Maya
ดู Blog ทั้งหมด

26 มิถุนายน วันต่อต้านยาเสพติดโลก

เขียนโดย Maya

       
       นับถอยหลังไปอีกไม่นานนักก็จะถึงวันที่
26 มิถุนายน คนไทยรู้ทันทีว่าเป็นวันสุนทรภู่ และแถมให้อีกหน่อย เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลกด้วย (หนึ่งวันจัดได้สองงานทีเดียว)

         
        
เรามาดูอะไรที่เป็นสากลก่อนดีกว่า(เพื่อมุ่งสู่
World-Class) ผู้เขียนเคยคิดว่า วันต่อต้านยาเสพติดโลกมันตั้งขึ้นมาทำไมนะ จะช่วยลดปัญหายาเสพติดได้จริงหรือ พวกเราชาวนักเรียนกับแค่การเดินรณรงค์แต่งตัวประหลาดๆ ถือป้าย แจกแผ่นพับ และทำบล๊อก เฮ้อ คนจะติดยาน้อยลงจริงหรือ เอ หรือจะเรียนหลักสูตรปราบยาเสพติดแห่งชาติมาเลย จับๆๆยิงๆๆ(เหมือนจะสนุก)

         
       
พอมานั่งคิดถึงการมีอยู่ของวันต่อต้านยาเสพติดฯ คิดไปเรื่อยๆมันก็มีประโยชน์จริงๆ แม้ว่าจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม เพราะอย่างน้อยก็คนที่รณรงค์ต่อต้านยาเสพติดคนหนึ่งนั่นแหละ เมื่อได้ศีกษาค้นคว้าก็ทำให้รู้เท่าทันพิษภัยของมัน นอกจากนั้นในความคิดผู้เขียน การรณรงค์จะช่วยสร้างจิตใจที่เข้มแข็งแก่คนอื่นๆด้วย เหมือนกับมีบางอย่างคอยรั้งไว้ไม่ให้ไปยุ่งกับยาเสพติด

         
         
แต่ว่า ต่อให้รณรงค์กันมาแค่ไหน ก็คงไม่ดีเท่าการสร้างสภาพสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุด เพราะถ้าทุกครอบครัวอบอุ่น กลุ่มเพื่อนที่ได้รับการอบรมก็จะไม่ชักชวนไปในทางที่ผิด เมื่อคนดีย่อมสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดีตาม ปัญหายาเสพติดจะไม่เกิดขึ้น (แน่นอนว่าเป็นไปได้ยาก)

          
       
เข้าแก่นสำคัญดีกว่าหลังบรรยายเสียนาน ผู้เขียนได้นำข้อมูลยาเสพติดจากเว็บต่างๆมารวมกัน แต่คงไม่ละเอียดนัก เพราะส่วนตัวเบื่อความหมายทางวิชาการหรืออะไรทำนองนั้นมาก เลยหาข้อมูลที่เน้นนำมาใช้ได้จริงดีกว่า

         

เริ่มต้นแบบเด็กน้อยก่อนดีกว่ามารู้จักประเภทยาเสพติดกันเถอะ

          เจ้ายาเสพติดนี่เขามีด้วยกัน 4 พวก ประกอบด้วย

          ประเภทกดประสาท ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีนยานอนหลับ ยาระงับประสาท ทินเนอร์กาว เป็นต้น ผู้เสพติดมี ร่างกายซูบซีด ผอมเหลือง อ่อนเพลีย ฟุ้งซ่าน อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย

          ประเภทกระตุ้นประสาท ได้แก่ ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี กระท่อม เครื่องดื่มคาเฟอีน ผู้เสพจะมีอาการหงุดหงิด กระวนกระวาย จิตสับสน หวาดระแวง บางครั้งมีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายตนเอง หรือฆ่าผู้อื่นเป็นต้น

          ประเภทหลอนประสาท ได้แก่ แอลเอสดีเห็ดขี้ควายดี.เอ็ม.ที.และ ยาเค เป็นต้น ผู้เสพติดจะมีอาการประสาทหลอน  ได้ยินเสียงประหลาดหรือเห็นภาพหลอนที่น่าเกลียดน่ากลัว ควบคุมตนเองไม่ได้ มักป่วยเป็นโรคจิต

          ประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน คือทั้งกระตุ้นกดและหลอนประสาทร่วมกัน ผู้เสพติดมักมี อาการหวาดระแวง ความคิดสับสน เห็นภาพลวงตา หูแว่ว ควบคุมตนเองไม่ได้และป่วยเป็นโรคจิตได้แก่ กัญชา

 


ต่อมาว่าด้วย สาเหตุการติดยา

-  ความอยากรู้อยากลอง

-  มีความเชื่อในทางที่ผิด เช่น เชื่อว่ายาเสพติดบางชนิด อาจช่วยให้สบายใจ ลืมความทุกข์ หรือช่วยให้ทำงานได้มากๆ

-  เพื่อนชักชวนหรือต้องการเป็นที่ยอมรับ

-  ขาดความระมัดระวังในการใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ผู้ใช้ยาเกิดการเสพติดได้โดยไม่รู้ตัว หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยขาดการแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกร

-  สภาพแวดล้อม มีการค้ายาเสพติด หรือมี ผู้ติดยาเสพติด

-  เพื่อหนีปัญหา เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้

                                                                                           

        
 
เรามาค้นหาลักษณะผู้ติดยากันเถอะ พวกเขามักมีลักษณะดังนี้

- ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม

- อารมณ์ฉุนเฉียว หรือเงียบผิดปกติ ผู้เสพติดชอบทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายผู้อื่น บางคนอาจชอบแยกตัวไปอยู่คนเดียว

- ถ้าผู้เสพเป็นนักเรียน มักพบว่าผลการเรียนแย่ลง ถ้าเป็นคนทำงาน ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลงหรือไม่ยอมทำงานเลย

- ใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลาเพื่อปกปิดรอยเข็มที่ท้องแขน

- ติดต่อกับเพื่อนแปลกๆใหม่ๆซึ่งมีพฤติกรรมผิดปกติ

- ขอเงินจากผู้ปกครองเพิ่ม หรือยืมเงินจากเพื่อนฝูงเสมอ ขโมย ฉกชิง วิ่งราว เพื่อนำไปซื้อยาเสพติด     

                                   

 

 อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องเป็นผลมาจากการติดยาเสพติดเสมอไปเมื่อสงสัยว่าผู้ใดติดยาเสพติด จึงควรใช้การซักถามด้วยท่าทีที่เป็นมิตรช่วยให้ผู้เสพได้พูด ตามความจริง เพราะผู้ที่ติดยาส่วนใหญ่ รู้ว่าการใช้ยาเสพติดเป็นเรื่องไม่ดี บางคนอยากเลิกแต่ทำไม่สำเร็จก็มี คำถามที่ใช้ไม่ควร ถามว่าติดหรือไม่ แต่ควรถามพฤติกรรมการใช้ เช่น ถามว่าเคยใช้หรือไม่ ครั้งสุดท้ายที่ใช้ เมื่อไหร่ ฯลฯ

 

ยาเสพติดส่งผลกระทบร้ายแรงก็ต้องหาทางป้องกันกันหน่อย

          ป้องกันตนเอง ไม่ทดลองยาเสพติดทุกชนิด และปลีกตัวออกห่างจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว ควรปรึกษาพ่อแม่ ครู ผู้ใหญ่ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬาหรือทำงานอดิเรกต่าง ๆ

 

          ป้องกันครอบครัว ควรสอดส่องดูแลเด็ก และบุคคลในครอบครัวอย่าให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด ดูแลเรื่องการคบเพื่อน คอยส่งเสริมให้เขารู้จักการใช้เวลาในทางที่เป็นประโยชน์ สิ่งสำคัญก็คือทุกคนในครอบครัวควรสร้างความรัก ความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

 

          ป้องกันชุมชน หากพบผู้ติดยาเสพติดควรช่วยเหลือแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยเร็ว โดยกฎหมายจะยกเว้นโทษให้ผู้ที่สมัครเข้าขอรับการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด เมื่อรู้ว่าใครกระทำผิดฐานนำเข้าส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากร หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)

 

         
     
อย่างที่บอกว่าผู้ติดยาเสพติดที่ขอรับการบำบัดกฎหมายเว้นโทษ จึงมีหน่วยงานมากมายพร้อมให้ความช่วยเหลือ อย่ากลัวที่จะเข้ารับการรักษา

 

สถานที่ให้คำปรึกษาด้านป้องกัน และแนะนำการบำบัดรักษาขั้นต้น

สำนักงานศึกษาป้องกันการติดยา (กระทรวงสาธารณสุข)
โทร. (
02)282-4180-5

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ศูนย์อาสาสมัครยาเสพย์ติดตึกมหิดล โทร. (02)245-5522

สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก จ.สระบุรี 036-266067

สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย กรุงเทพ ฯ โทร. (02) 2452733

สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรุงเทพ ฯ โทร. (02) 2459340-9

โรงพยาบาลตำรวจ แผนกจิตเวช กรุงเทพ ฯ โทร.

(02) 2528111-7

โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แผนกจิตเวช กรุงเทพ ฯ โทร. (02) 2461946

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โทร.

(02) 5310080-8

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรุงเทพ ฯ โทร.

(02) 4681116-20


 



     จบแล้วสำหรับข้อมูลเบื้องต้น แต่ผู้เขียนอยากแถมเพิ่มเกี่ยวกับ บทลงโทษทางกฎหมาย สำหรับผู้ค้าและผู้เสพ (คนเสพตายคนขายติดคุก ถ้าเสพแล้วไม่ตายคืนเงิน เอ๊ย ยินดีเปิดคุกให้นอนต่างหากล่ะ)


พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้แบ่งยาเสพติดให้โทษออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้


   ประเภทที่
1 ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงมี 38 รายการ เช่น เฮโรอีน แอมเฟตามีน(ยาบ้า) เอ็กซ์ตาซี และแอลเอสดี

ผลิต นำเข้า ส่งออก

- จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาท

- คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 3 กรัม ขึ้นไป ถือว่ากระทำเพื่อจำหน่าย โทษประหารชีวิต

- ผลิตโดยแบ่งบรรจุ รวมบรรจุ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3 กรัม จำคุก 4-15 ปี หรือปรับ 80,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

- ผลิตเพื่อจำหน่าย คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3 กรัม จำคุก 4 ปีถึงตลอดชีวิต และปรับ 400,000-5,000,000 บาท

จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย

 - คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 3 กรัม จำคุก 4-15 ปี หรือปรับ 80,000-300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 - คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 กรัม และ 20 กรัม จำคุก 4 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับ 400,000-5,000,000 บาท

 - คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 20 กรัมขึ้นไป จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1,000,000-5,000,000 บาท หรือประหารชีวิต

ครอบครอง

-คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 3 กรัม จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เสพ

- จำคุก 6 เดือน ถึง 3 ปี หรือปรับ 10,000-60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพ

- จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000- 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

มีต่อนะคะ

http://my.dek-d.com/grandsand/blog/?blog_id=10098699

ความคิดเห็น

somchanatanamon
somchanatanamon 7 เม.ย. 54 / 01:19
ขอบคุณที่ให้ความรู้