื่องผิดกฎหมายบนปลายจมูกของหมาล่าเนื้อ สถานที่อย่างที่จัดงานของเอกชนทั่วไปก็ต้องตัดออกไป  แล้วพอสืบสถานที่ได้คร่าวๆ  พี่ก็ให้แจ๊คสันไปข่มขู่เจ้าของสถานที่เหล่านั้นไม่ให้รับงานซะ  บางรายคุยง่ายหน่อย เช่นตระกูลต้วนที่สนิทกับทางเรามากกว่า ก็แล้วไปไม่ต้องออกแรงอะไร  แต่ในรายที่คุยยาก พี่ก็แค่เปิดโปงเรื่องสกปรกของพวกเขา  กว่าจะร่ำรวยเป็นเจ้าของสถานที่ดีๆ ไม่มีใครที่มือสะอาดกันหรอก"

     


    "นี่พี่ชายผมลงทุนเพื่อพี่จินยองขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"


     

    "นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่ยากที่สุดครับ ผมขอเล่าต่อนะ" แจ๊คสันใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเองก่อนจะพูดขึ้น  งานนี้ทำให้เขาประทับใจในความรักที่แจบอมมีต่อจินยองจริงๆ  เพราะทุกอย่างที่พวกเขาลงมือทำมีแต่คำว่าเสี่ยงชีวิตทั้งนั้น  ตั้งแต่การจะเข้าถึงผู้หญิงสารพัดพิษที่เป็นถึงที่ปรึกษาประธานาธิบดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย  แจ๊คสันและแจบอมถึงขั้นต้องใช้เส้นสายทุกอย่าง วางกลอุบาย และทำทุกวิถีทาง แม้นแต่ก้มหัวให้ทุกคนในโลกมืดเพื่อรวมรวมข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์เพื่อจะเข้าใกล้ และใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้  กระทั่งมีการเสียเลือดเสียเนื้อไปไม่น้อยก็ต้องยอม

     


    "เรื่องมันมาลงล๊อคพอดีตอนที่พวกเรารู้ว่าศัตรูทางการเมืองของเธอมีข้อมูล หลักฐานการทุจริตเรียกรับสินบนจากบริษัทใหญ่ และข้าราชการระดับสูงในประเทศของเธอกับประธานาธิบดีอยู่แล้ว  การฝ่าด่านองครักษ์เป็น ขโยง  รวมถึงศิษยาณุศิษย์เป็นกองทัพของเธอเพื่อเข้าไปข่มขู่ตัวต่อตัว  แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของผมกับคุณแจบอม  แล้วแทนที่พวกเราจะใช้ข้อมูลเหล่านั้นแบล๊กเมล์เธอโดยตรง  พวกเรากลับแกล้งว่าเป็นฝ่ายเดียวกันเธอ และบอกข้อมูลปลอมๆของคนที่มีหลักฐานจะล้มล้างอำนาจพวกเธอให้  โดยแลกกับ การให้เธอเลือกคาสิโน ของเราที่จะเปิดใหม่เป็นสถานที่จัดงาน เทศกาลชมดอกไม้อะไรนั่น"

     


    "ตอนแรกยัยผู้หญิงมากเล่ห์ก็ยังไม่ตกลงทันที  พวกเราเลยลงมือปล่อยข่าวที่เธอใช้อำนาจในทางมิชอบ เอาลูกสาวตัวเองเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแทนนักเรียนคนหนึ่งที่สอบเข้าได้  จนเป็นประเด็นน่าสนใจในโลกโซเชียลและสื่อต่างๆ แล้วในที่สุดเรื่องดังขึ้นมา มีการขุดคุ้ยเรื่องราวของเธอกับลูกสาวเป็นข่าวใหญ่โต  ถึงตอนนี้ยัยป้านั่นร้อนรนจนนั่งไม่ติด อยากรู้ว่าคนที่มีข้อมูลสำคัญพอที่จะทำให้ตำแหน่งของเธอและประธานาธิบดีหุ้นเชิดสั่นคลอนนั้นเป็นใคร  ก็เลยต้อมาพึ่งทางเรา และยอมรับเงื่อนไขไปในที่สุด"

     


    "แล้วงี้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่กลับมาอาฆาตเอาคืนพวกเราเหรอ" ยองแจว่าเรื่องมันชักจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ

     


    "ไม่ต้องห่วงหรอก พี่หาเป้าลวงให้ยัยป้านั่นระบายอารมณ์ได้ถึงใจอย่างที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งมันก็แค่...."

     


    "โอ้ยยย เล่ามาขนาดนี้แล้วจะลีลาอะไรอีก  จะโหดเหี้ยม อำมหิต เลือดสาดแค่ไหน ผมก็ทนฟังได้หรอกน่า"

     


    "อืม ก็แค่ ทำหลักฐานปลอมว่าหลักฐานทั้งหมดที่จะล้มล้างอำนาจของพวกเธอได้มันมาจาก ผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัทล๊อตโต้ เพราะเขามีส่วนรู้เห็นกับการเรียกรับเงินหลายพันล้านวอนต่อปีจากบริษัทเข้ากระเป๋าของพวกเธอ ซึ่งวันต่อมามีก็มีข่าวว่าผู้จัดการคนนั้นฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ โดยแม้แต่เด็กอมมือดูก็ยังรู้เลยว่าเป็นการฆาตกรรม ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย และเพื่อความสมจริง เพิ่มอรรถรส ที่ศพยังพบจดหมายลาตายเขียนบรรยายข้อมูลการโกงกินสาวไส้ขบวนการคอรับชั่นของประธานาธิบดีและที่ปรึกษาที่พี่แอบคาดการณ์แล้วปลอมลายมือเขาใส่ไว้ล่วงหน้าในเสื้อนอกตัวเก่ง ที่ส่งคนไปตามดูพฤติกรรมของเขามาสักพักแล้วมั่นใจว่าอย่างไรวันนั้น ผู้ตายต้องสวมใส่มันแน่ๆ  เมื่อมีเชื้อไฟชั้นดี หลักฐานพร้อมมูล ฝ่ายตรงข้ามประธานาธิบดีที่เตรียมตัวมาอย่างพร้อมพรรค ก็เริ่มประโคมข่าวจนเป็นหัวข้อดัง ทอร์ค ออฟ เดอ ทาวน์ เหมือนเป็นการตีระฆังเริ่มมหกรรมล่าแม่มดเพื่อลดทอนสั่นคลอนอำนาจของประธานาธิบดีคนนี้เลยนะ  ทีนี้พวกยัยป้านั่นก็ต้องคอยตามแก้ข่าว ตามล้างตามเช็ด เก็บกวาดกันไป ต้องกลับไปวางแผนใหม่ เล่นเอาขวัญผวาเลยไม่มีเวลามาสงสัยทางเราได้หรอก"


     

    "ร้ายกาจ   แล้วทำไมพี่เลือกผู้จัดการฝ่ายการเงินบริษัทล๊อตโต้คนนั้นหล่ะ  เขามาทำอะไรไม่ถูกใจพี่หรือไง"

     


    "ยิ่งกว่าไม่ถูกใจเสียอีก  เพราะไอ้ผู้จัดการนั่นมันก็คือเพื่อนตัวดีที่แสนเลวของพ่อของจินยอง  มันหักหลังเพื่อนตัวเองจนเขาต้องฆ่าตัวตายทั้งครอบครัวไงหล่ะ  นี่พี่ก็คิดว่ามันยังตายสบายเกินไปเลยนะ  ลองคิดดูว่าถ้าตอนนั้นจินยองยังอยู่ที่เกาหลี   เขาคงไม่มีวันได้พบกับพี่อย่างตอนนี้แน่ๆ"

     


    "ส่วนผู้หญิงคนนั้นกับประธานาธิบดี  ไม่ช้าก็เร็วก็คงต้องถูกลงโทษจำคุกและปลดออกจากตำแหน่ง  เพราะอีกฝ่ายมีหลักฐานมัดตัวอย่างหนาแน่ไม่น่าดิ้นหลุด  ก็เป็นกระบวนการของกฎหมายไป  ส่วนเราได้สิ่งที่ต้องการแล้วคือ การเป็นเจ้าของสถานที่จัดงานเทศกาลชมดอกไม้ฯนั่น  ทีนี้จะเข้าจะออกงานกี่คนกี่ครั้งยังไงก็ได้สบายๆ โดยไม่ต้องใช้บัตรเชิญอะไรใดๆทั้งสิ้น"

     


    "โอ้โห  ยอมแล้วครับ ใครก็อย่ามาเป็นศัตรูกับพี่ชายของผมเลย  น่ากลัวสุดๆ"

     


    "นี่ยังชำระแค้นไม่หมดนะ  ยังเหลือนายชเว ซึงฮยอนนั่นอีก คนที่ทำให้จินยองถูกแก้ผ้า  แถมยังเรียกไปนั่งตักลวนลามถึงไหนต่อไหน  ถ้าพี่มาไม่ทันไม่อยากจะคิดเลยว่าจินยองจะเป็นยังไง"

     


    "แล้วพี่จะทำอะไรกับเขาหล่ะ  นั่นลูกชายคนเดียวของนายพลใหญ่เลยนะ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาในที่ของเรา  ครอบครัวเขาคงไม่เอาพวกเราไว้แน่"

     


    "เดี๋ยววันงานนายก็จะรู้เองแหละ  ยังไงวันพรุ่งนี้ช่วยตามแบมแบมมาพบพี่หลังเลิกงานด้วยก็แล้วกัน"

     


    "โอเคครับ เดี๋ยวผมจัดการให้  พวกพี่สองคน  ทำได้ขนาดนี้ผมนับถือเลย  ยังไงก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันบ้างนะครับ  ป่านนี้คนที่บ้านเป็นห่วงกันแย่แล้ว"

     


    "อืม" คนพี่ตอบกลับอย่างอ่อนแรง

     


    "ครับผม" เป็นคำตอบของคุณแจ๊คสัน ซึ่งมีสภาพอ่อนล้าไม่ได้ต่างกัน

     

     


    *****************

     


    จินยองอดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อได้รับแจ้งว่าหอศิลป์ของตระกูลปาร์ค ที่ถูกปรับปรุงเป็น คาสิโน รอยอล อัครสถานให้ความบันเทิงแห่งใหม่ของตระกูลอิม จะได้เป็นที่รองรับการจัดงานประมูลผิดกฎหมายในนามเทศกาลชมดอกไม้แห่งอินชอนที่เขาเฝ้าคอย  คุณแจบอมบอกเขาแค่ว่าที่หายไปช่วงก่อนหน้าคือไปดำเนินการเจรจาดีลงานมา (ไม่ได้บอกความจริงเรื่องความยากลำบากของเบื้องหลังงานแต่อย่างใด) จินยองมีหน้าที่ดูแลสถานที่และบรรยากาศในงานก็พอ



    ดังนั้นเมื่อถึงวันงานทุกอย่างจึงถูกเตรียมพร้อมไว้อย่างดีมาก...มาก....ไปไหม...



    จินยองเนรมิตรคาสิโนแห่งใหม่ให้กลายเป็น สรวงสวรรค์ราวกับท้องพระโรงโอลิมปัสของเทพปกรณัมกรีก พนักงานของที่นี่ทุกคนต้องสวมชุดทูนิครัดๆจากผ้าฝ้ายสีขาว ที่เรียกว่าชิตอน สั้นเหนือเข่า กับรองเท้าสาน เหมือนชาวกรีก-โรมันยุคโบราณในรูปวาดของศิลปินเลื่องชื่อ ร่วมกับสวมช่อมะกอกสีเขียวบนศีรษะบ่งบอกสถานะว่าเป็นสตาฟของ อิม คอเปอเรชั่น ซึ่งรวมถึง จินยอง และยองแจด้วย



    โอเคว่ามันเข้ากับธีมหอศิลป์ของคาสิโนแห่งนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แถมยังช่วยให้แขกยอมเปลี่ยนเครื่องแต่งกายตามอย่างไม่ขัดเขิน  ซึ่งง่ายต่อการตรวจสอบการนำอาวุธหรือของต้องห้ามเข้ามาในงาน นับว่าเป็นความคิดที่ดีมาก  ส่วนเงินฟ่อนเป็นกระสอบๆก็ถูกรับเข้าเซพแล้วแลกเป็นชิฟให้ถือแทนเพื่อความสะดวก  ซึ่งชิฟพวกนี้ไม่เหมือนชิฟที่ใช้เล่นพนันทั่วไป แต่จะเป็นชิพรูปภาพเขียนที่มีมูลค่าตามยุคของภาพที่ถูกเขียน เช่น ถ้าได้ชิฟเป็นภาพวาดยุคเรเนซองค์ แปลว่าชิฟนั้นมีมูลค่าหนึ่งร้อยล้านดอลล่าห์ ถ้าเป็นภาพยุคบาร๊อก ชิฟนั้นจะมีมูลค่า สิบล้านดอลล่าห์ ถ้าเป็นยุค โรโกโก หรือสมัยใหม่ขึ้น มูลค่าก็จะลดหลั่นกันลงมา ทำให้มีเรื่องสนทนาในหมู่เศรษฐีผู้เข้าร่วมประมูลได้อีก



    ไม่รู้ว่าในเวลาแค่หนึ่งเดือนจินยอง กับยองแจทำได้อย่างไรในการรีโนเวทหอศิลป์นี้ใหม่ได้หรูหราอลังการขนาดนี้  ล๊อบบี้ที่ทำใหม่มีแชนเดอเรียระย้าหรูหราอันใหญ่เปล่งประกายระยิบระยับสะดุดตาประดับอยู่ เพดานมีภาพวาดของมิเกลันเจโลเลียนแบบวิหารเซนต์ปีเตอร์ของวาติกันที่ทั้งใหญ่ และวิจิตรงดงาม ตามทางเดินประดับภาพเขียนระบือนาม และปฏิมากรรมปูนปั้นทรงคุณค่าเต็มไปหมด งานเขียนจิตกรรมทุกภาพถูกใส่กรอบกระจกประกบ ควบคุมระดับแสง และคุณภาพอากาศ ไม่ต่างกับในพิพิธภัณฑ์ศิลปะของยุโรป ซึ่งเป็นความพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในการชื่นชมงานศิลป์มากมาย และได้ผ่อนคลาย เล่นการพนันไปด้วย



    ฟังจากเสียงชื่นชมของผู้เข้าร่วมงานประมูลไม่ขาดปากก็ทำให้เจ้าของสถานที่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจจนกระทั่ง..



    "เชิญคุณแจบอมมาเปลี่ยนเสื้อผ้าทางนี้เลยครับ" เสียงหวานที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น  อิม จินยอง ในชุดทูนิคชิตอน สั้นๆ รัดๆ ขาวๆ ทำเอาเจ้าของคาสิโนสุดหล่อตกตะลึง  เรือนผมสีดำคลับหนานุ่มตัดกับช่อใบมะกอกสีเขียวน่ามองนั่น  ใบหน้าสว่างเนียนใสไร้รอยตำหนิใดๆ  กับริมฝีปากหนาอิ่มสีชมพูพีชที่ยกยิ้มน้อยๆอีก  ทำไมไม่เจอกันไม่กี่วันเพราะต่างต้องเตรียมงานในส่วนของตนจนไม่มีเวลา  มาวันนี้แจบอมคิดว่าทำไมจินยองนี่ถึงได้ดูพิลาศ  พริ้มเพรา งดงาม ตรึงตรา น่ารักขึ้นได้ขนาดนี้กัน



    เจ้าชุดสั้นๆไม่รักดีนั่น เมื่ออยู่บนบั้นท้ายอรชอนงอนอวบ ผ้ามันเหมือนจะสั้นเลิกขึ้นมากว่าของคนอื่นจนดูเหมือนโป๊ะกว่าพนักงานทั่วไปเสียได้  แจบอมทำท่าจะถอดเสื้อสูทมาคลุมสะโพกด้านหลังของคนรักแต่ถูกห้ามไว้เพราะไม่เหมาะกับบรรยากาศงาน



    จินยองให้แจบอมใส่ชุดเหมือนกันกับผู้เข้าร่วมงาน ต่างแต่ตรงถ้าเป็นแขกที่ร่วมประมูลจะมีเสื้อคลุมที่เรียกว่า     ฮีเมชั่น เป็นผ้าทอหรูหราพันรอบตัวแล้วพาดอ้อมมาบนบ่าข้างเดียว กลัดด้วยเบอร์ของบัตรเข้างานเพื่อเป็นนามแฝง แทนชื่อจริงในการประมูล สวมรัดเกล้าเป็นใบไม้สีทองโดดเด่น



    "คุณแจบอมใส่ชุดนี้แล้วดูดีมากเลยครับ ไหล่กว้างมากเลย เผยผิวพรรณ มัดกล้ามเฟิมแน่น แล้วก็เส้นเลือดตามแขนของคุณออกมา  ดูเหมาะสมลงตัว  สมาร์ต  หล่อ  คมคาย หมดจรดกว่ารูปสลักเดวิทของมิเกลันเจโลเสียอีก ถ้าบอกว่าคุณเป็นเทพเจ้าจำแลงจากโอลิมปัสสักองค์ผมยังเชื่อเลย สมบูรณ์แบบจนผมอยากเก็บไว้ไม่ให้ใครเห็นเลยน๊า"



    "ดี! งั้นพวกเรากลับบ้านกันเลยเถอะ พี่ก็ไม่อยากให้ใครเห็นจินยองเหมือนกัน วันนี้จินยองของพี่ สวย ..สวยมาก รู้ตัวไหม"



    "อ่ะ แฮ่ม ๆ แฮ่ม  แค๊กๆ" มีเสียงกระแอม ไอ ดังขึ้นด้านหน้าของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าขัดจังหวะขึ้น  คงไม่ต้องเดาเลยว่าใคร



    "พี่แจบอมเสร็จแล้วก็ออกไปต้อนรับแขก กล่าวเปิดงานได้แล้วครับ  นี่เวลางาน ไม่ใช่เวลามาจีบกัน"



    "ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้น้องเวร" ร่างหนาเดินออกมารับสคริปจากผู้เป็นน้องชายแล้วเขกศีรษะแถมไปอีกทีด้วยความหมั่นไส้  ก่อนจะเดินไปหาแจ๊คสัน และผู้ติดตามที่รออยู่เพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง



    "โอย ไอ้พี่บ้า จะละมุนกับพี่จินยองอยู่คนเดียวในโลกหรือไง  แล้วพี่จินยองเป็นอย่างไรบ้างครับ" ยองแจผู้จัดการงานหลักของวันนี้อยู่ในชุดทูนิคของสตาฟเหมือนกับจินยอง  เขาถามคนพี่ที่เหมือนเป็นประชาสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญงานศิลป์ที่คอยคุย ให้ความรู้กับแขกที่มาเข้าร่วมงานประมูลตั้งแต่เริ่มงาน จนเพิ่งมีเวลาได้พักตอนที่พี่แจบอมเข้ามาถึงงานเล็กน้อย



    "ก็ดีนะ  แต่ว่าในส่วนของเอเจ้นท์จาก บิลเดอเบอร์กไม่ยอมให้เราไปยุ่งกับของที่จะนำมาประมูลกันวันนี้เลย  เอาการ์ดล้อมตั้ง 3 ชั้น  ทำตัวน่าสงสัย  ระบบความปลอดภัยของทางเราก็ออกจะดี เพิ่งติดตั้งมาใหม่ทันสมัยสุดๆในโลกแล้ว"



    "ทางเขามีเจ้าหน้าที่ ออคชั่น (Aution) มาเอง อาศัยแค่สถานที่ของเรา  แต่ระหว่างประมูล หรือก่อน กับหลัง ประมูล ถ้าแขกเบื่อๆ ก็สามารถมาเล่นพนัน ที่คาสิโนของเราได้  เรากำไรอยู่แล้ว ลูกค้าระดับนี้   ถ้าฟีคแบค ผลตอบรับออกมาดี เขาก็จะบอกกันปากต่อปากไปอีก เผลอๆ ยอดรายได้อาจจะมากกว่าของแกรนคาสิโนด้วยซ้ำ"



    ยองแจคิดถึงแต่ผลกำไร ในขณะที่จินยองคิดถึงแต่เรื่องงานศิลป์  ดูเหมือนจะไปคนละทางแต่ก็ทำงานร่วมกันออกมาได้อย่างดี  ในงานนี้จินยองยังได้รู้จักมหาเศรษฐีและบุคคลVIP ที่เคยได้ขึ้นปกนิตยสารForbes มากมาย แล้วก็ไม่วายได้เจอคนรู้จักเก่าๆ สมัยที่เคยไปเรียนที่อเมริกา  วงการศิลปะจะว่ากว้าง ก็กว้าง จะว่าแคบก็แคบ เป็นเรื่องปรกติที่บรรดาผู้มีอันจะกินที่จะมาร่วมประมูลงานศิลป์จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะติดมาด้วย  อย่างน้อย 2 ใน 4 คนที่มาร่วมงานนี้ก็เป็นคนที่จินยองเคยรู้จัก



    พี่จียง นักประเมินงานศิลป์ของสถาบันครีสทีน เป็นอาจารย์ที่สอนจินยองเรื่องธุรกิจศิลปะมาอีกที  พี่เขาแฝงตัวเข้ามารวบรวมข้อมูลงานศิลป์ในตลาดมืดเป็นปรกติอยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะเจอ ทั้งวงการบนดิน ใต้ดิน ไม่มีใครไม่รู้จักพี่เค้า  คำวินิจฉัย วิจารณ์ของพี่จียง สามารถเพิ่ม หรือลดมูลค่าของงานศิลป์ได้ทันที เป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในวงการทั้งที่อายุยังไม่มากนัก  ส่วนอีกคน พี่แทคยอน เป็นรุ่นพี่ของจินยองที่สถาบันครีสทีนเช่นกัน พี่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญงานศิลป์ประจำตัวของเจ้าชายจากประเทศไหนสักประเทศหนึ่ง ซึ่งพี่เขาก็มีชื่อเสียงในวงการพอตัวเลยหล่ะ  พี่แทคยอนเป็นคนที่ดูภาพปลอมด้วยตาเปล่าเก่งมาก   ภาพไหนที่พี่เขาบอกว่าปลอม ส่วนใหญ่กว่า 90% หลังจากนำไปพิสูจน์ด้วยกรรมมาวิธีต่างๆผลที่ออกมาก็มักจะเป็นไปตามนั้น  ผมได้แต่หวังว่าระหว่างประมูลพวกเขาจะไม่พูดอะไรที่เป็นการขัดขวางทางของผมก็พอ



    ผมแอบวางแผนไว้ว่าตอนประมูลภาพผู้หญิงกอดอก Femme aux bras  croises ของปิกัซโซ่เนี่ย อันที่ถูกนำออกไปจากตระกูลปาร์ค ผมเป็นคนวาดเอง ตอนนั้นก็ไม่นึกว่าจะมีเรื่องราวอย่างนี้ตามมา จึงเลือกทำปลอมรูปนี้เพราะเป็นภาพที่มีชื่อเสียง ติดอยู่ในแกลลอรี่ สะดุดตาเรียกคนเข้าชมได้ แล้วก็ไม่มีใครสนใจถึงมูลค่าที่แท้จริงของมัน น่าเชื่อถือในการให้ความสำคัญ มีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษได้ เพราะตัวภาพถ้าเป็นของจริงเองก็มีมูลค่า (คือซ่อนแผนที่ในภาพปลอม ให้ดูเหมือนของแพง มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี ราวของจริง โดยคนไม่สงสัยว่าทำไมรักษาดี จริงๆคือป้องกันแผนที่ที่ถูกวาดทับไว้อีกทีต่างหาก) แผนก็คือให้พี่จียง พี่แทคยอน ยืนยันว่าภาพของผมเป็นของปลอม ทีนี้ก็จะไม่มีคนอยากได้ ราคาก็จะตก ดีไม่ดีไม่มีใครเอาเพราะวงการนักสะสมนั้นภาพไม่สวยไม่ว่า ขอให้ข้าได้เป็นเจ้าของภาพของจริงก็พอ



    จริงๆภาพที่เข้าสู่ตลาดมืดมันก็มีทั้งของจริง และของปลอม ผมใช้เส้นสายของสถาบันประมูลงานศิลป์ที่ใหญ่และน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ก็คือสถาบันคริสทีนในการสืบหาภาพที่ถูกโกงไปของตระกูลผมว่าถูกส่งต่อไปที่ไหน เพราะที่นี่มีฐานข้อมูลภาพเขียนแทบจะทุกใบในโลกว่าอยู่ที่ใคร เศรษฐี เอเจนท์ องค์กร หรือ พิพิธภัณฑ์ไหนเป็นผู้เก็บรักษาอยู่ การปลอมแปลงภาพเองก็มีหลายวิธี ซึ่งบางทีก็พิสูจน์ทราบได้ยากเพราะศิลปินสมัยก่อนมักชอบวาดรูปที่เหมือนๆกันซ้ำหลายๆใบ แล้วก็ไม่มีการเซนต์ชื่อไว้บนรูปว่าใครวาด หรือถึงยุคต่อมาจะมีการเซนต์ชื่อกำกับบ้าง ก็มีการปลอมแปลงลายเซนต์กันได้อยู่ดี  วิธีพิสูจน์ภาพแบบเบสิกสุดก็คือ ดูจากอายุของภาพ ประเภทของสี และส่วนประกอบของสีเทียบกับที่ศิลปินคนอื่นๆในยุคนั้นใช้ ส่วนประกอบของผืนผ้าใบ น้ำมันชักเงา การนำไปเอ๊กซเรย์กัมมันตะรังสี  ใช้การตรวจคาร์บอนอะตอม เพื่อพิสูจน์อายุภาพ การพิสูจน์เทคนิคการวาด เอกลักษณ์ฝีแปรงของศิลปิน ซึ่งทุกอย่างล้วนปลอมแปลงได้หมด 



    แกลลอรี่ของตระกูลปาร์คมีมาตั้งแต่ก่อนผมเกิด มีภาพของศิลปินในศตวรรษที่ 12 -19 ทั้งที่มีชื่อเสียง และไม่มีชื่อเสียงมากมาย บางภาพได้มาจากพวกฝรั่งสอนศาสนานำมาถวายกษัตริย์ในกาลก่อนบ้าง หรือผ่านทางการค้าขายกับโชซอนสมัยก่อนก็มาก  ผมนำภาพพวกนั้นมาล้างเอาน้ำยาชักเงาที่เคลือบไว้ออก แล้วลอกเก็บสีบนภาพมา ผงสีในยุคก่อนทำจากเปลือกไข่ หิน และดินสี บางทีก็มีพืช และโลหะผงเป็นส่วนผสมซึ่งมีเฉพาะในยุคนั้นๆ เทคนิคที่ใช้วาดก็ต้องรวดเร็วตามสไตล์วัสดุเหล่านั้นที่สีแห้งเร็ว  ทีนี้ผมก็มีทั้ง เฟรมผ้าใบอายุเก่าที่ลอกสีไปแล้วของจริง กับผงสีของสมัยนั้นจริงๆ ที่สามารถนำมาวาดภาพใหม่เลียนแบบภาพดังออกมาได้แล้ว ใช้เทคนิคอีกเล็กน้อยให้ภาพดูเก่า มีรอยสีแตกถลอกตามอายุของมัน ส่วนภาพของปิกัสโซ่ เป็นสีน้ำมันที่ต้องป้ายเป็นชั้นๆ หนาและแห้งช้า แต่มันก็เหมาะสมที่จะใช้ปกปิดแผนที่ที่อยู่ข้างได้แนบเนียนดี การตรวจพิสูจน์ภาพที่ผมวาดจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร  แต่ว่าการปลอมแปลงภาพเขียนเป็นเรื่องไม่ดี และผิดกฎหมายนะครับ  แต่ก็ใช่แหละ  จนถึงตอนนี้ผมทำภาพปลอมออกมาเยอะมากทีเดียว



    จากตอนแรก เราเรียนรู้การวาดภาพ การใช้สีสรรต่างๆจากผลงานของศิลปินรุ่นก่อน เรียกง่ายๆว่าฝึกวาดภาพตามแบบ หรือก๊อปปี้นั่นแหละครับ ต่อมาก็ต่อยอดค้นหาลายเส้น เอกลักษณ์ของตัวเอง มีแนวทางเติบโตเป็นศิลปินเองต่อไป ศิลปินยุคก่อนกว่าจะดังนั้นลำบากมากทีเดียว อย่างวินเซนต์ แวนโก๊ะ ศิลปินเจ้าของภาพเขียนที่มีราคาแพงที่สุดในโลกตอนนี้ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เขาขายภาพได้เพียง รูปเดียวเท่านั้น มาดูปัจจุบันนี่สิ ผลงานของเขาแต่ละภาพราคาแพงระยับแทบจับต้องไม่ได้  ส่วนศิลปินสมัยนี้ก็ลำบากไม่แพ้กัน การจะขายงานให้ได้ราคาสูงเท่าศิลปินยุคเก่าๆที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นจึงยังมีมีศิลปินที่มากด้วยพรสวรรค์บางส่วนปลอมภาพเขียนมาขายอยู่เรื่อยๆ  ลูกค้าหลักก็เป็นพวกเศรษฐีใหม่ทุนต่ำก็ตกเป็นเป็นเหยื่อกันไป 



    ภาพเขียนปลอมนอกจากปลอมกันที่ลักษณะทางกายภาพแล้ว  การปลอมเอกสารรับรองภาพก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน  เวลานักสะสมตรวจสอบว่าภาพเขียนของตนเป็นของแท้หรือไม่นั้น ไม่ได้ดูแต่เฉพาะตัวภาพเท่านั้นแต่ยังต้องตรวจสอบประวัติ หรือหลักฐานการครอบครองด้วย คือต้องดูไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของเดิมและการขายครั้งก่อน ใบลงทะเบียนผลงานศิลปินของพิพิธภัณฑ์ ดังนั้นต่อให้ภาพที่ขายปลอมมาห่วย ไม่สวยแค่ไหน หากหลักฐานการครอบครองถูกปลอมมาอย่างแนบเนียนแล้วละก็ ย่อมสามารถตบตาลูกค้าขายได้ราคาเป็นแน่ แต่ในงานนี้ภาพส่วนใหญ่เป็นของที่ขโมยมาบ้าง ฆาตกรรมปล้นชิงมาบ้าง  หลักฐานเอกสารคงจะหายากสักหน่อย คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจึงดูจะมีน้ำหนักมากกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนย้อมแมวแล้วเสียเงินฟรีๆ



    **********



    อีกด้าน แบมแบม ดีลเลอร์อันดับ 1 ของแกรนด์คาสิโนที่ยองแจขอมาช่วยงานเป็นพิเศษ อยู่ในชุดทูนิค สั้นๆรัดๆเหมือนเขากำลังหมุนรูเล็ทให้แขกที่ล้อมรอบเต็มโต๊ะพนักขันต่อลงเงินกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งทำเอาบรรยากาศรอบข้างคึกคักเป็นพิเศษกว่าโต๊ะอื่นๆ



    ท่วงท่า ลีลา ยันปลายเรียวนิ้วของแบมแบมเวลาทอยลูกเหล็กลงไปบนวงล้อที่กำลังหมุน เรียกว่าดึงดูดสายตาเหล่าผู้เข้าร่วมงานได้ดีนัก  นอกจากบรรดานักพนันจะได้ลุ้นกับแต้มที่จะออกมาแล้วยังได้ลุ้นไปด้วยว่า ชุดผ้าที่ดีลเลอร์คนงามสวมจะเลิกขึ้นจนเห็นหน้าอก ผ่านวงแขนนั่นไหม จากเวลาที่ร่างบางยกมือขึ้นสูงหรือเคลื่อนไหวร่างกาย



    จะมีก็เพียงแขกหนุ่มหล่อมากอยู่คนหนึ่งเท่านั้นที่ไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของดีลเลอร์น่ารักคนนี้



    "คุณมาร์คไม่ติดบัตรร่วมประมูลเหรอครับ อุส่าห์ได้เข้างานฟรี เพราะช่วยเหลือพวกผมตอนให้คุณปฏิเสธเรื่องสถานที่จัดงานครั้งก่อนทั้งที  เอาแต่นั่งเฝ้าดีลเลอร์ของผมอยู่ได้ น้องคนนี้เขาไม่หนีไปไหนหรอกครับ"



    "อิม ยองแจ  นายรีบให้แบมแบมเลิกเรียกแขกเลยนะ  มีแต่บรรดา เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งภูมิฐานกว่าฉันมาล้อมรอบแบมแบมเต็มไปหมดแบบนี้  แบมแบมไม่มองฉันเลยหน่ะ  ดูสิ"



    "โธ่ คุณมาร์ค  มันเป็นงานนี่ครับ  แบมแบมเขาไม่มองใครนอกจากคุณหรอกน่า  ไว้เดี๋ยวถ้างานสำเร็จผมจะให้แบมแบมหยุดสัก 5 วันดีไหม"



    "10 วันดิ  แค่วันนี้วันเดียว แบมแบมทำเงินให้พวกนายไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย"



    "เอ  งั้นคุณต้องช่วยพวกผมอีกสัก 1 อย่างเป็นการแลกเปลี่ยน"



    "อะไรอีกหล่ะ  พวกนายนี่ไม่เคยขาดทุนเลยนะ"



    "หรือคุณไม่อยากไปเที่ยวกับแบมแบมนานๆแล้วหล่ะครับ?"



    "ก็รู้คำตอบอยู่แล้วไหม จะให้ทำอะไรก็รีบว่ามา.."



    "ผมอยากให้คุณเป็นตัวแทนประมูลภาพผู้หญิงกอดอก ของ ปิกัสโซ่ กับพวกบิลเดอเบรอก์ พอดีพี่ชายผมอยากได้มันมาเซออไพรซ์พี่สะใภ้หน่ะ นี่เป็นชิฟที่ใช้ประมูล มูลค่า 100 ล้านดอนล่าห์  คุณช่วยทำเป็นเด๋อๆ เอ๋อๆ ประมูลภาพของปลอมมานะครับ อย่าเอาของจริงเชียว แล้วก็กดราคาเยอะๆ"



    "แหม่ ทำไมคุณอิมคนพี่งกจัง จะเอาภาพให้คนรักทั้งทีแต่จะเอาของปลอมงี้"



    "เอาน่านี่มันเรื่องของพวกผม  ถ้าคุณมาร์คทำสำเร็จอย่าว่าแต่วันหยุด 10วันของแบมแบมเลย  ยิ่งกว่านั้นพวกผมก็จะจัดการให้ถ้าเจ้าตัวเขาไม่ปฏิเสธคุณเสียก่อนหน่ะนะ"



    "โอเค  ดีล เรื่องประมูลเปิดซองงานก่อสร้างหมื่นล้านแสนล้านผมก็ทำมานักต่อนักแล้ว กะอีกแค่ประมูลงานศิลป์คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง" มาร์ค และยองแจแช๊คแฮนด์กันเป็นการตกลง  หนุ่มหล่อเดินไปติดต่อทางเอเจ้นท์ของบิลเดอเบอร์กเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล  โดยไม่รู้ว่าแบมแบมก็มองตามหลังเขาออกไปจนสุดสายตา



    "ยองแจ มานี่เลย  นายคุยอะไรกับคุณมาร์คอ่ะ" แบมแบมกวักมือเรียกยองแจให้มานั่งข้างๆ หลังจากที่โกยชิฟเป็นกอบๆลงกล่องปิดเกมรูเร็ทจบ แล้วกล่าวบอกแขกนักพนันว่าถึงเวลาพักของเขาแล้ว และเวลาเปิดโต๊ะครั้งต่อไปจะมีในอีก 30 นาทีข้างหน้า



    "แยกเขาออกไปก่อนจะทำเสียแผนไง  แล้วก็ให้ไปช่วยงานประมูลด้วยเลย ถ้าคุณมาร์ครู้ว่านายต้องมาเปลืองตัวนิดหน่อยเนี่ย เขาคงยอมหรอก  อ๊ะ นั่นไงเป้าหมายมาแล้ว"



    "คุณชเว ซึงฮุน หรือ ทีโอพี เปลี่ยนชุดแล้ว เขาก็ดูหล่อไม่เลวเลยนะเนี่ย กำชิพมาเต็มกล่องเลย" แบมแบมยกยิ้มขี้เล่นไปทางแขกคนสำคัญที่เขารอคอย



    "เดี๋ยวจะฟ้องคุณมาร์ค  อย่าลืมทำตามที่ตกลงกันไว้นะ พี่จะไปตามพี่แจบอมก่อน" ยองแจตบไหล่แบมแบมเบาๆก่อนจะเดินออกไปอีกทาง



    แบมแบมหลับตากลมวาวลงชั่วครู่แล้วสูดหายใจยาวเรียกพลังก่อนจะแกล้งปลดเข็มกลัดที่ยึดผ้าจีบไว้เหนือไหล่ให้เป็นทรงเสื้อ  ใช้มือเล็กๆแหวกคว้านไหล่มนเนียนกับไหปลาร้าสวยให้พ้นคอเสื้อกว้างขึ้นมา ดันเสื้อให้ไหล่ตกลงไปข้างหนึ่งแบบดูน่ารักยั่วยวนแต่พองาม



    "สวัสดีครับคุณชเว" ร่างบาง เสียงหวานพุ่งเข้าไปทักทายเป้าหมายอย่างไร้พิรุธดูเป็นกันเอง  โดยมีดีลเลอร์สาวสวย หนุ่มหล่อ คนอื่นทักทายแบบเดียวกันกับแขกคนอื่นๆไปด้วย



    "ยินดีต้อนรับสู่คาสิโน รอยัล ของเรานะครับ  ขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานเทศกาลชมดอกไม้แห่งอินชอน และพักผ่อนที่คาสิโนแห่งนี้" ใบหน้าหวานพูดไปยิ้มไป พยายามหว่านเสน่ห์เต็มที่ จนกว่าที่คุณชเว ซึงฮยอนจะรู้ตัวอีกทีก็โดนแบมแบมล่อลวงมานั่งยังโต๊ะพนัน ที่มีอิม แจบอมนั่งอยู่ก่อนแล้ว



    มีแขกอีก 2-3 คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาร่วมโต๊ะ และหน้าม้าอีก 1 คนคือคุณแจ๊คสัน แต่รอบๆโต๊ะยังมีมนุษย์เศรษฐีนักมุงอีกเพียบ คือนอกจากแขกฝรั่งสุดหล่อแล้ว คุณผู้จัดการฝ่ายทรัพย์สิน คุณเจ้าของคาสิโน และคุณชเว หน้าตาดีน้อยเสียเมื่อไหร่ ทุกคนออร่าเปล่งประกายจัด ทั้งอายุน้อย กำยำ หล่อเหลาอยู่ในชุดที่ราวกับเทพเจ้ากรีกเดินดินได้  ถ้ารวมพี่มาร์คไปอีกนี่เรียกว่างานคัดหน้าตาสุดยอดหนุ่มหล่อได้หรือเปล่านะ  คุณแจ๊คสันดูหล่อขี้เล่น ถ้าเปรียบกับเทพเจ้าก็คนเป็น เฮอเมสเทพแห่งการสื่อสารกระมัง คุณแจบอมหน้าดุหน่อย ใจจิวประดับที่หูดูชิคๆ โหดๆ น่าจะเป็นอาเรส หรือมาร์หล่ะนะจะได้เข้าคู่กับพี่จินยองที่สวยราวกับเทพีวีนัส  ส่วนคุณชเวดูกรุ้มกริ่ม ยิ้มหล่ออารมณ์ดีแบบผู้ใหญ่ เหมาะจะเป็นไดโอนีซัสเทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น ถ้าพี่มาร์คอยู่ พี่มาร์คน่าจะเป็นอะพอลโล่สุริยะเทพที่เจิดจ้ากว่าใคร(ไม่ได้ลำเอียงเลยนะ) ส่วนแบมแบมจะรับหน้าที่เป็นคิวปิดให้พี่ทั้งสองเอง



    "โปกเกอร์นะครับ" แบมแบมเริ่มแจกไพ่ ให้ลูกค้าคนละ 5 ใบ ตาแรกไพ่ 3 ใบของแต่ละคนจะถูกเปิดก่อน เหลือ 2 ใบคว่ำไว้ แล้วเริ่มมีการลงเดิมพัน  



    คุณแจ๊คสันนั่งตำแหน่งบิ๊กไบล์ต้องลงเดิมพันเป็นคนแรก เขาวางชิพราคา 1 ล้านดอลล่าห์ลงมาหยั่งเชิง (ประมาณ 1 พันล้านวอน) ทุกคนที่เหลือในโต๊ะก็วางตาม แบมแบม โกยชิพทั้งหมดไว้ในพ๊อทกลางโต๊ะ แล้วให้ทุกคนเปิดดูไพ่ของตัวเองที่เหลือครบทั้ง 5 ใบ กติกาโปกเกอร์แต่ละที่จะมีต่างกันบ้าง แต่หลักๆคือ นับคนที่ได้แต้มเยอะที่สุดเป็นผู้ชนะ โดยแต้มใหญ่ที่สุดคือ รอยัลสเตรทฟลัช คือการได้ไพ่ดอกเดียวกัน แต้มเรียงกัน และเป็นหน้า 10  J Q K Ace ซึ่งมีโอกาสเกิดแค่ 1 ใน 650,000 หรือ 0.0000015% ส่วนแต้มรองลงมาคือ สเตรทฟลัช เป็นไพ่ดอกเดียวกันแต้มเรียงกันแต่ไม่ต้องมีไพ่หน้าฝรั่ง มีโอกาสเกิด 1 ใน 72,000 หรือ 0.0000139% แต้มต่อมาคือ 4 ใบเหมือนกัน เรียกว่าโฟร์ ออฟ อะ ไคน์ คือเลขเดียวกันครบทุกดอก ข้าวหลามตัด ดอกจิก โพธิ์ดำ โพธิ์แดง มีโอกาสเกิด 1 ใน 4,200 หรือ 0.0002381% แต้มต่อมา ฟลูเฮ้าส์ คือ ได้ไพ่เลขเดียวกัน 3 ใบ(ตอง) กับอีก 1 คู่ มีโอกาสได้ 1 ใน 700 หรือเท่ากับ 0.0014286% แล้วไล่ลงมาอีกตั้งแต่ สเตรท, ฟลัช, ตอง, สองคู่, 1คู่ และ ไฮการ์ด ซึ่งก็คือนับแต้มสูงสุดบนหน้าไพ่เอาหากไม่ได้คู่อะไร  บางที่นับลำดับดอกบนไพ่ว่ามีคะแนนลำดับไม่เท่ากันด้วย เช่น ดอกจิกจะมีค่าต่ำสุด และโพธิ์ดำ จะมีค่าสูงสุด



    หลังจากวางเดิมพันจนครบรอบโต๊ะ เจ้ามือจะเป็นคนสุดท้ายที่ลงเดิมพันก่อนจะเปิดให้เรียกการ์ดใหม่เพื่อไปแลกกับการ์ดบนมือ โดยสามารถแลกได้ 1-4 ใบ คือต้องถือการ์ดที่ได้จากรอบแรกไว้อย่างน้อย 1 ใบ จากนั้นให้วางเงินได้อีกรอบ เรียกว่าไซท์พอท   ซึ่งหลังจากแลกไพ่กับเจ้ามือเสร็จแล้ว ทุกคนรอบโต๊ะจะต้องเปิดไพ่ใบที่ 4 ของตนเอง  หลังจากเปิดไพ่ใบที่ 4 ของทุกคนรอบโต๊ะเสร็จ ก็จะสามารถวางเดิมพันได้อีก 1 รอบ เรียกว่าเกทับ ซึ่งถ้าบางคนเห็นว่าถ้าไพ่ของตัวเองไม่ดีก็สามารถหมอบ คือยอมแพ้ได้ ก็จะเสียแค่เงินเดิมพันที่โยนเข้าพอทในตอนแรก แต่ถ้าคิดว่าไพ่ของตัวเองดีที่สุด แล้วเกทับคนอื่น ถ้าชนะจะได้เงินทั้งหมดในพอท รวมกับเงิน 2 เท่าที่ตัวเองเกทับลงไป  แต่ถ้าแพ้ก็จะเสียรอบวง 2 เท่าเช่นกัน (กติกาตรงนี้อาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละพื้นที่)



    จริงๆมันอาจจะดูขี้โกงนิดๆเพราะทั้ง แจบอม แจ๊คสัน และแบมแบมเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว  สามารถส่งซิก เล่นตุกติกกันได้  แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้น ทั้งสามคนไม่ได้นั่งติดกัน  แถมยังแต่งตัวเป็นชุดทูนิคสั้น แทบจะเปลือยเปล่าเหมือนกัน ไม่มีตรงไหนให้ซ่อนไพ่ใช้กลโกงได้เลย  เวลาเล่นก็ไม่ได้มองหน้าหรือสบตากันสักนิดอีกต่างหาก



    ตาแรกๆ แจ๊คสันมักจะชนะด้วย ฟลูเฮาส์ ไม่ก็ 4 of a kind แต่ต่อมาก็ผลัดกับเจ้ามือบ้าง ฝรั่งบ้าง คุณชเวบ้าง ส่วนแจบอมนั้นได้แต่หมอบเอาๆ ทำให้ผู้ร่วมเล่นเกมมีแพ้มีชนะ สนุกตื่นเต้นไม่มีใครอยากลุกไปไหน แล้วพอผ่านไปสัก 10 กว่าเกม คุณแจ๊คสัน คุณฝรั่งก็ต้องลุกออกไป เพราะเงินหมด  คุณชเวเป็นฝ่ายเล่นได้  สเตรทฟลัช บ้าง โฟ ออฟ อะ ไคนด์ บ้าง 



    ถึงตอนนี้บรรยากาศตึงเครียดมากๆ แบมแบมจึงขอเบรกแล้วเอาเครื่องดื่มมาเสริฟ



    "วันนี้คุณชเว มือขึ้นมากเลยนะครับ เชิญเลือกเครื่องดื่มได้เลย  ฟรีทุกอย่าง" 



    ทีโอพี อารมณ์ดีมากขึ้น เพราะนอกจากเกมโปกเกอร์ที่สนุกสนานแล้ว ยังมีดีลเลอร์หน้าตาจิ้มลิ้มมาคอยบริการให้เป็นพิเศษแบบนี้  แล้วเวลาเสียงหวานขานไพ่ที มันชั่งจักกะจี้ซู่ซ่า เสียจริงๆ การเล่นแต่ละเกมกว่าจะชนะในวันนี้ ก็ลุ้นแทบทุกตา  ตอนนี้เลยคอแห้งอยู่เหมือนกัน



    "น้ำพวกนี้มันอะไรกัน" ทีโอพีถามแบมแบมที่ถือถาดบรรจุเครื่องดื่มหลากสี หลายชนิดในแก้วช๊อตเจียระไนทรงสวย ปริมาตรประมาณ 30 ซีซี มาให้เขาเลือก



    "มันคือ ค๊อกเทลที่ชื่อว่ารูเล็ทช๊อตครับ  ทุกแก้วจะมีปริมาณส่วนผสมไม่เหมือนกัน แรนด้อมไปตั้งแต่ น้ำเปล่า น้ำชา โซดา ยัน ไวน์ และวิสกี้หรูหราราคาขวดละล้านดอลล่าห์หล่ะครับ ถ้าดวงดีสุ่มได้  รับรองเลยว่าเทพธิดาแห่งโชคลาภจะอำนวยพรให้คุณเล่นพนันอะไรก็ชนะไปเสียทั้งหมด"



    "ไม่ต้องพึ่งของแบบนั้น ชั้นก็ยังไม่เคยแพ้ใครหรอกนะ" ทีโอพีตอบอย่างไม่ยี่หระ แต่ก็ยังอุส่าห์เอื้อมมือไปยกเครื่องดื่มน้ำสีเหลืองแปลกๆขึ้นมาดื่มไม่ให้ดีลเลอร์ตัวน้อยเสียน้ำใจ



    แบมแบมรับแก้วคืนมาก็แอบ อมยิ้มมุมปาก  ...ท่าทางโชคของคุณวันนี้จะหมดแล้วหล่ะครับ คนตัวเล็กลอบคิดในใจ  



    พักหายใจหายคอกันได้สัก 10 นาที ตอนนี้เหลือแต่ ทีโอพี กับคุณแจบอมที่พร้อมจะเล่นต่อ เงินเดิมพันของแจบอม และแจ๊คสันที่เสียไปส่วนใหญ่ถูกเจ้ามืออย่างแบมแบมกินไป  ไม่ได้เสียไปทางคุณฝรั่ง หรือคุณชเวมากนัก แบมแบมทำงานอย่างหนักในการผลักกันแพ้ ผลัดกันชนะกับคุณชเว หลายตาเรียกว่าหืดขึ้นคอ  ซึ่งปรกติแล้วถ้าเจ้ามือสูสี หรือแพ้แขกแบบนี้ คาสิโนนี่เตรียมเจ๊งได้เลย  



    ส่วนใหญ่คาสิโนจะตั้งเครื่องเล่นไว้ระดับยากสุด ถ้าเป็นโต๊ะพนันต่างๆ อัตราชนะของดีลเลอร์ประจำเกมนั้นๆ ต้องมากกว่า 75 % คือ เล่น กับลูกค้า 4 เกม ต้องชนะไปแล้ว 3 เกม ถึงจะเรียกว่าอยู่ในมาตรฐาน  นานๆจะเจอลูกค้าดวงดีชนะเจ้ามือได้เป็นกอบเป็นกำ แต่มันก็ไม่ถึง 1 % ของเงินที่ได้มาจากผีพนันคนอื่น  ธุรกิจนี้จึงเงินสะพัดน่าดู



    ตอนนี้แบมแบมมีเปอร์เซ็นต์ชนะคุณชเว แค่ 50 : 50 ในวงการพนันเรียกว่าดวงคงหมานกัน  ต้องใช้วิธีแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยนดีลเลอร์คนอื่นมาเป็นเจ้ามือแทน  โดยต้องหาคนที่ดวงข่มคุณชเวได้เยอะๆมา  เป็นความเชื่ออีกอย่างของคนในวงการพนันที่ไม่อาจพิสูจน์ได้  แบมแบมจึงให้พนักงานในคาสิโน รอยัลทุกคนมาเทค๊อกเทลที่ตัวเองผสมขึ้นแบ่งใส่แก้วเป๊กไว้ แล้วติดสติกเกอร์ชื่อตัวเองเล็กๆไว้ใต้แก้ว  หากแบมแบมไม่สามารถชนะคุณชเวได้ ก็จะเลือกให้คนที่คุณชเวหยิบแก้วค๊อกเทลของคนนั้นออกมาเป็นดีลเลอร์แทนตัวเอง ซึ่งแจ๊กพ๊อทนี้ก็ตกไปยัง พี่อี ซึงรี  พนักงานโบกรถคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงาน



    พี่ซึงรี เป็นชายหนุ่มหนาตาไม่เลว ผิวพรรณดี แต่สติอาจจะแปลกๆนิดหน่อย พี่เขาต้องใส่ทูนิค สีขาวสั้นเลยเข่าเช่นกัน แต่ผมม้าทรงกะลาครอบ สั้นเต่อ ไม่ช่วยให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคสักเท่าไหร่ ท่าทางสับไพ่ก็เงอะๆงะๆ แต่ยังดีว่าพอแจกไพ่ได้ เล่นโปกเกอร์เป็น เพราะแบมแบมได้เทรนพนักงานทุกคนไว้แล้วตามคำสั่งของคุณแจบอม



    "ผมว่าเรามาเดิมพันอะไรที่มันตื่นเต้นเร้าใจกว่านี้ดีไหมครับ" หลังจากเปลี่ยนดีลเลอร์ อิมแจบอมก็ยังแกล้งหมอบให้กับ ทีโอพี เหมือนกับว่าไพ่ไม่เข้ามือมาตลอด  แต่ก็แอบมีข่มว่า ไพ่ 4 ใบแรกนั้นเด็ดกว่า มาหมอบให้ในใบสุดท้าย จน ทีโอพี กระหยิ่มยิ้มย่องว่าวันนี้เป็นวันของตนแน่แล้ว จึงท้าทายออกมา



    "ลองว่ามาสิครับ เผื่อผมจะสนใจ" อิม แจบอมทำทีเฉยชา แต่แววตากระตุกคล้ายกำลังเจอสิ่งถูกใจ แต่นั่นเป็นเพียงการแสดงที่เขาเตรียมไว้  จะกระโตกกระตากไปเดี๋ยวไก่จะตื่นเสียก่อน



    "ผมมีเงินมีทองเยอะแล้ว  วันนี้เท่าที่ได้มาก็เยอะเสียจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมด  เรามาเดิมพันในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้กันดีไหมครับ"



    "ก็เอาสิครับ เรื่องเงินๆ ทองๆตอนนี้มันก็ไม่น่าสนใจสำหรับผมเท่าไหร่จริงๆด้วยหล่ะ" แจบอมทำท่าเออออห่อหมกไปด้วย  เขาเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของคนตรงกันข้าม วาบผ่านมาอยู่  แต่เขามั่นใจในตัวเองว่าเขาก็ไม่มีอะไรด้อยกว่าคนตรงหน้าอย่างแน่นอน



    "งั้นเริ่มจาก ดีลเลอร์น่ารักตรงนั้น  ตานี้ถ้าผมชนะ  ผมขอให้เขาไปกับผม 1 สัปดาห์" ทีโอพียิ้มกรุ้มกริ่มอีกครั้ง เขาแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากอย่างน่าขนลุก มองไปยังแบมแบมตาไม่กระพริบ



    "งั้นผมขอเป็นอำนาจคุ้มกันเรือสำราญ และกิจการทางทะเลจากตระกูลชเว แก่ธุรกิจในเครือของผมก็แล้วกันนะครับ เชิญลงชื่อในสัญญาตรงนี้" อิม แจบอม ยังไม่มีท่าทีซีเรียสอะไร  ในขณะที่ทีโอพีก็เช่นกัน  เขารู้ว่าอิม แจบอมเป็นใคร ทำกิจการอะไรอยู่แล้ว ปรกติธุรกิจเรือสำราญ และคาสิโนกลางทะเล พวกเอกชนต้องจ่ายรายปีใต้โต๊ะให้กับกองทัพปีหลายหมื่นล้านวอน  ถ้าได้อำนาจคุ้มครองจากตระกูลของเขา อิมแจบอมก็สามารถประหยัดรายจ่ายตรงนี้ได้ไปได้เยอะทีเดียว  แต่คงยาก เพราะเขาไม่คิดว่าจะแพ้อยู่แล้ว และร่างอรชร อ้อนแอ้นของแบมแบมตรงหน้าก็ยั่วยวนเกินกว่าจะปฏิเสธความเสี่ยงนี้  แถมไพ่ 3 ใบแรกของเขาก็เข้ามือสุดๆได้มา 1 คู่เอ กับ 4โพธิ์แดง  ส่วนของแจบอมยังบอด เป็น เลข 3 5  ดอกจิก และ 7 ข้าวหลามตัด ดูยังไงเขาก็ไม่มีทางแพ้ได้เลย



    พอทั้งสองคนลงเดิมพันแล้ว จึงได้เปิดดูไพ่ของตัวเองครบ 5 ใบ คุณชเวขอแลกไพ่แค่ 2 ใบ แปลว่าในมือของเขาอาจจะถือไพ่ตองเออยู่ ต้องการอีกคู่เพื่อได้ ฟลูเฮ้าส์  ส่วนคุณแจบอม ขอแลกไพ่ 2 ใบเช่นกัน เดาว่าเขาน่าจะต้องการได้ สเตรท ไม่ก็ฟลัช แน่ๆ  แต่มันก็จะแพ้ ฟลูเฮ้าส์ อยู่ดี ยกเว้นว่าจะเป็น สเตรทฟลัช เท่านั้นถึงจะชนะ



    พอตอนต้องโชว์ไพ่ใบที่ 4 คุณชเวเปิดมาได้ เอ 3 ใบจริงๆแล้วก็ได้ เลข 6 โพธิ์แดง ส่วนของคุณแจบอมเป็น 3 4 5 และ 7 ดอกจิก ซึ่งมีโอกาส ทั้ง สเตรทฟลัช หรืออย่างน้อยก็ฟลัช หรือ สเตรท ที่ออกเลขเรียง หรือ ดอกเดียวกัน ซึ่งอย่างน้อยก็จะชนะตอง แต่แพ้ฟลูเฮาส์ ตอนนี้คุณชเวต้องการ เลข 6 ดอกอะไรก็ได้  แต่ คุณแจบอมต้องการแค่ 6 ดอกจิกเท่านั้นซึ่งดูจะยากกว่า หรือว่าคุณแจบอมจะหมอบ



    พอได้ดูไพ่ครบทั้ง 4 ใบ ก็จะเป็นรอบที่มีการเกทับ วี่กฝ่ายจะสู้หรือหมอบ ซึ่งตอนนี้ไพ่ของทั้งคู่จัดว่าสูสีน่าลุ้นไม่หยอก  แบมแบมไม่ได้อาทรร้อนใจว่าเจ้านายจะแพ้แน่ เขายังมีอารมณ์ตั้งโต๊ะให้แขกเดิมพันพนันผลการแข่งขันของเจ้านาย  กับคุณชเวอีกซ้ำ



    ด้วยการที่ชนะมาติดๆกัน ทีโอพี จึงชะลาใจ เขาเห็นไพ่ของตัวเองครบแล้วว่ามันเป็นฟลูเฮ้าส์ คือ ตองเอ กับคู่ 6 โพธิ์แดง โพธิ์ดำ  โอกาสที่ อิมแจบอม จะได้ 6 ดอกจิกไปเข้าสเตรทฟลัช แล้วชนะเขาหน่ะ มีน้อยมาก เพราะตามสถิติ สเตรทฟลัชจะเกิดแค่ 1 ใน 72,000 มือนี่  แล้วคุณแจบอมก็ หมอบบ้าง แพ้บ้างมาตลอด  ทีโอพีจึงเกทัพด้วยเรือสำราญขนาดใหญ่ของตระกูลชเวอีก 1 ลำ 



    ถึงตอนนี้ อิมแจบอมดูไพ่ของตัวเองด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ถ้าหมอบ เขาจะเสียแบมแบมไป 7 วัน ถ้าสู้แล้วแพ้ นอกจากจะเสียแบมแบมแล้ว ยังต้องเสียเรือสำราญขนาดใหญ่อีก 1 ลำ แต่จากไพ่ในมือทำให้เขาตัดสินใจ ..ลองสู้ดูแล้ว  จึงถึงเวลาหงายไพ่ทั้ง 5 ใบ



    ปรากฏว่า ทางชเวซึง ฮยอน ได้ ฟลูเฮ้าส์ จริงๆ ส่วน อิม แจบอมได้แค่ ฟลัช คือ 3 4 5 7 8 ดอกจิก เรียกเสียงเฮ ลั่น สำหรับทีมเชียร์ข้างๆ ดังลั่น  คุณชเวทำท่ายิ้มหน้าระรื่นพอใจ ในขณะที่ อิม แจบอมมีสีหน้าคล้ำเครียด  แต่ตอนที่ซึงรี โกยไพ่กลับมาสับ แบมแบม แอบเห็นว่ามีไพ่ 6 ดอกจิกอยู่ในกองที่คุณแจบอมทิ้งลงไป ปรกติเจ้านายก็มีฝีมือเล่นโปกเกอร์ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว  ทำให้ลูกน้องหน้าหวานใจชื้นขึ้นมาบ้างว่านี่คงเป็นแผน



    "ต้องขอบคุณ คุณอิมนะครับที่เชิญผมมาวันนี้  ตอนนี้ผมได้สิ่งที่ต้องการแล้ว  ขอตัวไปร่วมงานประมูลต่อก่อน" ทีโอพีทำท่าจะได้แล้วหนี  ลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าที่ใส่  แต่คนแบบนี้ถ้ามีคนเสนอสิ่งที่เขาต้องการให้อีก ย่อมโลภจนไม่ปฏิเสธแน่



    "อ่า  เดี๋ยวสิครับ  ถ้าไม่เป็นการรบกวน คุณชเว น่าจะให้ผมได้แก้มืออีกสักเกมนะ ผมขอเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่ผมมี"



    "คุณจะเทหมดหน้าตักตั้งแต่เทินแรกเลยเหรอครับ  เอายังไงดีน๊า....  ทรัพย์สินของคุณ คาสิโน รอยัลแห่งนี้ก็ไม่เลวจริงๆ  ตกแต่งด้วยธีมงานศิลป์ชั้นยอด ถูกใจผมมาก  แล้วยังประชาสัมพันธ์ผิวขาว แสนสวยคนนั้นอีก ...อิม จินยองใช่ไหมนะ"



    "ตามนั้น แลกกับการยกเลิกสัญญาของแบมแบมในตาเมื่อกี้ แล้วก็อะไรก็ได้จากคุณ 1 อย่าง แต่ผมยังคิดไม่ออก  ไม่ใช่ขอชีวิตของคุณแน่นอน คุณสบายใจได้"



    ทีโอพีใช้เวลาคิดเพียงครู่  เห็นว่าข้อเสนอน่าสนใจที่สุด  เขาไม่คิดว่าจะแพ้ เลยไม่คิดถึงผลที่จะได้รับถ้าแพ้  ตอนนี้เขามีความโลภเข้าบังตาและคิดถึงแต่ว่าถ้าชนะแล้วจะทำอะไรต่อ จึงตบปากรับคำเริ่มเกม



    สัญญาถูกร่าง และลงลายเซนต์กำกับทั้งสองฝ่าย  ภายในโถงที่เต็มไปด้วย โต๊ะพนัน เครื่องเล่น และนักพนันเหยียบร้อยกลับเงียบกริบ  ตอนนี้ได้ยินแม้แต่เสียงแจกไพ่แต่ละใบของซึงรี เสียงหายใจ และกลืนน้ำลายของใครบางคน  เสียงหัวใจเต้นตึกตักของตัวเอง



    ทีโอพีเปิดไพ่ 3 ใบก่อนด้วยสีหน้าแช่มชื่น J Q K ข้าวหลามตัด เรียงกันมาเรียกเสียงฮือฮา อื้ออึง กระหึ่มจากทั้งฟลอร์ ผิดกับคุณแจบอมที่เปิดไพ่ 3 ใบแรกแล้ว ได้ A โพธิ์แดง และ 7 8  โพธิ์ดำ บอดสนิท



    พอทั้ง 2 ได้ดูไพ่ครบ 5 ใบทั้งมือ คุณชเว ขอเปลี่ยนไพ่ แค่ 1 ใบ ในขณะที่คุณแจบอมไม่ได้เปลี่ยนไพ่เลย พอเชคทั้งสองคนแล้ว ก็ถึงเวลาเปิดไพ่ใบที่ 4



    คุณชเว ได้ 10 j Q K ข้าวหลามตัด เรียงเลข เรียงดอก มีโอกาสเข้า สเตรทฟลัชแน่แล้ว  ในขณะที่คุณแจบอมโชว์ว่าได้ A โพธิ์แดง 7 8 โพธิ์ดำ และ 9 ข้าวหลามตัด  คราวนี้ทั้งโต๊ะ ฮือฮาหนักขึ้นไปอีก  คุณชเวต้องการแค่ A ข้าวหลามตัดเท่านั้น ถึงจะชนะด้วยแต้ม รอยัล สเตรชฟลัช ที่ยากและทรงคุณค่าที่สุด  ในขณะที่ คุณแจบอมอย่างมากก็ได้ 1 คู่ จะเป็นเลขอะไรก็ได้ที่ซ้ำกับไพ่ 4 ใบที่ถืออยู่  ซึ่งเขามีโอกาสชนะเหมือนกัน ถ้าใบสุดท้ายของคุณชเวไม่เข้า  สเตรท แค่ 1 คู่ก็เอาชนะได้อยู่แล้ว



    พอเปิดใบที่ 4 ครบ ก็เป็นรอบของสงครามประสาทอีกครั้ง  คุณชเวทำทียิ้มขู่ และเกทับด้วยข้อตกลงว่า จะให้สิ่งที่คุณแจบอมต้องการเรียกร้องอะไรก็ได้เพิ่มเป็น 2 อย่าง ถ้าแพ้ ในขณะที่ถ้าชนะ เขาขอกิจการของแกรนด์คาสิโนเพิ่มอีกแห่ง



    คุณแจบอมทำหน้าลำบากใจ ครุ่นคิดเคร่งเครียดอยู่นาน ทำท่าจะวางไพ่หมอบให้คนในห้องโถงและเหล่ากองเชียร์ได้ใจระทึก เจ้าของคาสิโนหนุ่มถอนหายใจออกมา 2-3 รอบ อย่างคนอับจนทางจะไป ห่อไหล่คอตกอย่างผู้ที่สูญสิ้นหวามหวัง



    ... ผ่านไป เกือบ 5 นาที จน ทีโอพีเรียกเอาคำตอบ



    "ว่าไงครับคุณอิม" ถึงเบื้องหน้าจะยิ้มแย้มมั่นใจ แต่ขมับของเขากลับมีเหงื่อใสไหลเยิ้มออกมา ทั้งที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไร



    "สู้ครับ..." เป็นคำตอบออกจะซังกะตายเหมือนคนไม่มีทางเลือก ทีโอพีหัวใจกระตุกเพราะตอนแรกอิม แจบอมทำท่าทำทางจะหมอบยอมแพ้ให้แล้วไง



    ทั้งสองคนเปิดไพ่ครับ...



    เป็นอีกครั้งที่เสียงฮือฮาดังขึ้นอื้ออึง เซ็งแซ่ ทีโอพีได้ ไพ่ 10 j Q K ข้าวหลามตัด และ 2 โพธิ์แดง เป็นไพ่บอดไป ในขณะที่ อิม แจบอมได้ 1 คู่ A โพธิ์แดงกับ A ข้าวหลามตัด และ 7 8 โพธิ์ดำ กับ 9 ข้าวหลามตัด คราวนี้เป็นฝ่ายอิมแจบอมที่ยิ้มมุมปากขึ้นมาบ้าง ในขณะที่ทีโอพี หน้าซีดไม่มีสีเลือดเหลืออยู่แล้ว เพราะอิม แจบอมถือ A ข้าวหลามตัดไว้สินะเขาถึงกล้าสู้และมั่นใจว่าต้องชนะแน่  แย่จริงที่โดนมันหลอดเข้าจนได้



    ถึงจะแพ้ ก็แค่ 1 ครั้ง  ทีโอพี ยังเลือกจะขอแก้มือใหม่  แต่คราวนี้มันไม่ได้ง่ายเพราะอิม แจบอมก็เกิดเล่นตัวขึ้นมาบ้างเหมือนกัน



    "คุณอิม ต้องให้ผมแก้มือสิครับ เมื่อสักครู่ผมยังให้โอกาสคุณเลยนะ" เสียงทุ้มตะโกนตามหลัง อิมแจบอม ที่กำลังลุกขึ้นยืนบ้างอย่างคล้ายคนกำลังคลั่ง ขวัญเสีย



    "ไหน....คุณจะเสนออะไรให้ถูกใจผมได้หล่ะ  คำสัญญา 2 ข้อจากคุณผมก็ยังไม่ได้เรียกร้องเลยนะ" เวลานี้อิม แจบอมดูร้ายกาจ ร่างตรงหน้ามีสีหน้าและแววตา ราวกับคนละคนที่เล่นโปกเกอร์กับเขาเมื่อสักครู่  มันดูมีอำนาจ มั่นใจ และแฝงแววจงเกลียดจงชังเขาไว้อยู่ข้างในลึกๆ



    "งั้นคุณก็ว่ามาว่าต้องการอะไร ต่อหน้าพยานเป็นร้อยคนนี่ 2 ข้อนอกจากชีวิตของผมผมจะให้คุณ แล้วเรามาเล่นกันต่อ" ทีโอพี พูดขึ้นมาอย่างคนไม่ได้ตรึกตรองให้ดี มีแต่ความรู้สึก คับแค้น อยากแก้มือ ต้องการแค่เอาชนะ ซึ่งก็เป็นไปตามหลุมพรางที่ อิม แจบอมได้วางเอาไว้



    "งั้นก็ตกลง ผมพอจะนึกสิ่งที่ต้องการจากคุณออกพอดี  ทุกคนที่นี่เป็นพยานนะครับ  เด็กๆ มาจับคุณชเวเอาไว้" 



    ตอนนี้เหล่าเศรษฐีนักมุง กองเชียร์ล้วนแหวกเป็นทาง ให้การ์ดของ อิม คอเปอเรชั่น ที่แฝงมาในชุดสตาฟ รวบตัวคุณชเว บังคับให้เขาคุกเข่าลง  เป็นอีกเหตุผลที่แจบอมอยากจะเป็นเจ้าของสถานที่จัดงานเพราะจะนำคนเข้ามาเท่าไหร่ก็ได้ ในขณะที่แขก ต้องได้รับบัตรเชิญถึงจะเข้ามาได้



    "คำขอข้อแรก คือผมต้องการ มือขวาของคุณ  มือที่ประกอบด้วยนิ้วทั้ง 5 ที่ใช้เซนต์สัญญา ใช้ถือไพ่ ทำนู่นนี่ รวมถึง จับล้วง ล่วงเกินคนของผม" พูดจบก็มีการ์ดคนหนึ่งเข้ามาดึงแขนขวาของคุณชเวกางแยกออกจากลำตัวค้างไว้



    "คำขอข้อที่สอง คือ ผมต้องการดวงตาข้างขวาของคุณ ดวงตาที่ใช้พิศมองชื่นชมงานศิลป์ และสิ่งสวยงามของโลกใบนี้  ซึ่งเป็นดวงตาดวงเดียวกับที่ใช้ล่วงเกิน จ้องมองเรือนร่างคนของผม" 



    "ไม่!!" ทีโอพี ตะโกนปฏิเสธเสียงหลง ร่างสูงใหญ่ ประกอบด้วยกล้ามเนื้อสวยงาม ใบหน้าหล่อเหลา เหยเก ดิ้นสะบัด เมื่อทราบชะตากรรมของตนแต่มันก็ไม่อาจหลุดจากพันธนาการการของชายฉกรรจ์นับสิบ แบมแบมปลดผ้าสีขาวต่างม่านลงจากเพดาน ลากคลุมล้อมโต๊ะพนันตรงที่คุณชเวอยู่กันฉากไม่น่าดูออกจากสายตาของแขกที่มาร่วมงาน  เสียงร้องทรมานของคุณชเวดังออกมาอีกหลายครั้งจนเขาคงทนไม่ไหว สิ้นเสียงหมดสติไป  ไม่นานนักงานก็กลับมาครึกครื้นเหมือนเดิม  ไม่ได้มีใครใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นอีกต่อไป



    *********



    มาร์คกลับมาพร้อมภาพของปลอมผู้หญิงกอดอก ของปีกัสโซ่ใบใหญ่ ที่ประมูลมาได้ด้วยราคาแค่ 100 เหรียญ จากการช่วยเหลือของจินยอง  หนุ่มหล่อนำมันมามอบให้แจบอม  แล้วแจบอมก็ส่งมอบมันให้จินยองอีกที



    "ผมรึ หลงใจเสียอยู่ตั้งนานเมื่อเห็นคุณมาร์คประมูลภาพได้  อุส่าห์ออกแรงเปิดโปงภาพที่ตัวเองเขียนไว้ว่าเป็นของปลอมจนไม่มีใครอยากได้  แต่กลับไม่มีสิทธิ์ในการร่วมประมูลมันเพราะลืมลงทะเบียน  คิดว่าจะมาขอซื้อต่อคุณมาร์คตอนหลังเอา  แล้วคุณแจบอมก็เอามันมามอบให้กับผม  คุณรู้เรื่องของผมทั้งหมดแล้วใช่ไหมครับ"



    "ใช่ และนี่ก็เป็นเซอไพรซ์ที่พี่เคยพูดถึงไง คราวนี้จินยองต้องเป็นคนรักษามันให้ดีนะสมบัติของตระกูลปาร์ค"



    "ภาพนี้...มันไม่ใช่สมบัติของตระกูลปาร์คแล้วหล่ะครับ  ...ตอนนี้มันคือของขวัญที่พี่ให้ผมต่างหาก  ขอบคุณนะครับ  พี่แจบอมของจินยอง" 



    ****************



    แหะๆๆๆ จบกันเสียที สำหรับ คาสิโน รอยัล บท อังกอร์ นะคะ อย่าด่าไรท์ 555  ตอนนี้ทุกคนได้ทราบแล้วว่าสิ่งที่จินยองต้องการคืออะไรกันน๊า แล้วก็การคลี่คลายขยายความถึงการแก้แค้นและการได้มาของสิ่งสิ่งนั้น คนที่เล่นไพ่ไม่เป็นอาจจะงงตอนหลังๆสักเล็กน้อย  แต่ไรท์พยายามจะอธิบายให้มันง่ายๆแล้วนะคะ แฮร่ๆ หวังว่าจะสนุกกันน๊า




    มาดูอีกที พระนางเรื่องนี้ได้คุยกันแค่ สองประโยค แค่ตอนต้นเรื่อง กับตอนจบ มีใครเบื่อไหมคะ เบื่อกันม๊ายยยยย  555 ถ้าเบื่อ เรามี สเปเชี่ยล ซ้อน สเปเชี่ยลอีกที  แต่แค่นี้ ตอนนี้ก็ยาวมากแล้ว ดังนั้น... ดังนั้น สเปเชี่ยลไปตามอ่านใน blog ไบโอทวิตของไรท์ นะคะ 555 จุฟๆ (ลงแล้วนาจา)





    *****Update 150%  ใน Cut นะคะ 



    Special : คาบเรียนศิลปะ  เมื่ออิม จินยองมาทวงของรางวัลที่จัดงานเทศกาลชมดอกไม้แห่งอินชอน ออกมาได้ดีจากผู้เป็นสามี


                                                       " พี่แจบอมแค่นอนเฉยๆก็พอครับ  ที่เหลือผมจัดการเอง"          



      








    End.


    โอยยยยยย เขิลลลลลลลล ใครไปอ่านมาแล้วมาเวิ่นกะไรท์นะคะ  นี่ก็แอบถามจากเพื่อนมาว่าคัทควรเป็นแบบใด เน้นบรรยายซาบซึ้ง 


    หรือเน้นลีลาซาบซ่าดี 555 แต่พอดีไรท์ไปอ่านฟิคเรื่องอื่น แล้วใจมันดิ่งอ่า  ม่านักใช่ม้ายย  ดีๆ ฟิคของไรท์เขาจะต้องรักกันๆ ได้กันๆ


    ฮิลๆๆ ตัวเอง 555  


    ช่วงนี้ลูกๆกัซ และ JYP ขยันทำมาหากินกันละเกิน  ไรท์ก็ต้องขยันอัพมั่งแล้ว  ขอบคุณรีดเดอร์ที่ติดตาม และคอมเม้นให้กำลังใจทุกคนนะคะ





    ***********************************************************************






    50%


    เย้ ๆๆๆ เรากลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง 5555  ก็มีคนเรียกร้องบ้างหล่ะน่า แต่มาไม่เต็ม เหมือนสติของไรท์ไง แฮร่ๆๆ


    คือมันจะยาวนิดหน่อยนะคะ 50 % ก็ 5000กว่าคำแระ ปรกติเขาบอก SF น่าจะตอนละ 3000 คำ มั้ง ของเราทำไมมันจะยาวๆหน่อยเนาะ


    ตามหลักมันต้องตัดเป็น 2 ตอนไง แต่ก็ไม่ตัดอ่ะ เดวจะมาต่อให้จบโดยไว จะได้ไม่ค้างกัน


    ขอบคุณทุกคนที่มาเม้น มาทักทายทั้งในเด็กดี และทวิตนะคะ รู้สึกมีกำลังจายขึ้นเยอะเลย จุฟๆ














    © themy butter
     



    *********************



     

    End.






     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×